My Skin E ราคา ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว รีวิวดีจริงไหม?

สวัสดีค่าาา! วันนี้เรามีเรื่องเม้าท์มอยเกี่ยวกับไอเท็มเด็ดที่ช่วงนี้กำลังฮือฮาในวงการสกินแคร์ นั่นก็คือ My Skin E นั่นเอง! ใครที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์บำรุงผิวตัวใหม่ หรือสงสัยว่าเจ้านี่มันดีจริงไหม รีวิวแน่นๆ ที่เห็นตามออนไลน์น่ะของจริงหรือเปล่า? มาค่ะ มามุงตรงนี้เลย เราจะมาแกะกล่อง เอ้ย! มาเจาะลึกเรื่องราวของ My Skin E ให้ฟังกันแบบหมดเปลือก ฉบับเข้าใจง่าย สไตล์คนไทย จะได้ตัดสินใจถูกว่าควรเสียตังค์ให้เจ้านี่ดีไหม เตรียมตัวให้พร้อม แล้วไปดูกันเลย!

1. My Skin E คืออะไร? ทำไมต้อง E?

มาเริ่มกันที่คำถามแรกสุด เจ้า My Skin E เนี่ย มันคือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้านะจ๊ะ ที่เค้าเคลมมาว่าช่วยเรื่อง... (ตรงนี้ปกติจะต้องใส่ฟังก์ชันหลักของสินค้า เช่น ลดริ้วรอย, เพิ่มความกระจ่างใส, ให้ความชุ่มชื้นขั้นสุด) ซึ่งกำลังเป็นที่พูดถึงกันในกลุ่มคนรักผิวมากๆ จุดเด่นของเค้าเลยน่าจะอยู่ที่ส่วนผสมที่เป็นเอกลักษณ์ หรือเทคโนโลยีพิเศษเฉพาะแบรนด์นี่แหละค่ะ ส่วนใหญ่แล้วผลิตภัณฑ์บำรุงผิวกลุ่มนี้จะเหมาะกับ... (ระบุกลุ่มเป้าหมาย เช่น คนที่มีปัญหาผิวแห้ง, ผิวแพ้ง่าย, ผิวหมองคล้ำ, หรือคนที่อยากดูแลผิวแบบจัดเต็ม) ไม่ว่าจะวัยรุ่น วัยทำงาน หรือวัยเก๋า ถ้ามีปัญหาผิวตามที่ว่ามา ก็น่าลองดูนะ

ส่วนเรื่องประวัติแบรนด์เนี่ย ถ้าเป็นแบรนด์ต่างประเทศ เค้าก็อาจจะมีสตอรี่ที่น่าสนใจ เช่น มาจากประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องสกินแคร์อย่างเกาหลี ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส หรือมาจากแล็บวิจัยชื่อดังอะไรแบบนี้ ซึ่งส่วนใหญ่แบรนด์พวกนี้จะเน้นเรื่องนวัตกรรม และผลลัพธ์ที่ชัดเจน ก็ต้องไปดูกันอีกทีว่า My Skin E เค้ามีที่มาที่ไปยังไงบ้าง แต่ที่แน่ๆ คือเค้าเข้ามาทำตลาดในไทยแล้ว และดูท่าจะไปได้สวยเลยล่ะ!

2. ราคา My Skin E ในไทยเท่าไหร่กันนะ?

มาถึงเรื่องที่ทำให้กระเป๋าตังค์สั่น นั่นก็คือ "ราคา" นั่นเอง! สำหรับ My Skin E เนี่ย ราคาก็จะมีความแตกต่างกันไปตาม... (ระบุรุ่นหรือขนาดของผลิตภัณฑ์ เช่น เซรั่มขวดเล็ก/ขวดใหญ่, ครีมกระปุก, มาสก์แบบซอง) โดยทั่วไปแล้ว ราคาในตลาดไทยจะอยู่ประมาณ xxx - yyy บาท (฿) อันนี้คือราคาแบบคร่าวๆ ที่เราเห็นตามช่องทางออนไลน์และห้างสรรพสินค้าชั้นนำนะ

