Honda Moove 2018 รีวิว: มอเตอร์ไซค์ออโต้ ดีไซน์ทันสมัย เหมาะกับการใช้งานในเมืองไหม?


สวัสดีค่าาา! วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยถึงมอเตอร์ไซค์ออโต้ดีไซน์เก๋ๆ อย่าง Honda Moove 2018 ที่หลายคนอาจจะเคยเห็นแว๊บๆ หรือสงสัยว่า "เอ๊ะ...เจ้านี่มันเหมาะกับชีวิตในเมืองอันแสนวุ่นวายของเราจริงๆ เหรอ?" ไม่ว่าจะเป็นการซอกแซกในชั่วโมงเร่งด่วนตอนเช้า หรือจะไปซื้อของช่วงเทศกาลที่คนเยอะยังกับหนอน วันนี้เราจะมาเจาะลึกรีวิวแบบบ้านๆ สไตล์คนใช้งานจริง ให้รู้กันไปเลยว่าเจ้า Moove คันนี้มันใช่หรือไม่ใช่!
1. ภาพรวมน้อง Moove 2018: มาดูโปรไฟล์กันหน่อย
ใครที่กำลังมองหารถมอเตอร์ไซค์คู่ใจไว้ลุยเมือง ต้องรู้จักเจ้านี่ไว้เลย Honda Moove 2018 เขาเป็นสกู๊ตเตอร์ตัวเล็กจากค่ายปีกนก Honda ที่ออกมาตอบโจทย์คนเมืองโดยเฉพาะ
แบรนด์: Honda
รุ่น: Moove (มูฟ)
ปีที่วางขาย: รุ่นปี 2018 (แต่เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2014 แล้วนะ)
ช่วงราคาขาย (มือหนึ่ง ณ ตอนเปิดตัว): ประมาณ 49,700 - 51,400 บาท
ตำแหน่งในตลาด: เป็นรถสกู๊ตเตอร์ระดับเริ่มต้นถึงกลาง ที่เน้นดีไซน์ทันสมัย และความคล่องตัว เหมาะกับวัยรุ่น วัยทำงาน หรือใครก็ได้ที่ต้องการรถที่ขับง่ายๆ ใช้ในชีวิตประจำวันในเมืองเป็นหลัก
จุดเด่นที่เคลมมา:
- ดีไซน์เก๋ ไม่ซ้ำใคร: เขาบอกว่ามันคือ Smart Bike คันแรกของไทย
- ประหยัดน้ำมันสุดๆ: ด้วยเครื่องยนต์ eSP และ Idling Stop
- ขับขี่มั่นใจ: มีระบบ Combi Brake และล้อแม็กยางทูบเลส
- ช่องเก็บของใหญ่: ใต้เบาะเก็บหมวกกันน็อคแบบเจ็ตได้
2. ดีไซน์ & รูปลักษณ์ภายนอก: สวยล้ำ หรือว่าธรรมดา?
มองเผินๆ เจ้า Moove ก็ดูเป็นมอเตอร์ไซค์ออโต้ทรงสปอร์ตผสมความโมเดิร์นนะ ดีไซน์โดยรวมดูโฉบเฉี่ยว ใช้ไฟหน้าแบบ LED พร้อม Jet Liner LED และไฟท้ายแบบ 3 มิติ ถือว่าล้ำกว่ามอเตอร์ไซค์ออโต้รุ่นเล็กๆ ในยุคเดียวกันอยู่พอสมควรเลย
วัสดุที่ใช้: โดยรวมให้ความรู้สึกแข็งแรงดี บางคนรีวิวว่าชุดสีประกอบแน่นกว่าที่คิด
ขนาดและน้ำหนัก: ตัวรถมีขนาดกะทัดรัด (กว้าง 683 x ยาว 1,851 x สูง 1,102 มม.) และน้ำหนักเบาแค่ 100 กก. ทำให้ควบคุมง่าย ทั้งตอนขับและตอนเข็น
สีที่มีให้เลือก: ตอนเปิดตัวมีให้เลือกหลายสีแบบทูโทน เช่น ดำ-เขียว, ดำ-ชมพู, ดำ-น้ำเงิน
สำหรับคนเมืองที่พื้นที่จอดจำกัด ความที่มันไม่ใหญ่เทอะทะนี่ถือเป็นข้อดีเลย จะจอดตามซอกซอย หรือจอดในที่แคบๆ ก็สบาย แถมน้ำหนักเบายังช่วยให้เข็นง่ายเวลาต้องขยับรถในลานจอดอีกด้วยนะ
อุปกรณ์เสริมในกล่อง: ปกติก็จะมาพร้อมคู่มือการใช้งานและชุดเครื่องมือพื้นฐาน ส่วนหมวกกันน็อคหรืออุปกรณ์อื่นๆ ต้องซื้อแยกจ้า
3. ประสบการณ์ในการใช้งานฟังก์ชันหลัก: ซอกแซกเมืองสบายจริงไหม?
