ราคาทองคำแท่ง 1 กิโลกรัม ล่าสุดวันนี้ กราฟราคาขึ้นลง

สวัสดีจ้าชาวโลกทองคำทั้งหลาย! วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยเรื่องที่ฮิตตลอดกาล ไม่มีตกยุค อย่าง ราคาทองคำแท่ง 1 กิโลกรัม ที่เห็นกราฟแล้วบางทีก็ชวนใจหายใจคว่ำยิ่งกว่าดูละครหลังข่าวซะอีก! ใครที่กำลังเล็งๆ อยากสอยทองคำแท่งไซส์บิ๊กเบิ้มแบบ 1 กิโลกรัม หรือแค่สงสัยว่าราคามันเท่าไหร่กันนะ วันนี้เราจะมาเจาะลึกให้ฟังแบบฉบับเข้าใจง่าย สไตล์คนกันเองจ้า เตรียมตัวให้พร้อม แล้วไปส่องราคาทองคำกันเลย!

1. เจ้าทองคำแท่ง 1 กิโลกรัม นี่มันคืออะไรกันนะ?

เอาล่ะ เริ่มต้นกันที่ว่าเจ้า ทองคำแท่ง 1 กิโลกรัม นี่มันคืออะไร? พูดง่ายๆ มันก็คือทองคำบริสุทธิ์ที่นำมาหล่อเป็นแท่งๆ น้ำหนักเป๊ะๆ ที่ 1 กิโลกรัม (ประมาณ 65.6 บาททองคำไทย) นั่นเองจ้า ซึ่งความบริสุทธิ์ก็จะมีตั้งแต่ 96.5% (มาตรฐานในไทย) ไปจนถึง 99.99% (มาตรฐานสากล). เจ้าก้อนทองคำขนาดนี้เนี่ย ไม่ใช่ทองรูปพรรณที่เอามาใส่โชว์สวยๆ งามๆ นะจ๊ะ แต่มันคือการลงทุนแบบจริงจัง! เหมาะสำหรับคนที่อยากจะออมเงินในรูปแบบสินทรัพย์ที่มั่นคง ป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ หรือจะเอาไว้ส่งต่อเป็นมรดกให้ลูกหลานก็ยังได้. ไม่ใช่แค่คนไทยนะที่ชอบทองคำ ชาวต่างชาติเองก็นิยมลงทุนในทองคำเหมือนกัน เพราะทองคำเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าในตัวเองมาตั้งแต่สมัยโบราณกาลแล้วจ้า

2. ราคาในตลาดไทยตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?

มาถึงเรื่องที่ทุกคนใจจดใจจ่อ นั่นก็คือ "ราคา" นั่นเอง! สำหรับ ราคาทองคำแท่ง 1 กิโลกรัม เนี่ย ต้องบอกเลยว่าราคามันไม่ได้ฟิกซ์ตายตัวนะจ๊ะ มันขยับตัวขึ้นลงตลอดเวลา ตามกลไกตลาดโลก ค่าเงินบาท และปัจจัยอื่นๆ อีกมากมาย. ราคาทองคำในประเทศไทยจะอิงตามประกาศของ สมาคมค้าทองคำ ซึ่งจะมีการประกาศราคาใหม่หลายครั้งต่อวันเลยทีเดียว.

ณ เวลานี้ (อัปเดตวันที่ 8 กรกฎาคม 2568) ราคาทองคำแท่ง 96.5% (มาตรฐานไทย) รับซื้อจะอยู่ที่ประมาณ 51,200 บาทต่อบาททองคำ และขายออกจะอยู่ที่ประมาณ 51,300 บาทต่อบาททองคำ. ทีนี้ถ้าเป็นทองคำแท่ง 1 กิโลกรัม ซึ่งเท่ากับ 65.6 บาททองคำ ก็เอาไปคูณกันได้เลยจ้า!

ลองคิดดูนะ ถ้าซื้อทองคำแท่ง 96.5% น้ำหนัก 1 กิโลกรัม ราคาขายออกบาทละ 51,300 บาท ก็จะต้องใช้เงินประมาณ 51,300 x 65.6 = ประมาณ 3,365,280 บาท โอ้โห! ตัวเลขมันก็จะอลังการประมาณนี้แหละจ้า

ส่วนทองคำแท่งความบริสุทธิ์ 99.99% (มาตรฐานสากล) ราคาต่อกิโลกรัมก็จะแตกต่างออกไปอีกนะ ต้องเช็คกับร้านทองใหญ่ๆ โดยตรง เพราะราคามักจะอิงตาม Gold Spot ในตลาดโลกและค่าเงินบาท.

