ราคา KFLRMF ล่าสุด กองทุนนี้คืออะไร? เช็คราคาซื้อขายได้จากแหล่งไหน?


สวัสดีค่าซิสสส! วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยเรื่องที่อาจจะฟังดูไกลตัว แต่จริงๆ ใกล้ตัวมากๆ แถมยังช่วยให้เราสบายตอนแก่ แถมยังลดหย่อนภาษีได้อีกด้วยนะแก! นั่นก็คือกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ หรือที่เค้าเรียกสั้นๆ ว่า RMF นั่นเองจ้าาา และกองทุนที่เราจะมาเจาะลึกให้ฟังวันนี้ก็คือ KFLRMF หรือชื่อเต็มๆ ว่า กองทุนเปิดเค หุ้นทุนบริพัตรเพื่อการเลี้ยงชีพ จากบ้าน KAsset นั่นเองงง! ใครที่กำลังมองหาที่พักเงินระยะยาว อยากมีเงินใช้ตอนเกษียณแบบไม่ลำบาก หรืออยากหาตัวช่วยลดหย่อนภาษี มาฟังทางนี้ด่วนๆ เลยจ้า
1. เจ้ากองทุน KFLRMF นี่มันคืออะไรกันนะ?
เอาล่ะ มาทำความรู้จักเจ้า KFLRMF กันก่อนเลยนะ มันคือกองทุนรวมประเภทหนึ่ง ที่จัดตั้งขึ้นมาเพื่อส่งเสริมให้คนไทยอย่างเราๆ ออมเงินไว้ใช้ยามเกษียณโดยเฉพาะ แถมยังมีสิทธิพิเศษสุดว้าว! คือ เอาเงินที่ลงทุนไปลดหย่อนภาษีได้ด้วยนะ คือได้ทั้งออม ได้ทั้งลดหย่อนภาษี ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวไปเลยจ้า
กองทุนนี้บริหารจัดการโดย บลจ.กสิกรไทย หรือ KAsset ซึ่งเป็นบริษัทจัดการกองทุนที่ใหญ่และน่าเชื่อถือมากๆ ในบ้านเรา เค้ามีทีมงานมืออาชีพคอยดูแลเงินลงทุนของเราให้งอกเงยนะ
ส่วนนโยบายของเจ้า KFLRMF เนี่ย เค้าเป็นกองทุนแบบ "ผสม" ในประเทศจ้า นั่นคือจะลงทุนทั้งใน หุ้นไทย และ ตราสารหนี้ ด้วย ไม่ได้ไปลงหุ้นอย่างเดียวโดดๆ เหมือนกองทุนหุ้นจ๋าๆ ทำให้ความเสี่ยงไม่ได้สูงปรี๊ดมากนัก อยู่ในระดับความเสี่ยงที่ 6 ซึ่งจัดว่าเป็นกองทุนที่มีความเสี่ยง ปานกลางค่อนข้างสูง หรือ Aggressive Allocation นั่นแหละ เหมาะสำหรับคนที่ยอมรับความผันผวนของตลาดหุ้นได้พอสมควร และมองหาผลตอบแทนที่สูงกว่าการฝากแบงก์แน่นอนจ้า ใครที่อยากเริ่มวางแผนเกษียณแบบจริงจัง แล้วรับความเสี่ยงได้ระดับหนึ่ง เจ้าตัวนี้ก็น่าสนใจนะ
2. ราคาล่าสุดเป็นยังไง? เช็คได้จากแหล่งไหนบ้าง?
