รีวิว Yamaha Finn มอเตอร์ไซค์ครอบครัว ดีไซน์ทันสมัย ประหยัดน้ำมัน

ถ้าพูดถึงมอเตอร์ไซค์ครอบครัวคู่ใจคนไทยที่ขี่กันเกลื่อนเมืองเนี่ย คงหนีไม่พ้นทรง "แม่บ้าน" หรือ "บังลม" นี่แหละ! แล้วถ้ากำลังมองหารถใหม่ที่ขี่ง่าย ประหยัดน้ำมัน แถมดีไซน์ไม่เชย วันนี้เราจะพาไปล้วงลึก Yamaha Finn กันแบบหมดเปลือก ว่าเจ้าคันนี้มันจะ "ฟินน์" สมชื่อจริงมั้ย? เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนไทยแบบเราๆ หรือเปล่า? มาดูกันเลยจ้า!

1. ภาพรวมผลิตภัณฑ์: รู้จัก Yamaha Finn กันก่อน

แบรนด์: Yamaha

รุ่น: FINN 115i (รุ่นต่างๆ จะใช้รหัสต่อท้าย เช่น UBS, SP Special Edition)

ปีที่วางขาย: เปิดตัวครั้งแรกปี 2560 และมีการอัปเดตสีสันและรุ่นย่อยมาเรื่อยๆ

ช่วงราคา: ประมาณ 41,200 - 49,900 บาท ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อยและปี

ตำแหน่งในตลาด: มอเตอร์ไซค์ครอบครัวระดับเริ่มต้นถึงกลาง เน้นความประหยัด คุ้มค่า เหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน

จุดเด่นคร่าวๆ:

• ประหยัดน้ำมันตัวจริง: เติม E20 ได้ วิ่งได้ไกล
• รับประกันนาน 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง: อันนี้ทีเด็ด!
• ดีไซน์ทันสมัย: ดูไม่เชย แม้จะเป็นรถทรงครอบครัว
• ขี่ง่าย คล่องตัว: เหมาะกับสภาพการจราจรในเมืองไทย
• มีระบบ UBS เพิ่มความปลอดภัย (บางรุ่น): ช่วยกระจายแรงเบรก

2. ดีไซน์ & รูปลักษณ์ภายนอก: สวยเรียบแต่ดูดี

ดีไซน์ของ Finn จะออกแนวเรียบๆ แต่มีความโมเดิร์นซ่อนอยู่ ไฟหน้าดูโฉบเฉี่ยวเข้ากับแฟริ่ง ไฟท้ายก็ออกแบบมาสวยงาม ตัวรถขนาดกำลังดี ไม่ใหญ่เทอะทะ เหมาะกับการขับขี่ในเมืองที่ต้องซอกแซกพอสมควร

วัสดุ: งานประกอบถือว่าดีในเรทราคานี้ ดูแข็งแรง

ขนาดและน้ำหนัก: กว้าง 710 มม. ยาว 1,940 มม. สูง 1,095 มม. ความสูงเบาะ 775 มม. น้ำหนักตัวรถอยู่ราวๆ 97-100 กก. แล้วแต่รุ่นย่อย ถือว่าไม่หนักมาก เข็นง่าย จอดง่าย

สีที่มีให้เลือก: มีหลายสีสันให้เลือก ทั้งสีเรียบๆ และสีสันสดใส รุ่น Special Edition บางทีก็มีสีพิเศษ ล้อสีทองมาด้วยนะ

อุปกรณ์เสริมในกล่อง: ปกติก็จะมีคู่มือและเครื่องมือพื้นฐานมาให้ ส่วนพวกตะกร้าหน้าหรือกันลายนี่แล้วแต่โปรโมชั่นของร้านหรือช่วงที่ซื้อ อาจจะได้แถมมา

3. ประสบการณ์ในการใช้งานฟังก์ชันหลัก: แรงได้ใจในสไตล์บ้านๆ

เจ้า Finn มาพร้อมเครื่องยนต์ 115 ซีซี ระบบหัวฉีด แม้จะไม่ได้เน้นความแรงกระชากใจแบบรถสปอร์ต แต่อัตราเร่งช่วงต้นทำได้ดี เอาตัวรอดในเมืองหรือตอนแซงรถบรรทุกสบายๆ ระบบเกียร์เป็นแบบเกียร์วน 4 ระดับ ขี่ง่าย เข้าเกียร์นุ่มนวลดี

