ราคา มอเตอร์ไซค์ Kawasaki Ninja ZX-4R และ ZX-4RR สปอร์ตเรพลิก้า

โย่วๆ เหล่าไบค์เกอร์ทั้งหลาย! วันนี้เราจะมาว่ากันด้วยเรื่องรถสปอร์ตทรงหล่อจากค่ายยักษ์เขียว Kawasaki ที่ทำเอาหลายคนน้ำลายหก นั่นก็คือเจ้า Ninja ZX-4R และพี่น้องร่วมไส้อย่าง Ninja ZX-4RR นั่นเอง! ใครที่กำลังมองหารถสปอร์ตเรพลิก้า แต่ไม่ใหญ่เทอะทะจนเกินไป แถมได้ฟีลซิ่งเหมือนรถสนาม มามุงตรงนี้เลยจ้า เราจะมาเจาะลึกให้ฟังแบบหมดเปลือก พร้อมบอกว่าต้องกำเงินไปเท่าไหร่ถึงจะได้มาจอดหล่อๆ ที่บ้าน เตรียมตัวให้พร้อม แล้วไปสตาร์ทเครื่องกันเลย!

1. น้องนินจาสี่สูบตัวนี้มันคือใคร มาจากไหน?

เอาล่ะ มาทำความรู้จักเจ้า Kawasaki Ninja ZX-4R/ZX-4RR กันก่อน นี่คือมอเตอร์ไซค์แนวซูเปอร์สปอร์ตพิกัด 400 ซีซี จากแบรนด์ระดับโลกอย่าง Kawasaki ที่มีต้นกำเนิดจากประเทศญี่ปุ่น เค้าคือผู้เชี่ยวชาญด้านมอเตอร์ไซค์สมรรถนะสูงมานานแล้วจ้า ตัวนี้ถือเป็นน้องใหม่ในตระกูล ZX ที่ถอด DNA รถแข่งมาจากรุ่นพี่อย่าง ZX-10R หรือแม้แต่ได้แรงบันดาลใจจากตัวโหดอย่าง Ninja H2 บางส่วนด้วยนะ

จุดเด่นที่ทำให้เจ้าสองตัวนี้ไม่เหมือนใครในคลาสเดียวกันก็คือ เครื่องยนต์ 4 สูบเรียง DOHC ขนาด 399 ซีซี ที่เป็นเอกลักษณ์มากๆ ในยุคนี้ ปกติรถ 400 ซีซี ส่วนใหญ่บ้านเราจะเป็นเครื่อง 2 สูบกันซะเยอะ แต่คู่นี้มาแบบ 4 สูบเน้นๆ รอบจัด เสียงหวานหูมากๆ ลากได้ถึงรอบสูงปี๊ดทะลุ 15,000 รอบ/นาทีเลยทีเดียว!

กลุ่มเป้าหมายหลักๆ เลยก็คือคนที่อยากได้ฟีลลิ่งรถสปอร์ตแท้ๆ ขี่สนุกทั้งบนถนนทั่วไปและสามารถเอาไปขี่ในสนามแข่ง (Track Day) ได้แบบไม่อายใคร เหมาะกับคนที่มีประสบการณ์ขี่มอเตอร์ไซค์มาบ้างแล้ว อยากขยับซีซีขึ้นมาจากรถเล็ก หรืออยากได้รถที่น้ำหนักเบา คล่องตัว แต่ยังคงสมรรถนะที่เร้าใจไม่แพ้พวกรุ่นใหญ่

2. ราคาในตลาดไทยตอนนี้เท่าไหร่กันนะ?

