iPhone XS Max ราคาล่าสุด (ไม่ใช่ X Plus) ซื้อมือสองคุ้มไหม?


สวัสดีพ่อแม่พี่น้องชาวไทยที่น่ารักทุกท่าน! วันนี้เราจะมาเจาะลึกสมาร์ทโฟนรุ่นใหญ่จากค่ายผลไม้กัดอย่าง iPhone XS Max กัน ไม่ใช่ iPhone X Plus นะจ๊ะ ย้ำว่า XS Max! รุ่นนี้อาจจะออกมานานแล้ว แต่ยังคงเป็นที่ต้องการในตลาดมือสองบ้านเราอย่างเหนียวแน่น วันนี้เราจะมาดูกันว่าเจ้ารุ่นเก๋าตัวนี้ยังมีอะไรน่าสนใจอยู่บ้าง แล้วถ้าจะซื้อมือสองเนี่ย มันยังคุ้มค่าตัวอยู่ไหม ตามมาดูกันเลย!
1. เจ้า iPhone XS Max นี่มันคืออะไรมาจากไหน?
พูดถึง iPhone XS Max เนี่ย มันก็คือหนึ่งในเรือธงตัวท็อปของ Apple เมื่อหลายปีก่อนนู้นนน ที่เปิดตัวมาพร้อมกับ XS ตัวเล็กกว่าหน่อย. ความโดดเด่นของมันก็คือหน้าจอที่ใหญ่ยักษ์ถึง 6.5 นิ้ว ซึ่งตอนที่เปิดตัวเนี่ย ถือเป็น iPhone ที่มีหน้าจอใหญ่ที่สุดเท่าที่ Apple เคยทำมาเลยทีเดียว. เหมาะมากสำหรับคนที่ชอบจอใหญ่ๆ เอาไว้ดูหนัง ดูซีรีส์ เล่นเกม หรือไถฟีดโซเชียลแบบสะใจ. ส่วนเรื่องแบรนด์ Apple เนี่ย ก็รู้ๆ กันอยู่ว่าเป็นแบรนด์ระดับโลกจากอเมริกา ที่ขึ้นชื่อเรื่องดีไซน์เรียบหรู ประสิทธิภาพลื่นไหล และระบบนิเวศที่ใช้งานง่าย ใครได้ลองแล้วก็มักจะติดใจไปต่อยาก. กลุ่มผู้ใช้หลักๆ ของ XS Max ตอนเปิดตัวก็คือคนที่ต้องการ iPhone ที่ดีที่สุด ใหญ่ที่สุด และแพงที่สุดในตอนนั้นนั่นแหละ. แต่ในปัจจุบัน XS Max ก็กลายมาเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่อยากเข้าสู่โลก iPhone จอใหญ่ ในงบที่เข้าถึงง่ายขึ้นแล้วล่ะ
2. ราคาในตลาดไทยตอนนี้เท่าไหร่กันนะ (เน้นมือสอง!)
มาถึงประเด็นร้อนที่ทุกคนอยากรู้! สำหรับ iPhone XS Max เนี่ย เนื่องจากเป็นรุ่นที่เลิกผลิตมือหนึ่งไปนานแล้ว ตลาดหลักๆ ของเราตอนนี้ก็คือตลาด "มือสอง" นั่นเองจ้า. ราคาเนี่ยก็จะมีความหลากหลายสุดๆ ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยมากๆ ไม่ว่าจะเป็นสภาพเครื่อง, ความจุ (มีตั้งแต่ 64GB, 256GB, ไปจนถึง 512GB), สีเครื่อง (มีสี ทอง, เทาสเปซเกรย์, และเงิน), สุขภาพแบตเตอรี่, อุปกรณ์ที่ให้มาด้วย และแหล่งที่มา
จากการสำรวจตลาดล่าสุด (ช่วงกลางปี 2568) ราคา iPhone XS Max มือสองในไทยเนี่ย พอจะแบ่งคร่าวๆ ได้ประมาณนี้:
- iPhone XS Max 64GB มือสอง: ราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 6,xxx บาท ไปจนถึง 8,xxx บาท หรืออาจจะถึง 9,xxx บาท ขึ้นอยู่กับสภาพและความสมบูรณ์ของเครื่อง. บางทีเจอถูกๆ 5,xxx บาทก็มีนะ แต่ต้องเช็คสภาพให้ดีๆ.
