แท็บเล็ตเพื่อการศึกษา ราคาประหยัด รุ่นไหนดี 2567 เหมาะกับนักเรียน/นักศึกษา?

สวัสดีจ้าทุกคนนน! เข้าสู่ยุคดิจิทัลแบบเต็มตัวแล้วเรื่องเรียนออนไลน์ หาข้อมูล ทำการบ้าน หรือแม้แต่จะผ่อนคลายด้วยการดูหนังฟังเพลงก็หนีไม่พ้นการใช้อุปกรณ์ไอทีใช่ไหมล่ะ? และหนึ่งในตัวเลือกยอดฮิตที่กำลังมาแรงแถมราคาก็เป็นมิตรกับกระเป๋าสตางค์ผู้ปกครองและน้องๆ นักเรียนนักศึกษาในปี 2567 นี้ก็คือ "แท็บเล็ตเพื่อการศึกษา ราคาประหยัด" นั่นเอง! วันนี้เราจะมาเจาะลึกกันว่าเจ้าแท็บเล็ตกลุ่มนี้มันน่าสนใจยังไง เลือกรุ่นไหนดี แล้วจะช้อปยังไงให้คุ้มค่าที่สุดในแบบฉบับคนไทยหัวใจนักช้อป มาดูกันเลย!

1. แท็บเล็ตเพื่อการศึกษา ราคาประหยัด มันคืออะไรกันนะ?

พูดง่ายๆ เลยนะ แท็บเล็ตเพื่อการศึกษา ราคาประหยัด ในบริบทปี 2567 ของบ้านเราเนี่ย มันก็คือแท็บเล็ตที่มีฟังก์ชันพื้นฐานครบครันพอสำหรับการเรียนออนไลน์ ใช้แอปพลิเคชันเพื่อการศึกษาต่างๆ เช่น Zoom, Google Classroom, Microsoft Teams หรือจะใช้ค้นหาข้อมูล ทำรายงาน จดโน้ต ดูวิดีโอการสอนต่างๆ ได้แบบไม่กระตุกจนเสียอารมณ์ แถมยังพอให้เล่นเกมเบาๆ หรือดู YouTube, Netflix เพลินๆ ได้ด้วย ที่สำคัญคือ ราคาไม่แรงจนเกินไป อยู่ในงบที่พอจับต้องได้สำหรับนักเรียน นักศึกษา หรือผู้ปกครองที่มองหาอุปกรณ์คู่ใจให้ลูกๆ นั่นเองจ้า

กลุ่มผู้ใช้ที่เหมาะกับแท็บเล็ตประเภทนี้ก็หนีไม่พ้น น้องๆ นักเรียนตั้งแต่ชั้นประถม มัธยม ไปจนถึงนักศึกษาในมหาวิทยาลัย ที่อาจจะไม่ได้ต้องการแท็บเล็ตสเปกเทพสุดๆ เน้นเอามาใช้เพื่อการเรียนเป็นหลัก และบางทีก็เอาไว้ดูความบันเทิงนิดหน่อย ส่วนเรื่องแบรนด์เนี่ย ก็มีหลากหลายนะ ทั้งแบรนด์ต่างประเทศดังๆ ที่เข้ามาทำตลาดในไทยนานแล้ว อย่าง Samsung, Lenovo, Huawei หรือจะเป็นแบรนด์น้องใหม่ที่น่าสนใจก็มีให้เลือกเยอะเลยจ้า

2. ราคาในตลาดไทยปี 2567 เป็นยังไงบ้าง?

เรื่องราคาเนี่ย สำคัญสุดๆ เลยใช่ไหมล่ะ? สำหรับกลุ่ม แท็บเล็ตเพื่อการศึกษา ราคาประหยัด ในตลาดไทยปี 2567 เนี่ย โดยทั่วไปแล้วราคาจะอยู่ในช่วงประมาณ 3,000 บาท ไปจนถึงไม่เกิน 8,000 บาท (฿) โดยประมาณนะ ซึ่งราคาก็จะแตกต่างกันไปตามยี่ห้อ รุ่น สเปก (เช่น RAM, ROM) และโปรโมชั่นในช่วงนั้นๆ ด้วยจ้า

