logo

รีวิว A Color Story: แอปแต่งรูปยอดฮิต โทนสวยฟิล์มๆ มีฟิลเตอร์อะไรน่าสนใจบ้าง?

user avatar
ธีรเดช รัตนไชย·07/08/2025 12:16
点赞
รีวิว A Color Story: แอปแต่งรูปยอดฮิต โทนสวยฟิล์มๆ มีฟิลเตอร์อะไรน่าสนใจบ้าง?

ยุคนี้ใครๆ ก็อยากมีรูปสวยๆ ลงโซเชียล ยิ่งรูปโทนฟิล์ม โทนเกาหลี โทนสดใสแบบที่ฟีดเราต้องปัง! แต่แต่งรูปไม่เก่ง ไม่มีเวลามานั่งจูนสีเองทำไงดี? วันนี้เราจะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับแอปแต่งรูปสุดฮิตที่บอกเลยว่ามีฟิลเตอร์ให้เลือกละลานตา แถมโทนสวยถูกใจสายฟิล์มแน่นอน นั่นก็คือ A Color Story นั่นเอง! จะมีฟิลเตอร์เด็ดๆ อะไรบ้าง แล้วน่าใช้แค่ไหน ตามมาดูกันเลย!


1. ภาพรวมแอป A Color Story: รู้จักกันหน่อย แอปนี้ดียังไง?

ชื่อแอป: A Color Story
ประเภท: แอปแต่งรูปและวิดีโอ
เปิดตัว: ปี 2016 (มีการอัปเดตเรื่อยๆ)
ราคา: ฟรี (มีฟิลเตอร์และเอฟเฟกต์ให้ซื้อเพิ่ม หรือสมัครสมาชิก ACS+)

ตำแหน่งในตลาด: แอปแต่งรูปที่เน้นโทนสีสดใส คลีนๆ หรือโทนฟิล์ม เหมาะกับคนที่อยากได้รูปสวยพร้อมโพสต์ลงโซเชียลโดยไม่ต้องปรับแต่งเยอะ

จุดเด่นหลักๆ:

  • ฟิลเตอร์เพียบ! มีให้เลือกเยอะมาก ทั้งฟรีและเสียเงิน กว่า 500 แบบ!
  • ปรับแต่งละเอียดได้ มีเครื่องมือครบ ทั้ง Curves, HSL และอื่นๆ
  • มีเอฟเฟกต์เก๋ๆ เช่น แสงรั่ว (Light Leaks), เกรน (Grain) กว่า 120 แบบ
  • ซ้อนฟิลเตอร์/เอฟเฟกต์ได้ สร้างสรรค์โทนเฉพาะตัวไม่เหมือนใคร
  • มีฟังก์ชันวางแผน Grid IG ดูก่อนโพสต์ว่ารูปเข้ากับฟีดมั้ย

2. ดีไซน์และหน้าตาแอป: สวย คลีน ใช้ง่าย

หน้าตาแอป A Color Story บอกเลยว่าน่าใช้มาก! คลีนๆ มินิมอล สีสันสดใสสบายตา จัดวางเครื่องมือเป็นระเบียบ ทำให้เราหาสิ่งที่ต้องการได้ไม่ยาก ไม่รก ไม่ลายตา

การออกแบบ: เรียบง่าย เน้นให้เห็นรูปที่เรากำลังแต่งชัดๆ
หน้าตา: เป็นมิตรกับผู้ใช้ ปุ่มต่างๆ เข้าใจง่าย
ความสะดวกในการพกพา: เป็นแอปในมือถือ ก็พกไปแต่งได้ทุกที่ทุกเวลาอยู่แล้วจ้า

ในแอปมีแค่เครื่องมือแต่งรูป ไม่มีอุปกรณ์เสริมใดๆ ให้มาในกล่องนะจ๊ะ (ก็มันคือแอปไง!)


3. ประสบการณ์ใช้งานฟังก์ชันหลัก: ฟิลเตอร์ละลานตา!