การประหยัดน้ำมัน: อันนี้คือจุดเด่นที่สุด! Yamaha เคลมว่าประหยัดมาก และจากรีวิวหลายๆ ที่ก็ยืนยันว่าทำได้ดี บางคนขี่ได้ถึง 55.86 กม./ลิตร ในทริปผสมผสาน ยิ่งขี่ในเมืองนิ่งๆ หรือเดินทางไม่ไกลมากยิ่งประหยัดไปอีก เติมน้ำมันเต็มถัง 4 ลิตร วิ่งได้ไกลหายห่วง

ระบบเบรก: รุ่นท็อปจะมีระบบ UBS (Unified Brake System) ช่วยกระจายแรงเบรกระหว่างล้อหน้า-หลัง ทำให้หยุดรถได้มั่นคงขึ้น ปลอดภัยดีสำหรับรถครอบครัว

ช่องเก็บของ: มีช่องใส่ของด้านหน้าเล็กๆ สะดวกดีไว้วางมือถือหรือขวดน้ำ ใต้เบาะก็มี U-Box ขนาด 9.7 ลิตร พอใส่หมวกกันน็อกครึ่งใบได้ หรือเก็บของจุกจิกได้นิดหน่อย

4. ประสบการณ์การใช้งาน & ความง่ายในการใช้: ใครๆ ก็ขี่ได้

Yamaha Finn ถูกออกแบบมาให้ขี่ง่ายมาก ไม่ต้องเรียนรู้อะไรซับซ้อน มือใหม่เพิ่งหัดขี่ก็สบาย ท่านั่งขับขี่สบาย ควบคุมง่ายด้วยน้ำหนักที่ไม่มาก

หน้าจอเรือนไมล์: เป็นแบบอนาล็อก ดูง่าย ชัดเจน บอกความเร็ว ระดับน้ำมัน เกียร์ครบ

เสียงและการสั่น: เครื่องยนต์ค่อนข้างเงียบ รอบเครื่องไม่สั่นมาก ขี่แล้วไม่รู้สึกจุกจิก แต่บางรีวิวก็บอกว่าตอนพิมพ์ A3 เสียงดังนิดหน่อย อันนี้น่าจะสับสนกับปริ้นเตอร์นะจ๊ะ! เอาเป็นว่าเสียงเครื่องยนต์มอเตอร์ไซค์อยู่ในเกณฑ์รับได้ ไม่หนวกหู

ระบบกุญแจ: เป็นแบบมัลติฟังก์ชันในจุดเดียว ทั้งสตาร์ท ล็อกคอ และเปิดเบาะ สะดวกดี

ระบบสตาร์ท: มีทั้งสตาร์ทมือและสตาร์ทเท้าให้เลือกทุกรุ่นย่อย ไม่ต้องกลัวแบตหมดสตาร์ทไม่ได้

5. แบตเตอรี่ / พลังงาน / ความคุ้มค่าในระยะยาว: ประหยัดจริง ไม่จกตา

จุดเด่นอันดับหนึ่งของ Finn คือเรื่องความประหยัดน้ำมัน ด้วยเครื่องยนต์ 115 ซีซี หัวฉีดที่ออกแบบมาเพื่อสิ่งนี้โดยเฉพาะ สามารถเติมน้ำมันได้ถึง E20 ซึ่งถูกกว่าน้ำมันชนิดอื่น ทำให้ค่าใช้จ่ายในการเดินทางต่อกิโลเมตรต่ำมาก

ค่าใช้จ่ายระยะยาว: นอกจากเรื่องน้ำมัน ตัวรถเองก็บำรุงรักษาง่าย อะไหล่ไม่แพง มีไส้กรองน้ำมันเครื่องมาให้ ซึ่งช่วยยืดอายุเครื่องยนต์ได้ (บางคนชอบตรงจุดนี้เมื่อเทียบกับคู่แข่ง) และที่เด็ดสุดคือการรับประกันนานถึง 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง อันนี้คือสิ่งที่ทำให้มั่นใจเรื่องความคุ้มค่าในระยะยาวไปเลย ถ้าใช้งานหนักวิ่งเยอะๆ นี่คือคำตอบ!