- iPhone XS Max 256GB มือสอง: ราคาก็จะขยับขึ้นมาหน่อย อยู่ที่ประมาณ 7,xxx บาท ไปจนถึง 10,xxx บาท หรืออาจจะสูงกว่านั้นในสภาพดีมากๆ.
- iPhone XS Max 512GB มือสอง: รุ่นความจุเยอะสุดนี้จะหายากหน่อยในตลาดมือสอง. ราคาถ้าเจอส่วนใหญ่น่าจะเริ่มต้นที่ประมาณ 9,xxx บาท ขึ้นไป
ลองไปส่องดูตามแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซยอดฮิตอย่าง Lazada และ Shopee ได้เลย มีร้านค้าและผู้ขายรายย่อยลงขายเยอะมากๆ. ส่วนร้านตู้ตามห้างสรรพสินค้าต่างๆ เช่น Central, Big C, The Mall ก็น่าจะมีบ้าง แต่ราคาอาจจะสูงกว่าซื้อออนไลน์เล็กน้อยนะ. ร้านใหญ่ๆ อย่าง JIB, Banana IT, Power Buy เนี่ยส่วนใหญ่เค้าจะเน้นขายรุ่นใหม่ๆ มือหนึ่งเป็นหลัก ก็อาจจะไม่เจอ XS Max มือสองวางขายนะ
เรื่องส่วนต่างอัตราแลกเปลี่ยนจากราคาต่างประเทศกับราคาขายมือสองในไทยเนี่ย ไม่ค่อยมีผลโดยตรงเท่าไหร่ เพราะราคามือสองมันขึ้นอยู่กับกลไกตลาดและความต้องการในประเทศเรามากกว่าจ้า
3. เทียบราคากับชาวบ้านชาวช่องแล้วเป็นไง?
ถ้าให้เทียบราคา iPhone XS Max มือสอง ในปัจจุบันกับสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ ที่วางขายในราคาใกล้เคียงกัน (เช่น สมาร์ทโฟน Android ระดับกลางๆ หรือระดับกลางค่อนไปทางสูง) เนี่ย XS Max ก็ยังถือว่ามีภาษีดีในเรื่อง "แบรนด์" และ "ความลื่นไหลของระบบปฏิบัติการ" อย่าง iOS นะ. กล้องก็ยังถือว่าทำได้ดีอยู่เลยในหลายๆ ด้าน.
ยกตัวอย่างเช่น สมาร์ทโฟน Android บางรุ่นที่ราคาหมื่นต้นๆ อาจจะได้สเปกใหม่กว่า ได้อัปเดตยาวนานกว่า แต่ถ้าชอบความเป็น Apple ชอบความง่ายของ iOS และอยากได้จอใหญ่สะใจ ในงบประมาณนี้ XS Max มือสองก็เป็นตัวเลือกที่น่าคิดเลยล่ะ มันอาจจะไม่ได้ใหม่ล่าสุด ฟังก์ชันเทพสุดเท่ารุ่นปัจจุบัน แต่ความเสถียรและความพรีเมียมของ Apple มันก็ยังคงอยู่จ้า
4. ซื้อมือสองแล้วจะได้อะไรมาบ้างนะ? (อันนี้ต้องลุ้น!)
การซื้อ iPhone XS Max มือสอง เนี่ย บอกเลยว่าเหมือนการเสี่ยงดวงเล็กๆ น้อยๆ เลยนะ! สิ่งที่จะได้มาด้วยหรือไม่เนี่ย ขึ้นอยู่กับผู้ขายแต่ละรายล้วนๆ เลย สิ่งที่ควรเช็คให้ดีก่อนจ่ายเงินก็คือ:
- ตัวเครื่อง: สภาพภายนอกเป็นยังไง มีรอยบุบ รอยตกหล่นหนักๆ ไหม หน้าจอมีรอยขีดข่วนเยอะไหม จอเบิร์นหรือเปล่า ปุ่มต่างๆ ยังใช้งานได้ดีไหม
- สุขภาพแบตเตอรี่ (Battery Health): อันนี้สำคัญมาก! iPhone รุ่นเก่า แบตเตอรี่มักจะเสื่อมตามอายุการใช้งาน ควรเช็คว่าสุขภาพแบตเตอรี่เหลือกี่เปอร์เซ็นต์ ถ้าต่ำกว่า 80% อาจจะต้องเตรียมตัวเปลี่ยนแบตใหม่ ซึ่งก็มีค่าใช้จ่ายเพิ่มนะจ๊ะ.
