ราคา หูฟัง Ultrasone แบรนด์ดัง คุณภาพเสียงระดับสตูดิโอ รุ่นไหนน่าสนใจ


สวัสดีค่าทุกคนนน! วันนี้เราจะมาป้ายยา เอ้ย! มารีวิวหูฟังแบรนด์ดังระดับโลกจากเยอรมัน ที่เค้าบอกว่าคุณภาพเสียงระดับสตูดิโอ ใส่แล้วเหมือนหลุดไปอยู่ในห้องอัดเสียงกันเลยทีเดียว นั่นก็คือ Ultrasone นั่นเองจ้าาา ใครที่รักในเสียงเพลงแบบจริงจัง หรือทำงานด้านเสียง มามุงทางนี้เลย เพราะเราจะพาไปเจาะลึกว่าแบรนด์นี้มันดียังไง มีรุ่นไหนน่าสอยบ้าง แถมด้วยทริคช้อปยังไงให้คุ้มค่าแบบฉบับคนไทย!
1. Ultrasone คือใคร? มาจากไหน? แล้วดียังไง?
เอาล่ะ! มาทำความรู้จักกับ Ultrasone กันก่อน แบรนด์นี้เค้าเป็นผู้ผลิตหูฟังระดับไฮเอนด์จากประเทศเยอรมนี🇩🇪 ที่มีชื่อเสียงมานานในวงการเครื่องเสียงระดับโปรฯ หรือมืออาชีพด้านเสียง ไม่ว่าจะเป็นวิศวกรเสียง โปรดิวเซอร์เพลง หรือแม้แต่ดีเจ เพราะหูฟังเค้าเน้นเรื่อง ความเที่ยงตรงของเสียง (Accuracy) และ คุณภาพเสียงที่สมจริง เหมือนเรานั่งฟังอยู่ในสตูดิโอเลยล่ะ
จุดเด่นที่ทำให้ Ultrasone ไม่เหมือนใครก็คือเทคโนโลยีเฉพาะตัวอย่าง S-Logic® (Surround Sound Logic) ที่เค้าเคลมว่าจะช่วยให้เราได้ยินเสียงแบบสามมิติ มีมิติความลึก ความกว้าง เหมือนฟังจากลำโพง ไม่ใช่แค่เสียงที่ยิงตรงเข้าหู แถมยังช่วยลดแรงดันเสียงที่กระทำต่อแก้วหู ทำให้ฟังได้นานๆ โดยไม่เมื่อยหูอีกด้วยนะ! นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี ULE (Ultra Low Emission) ที่ช่วยลดคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากตัวหูฟัง เหมาะมากสำหรับคนที่ต้องใส่หูฟังเป็นเวลานานๆ ในแต่ละวัน ผลิตภัณฑ์ของ Ultrasone จึงเหมาะมากๆ สำหรับคนที่ต้องการหูฟังคุณภาพสูงเพื่อการทำงานด้านเสียงโดยเฉพาะ หรือออดิโอไฟล์ที่ต้องการสุดยอดคุณภาพเสียงสำหรับการฟังเพลงแบบดื่มด่ำ
2. ราคาในตลาดไทยเป็นยังไงบ้างนะ?
มาถึงเรื่องสำคัญที่ทำให้หลายคนสะดุ้งโหยง นั่นก็คือ "ราคา" นั่นเอง! ต้องบอกเลยว่า Ultrasone เนี่ยเค้าไม่ใช่หูฟังราคาเบาๆ ที่ใครๆ ก็เอื้อมถึงได้ง่ายๆ นะจ๊ะ เพราะเค้าเน้นคุณภาพระดับสตูดิโอ ราคาก็เลยจะสูงตามไปด้วย ในตลาดไทย ราคา Ultrasone จะมีความหลากหลายมากๆ ขึ้นอยู่กับรุ่นและซีรีส์
ถ้ารุ่นระดับเริ่มต้นสำหรับคนที่อยากสัมผัสคุณภาพเสียง Ultrasone อย่างเช่นตระกูล PRO (Professional) อย่างรุ่น PRO 480i ซึ่งเป็นรุ่นเริ่มต้นในกลุ่มสตูดิโอ ราคามือหนึ่งอาจจะอยู่ที่ประมาณ 5,xxx - 8,xxx บาท (฿) ขึ้นอยู่กับร้านและโปรโมชั่น ส่วนรุ่นที่ราคาสูงขึ้นมาหน่อยในตระกูล Performance อย่าง Performance 880 ราคาจะขยับขึ้นมาที่ประมาณ 1x,xxx - 2x,xxx บาท (฿)
สำหรับรุ่นระดับสูงหรือซีรีส์ Signature หรือ Edition ที่เน้นวัสดุและคุณภาพเสียงระดับท็อปอันนี้ราคาพุ่งไปไกลเลยจ้า อย่าง Signature Master MkII เจอใน Shopee ราคาแตะ 3x,xxx บาท (฿) ส่วนรุ่น Limited อย่าง Edition 10 เคยมีคนปล่อยมือสองที่ 5x,xxx บาท (฿) และของใหม่อยู่เกือบๆ แสนบาท เรียกว่าต้องเป็นสายเปย์ตัวจริงเสียงจริง!
