ราคารถยนต์ Mercedes-Benz E300 Bluetec Hybrid ปี 2015 มือสอง


สวัสดีค่าาา สายคลั่งรักรถหรูมาทางนี้เลยจ้า! วันนี้เจ๊จะพาไปส่องรถในฝันของใครหลายๆ คน แต่มาในเวอร์ชันที่จับต้องง่ายขึ้น นั่นก็คือ Mercedes-Benz E300 Bluetec Hybrid ปี 2015 มือสอง นั่นเอง! ใครที่กำลังเล็งๆ เบนซ์ดีเซลไฮบริดรุ่นนี้อยู่ มาฟังทางนี้ให้ดีนะจ๊ะ เจ๊จะเม้าท์ให้ฟังแบบหมดเปลือก ไม่มีกั๊ก ไม่มีอวยเกินจริง! เตรียมตัวเตรียมใจ (และเตรียมเงิน) ให้พร้อม แล้วไปดูกันเลยว่าเจ้าดาวสามแฉกตัวนี้ยังมีอะไรน่าสนใจอีกบ้าง!
1. เจ้าเบนซ์ E300 Bluetec Hybrid ปี 2015 มันคืออะไรกันนะ?
เอาล่ะ มาทำความรู้จักกับเจ้าดาวสามแฉกสุดหรูกันก่อน Mercedes-Benz E300 Bluetec Hybrid ในโฉม W212 ปี 2015 เนี่ย มันคือรถซีดานพรีเมียมจากเยอรมนีที่เค้าขึ้นชื่อเรื่องความหรูหรา ความสบาย และเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย (ในยุคนั้นนะ!) จุดเด่นของรุ่นนี้คือเค้าเป็นเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบขนาด 2.1 ลิตร พ่วงกับระบบมอเตอร์ไฟฟ้า หรือที่เราเรียกกันติดปากว่า "ดีเซลไฮบริด" นั่นแหละจ้า ทำให้ได้ทั้งความแรงแบบเครื่องยนต์ดีเซล แถมยังช่วยประหยัดน้ำมันได้อีกด้วย เรียกว่าได้ทั้งขึ้นทั้งล่องในคันเดียว!
กลุ่มผู้ใช้ที่เหมาะกับรถรุ่นนี้เหรอ? อืมม ก็ต้องเป็นคนที่อยากได้รถเก๋งซีดานขนาดใหญ่ที่นั่งสบาย ขับสนุก และดูภูมิฐานหน่อยๆ อาจจะเป็นผู้บริหาร นักธุรกิจ หรือคนที่ประสบความสำเร็จในระดับหนึ่งที่อยากได้รถที่บ่งบอกถึงความมีสไตล์ แต่ก็ยังคำนึงถึงเรื่องความประหยัดน้ำมันอยู่บ้างนะ แล้วแบรนด์ Mercedes-Benz เนี่ย เค้าก็มีประวัติยาวนานมากๆ จากประเทศเยอรมนี เป็นที่ยอมรับทั่วโลกในเรื่องคุณภาพ วิศวกรรมยานยนต์ และความหรูหรา ขับไปไหนคนก็เหลียวหลังแน่นอนจ้า
2. ราคาในตลาดมือสองไทยเป็นยังไงบ้าง?