มาถึงเรื่องที่ทุกคนอยากรู้ที่สุด! สำหรับราคาค่าตัวของเจ้า Kawasaki Ninja ZX-4R และ ZX-4RR ในตลาดประเทศไทย (ราคา ณ ช่วงเวลาปัจจุบันนะจ๊ะ)

• Kawasaki Ninja ZX-4R รุ่น Standard: ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ ฿299,000
• Kawasaki Ninja ZX-4R รุ่น SE: ราคาขยับขึ้นมาหน่อยอยู่ที่ประมาณ ฿320,000 (บางแหล่งอาจเห็นราคา SE สูงกว่านี้ แต่ราคาล่าสุดอิงจากปี 2024 จะอยู่ที่ราวๆ นี้)

ส่วนรุ่น Ninja ZX-4RR ที่เป็นตัวท็อปสุด สเปกแน่นๆ เหมือนรถแข่ง ถ้าเข้ามาขายอย่างเป็นทางการในไทย (ซึ่งบางแหล่งก็บอกว่ามีลุ้น) ราคาจะสูงกว่ารุ่น SE ขึ้นไปอีกจ้า จากที่เปิดตัวในต่างประเทศ คาดว่าถ้าเข้าไทยราคาอาจจะอยู่ราวๆ สามแสนกว่าบาท ปลายๆ หรืออาจจะทะลุสี่แสนไปเลยก็ได้ ต้องรอลุ้นราคานำเข้ากันอีกทีนะ

ต้องบอกก่อนว่ารถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์แบบนี้ ส่วนใหญ่เราจะซื้อจาก ศูนย์บริการและผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการของ Kawasaki โดยตรงนะจ๊ะ ไม่ได้มีขายเกลื่อนใน Lazada หรือ Shopee เหมือนพวกแกดเจ็ตหรือของใช้ทั่วไป ดังนั้นราคาที่เห็นจะเป็นราคาตั้งจากผู้จำหน่ายหลักจ้า

3. แล้วถ้าเทียบกับคันอื่นในตลาดล่ะ เป็นไงบ้าง?

ถ้าให้เทียบกับรถในคลาสใกล้เคียงกัน หรือรถในช่วงราคาใกล้ๆ กัน เจ้า Ninja ZX-4R/ZX-4RR นี่ถือว่ามีคาแรคเตอร์ที่โดดเด่นไม่เหมือนใครมากๆ เลยนะ

อย่างเช่น ถ้าเทียบกับ Honda CBR650R ที่ราคาช่วงใกล้เคียงกัน (ตอนเปิดตัว ZX-4R ราคาชนกับ CBR650R พอดีเป๊ะเลยนะ) แม้ CBR650R จะมีซีซีที่ใหญ่กว่า (650 ซีซี) และแรงม้าสูงสุดมากกว่าในรอบปกติ แต่เจ้า ZX-4R ที่เป็นเครื่อง 400 ซีซี 4 สูบเรียง ก็ให้ฟีลลิ่งการขับขี่ที่จัดจ้านในรอบสูง และมีความคล่องตัว เบากว่า เหมาะกับการเอาไปซ้อมในสนามแข่ง หรือขี่ลัดเลาะในเมืองได้ดีกว่า

หรือถ้าเทียบกับรถ 2 สูบในคลาสเดียวกันอย่าง Ninja 400 หรือคู่แข่งค่ายอื่น เจ้า ZX-4R เหนือกว่าชัดเจนเรื่องสมรรถนะของเครื่องยนต์ 4 สูบที่แรงกว่ามาก และให้เสียงที่เร้าใจกว่าเป็นเท่าตัวเลยจ้า!

สรุปคือ ถ้าเน้นความแรงรอบสูง ฟีลลิ่งสปอร์ตจ๋าๆ และเสียงหวานๆ แบบ 4 สูบในพิกัด 400 ซีซี ตอนนี้ Ninja ZX-4R/ZX-4RR คือตัวเลือกเดียวที่ตอบโจทย์ในตลาดรถใหม่นะจ๊ะ

4. ซื้อแล้วได้อะไรมาบ้าง? มีประกันให้กี่ปี?