- อุปกรณ์เสริม: ส่วนใหญ่แล้วถ้าซื้อแบบครบกล่อง อาจจะได้แค่ตัวเครื่อง, สายชาร์จ Lightning, และปลั๊กชาร์จ (Adapter). หูฟัง EarPods แบบมีสายที่เคยแถมมาเนี่ย ส่วนใหญ่จะไม่มีแล้วนะ. บางผู้ขายอาจจะแถมเคสหรือฟิล์มกันรอยมาให้ด้วย อันนี้ก็แล้วแต่ดวงเลย
- กล่อง: ถ้าได้แบบมีกล่องเดิมมาด้วยก็จะดูน่าเชื่อถือหน่อย
- ประกัน: อันนี้แหละที่น่าเป็นห่วงสำหรับมือสอง ส่วนใหญ่จะ "ไม่มีประกันศูนย์ Apple" แล้วนะ. ถ้าซื้อจากร้านค้ามือสองโดยเฉพาะ อาจจะมีประกันร้านให้สั้นๆ เช่น 7 วัน หรือ 30 วัน เพื่อให้เราได้ลองใช้งานและแจ้งปัญหาได้ทัน ถ้าซื้อจากผู้ใช้โดยตรงส่วนใหญ่คือ "ซื้อแล้วจบ" ไม่มีประกันใดๆ ทั้งสิ้นจ้า
- ค่าจัดส่ง: ถ้าซื้อออนไลน์ ส่วนใหญ่จะมีค่าจัดส่งนะ นอกจากผู้ขายจะมีโปรโมชั่น "ส่งฟรี" ก็ต้องดูเงื่อนไขกันไป
สรุปง่ายๆ คือ ยิ่งได้อุปกรณ์มาครบ สภาพดี สุขภาพแบตเตอรี่เยอะ และมีประกันร้านให้ ก็จะยิ่งสบายใจ แต่ราคาก็อาจจะสูงขึ้นตามไปด้วยนะ
5. ช่วงไหนน่าช้อป iPhone XS Max มือสองที่สุด?
ถ้าอยากได้ iPhone XS Max มือสอง ในราคาดีๆ โดนใจคนไทยนักช้อปเนี่ย ก็ต้องจับตาดูช่วง "เทศกาลลดราคา" ต่างๆ เลยจ้า! แม้จะเป็นมือสอง แต่ผู้ขายบนแพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง Shopee กับ Lazada ก็มักจะมีโปรโมชั่นออกมาดูดเงินในกระเป๋าเราเสมอๆ โดยเฉพาะช่วง Double Digit Sale สุดฮิต เช่น 11.11, 12.12 หรือช่วงกลางปีอย่าง Mid-Year Sale. นอกจากนี้ เทศกาลไทยๆ อย่าง สงกรานต์ หรือช่วงปีใหม่ ก็อาจจะมีผู้ขายบางรายจัดโปรโมชั่นลดราคาพิเศษได้เหมือนกัน
ถึงแม้เราจะไม่สามารถไปซื้อจากร้านค้าแฟลกชิพของ Apple โดยตรงได้ เพราะเค้าเน้นขายรุ่นใหม่ แต่แพลตฟอร์มอย่าง Lazada และ Shopee เนี่ย เค้าก็มีส่วนลด คูปอง หรือโปรแกรมส่งฟรีออกมาบ่อยๆ นะ ลองใช้คูปองแพลตฟอร์มร่วมกับราคาที่ผู้ขายตั้งไว้ อาจจะได้ราคาที่ถูกลงไปอีก
ดังนั้น ถ้าไม่ได้รีบใช้มากๆ การ "รอช่วงโปรโมชั่น" แล้วค่อยกดเนี่ย มีโอกาสได้ราคาที่คุ้มค่ากว่าเสมอจ้า!
6. ผู้ใช้ iPhone XS Max ในไทยเค้าว่าไงกันบ้าง?
