OnePlus 3T ราคาล่าสุด 2567 (รุ่นเก่า) ยังใช้งานดีอยู่ไหม? สเปคเป็นยังไง?

สวัสดีค้าบทุกคนนน! วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยถึงสมาร์ทโฟนรุ่นเก๋าในตำนานที่ชื่อว่า OnePlus 3T กัน เชื่อว่าหลายคนอาจจะเคยได้ยินชื่อ หรือบางคนอาจจะเคยเป็นเจ้าของมาก่อนด้วยซ้ำ! ในปี 2567 นี้เนี่ย เจ้า OnePlus 3T ที่เปิดตัวมาตั้งแต่ปลายปี 2559 (2016) เนี่ย ยังน่าใช้อยู่ไหม? สเปคเป็นยังไง? แล้วราคาในตลาดมือสองตอนนี้อยู่ที่เท่าไหร่? มาหาคำตอบไปด้วยกันแบบตรงไปตรงมา สไตล์คนกันเองจ้า

1. เจ้า OnePlus 3T นี่มันคือมือถืออะไรนะ?

ก่อนอื่นเลย มาทำความรู้จักกับ OnePlus 3T กันก่อน เจ้าตัวนี้เนี่ยจัดว่าเป็นอดีต "นักฆ่าเรือธง" (Flagship Killer) ที่เคยโด่งดังมากๆ ในยุคของมันเลยนะ ผลิตโดยแบรนด์ OnePlus ซึ่งเป็นบริษัทจากประเทศจีน ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2013 โดยคุณ Pete Lau และ Carl Pei เค้ามีปรัชญาที่ฟังแล้วคูลสุดๆ ว่า "Never Settle" หรือ "ไม่หยุดอยู่กับที่" คือจะทำมือถือสเปคแรงๆ ในราคาที่เข้าถึงง่าย เพื่อมาท้าชนกับแบรนด์ยักษ์ใหญ่ในตลาดนั่นเอง ส่วนเจ้า 3T เนี่ย มันคือรุ่นอัปเกรดของ OnePlus 3 ที่ออกมาในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน เพิ่มเติมสเปคให้แรงขึ้นไปอีก!

ตอนเปิดตัวเนี่ย มันคือมือถือระดับท็อปที่สเปคจัดเต็มสุดๆ ในยุคนั้น เหมาะสำหรับคนที่ชอบมือถือแรงๆ ลื่นๆ เล่นเกมดีๆ ถ่ายรูปสวยๆ ด้วยกล้องที่ดีกว่ามือถือทั่วไปในราคาที่ถูกกว่าเรือธงอื่นๆ ในตลาดเป็นเท่าตัวเลยล่ะ แต่ในปัจจุบันปี 2567 เนี่ย เจ้า 3T มันก็อายุเกือบ 8 ปีแล้วนะ ก็ต้องทำใจว่ามันกลายเป็นรุ่น "คุณปู่" ไปแล้ว แต่คำถามคือคุณปู่คนนี้ยังพอไหวอยู่ไหมในยุคนี้? เดี๋ยวเรามาดูกันต่อ!

2. ราคา OnePlus 3T ในตลาดไทย ปี 2567 อยู่ที่เท่าไหร่?

มาถึงเรื่องราคาที่หลายคนอยากรู้! ด้วยความที่ OnePlus 3T มันออกมานานมากแล้วเนี่ย บอกเลยว่าไม่มีขายเป็น "มือหนึ่ง" ตามหน้าร้านหรือช็อปใหญ่อย่าง JIB, Banana IT, Power Buy, Central, Big C, The Mall แล้วแน่นอนจ้า! ตอนนี้เราจะเจอเจ้า 3T ได้ในตลาด "มือสอง" เท่านั้นนะ ซึ่งราคาก็จะมีความหลากหลายมากๆ ขึ้นอยู่กับสภาพเครื่อง อุปกรณ์ที่ให้มาด้วย แล้วก็ความใจดีของผู้ขายแต่ละคนเลย

