Bridgestone Radac (จักรยาน) ราคาล่าสุด 2567 รุ่นไหนน่าสนใจ? เหมาะกับใคร?

สวัสดีจ้าพี่น้องชาวนักปั่น หรือใครก็ตามที่กำลังมองหาสองล้อคู่ใจสไตล์วินเทจมาปั่นเล่นเก๋ๆ วันนี้เราจะมาพูดถึงจักรยานในตำนานอีกหนึ่งรุ่นที่หลายคนใฝ่ฝัน นั่นก็คือ Bridgestone Radac นั่นเอง! ใครที่ได้ยินชื่อนี้แล้วตาลุกวาว หรือใครที่ยังงงๆ ว่ามันคืออะไร มามุงตรงนี้เลยจ้า เราจะพาไปทำความรู้จัก เจาะลึกเรื่องราคาในตลาดไทยปี 2567 (หรือช่วงนี้แหละ!) พร้อมแนะแนวทางการซื้อขายให้ได้รถดีๆ ในราคาโดนใจ ไปดูกันเล้ย!

1. เจ้า Radac นี่มันคือจักรยานอะไรกันนะ?

เอาล่ะ มาเริ่มทำความรู้จักกับ Bridgestone Radac กันก่อนเลย เจ้าตัวนี้ไม่ได้เป็นจักรยานรุ่นใหม่เอี่ยมอ่องที่เพิ่งออกมาจากโรงงานนะจ๊ะ แต่มันคือจักรยานวินเทจ หรือจักรยานยุคเก่าที่ผลิตโดยแบรนด์ดังระดับโลกอย่าง Bridgestone จากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งคนไทยส่วนใหญ่จะคุ้นเคยกับ Bridgestone ในฐานะผู้ผลิตยางรถยนต์คุณภาพดี แต่จริงๆ แล้วเค้าก็มีประวัติยาวนานในการผลิตจักรยานด้วยนะ โดยเฉพาะยุค 80s - 90s เนี่ย จักรยาน Bridgestone นี่ถือว่าคุณภาพดี ดีไซน์สวย และมีความเป็นเอกลักษณ์มากๆ

สำหรับ Radac เค้าก็มีหลายรุ่นย่อยอยู่นะ ส่วนใหญ่ที่เราเห็นกันในตลาดจะเป็นจักรยานเสือหมอบ หรือจักรยานทัวร์ริ่ง ที่มีจุดเด่นอยู่ที่เฟรมซึ่งมักจะเป็น เฟรมอลูมิเนียม ที่มีน้ำหนักเบาในยุคนั้น และบางรุ่นก็มีตะเกียบหน้าเป็นโครโมลี่ ช่วยซับแรงสะเทือนได้ดี ฟังก์ชันของมันก็คือการเป็นจักรยานสำหรับปั่นทำความเร็ว หรือปั่นท่องเที่ยวทางไกลได้ดีในยุคนั้น แต่พอมาถึงยุคนี้ เจ้า Radac ก็กลายเป็นของสะสม ของรักของหวงของนักปั่นวินเทจ เพราะดีไซน์ที่คลาสสิก ความทนทาน และฟีลลิ่งการปั่นที่ไม่เหมือนใคร เหมาะมากๆ สำหรับคนที่ชอบจักรยานสไตล์วินเทจ อยากได้รถที่ดูมีเรื่องราว หรืออยากได้จักรยานคุณภาพดีในราคาที่จับต้องได้ (ถ้าหาดีๆ นะ!) สำหรับเอามาปั่นออกกำลังกาย ปั่นเล่นในเมือง หรือจะเอามาปั้นต่อเติมเสริมหล่อก็ยังได้เลยจ้า

2. ราคา Bridgestone Radac ในตลาดไทย ปี 2567 อยู่ที่ประมาณไหน?

