DBX 231s Graphic Equalizer ราคาล่าสุด พร้อมรีวิวการใช้งาน คุ้มไหมกับราคานี้?

สวัสดีสายเครื่องเสียงทุกคนนน! วันนี้เราจะมาเจาะลึกรีวิวอุปกรณ์ปรับเสียงที่นักดนตรี ซาวด์เอนจิเนียร์ หรือแม้แต่คนทำเครื่องเสียงตามบ้านตามงานต่างๆ น่าจะคุ้นเคยกันดี นั่นก็คือ DBX 231s Graphic Equalizer นั่นเอง! ใครที่กำลังมองหา EQ ดีๆ สักตัวมาช่วยจัดการปัญหาเสียงหอน เสียงก้อง หรืออยากปรับโทนเสียงให้ออกมาเป๊ะตามใจชอบ มาดูกันว่าเจ้าตัวนี้มันดียังไง ราคาเท่าไหร่ แล้วคุ้มค่าน่าโดนจริงไหม!

1. เจ้าเครื่องนี้มันคืออะไร ทำอะไรได้บ้าง?

เอาล่ะ มารู้จักพระเอกของเรากันก่อน DBX 231s เนี่ย มันคือ Graphic Equalizer แบบ 2 แชนแนล 31 แบนด์ พูดง่ายๆ ก็คือเป็นเครื่องมือที่เอาไว้ปรับความถี่เสียงในย่านต่างๆ ให้สมดุลกันนั่นแหละจ้า มีช่องให้เสียบ input/output แบบ XLR และ TRS มาให้ครบ (ช่องเสียบแบบมืออาชีพเขาใช้กันนั่นแหละ) หน้าตาของมันก็จะเป็นแผงๆ มีเฟดเดอร์ (ตัวเลื่อนๆ) เรียงกันเป็นตับๆ เลยถึง 31 ตัวต่อข้าง (เพราะเป็นสเตอริโอ 2 ข้างไง) ซึ่งแต่ละเฟดเดอร์ก็จะควบคุมความดังเบาของเสียงในย่านความถี่นั้นๆ เช่น เสียงทุ้ม เสียงกลาง เสียงแหลม แบ่งย่อยๆ ไปอีก 31 ช่วงความถี่ ตั้งแต่ 20 Hz ไปจนถึง 20 kHz เลยทีเดียว

หน้าที่หลักๆ ของมันก็คือ ช่วยให้เราสามารถ ปรับแต่งเสียง ให้เข้ากับสภาพอะคูสติกของสถานที่นั้นๆ หรือปรับให้เข้ากับแนวเพลงที่เราต้องการได้ เช่น ถ้าห้องมันก้องไปก็อาจจะต้องลดเสียงย่านกลางแหลมลงหน่อย หรือถ้าเสียงเบสมันบวมๆ ก็ไปลดความถี่ต่ำๆ ลงมา นอกจากนี้ EQ ตัวนี้ยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการ กำจัดเสียงหอน (Feedback) ในระบบเสียง PA ด้วยนะ เพราะเวลาเสียงหอนมันจะเกิดขึ้นที่ความถี่ใดความถี่หนึ่ง เราก็แค่เลื่อนเฟดเดอร์ตรงความถี่นั้นลงมา เสียงหอนก็จะหายไปได้เหมือนเสกมนต์เลยทีเดียว!

กลุ่มคนที่เหมาะกับเจ้า DBX 231s ก็มีตั้งแต่ นักดนตรี, ดีเจ, ซาวด์เอนจิเนียร์, ร้านอาหาร, ร้านกาแฟ, ผับบาร์, ห้องประชุม, โบสถ์, วัด หรือแม้แต่คนที่ทำ โฮมสตูดิโอ เล็กๆ ที่ต้องการควบคุมคุณภาพเสียงให้ออกมาดีที่สุด

ส่วนแบรนด์ DBX เนี่ย ไม่ต้องพูดเยอะเลยจ้า เป็นแบรนด์ระดับตำนานจากอเมริกาที่อยู่ในวงการโปรออดิโอมานานมากๆ เค้าขึ้นชื่อเรื่องอุปกรณ์โปรเซสเซอร์เสียงคุณภาพดี ทนทาน ไว้ใจได้ เรียกว่าเป็นมาตรฐานในสตูดิโอหรือระบบเสียงใหญ่ๆ ทั่วโลกเลยก็ว่าได้ แล้ว DBX ก็อยู่ภายใต้ชายคาของ Harman International ซึ่งตอนนี้เป็นส่วนหนึ่งของ Samsung แล้วนะ (แอบไฮเทคไปอีก!)