เวลาซื้อรถบิ๊กไบค์ใหม่จากศูนย์ Kawasaki สิ่งที่เราจะได้หลักๆ เลยก็คือ:

• ตัวรถ Ninja ZX-4R หรือ ZX-4RR รุ่นที่เราเลือก พร้อมเอกสารสำคัญต่างๆ เช่น เล่มทะเบียน (เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จ)
• กุญแจรถ
• คู่มือการใช้งาน
• ชุดเครื่องมือพื้นฐาน (อาจมีหรือไม่มีขึ้นอยู่กับรุ่นและโปรโมชั่น)

ส่วนเรื่องสำคัญที่คนไทยให้ความใส่ใจสุดๆ ก็คือ การรับประกัน! รถใหม่จากศูนย์ Kawasaki จะมาพร้อมการรับประกันคุณภาพตามมาตรฐานของบริษัทฯ ซึ่งส่วนใหญ่จะครอบคลุมระยะเวลาและระยะทางที่กำหนด (เช่น 2 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) รายละเอียดตรงนี้สำคัญมาก ต้องสอบถามเงื่อนไขกับทางศูนย์ฯ ให้ชัดเจนนะจ๊ะ เพราะคนไทยเรากลัวรถเสียแล้วไม่มีที่ซ่อมนอกศูนย์ฯ กันเป็นพิเศษอยู่แล้ว!

นอกจากนี้ ในแต่ละรุ่นย่อยก็จะมีออปชันหรือของที่ติดรถมาแตกต่างกันไป เช่น รุ่น SE จะได้โช้คหน้าปรับพรีโหลดได้, มี Quick Shifter (เปลี่ยนเกียร์แบบไม่ต้องบีบคลัตช์ ทั้งขึ้นและลง), พอร์ต USB, กันล้ม และชิลด์หน้าสีสโมคมาให้เป็นมาตรฐาน เพิ่มความสะดวกและฟีลลิ่งรถแข่งไปอีก!

เรื่อง ค่าจัดส่ง เนี่ย ส่วนใหญ่ถ้าซื้อรถที่ศูนย์ฯ เราก็จะไปรับรถเองนะจ๊ะ ไม่ได้มีบริการส่งฟรีเหมือนซื้อของในแอปฯ ส่วนโปรโมชั่นหรือของแถมอื่นๆ ก็แล้วแต่ช่วงและแล้วแต่ศูนย์ฯ เลย ต้องลองสอบถามตอนที่เข้าไปดูรถนะ

5. ช่วงไหนมีโปรโมชั่นน่าสอยบ้าง?

สำหรับรถบิ๊กไบค์ การจัดโปรโมชั่นส่วนใหญ่จะมาจากทางผู้ผลิต (Kawasaki) หรือจากทางผู้จำหน่าย (ดีลเลอร์) โดยตรงจ้า ไม่ได้อิงกับเทศกาลช้อปปิ้งออนไลน์ 12.12 หรือ 11.11 สักเท่าไหร่

ช่วงที่มีโปรโมชั่นเด็ดๆ มักจะเป็น:

• ช่วงเปิดตัวรุ่นใหม่ หรือปรับสีใหม่: มักจะมีแคมเปญจูงใจออกมาช่วงแรกๆ
• งานมอเตอร์โชว์ หรือ Motor Expo: เป็นช่วงที่ค่ายรถต่างๆ ขนโปรโมชั่นมาแข่งกันเต็มที่!
• แคมเปญพิเศษของดีลเลอร์: ผู้จำหน่ายแต่ละเจ้าอาจจะมีโปรโมชั่นของตัวเอง เช่น ฟรีดาวน์, ดอกเบี้ยพิเศษ, ฟรีประกันภัย, ฟรีทะเบียน+พรบ., หรือแถมชุดแต่ง/อุปกรณ์เสริม

คำแนะนำคือ ถ้าเล็งเจ้า ZX-4R/ZX-4RR อยู่ ให้หมั่นติดตามข่าวสารจากทางเว็บไซต์หรือ Facebook Page อย่างเป็นทางการของ Kawasaki Thailand หรือเพจของผู้จำหน่าย Kawasaki ใกล้บ้านเรานะจ๊ะ การเข้าไปสอบถามที่ศูนย์ฯ โดยตรงก็เป็นวิธีที่ดีที่สุด เพราะเค้าจะให้ข้อมูลโปรโมชั่นล่าสุดและเงื่อนไขต่างๆ ได้ครบถ้วนจ้า!