มาถึงเรื่องที่ทุกคนรอคอย! ราคาของ Mercedes-Benz E300 Bluetec Hybrid ปี 2015 มือสอง ในตลาดบ้านเราเนี่ย ต้องบอกเลยว่า ลงมาเยอะมากๆ จากราคามือหนึ่งตอนออกป้ายแดงหลายล้านบาทเลยนะ ตอนนี้ราคาจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น สภาพรถ เลขไมล์ ปีที่จดทะเบียน (บางคันปี 2015 อาจจะจดปี 2016) ออปชันของรถ (ตัว AMG Dynamic จะราคาสูงกว่า) และแหล่งที่เราไปซื้อด้วยนะ
จากการสำรวจตลาดคร่าวๆ ราคาของรุ่นปี 2015 เนี่ย จะอยู่ในช่วงประมาณ 500,000 - 700,000 บาท (฿) โดยประมาณจ้า บางคันที่สภาพสวยกริ๊บ เลขไมล์น้อย ออปชันเต็ม หรือเป็นตัว AMG Dynamic ก็อาจจะเห็นราคาที่ 600,000 บาทปลายๆ หรือ 700,000 บาทต้นๆ ก็มีนะ ส่วนคันที่เลขไมล์สูงหน่อย หรือสภาพอาจจะไม่เพอร์เฟกต์เท่า ก็อาจจะเจอราคาที่ห้าแสนต้นๆ ได้เหมือนกัน แหล่งที่เราจะเจอรถรุ่นนี้ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเต็นท์รถมือสองชั้นนำ หรือแพลตฟอร์มออนไลน์สำหรับรถมือสองโดยเฉพาะ เช่น One2car.com หรือ TaladROD.com พวกนี้เค้าจะมีรถให้เลือกเยอะ เปรียบเทียบราคาง่าย แต่ถ้าถามหาร้านแบบ Central, Big C หรือพวก JIB, Banana IT อันนั้นเค้าขายเครื่องใช้ไฟฟ้ากับอุปกรณ์ไอทีจ้า ไม่ได้ขายรถนะ! 😂 ส่วนเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนนี่ไม่ต้องคิดมากสำหรับรถมือสองนะจ๊ะ ราคาในไทยก็คือตามกลไกตลาดมือสองในไทยเลย
3. แล้วเทียบกับรถรุ่นอื่นล่ะ คุ้มค่าน่าโดนไหม?
ถ้าให้เอาเจ้า E300 Bluetec Hybrid ปี 2015 มือสอง ไปเทียบกับรถเก๋งซีดานขนาดใกล้เคียงกันในตลาดมือสองด้วยกันเนี่ย ต้องบอกว่าในช่วงราคาห้าแสนปลายๆ ถึงเจ็ดแสนบาทเนี่ย เราได้รถยุโรประดับพรีเมียม ได้แบรนด์ Mercedes-Benz ได้รถดีเซลไฮบริดที่ช่วยประหยัดน้ำมัน แถมออปชันยังจัดเต็มมากๆ เมื่อเทียบกับรถญี่ปุ่นในระดับราคาเดียวกัน หรืออาจจะใหม่กว่าปีเดียวกันด้วยซ้ำไปนะ แต่ก็ต้องยอมรับว่ารถยุโรปมือสอง โดยเฉพาะรุ่นไฮบริด อาจจะมีเรื่องค่าบำรุงรักษาที่สูงกว่ารถญี่ปุ่นทั่วไปอยู่บ้าง โดยเฉพาะค่าเปลี่ยนแบตเตอรี่ไฮบริดที่หลายคนกังวล (แต่เดี๋ยวนี้ราคาไม่ได้น่ากลัวเท่าเมื่อก่อนแล้วนะ!) แต่ถ้ามองในแง่ของภาพลักษณ์ ความหรูหรา และเทคโนโลยีที่ได้ในราคาประมาณนี้ ถือว่า "คุ้มค่า" เลยทีเดียวสำหรับคนที่ยอมรับเรื่องค่าดูแลได้นะ
4. ซื้อแล้วจะได้อะไรติดไม้ติดมือมาบ้าง?