ถ้าลองไปดูตามแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซใหญ่ๆ อย่าง Lazada หรือ Shopee ก็พอจะเจอร้านที่นำเข้ามาขายบ้าง แต่ตัวเลือกอาจจะไม่เยอะเท่าแบรนด์แมสอื่นๆ นะ ส่วนใหญ่จะเป็นร้านที่เน้นสินค้าออดิโอโดยเฉพาะ หรือบางทีก็เป็นร้านในกลุ่มสินค้านำเข้า ร้านค้าไอทีทั่วไปอย่าง JIB, Banana IT, Power Buy มักจะไม่ค่อยมีแบรนด์นี้วางขายจ้า ส่วนเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน ถ้าเทียบกับราคาต่างประเทศ ราคาในไทยก็อาจจะมีการบวกเพิ่มบ้างจากค่าขนส่ง ภาษีนำเข้า และค่าดำเนินการต่างๆ ซึ่งเป็นเรื่องปกติของสินค้านำเข้าจ้า
3. เปรียบเทียบราคากับหูฟังตัวอื่นในตลาด คุ้มค่าน่าโดนมั้ย?
เมื่อเอา Ultrasone ไปเทียบกับหูฟังแบรนด์อื่นในระดับราคาเดียวกัน หรือในกลุ่มหูฟังสตูดิโอ/ออดิโอไฟล์ด้วยกัน เช่น Sennheiser HD ซีรีส์, Beyerdynamic DT ซีรีส์, Audio-Technica ATH-M ซีรีส์ หรือ Focal ต้องบอกว่า Ultrasone เค้ามีตำแหน่งทางการตลาดที่ค่อนข้างชัดเจน คือเน้นไปที่ คุณภาพเสียงที่เป็นกลาง เที่ยงตรง และเทคโนโลยี S-Logic® ที่ให้มิติเสียงที่แตกต่าง
ถ้าวัดกันที่ "ราคาเริ่มต้น" รุ่นอย่าง PRO 480i อาจจะพอฟัดพอเหวี่ยงกับหูฟังสตูดิโอเริ่มต้นของแบรนด์อื่นได้นะ แต่ถ้าขยับขึ้นไปซีรีส์ Performance หรือ Signature ราคา Ultrasone ก็จะสูงขึ้นอย่างชัดเจน เมื่อเทียบกับคู่แข่งในระดับใกล้เคียงกัน ซึ่งตรงนี้ต้องดูว่าเราให้ความสำคัญกับอะไร ถ้าเน้นแค่หูฟังสตูดิโอสำหรับมอนิเตอร์ทั่วๆ ไป แบรนด์อื่นอาจจะมีตัวเลือกในราคาที่เข้าถึงง่ายกว่า แต่ถ้าต้องการเทคโนโลยี S-Logic® หรือ ULE รวมถึงคุณภาพเสียงในแบบฉบับ Ultrasone ที่เป็นเอกลักษณ์ อันนี้ Ultrasone ก็ถือว่ามี "ความคุ้มค่า" ในแง่ของ เทคโนโลยีเฉพาะตัวและคุณภาพเสียงระดับโปรฯ ที่หาจากแบรนด์อื่นไม่ได้ในราคาเท่ากันนะ บางคนอาจจะรู้สึกว่าราคาสูง แต่ถ้าได้ลองฟังแล้วชอบในคาแรคเตอร์เสียงและมิติที่ได้ ก็อาจจะยอมจ่ายเพื่อสิ่งนี้!
4. ซื้อแล้วได้อะไรมาบ้าง? มีประกันให้มั้ยคนไทยชอบ!