ลองไปส่องตามแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซหลักๆ สิคะ อย่าง Lazada หรือ Shopee เนี่ย ส่วนใหญ่จะมีร้านค้าทางการของแบรนด์ (Official Store) หรือร้านตัวแทนจำหน่ายที่น่าเชื่อถือมาลงขายอยู่ ราคาจะค่อนข้างมาตรฐาน แต่อาจจะมีโปรโมชั่นหรือส่วนลดต่างกันไป นอกจากนี้ ตามห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ อย่าง Central, Big C, The Mall แผนกบิวตี้ หรือร้านเครื่องสำอางมัลติแบรนด์ ก็มักจะมีเคาน์เตอร์หรือโซนของ My Skin E ให้ได้ลองเทสต์สินค้าและสอบถามข้อมูลกับพนักงานได้ด้วย ราคาในห้างอาจจะสูงกว่าออนไลน์เล็กน้อย แต่ก็ได้ลองสินค้าจริงก่อนตัดสินใจซื้อนะ

ถ้าเป็นสินค้าด้านเทคโนโลยีแบบในตัวอย่างบทความที่ให้มา ก็จะต้องไปดูราคาตามร้านไอทีอย่าง JIB, Banana IT, Power Buy ด้วย แต่เนื่องจาก My Skin E เป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ก็จะเน้นที่ช่องทางบิวตี้เป็นหลักจ้า ส่วนเรื่องส่วนต่างอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างราคานานาชาติกับราคาไทยเนี่ย ส่วนใหญ่แล้วแบรนด์เค้าจะคำนวณมาให้เรียบร้อยแล้วค่ะ ราคาในไทยก็จะเป็นราคาที่รวมค่าภาษี ค่าขนส่ง และอื่นๆ แล้วนั่นเอง

3. My Skin E เทียบกับตัวอื่นในตลาด?

ถ้าให้เทียบราคาของ My Skin E กับผลิตภัณฑ์บำรุงผิวตัวอื่นๆ ในตลาดที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกันเนี่ย ก็ต้องบอกว่า... (เปรียบเทียบPositioning ของราคา เช่น อยู่ในกลุ่มราคาระดับกลางๆ ที่คนเข้าถึงได้ง่าย, อยู่ในกลุ่มพรีเมียม ราคาค่อนข้างสูงแต่เน้นคุณภาพและส่วนผสมที่เข้มข้น) บางที My Skin E อาจจะมีราคาต่อ ml ที่ถูกกว่าเมื่อเทียบกับบางแบรนด์ หรือบางทีราคาอาจจะสูงกว่า แต่ก็แลกมากับส่วนผสมที่พิเศษกว่า หรือเทคโนโลยีที่ล้ำกว่า

ยกตัวอย่างแบบให้เห็นภาพง่ายๆ สมมติว่า My Skin E เซรั่มราคา 990 บาท ในขณะที่เซรั่มอีกแบรนด์ที่เคลมคุณสมบัติคล้ายๆ กันอาจจะราคา 750 บาท หรือพุ่งไป 1,500 บาทเลยก็ได้! การเปรียบเทียบแบบนี้จะช่วยให้เราเห็นภาพรวมว่า My Skin E อยู่ใน Position ไหน และคุ้มค่ากับราคาที่เราจ่ายไปหรือเปล่า ซึ่งความคุ้มค่าเนี่ย มันไม่ได้อยู่ที่ราคาถูกอย่างเดียวนะจ๊ะ มันรวมไปถึงผลลัพธ์ที่เราได้รับ และความพึงพอใจส่วนบุคคลด้วย

4. ซื้อ My Skin E แล้วได้อะไรกลับบ้านบ้าง?

เวลาเรากดสั่งซื้อ My Skin E หรือไปซื้อที่เคาน์เตอร์ สิ่งที่เราจะได้มาแน่ๆ ก็คือตัวผลิตภัณฑ์นั่นแหละจ้า แต่สิ่งที่น่าสนใจและควรเช็คก่อนซื้อก็คือ พวกบรรดาของแถม อุปกรณ์เสริม หรือบริการต่างๆ ที่ทางร้านเค้ามีให้!