การซื้อรถมือสองเนี่ย สิ่งที่ได้มาจะแตกต่างกันไปในแต่ละคันเลยจ้า ไม่เหมือนซื้อรถป้ายแดงที่ได้ของครบชุดจากโรงงาน สิ่งที่ควรเช็คและสอบถามคนขายให้ดีเวลาดู E300 Bluetec Hybrid ปี 2015 มือสอง ก็คือ:
- ตัวรถ: สภาพภายนอก ภายในเป็นยังไง มีรอยบุบ รอยขีดข่วนเยอะไหม เบาะช้ำ แตกขาด หรือเปล่า อุปกรณ์ภายในต่างๆ ใช้งานได้ปกติไหม เช่น ระบบไฟฟ้า แอร์ เครื่องเสียง
- กุญแจ: ได้กี่ดอก มีครบสองดอกไหม
- คู่มือรถและ Book Service: อันนี้สำคัญมาก! เพื่อให้รู้ประวัติการเข้าศูนย์และการดูแลที่ผ่านมา
- ยางอะไหล่และเครื่องมือประจำรถ: มีครบหรือเปล่า
- ประกัน: ส่วนใหญ่รถมือสองจะไม่มีประกันศูนย์แล้วนะ แต่บางเต็นท์อาจจะมีประกันเครื่องยนต์ เกียร์ หรือระบบไฮบริดให้เล็กน้อย เป็นประกันของทางเต็นท์เอง ซึ่งอันนี้ต้องสอบถามและอ่านรายละเอียดให้ชัดเจนเลยจ้า คนไทยเราค่อนข้างให้ความสำคัญกับการรับประกันเนอะ!
- ของแถม/โปรโมชั่น: ถ้าซื้อจากเต็นท์ บางทีเค้าอาจจะมีแถมพวก น้ำมันเครื่อง ถ่ายของเหลว หรือเคลือบสีให้ก่อนส่งมอบรถนะ ส่วนเรื่องฟรีค่าจัดส่ง อันนี้ไม่มีแน่นอนจ้า เพราะรถต้องไปดูเอง ลองขับเองเป็นหลักนะ!
5. มีช่วงไหนน่าซื้อเป็นพิเศษไหมนะ?
ถ้าอยากได้ E300 Bluetec Hybrid มือสอง ในราคาดีๆ เนี่ย ก็เหมือนกับการช้อปปิ้งอื่นๆ นั่นแหละจ้า ช่วง "โปรโมชั่น" คือโอกาสทอง! แม้จะเป็นตลาดรถมือสอง แต่เต็นท์รถใหญ่ๆ หรือผู้ขายรายย่อยบนแพลตฟอร์มออนไลน์ก็มักจะมีโปรโมชั่นออกมาดึงดูดลูกค้าอยู่เรื่อยๆ นะ
ช่วงเทศกาลใหญ่ๆ ของไทย อย่าง สงกรานต์ หรือช่วงปลายปี (ใกล้ปีใหม่) บางทีเต็นท์รถก็จะมีแคมเปญลดราคา จัดไฟแนนซ์ดอกเบี้ยพิเศษ หรือมีของแถมอื่นๆ นะ ส่วนพวกโปรโมชั่น 11.11 หรือ 12.12 แบบของ Lazada Shopee เนี่ย อันนั้นก็อาจจะมีพวกโปรโมชั่นสำหรับอุปกรณ์ดูแลรักษารถยนต์ หรือประกันรถยนต์ที่น่าสนใจแทนนะ
นอกจากนี้ ลองติดตามเพจ Facebook ของเต็นท์รถมือสองใหญ่ๆ หรือติดตามผู้ขายบนแพลตฟอร์มอย่าง One2car, Taladrod ดูนะ บางทีเค้าลงรถใหม่ๆ หรือมีโปรโมชั่นเด็ดๆ ออกมาแบบไม่ทันตั้งตัวเลยก็มี! สรุปคือ ถ้าเจอคันที่ถูกใจในสภาพที่รับได้ในราคาที่ใช่ ก็อย่ารอช้า แต่ถ้าอยากได้ราคาดีสุดๆ ลองรอช่วงโปรโมชั่นของเต็นท์รถดูจ้า
6. คนไทยที่เคยใช้เค้ารู้สึกยังไงกันบ้าง?