จากที่ลองไปส่องๆ ดูรีวิวของคนที่ยังใช้ iPhone XS Max อยู่ในไทยตอนนี้ เสียงตอบรับส่วนใหญ่ยังถือว่าโอเคเลยนะ แม้จะเป็นรุ่นเก่าแล้วก็ตาม จุดที่คนไทยยังประทับใจและพูดถึงบ่อยๆ ก็คือ:
- จอใหญ่เต็มตา: อันนี้เป็นจุดเด่นที่หลายคนชอบมากๆ ดูหนัง เล่นเกม สะใจสุดๆ.
- กล้องยังโอเค: แม้จะไม่ได้เทพเท่ารุ่นใหม่ๆ แต่กล้องหลังคู่ 12MP ของ XS Max ก็ยังถ่ายรูปออกมาได้สวยงาม โทนสีเป็นธรรมชาติ ถ่าย Portrait หน้าชัดหลังเบลอได้ดี และปรับความเบลอได้ด้วยนะ. กล้องหน้าก็พอใช้ได้ แต่บางคนอาจจะรู้สึกว่ายังสู้กล้องหน้า Android ไม่ได้ (อันนี้แล้วแต่คนชอบโทนสี).
- ความลื่นไหล: ด้วยชิป A12 Bionic ที่แรงเอาเรื่องในตอนนั้น, iPhone XS Max ยังคงใช้งานทั่วไปได้อย่างลื่นไหล เปิดแอปต่างๆ ได้รวดเร็ว เล่นเกมยอดนิยมได้สบายๆ.
- ความทนทาน: หลายคนบอกว่าน้องอึด ถึก ทนพอสมควรเลยนะ แม้จะมีรอยหรือจอแตกบ้างก็ยังใช้งานได้ (แต่อันนี้ก็แล้วแต่การดูแลของเจ้าของเดิมด้วยนะ!).
- ความคุ้มค่า (ในราคาปัจจุบัน): เมื่อเทียบกับราคาที่จ่ายไปในตลาดมือสอง กับสิ่งที่ได้ ทั้งประสิทธิภาพ กล้อง และความพรีเมียมของแบรนด์ หลายคนมองว่ายังคง "คุ้มค่า" อยู่จ้า.
ข้อติที่เจอส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องแบตเตอรี่ที่อาจจะเริ่มเสื่อมตามอายุ และอาจจะเครื่องร้อนง่ายบ้างถ้าใช้งานหนักๆ.
7. แล้วจะไปหาซื้อ iPhone XS Max มือสองได้จากช่องทางไหนดี?
อย่างที่บอกไปว่าตลาดหลักคือมือสองนะจ๊ะ ช่องทางที่แนะนำให้ไปส่องหาเนี่ย มีตามนี้เลย:
- แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซยอดนิยม: Shopee และ Lazada คือแหล่งใหญ่เลย มีร้านค้าและผู้ขายรายย่อยให้เลือกเยอะมาก สามารถเปรียบเทียบราคา สภาพเครื่อง อ่านรีวิวจากผู้ซื้อคนอื่นก่อนได้ มีระบบการชำระเงินที่ปลอดภัย แต่ข้อเสียคือไม่ได้เห็นของจริงด้วยตาตัวเอง ต้องพึ่งรูปภาพและรายละเอียดที่ผู้ขายให้มา
- กลุ่มซื้อขาย iPhone มือสองใน Facebook: อันนี้ก็เป็นอีกแหล่งที่ฮิตมากๆ นะ ส่วนใหญ่จะเป็นการซื้อขายระหว่างผู้ใช้ด้วยกันเอง บางทีได้ราคาดี ได้พูดคุยสอบถามข้อมูลกับเจ้าของเดิมโดยตรง แต่ก็ต้องระมัดระวังมิจฉาชีพด้วยนะ ทางที่ดีควร นัดเจอเพื่อดูของและจ่ายเงิน จะปลอดภัยที่สุดจ้า
- ร้านค้าโทรศัพท์มือสองโดยเฉพาะ: ตามห้างสรรพสินค้า หรือตู้โทรศัพท์ต่างๆ อาจจะมีร้านที่รับซื้อขายมือสองโดยเฉพาะ ข้อดีคือได้ ลองจับ ลองเช็คสภาพ เครื่องจริงก่อนซื้อ ได้สอบถามกับคนขายโดยตรง แต่ราคาก็อาจจะสูงกว่าออนไลน์เล็กน้อย
ช่องทางทางการอย่าง Apple Store (Apple Iconsiam) หรือตัวแทนจำหน่ายอย่าง Studio 7, iStudio by Copperwired เค้าจะเน้นขายรุ่นปัจจุบันและมือหนึ่งเป็นหลัก ดังนั้นถ้าจะหา XS Max ต้องไปตามช่องทางมือสองตามที่บอกไปนะ
8. สรุปแล้ว iPhone XS Max มือสอง ยังน่าซื้อไหม? เหมาะกับใคร?