6. คนไทยขี่แล้วฟีดแบ็กเป็นยังไงบ้าง?

จากเสียงตอบรับของคนที่ได้ลองขี่ Kawasaki Ninja ZX-4R ในไทยเนี่ย ส่วนใหญ่จะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เครื่องยนต์ 4 สูบเรียงมันเร้าใจจริงๆ!

• เสียงหวานหู รอบจัดสะใจ: อันนี้คือจุดขายหลักเลย ขี่แล้วได้ยินเสียงเครื่องยนต์ลากรอบสูงๆ มันฟินมากๆ
• ขี่สนุก คล่องตัว: ตัวรถไม่หนักมาก ทำให้ควบคุมง่าย เหมาะกับการใช้งานในเมืองและขี่เล่น
• ออปชันที่ให้มาคุ้มค่า (โดยเฉพาะรุ่น SE): ระบบอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เช่น โหมดขับขี่, Traction Control, และ Quick Shifter ช่วยให้ขี่สนุกและปลอดภัยมากขึ้น
• ดีไซน์สวย ดุดัน: ทรงสปอร์ตเรพลิก้าถอดแบบมาจากรุ่นพี่ ZX ทำให้ดูหล่อเหลาเอาเรื่อง

ข้อสังเกตบางส่วนก็อาจจะมีเรื่องช่วงล่างที่บางคนรู้สึกว่าเซ็ตมาค่อนข้างนุ่มนวล เหมาะกับการขี่ถนนทั่วไปมากกว่า ถ้าเอาไปขี่ในสนามแบบหนักๆ อาจจะต้องมีการปรับเซ็ตเพิ่มเติม และแน่นอน ด้วยความที่เป็นเครื่อง 4 สูบที่ต้องลากรอบสูงๆ เพื่อรีดพลัง อาจจะไม่ได้ประหยัดน้ำมันเท่าพวกรถ 2 สูบ แต่ก็แลกมาด้วยฟีลลิ่งที่ไม่เหมือนใครนะจ๊ะ!

7. อยากได้ต้องไปซื้อที่ไหน?

อย่างที่บอกไปตอนต้นว่ารถบิ๊กไบค์แบบนี้ไม่ได้มีขายในห้างทั่วไปนะจ๊ะ ช่องทางหลักและเป็นทางการที่สุดคือ:

• ศูนย์บริการและผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการของ Kawasaki: อันนี้ชัวร์สุด! ได้รถใหม่ ได้ประกัน ได้บริการหลังการขายมาตรฐาน ลองเช็ครายชื่อศูนย์ฯ ใกล้บ้านเราได้จากเว็บไซต์ Kawasaki Thailand เลยจ้า ที่ศูนย์ฯ จะมีรถให้เราไปดูตัวจริง ลองนั่ง ลองจับได้ด้วยนะ และพนักงานจะให้ข้อมูลครบถ้วนเรื่องสเปก ราคา และโปรโมชั่น

ส่วนตามแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซใหญ่ๆ อย่าง Lazada หรือ Shopee เนี่ย ถ้าเป็นตัวรถใหม่ๆ จะไม่มีขายนะจ๊ะ แต่อาจจะเจอพวกอุปกรณ์เสริม ชุดแต่ง อะไหล่ หรือสินค้าไลฟ์สไตล์จากแบรนด์ Kawasaki อยู่บ้างจ้า

8. สรุปแล้วเจ้า Ninja ZX-4R/ZX-4RR น่าสอยไหม? เหมาะกับใคร?

มาถึงช่วงสรุปแล้ว! ถามว่าเจ้า Kawasaki Ninja ZX-4R/ZX-4RR น่าซื้อไหม? ถ้าคุณกำลังมองหามอเตอร์ไซค์ที่มีคาแรคเตอร์แบบนี้ บอกเลยว่า น่าซื้อมากๆ เลยจ้า!