สำคัญสุดๆ คือราคามีทั้งราคา "รับซื้อ" และ "ขายออก" ตอนเราไปซื้อ ร้านทองจะขายให้เราตามราคา "ขายออก" และตอนเราเอาไปขาย ร้านทองจะรับซื้อคืนตามราคา "รับซื้อ" ซึ่งแน่นอนว่าราคารับซื้อจะต่ำกว่าราคาขายออกเสมอจ้า ส่วนต่างนี้แหละที่เรียกว่า "ส่วนต่างระหว่างราคาซื้อกับราคาขาย" หรือ Bid-Ask Spread นั่นเอง

3. แล้วเทียบกับทองรูปพรรณล่ะ ราคาต่างกันแค่ไหน?

ถ้าเอา ทองคำแท่ง 1 กิโลกรัม ไปเทียบกับทองรูปพรรณในน้ำหนักที่เท่ากัน (65.6 บาททองคำ) เนี่ย จะเห็นความแตกต่างของราคาค่อนข้างชัดเจนเลยนะ. โดยปกติแล้ว ราคาทองรูปพรรณจะแพงกว่าราคาทองคำแท่งเสมอ เพราะทองรูปพรรณมี "ค่ากำเหน็จ" หรือค่าแรงในการแปรรูปทองคำให้เป็นสร้อย แหวน กำไล หรือลวดลายต่างๆ นั่นเองจ้า ยิ่งลวดลายซับซ้อน ค่ากำเหน็จก็จะยิ่งแพง.

ดังนั้น ถ้าเน้นลงทุน ซื้อแล้วหวังส่วนต่างราคาในอนาคต ทองคำแท่งคุ้มค่ากว่า เพราะไม่มีค่ากำเหน็จ หรือถ้ามีก็น้อยมากๆ เมื่อเทียบกับทองรูปพรรณ. แต่ถ้าอยากได้ทองมาใส่สวยๆ ออกงาน หรือซื้อเป็นของขวัญ ก็ต้องทองรูปพรรณนี่แหละจ้า!

4. ซื้อทองคำแท่ง 1 กิโลกรัม แล้วได้อะไรมาบ้าง?

เวลาเราไปซื้อ ทองคำแท่ง 1 กิโลกรัม สิ่งที่เราจะได้มาหลักๆ ก็คือ... แน่นอนว่าต้องเป็น ตัวทองคำแท่ง นั่นแหละจ้า! ซึ่งทองคำแท่งที่ได้มาตรฐานมักจะมีตราประทับของบริษัทผู้ผลิต หรือสมาคมค้าทองคำ เพื่อรับรองความบริสุทธิ์และน้ำหนัก. นอกจากนี้ เราก็จะได้ ใบเสร็จรับเงิน หรือ ใบยืนยันการซื้อขาย ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญมากๆ อย่าทำหายเชียวล่ะ!

สำหรับทองคำแท่งไซส์ 1 กิโลกรัมเนี่ย เขาไม่ค่อยมีของแถมเป็นถุงผ้าหรือกล่องสวยงามแบบทองรูปพรรณนะจ๊ะ เพราะเน้นที่ตัวทองคำเพื่อการลงทุนเป็นหลัก. ส่วนเรื่อง การรับประกัน ทองคำแท่งที่ซื้อจากร้านทองที่ได้มาตรฐานก็จะมีการรับประกันเรื่องความบริสุทธิ์และน้ำหนักตามที่ระบุไว้ แต่ไม่ได้มีการรับประกันความเสียหายจากการใช้งานเหมือนพวกเครื่องใช้ไฟฟ้าเนอะ!

เรื่อง ค่าขนส่ง นี่แทบจะไม่มีเลยนะจ๊ะ เพราะการซื้อขายทองคำแท่งปริมาณเยอะๆ แบบนี้ ส่วนใหญ่ผู้ซื้อจะต้องไปรับทองที่ร้านเอง หรืออาจจะต้องมีการจัดการเรื่องการขนส่งที่มีความปลอดภัยสูงมากๆ ซึ่งก็จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมต่างหาก ไม่ใช่แบบส่งฟรีถึงบ้านเหมือนช้อปปิ้งออนไลน์ทั่วไปเด้อ!