มาถึงเรื่องที่หลายคนอยากรู้ที่สุด นั่นก็คือ "ราคา" หรือที่ในวงการกองทุนเค้าเรียกว่า "มูลค่าหน่วยลงทุน" (NAV: Net Asset Value) นั่นเองจ้า ราคาของกองทุนรวมเนี่ย จะไม่เหมือนราคาหุ้นที่วิ่งขึ้นลงตลอดเวลานะ แต่เค้าจะคำนวณมูลค่ากัน วันละหนึ่งครั้ง หลังตลาดปิดจ้า
สำหรับ KFLRMF ราคา ณ วันที่ 4 กรกฎาคม 2568 อยู่ที่ 62.342 บาท ต่อหน่วย ส่วนวันที่ 3 กรกฎาคม 2568 อยู่ที่ 62.3419 บาท ต่อหน่วย ราคาพวกนี้มีการเปลี่ยนแปลงทุกวัน ตามสภาวะตลาดและการลงทุนของกองทุนนะ
แล้วเราจะไปเช็คราคาได้จากที่ไหนบ้างล่ะ? ง่ายมากๆ เลยจ้า หลักๆ ก็จะมี:
- เว็บไซต์ของ บลจ.กสิกรไทย (KAsset) อันนี้คือแหล่งข้อมูลทางการโดยตรง เข้าไปปุ๊บ เจอราคาล่าสุดปั๊บเลย
- แอปพลิเคชันของธนาคารกสิกรไทย อย่าง K PLUS หรือ K-My Funds / K-Cyber ใครใช้แอปพวกนี้อยู่แล้วก็สะดวกมากๆ เปิดเช็คได้เลย
- เว็บไซต์และแอปพลิเคชันเกี่ยวกับกองทุนรวม เช่น Finnomena, WealthMagik, Investing.com, SiamChart เว็บไซต์พวกนี้เค้ารวมข้อมูลกองทุนไว้เพียบ เช็คได้หลายกองพร้อมกันเลยจ้า
- บริษัทหลักทรัพย์ (Broker) ที่เราเปิดพอร์ตลงทุนกองทุนรวมไว้ ก็สามารถเช็คผ่านแอปหรือเว็บไซต์ของโบรกเกอร์นั้นๆ ได้เหมือนกันนะ
สรุปคือ ช่องทางเช็คราคาเพียบจ้า อยากได้แบบทางการหน่อยก็ไป KAsset หรือ K PLUS อยากดูภาพรวม เปรียบเทียบเยอะๆ ก็ไปเว็บรวมข้อมูลกองทุนได้เลย!
3. แล้วเทียบกับกองทุนอื่นในตลาด ราคาเป็นไงบ้าง?
มาถึงเรื่องการเปรียบเทียบที่หลายคนชอบ! ถ้าจะเทียบ KFLRMF กับกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ตัวอื่นๆ ในตลาดเนี่ย ต้องบอกว่ามันมีหลายกอง หลายสไตล์มากๆ เลยนะ
KFLRMF เป็นกองทุน ผสม ที่เน้นลงทุนในไทย แต่ RMF อื่นๆ อาจจะไปเน้นลงทุนต่างประเทศจ๋าๆ เช่น หุ้นเทคโนโลยีทั่วโลก, หุ้นสหรัฐฯ หรือหุ้นจีน ซึ่งผลตอบแทนในช่วงที่ผ่านมาก็อาจจะแตกต่างกันไปมากๆ บางกองทุนที่เน้นเทคโนโลยีหรือต่างประเทศบางช่วงก็พุ่งแรงแซงทางโค้งไปเลยก็มีนะ แต่ความเสี่ยงก็อาจจะสูงกว่าด้วย
เมื่อเทียบกับกองทุนผสมในไทยด้วยกันเอง KFLRMF ก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่มีมานาน ผลการดำเนินงานในอดีตก็เป็นสิ่งที่นักลงทุนใช้พิจารณา แต่ต้องย้ำว่า ผลการดำเนินงานในอดีตไม่ได้รับประกันผลการดำเนินงานในอนาคตนะจ๊ะ ที่สำคัญคือต้องดูนโยบายการลงทุนให้ดี ว่าลงทุนในสินทรัพย์แบบไหน ความเสี่ยงแค่ไหน เหมาะกับเราหรือเปล่า
บางคนอาจจะเทียบค่าธรรมเนียมการจัดการด้วย ซึ่ง KFLRMF มีค่าธรรมเนียมการจัดการอยู่ที่ไม่เกิน 1.8725% ต่อปีของ NAV (บางแหล่งระบุ 1.87% และค่าใช้จ่ายรวมอาจถึง 2.03%) บางกองทุนประเภท Passive Fund หรือกองทุนที่ตามดัชนีเป๊ะๆ อาจจะมีค่าธรรมเนียมที่ต่ำกว่า แต่กองทุนแบบ KFLRMF ที่เป็น Active Fund หรือผู้จัดการกองทุนคอยปรับพอร์ตให้เนี่ย ค่าธรรมเนียมก็มักจะสูงกว่าเป็นเรื่องปกติ เพื่อเป็นค่าบริหารจัดการให้ได้ผลตอบแทนที่ดีนั่นแหละจ้า ก็ต้องชั่งใจดูว่าเราให้ความสำคัญกับอะไรมากกว่ากันนะ
4. ซื้อแล้วได้อะไรมาบ้าง (นอกจากหน่วยลงทุน)?