มันเหมาะกับ:

• คนที่หลงใหลในเสียงเครื่องยนต์ 4 สูบเรียง รอบจัดๆ ฟังแล้วมันปลุกวิญญาณนักแข่งในตัวจริงๆ!
• คนที่อยากได้รถสปอร์ตที่ขี่สนุกทั้งบนถนนและในสนาม: ด้วยขนาดที่ไม่ใหญ่และออปชันต่างๆ ที่ให้มา ทำให้มัน versatile มากๆ
• คนที่อยากขยับซีซี แต่ยังไม่พร้อมไปเล่นตัว 600+ ซีซี: เจ้า 400 ซีซี 4 สูบตัวนี้เป็นสะพานที่น่าสนใจมากๆ ให้ลองสัมผัสสมรรถนะที่สูงขึ้น
• คนที่ชอบดีไซน์สปอร์ตเรพลิก้า ดุดันแบบตระกูล ZX: จอดไว้ที่บ้านก็หล่อเหลา ขี่ไปไหนคนก็มอง

สำหรับคำถามว่าจะเลือกรุ่น Standard, SE หรือ ZX-4RR ดี ก็ขึ้นอยู่กับงบและความต้องการเลยจ้า

• รุ่น Standard: เหมาะกับคนที่อยากได้ฟีล 4 สูบในงบที่ประหยัดที่สุด เน้นขี่เล่นบนถนนเป็นหลัก
• รุ่น SE: อันนี้คุ้มค่ามากๆ เพราะได้ออปชันเด็ดๆ เพิ่มมาเยอะเลย ทั้ง Quick Shifter, โช้คหน้าปรับได้, USB เหมาะกับคนที่อยากได้ฟีลลิ่งรถสปอร์ตแบบเต็มๆ ขึ้นมาอีกหน่อย และอาจจะมีแพลนเอาไปขี่ในสนามบ้าง
• รุ่น ZX-4RR: ถ้าเข้ามาขายในไทยแบบเป็นทางการ ตัวนี้คือที่สุดของความซิ่งในคลาสนี้ ด้วยช่วงล่างที่อัปเกรดมาเต็มที่ เหมาะกับคนที่จริงจังกับการขี่ในสนามมากๆ และงบไม่ใช่ปัญหา

แม้ราคาจะใกล้เคียงกับรถบางรุ่นที่ซีซีสูงกว่า แต่สิ่งที่ได้จาก Ninja ZX-4R/ZX-4RR คือ คาแรคเตอร์เครื่องยนต์ที่เป็นเอกลักษณ์ และฟีลลิ่งสปอร์ตเรพลิก้าที่หาตัวจับยากในคลาสนี้จ้า!

หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจนะจ๊ะ ใครที่กำลังเล็งๆ เจ้าสองตัวนี้อยู่ ลองพุ่งตรงไปที่ศูนย์ Kawasaki ใกล้บ้าน แล้วไปสัมผัสตัวจริงเสียงจริงดู รับรองว่าได้ยินเสียงเครื่องยนต์แล้วจะต้องมีหวั่นไหวบ้างแหละ! ขอให้ทุกคนได้รถที่ถูกใจ แล้วออกไปซิ่ง เอ้ย! ออกไปขี่อย่างปลอดภัยและสนุกกับการเดินทางกันนะจ๊ะ! บ๊ายบายยย!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• ZX-4R ZX-4R SE ZX-4RR แตกต่างกันอย่างไร แรงม้าสูงสุดเท่าไรแน่ ...
• ZX4R 4สูบรุ่นเล็กสุดที่ให้อารมณ์ Super Bike มาก!
• รีวิว KAWASAKI Ninja ZX-4R SE สปอร์ต 4 สูบเรียง ปั่น 77 แรงม้า ...
• Kawasaki Ninja ZX-4R สุดปังสไตล์ Sport Bike !! . 🌟 Ninja ZX4R ...
• Kawasaki Ninja ZX-4RR SE 2025: สเปคและราคาใหม่