5. มีช่วงไหนน่าซื้อทองเป็นพิเศษมั้ย?

อันนี้แหละเป็นคำถามยอดฮิตเลยว่า ซื้อทองช่วงไหนดี? บอกเลยว่าการลงทุนในทองคำเนี่ย ไม่ได้มีโปรโมชั่น 12.12 หรือลดราคาช่วงสงกรานต์เหมือนสินค้าอื่นๆ ทั่วไปนะจ๊ะ! ราคาทองคำขึ้นอยู่กับปัจจัยทางเศรษฐกิจมหภาคล้วนๆ ทั้งอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ค่าเงินบาท สถานการณ์การเมืองระหว่างประเทศ หรือแม้กระทั่งความต้องการทองคำในตลาดโลก.

ดังนั้น การจะตัดสินใจซื้อทองคำแท่ง ควรดูที่ แนวโน้มราคาทองคำ เป็นหลัก. ถ้าช่วงไหนที่ราคาทองคำปรับตัวลงมาเยอะๆ อาจจะเป็นโอกาสในการเข้าซื้อสะสม แต่ถ้าช่วงไหนราคาพุ่งแรงมากๆ ก็ต้องระวัง อาจจะไม่ใช่ช่วงเวลาที่ดีในการซื้อก็ได้นะจ๊ะ

ร้านทองใหญ่ๆ ก็อาจจะมีโปรโมชั่นเล็กๆ น้อยๆ เช่น ฟรีค่าบล็อกสำหรับการซื้อทองคำแท่งน้ำหนักเยอะๆ หรือโปรแกรมออมทองที่ช่วยให้เราทยอยซื้อทองได้ในราคาเฉลี่ย. แต่โปรโมชั่นพวกนี้ก็ไม่ได้มีตลอด ต้องคอยติดตามข่าวสารจากร้านทองโดยตรงจ้า

6. คนไทยที่ซื้อทองคำแท่งเขารู้สึกยังไงกันบ้างนะ?

เท่าที่ส่องๆ ดูความคิดเห็นของคนไทยที่ลงทุนในทองคำ โดยเฉพาะทองคำแท่งเนี่ย ส่วนใหญ่จะมองว่าทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ มั่นคง ปลอดภัย ไว้ใจได้ในยามที่เศรษฐกิจผันผวน. การได้ถือ ทองคำแท่งจริงๆ ไว้ในมือมันให้ความรู้สึกอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูกเลยนะ! บางคนซื้อเก็บไว้เป็นมรดกให้ลูกหลาน บางคนซื้อไว้เผื่อฉุกเฉิน หรือบางคนก็ซื้อขายทำกำไรตามรอบราคาที่ปรับขึ้นลง.

สิ่งที่คนไทยให้ความสำคัญในการซื้อขายทองคำแท่งก็คือ ความน่าเชื่อถือของร้านทอง ต้องเป็นร้านที่เชื่อถือได้ มีชื่อเสียง อยู่ในสมาคมค้าทองคำ มีมาตรฐานในการตรวจสอบความบริสุทธิ์และน้ำหนัก. เพราะทองคำมูลค่าสูงลิ่ว ถ้าพลาดไปนี่เรื่องใหญ่เลยจ้า

บางคนก็ชอบดู กราฟราคาทองคำ ย้อนหลัง เพื่อวิเคราะห์แนวโน้ม และตัดสินใจว่าจะซื้อหรือขายตอนไหน ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติของการลงทุนแหละนะ

7. แล้วจะไปหาซื้อทองคำแท่ง 1 กิโลกรัม ได้ที่ไหนล่ะทีนี้?

การซื้อ ทองคำแท่ง 1 กิโลกรัม ไม่เหมือนการช้อปปิ้งออนไลน์ทั่วๆ ไปใน Lazada หรือ Shopee นะจ๊ะ เพราะนี่คือสินทรัพย์มูลค่าสูงมากๆ. ช่องทางหลักๆ ที่น่าเชื่อถือในการซื้อทองคำแท่งในประเทศไทย ได้แก่:

• ร้านทองขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียง: เช่น ฮั่วเซ่งเฮง, ออโรร่า, แม่ทองสุก หรือร้านทองอื่นๆ ที่เป็นสมาชิกของสมาคมค้าทองคำ. ร้านเหล่านี้มีมาตรฐาน มีการรับรองความบริสุทธิ์ และมีระบบการซื้อขายที่ชัดเจน สามารถเข้าไปสอบถาม ดูทองคำจริง หรือซื้อขายได้ที่หน้าร้าน
• บริษัทผู้ค้าทองคำ: บางบริษัทที่เชี่ยวชาญด้านการซื้อขายทองคำโดยเฉพาะ ก็มีบริการซื้อขายทองคำแท่งปริมาณมาก รวมถึงมีบริการซื้อขายทองคำออนไลน์แบบ Real-Time ด้วย.
• ธนาคารบางแห่ง: บางธนาคารก็มีบริการรับซื้อขายทองคำแท่งให้กับลูกค้าด้วยเช่นกัน แต่ต้องตรวจสอบเงื่อนไขและราคากับทางธนาคารโดยตรง

การซื้อผ่านช่องทางเหล่านี้มั่นใจได้ในเรื่องคุณภาพทองคำและความปลอดภัยในการทำธุรกรรมนะจ๊ะ หลีกเลี่ยงการซื้อขายกับแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ เพราะอาจมีความเสี่ยงได้จ้า

8. สรุปแล้วน่าซื้อไหม? เหมาะกับใคร?

มาถึงบทสรุปกันแล้ว! ถามว่า ทองคำแท่ง 1 กิโลกรัม น่าซื้อไหม? ถ้ามองในแง่ของการลงทุนระยะยาว หรือต้องการสินทรัพย์ที่ช่วยกระจายความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุน ทองคำแท่งก็น่าสนใจมากๆ เลยจ้า โดยเฉพาะไซส์ 1 กิโลกรัม ที่มีส่วนต่างระหว่างราคาซื้อขายต่อหน่วยน้ำหนักน้อยกว่าทองคำแท่งขนาดเล็กกว่า หรือทองรูปพรรณ.

แต่! เจ้าทองคำแท่ง 1 กิโลกรัม เนี่ย ไม่เหมาะกับทุกคนนะจ๊ะ มันเหมาะกับ:

• นักลงทุนที่มีเงินทุนสูง: เพราะราคามันหลักล้านบาทเลยนะจ๊ะ
• คนที่ต้องการออมเงินในสินทรัพย์ที่มั่นคง: ซื้อเก็บระยะยาว ไม่ได้กะเก็งกำไรรายวัน
• คนที่รับความเสี่ยงเรื่องราคาผันผวนได้: ราคาทองคำมีขึ้นมีลง ถ้าใจไม่แข็งพอเห็นกราฟแดงอาจมีเครียดได้
• คนที่มั่นใจในเรื่องการจัดเก็บรักษา: ต้องมีที่ปลอดภัยในการเก็บทองคำมูลค่าสูงๆ นะจ๊ะ จะเก็บไว้ที่บ้านหรือใช้บริการตู้นิรภัยของร้านทอง/ธนาคารก็แล้วแต่สะดวก

ถ้าเพิ่งเริ่มต้นลงทุนในทองคำ หรือมีงบไม่เยอะ อาจจะเริ่มจากทองคำแท่งขนาดเล็กกว่านี้ เช่น 1 บาท หรือ 5 บาททองคำก่อนก็ได้ หรือจะลองดูโปรแกรมออมทองที่ให้ทยอยซื้อสะสมไปเรื่อยๆ ก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจนะจ๊ะ.

หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ทุกคนเข้าใจเรื่อง ราคาทองคำแท่ง 1 กิโลกรัม และเห็นภาพรวมของตลาดทองคำในไทยมากขึ้นนะจ๊ะ ขอให้ทุกคนลงทุนอย่างชาญฉลาด ร่ำรวยเงินทองกันถ้วนหน้าจ้า! บ๊ายบายยย!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• แนวโน้มราคาทองคำประจำวันที่ 1 กรกฏาคม 2568
• ราคาทองวันนี้ l สรุปข่าวทองคำประจำสัปดาห์ l InterGold Weekly ...
• แนวโน้มราคาทองคำประจำวันที่ 4 กรกฏาคม 2568
• "ทองคำ" ขึ้นเร็วและแรง ต้องรีบขายก่อนร่วงแรงหรือไม่ ?
• ทองคำแท่ง 1 กิโลกรัม เท่ากับกี่่บาททอง#ราคาทองวันนี้บาทละ ...