จากการที่เจ๊ไปแอบส่องตามเว็บบอร์ดหรือกลุ่มรีวิวรถต่างๆ ของคนไทยที่เคยใช้ Mercedes-Benz E300 Bluetec Hybrid W212 (รุ่นปี 2015 ก็อยู่ในโฉมนี้แหละ) ส่วนใหญ่เค้าก็จะมีฟีดแบ็กประมาณนี้นะ:
- ความประหยัดน้ำมัน: อันนี้หลายคนชอบเลย เพราะเป็นดีเซลไฮบริด ก็จะประหยัดกว่าเครื่องยนต์ดีเซลธรรมดา หรือเบนซินแน่นอน
- สมรรถนะดี ขับสนุก: เครื่องยนต์ดีเซลพ่วงมอเตอร์ไฟฟ้าให้แรงบิดดี ขับสนุกทั้งในเมืองและนอกเมือง
- ความนุ่มนวล นั่งสบาย: สไตล์เบนซ์เค้าแหละ นั่งสบาย ขับทางไกลไม่เมื่อย
- ออปชันเยอะ: รุ่นท็อปๆ อย่าง AMG Dynamic ออปชันจัดเต็มมากๆ ทั้งหลังคาแก้ว พาโนรามิกซันรูฟ ระบบนำทาง กล้องรอบคัน
- ภาพลักษณ์ดี: ขับเบนซ์ยังไงก็ดูดี ดูภูมิฐานในสายตาคนไทย
แต่ก็มีข้อกังวลที่คนมักจะพูดถึงเหมือนกันนะ โดยเฉพาะเรื่องค่าบำรุงรักษา โดยเฉพาะค่าเปลี่ยนแบตเตอรี่ไฮบริดที่เคยเป็นประเด็นราคาแพงมากๆ (ถึงแม้ตอนนี้ราคาจะลดลงจากเมื่อก่อนแล้ว แต่ก็ยังเป็นหลักแสนอยู่ดีนะจ๊ะ เตรียมเงินไว้หน่อยก็ดี!) บางคนก็เจอเรื่องจุกจิกเล็กๆ น้อยๆ ตามอายุรถมือสองบ้าง
7. แล้วจะไปหาซื้อได้ที่ไหนดีล่ะ?
สำหรับ Mercedes-Benz E300 Bluetec Hybrid ปี 2015 มือสอง เนี่ย ช่องทางหลักๆ ที่เราจะไปเจอเลยก็คือ:
- เต็นท์รถมือสองขนาดใหญ่: พวกนี้จะมีรถให้เลือกเยอะ คุณภาพรถส่วนใหญ่จะผ่านการตรวจสอบมาบ้าง และอาจจะมีบริการหลังการขายหรือการรับประกันจากเต็นท์ให้ด้วย สามารถเข้าไปดูรถ ลองจับ ลองนั่ง ลองขับได้จริง
- แพลตฟอร์มออนไลน์สำหรับรถมือสอง: เช่น One2car.com, TaladROD.com พวกนี้เป็นแหล่งรวมรถจากทั้งเต็นท์รถและเจ้าของรถโดยตรง มีรถให้เลือกเยอะมากๆ ทั่วประเทศ เปรียบเทียบราคาได้ง่าย แต่ข้อเสียคือต้องดูรูปและรายละเอียดให้ดี ถ้าสนใจจริงๆ ก็ต้องติดต่อไปนัดดูรถจริงอีกที
- ซื้อจากเจ้าของโดยตรง: อันนี้อาจจะเจอในกลุ่มซื้อขายรถยนต์ใน Facebook หรือตามเว็บไซต์ประกาศขายรถต่างๆ ข้อดีคืออาจจะได้ราคาที่ถูกกว่าซื้อผ่านเต็นท์ เพราะไม่มีบวกเพิ่มจากคนกลาง แต่ข้อเสียคือเราต้องดูรถเป็นเองมากๆ ตรวจสอบประวัติและสภาพรถให้ละเอียด และไม่มีการรับประกันใดๆ นะจ๊ะ!
ส่วนช่องทาง Official ของ Mercedes-Benz ประเทศไทย เค้าก็จะเน้นขายรถใหม่เป็นหลักจ้า รุ่นปี 2015 ก็จะไปอยู่ในตลาดมือสองแล้วนะ
8. สรุปแล้วน่าซื้อไหม? เหมาะกับใครกันนะ?