จากการลองไปส่องๆ ดูตามแหล่งซื้อขายออนไลน์ยอดฮิตในไทยอย่าง Lazada กับ Shopee เนี่ย ราคา OnePlus 3T มือสอง ในปี 2567 นี้ บอกเลยว่า "เบาหวิว" มากๆ จ้า อาจจะเจอตั้งแต่หลักร้อยบาท (อันนี้อาจจะเป็นเครื่องที่มีปัญหา หรือขายเป็นซาก) ไปจนถึงหลักพันบาทต้นๆ เลยนะ ราคาที่เจอส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วงประมาณ 1,000 - 3,000 บาท (฿) โดยประมาณนะ ขึ้นอยู่กับสภาพและความครบของอุปกรณ์ อย่างที่บอกคือต้องทำใจว่ามันคือมือถือเก่า ราคาก็เลยลงมาเยอะมากๆ

เวลาหาก็ลองใช้คีย์เวิร์ดว่า "OnePlus 3T มือสอง" ดูนะ หรือเข้าไปดูตามกลุ่มซื้อขายมือถือใน Facebook ก็เป็นอีกแหล่งที่น่าสนใจมากๆ เลยจ้า

3. แล้วถ้าเทียบราคากับมือถือรุ่นใหม่ๆ ตอนนี้ล่ะ?

ถ้าเอา OnePlus 3T มือสอง ที่ราคาประมาณ 1,000 - 3,000 บาท ไปเทียบกับมือถือ "มือหนึ่ง" ที่วางขายในตลาดไทยตอนนี้ในเรทราคาใกล้เคียงกันเนี่ย ก็ต้องบอกว่ามันอยู่ในกลุ่ม มือถือระดับเริ่มต้น หรือ Entry-level เลยนะ มือถือใหม่ๆ ในราคานี้สเปคอาจจะไม่ได้แรงมากนัก อาจจะได้จอที่ใหม่กว่า แบตเตอรี่ที่ยังไม่เสื่อม หรืออาจจะมีฟีเจอร์ใหม่ๆ บ้างเล็กน้อย

แต่ถ้ามองย้อนกลับไปในยุคที่ 3T เปิดตัว สเปคของมันถือว่า แรงกว่า มือถือใหม่ๆ ในเรทราคาเดียวกันตอนนี้เยอะเลยนะ ได้ชิป Snapdragon 821, RAM 6GB ซึ่งในยุคนั้นคือระดับท็อปเลย แต่ปัญหาคือความเก๋าของมันนี่แหละ ฮ่าๆ ซอฟต์แวร์ที่ไม่ได้อัปเดตแล้ว แบตเตอรี่ที่อาจจะเสื่อมตามกาลเวลา ความลื่นไหลในการใช้งานแอปใหม่ๆ อาจจะไม่เท่ามือถือใหม่แกะกล่อง

ดังนั้น การเปรียบเทียบมันก็ขึ้นอยู่กับว่าเราให้ค่ากับอะไร ถ้าเน้นสเปคดิบๆ แบบ "อดีตเทพ" ในราคาประหยัดสุดๆ 3T อาจจะน่าสนใจ แต่ถ้าเน้นมือถือที่ยังได้รับการดูแลจากผู้ผลิต ใช้งานแอปใหม่ๆ ได้ลื่นไหล มีประกัน และแบตเตอรี่ไม่เสื่อม มือถือใหม่ในเรทราคาเดียวกันอาจจะตอบโจทย์กว่าจ้า

4. ซื้อแล้วจะได้อะไรมาบ้าง? เรื่องประกันสำคัญนะ!

อันนี้แหละคือจุดที่ต้องย้ำเตือนมากๆ สำหรับการซื้อมือถือมือสอง โดยเฉพาะรุ่นเก่ามากๆ แบบ OnePlus 3T สิ่งที่คุณจะได้มามัน ไม่แน่นอน จ้า ขึ้นอยู่กับผู้ขายล้วนๆ สิ่งที่มักจะได้มาก็คือ:

• ตัวเครื่อง: แน่นอนว่าต้องได้ตัวเครื่องมา แต่สภาพเป็นยังไง อันนี้ต้องเช็คดีๆ นะ อาจจะมีรอยขีดข่วน บุบ แตก จอเบิร์น หรือปัญหาอื่นๆ แฝงอยู่
• อุปกรณ์ชาร์จ: บางคนอาจจะให้มาครบทั้งอแดปเตอร์ Dash Charge (ซึ่งเป็นจุดเด่นของ OnePlus ในยุคนั้น ชาร์จไวมาก) และสาย USB Type-C บางคนอาจจะให้มาแค่สาย หรือไม่ให้มาเลยก็มี อันนี้ต้องสอบถามให้ชัดเจนนะ เพราะอแดปเตอร์ Dash Charge ของแท้อาจจะหายากและมีราคาพอสมควร
• กล่อง/คู่มือ: โอกาสได้มาค่อนข้างน้อยแล้วจ้า แต่ถ้าได้มาก็ถือว่าโชคดีมากๆ
• อุปกรณ์เสริมอื่นๆ: พวกหูฟัง เคส (ซึ่งเคส 3T ตอนนี้หาซื้อยากมากนะ) อาจจะไม่ได้มาด้วยเลย หรือถ้ามี สภาพก็คงไม่ดีเท่าไหร่

ส่วนเรื่อง ประกัน บอกเลยว่า ไม่มีประกันศูนย์ แล้ว 100% จ้า! ด้วยอายุอานามขนาดนี้ ถ้าซื้อกับผู้ขายทั่วไป ก็คือซื้อขาด ไม่มีประกันใดๆ ทั้งสิ้น ถ้าเสียก็คือเสียเลยนะ ต้องเอาไปซ่อมเอง หรือไม่ก็ต้องทำใจ ส่วนถ้าซื้อจากร้านรับซื้อมือสองบางร้าน อาจจะมี ประกันร้าน ให้เล็กๆ น้อยๆ เช่น 7 วัน หรือ 1 เดือน ก็ต้องสอบถามเงื่อนไขดีๆ นะ เรื่องนี้คนไทยส่วนใหญ่ให้ความสำคัญมากๆ เพราะถ้าเครื่องมีปัญหาหลังซื้อมาแล้วไม่มีประกันนี่ปวดหัวเลยจ้า

เรื่อง ค่าจัดส่ง ถ้าซื้อออนไลน์ก็อาจจะมีค่าส่งนะ หรือบางทีผู้ขายอาจจะมีโปรโมชั่นส่งฟรีให้ ก็ต้องลองดูกันไปจ้า

5. มีช่วงไหนน่าซื้อเป็นพิเศษไหม?

ถ้าพูดถึงช่วงโปรโมชั่นลดราคาแบบจัดหนักจัดเต็มเหมือนตอนซื้อมือถือใหม่เนี่ย สำหรับ OnePlus 3T มือสอง มันอาจจะไม่ได้มีผลกระทบโดยตรงขนาดนั้นนะ คือมันไม่ได้มี "Official Store" ของ OnePlus ที่เอา 3T มาลดราคาในช่วงเทศกาลต่างๆ แล้วน่ะสิ

แต่! ผู้ขายรายย่อย หรือร้านมือสองที่ขายบนแพลตฟอร์มอย่าง Shopee หรือ Lazada เนี่ย บางทีเค้าอาจจะมีโปรโมชั่นของตัวเอง หรือใช้โค้ดส่วนลดของแพลตฟอร์มได้นะ เช่น โค้ดส่วนลดสำหรับสินค้ามือสอง หรือโค้ดส่งฟรีในช่วง 11.11, 12.12 หรือช่วง เทศกาลไทย อย่างสงกรานต์ ปีใหม่ อะไรแบบนี้ก็ได้ ก็ต้องหมั่นเข้าไปส่อง เข้าไปเช็คโปรโมชั่นในแอปบ่อยๆ อาจจะเจอดีลเด็ดๆ ก็ได้นะจ๊ะ

สรุปคือถึงแม้จะไม่มีโปรโมชั่นเฉพาะรุ่น แต่การซื้อในช่วงที่มีโค้ดส่วนลดของแพลตฟอร์ม หรือผู้ขายจัดโปรฯ เองก็ช่วยให้ประหยัดได้นิดหน่อยจ้า

6. คนไทยที่เคยใช้หรือยังใช้อยู่ รู้สึกยังไงบ้าง?