แหล่งช้อปปิ้งยอดฮิตที่เราจะเจอแท็บเล็ตกลุ่มนี้ได้เยอะมากๆ ก็ต้องยกให้แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซใหญ่อย่าง Lazada และ Shopee เลยจ้า เรียกว่าเข้าไปทีมีให้เลือกตาลายไปหมด! นอกจากนี้ตามร้านค้าปลีกใหญ่ๆ อย่าง Central, Big C, The Mall ในแผนกเครื่องใช้ไฟฟ้า หรือร้านไอทีชื่อดังอย่าง JIB, Banana IT, Power Buy ก็มีให้เลือกนะ แต่อาจจะต้องดูรุ่นดีๆ ว่าเป็นกลุ่มราคาประหยัดที่เรากำลังมองหาอยู่หรือเปล่า บางทีหน้าร้านอาจจะเน้นรุ่นที่สเปกสูงขึ้นมาหน่อย

เรื่องส่วนต่างอัตราแลกเปลี่ยนกับราคาต่างประเทศเนี่ย สำหรับสินค้ากลุ่มราคาประหยัดอาจจะไม่ได้เห็นผลชัดเจนมากนัก ส่วนใหญ่ราคาในไทยก็จะบวกค่าภาษี ค่าขนส่ง และต้นทุนอื่นๆ เข้าไปเป็นปกติจ้า แต่ถ้าเป็นรุ่นที่ราคาแรงขึ้นมาหน่อย อันนั้นอาจจะต้องลองคำนวณดูดีๆ

3. แล้วเทียบราคากับตัวอื่นล่ะ? คุ้มค่าน่าโดนแค่ไหน?

ถ้าให้เทียบราคากับอุปกรณ์เพื่อการศึกษาอื่นๆ ในตลาดไทยนะ อย่างแรกเลยคือถ้าไปมองโน้ตบุ๊กหรือ Chromebook ที่พอใช้งานเรียนออนไลน์ได้เนี่ย ราคามักจะเริ่มต้นที่ประมาณ 8,000 - 10,000 บาทขึ้นไปเลยใช่ไหมล่ะ? หรือถ้าเป็นแท็บเล็ตสเปกสูงๆ อย่าง iPad หรือแท็บเล็ต Android ตัวท็อปๆ ราคาก็จะกระโดดไปเป็นหมื่นปลายๆ หรือหลายหมื่นบาทเลยจ้า

ดังนั้น แท็บเล็ตเพื่อการศึกษา ราคาประหยัด เนี่ย เค้ามาเติมเต็มช่องว่างตรงกลางได้อย่างลงตัวมากๆ ด้วยราคาที่เข้าถึงง่ายกว่าโน้ตบุ๊กเยอะ และมีฟังก์ชันที่เพียงพอต่อการเรียนออนไลน์พื้นฐาน แถมยังพกพาสะดวกกว่าโน้ตบุ๊กอีกด้วยนะ! ถ้าเทียบกับแท็บเล็ตสเปกสูงๆ แน่นอนว่าความแรง ความลื่น คุณภาพหน้าจอ อาจจะสู้ไม่ได้ แต่ในแง่ของ ความคุ้มค่าต่อการใช้งานเพื่อการศึกษาโดยเฉพาะ ในงบประมาณที่จำกัดเนี่ย แท็บเล็ตกลุ่มนี้ถือว่า ตอบโจทย์สุดๆ ไปเลยจ้า!

4. ซื้อแล้วได้อะไรมาบ้างนะ? มีประกันให้ด้วยไหม?

เวลาสอยแท็บเล็ตราคาประหยัดมาเนี่ย ปกติแล้วในกล่องเราก็จะได้อุปกรณ์พื้นฐานมาครบถ้วนนะ เช่น ตัวแท็บเล็ต, อะแดปเตอร์ชาร์จไฟ และสายชาร์จ เป็นหลัก บางรุ่นใจดีหน่อยก็อาจจะมีแถม ฟิล์มกันรอย หรือ เคสใสๆ มาให้ด้วย อันนี้ก็แล้วแต่ยี่ห้อแล้วแต่โปรโมชั่นในช่วงนั้นเลยจ้า