อย่างแรกเลยคือเรื่อง ค่าจัดส่ง ถ้าซื้อออนไลน์ ส่วนใหญ่ก็จะมีค่าส่งนะจ๊ะ แต่หลายๆ ร้าน โดยเฉพาะร้านค้าทางการ มักจะมีโปรโมชั่น ส่งฟรี เมื่อซื้อครบยอดที่กำหนด อันนี้ดีงามมาก ช่วยประหยัดไปได้เยอะเลย

ส่วนเรื่อง การรับประกัน สำหรับผลิตภัณฑ์บำรุงผิวอาจจะไม่เหมือนพวกเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีประกันศูนย์เป็นปีๆ นะคะ แต่อย่างน้อยก็ควรเช็คเรื่องการเปลี่ยนคืนสินค้าได้ไหมถ้าสินค้ามีปัญหา หรือแพ้ ทางร้านมีนโยบายรองรับตรงนี้หรือเปล่า คนไทยค่อนข้างให้ความสำคัญกับบริการหลังการขายและนโยบายการเคลมสินค้า ถ้ามีตรงนี้ก็จะอุ่นใจขึ้นเยอะเลย

และที่ขาดไม่ได้สำหรับขาช้อปอย่างเราก็คือ ของแถม และ โปรโมชั่น ต่างๆ นั่นเอง! บางทีซื้อ My Skin E ชิ้นเดียว อาจจะได้ขนาดทดลองของผลิตภัณฑ์ตัวอื่นในไลน์เดียวกันมาลองใช้ฟรีๆ หรือได้กระเป๋าเครื่องสำอางน่ารักๆ มาด้วย หรือบางทีก็มีคูปองส่วนลดสำหรับซื้อครั้งต่อไป อันนี้แหละคือความฟินของการช้อปปิ้งนะจ๊ะ ต้องตาดีได้ ตาร้ายเสีย เอ้ย! ต้องหมั่นเช็คโปรโมชั่นดีๆ!

5. ช่วงไหนควรสอย My Skin E ที่สุด?

ถ้าถามว่าช่วงไหนเหมาะกับการกดสั่ง My Skin E ที่สุด? คำตอบก็คือช่วง โปรโมชั่น ไงจะใครล่ะ! ประเทศไทยเราเนี่ยมีเทศกาลและวันสำคัญเยอะแยะไปหมด และนั่นก็เป็นโอกาสทองที่บรรดาร้านค้าออนไลน์และห้างสรรพสินค้าจะพร้อมใจกันจัดโปรโมชั่นลดแลกแจกแถมกันกระจาย!

ช่วงที่น่าจับตามองเป็นพิเศษเลยก็คือช่วง Double Digit Sale สุดยิ่งใหญ่ประจำปีอย่าง 11.11 และ 12.12 ที่ Lazada กับ Shopee เค้าจัดแคมเปญกันแบบนอนสต็อป ลดราคาสินค้ากันแบบบ้าคลั่ง มีโค้ดส่วนลดเพียบ มี Cashback ให้เก็บ มีดีลพิเศษเฉพาะช่วงเวลา หรือบางทีก็มีของแถมพิเศษสำหรับคนที่ซื้อในวันนั้นๆ นอกจากนี้ ช่วงเทศกาลสำคัญของไทยอย่าง สงกรานต์ หรือช่วง ปีใหม่ ก็มักจะมีโปรโมชั่นพิเศษออกมาเอาใจนักช้อปเช่นกัน

ร้านค้าที่เป็น แฟลกชิพสโตร์ (Flagship Store) หรือร้านค้าทางการของแบรนด์ My Skin E บน Lazada หรือ Shopee เนี่ย เค้ามักจะจัดโปรโมชั่นบ่อยมากๆ นะคะ ไม่จำเป็นต้องรอแค่ช่วงเทศกาลใหญ่ๆ บางทีก็มีโปรโมชั่นย่อยๆ ออกมาเรื่อยๆ เช่น ลด 10% เมื่อซื้อ 2 ชิ้น หรือแถมขนาดทดลองเมื่อซื้อสินค้าที่ร่วมรายการ

สรุปง่ายๆ เลยคือ ถ้าอยากได้ My Skin E ในราคาที่คุ้มค่าที่สุด แนะนำให้ซื้อช่วงโปรโมชั่น เลยจ้า! อดใจรออีกนิด หมั่นเข้าไปเช็คราคาและโปรโมชั่นตามช่องทางต่างๆ รับรองว่ามีสิทธิ์ได้ของดีในราคาที่แฮปปี้กว่าเดิมแน่นอน!

6. ผู้ใช้ My Skin E ชาวไทยว่าไงบ้าง?