หัวใจหลักของมอเตอร์ไซค์ออโต้ในเมืองก็คือ ความคล่องตัว และ ความประหยัด ซึ่งเจ้า Moove 2018 ก็เคลมเรื่องนี้มาเต็มๆ
เครื่องยนต์: ใช้เครื่องยนต์ขนาด 108.2 ซีซี แบบ eSP หัวฉีด PGM-FI ที่ขึ้นชื่อเรื่องความประหยัดและสตาร์ทเงียบ
การตอบสนอง: อัตราเร่งสำหรับการใช้งานในเมืองถือว่าเพียงพอ ช่วงออกตัวทำได้ดี ทำให้ซอกแซกตามช่องว่างในการจราจรได้สะดวก
จุดเด่นจริงๆ คือเรื่องความประหยัดน้ำมัน ด้วยระบบ Idling Stop ที่ดับเครื่องยนต์อัตโนมัติเมื่อรถหยุดนิ่งเกิน 3 วินาที (และจะสตาร์ททันทีที่บิดคันเร่ง) เทคโนโลยีนี้ช่วยประหยัดน้ำมันได้ดีมากๆ โดยเฉพาะเวลาเจอรถติดไฟแดงนานๆ ซึ่งเป็นเรื่องปกติในเมืองใหญ่ อัตราประหยัดน้ำมันที่เคลมไว้คือสูงถึง 62.3 กม./ลิตร เลยทีเดียว (ตามมาตรฐาน ECE R40 Mode) ซึ่งถ้าขับขี่แบบปกติในเมืองที่ต้องจอดๆ หยุดๆ ก็ยังถือว่าประหยัดกว่ารถรุ่นเก่าๆ เยอะ
ระบบเบรก: มาพร้อมระบบ Combi Brake System ที่ช่วยกระจายแรงเบรกระหว่างล้อหน้า-หลัง ทำให้เบรกได้อย่างมั่นใจและปลอดภัยมากขึ้น
ประสบการณ์การใช้งาน & ความง่ายในการใช้: ใครๆ ก็ขับได้จริงดิ?
ต้องบอกเลยว่า Honda Moove 2018 ใช้งานง่ายมากๆ ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หัดขับมอเตอร์ไซค์ หรือคนที่ขับเป็นอยู่แล้วก็สบายหายห่วง
ความง่ายในการขับขี่: ด้วยน้ำหนักที่เบาและขนาดที่กะทัดรัด ทำให้ควบคุมง่ายมากๆ ทั้งตอนขับด้วยความเร็วต่ำในซอยแคบๆ หรือตอนที่ต้องเบี่ยงหลบสิ่งกีดขวางบนถนน ท่านั่งขับสบาย เบาะไม่สูงเกินไป (ความสูงเบาะ 740 มม.) คนตัวเล็กหน่อยก็ขับได้มั่นใจ
ระบบสตาร์ท: สตาร์ทติดง่ายทั้งแบบกดปุ่มไฟฟ้าและสตาร์ทเท้า เสียงสตาร์ทเงียบมากด้วยระบบ Alternator/Starter
การควบคุม: แฮนด์ควบคุมง่าย หน้าปัดเรือนไมล์แบบ Smart Gadget ก็แสดงข้อมูลครบถ้วน เข้าใจง่าย ไม่ต้องเรียนรู้อะไรเยอะเลย
ความสะดวกสบาย: ช่วงล่างอาจจะไม่ได้นุ่มนวลเท่ารถรุ่นใหญ่ แต่สำหรับการขับในเมืองถือว่าเพียงพอ เรื่องเสียงเครื่องยนต์ไม่ดังรบกวนเท่าไหร่
4. แบตเตอรี่ / พลังงาน / ความคุ้มค่าในระยะยาว: เติมน้ำมันที วิ่งได้กี่วัน?