ส่วนเรื่อง ค่าจัดส่ง เนี่ย ถ้าซื้อผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ใหญ่อย่าง Lazada หรือ Shopee ส่วนใหญ่แล้วร้านค้าทางการ (Official Store) หรือร้านใหญ่ๆ มักจะมีโปรโมชั่น จัดส่งฟรี อยู่แล้วนะ ยิ่งถ้าซื้อในช่วงโปรโมชั่นใหญ่ๆ ก็แทบจะการันตีได้เลยว่าส่งฟรีแน่นอนจ้า

สิ่งที่คนไทยให้ความสำคัญมากๆ เลยก็คือ การรับประกัน ใช่ไหมล่ะ? สำหรับแท็บเล็ตใหม่แกะกล่องเนี่ย ปกติแล้วจะมาพร้อมกับ การรับประกันศูนย์ไทยอย่างน้อย 1 ปี นะจ๊ะ อันนี้ต้องเช็คกับทางร้านหรือผู้ขายให้ดีๆ ว่ามีการรับประกันไหม ระยะเวลาเท่าไหร่ และเงื่อนไขการรับประกันเป็นยังไงบ้าง การมีประกันศูนย์จะช่วยให้อุ่นใจได้เยอะเลยเวลาเครื่องมีปัญหา เพราะสามารถส่งซ่อมกับทางศูนย์บริการในประเทศได้เลยจ้า

นอกจากนี้ บางร้านค้าอาจจะมีของแถมพิเศษ หรือ คูปองส่วนลด เพิ่มเติมในช่วงโปรโมชั่นด้วยนะ ต้องลองเล็งดีๆ เลย!

5. ช่วงไหนน่าซื้อแท็บเล็ตราคาประหยัดที่สุด?

ถ้าอยากได้แท็บเล็ตราคาประหยัดที่คุ้มค่าแบบสุดๆ เนี่ย ต้องบอกเลยว่าช่วง โปรโมชั่นและเทศกาลช้อปปิ้งใหญ่ๆ คือโอกาสทองเลยจ้า! ไม่ว่าจะเป็น:

• ช่วง Double Digit Sales: เช่น 4.4, 5.5, 6.6, 7.7, 8.8, 9.9, 10.10, 11.11, 12.12 ที่ Lazada และ Shopee เค้าจัดแคมเปญลดราคาสินค้าแทบทุกหมวดหมู่ ซึ่งแท็บเล็ตก็มักจะเข้าร่วมด้วยเสมอ
• ช่วงเทศกาลสำคัญของไทย: เช่น ตรุษจีน, สงกรานต์ (ปีใหม่ไทย), วันแม่, วันพ่อ, ช่วงปลายปี (ใกล้ปีใหม่สากล) ร้านค้าต่างๆ ทั้งออนไลน์และออฟไลน์มักจะงัดโปรโมชั่นมาแข่งขันกัน
• Back to School Season: ช่วงใกล้เปิดเทอม ก็มักจะมีโปรโมชั่นสำหรับสินค้าเพื่อการศึกษาออกมาโดยเฉพาะเลยจ้า

ร้านค้าที่เป็น Flagship Store หรือ Official Store ของแบรนด์แท็บเล็ตต่างๆ บน Lazada หรือ Shopee เนี่ย เค้ามักจะมีโปรโมชั่นลดราคา หรือแจกโค้ดส่วนลดอยู่เป็นระยะๆ อยู่แล้วนะ ไม่ต้องรอถึงช่วงเทศกาลใหญ่ๆ ก็มีสิทธิ์เจอดีลเด็ดๆ ได้เหมือนกันจ้า

สรุปคือ ถ้าไม่รีบใช้มากๆ รอช่วงโปรโมชั่น เนี่ย มีโอกาสได้แท็บเล็ตสเปกดีในราคาที่ถูกลง หรือได้ของแถมเพียบเลยนะจ๊ะ ต้องคอยติดตามโปรโมชั่นจากแพลตฟอร์มและร้านค้าต่างๆ ให้ดี!

6. คนไทยใช้แล้วฟีดแบ็กเป็นยังไงบ้าง?