อันนี้ไม่ได้เหมือนซื้อของออนไลน์ที่มีกล่อง มีคู่มือ มีของแถมนะจ๊ะ การซื้อกองทุน KFLRMF เนี่ย เราจะได้ "หน่วยลงทุน" มาตามจำนวนเงินที่เราจ่ายไป โดยคิดจากราคา NAV ต่อหน่วยในวันที่เราทำรายการซื้อนั่นแหละ
ส่วนบริการที่รวมมาด้วยก็คือ การบริหารจัดการเงินของเราโดยผู้เชี่ยวชาญจาก KAsset เค้าก็จะคอยดูแล จัดการพอร์ตการลงทุนให้เราตามนโยบายของกองทุนนะ ไม่ต้องมานั่งเลือกหุ้นเอง เลือกตราสารหนี้เองให้ปวดหัว
สำหรับเรื่องค่าธรรมเนียม นอกเหนือจากมูลค่าหน่วยลงทุนที่เราซื้อแล้ว ก็จะมี ค่าธรรมเนียมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการกองทุน ซึ่งจะหักออกจากมูลค่าทรัพย์สินของกองทุนไปนะ หลักๆ ก็มีค่าธรรมเนียมการจัดการ (ที่เราคุยกันไปแล้ว) ค่าธรรมเนียมผู้ดูแลผลประโยชน์ และค่าธรรมเนียมนายทะเบียนหน่วยลงทุน แต่ ไม่มีค่าธรรมเนียมการซื้อ (Front-end Fee) และ ไม่มีค่าธรรมเนียมการขายคืน (Back-end Fee) จ้า อันนี้ก็ถือว่าดีเลยนะ
เรื่อง "ประกัน" แบบสินค้าทั่วไปไม่มีนะจ๊ะ การลงทุนมีความเสี่ยง เงินต้นไม่ได้รับคืนเต็มจำนวนเสมอไป แต่สิ่งที่พอจะเทียบเคียงได้คือการกำกับดูแลโดยสำนักงาน ก.ล.ต. ที่ช่วยให้การบริหารจัดการกองทุนเป็นไปตามกฎเกณฑ์ และมีความโปร่งใส
ส่วน "ของแถม" หรือ "โปรโมชั่น" เวลาซื้อกองทุน RMF เนี่ย ไม่ได้มีแบบซื้อสินค้าแล้วได้กระเป๋า ได้คูปองลดราคานะจ๊ะ แต่ของแถมที่สำคัญที่สุดคือ "สิทธิในการลดหย่อนภาษี" นี่แหละ ซึ่งมีเงื่อนไขตามที่สรรพากรกำหนดนะ ต้องลงทุนต่อเนื่องและถือหน่วยลงทุนไว้จนกว่าจะครบเงื่อนไขเกษียณอายุตามที่กำหนดไว้ในกฎหมาย
5. มีช่วงไหนน่าซื้อเป็นพิเศษมั้ย? (แอบส่องโปรโมชั่น)
อย่างที่บอกไปว่ากองทุน RMF ไม่ได้มีโปรโมชั่น 12.12 หรือสงกรานต์ลดราคาแบบสินค้าทั่วไปนะจ๊ะ แต่ช่วงที่คนนิยมซื้อกันมากๆ เลยก็คือ ช่วงปลายปี นั่นเอง! เพราะเราต้องซื้อและถือหน่วยลงทุนไว้ภายในปีนั้นๆ ถึงจะใช้สิทธิลดหย่อนภาษีสำหรับปีภาษีนั้นได้ ดังนั้น ช่วงเดือนตุลาคม พฤศจิกายน ธันวาคม เนี่ย ตลาด RMF จะคึกคักเป็นพิเศษเลยจ้า
แต่จริงๆ แล้ว การลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพเนี่ย เค้าเน้นการลงทุน ระยะยาว นะ เป้าหมายคือเงินใช้หลังเกษียณนู่นนนน ดังนั้น การจับจังหวะตลาด (Timing the market) เนี่ย ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย และอาจจะไม่ใช่สิ่งจำเป็นที่สุดสำหรับ RMF นะจ๊ะ ที่แนะนำมากกว่าคือการลงทุนแบบ สม่ำเสมอ (Dollar-Cost Averaging - DCA) หรือทยอยลงทุนเป็นประจำทุกเดือนไปเลย ไม่ว่าจะราคาหน่วยลงทุนจะขึ้นหรือลง วิธีนี้จะช่วยเฉลี่ยต้นทุนของเราในระยะยาวได้ดีกว่านะ ไม่ต้องมานั่งลุ้นว่าซื้อตอนนี้แพงไปไหม
ดังนั้น ถ้าถามว่าช่วงไหนน่าซื้อเป็นพิเศษ? ถ้าเพื่อลดหย่อนภาษีปีนี้ ก็ต้องรีบซื้อก่อนสิ้นปีจ้า แต่ถ้ามองระยะยาวแล้ว การเริ่มลงทุน "เร็วที่สุด" และ "สม่ำเสมอ" น่าจะเป็นกลยุทธ์ที่ดีที่สุดนะ ไม่ต้องรอเทศกาลไหนๆ เลย!