มาถึงเรื่องราคาที่หลายคนอยากรู้! ต้องบอกก่อนว่าเจ้า Bridgestone Radac เนี่ย ส่วนใหญ่แล้วที่เราเจอในตลาดไทยตอนนี้จะเป็น จักรยานมือสอง ทั้งหมดนะจ๊ะ เพราะฉะนั้นราคาจะไม่มีแบบตั้งเป๊ะๆ เหมือนจักรยานใหม่ แต่จะขึ้นอยู่กับ สภาพของจักรยาน, รุ่นย่อย, ชุดขับเคลื่อน (เกียร์, เบรค) ที่ติดมา, อะไหล่ต่างๆ ว่าเดิมหรือเปลี่ยนมา และที่สำคัญคือ ความพอใจของผู้ซื้อและผู้ขาย เลยจ้า

จากที่ลองสำรวจดูในตลาดออนไลน์และกลุ่มซื้อขายต่างๆ ในช่วงปี 2567 ที่ผ่านมาเนี่ย (รวมถึงข้อมูลล่าสุดในปัจจุบัน) ราคาของ Bridgestone Radac มือสองในไทยจะมีความหลากหลายมากๆ เลยนะจ๊ะ เราอาจจะเจอตั้งแต่ราคาหลักพันปลายๆ ไปจนถึงหมื่นกลางๆ เลยก็มี

• ถ้าสภาพค่อนข้างเก่า มีริ้วรอยเยอะ หรืออะไหล่บางชิ้นไม่ใช่ของเดิม อาจจะเจอราคาประมาณ 6,000 - 10,000 บาท (฿)
• ถ้าสภาพดีขึ้นมาหน่อย อะไหล่เดิมๆ ครบ หรือมีการเซอร์วิสมาแล้ว ราคาอาจจะอยู่ที่ประมาณ 10,000 - 15,000 บาท (฿) หรืออาจจะสูงกว่านั้นถ้าสภาพสวยกริ๊บเหมือนใหม่ หรือเป็นรุ่นที่หายาก

แหล่งที่เราพอจะไปส่องราคาและหาซื้อได้ก็มีตาม Shopee หรือ Lazada นะคะ ที่มักจะมีผู้ขายนำจักรยานวินเทจมาลงขาย นอกจากนี้ก็มีเว็บไซต์เฉพาะทางที่ขายของมือสอง หรือกลุ่มใน Facebook ที่รวมตัวคนรักจักรยานวินเทจ ก็เป็นแหล่งที่น่าสนใจมากๆ

ต้องทำความเข้าใจนิดนึงว่าจักรยานรุ่นนี้ไม่มีราคาตั้งจากโรงงานแล้ว และไม่ได้มีการนำเข้ามาขายเป็นมือหนึ่งในไทยอีกต่อไป ราคาที่เราเห็นคือราคาในตลาดซื้อขายมือสองล้วนๆ จ้า

3. เทียบราคากับจักรยานอื่นๆ แล้วเป็นไงบ้างนะ?

ถ้าให้เทียบราคาของ Bridgestone Radac มือสอง กับจักรยานเสือหมอบรุ่นใหม่ๆ ที่วางขายในปัจจุบันเนี่ย ต้องบอกว่า Radac เค้ามีเสน่ห์และความคุ้มค่าในอีกแบบนะจ๊ะ

• จักรยานเสือหมอบรุ่นใหม่ๆ ราคาเริ่มต้นส่วนใหญ่อยู่ที่ประมาณหมื่นกว่าบาทขึ้นไป ซึ่งแน่นอนว่าได้เทคโนโลยีที่ใหม่กว่า ชุดขับเคลื่อนทันสมัยกว่า น้ำหนักเบากว่า (ในราคาที่เท่าๆ กัน) และมีประกันศูนย์ให้ด้วย
• แต่เจ้า Radac เนี่ย ในงบประมาณ 6,000 - 15,000 บาท ที่เราจ่ายไป (สำหรับมือสองนะ) เราได้จักรยานที่มี แบรนด์ระดับโลก อย่าง Bridgestone, ได้ เฟรมคุณภาพดี ที่มีความทนทาน และได้ ดีไซน์ที่คลาสสิก ไม่เหมือนใคร ฟีลลิ่งการปั่นของรถวินเทจก็เป็นอีกแบบที่รถสมัยใหม่ให้ไม่ได้นะจ๊ะ