จากที่ไปส่องๆ ดูรีวิวและฟีดแบ็กจากผู้ใช้งานคนไทยในกลุ่มแท็บเล็ตราคาประหยัดเนี่ย เสียงส่วนใหญ่ค่อนข้างพอใจในแง่ของ ความคุ้มค่า เลยจ้า จุดที่คนมักจะชมเชยก็คือ:

• ราคาเข้าถึงง่าย: ซื้อหาได้ไม่ยาก ไม่ต้องเก็บเงินนาน
• ใช้งานทั่วไปได้ดี: เพียงพอสำหรับการเรียนออนไลน์ ดูวิดีโอ เล่นโซเชียล เล่นเกมเบาๆ ได้
• น้ำหนักเบา พกพาสะดวก: เหมาะกับน้องๆ นักเรียนที่ต้องแบกไปโรงเรียน หรือพกไปอ่านหนังสือนอกบ้าน
• แบตเตอรี่ใช้งานได้นานพอสมควร: เพียงพอสำหรับการเรียนตลอดวัน (อาจจะต้องชาร์จระหว่างวันถ้าใช้งานหนัก)

ส่วนข้อสังเกตที่อาจจะต้องทำใจนิดนึงในแท็บเล็ตกลุ่มนี้ก็อาจจะมีเรื่อง คุณภาพหน้าจอ ที่อาจจะไม่คมชัด สีสันไม่สดใสเท่ารุ่นแพงๆ หรือ ประสิทธิภาพเครื่อง อาจจะไม่ลื่นไหลปรู๊ดปร๊าดเท่าที่ควรหากเปิดหลายแอปพร้อมกันมากๆ หรือเล่นเกมที่กราฟิกหนักๆ แต่โดยรวมแล้วถ้าเน้นใช้งานเพื่อการศึกษาเป็นหลัก ถือว่า ตอบโจทย์และคุ้มราคา เลยจ้า

7. จะไปช้อปแท็บเล็ตราคาประหยัดได้ที่ไหนดี?

ช่องทางในการสอยแท็บเล็ตเพื่อการศึกษา ราคาประหยัดในปี 2567 เนี่ย มีให้เลือกหลากหลายเลยจ้า แต่ละที่ก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป:

• แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซใหญ่ (Lazada, Shopee): เป็นแหล่งรวมร้านค้าและรุ่นที่เยอะที่สุด สะดวกในการเปรียบเทียบราคา มีโค้ดส่วนลดและโปรโมชั่นบ่อย แถมยังมีระบบรีวิวจากผู้ซื้อจริงให้เราดูประกอบการตัดสินใจด้วย แต่ข้อเสียคือเราไม่ได้จับต้องสินค้าจริงก่อนซื้อ ต้องอ่านรายละเอียดและดูรูปภาพให้ดีๆ
• ร้านค้าออนไลน์อย่างเป็นทางการ (Official Store): บางแบรนด์อาจจะมีเว็บไซต์หรือร้านค้าออนไลน์ของตัวเองโดยตรง ซึ่งมักจะมีการรับประกันที่ชัดเจนและบริการหลังการขายที่ดี แต่รุ่นและโปรโมชั่นอาจจะไม่หลากหลายเท่าบนแพลตฟอร์มใหญ่
• ร้านค้าปลีกไอที (JIB, Banana IT, Power Buy): ข้อดีคือสามารถไปดู ไปลองจับ ลองเล่นแท็บเล็ตจริงก่อนตัดสินใจซื้อได้ มีพนักงานให้คำแนะนำ และสามารถยกเครื่องที่มีปัญหาไปที่ร้านได้เลย แต่ราคาอาจจะสูงกว่าการซื้อออนไลน์เล็กน้อย และรุ่นราคาประหยัดอาจจะมีให้เลือกไม่มากเท่า
• ห้างสรรพสินค้าและซูเปอร์สโตร์ (Central, Big C, The Mall): คล้ายๆ กับร้านค้าปลีกไอที คือสามารถไปดูของจริงได้สะดวกสบาย แต่ส่วนใหญ่จะมีเฉพาะรุ่นยอดนิยม และโปรโมชั่นอาจจะไม่ได้แรงเท่าช่วงเทศกาลใหญ่ๆ บนแพลตฟอร์มออนไลน์

แนะนำว่าให้ลองเปรียบเทียบราคาจากหลายๆ ที่ก่อนตัดสินใจซื้อนะจ๊ะ บางทีหน้าร้านอาจจะมีโปรโมชั่นผ่อน 0% ที่น่าสนใจ หรือบางทีบนออนไลน์ก็มีโค้ดส่วนลดที่ทำให้ราคาถูกลงไปอีกเยอะเลยจ้า

8. สรุปแล้วคุ้มค่าไหม? เหมาะกับใครกันนะ?