6. คนไทยที่ลงทุน KFLRMF เค้าว่าไงกันบ้าง?
จากการแอบส่องตามเว็บบอร์ดหรือชุมชนนักลงทุนในไทยเนี่ย (อย่างเช่น Pantip) เสียงตอบรับเกี่ยวกับ KFLRMF ก็มีหลากหลายนะจ๊ะ
หลายคนรู้จักและคุ้นเคยกับกองทุนนี้ เพราะเป็นกองทุน RMF ตัวหลักๆ ของ KAsset ที่มีมานาน บางคนก็อาจจะมีการเปรียบเทียบผลตอบแทนกับกองทุน RMF ตัวอื่นๆ ที่มีนโยบายคล้ายกัน หรือกองทุนที่เน้นต่างประเทศไปเลย
เรื่อง ค่าธรรมเนียม ก็เป็นอีกประเด็นที่นักลงทุนพูดถึงกันนะ ว่า 2% กว่าๆ ต่อปีเนี่ย สูงไปมั้ย เมื่อเทียบกับกองทุนประเภทเดียวกันของ บลจ. อื่น หรือกองทุนประเภท Passive Fund ซึ่งตรงนี้ก็ขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละคน ว่าผลตอบแทนที่ผู้จัดการกองทุนทำได้ คุ้มค่ากับค่าธรรมเนียมที่จ่ายไปหรือเปล่านะจ๊ะ
บางคนอาจจะเคยลงทุนในกองทุนนี้มานาน ก็อาจจะมีประสบการณ์ทั้งช่วงที่ผลตอบแทนดีมากๆ และช่วงที่อาจจะติดลบบ้าง เพราะกองทุนมีสัดส่วนลงทุนในหุ้นไทย ซึ่งก็มีความผันผวนตามตลาดนะ
โดยรวมแล้ว ฟีดแบ็กก็จะวนเวียนอยู่กับเรื่อง ผลการดำเนินงาน และ ค่าธรรมเนียม นี่แหละ ซึ่งเป็นเรื่องปกติของการประเมินกองทุนรวมนะจ๊ะ
7. อยากซื้อ KFLRMF ต้องไปที่ไหน?
ถ้าตัดสินใจแล้วว่ากองทุน KFLRMF นี่แหละใช่เลย! แล้วจะไปซื้อได้จากที่ไหนบ้างล่ะ? ง่ายนิดเดียวจ้า มีหลายช่องทางให้เลือกเลยนะ:
- ธนาคารกสิกรไทย อันนี้คือช่องทางหลักเลยจ้า เข้าไปที่สาขาธนาคาร หรือทำรายการผ่านแอปพลิเคชัน K PLUS หรือแพลตฟอร์มลงทุนของกสิกรไทยอย่าง K-My Funds / K-Cyber ได้เลย สะดวกมากๆ
- บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย (บลจ.กสิกรไทย) หรือ KAsset โดยตรง
- ผู้สนับสนุนการขายและรับซื้อคืนอื่นๆ ซึ่งก็คือบริษัทหลักทรัพย์ (Broker) หรือตัวแทนอื่นๆ ที่ได้รับอนุญาตให้ขายกองทุนของ KAsset ได้ เช่น แพลตฟอร์มรวมกองทุนอย่าง Finnomena หรือ WealthMagik พวกนี้เค้ารวมกองทุนจากหลายๆ บลจ. ไว้ในที่เดียว เปรียบเทียบง่าย ซื้อขายสะดวกผ่านแอปได้เลยจ้า
เลือกช่องทางที่เราสะดวกและคุ้นเคยได้เลยนะจ๊ะ สมัยนี้ซื้อขายกองทุนง่ายเหมือนช้อปปิ้งออนไลน์แล้ว แค่เข้าแอป เลือกกองทุน ใส่จำนวนเงิน แล้วกดคอนเฟิร์ม! (แต่ต้องมีบัญชีกองทุนก่อนนะจ๊ะ)
8. สรุปแล้ว KFLRMF น่าลงทุนไหม? เหมาะกับใคร?