ดังนั้น การซื้อ Radac ไม่ได้เน้นที่ความคุ้มค่าด้านสมรรถนะที่เทียบเท่ารถรุ่นใหม่แกะกล่อง แต่เน้นที่ คุณค่าทางใจ, ดีไซน์, ความคลาสสิก และ ความทนทาน ที่เป็นเอกลักษณ์มากกว่า ถ้าคุณชอบแนววินเทจ และอยากได้จักรยานที่มีเรื่องราว มีสไตล์ เจ้า Radac ถือว่าคุ้มค่ามากๆ ในช่วงราคานี้เมื่อเทียบกับจักรยานวินเทจแบรนด์อื่นๆ ในระดับเดียวกันจ้า

4. ซื้อแล้วจะได้อะไรติดไม้ติดมือมาบ้าง?

อันนี้สำคัญมากๆ เลยนะจ๊ะ เพราะการซื้อจักรยานมือสองอย่าง Bridgestone Radac สิ่งที่เราจะได้มานั้น ขึ้นอยู่กับผู้ขายแต่ละราย เลยนะ ไม่ได้มีมาตรฐานเป๊ะๆ เหมือนซื้อของใหม่จากศูนย์ สิ่งที่เราควรสอบถามและตรวจสอบให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อก็คือ:

• ตัวจักรยาน: ได้ทั้งคันอยู่แล้ว แต่ต้องเช็คสภาพเฟรม, ตะเกียบ, ล้อ, ยาง, ชุดขับเคลื่อน (จานหน้า, เฟืองหลัง, ตีนผี, สับจาน, ชิฟเตอร์) ว่าสภาพเป็นยังไง ใช้งานได้ดีไหม มีรอยบุบ แตก หัก สนิม หรือเปล่า
• ชุดขับเคลื่อน: ส่วนใหญ่จะเป็นชุดขับเคลื่อนในยุคเดียวกับรถ ซึ่งอาจจะเป็น Shimano หรือ SunTour แล้วแต่รุ่นย่อยและปีที่ผลิต บางคันอาจมีการอัพเกรดมาแล้ว ก็ต้องสอบถามรายละเอียดให้ชัดเจน
• อะไหล่อื่นๆ: แฮนด์, สเต็ม, หลักอาน, เบาะ, บันได, เบรค ได้ของเดิมมาไหม หรือเปลี่ยนเป็นอะไรมา สภาพเป็นยังไง
• ค่าจัดส่ง: ถ้าซื้อออนไลน์ ส่วนใหญ่จะมีค่าจัดส่งนะจ๊ะ ผู้ขายบางรายอาจมีบริการส่งฟรีในพื้นที่ใกล้เคียง หรือมีเงื่อนไขการจัดส่งที่ต้องตกลงกัน
• การรับประกัน: อันนี้บอกเลยว่า ส่วนใหญ่ไม่มีประกันศูนย์ นะจ๊ะ เพราะเป็นรถเก่าแล้ว แต่ถ้าซื้อจากร้านที่นำเข้ามาเซอร์วิสขาย บางร้านอาจมี ประกันร้าน ให้สั้นๆ เช่น 7 วัน หรือ 1 เดือน ก็ต้องสอบถามให้ชัดเจน คนไทยค่อนข้างให้ความสำคัญกับการรับประกันเนอะ ฉะนั้นถ้าไม่มีก็ต้องรับความเสี่ยงตรงนี้ให้ได้จ้า
• ของแถม: นานๆ ทีอาจจะเจอผู้ขายใจดีแถมอุปกรณ์เล็กๆ น้อยๆ เช่น ขากระติก ไฟท้าย หรือกระเป๋าใต้อานมาให้บ้าง แต่ก็อย่าไปคาดหวังมากนะ

5. มีช่วงไหนน่าซื้อเป็นพิเศษ หรือมีโปรโมชั่นอะไรไหม?