จากการรวบรวมฟีดแบ็กจากผู้ใช้ชาวไทยที่เคยสัมผัส OnePlus 3T (ส่วนใหญ่ก็คือรีวิวเก่าๆ ในช่วงที่มันยังฮิตๆ หรือความคิดเห็นจากคนที่ยังเก็บไว้ใช้อยู่) เนี่ย จุดที่คนไทยประทับใจในตัว 3T มักจะเป็นเรื่อง:

• ความแรง ลื่นไหล ในยุคของมัน: ตอนที่มันออกใหม่ๆ เนี่ย สเปค Snapdragon 821 + RAM 6GB นี่คือที่สุดแล้ว ทำให้ใช้งานต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วมากๆ
• ระบบปฏิบัติการ OxygenOS: หลายคนชอบความคลีน ความลื่น และความปรับแต่งได้ของ OxygenOS (เวอร์ชั่นเก่าๆ นะ) ที่เป็นจุดเด่นของ OnePlus
• Dash Charge: เทคโนโลยีชาร์จไวที่ในยุคนั้นคือว้าวมาก ชาร์จแป๊บเดียวแบตก็ขึ้นเยอะแล้ว ตอบโจทย์ชีวิตเร่งรีบของคนไทยได้ดี
• งานประกอบพรีเมียม: ตัวเครื่องเป็นอะลูมิเนียมให้ความรู้สึกแข็งแรง ทนทาน
• "คุ้มค่า" ในราคาตอนเปิดตัว: เทียบสเปคกับราคาตอนที่มันเป็นมือหนึ่ง ถือว่าคุ้มมากๆ ทำให้เข้าถึงมือถือสเปคสูงได้ง่ายขึ้น

แต่ในมุมของคนที่ยังใช้อยู่ หรือมองหามาใช้ในปัจจุบัน ปัญหาที่อาจจะเจอคือเรื่อง แบตเตอรี่ที่อาจจะเสื่อม ตามอายุ การอัปเดตซอฟต์แวร์ที่หยุดไปแล้ว ทำให้บางแอปใหม่ๆ อาจจะมีปัญหา หรือใช้งานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ และ การหาอะไหล่หรือเคสมาเปลี่ยนค่อนข้างยาก แล้ว

7. แล้วจะไปตามหาซื้อเจ้า 3T ได้ที่ไหนล่ะ?

ตามที่ได้เกริ่นไปหลายรอบแล้วว่า OnePlus 3T ในปี 2567 นี้ ต้องพึ่งพาตลาดมือสองเท่านั้นนะจ๊ะ ช่องทางหลักๆ ที่เป็นไปได้ก็คือ:

• แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซใหญ่ๆ: อันนี้สะดวกสุดๆ เพราะมีผู้ขายเยอะมากๆ ทั้งร้านมือสองและผู้ใช้ทั่วไปที่เอามาขายเอง ลองเข้าไปดูใน Shopee และ Lazada ได้เลย ข้อดีคือมีตัวเลือกให้เปรียบเทียบเยอะ มีระบบกลางช่วยเรื่องการจ่ายเงิน แต่ต้องดูรายละเอียด รูปภาพ และรีวิวจากผู้ซื้อคนอื่นๆ ให้ดีก่อนตัดสินใจนะ
• กลุ่มซื้อขายมือถือมือสองใน Facebook: เป็นอีกแหล่งที่คนนิยมกันมาก มักจะเจอผู้ขายโดยตรง ทำให้พูดคุยสอบถามรายละเอียดได้ง่าย บางทีก็ได้ราคาดีกว่า แต่ก็ต้องเพิ่มความระมัดระวังเรื่องมิจฉาชีพด้วยนะ ถ้าเป็นไปได้ แนะนำให้นัดเจอ เช็คของ และจ่ายเงินกับมือ เพื่อความปลอดภัยสูงสุดจ้า
• ร้านรับซื้อมือสองตามตู้มือถือ: อาจจะลองเดินดูตามร้านรับซื้อมือถือ หรือตามตู้ตามห้างสรรพสินค้าต่างๆ ดูนะ บางทีอาจจะมีหลุดมาบ้าง ข้อดีคือได้เห็นของจริง ลองจับ ลองเช็คสภาพก่อนซื้อ แต่ราคาก็อาจจะสูงกว่าซื้อออนไลน์เล็กน้อยจ้า

สำหรับช่องทาง Official ของ OnePlus ในไทย ตอนนี้เค้าโฟกัสที่รุ่นใหม่ๆ แล้วนะ รุ่นเก่าแบบนี้ต้องงมหาในตลาดมือสองอย่างเดียวเลย

8. สรุปแล้ว OnePlus 3T ยังน่าซื้อไหมในปี 2567 นี้? เหมาะกับใคร?