มาถึงช่วงโค้งสุดท้ายแล้ว! ถามว่า Mercedes-Benz E300 Bluetec Hybrid ปี 2015 มือสอง ยังน่าซื้ออยู่ไหมในปีนี้? ถ้าเจ๊ฟันธงให้เลยก็คือ "น่าซื้อมากๆ" สำหรับคนที่มองหารถที่:
- มีงบประมาณประมาณห้าแสนปลายๆ ถึงเจ็ดแสนบาท
- อยากได้รถยุโรปพรีเมียม แบรนด์ Mercedes-Benz ที่ให้ภาพลักษณ์ที่ดี
- ต้องการรถซีดานขนาดใหญ่ นั่งสบาย ขับสนุก
- ให้ความสำคัญกับความประหยัดน้ำมัน (สำหรับรถระดับนี้)
- ยอมรับเรื่องค่าบำรุงรักษาที่อาจจะสูงกว่ารถญี่ปุ่นได้ และเตรียมงบประมาณสำหรับดูแลไว้ด้วย (โดยเฉพาะเรื่องแบตเตอรี่ไฮบริด!)
ถ้าคุณเป็นคนเหล่านี้ เจ้า E300 Bluetec Hybrid ปี 2015 มือสอง คือตัวเลือกที่คุ้มค่ามากๆ ในราคาที่เข้าถึงได้นะ ได้รถที่เคยมีมูลค่าหลายล้านบาทมาใช้ในราคาไม่ถึงล้าน ได้ความสบาย ความหรูหรา และสมรรถนะที่ดีในราคาที่น่าคบหา แต่ก็ต้องทำใจว่ามันคือรถมือสองที่มีอายุแล้ว ก็ต้องมีการดูแลตามสภาพนะจ๊ะ!
ส่วนจะเลือกรุ่นย่อยไหนดีระหว่างตัวธรรมดากับ AMG Dynamic อันนี้ก็แล้วแต่งบและความชอบเลยจ้า ถ้าชอบความสปอร์ต ออปชันจัดเต็ม ก็มองหาตัว AMG Dynamic แต่ถ้าเน้นใช้งาน ออปชันพื้นฐานของเบนซ์ก็เพียงพอแล้ว ก็เลือกตัวธรรมดาได้ ราคาก็จะสบายกระเป๋าลงไปอีกหน่อย
หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ทุกคนที่กำลังเล็งๆ เจ้า Mercedes-Benz E300 Bluetec Hybrid ปี 2015 มือสอง ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นนะจ๊ะ ขอให้ได้รถที่ถูกใจ และมีความสุขกับการขับดาวสามแฉกนะจ๊ะ! บ๊ายบายยย!
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
- ซื้อรถ mercedes-benz e-class E300 2-1-bluetec-hybrid ถึงปี ...
- ซื้อรถ Mercedes-Benz E-Class E300 2.1 BLUETEC Hybrid รถ ...
- ซื้อรถ Mercedes-Benz E-Class E300 w212-ปี-10-16 มือสอง ไฮบ ...
- ซื้อรถ Mercedes-Benz E-Class E300 2.1 BLUETEC Hybrid มือ ...
- ซื้อรถ mercedes-benz e-class E300 2-1-bluetec-hybrid มือสอง ...
แนะนำสำหรับคุณ
กางเกงยีนส์ Diesel ราคาล่าสุด รุ่นยอดนิยม มีแบบไหนน่าสนใจบ้าง
Personal Lift หรือ ลิฟต์บ้าน ราคาเท่าไหร่? ติดตั้งแบบไหนดี
Habitat ลดราคา จัดโปรโมชั่นอะไรบ้าง? สินค้าแต่งบ้านน่าสอย
ราคา คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ HP 280 G2 MT ล่าสุด! สเปกคุ้มค่า ทำงาน/เล่นเกมส์ได้ไหม?
External DVD Drive ราคาเท่าไหร่? เลือกแบบไหนดี? พกพาง่าย ใช้สะดวก
ราคา Porsche 911 ล่าสุด! รถสปอร์ตในฝัน รุ่นไหนน่าจับตามองที่สุด?