2. ราคาในตลาดไทยตอนนี้เท่าไหร่กันนะ?

มาถึงเรื่องที่หลายคนอยากรู้ที่สุด! สำหรับเจ้า DBX 231s Graphic Equalizer ในตลาดไทยตอนนี้ ต้องบอกว่าราคาค่อนข้างนิ่งแล้วนะ ส่วนใหญ่จะเจอราคาขายอยู่ที่ประมาณ 8,900 บาท ถึง 9,900 บาท (฿) โดยประมาณจ้า ซึ่งถือเป็นราคาที่น่าสนใจมากๆ เมื่อเทียบกับคุณภาพและชื่อชั้นของแบรนด์

ลองไปส่องดูตามแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซใหญ่ๆ อย่าง Lazada หรือ Shopee เนี่ย จะมีร้านค้าที่เป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ หรือร้านเครื่องเสียงที่น่าเชื่อถือเอามาลงขายกันหลายร้านเลยนะ อย่างร้าน เอไอ-ไพศาล หรือร้าน Music Space (Thailand) ก็เห็นมีลงขายในราคาราวๆ นี้เลย ซึ่งราคานี้บางทีก็เป็นราคาโปรโมชั่นลดมาจากราคาปกติที่สูงกว่านี้ด้วยนะ

ส่วนร้านค้าอุปกรณ์ดนตรีและเครื่องเสียงใหญ่ๆ อย่าง SoundDD.Shop ก็มีรุ่นนี้ขายเช่นกันในราคาประมาณ 8,900 บาท (รวม VAT แล้ว) หรือตามร้านเครื่องเสียงอื่นๆ ก็จะอยู่ในช่วงราคาใกล้เคียงกันนี้จ้า

เรื่องส่วนต่างอัตราแลกเปลี่ยนกับราคาต่างประเทศนี่ไม่ต้องกังวลมาก เพราะสินค้าโปรออดิโอส่วนใหญ่มันมีเรื่องภาษีและค่าขนส่งเข้ามาเกี่ยวข้อง ทำให้ราคาในไทยอาจจะสูงกว่าราคาตั้งในอเมริกาเล็กน้อย แต่ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้สำหรับอุปกรณ์เกรดโปรแบบนี้

3. เทียบราคากับคนอื่นในตลาดแล้วเป็นไงบ้าง?

ถ้าเอาเจ้า DBX 231s ไปเทียบกับ Graphic Equalizer แบรนด์อื่นๆ ที่มีสเปกใกล้เคียงกัน (Dual 31-band) ในตลาดไทยเนี่ย ต้องบอกว่า DBX 231s เป็นตัวเลือกที่ คุ้มค่าและน่าเชื่อถือ มากๆ เลยนะ

แบรนด์ที่เป็นคู่แข่งในระดับราคากลางๆ ก็จะมีพวก Behringer ซึ่งเค้าก็มีรุ่น Graphic EQ 31 แบนด์เหมือนกัน (เช่น FBQ3102HD หรือ FBQ6200HD) ราคาอาจจะถูกกว่า DBX 231s เล็กน้อย แต่เรื่องความทนทานและคาแรคเตอร์เสียง หลายคนในวงการก็ยังยกให้ DBX เป็นต่ออยู่เล็กน้อย

หรือถ้าไปดูแบรนด์โปรออดิโอตัวท็อปๆ อย่าง Klark Teknik หรือ Yamaha รุ่น Graphic EQ 31 แบนด์ของพวกนี้ราคาก็จะโดดไปไกลกว่า DBX 231s เยอะเลยจ้า (เห็นมีบางรุ่นราคาเกือบ 3 หมื่นเลยทีเดียว!) ซึ่งแน่นอนว่าฟังก์ชันหรือคุณภาพเสียงอาจจะดีกว่า แต่ก็ต้องจ่ายเพิ่มขึ้นไปอีกหลายเท่าตัว

ดังนั้น ถ้ามองหา EQ 31 แบนด์ที่ให้คุณภาพเสียงดี เชื่อถือได้ ไม่ได้ต้องการฟังก์ชันดิจิทัลหวือหวา หรือชื่อแบรนด์ระดับ Hi-end สุดๆ DBX 231s ที่ราคาหมื่นบวก/ลบเล็กน้อยเนี่ย ถือเป็นตัวเลือกที่ สมเหตุสมผลและให้ความคุ้มค่าสูง ในตลาดบ้านเราเลยทีเดียว

4. ซื้อแล้วได้อะไรมาบ้าง? มีประกันไหม?