มาถึงโค้งสุดท้ายแล้ว! ถามว่า iPhone XS Max มือสอง ยังน่าสอยอยู่ไหมในปีนี้? ตอบเลยว่า "น่าสอยมากๆ ถ้าตรงกับความต้องการและงบประมาณของคุณ" จ้า. มันเหมาะกับคนที่:
- มีงบประมาณจำกัด แต่อยากได้สมาร์ทโฟนแบรนด์ Apple ที่จอใหญ่ ประสิทธิภาพดีพอตัว
- ชอบดูหนัง เล่นเกม บนจอใหญ่ๆ แบบเต็มตา
- ไม่ได้ต้องการฟีเจอร์ใหม่ล่าสุด หรือกล้องที่เทพที่สุดในตลาด
- ต้องการความลื่นไหลและความเสถียร ของระบบ iOS
- อยากลองใช้ iPhone จอใหญ่ ในราคาที่เข้าถึงง่าย
ถ้าคุณเป็นคนกลุ่มนี้ การซื้อ iPhone XS Max มือสอง ในราคาประมาณ 6,xxx - 1x,xxx บาท ถือว่า "คุ้มค่าตัว" อยู่เลยนะ ได้ iPhone จอใหญ่ ได้กล้องที่ดีพอใช้ ได้ความลื่นไหลแบบ Apple ในราคาที่สบายกระเป๋ามากๆ
แต่ถ้าคุณเป็นคนที่ซีเรียสเรื่องแบตเตอรี่ต้องอึดมากๆ (เพราะมือสองแบตอาจจะเสื่อมแล้ว), ต้องการอัปเดตซอฟต์แวร์ไปได้อีกหลายปี (รุ่นเก่าอาจจะได้อัปเดตจำกัดลง), ต้องการฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่มีในรุ่นหลังๆ เช่น กล้องที่ดีกว่ามากๆ, ระบบกันสั่นเทพๆ, หรือชิปที่แรงกว่าเพื่อเล่นเกมกราฟิกโหดๆ แบบสุดๆ ก็อาจจะต้องลองพิจารณารุ่นที่ใหม่ขึ้นไปอีก หรือดูเป็น iPhone รุ่นใหม่ๆ ที่ราคาถูกลงมาหน่อยแทนนะ
สรุปง่ายๆ คือ iPhone XS Max มือสอง เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่อยากได้ iPhone จอใหญ่ ในงบประหยัด เน้นการใช้งานทั่วไป ดูหนัง เล่นเกมเบาๆ ถ่ายรูปสวยงามในระดับหนึ่ง แต่ต้องยอมรับสภาพเครื่องและสุขภาพแบตเตอรี่ที่อาจจะไม่เต็มร้อย และไม่มีประกันศูนย์แล้วนะจ๊ะ! ใครรับได้ จัดเลย คุ้มแน่นอน! ขอให้ทุกคนได้เครื่องที่ถูกใจนะจ๊ะ บ๊ายบาย!
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
แนะนำสำหรับคุณ
กล่องกระดาษใส่ของร้อน ราคาถูก ซื้อจากโรงงาน แพ็คละเท่าไหร่? ยี่ห้อไหนดี?
น้ำหอม Bvlgari Omnia ราคาเคาน์เตอร์ รุ่นไหนหอมติดทนสุด? ซื้อกลิ่นไหนดี?
Samsung UA75RU7100KXXT (ทีวี 75 นิ้ว) ราคาล่าสุด 2567 คุ้มกับขนาดจอใหญ่ไหม?
Samsung Galaxy A50 ราคาปัจจุบันปี 2567 (อัปเดตจากปี 2562) ยังน่าใช้อยู่ไหม?
ราคายาง Nitto 420S ขอบ 20 อัปเดตล่าสุด 2567 ใส่รถอะไรได้บ้าง? รีวิวครบ!
OPPO F1 ราคาล่าสุดปี 2567 (รุ่นเก่า) สเปคยังน่าใช้ไหม? ซื้อมือสองดีหรือเปล่า?