เวลาซื้อหูฟัง Ultrasone โดยเฉพาะรุ่นใหม่ๆ หรือจากตัวแทนจำหน่ายที่น่าเชื่อถือ สิ่งที่มักจะมาในกล่องด้วยหลักๆ เลยก็คือ:
- ตัวหูฟัง: แน่นอนว่าต้องมี!
- สายเคเบิล: มักจะมีมาให้หลายเส้น สำหรับใช้งานกับอุปกรณ์ต่างๆ เช่น สายยาวสำหรับสตูดิโอ (มักจะเป็นหัว 6.3 มม.) และสายสั้นพร้อมหัว 3.5 มม. สำหรับพกพาไปฟังนอกสถานที่ บางรุ่นสายสามารถถอดเปลี่ยนได้ด้วยนะ
- หัวแปลง: จาก 3.5 มม. เป็น 6.3 มม. (หรือกลับกัน) สำหรับใช้กับอุปกรณ์ที่หลากหลาย
- กระเป๋าหรือเคสสำหรับพกพา/เก็บรักษา: หูฟังราคาหลักหมื่นหลักแสน เค้ามีกระเป๋าดีๆ มาให้ใส่แน่นอนจ้า
- คู่มือการใช้งาน: เป็น CD หรือเอกสาร
ส่วนเรื่อง ค่าขนส่ง ถ้าซื้อออนไลน์ส่วนใหญ่จะมีตัวเลือกการจัดส่งให้เลือก ทั้งแบบฟรีหรือไม่ฟรี ก็ต้องดูเงื่อนไขของแต่ละร้านจ้า
และเรื่องสำคัญที่คนไทยให้ความสำคัญมากๆ ก็คือ การรับประกัน! สำหรับหูฟัง Ultrasone ที่ซื้อจากตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในไทย หรือร้านที่นำเข้ามาอย่างถูกต้อง มักจะมีการรับประกันสินค้าให้ โดยทั่วไปอาจจะอยู่ที่ 1 ปี หรือบางรุ่นอาจจะนานถึง 5 ปี สำหรับบางชิ้นส่วน ซึ่งอันนี้ต้องเช็คกับผู้ขายแต่ละรายให้ชัดเจนก่อนซื้อนะ เพราะระยะเวลาประกันอาจแตกต่างกันไป และเงื่อนไขการเคลมหรือส่งซ่อมก็ต้องสอบถามด้วยว่ามีศูนย์บริการในไทยหรือไม่ หรือต้องส่งไปต่างประเทศ ซึ่งอาจใช้เวลานานและมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ถ้าซื้อหูฟังมือสอง อันนี้แทบจะไม่มีประกันแล้วนะ อย่างมากก็เป็นประกันใจจากผู้ขายไม่กี่วัน ต้องยอมรับความเสี่ยงตรงนี้จ้า
ส่วนเรื่องของแถมหรือโปรโมชั่น อันนี้แล้วแต่ช่วงและแล้วแต่ร้านเลย บางทีอาจจะมีแถมขาตั้งหูฟัง ผ้าเช็ด หรือโค้ดส่วนลดเล็กๆ น้อยๆ จ้า
5. มีช่วงโปรโมชั่นน่าสอยบ้างไหม? ช้อปออนไลน์คุ้มกว่าจริงเหรอ?
ถ้าถามว่ามีช่วงไหนที่น่าสอย Ultrasone เป็นพิเศษไหม? แน่นอนว่าช่วง เทศกาลช้อปปิ้งใหญ่ๆ เนี่ยมีโอกาสลุ้นโปรโมชั่นลดราคาได้อยู่เหมือนกันนะ ถึงแม้ Ultrasone จะเป็นแบรนด์เฉพาะกลุ่ม แต่ร้านค้าบางแห่งอาจจะเข้าร่วมแคมเปญใหญ่ๆ บนแพลตฟอร์มอย่าง Lazada หรือ Shopee ในช่วง 11.11, 12.12 หรือแม้แต่ช่วงเทศกาลไทยอย่าง สงกรานต์ หรือปีใหม่
ร้านค้าระดับแฟลกชิพสโตร์ (ถ้ามี Official Store ของ Ultrasone ในไทย ซึ่งปัจจุบันอาจจะยังไม่เห็นชัดเจนเท่าไหร่) หรือร้านค้าที่เป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ มักจะมีการจัดโปรโมชั่นหรือออกโค้ดส่วนลดอยู่เรื่อยๆ นะ ดังนั้น ถ้าเล็งรุ่นไหนไว้แล้วไม่รีบมาก แนะนำให้ หมั่นเข้าไปเช็คราคา ในช่วงใกล้ๆ เทศกาลหรือช่วงปลายเดือนต้นเดือนที่มักจะมีโปรโมชั่น ส่วนลด หรือโค้ดส่งฟรีออกมา การซื้อออนไลน์บนแพลตฟอร์มใหญ่ๆ ก็มีข้อดีตรงที่เราสามารถเปรียบเทียบราคาจากหลายๆ ร้านได้ง่าย มีระบบการชำระเงินที่ปลอดภัย และบางทีมีระบบสะสมแต้มหรือแคชแบ็กให้ด้วยนะ
6. คนไทยที่ใช้ Ultrasone เค้าว่ากันว่ายังไงบ้าง?