เวลาซื้อ DBX 231s เนี่ย สิ่งที่เราจะได้มาหลักๆ ก็คือ ตัวเครื่อง DBX 231s พร้อมสายไฟ AC สำหรับใช้งาน ส่วนเรื่องอุปกรณ์อื่นๆ หรือของแถมเนี่ย ก็ขึ้นอยู่กับร้านค้าและโปรโมชั่นในช่วงนั้นๆ จ้า บางร้านอาจจะมีแถมสายสัญญาณเล็กๆ น้อยๆ มาให้ แต่ส่วนใหญ่ก็จะได้แค่ตัวเครื่องกับสายไฟนะ

เรื่องที่คนไทยให้ความสำคัญม๊ากมากกก คือ การรับประกัน ซึ่งสำหรับ DBX 231s ที่เป็นสินค้าของแท้ นำเข้าและจัดจำหน่ายโดยตัวแทนอย่างเป็นทางการในไทย ส่วนใหญ่จะมาพร้อมกับการ รับประกัน 1 ปี อันนี้สำคัญมากนะจ๊ะ! ควรซื้อจากร้านที่ระบุว่ามีประกันศูนย์ไทย หรือมีบัตรรับประกันจากตัวแทนจำหน่ายที่น่าเชื่อถือ เช่น บริษัท มหาจักรดีเวลอปเมนท์ จำกัด (Mahajak Development) ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้า Harman ในไทย เพราะถ้าเครื่องมีปัญหา จะได้ส่งซ่อมหรือเคลมได้สบายใจหายห่วง

ส่วนเรื่อง ค่าขนส่ง ถ้าสั่งออนไลน์จากร้านส่วนใหญ่ใน Lazada หรือ Shopee มักจะมีโปรโมชั่น ส่งฟรี เมื่อซื้อถึงยอดที่กำหนด หรือบางทีก็มีโค้ดส่วนลดค่าส่งให้เก็บ ก็ต้องลองเช็คดูกันดีๆ นะจ๊ะ

5. มีช่วงไหนน่าสอยเป็นพิเศษไหมนะ?

ถ้าอยากได้ DBX 231s ในราคาที่คุ้มค่าสุดๆ ช่วงเวลาทองของการช้อปปิ้งออนไลน์ในไทยก็หนีไม่พ้นช่วง Double Digit Sale หรือโปรโมชั่นเลขเบิ้ลๆ นั่นเองจ้า! ทั้ง 11.11, 12.12 หรือช่วงแคมเปญใหญ่ๆ ของ Lazada กับ Shopee เช่น Birthday Sale, Mid-Year Sale พวกนี้มักจะมีส่วนลดพิเศษ โค้ดส่วนลดจากแพลตฟอร์ม หรือโค้ดส่วนลดจากร้านค้ามาให้เพียบ บางทีลดราคาเครื่องลงมาแล้ว ยังมีโค้ดลดเพิ่มเข้าไปอีก ทำให้ได้ราคาที่ถูกลงไปอีกเยอะเลยนะ

นอกจากนี้ ช่วงเทศกาลสำคัญๆ ของไทยอย่าง สงกรานต์ หรือ ปีใหม่ บางร้านค้าเครื่องเสียงก็อาจจะมีโปรโมชั่นพิเศษออกมาด้วย ก็ต้องคอยติดตามข่าวสารจากร้านค้าที่เราสนใจไว้ให้ดี

ร้านค้าที่เป็น Official Store หรือร้านใหญ่ๆ บน Lazada/Shopee เนี่ย มักจะมีโปรโมชั่นลดราคาบ่อยกว่าร้านเล็กๆ อยู่แล้ว ยิ่งถ้าเป็นช่วงแคมเปญใหญ่ๆ ยิ่งจัดหนักจัดเต็ม! ดังนั้น ถ้าไม่ได้รีบใช้แบบพรุ่งนี้ต้องมี! การ รอซื้อช่วงโปรโมชั่น เป็นอะไรที่แนะนำมากๆ เลยจ้า รับรองว่าเซฟเงินในกระเป๋าไปได้อีกพอสมควรเลยแหละ

6. คนไทยใช้แล้วรู้สึกยังไงกันบ้าง?