หัวใจหลักของ A Color Story คือกองทัพฟิลเตอร์นี่แหละ! มีเยอะมากกกก ทั้งโทนสว่าง คลีนๆ, โทนหม่นๆ มีมิติ, โทนฟิล์มแบบเก่าๆ หรือโทนสีสันสดใส เราสามารถเลือกฟิลเตอร์ที่ชอบ แล้วปรับความเข้มได้ตามใจ แถมยัง ซ้อนฟิลเตอร์หลายๆ อันทับกันได้อีกด้วย! อันนี้เจ๋งจริง ทำให้เราสร้างโทนที่เป็นเอกลักษณ์ของเราเองได้เลย

นอกจากฟิลเตอร์ ก็มีเครื่องมือปรับแต่งพื้นฐานครบครัน เช่น ปรับแสง, สี, คอนทราสต์, ความคมชัด ที่เด็ดคือมีเครื่องมือโปรๆ อย่าง Curves และ HSL (ปรับสีแต่ละสีได้ละเอียด) มาให้เล่นด้วยนะ

ส่วนเอฟเฟกต์ก็มีให้เลือกสนุกๆ เยอะ เช่น เพิ่มเกรนให้ดูฟิล์มๆ, ใส่แสงรั่วเหมือนถ่ายด้วยกล้องฟิล์มจริงๆ, หรือเพิ่มขอบฟุ้งๆ แถมบางเอฟเฟกต์ยัง เลื่อนตำแหน่งบนรูปได้ด้วย! ว้าวมาก!

ลองเอาไปแต่งรูปคาเฟ่ ได้โทนเกาหลีเกาใจ หรือเอารูปวิวไปใส่ฟิลเตอร์โทนฟิล์ม ก็ได้ฟีลวินเทจขึ้นมาทันที! ยิ่งช่วงเทศกาล ลองหาฟิลเตอร์ที่เข้ากับบรรยากาศมาใช้ รูปเราจะดูมีเรื่องราวมากขึ้นเยอะเลย


4. ใช้งานง่ายไหม? มือใหม่หัดแต่งก็เอาอยู่!

สำหรับมือใหม่ที่เพิ่งหัดแต่งรูป บอกเลยว่า A Color Story เป็นแอปที่ ค่อนข้างเป็นมิตร นะ หน้าตาแอปไม่ได้ซับซ้อนอะไรมาก ถึงแม้จะมีเครื่องมือเยอะ แต่ส่วนใหญ่ก็เป็นไอคอนที่เข้าใจได้ง่าย หรือถ้าไม่แน่ใจก็ลองกดๆ ดูได้เลย ไม่พังแน่นอน!

ระบบซอฟต์แวร์โดยรวมถือว่า ลื่นไหลดี การปรับค่าต่างๆ ตอบสนองไวทันใจ ตอนกดใช้ฟิลเตอร์ก็เห็นพรีวิวผลลัพธ์ได้ทันที ทำให้ตัดสินใจง่าย

แอปนี้รองรับภาษาไทยไหม? จากข้อมูล แอปนี้หลักๆ เป็นภาษาอังกฤษนะ แต่ด้วยความที่เน้นไอคอนและหน้าตาที่เข้าใจง่าย ก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาใหญ่สำหรับคนไทยส่วนใหญ่นะคะ ส่วนการใช้งานร่วมกับแอปอื่นๆ เช่น โหลดรูปจากคลังรูป หรือแชร์ลง Instagram, Facebook ก็ทำได้ง่าย สะดวกสุดๆ


5. ความคุ้มค่าในระยะยาว: ฟรีก็ใช้ได้ แต่ถ้าอยากครบต้องเปย์นะ!

A Color Story โหลดฟรี! แต่... ฟิลเตอร์และเอฟเฟกต์เจ๋งๆ ส่วนใหญ่ ต้องซื้อเพิ่ม หรือ สมัครสมาชิก ACS+ ราคาซื้อฟิลเตอร์แต่ละแพ็กก็แตกต่างกันไป แต่ก็มีโปรโมชั่นลดราคาบ่อยๆ นะ ต้องคอยติดตาม

สำหรับคนที่อยากได้ฟิลเตอร์ทั้งหมดแบบไม่อั้น และเข้าถึงฟีเจอร์พิเศษอย่าง Grid Planning แบบเต็มๆ ก็มีตัวเลือกสมัครสมาชิก ACS+ รายเดือนหรือรายปี ราคาต่อปีจะคุ้มกว่า