เรื่องความประหยัดนี่เป็นจุดขายหลักของ Moove เลย เพราะค่าใช้จ่ายเรื่องน้ำมันเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับคนใช้รถในชีวิตประจำวัน
ความจุถังน้ำมัน: 3.7 ลิตร
อัตราประหยัดน้ำมัน: เคลมสูงสุด 62.3 กม./ลิตร ซึ่งในการใช้งานจริงในเมืองที่รถติด อาจจะไม่ได้เป๊ะเท่านี้ แต่ก็ยังถือว่าประหยัดมากๆ เมื่อเทียบกับรถรุ่นอื่นๆ ในคลาสเดียวกัน ทำให้ประหยัดเงินค่าน้ำมันไปได้เยอะในแต่ละเดือน
ค่าใช้จ่ายระยะยาว: มอเตอร์ไซค์ Honda โดยทั่วไปขึ้นชื่อเรื่องความทนทานและหาอะไหล่ได้ง่ายในราคาที่ไม่แพง การบำรุงรักษาก็ไม่ยุ่งยากมากนัก ทำให้ค่าใช้จ่ายในระยะยาวไม่น่ากังวล
วิเคราะห์ความคุ้มค่า: ถ้าคุณเน้นรถที่ประหยัดน้ำมัน ขับง่าย ซอกแซกเก่ง และค่าบำรุงรักษาไม่แพง เจ้า Moove 2018 ถือว่าคุ้มค่ามากๆ ยิ่งถ้าซื้อเป็นรถมือสองตอนนี้ ราคาจะยิ่งน่ารักน่าลุ้นเลย
5. ข้อดี-ข้อเสีย: มาชั่งน้ำหนักกันดู
ไม่มีอะไรเพอร์เฟคเนอะ Moove 2018 ก็มีทั้งมุมที่น่ารัก และมุมที่อาจจะต้องพิจารณา
ข้อดีที่คนไทยน่าจะเลิฟ:
- โคตรประหยัดน้ำมัน: อันนี้ยืนหนึ่ง!
- ขับขี่ง่าย คล่องตัว: เหมาะกับการมุดฝ่ารถติดในเมืองสุดๆ
- ดีไซน์สวยเก๋: ไม่โหล ดูทันสมัยอยู่
- ระบบเบรกมั่นใจ: Combi Brake ช่วยได้เยอะ
- ช่องเก็บของใต้เบาะใหญ่: ใส่หมวกกันน็อคหรือของเล็กๆ น้อยๆ ได้สะดวก
ข้อเสียที่อาจทำให้ลังเล:
- เครื่องยนต์ 110 ซีซี: อาจจะรู้สึกว่าไม่แรงเท่ารถรุ่นที่ซีซีสูงกว่า หรือรถตลาดบางรุ่น
- เป็นรถที่ไม่ได้นิยม mass เท่า Scoopy i หรือ Click: อาจจะหามือสองยากหน่อย หรือราคาขายต่ออาจจะไม่แข็งเท่า
- ช่วงล่างอาจจะแข็งไปนิด: ถ้าเจอถนนไม่เรียบ อาจจะสะเทือนหน่อย
- ตัวเลือกสีมือหนึ่งอาจจะน้อยลงแล้ว: เนื่องจากเป็นรุ่นปีเก่า
6. เหมาะกับใคร & คำแนะนำในการซื้อ: ซื้อเลยดีไหมนะ?