มาถึงบทสรุปกันแล้วจ้า! ถามว่า KFLRMF ยังน่าลงทุนอยู่ไหม? ถ้าคุณเป็นคนที่กำลังมองหาเครื่องมือ ออมเงินระยะยาวไว้ใช้ตอนเกษียณ และต้องการ สิทธิลดหย่อนภาษี กองทุน RMF ถือว่าตอบโจทย์มากๆ นะ
ส่วนจะเลือก KFLRMF ดีไหม ก็ขึ้นอยู่กับ เป้าหมายการลงทุน และ ระดับความเสี่ยงที่รับได้ ของเราเองนะ
- ถ้าคุณรับความเสี่ยงได้ในระดับ ปานกลางค่อนข้างสูง (ระดับ 6) และชอบนโยบายที่ผสมผสานทั้งหุ้นและตราสารหนี้ในประเทศ
- ถ้าคุณคุ้นเคยหรือใช้บริการของธนาคารกสิกรไทยอยู่แล้ว และสะดวกในการซื้อขายผ่านช่องทางของเค้า
- ถ้าคุณมองหากองทุน RMF ที่มีประวัติการดำเนินงานมายาวนาน มีทีมผู้จัดการกองทุนมืออาชีพดูแล
KFLRMF ก็เป็นตัวเลือกที่น่าพิจารณาเลยจ้า! มันเหมาะกับคนที่อยากเริ่มต้นวางแผนเกษียณแบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่ต้องลงในหุ้นเสี่ยงสูงไปทั้งหมด แต่ก็ยังคาดหวังผลตอบแทนที่สูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝากเยอะๆ
แต่ถ้าคุณรับความเสี่ยงได้สูงกว่านี้มาก หรืออยากกระจายความเสี่ยงไปลงทุนต่างประเทศ หรืออยากได้กองทุนที่มีค่าธรรมเนียมที่ต่ำกว่า ก็อาจจะต้องลองเปรียบเทียบกับ RMF ตัวอื่นๆ ที่มีนโยบายแตกต่างกันไปนะ
จำไว้ว่าการลงทุนมีความเสี่ยงนะจ๊ะ ก่อนตัดสินใจลงทุนใน KFLRMF หรือกองทุนไหนๆ ก็ตาม ควรศึกษาข้อมูลในหนังสือชี้ชวนให้ละเอียดถี่ถ้วนก่อนทุกครั้ง ทำความเข้าใจนโยบาย ความเสี่ยง และค่าธรรมเนียมต่างๆ ให้ดี จะได้ลงทุนได้อย่างสบายใจและบรรลุเป้าหมายการเงินในระยะยาวจ้า! ขอให้ทุกคนโชคดีกับการลงทุนนะค้าาา!
แนะนำสำหรับคุณ
กล่องกระดาษใส่ของร้อน ราคาถูก ซื้อจากโรงงาน แพ็คละเท่าไหร่? ยี่ห้อไหนดี?
น้ำหอม Bvlgari Omnia ราคาเคาน์เตอร์ รุ่นไหนหอมติดทนสุด? ซื้อกลิ่นไหนดี?
Samsung UA75RU7100KXXT (ทีวี 75 นิ้ว) ราคาล่าสุด 2567 คุ้มกับขนาดจอใหญ่ไหม?
Samsung Galaxy A50 ราคาปัจจุบันปี 2567 (อัปเดตจากปี 2562) ยังน่าใช้อยู่ไหม?
ราคายาง Nitto 420S ขอบ 20 อัปเดตล่าสุด 2567 ใส่รถอะไรได้บ้าง? รีวิวครบ!
OPPO F1 ราคาล่าสุดปี 2567 (รุ่นเก่า) สเปคยังน่าใช้ไหม? ซื้อมือสองดีหรือเปล่า?