เนื่องจาก Bridgestone Radac เป็นจักรยานมือสองและไม่ได้มีตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในไทยแล้ว โปรโมชั่นลดราคาแบบยิ่งใหญ่ตามเทศกาลต่างๆ เหมือนสินค้าใหม่ๆ จะ ไม่มีโดยตรง นะจ๊ะ

แต่! ถ้าเราไปหาซื้อตามแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอย่าง Shopee หรือ Lazada เนี่ย บางทีผู้ขายรายย่อยอาจจะใช้ประโยชน์จากช่วงโปรโมชั่นใหญ่ๆ ของแพลตฟอร์ม เช่น 11.11, 12.12, หรือช่วง แคมเปญลดราคาตามเทศกาลต่างๆ ของไทย (สงกรานต์, ปีใหม่) ในการลงขายหรือปรับลดราคาลงเล็กน้อย เพื่อดึงดูดลูกค้า ก็เป็นไปได้นะ

ดังนั้น ถ้าอยากได้ราคาดีๆ ของเจ้า Radac อาจจะต้องใช้ความพยายามในการ หมั่นเช็คราคา ตามช่องทางต่างๆ อยู่ตลอด และถ้าเจอคันที่ถูกใจในสภาพที่รับได้ ในช่วงใกล้ๆ เทศกาลลดราคาของแพลตฟอร์ม ก็ลองทักไปสอบถามผู้ขายดูว่ามีส่วนลดอะไรให้ได้เป็นพิเศษไหมนะจ๊ะ การซื้อจากกลุ่มผู้ใช้ด้วยกันเองใน Facebook บางทีก็อาจจะได้ราคาที่เป็นมิตร หรือสามารถต่อรองราคาได้ง่ายกว่าด้วย

สรุปคือ ไม่มีช่วงโปรฯ ตายตัวสำหรับ Radac แต่การเฝ้าดูตามแหล่งขายมือสอง โดยเฉพาะช่วงที่แพลตฟอร์มใหญ่อย่าง Lazada/Shopee มีแคมเปญลดราคา ก็อาจจะมีโอกาสเจอดีลดีๆ ได้จ้า

6. คนไทยที่เคยใช้ Radac เค้าว่ายังไงกันบ้างนะ?

จากที่ลองไปส่องๆ ดูตามกระทู้ใน Pantip และรีวิวในช่องทางอื่นๆ คนไทยที่เคยสัมผัสหรือเป็นเจ้าของ Bridgestone Radac ส่วนใหญ่จะมีความประทับใจในหลายๆ ด้านเลยจ้า

• ความทนทาน: หลายคนบอกว่ารถมันค่อนข้างทนทานสมชื่อ Bridgestone เลยนะ แม้จะเป็นรถเก่าแล้ว แต่ถ้าดูแลดีๆ ก็ยังใช้งานได้ยาวๆ
• ฟีลลิ่งการปั่น: หลายคนชอบฟีลลิ่งการปั่นของ Radac โดยเฉพาะรุ่นที่ตะเกียบเป็นโครโมลี่ จะให้ความรู้สึกที่นุ่มนวลกว่าเฟรมอลูมิเนียมล้วนๆ ปั่นทางไกลได้สบาย ถึงแม้จะไม่พุ่งเท่ารถรุ่นใหม่ๆ แต่ก็ไหลดี ไม่ต้องเติมแรงเยอะ
• ดีไซน์และสไตล์: อันนี้เป็นจุดเด่นที่คนรักวินเทจชอบมากๆ ดีไซน์ของ Radac มันมีความคลาสสิก เป็นเอกลักษณ์ ไม่เหมือนใคร เอาไปปั้นต่อแต่งหล่อก็สนุก
• ความคุ้มค่า (เมื่อเทียบกับราคาที่ได้มา): หลายคนที่ได้มาในราคาที่ไม่สูงมาก จะรู้สึกว่ามันคุ้มค่ามากๆ กับคุณภาพและฟีลลิ่งที่ได้รับ