ถามว่าคุ้มไหม? ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบแต่งรูปหลากหลายสไตล์ ชอบลองฟิลเตอร์ใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา และใช้งานแต่งรูปเป็นประจำ การลงทุนซื้อฟิลเตอร์ที่ชอบ หรือสมัครสมาชิกก็ถือว่าคุ้มค่าค่ะ เพราะได้เครื่องมือที่หลากหลายมาใช้ได้ไม่จำกัด แต่ถ้าเน้นแต่งแค่พื้นฐาน หรือใช้ไม่บ่อย เวอร์ชั่นฟรีก็อาจจะเพียงพอแล้ว


6. ข้อดี-ข้อเสีย: มีอะไรที่คนไทยต้องรู้ก่อนโหลด?

ข้อดีเด็ดๆ ที่คนไทยน่าจะชอบ:

  • ฟิลเตอร์สวยเยอะมาก! มีโทนให้เลือกหลากหลาย ทั้งสดใส ฟิล์ม คลีนๆ ถูกใจแน่นอน
  • ใช้ง่าย หน้าตาแอปสวย ไม่ซับซ้อนเกินไปสำหรับมือใหม่
  • ปรับแต่งได้ละเอียด เครื่องมือครบครัน จะมือใหม่หรืออยากโปรก็ใช้ได้
  • มีเอฟเฟกต์สนุกๆ ให้เล่น เพิ่มความน่าสนใจให้รูปได้เยอะ
  • สร้างฟิลเตอร์/Preset ของตัวเองได้ เก็บโทนที่ชอบไว้ใช้ซ้ำสบายๆ

ข้อเสียที่อาจทำให้ลังเลใจ:

  • ฟิลเตอร์สวยๆ ส่วนใหญ่ต้องเสียเงิน เวอร์ชั่นฟรีมีจำกัด
  • ค่าสมัครสมาชิกอาจจะดูสูง ถ้าไม่ได้ใช้งานบ่อยอาจไม่คุ้ม
  • บางคนบอกว่าหน้าตาแอปหลังอัปเดตสับสนเล็กน้อย (แต่ส่วนใหญ่ยังใช้ง่ายนะ)
  • อาจมีปัญหาเรื่องบั๊กบ้างในบางครั้ง เช่น ฟิลเตอร์หาย ต้องโหลดใหม่
  • แอปเน้นโทนสว่างเป็นหลัก ถ้าชอบโทนมืดๆ หม่นๆ อาจมีตัวเลือกอื่นที่ตรงกว่า

7. เหมาะกับใคร & คำแนะนำในการซื้อ

A Color Story เหมาะกับ:

  • คนที่ชอบถ่ายรูปและแต่งรูปบ่อยๆ โดยเฉพาะสายโซเชียล (Instagrammer, Blogger)
  • คนที่ชอบโทนรูปสดใส คลีนๆ หรือโทนฟิล์ม แอปนี้ตอบโจทย์มาก
  • คนที่อยากได้เครื่องมือแต่งรูปครบครัน ทั้งฟิลเตอร์ เอฟเฟกต์ และเครื่องมือปรับละเอียด
  • คนที่อยากลองสร้างสรรค์โทนรูปของตัวเอง ด้วยการซ้อนฟิลเตอร์หรือทำ Preset

เหมาะกับการใช้งานแบบไหน:

  • แต่งรูปคน สัตว์เลี้ยง ให้ดูมีชีวิตชีวา
  • แต่งรูปอาหาร เสื้อผ้า สินค้า ให้สีสันน่าดึงดูด
  • แต่งรูปวิว ท่องเที่ยว ให้ดูสวยงาม มีสไตล์
  • วางแผน Grid Instagram ให้ดูเป็นระเบียบ สวยงาม

ควรซื้อเลยไหม? หรือรอช่วงโปรโมชั่น?