6. สรุปข้อดี-ข้อเสีย: ชั่งน้ำหนักกันดู

ข้อดี:

• ประหยัดน้ำมันสุดๆ: อันนี้คอนเฟิร์ม ใช้ในชีวิตประจำวันคือดี
• รับประกันยาวนาน 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง: หายห่วงเรื่องซ่อมจุกจิกไปได้เยอะ
• ขี่ง่าย ควบคุมง่าย: เหมาะกับทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะมือใหม่
• มีรุ่น UBS เพิ่มความปลอดภัย: ช่วยกระจายแรงเบรกได้ดี
• ค่าบำรุงรักษาไม่แพง: อะไหล่หาง่าย ราคาไม่แรง
• มีช่องเก็บของด้านหน้า: สะดวกสบาย

ข้อเสีย:

• พละกำลังอาจไม่แรงเท่ารถใหญ่: เน้นใช้งานทั่วไป ไม่เหมาะสายซิ่ง
• ช่วงล่างอาจจะติดนุ่มไปหน่อยเมื่อมีคนซ้อนหรือบรรทุกหนัก: บางคนอาจจะรู้สึกท้ายเด้งๆ
• รายละเอียดบางอย่างอาจดูธรรมดา: เช่น ไฟหน้ายังเป็นหลอดฮาโลเจนในทุกรุ่น หน้าปัดอนาล็อกล้วนๆ
• ราคาเริ่มต้นอาจจะสูงกว่าคู่แข่งในรุ่นล้อซี่ลวด/ดรัมเบรกเล็กน้อย: แต่ได้สตาร์ทมือทุกรุ่น

7. เหมาะกับใคร & คำแนะนำในการซื้อ: ใครล่ะที่จะฟินน์?

Yamaha Finn เหมาะมากๆ กับ:

• นักเรียน นักศึกษา: ขี่ไปเรียน ใกล้ๆ บ้าน ประหยัดค่าเดินทาง
• พ่อบ้าน แม่บ้าน: จ่ายตลาด รับส่งลูก ซื้อของเข้าบ้าน คล่องตัว
• คนทำงานในเมือง: ใช้เป็นรถคู่ใจไปทำงาน เลี่ยงรถติด ประหยัดน้ำมัน
• ไรเดอร์ส่งของ: ต้องการรถที่ทนทาน ประหยัดน้ำมัน บรรทุกของได้ระดับหนึ่ง
• คนที่เน้นรถใช้งาน: ไม่เน้นแต่ง ไม่เน้นแรง ขอแค่ทน ประหยัด ไม่จุกจิก

สถานการณ์แนะนำ: ใช้ในชีวิตประจำวันในเมืองหรือเดินทางระยะใกล้ถึงปานกลาง วันหยุดจะขี่ไปเที่ยวใกล้ๆ จังหวัดก็พอได้อยู่

ควรซื้อเลยไหม?: ถ้ากำลังมองหารถครอบครัวที่เน้นความประหยัดระยะยาว การรับประกันดีๆ ขี่ง่ายๆ ซื้อได้เลย! โปรโมชั่นส่วนใหญ่ก็มีตลอดปี ลองเช็คตามศูนย์หรือช่องทางออนไลน์ดู อาจจะได้ส่วนลดหรือของแถมดีๆ

8. เปรียบเทียบกับสินค้าคล้ายๆ กัน: มวยถูกคู่!

คู่แข่งตัวฉกาจในตลาดรถครอบครัวคงหนีไม่พ้น Honda Wave 110i ทั้งสองรุ่นเป็นรถบังลม 110-115 ซีซี เหมือนกัน ต่างกันตรงไหนบ้าง?

• เรื่องราคา: Wave 110i มีราคาเริ่มต้นต่ำกว่าในบางรุ่นย่อย แต่ Finn ให้สตาร์ทมือมาตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น และมีรุ่น UBS ให้เลือก
• เครื่องยนต์: Finn ซีซีมากกว่านิดหน่อย (115 vs 110) แต่ Wave ได้เปรียบเรื่องความจุถังน้ำมันที่ใหญ่กว่าเล็กน้อย Finn จะให้แรงบิดช่วงต้นดีกว่า ส่วน Wave จะไหลปลายดีกว่า
• ระบบเบรก: Finn มีรุ่น UBS ที่กระจายแรงเบรกได้ ซึ่ง Wave ไม่มี
• ฟีเจอร์: Finn มีช่องเก็บของด้านหน้าและระบบเปิดเบาะสะดวกกว่า Wave มีหน้าปัดแบบอนาล็อกผสมดิจิทัลในบางรุ่น
• การรับประกัน: Finn ชนะเลิศด้วยการรับประกัน 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง ในขณะที่ Wave จะรับประกันมาตรฐานทั่วไป

สรุปคือ Wave ประหยัดจริง ทนทาน หาอะไหล่ง่าย ส่วน Finn ได้ความประหยัดที่สูสี ฟีเจอร์ที่ทันสมัยกว่าหน่อย (ช่องเก็บของ, UBS) และการรับประกันที่ยาวนานกว่ามาก

9. บริการหลังการขายและช่องทางการซื้อ: ซื้อที่ไหน ได้อะไรบ้าง?