จากทั้งหมดทั้งมวลที่เล่ามา เจ้า Honda Moove 2018 คันนี้เหมาะมากๆ กับ:
- นักเรียน นักศึกษา: ที่ต้องการรถไปเรียน ไปทำกิจกรรม ค่าน้ำมันไม่บานปลาย
- คนทำงานในเมือง: ที่ต้องเดินทางระยะใกล้ๆ หรือใช้รถเพื่อเชื่อมต่อไปยังขนส่งสาธารณะ
- คนที่เน้นความประหยัดและคล่องตัว: ไม่ได้ต้องการความแรง เน้นใช้งานง่ายในชีวิตประจำวัน
- คนที่กำลังหามอเตอร์ไซค์คันแรก: เพราะขับง่าย ควบคุมง่าย
เหมาะกับการใช้งานแบบไหน: เน้นขับในเมือง ไปตลาด ไปเรียน ไปทำงาน หรือวิ่ง Grab Food ระยะใกล้ๆ คือตอบโจทย์สุดๆ
ควรซื้อเลยไหม? ถ้าเจอคันที่สภาพดี ราคาถูกใจ โดยเฉพาะรถมือสองที่ราคาลงมาจากตอนเปิดตัวเยอะมาก ถือว่าน่าสนใจมากๆ แต่ถ้าเน้นรถตลาดที่คนใช้เยอะๆ เผื่อขายต่อ หรือต้องการรุ่นใหม่ล่าสุดที่มีฟีเจอร์มากกว่า อาจจะต้องลองดูรุ่นอื่นในค่ายอย่าง Scoopy i หรือ Click ประกอบ
7. เปรียบเทียบกับสินค้าคล้ายๆ กัน: มีคู่แข่งคนไหนบ้าง?
ในตลาดมอเตอร์ไซค์ออโต้ 110-125 ซีซี คู่แข่งของ Moove ก็มีหลายรุ่นเลย
- Honda Scoopy i / Click 125i: เป็นรุ่นยอดนิยมในค่ายเดียวกัน คนใช้เยอะ อะไหล่หาง่ายกว่า ราคาขายต่ออาจจะดีกว่า แต่ Moove มักจะมีออปชันบางอย่างที่ Scoopy i หรือ Click รุ่นปีเดียวกันให้มา (เช่น Idling Stop หรือ Combi Brake ในบางรุ่นย่อย) ในราคาที่ถูกกว่า
- Yamaha Fino / Grand Filano / FreeGo: ดีไซน์ต่างกันไป เน้นคนละกลุ่มเป้าหมาย Fino/Grand Filano เน้นความคลาสสิก ส่วน FreeGo จะมีความทันสมัย เรื่องความประหยัดน้ำมัน Yamaha ก็มีเทคโนโลยี Blue Core มาสู้ แต่ Moove ก็ประหยัดไม่แพ้กัน
ถ้าเทียบกับรุ่นอื่นในค่ายเดียวกันอย่าง Scoopy i หรือ Click รุ่นปีใกล้เคียง Moove อาจจะคุ้มค่ากว่าในแง่ของออปชันที่ได้ต่อราคา แต่ก็ต้องแลกมาด้วยความเป็นรถนอกกระแสกว่านิดหน่อย
8. บริการหลังการขายและช่องทางการซื้อ: ซื้อที่ไหนดี จะซ่อมที่ไหน?