จากที่ลองไปส่องตามเว็บบอร์ดหรือกลุ่มพูดคุยเรื่องหูฟังในไทย เสียงตอบรับเกี่ยวกับ Ultrasone ค่อนข้างไปในทางที่ดีนะ โดยเฉพาะคนที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพเสียงระดับจริงจัง จุดที่คนไทยมักจะพูดถึงในแง่ดีก็คือ:
- คุณภาพเสียง: อันนี้เป็นเรื่องหลักที่ทุกคนชมเลยว่าเสียงดี สมจริง ได้ยินรายละเอียดชัดเจน
- เทคโนโลยี S-Logic®: หลายคนบอกว่าชอบมิติเสียงที่ได้ ฟังแล้วรู้สึกโปร่ง โล่ง ไม่บีบอัดเหมือนหูฟังทั่วไป
- ความทนทาน: แม้ราคาจะสูง แต่หลายคนก็บอกว่าวัสดุดี แข็งแรง ทนทาน ใช้งานได้ยาวๆ
- ใส่สบาย: แม้บางรุ่นอาจจะดูใหญ่ แต่หลายคนก็บอกว่าใส่สบาย ไม่บีบหัว สามารถใส่ฟังได้นานๆ (แต่บางรีวิวก็บอกว่าบางรุ่นอาจบีบหัวบ้าง ต้องลองเองนะจ๊ะ)
โดยรวมแล้ว คนไทยที่ใช้ Ultrasone มักจะเป็นกลุ่มที่เข้าใจและให้คุณค่ากับคุณภาพเสียงเป็นพิเศษ ยอมลงทุนเพื่อประสบการณ์การฟังที่ดีที่สุดนั่นเอง
7. แล้วจะไปหาซื้อ Ultrasone ได้จากช่องทางไหนบ้าง?
สำหรับในประเทศไทย ช่องทางการซื้อหูฟัง Ultrasone ที่น่าเชื่อถือมีหลายทาง:
- ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ: อันนี้ชัวร์สุดเรื่องของแท้และบริการหลังการขาย รวมถึงการรับประกัน ลองค้นหาตัวแทนจำหน่าย Ultrasone ในประเทศไทยดูนะ อาจจะต้องสอบถามตามร้านเครื่องเสียงหรือสตูดิโอที่จำหน่ายอุปกรณ์โปรฯ โดยเฉพาะ
- ร้านค้าออนไลน์บนแพลตฟอร์มใหญ่: อย่าง Shopee และ Lazada เป็นแหล่งรวมร้านค้าที่นำเข้ามาขาย มีทั้งร้านที่เน้นสินค้าออดิโอโดยเฉพาะ หรือร้านค้านำเข้า ข้อดีคือสะดวก เปรียบเทียบราคาได้ง่าย มีระบบคุ้มครองผู้ซื้อ แต่ต้องเลือกร้านที่น่าเชื่อถือ ดูรีวิวและคะแนนร้านดีๆ ก่อนตัดสินใจนะ
- ร้านเครื่องเสียงหรือร้านสตูดิโอ: บางร้านที่จำหน่ายอุปกรณ์ดนตรีหรืออุปกรณ์ห้องอัดเสียง อาจจะมีหูฟัง Ultrasone วางจำหน่ายด้วย ข้อดีคือเราสามารถไป ทดลองฟังเสียง และสัมผัสของจริงก่อนตัดสินใจซื้อได้ ซึ่งสำคัญมากๆ สำหรับหูฟังระดับนี้
- ตลาดมือสอง: ในกลุ่มซื้อขายอุปกรณ์เครื่องเสียงหรือหูฟังมือสองในโซเชียลมีเดีย (เช่น Facebook) ก็เป็นอีกแหล่งที่อาจเจอ Ultrasone มือสองได้ ราคาอาจจะถูกลงเยอะ แต่ก็มีความเสี่ยงเรื่องสภาพสินค้าและการรับประกัน ต้องดูดีๆ และถ้าเป็นไปได้ควรนัดเจอเพื่อทดสอบสินค้าก่อนซื้อ
8. สรุปแล้ว Ultrasone น่าซื้อไหม? เหมาะกับใคร?