มาถึงบทสรุปสุดท้ายแล้ว! ถามว่า OnePlus 3T ยังน่าซื้ออยู่ไหมในปี 2567 นี้ในราคาตลาดมือสองปัจจุบัน? คำตอบคือ ขึ้นอยู่กับว่าคุณเป็นใคร และต้องการอะไร จ้า!

เจ้า 3T ยังน่าซื้อมากๆ ถ้าคุณเป็นคนที่:

• มีงบประมาณจำกัดสุดๆ: อยากได้สมาร์ทโฟนที่ใช้งานพื้นฐานได้ดี ในราคาไม่ถึงสองสามพันบาท
• ต้องการมือถือสำรอง: เอาไว้เป็นเครื่องสำรองเผื่อเครื่องหลักแบตหมด หรือเอาไว้ใช้เฉพาะบางแอป
• ชอบสะสมมือถือเก่า หรือมีความผูกพันกับรุ่นนี้: ซื้อเพราะความชอบส่วนตัว หรืออยากได้มาเก็บไว้เป็นที่ระลึก
• เป็นสายช่าง หรือชอบแกะ ซ่อม ประกอบเอง: เอามาลองหัดซ่อม หรือเปลี่ยนแบตเอง

ในราคาไม่กี่พันบาทเนี่ย คุณได้ฮาร์ดแวร์ที่เคยเป็นระดับท็อปนะ แค่ต้องยอมรับเรื่องซอฟต์แวร์ที่ไม่ได้อัปเดต และสภาพเครื่องกับแบตเตอรี่ที่เสื่อมไปตามอายุ

แต่ถ้าคุณกำลังมองหามือถือเครื่องหลัก ที่จะใช้งานไปอีกนานๆ อยากได้แบตเตอรี่ที่อึดๆ ได้รับการอัปเดตซอฟต์แวร์อย่างต่อเนื่อง ใช้งานแอปใหม่ๆ ได้ลื่นๆ ไม่ต้องกังวลเรื่องการซ่อม หรือการหาอะไหล่แล้วล่ะก็ แนะนำว่า ข้ามเจ้า 3T ไปก่อน แล้วไปดูมือถือระดับเริ่มต้นรุ่นใหม่ๆ ในงบใกล้เคียงกัน หรือเพิ่มงบอีกนิดหน่อยเพื่อซื้อมือถือใหม่ที่มีประกันจะดีกว่านะจ๊ะ

สรุปง่ายๆ คือ OnePlus 3T ในปี 2567 ไม่ใช่ตัวเลือกสำหรับทุกคน แต่ก็ยังมีความน่าสนใจในฐานะมือถือราคาถูกมากๆ สำหรับการใช้งานเบาๆ หรือเพื่อสะสมนะจ๊ะ เลือกให้เหมาะกับการใช้งานของตัวเอง แล้วคุณจะแฮปปี้ที่สุดจ้า!

หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้เพื่อนๆ ที่กำลังสงสัยเกี่ยวกับเจ้า OnePlus 3T ในปีนี้ ได้ข้อมูลไปประกอบการตัดสินใจนะค้าบ ขอให้ทุกคนได้มือถือที่ถูกใจกันถ้วนหน้าจ้า! บ๊ายบาย!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• 7 อันดับ มือถือรุ่นเก่าสเปคแรง.!! ลดราคา ถูกมากๆ ถูกจนน่าตกใจ ปี ...
• 5 อันดับ มือถือตกรุ่นที่น่าซื้อ.!! ลดราคา โหดมาก ระดับเรือธง ยังน่าใช้ ...
• รีวิว OnePlus 12 หลังใช้ 3 เดือน เรือธงราคา 22K มีอยู่จริง
• 5 อันดับ มือถือรุ่นใหม่น่าซื้อมาก.!! เดือน มิถุนายน 2567 สเปคแรง น่าใช้ ...
• 6 มือถือ นอกกระแส ปี 2024 จะมีรุ่นไหน ขายในไทยมั้ยนะ ...