ถึงแม้จะเป็นรถรุ่นปีเก่าแล้ว แต่การบริการหลังการขายของ Honda โดยรวมก็ยังถือว่าเชื่อถือได้
การรับประกัน: รถใหม่มือหนึ่งตอนซื้อมาจะมีระยะเวลารับประกัน ส่วนรถมือสองก็ขึ้นอยู่กับผู้ขาย
ศูนย์บริการ: สามารถเข้าศูนย์บริการ Honda Wing Center ได้ทั่วประเทศ ไม่ต้องกลัวเรื่องหาที่ซ่อมยาก
อะไหล่: อะไหล่พื้นฐานหาไม่ยาก เพราะใช้เครื่องยนต์และเทคโนโลยีร่วมกับรถ Honda รุ่นอื่นๆ แต่พวกชุดสีหรืออะไหล่เฉพาะรุ่นอาจจะต้องเช็คกับศูนย์หรือร้านอะไหล่ใหญ่ๆ หน่อย
ช่องทางการซื้อ:
- ศูนย์ Honda Wing Center: ถ้ายังพอมีรถใหม่ค้างสต็อกอยู่ (ซึ่งน่าจะน้อยมากแล้วสำหรับปี 2018) หรือจะไปดูรุ่นใหม่ๆ
- ร้านมอเตอร์ไซค์มือสอง: ช่องทางหลักในการซื้อ Moove 2018 ในปัจจุบัน ควรเลือกร้านที่ไว้ใจได้ หรือซื้อจากคนรู้จัก
- แพลตฟอร์มออนไลน์ (Facebook Marketplace, Kaidee, Group ซื้อมอเตอร์ไซค์มือสอง): หาซื้อง่าย มีตัวเลือกเยอะ ราคาหลากหลาย แต่ต้องดูรถให้เป็น หรือพาคนที่มีความรู้ไปช่วยดูด้วยนะ!
คำแนะนำ: ถ้าจะซื้อมือสอง สิ่งสำคัญคือเช็คสภาพรถให้ดี พาช่างไปช่วยดูได้ยิ่งดี สอบถามประวัติการใช้งาน และเล่มทะเบียนให้ครบถ้วน
9. บทสรุปและคำแนะนำในการซื้อ: Moove คันนี้...ควรโดนไหม?
สรุปแล้ว Honda Moove 2018 เป็นมอเตอร์ไซค์ออโต้ที่น่าสนใจมากๆ สำหรับคนเมือง ที่กำลังมองหารถคู่ใจไว้ใช้งานในชีวิตประจำวัน
ถ้าคุณเป็นคนที่เน้นความประหยัดน้ำมันสูงสุดๆ (โดยเฉพาะถ้าต้องเจอรถติดบ่อยๆ) ชอบรถที่ขับขี่ง่าย ควบคุมง่าย และไม่ติดแบรนด์ว่าเป็นรุ่นยอดนิยมสุดๆ ขอแค่ฟังก์ชันครบ ราคาคุ้มค่า เจ้านี่คือคำตอบ!
เหมาะสำหรับ: นักเรียน นักศึกษา คนทำงานในเมือง หรือใครก็ตามที่ต้องการรถออโต้คันแรกหรือคันที่สองไว้ใช้ในเมืองแบบสบายกระเป๋า
ไม่เหมาะสำหรับ: คนที่ต้องการความแรงจัดจ้าน, เน้นรถที่คนใช้เยอะๆ เพื่อความสะดวกในการขายต่อสูงสุด, หรือต้องการรถที่ฟีเจอร์ล้ำสมัยที่สุดในตลาดตอนนี้
โดยรวมแล้ว Honda Moove 2018 คือรถที่คุ้มค่า คุ้มราคา โดยเฉพาะถ้าซื้อมือสองในราคาดีๆ เป็นตัวเลือกที่น่าโดนเลยค่ะ! แต่ยังไงก็อย่าลืมพิจารณาจากความต้องการและงบประมาณของตัวเองเป็นหลักนะคะ :)
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
แนะนำสำหรับคุณ
รีวิว เหล้า Beehive: วิสกี้รสชาติดี ราคาเป็นมิตร น่าลองไหม?
รีวิวล่าสุด Canon EOS M50: กล้อง Mirrorless ยอดฮิต ยังน่าใช้ไหมในปี 2024?
Mpow M5 รีวิว: หูฟังไร้สายราคาเบา คุณภาพเสียงเป็นยังไง?
รีวิว The Common Saladaeng: แหล่งแฮงค์เอาท์สุดชิค ใจกลางสาทร มีอะไรน่าสนใจบ้าง?
รีวิว Copycat Killer (ซีรีส์ Netflix): ดราม่าอาชญากรรมสุดเข้มข้น ห้ามพลาด!
Rebalance Clinic รีวิว: ทำสวยที่นี่ดีไหม? ครบวงจรเรื่องผิวและหัตถการ