แนะนำว่า โหลดเวอร์ชั่นฟรีมาลองเล่นก่อนเลยค่ะ! ใช้ฟิลเตอร์ฟรีที่มีให้ ลองเครื่องมือต่างๆ ถ้าใช้แล้วชอบ โทนฟรีมันยังไม่จุใจ หรืออยากได้เอฟเฟกต์พิเศษๆ ค่อยตัดสินใจซื้อฟิลเตอร์แพ็กที่ชอบ หรือจะรอช่วงที่มีโปรโมชั่นลดราคาก็คุ้มดีนะ! การสมัครสมาชิก ACS+ เหมาะกับคนที่ใช้แอปนี้เป็นหลักและต้องการเข้าถึงทุกอย่างแบบเต็มที่ในระยะยาว


8. เปรียบเทียบกับแอปคล้ายๆ กัน: A Color Story vs VSCO vs Lightroom Mobile

ถ้าเทียบกับแอปแต่งรูปยอดฮิตอื่นๆ:

  • VSCO: จะเน้นโทนหม่นๆ มู้ดๆ ฟิล์มๆ ที่สมจริงกว่า A Color Story เครื่องมืออาจจะดูซับซ้อนกว่านิดหน่อย แต่ก็มีจุดเด่นที่ Preset สวยๆ เยอะ และมี Community ของตัวเอง VSCO ก็มีแบบฟรีและเสียเงินสมัครสมาชิกเช่นกัน
  • Lightroom Mobile: เป็นแอปที่เน้นการปรับแต่งที่ละเอียดมากๆ เครื่องมือระดับโปร เหมือนยก Photoshop ย่อส่วนมาไว้ในมือถือ เหมาะกับคนที่จริงจังกับการแต่งรูป และต้องการควบคุมทุกอย่าง แต่โทนสำเร็จรูปอาจจะไม่หลากหลายเท่า A Color Story หรือ VSCO ในเวอร์ชั่นฟรี

สรุปคือ ถ้าชอบโทนสดใส สีสันจัดจ้าน แต่งง่าย มีเอฟเฟกต์สนุกๆ A Color Story คือตัวเลือกที่ดี ถ้าชอบโทนฟิล์ม หม่นๆ มีมิติ และ Community ผู้ใช้ที่แข็งแกร่ง ลองดู VSCO และถ้าเน้นการปรับแต่งแบบโปรๆ ละเอียดทุกเม็ด Lightroom Mobile ก็เหมาะกับคุณค่ะ


9. บริการหลังการขายและช่องทางการซื้อ

A Color Story เป็นแอปพลิเคชัน การ "ซื้อ" ฟิลเตอร์หรือสมัครสมาชิกคือการซื้อผ่าน App Store (สำหรับ iOS) หรือ Google Play Store (สำหรับ Android)

  • การรับประกัน/บริการลูกค้า: ถ้ามีปัญหาเกี่ยวกับการใช้งานแอป หรือการซื้อ สามารถติดต่อทีม Support ของ A Color Story ได้ (มักจะมีช่องทางแจ้งปัญหาในแอป) หรือแจ้งปัญหาผ่าน App Store/Google Play ได้เช่นกัน
  • โปรโมชั่น: แอปมักจะมีโปรโมชั่นลดราคาฟิลเตอร์แพ็กต่างๆ ในช่วงเทศกาล หรือโอกาสพิเศษ ต้องคอยติดตามประกาศในแอป หรือโซเชียลมีเดียของ A Color Story
  • ช่องทางการซื้อ: โหลดและซื้อได้โดยตรงจาก App Store / Google Play
  • ตัวเลือกผ่อนชำระ/คูปอง: การซื้อภายในแอปจะผูกกับวิธีการชำระเงินที่เราตั้งค่าไว้ใน App Store/Google Play ซึ่งอาจมีตัวเลือกผ่อนชำระผ่านบัตรเครดิต หรือใช้ Gift Card/คูปองส่วนลดของแพลตฟอร์มนั้นๆ ได้ ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละคน
  • ระยะเวลาการจัดส่ง: ไม่มีสินค้าเป็นชิ้นๆ ให้ต้องจัดส่ง การซื้อฟิลเตอร์หรือสมาชิกจะปลดล็อกฟีเจอร์ในแอปให้ใช้ได้ทันทีค่ะ

10. บทสรุปและคำแนะนำในการซื้อ

หลังจากลองเล่น ลองใช้ A Color Story มาพักใหญ่ ถ้าถามว่า ควรซื้อ/โหลดไหม? คำตอบคือ แนะนำให้โหลดเวอร์ชั่นฟรีมาลองก่อนเลย! โดยเฉพาะถ้าคุณ:

  • เป็นมือใหม่หัดแต่งรูป อยากได้แอปที่ใช้ง่าย หน้าตาสวยงาม
  • ชอบถ่ายรูปแล้วอยากได้โทนสวยๆ พร้อมโพสต์ทันที โดยไม่ต้องเสียเวลาเยอะ
  • ชอบโทนรูปที่สว่าง สีสันสดใส หรืออยากได้ฟีลเตอร์แบบฟิล์มๆ

ถ้าลองเวอร์ชั่นฟรีแล้วติดใจ อยากได้ฟิลเตอร์/เอฟเฟกต์เพิ่ม ค่อยตัดสินใจว่าจะซื้อเฉพาะแพ็กที่ชอบ หรือสมัครสมาชิก ACS+ เพื่อเข้าถึงทุกอย่างแบบไม่อั้น ซึ่งแบบสมาชิกจะคุ้มกว่าถ้าใช้งานบ่อยๆ และหลากหลาย

สำหรับคนที่งบจำกัด: ลองใช้ฟิลเตอร์ฟรีและเครื่องมือปรับแต่งที่มีให้ก่อน แค่นี้ก็แต่งรูปให้สวยขึ้นได้เยอะแล้วค่ะ

สำหรับคนที่อยากได้แบบครบๆ: การสมัครสมาชิก ACS+ คือคำตอบ เพราะได้เข้าถึงฟิลเตอร์และเอฟเฟกต์ทั้งหมด รวมถึงฟีเจอร์พิเศษอื่นๆ ด้วย

สรุปคือ A Color Story เป็นแอปแต่งรูปที่ดีมากตัวหนึ่ง เหมาะกับคนไทยที่ชอบรูปโทนสวยๆ แต่งง่ายๆ โทนฟิล์ม โทนเกาหลี แนะนำให้โหลดมาลอง แล้วชีวิตการลงรูปในโซเชียลของคุณจะปังขึ้นแน่นอน!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

บทความล่าสุดดูเพิ่มเติม

โอ้โห! วันนี้จะพาไปวาร์ปย้อนยุคกันที่ สวนคุณปู่ Life Museum แหม แค่ชื่อก็กินขาดแล้วป่ะ! หลายคนอาจจะเคยได้ยินชื่อนี้แว่วๆ โดยเฉพาะสายเที่ยว สายคาเฟ่ที่ชอบวิวปังๆ แต่สงสัยกันไหมว่าที่นี่มันมีอะไรดีนอกจากวิวสวยๆ? เป็นแค่ร้านอาหารธรรมดา หรือเป็
รีวิว สวนคุณปู่ สถานที่ท่องเที่ยว/ร้านอาหาร บรรยากาศย้อนยุค
โอ้โห! วันนี้จะมารีวิวซีรีส์ที่แค่ชื่อก็กินขาด แถมยังเป็นกระแสอยู่ช่วงหนึ่งในบ้านเราด้วยนะ กับเรื่อง "Clickbait" ที่เคลมว่าเป็นแนวสืบสวน หักมุม พลิกล็อก ชวนติดหนึบสุดๆ คำถามคาใจคือ...มันจริงเด๊ะ? แล้วมันจะทำให้เราอดหลับอดนอนดูยันเช้าเหมือนท
รีวิว Clickbait: ซีรีส์/ภาพยนตร์แนวสืบสวน หักมุม พลิกล็อก ชวนติดหนึบไหม?
หนีเมืองกรุงไปพักใจริมน้ำ! วันนี้เราจะพาไปส่อง "บ้านเรือ โฮมสเตย์: ที่พักบรรยากาศดีริมน้ำ สไตล์บ้านๆ [ใส่จังหวัด/ที่ตั้ง] น่าไปพักไหม?" ที่พักที่ได้ยินชื่อแล้วต่อมอยากพักผ่อนริมน้ำก็พุ่งกระฉูด! หลายคนอาจจะสงสัยว่า เอ๊ะ...พักบ้านเรือ มันจะโค
รีวิว บ้านเรือ โฮมสเตย์: ที่พักบรรยากาศดีริมน้ำ สไตล์บ้านๆ [ใส่จังหวัด/ที่ตั้ง] น่าไปพักไหม?

บทความที่แนะนำ