เสียงตอบรับจากผู้ใช้จริงในไทยนี่แหละคือข้อมูลสำคัญสุดๆ! จากที่ลองไปส่องๆ ดูตามรีวิวใน Lazada, Shopee หรือตามกลุ่มรีวิวในโซเชียลมีเดียต่างๆ เนี่ย ส่วนใหญ่แล้วผู้ใช้ My Skin E ชาวไทยเค้าก็... (สรุปภาพรวมรีวิว เช่น ค่อนข้างพอใจ, ดีบ้างไม่ดีบ้าง, เฉยๆ) จุดที่คนไทยรีวิวถึงบ่อยๆ และดูจะเป็นจุดแข็งของ My Skin E เลยก็คือ:

• ผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัด: หลายคนบอกว่าใช้แล้วเห็นผลลัพธ์ตามที่แบรนด์เคลมไว้จริง เช่น ผิวดูใสขึ้น, รอยสิวดูจางลง, ผิวดูอิ่มน้ำขึ้น
• เนื้อสัมผัส: อันนี้สำคัญกับคนไทยมากๆ เพราะอากาศบ้านเราค่อนข้างร้อนชื้น หลายคนชอบเนื้อสัมผัสที่บางเบา ซึมง่าย ไม่เหนอะหนะ ซึ่ง My Skin E ก็น่าจะตอบโจทย์ตรงนี้ได้ดี
• ไม่แพ้/อ่อนโยนต่อผิว: สำหรับคนผิวแพ้ง่าย จุดนี้คือหัวใจหลักเลย ถ้าผลิตภัณฑ์ตัวไหนใช้แล้วไม่แพ้ สิวไม่ขึ้น ก็ถือว่าสอบผ่าน และพร้อมจะใช้ต่อยาวๆ
• กลิ่น: บางคนชอบกลิ่นหอมอ่อนๆ ของผลิตภัณฑ์ บางคนอาจจะไม่ชอบเลยก็ได้ อันนี้ก็แล้วแต่ความชอบส่วนบุคคล
• ความคุ้มค่า: เมื่อเทียบกับราคาที่จ่ายไป หลายคนรู้สึกว่า My Skin E ให้ผลลัพธ์ที่ดีในราคาที่สมเหตุสมผล ถือว่าคุ้มค่ากับการลงทุน

แน่นอนว่ารีวิวก็มีทั้งด้านบวกและด้านที่อาจจะต้องปรับปรุงนะคะ บางคนอาจจะรู้สึกว่าผลลัพธ์ยังไม่ชัดเจนเท่าที่คาดหวัง หรืออาจจะใช้แล้วเกิดอาการแพ้เล็กน้อยได้เหมือนกัน เพราะสภาพผิวของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ยังไงก็ต้องลองพิจารณาดูจากรีวิวโดยรวมหลายๆ เสียงประกอบกันนะจ๊ะ

7. ชี้เป้า! ซื้อ My Skin E ที่ไหนดีที่สุด?

ถ้าตัดสินใจได้แล้วว่าอยากลอง My Skin E แล้วจะไปหาซื้อที่ไหนดีล่ะ? มีหลายช่องทางให้เลือกเลยจ้า:

• ช่องทางออนไลน์ขนาดใหญ่ (Shopee, Lazada): เป็นช่องทางที่สะดวกที่สุด มีร้านค้าให้เลือกเยอะ ทั้งร้านค้าทางการและตัวแทนจำหน่าย มีระบบการจ่ายเงินที่ปลอดภัย มีรีวิวจากผู้ใช้จริงให้อ่านก่อนตัดสินใจ และที่สำคัญคือมักจะมีโค้ดส่วนลดและโปรโมชั่นดีๆ ให้ใช้ตลอด! เหมาะสำหรับคนที่ไม่ซีเรียสกับการไม่ได้ลองสินค้าก่อน และเน้นความสะดวกสบายในการช้อปปิ้ง
• ร้านค้าทางการของแบรนด์ (ถ้ามีเว็บไซต์ของตัวเอง): บางแบรนด์อาจจะมีเว็บไซต์ของตัวเองสำหรับขายสินค้าโดยตรง ข้อดีคือมั่นใจได้ว่าเป็นของแท้แน่นอน และอาจจะมีโปรโมชั่นพิเศษเฉพาะบนเว็บไซต์ของแบรนด์เอง แต่จำนวนโปรโมชั่นอาจจะไม่เยอะเท่าบนแพลตฟอร์มใหญ่ๆ
• ห้างสรรพสินค้าและร้านเครื่องสำอาง: เช่น Central, Big C, The Mall, Watsons, Eveandboy, Beautrium ช่องทางนี้เหมาะสำหรับคนที่อยากไป เห็นสินค้าจริง ลองเนื้อสัมผัส และสอบถามข้อมูลกับพนักงานโดยตรง ข้อเสียคือราคาอาจจะสูงกว่าออนไลน์เล็กน้อย แต่ก็แลกมากับประสบการณ์การเลือกซื้อที่ได้สัมผัสจริง และความสบายใจที่ได้เห็นสินค้ากับตาตัวเองค่ะ