Yamaha Finn มีการรับประกันตัวรถถึง 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง อันนี้คือจุดแข็งที่ไม่เหมือนใคร มีศูนย์บริการ Yamaha ทั่วประเทศ เคลมง่ายหายห่วงถ้าใช้งานปกติแล้วมีปัญหา

ช่องทางการซื้อ: หลักๆ ซื้อที่ศูนย์บริการ Yamaha ทั่วประเทศ บางทีก็มีดีลเลอร์ใหญ่ๆ ที่มีโปรโมชั่นพิเศษ หรืออาจจะเจอในร้านตัวแทนจำหน่ายมอเตอร์ไซค์ทั่วไป ลองสอบถามโปรโมชั่นได้

โปรโมชั่น: มักจะมีโปรโมชั่นออกรถ ทั้งส่วนลดเงินดาวน์ ฟรีค่าทะเบียน พ.ร.บ. หรือแถมหมวกกันน็อก เสื้อแจ็กเก็ต บางช่วงมีโปรแกรมผ่อนชำระ 0% หรืออัตราดอกเบี้ยพิเศษด้วย แนะนำให้ลองเช็คโปรล่าสุดกับทางศูนย์หรือเพจ Yamaha Society Thailand ดูก่อน

ระยะเวลาการจัดส่ง/รับรถ: ปกติซื้อที่ศูนย์ก็รับรถได้เลย ไม่ต้องรอนาน

10. บทสรุปและคำแนะนำในการซื้อ: ฟินน์ไม่ฟินน์ อยู่ที่คุณ!

ถ้าอ่านมาถึงตรงนี้แล้วยังลังเลอยู่ เราสรุปให้ฟังอีกทีว่า Yamaha Finn เป็นมอเตอร์ไซค์ครอบครัวที่คุ้มค่ามากๆ สำหรับคนที่เน้นใช้งานจริง เน้นความประหยัดน้ำมัน และต้องการความสบายใจกับการรับประกันที่ยาวนาน

ด้วยดีไซน์ที่ดูดี ขี่ง่ายในเมือง และฟีเจอร์ที่ให้มาครบครัน (โดยเฉพาะรุ่น UBS) มันตอบโจทย์ชีวิตประจำวันของคนไทยส่วนใหญ่ได้สบายๆ

คำแนะนำ:

• ถ้างบถึง และต้องการความปลอดภัยเพิ่ม แนะนำให้เลือกรุ่น UBS ไปเลย คุ้มกว่า
• ถ้าใช้งานหนัก วิ่งระยะทางเยอะๆ ทุกวัน ไม่ต้องคิดมาก จัด Finn ไปเลย! การรับประกัน 5 ปีคือคำตอบ
• ถ้าเน้นราคาเริ่มต้นถูกสุดๆ และไม่ติดเรื่องสตาร์ทเท้า อาจจะต้องลองดูคู่แข่งอย่าง Wave 110i ในรุ่นล่างสุด
• ถ้าชอบแต่งรถ หรือต้องการความแรง Finn อาจจะยังไม่ใช่ แต่ถ้าเน้นใช้งานเดิมๆ คือจบ!

สรุปง่ายๆ คือ ถ้าคุณคือสายประหยัด สายใช้งานทนๆ ไม่จุกจิก และอยากได้รถที่ดูทันสมัยหน่อยๆ Yamaha Finn ตอบโจทย์แน่นอน! ลองไปดูตัวจริงที่ศูนย์ แล้วจะรู้ว่าฟินน์ไม่ฟินน์ มันอยู่ที่ความรู้สึกตอนได้ลองเองนี่แหละจ้า!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• รีวิว Yamaha Finn ขี่แล้วฟินน์ ช่วงล่างแน่น เครื่องไม่สั่น แถมประหยัด ...
• รีวิว Yamaha FINN 2024 ประหยัดแค่ไหน!??
• รีวิว Yamaha Finn 2022 รถครอบครัว งานประกอบดีเยี่ยม
• Yamaha Finn สีใหม่! รถครอบครัวสุดคุ้ม ขี่ง่าย ประหยัดน้ำมัน ไม่จุกจิก ...
• Yamaha FINN สีใหม่ สไตล์โมเดิร์น ประหยัดน้ำมัน รับประกัน 5 ปี ไม่ ...