แต่ก็มีข้อสังเกตเหมือนกันนะ อย่างเรื่อง ความกระด้าง ในรุ่นเฟรมอลูมิเนียมล้วนๆ หรือ การหาอะไหล่ บางชิ้นที่อาจจะยากหน่อยเพราะเป็นรถเก่า รวมถึงเรื่อง ราคาที่สูงขึ้น ในช่วงหลังๆ เพราะกลายเป็นที่นิยมของคนเล่นรถวินเทจ

โดยรวมแล้ว ฟีดแบ็กจากผู้ใช้ในไทยค่อนข้างดีในแง่ของความทนทาน สไตล์ และฟีลลิ่งการปั่นที่เป็นเอกลักษณ์จ้า

7. จะไปหาซื้อ Bridgestone Radac ได้จากช่องทางไหนดี?

อย่างที่ย้ำไปหลายรอบแล้วว่าเจ้า Bridgestone Radac ส่วนใหญ่เป็นรถมือสองนะจ๊ะ ฉะนั้นช่องทางการซื้อหลักๆ ก็จะตามแหล่งขายของมือสองเลย ซึ่งมีหลายช่องทางให้เลือกตามความสะดวกและความสบายใจจ้า

• แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ (Shopee, Lazada): เป็นแหล่งที่เข้าถึงง่าย มีผู้ขายหลากหลาย และมีตัวเลือกเยอะพอสมควร ข้อดีคือเราสามารถเปรียบเทียบราคาและดูรูปภาพจากหลายๆ ร้านได้ มีระบบการจ่ายเงินที่ค่อนข้างปลอดภัย แต่ข้อควรระวังคือเราไม่เห็นรถจริงก่อนซื้อ ต้องอาศัยดูจากรูป สอบถามผู้ขาย และดูรีวิวหรือเครดิตของผู้ขายประกอบการตัดสินใจจ้า
• เว็บไซต์ขายของมือสองโดยเฉพาะ (เช่น Kaidee, Truck2Hand): บางทีก็มีคนนำ Radac มาลงขายในเว็บไซต์เหล่านี้ด้วย ข้อดีข้อเสียคล้ายๆ กับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ แต่ผู้ใช้อาจจะมีความเฉพาะกลุ่มมากกว่า
• กลุ่มซื้อขายจักรยานวินเทจใน Facebook: อันนี้เป็นแหล่งยอดนิยมของคนเล่นรถวินเทจเลยนะ มักจะมีผู้ใช้ด้วยกันเองนำรถมาปล่อย หรือร้านค้านำเข้ามาขาย ข้อดีคือบางทีได้รถสภาพดีในราคาเป็นกันเอง สามารถพูดคุย สอบถามรายละเอียด ขอรูป/วิดีโอเพิ่มเติม หรือนัดดูรถจริงกับผู้ขายได้โดยตรง (อันนี้แนะนำมากๆ เพื่อความชัวร์!) แต่ก็ต้องระวังมิจฉาชีพด้วยนะจ๊ะ เช็คโปรไฟล์ผู้ขายให้ดีก่อนทำธุรกรรม
• ร้านจักรยานมือสอง หรือร้านจักรยานวินเทจโดยเฉพาะ: ตามหัวเมืองใหญ่ๆ อาจจะมีร้านที่นำเข้าจักรยานวินเทจจากญี่ปุ่นมาขาย ข้อดีคือเราได้เห็นรถจริง ได้ลองปั่น ได้ให้ผู้เชี่ยวชาญให้คำแนะนำ และอาจมีบริการหลังการขายเล็กน้อย ข้อเสียคือราคาอาจจะสูงกว่าซื้อจากผู้ใช้ด้วยกันเองเล็กน้อย