จากการที่ลองไปด้อมๆ มองๆ ตามรีวิวหรือกระทู้ใน Pantip หรือกลุ่มเครื่องเสียงต่างๆ ในไทยเนี่ย เสียงตอบรับเกี่ยวกับ DBX 231s ส่วนใหญ่ก็เป็นไปในทิศทางที่ดีนะ จุดที่คนไทยชอบและพูดถึงบ่อยๆ เลยคือ:

• ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน: แม้จะเป็นมือใหม่ที่เพิ่งเคยจับ EQ ก็สามารถทำความเข้าใจและเริ่มใช้งานได้ไม่ยาก หน้าตาตรงไปตรงมา ตัวเลื่อนชัดเจน
• คุณภาพเสียงดี ไว้ใจได้: ชื่อแบรนด์ DBX ไม่ทำให้ผิดหวัง คุณภาพเสียงที่ได้อยู่ในเกณฑ์ดี สำหรับการใช้งานทั่วไปถึงกึ่งอาชีพ ถือว่าตอบโจทย์มากๆ
• ทนทาน แข็งแรง: อุปกรณ์โปรออดิโอจาก DBX ขึ้นชื่อเรื่องความอึด ถึก ทน อยู่แล้ว หลายคนที่ใช้งานมานานก็บอกว่ายังทำงานได้ดีไม่มีปัญหาจุกจิก
• จัดการเสียงหอนได้ดี: อันนี้เป็นฟังก์ชันหลักที่หลายคนซื้อไปใช้ แล้วก็บอกว่าช่วยแก้ปัญหาเสียงหอนในระบบ PA ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
• คุ้มค่ากับราคา: เมื่อเทียบกับราคาที่ไม่สูงมากนัก (เมื่อเทียบกับ EQ เกรดโปรอื่นๆ) แต่ได้คุณภาพและความน่าเชื่อถือระดับ DBX ทำให้หลายคนมองว่าคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปมากๆ

สรุปคือ คนไทยที่ใช้ DBX 231s ส่วนใหญ่จะพอใจกับ ประสิทธิภาพในการปรับแต่งเสียง, ความทนทาน และ ความคุ้มค่า ที่ได้รับนั่นเองจ้า

7. แล้วจะไปหาซื้อได้จากช่องทางไหนบ้าง?

สำหรับใครที่ตัดสินใจแล้วว่าจะสอยเจ้า DBX 231s มาไว้ในครอบครอง ช่องทางการซื้อหลักๆ ที่แนะนำในไทยก็มีตามนี้เลยจ้า:

• ร้านตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ: อันนี้ชัวร์สุด ได้ของแท้ มีประกันศูนย์แน่นอน ลองเช็คจากเว็บไซต์ของ บริษัท มหาจักรดีเวลอปเมนท์ จำกัด ซึ่งเป็นตัวแทนหลัก หรือสอบถามจากร้านเครื่องเสียงโปรออดิโอใหญ่ๆ ที่เป็นดีลเลอร์ของมหาจักรได้เลย
• แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซใหญ่: Lazada และ Shopee เป็นแหล่งที่สะดวกมากๆ มีร้านค้าให้เลือกเยอะ สามารถเปรียบเทียบราคา โปรโมชั่น และอ่านรีวิวจากผู้ซื้อคนอื่นๆ ได้ก่อนตัดสินใจซื้อ ข้อดีคือมีระบบการคุ้มครองผู้ซื้อ และมักจะมีโค้ดส่วนลดหรือโปรโมชั่นส่งฟรี แต่ข้อควรระวังคือต้องเลือกร้านที่น่าเชื่อถือ มีการรับประกันสินค้าที่ชัดเจน
• ร้านเครื่องเสียงโดยเฉพาะ (หน้าร้าน): ตามแหล่งรวมเครื่องเสียง อย่างบ้านหม้อในกรุงเทพฯ หรือร้านเครื่องเสียงใหญ่ๆ ในต่างจังหวัด ก็มีโอกาสเจอ DBX 231s วางขายนะ ข้อดีของการไปซื้อที่ร้านคือได้ เห็นของจริง ได้สอบถามข้อมูลกับคนขายโดยตรง และบางร้านอาจจะให้ลองทดสอบสินค้าก่อนได้ด้วย แต่ราคาอาจจะไม่ได้ถูกเท่าซื้อออนไลน์ในช่วงโปรโมชั่นเสมอไปนะจ๊ะ