มาถึงบทสรุปสุดท้ายกันแล้ว! สำหรับ แท็บเล็ตเพื่อการศึกษา ราคาประหยัด ในปี 2567 เนี่ย ถ้าถามว่าคุ้มค่าไหม? ตอบเลยว่า คุ้มค่ามากๆ เลยจ้า ถ้าคุณกำลังมองหาอุปกรณ์ที่เพียงพอต่อการเรียนออนไลน์ ค้นหาข้อมูล ทำการบ้าน หรือใช้งานแอปเพื่อการศึกษาต่างๆ ได้แบบไม่ติดขัด ในงบประมาณที่ไม่สูงจนเกินไปนะ

แท็บเล็ตกลุ่มนี้เหมาะมากๆ กับ น้องๆ นักเรียนตั้งแต่ชั้นประถมถึงมัธยม ที่ต้องการอุปกรณ์หลักสำหรับการเรียนออนไลน์และการศึกษาค้นคว้า หรือ นักศึกษาในมหาวิทยาลัย ที่เน้นใช้จดเลคเชอร์ อ่านไฟล์เอกสาร หรือใช้แอปพื้นฐานในการเรียน ไม่ได้ต้องการใช้งานหนักๆ เช่น ตัดต่อวิดีโอ หรือเล่นเกมกราฟิกสูงๆ

ถามว่าควรเลือกรุ่นราคาประหยัดไปเลยดีไหม หรือเก็บเงินเพิ่มไปซื้อรุ่นที่สูงกว่า? อันนี้ขึ้นอยู่กับความต้องการและการใช้งานนะจ๊ะ ถ้าเน้นใช้เพื่อการเรียนพื้นฐานจริงๆ รุ่นราคาประหยัดก็เพียงพอแล้วจ้า! แต่ถ้าคิดว่าจะใช้งานหนักขึ้นอีกนิด หรือต้องการฟังก์ชันที่ครบครันกว่าเดิม เช่น หน้าจอสวยกว่าเดิม กล้องดีขึ้น หรือประสิทธิภาพโดยรวมที่ลื่นไหลกว่า อาจจะต้องมองหารุ่นที่ราคาสูงขึ้นมาอีกนิดนึง แต่สำหรับใครที่งบน้อย แต่อยากได้แท็บเล็ตมาใช้เรียนแบบจริงจัง แท็บเล็ตเพื่อการศึกษา ราคาประหยัด นี่แหละคือตัวเลือกที่ ตอบโจทย์ที่สุด ในปีนี้แล้วจ้า!

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจเลือกซื้อแท็บเล็ตของทุกคนนะจ๊ะ ขอให้ได้แท็บเล็ตคู่ใจสำหรับการเรียนและการใช้ชีวิตดิจิทัลอย่างมีความสุขจ้า! บ๊ายบายยย!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• แนะนำ iPad สำหรับนักเรียนนักศึกษา (อัพเดทต้นปี 2025) เลือกยังไง ...
• แนะนำ 5 แท็บเล็ตรองรับปากกา | ใช้เรียน ใช้วาด ใช้ทำงาน คุ้มสุดปีนี้ ...
• คัดมาให้แล้ว!! แท็บเล็ตน่าซื้อ! ช่วงกลางปี 2024 มีรุ่นแถมปากกา!!
• แท็บเล็ต 7 รุ่นน่าซื้อ งบไม่เกิน 10000 ต้นปี 2024 (คัดมาเน้นๆ)
• แนะนำ แท็บเล็ต มีปากกา งบ 10000 - 25000 ใช้เรียน.!! ใช้เล่น ตัวคุ้ม ...