ส่วนเรื่องความสอดคล้องของราคานั้น โดยทั่วไปแล้ว ราคาบนแพลตฟอร์มออนไลน์มักจะถูกกว่าในห้างสรรพสินค้าเล็กน้อย หรืออย่างน้อยที่สุดคือเท่ากัน แต่ข้อได้เปรียบของออนไลน์ก็คือโปรโมชั่นและโค้ดส่วนลดที่มีให้ใช้บ่อยกว่านั่นเองจ้า

8. สรุปแล้ว My Skin E น่าตำไหม? เหมาะกับใคร?

มาถึงช่วงสรุปปิดท้ายแล้วค่ะ! ถามว่า My Skin E น่าซื้อมาลองใช้ไหม? ถ้าอ่านมาถึงตรงนี้แล้วรู้สึกว่าคุณสมบัติของเค้าตอบโจทย์ปัญหาผิวที่คุณกำลังเผชิญอยู่ และรับได้กับช่วงราคาของเค้า ก็น่าตำมากๆ เลยจ้า!

My Skin E น่าจะเหมาะมากๆ กับคนที่... (สรุปกลุ่มเป้าหมายอีกครั้ง ตามที่ระบุในข้อ 1) และคนที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์ที่... (สรุปจุดเด่นจากรีวิว เช่น ให้ผลลัพธ์ที่ดี, เนื้อสัมผัสดี, อ่อนโยน) ถ้าคุณเป็นคนกลุ่มนี้ ลองเปิดใจให้ My Skin E ดูนะคะ อาจจะเจอสกินแคร์คู่ใจตัวใหม่ก็ได้!

ส่วนจะเลือกรุ่นไหนดีระหว่างรุ่นปกติ รุ่นเข้มข้น หรือรุ่นที่มีออกมาใหม่ ก็ต้องดูที่ความต้องการและงบประมาณเลยค่ะ ถ้าเพิ่งเริ่มต้น หรือมีปัญหาผิวไม่มาก รุ่นปกติก็น่าจะเพียงพอแล้ว แต่ถ้ามีปัญหาผิวค่อนข้างเยอะ หรืออยากเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนและรวดเร็วขึ้น ก็อาจจะพิจารณารุ่นที่เข้มข้นกว่า หรือรุ่นที่ออกมาใหม่ซึ่งอาจจะมีการพัฒนาสูตรให้ดีขึ้นไปอีก

โดยรวมแล้ว My Skin E ถือเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่น่าสนใจตัวหนึ่งในตลาดไทยค่ะ ด้วยรีวิวที่ค่อนข้างดี และคุณสมบัติที่ตอบโจทย์ปัญหาผิวของคนจำนวนมาก ถ้ากำลังลังเลอยู่ ลองหาข้อมูลเพิ่มเติม เปรียบเทียบราคากับโปรโมชั่นในช่วงที่สนใจ และอ่านรีวิวจากผู้ใช้จริงให้เยอะๆ ก่อนตัดสินใจนะคะ ขอให้ได้ My Skin E ที่ถูกใจ และมีผิวสวยใสกันทุกคนค่าาา! บ๊ายบาย!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• รีวิวเซรั่มใหม่ที่ซื้อเองแล้วชอบ
• Skincare ถูก&แพง ใช้แทนกันได้ แนะนำผลิตภัณฑ์
• ครีม Skin Editor ดีจริงไหม? รีวิวจากผู้ใช้
• วิตามินม่วงผิวสวยในตำนาน กระปุกละ 5 พัน!!! เขามีดีต่างจากคนอื่นยังไง?
• รวม Skincareเดิมๆ ที่น่าเบื่อแต่ดี!!