ไม่ว่าจะเลือกซื้อช่องทางไหน อย่าลืม เช็คเรื่องการรับประกัน ให้ดีว่าเป็นของแท้ มีใบรับประกันจากตัวแทนในไทย เพื่อความสบายใจในระยะยาวนะจ๊ะ

8. สรุปแล้ว DBX 231s คุ้มไหม? เหมาะกับใคร?

ฟันธงไปเลยว่า DBX 231s Graphic Equalizer เนี่ย คุ้มค่ามากๆ สำหรับใครที่กำลังมองหา EQ คุณภาพดี เชื่อถือได้ ในงบประมาณที่สมเหตุสมผล

มันเหมาะสุดๆ สำหรับ:

• คนที่ต้องการ ปรับแต่งเสียง ในระบบ PA ขนาดเล็กถึงกลาง เช่น ร้านอาหาร, ร้านกาแฟ, ห้องประชุม, งานอีเวนต์เล็กๆ
• นักดนตรี หรือ ดีเจ ที่อยากได้ EQ ไปใช้ควบคุมเสียงในการแสดงสด
• คนที่ต้องการ แก้ปัญหาเสียงหอน ในระบบเสียงแบบเห็นผล
• คนที่ทำ โฮมสตูดิโอ แล้วต้องการ EQ สำหรับปรับบาลานซ์เสียงหรือแก้ไขปัญหาความถี่ในห้อง
• คนที่ต้องการอุปกรณ์จากแบรนด์ DBX ที่มีชื่อเสียงเรื่องคุณภาพและความทนทาน แต่ยังอยู่ในงบที่ไม่สูงจนเกินไป

ถ้าคุณไม่ได้ต้องการ EQ ดิจิทัลที่มีฟังก์ชันซับซ้อน ปรับผ่านคอมพิวเตอร์ได้ หรือมีฟังก์ชันพิเศษอื่นๆ ติดมาด้วย แต่เน้น EQ แบบอนาล็อกที่ปรับง่าย เสียงดี ทนทาน ไว้ใจได้ DBX 231s คือคำตอบเลยจ้า!

ส่วนจะขยับไปเล่นรุ่นที่สูงกว่าอย่าง DBX 1231 หรือ 2231 ดีไหม? รุ่นพวกนั้นอาจจะมีฟังก์ชันเสริมเข้ามา เช่น Limiter หรือ Noise Gate ในตัว ซึ่งก็สะดวกขึ้นไปอีก แต่ราคาก็จะสูงขึ้นตามไปด้วยนะ ถ้าแค่ต้องการ EQ อย่างเดียว 231s ก็เกินพอแล้วจ้า

หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจนะทุกคน! ขอให้ได้เครื่องเสียงที่ถูกใจ ได้เสียงที่ใช่ แล้วสนุกกับการสร้างสรรค์เสียงกันนะจ๊ะ!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• เสียงดี !! อีคิว dbx 231s พาชมอีคิวอนาล็อก 31แบน 2ชั้น
• การใช้อีคิว dbx231s แท้ และดูภายในเครื่อง #เครื่องเสียงบ้านๆ ...
• สินค้ามือสอง EQ dbx 231S & คอมเพรสเซอร์ dbx166XL สภาพสวยๆ ...
• จุดสังเกตและความแตกต่างระหว่าง EQ dbx 2231 แท้&ก็อป มาดูกัน ...
• EQ.dbxแท้มหาจักรสวยๆ.ใช้งานปกติเสียงดใสๆคับ #vาย4oooคับ ...