ช่องทางทางการของ Bridgestone ประเทศไทยตอนนี้จะเน้นไปที่ยางรถยนต์เป็นหลักนะจ๊ะ สำหรับจักรยาน Radac ต้องพึ่งพาตลาดมือสองล้วนๆ จ้า

8. สรุปแล้ว Bridgestone Radac ยังน่าซื้อไหมในปี 2567? เหมาะกับใครนะ?

มาถึงโค้งสุดท้ายแล้ว! ถามว่า Bridgestone Radac ยังน่าซื้ออยู่ไหมในปี 2567 (หรือตอนนี้ปี 2568) คำตอบคือ น่าซื้อมาก... แต่ต้อง เหมาะกับคนซื้อ ด้วยนะจ๊ะ!

เจ้า Radac เนี่ย เหมาะมากๆ สำหรับ:

• คนรักจักรยานวินเทจ/คลาสสิก: ถ้าคุณหลงใหลในดีไซน์ของจักรยานยุคเก่า ชอบความมีเรื่องราว และอยากได้รถที่ดูมีสไตล์ไม่ซ้ำใคร Radac คือตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมเลยจ้า
• คนที่อยากได้จักรยานคุณภาพดีในงบประมาณที่จำกัด (เมื่อเทียบกับรถใหม่): ในช่วงราคาหมื่นต้นๆ Radac มือสองสภาพดีๆ ถือว่าให้คุณภาพเฟรมและฟีลลิ่งการปั่นที่ดีมากๆ คุ้มค่ากว่าการไปซื้อรถใหม่ที่ใช้วัสดุเกรดต่ำกว่าในราคาใกล้เคียงกัน
• คนที่ชอบเอามาปั้นต่อ/ตกแต่ง: Radac เป็นรถที่เหมาะกับการนำมาบูรณะ ซ่อมแซม หรือตกแต่งเพิ่มเติมให้เป็นสไตล์ของตัวเองมากๆ
• คนที่ไม่รีบและมีความรู้ในการเลือกซื้อรถมือสอง: การจะหา Radac สภาพดีในราคาเหมาะสมต้องใช้เวลาและความอดทนในการค้นหาและตรวจสอบรถพอสมควร

ส่วนรุ่นไหนน่าสนใจ ก็ขึ้นอยู่กับความชอบและงบประมาณเลยจ้า ถ้าเจอคันไหนสภาพดี อะไหล่ครบตรงรุ่นในราคาที่รับได้ ก็ถือว่าน่าสนใจหมดแหละ แต่ถ้าให้เลือก แฟนๆ หลายคนอาจจะชอบรุ่นที่มีตะเกียบโครโมลี่เพื่อความนุ่มนวลในการปั่นนะ

ถ้าถามว่าคุ้มค่าที่จะซื้อไหม? สำหรับคนที่ใช่ ถือว่า คุ้มค่ามากๆ จ้า! คุณจะได้จักรยานที่มีประวัติ มีสไตล์ และปั่นสนุกในแบบฉบับของมันเอง แต่อย่าลืมว่าเป็นการลงทุนในรถมือสอง ต้องยอมรับเรื่องการดูแลรักษา และการหาอะไหล่ที่อาจจะยากกว่ารถใหม่นะจ๊ะ

หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคนที่กำลังเล็งๆ เจ้า Bridgestone Radac ในปี 2567 (หรือปีต่อๆ ไป) นะคะ ขอให้ได้รถที่ถูกใจ ปั่นสนุก มีความสุขกับจักรยานคันโปรดจ้า! บ๊ายบาย!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• ชุบชีวิตจักรยาน Bridgestone RADAC EP.1