มาถึงบทสรุปกันแล้วจ้า! ถามว่าหูฟัง Ultrasone น่าซื้อไหม? ถ้าคุณเป็นคนที่ไม่ติดเรื่องงบประมาณและให้ความสำคัญกับ คุณภาพเสียงระดับสุดยอด ความเที่ยงตรงของเสียง และ เทคโนโลยีเฉพาะตัวอย่าง S-Logic® ที่ให้มิติเสียงไม่เหมือนใครล่ะก็ น่าซื้อมากๆ เลยจ้า!
Ultrasone เหมาะมากๆ สำหรับ:
- มืออาชีพด้านเสียง: วิศวกรเสียง, โปรดิวเซอร์, นักดนตรี ที่ต้องการหูฟังสำหรับมอนิเตอร์เสียงที่แม่นยำ
- ออดิโอไฟล์: คนรักเสียงเพลงที่ต้องการประสบการณ์การฟังระดับไฮเอนด์ ดื่มด่ำกับรายละเอียดเสียงแบบครบถ้วน
- คนที่ต้องใส่หูฟังนานๆ: ด้วยเทคโนโลยี ULE ที่ช่วยลดคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า และ S-Logic® ที่ช่วยลดแรงดันเสียง ทำให้ฟังได้สบายหูขึ้น
ถ้าถามว่าคุ้มค่าที่จะซื้อไหม? สำหรับกลุ่มเป้าหมายที่กล่าวมาข้างต้น ถือว่า คุ้มค่ากับเม็ดเงินที่จ่ายไปแน่นอน เพราะคุณจะได้หูฟังคุณภาพระดับสตูดิโอที่ผลิตในเยอรมนี พร้อมเทคโนโลยีที่ช่วยยกระดับประสบการณ์การฟังและการทำงานด้านเสียงของคุณ
ส่วนจะเลือกรุ่นสูงหรือรุ่นต่ำดี? อันนี้ขึ้นอยู่กับงบประมาณและการใช้งานเลยจ้า ถ้าเพิ่งเริ่มต้นและอยากสัมผัส Ultrasone ในราคาที่จับต้องได้มากขึ้น รุ่นในซีรีส์ PRO หรือ Performance ระดับเริ่มต้นก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ แต่ถ้าต้องการสุดยอดคุณภาพเสียง วัสดุระดับพรีเมียม และฟังก์ชันที่ครบครัน ซีรีส์ Signature หรือ Edition ก็ตอบโจทย์ได้เต็มที่ แต่ราคาก็จะสูงขึ้นไปอีกนะ
ดังนั้น ก่อนตัดสินใจซื้อ แนะนำให้ลองหาโอกาสไป ทดลองฟังเสียง รุ่นต่างๆ ของ Ultrasone ดูก่อน ถ้าฟังแล้วใช่ ชอบในคาแรคเตอร์เสียงที่ได้ และงบประมาณพร้อม ก็จัดเลยจ้า รับรองว่าไม่ผิดหวังกับคุณภาพเสียงระดับสตูดิโอของ Ultrasone แน่นอน!
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
แนะนำสำหรับคุณ
โทรศัพท์ Samsung Galaxy A9s ราคามือสองล่าสุดตอนนี้เท่าไหร่
แหวนทอง 2 กรัม ราคาเท่าไหร่? อัปเดตราคาล่าสุดและลายยอดนิยม
อังกะลุงราวและอังกะลุงเดี่ยว ราคาเท่าไหร่? ซื้อที่ไหนได้มาตรฐาน
น้ำหวานเฮลซ์บลูบอย ราคาเท่าไหร่? ขวดเล็ก ขวดใหญ่ อัปเดตล่าสุด
ปรีแอมป์คาราโอเกะ Proeuro Tech PRE-777USB ราคาล่าสุด เสียงดีไหม
หุ่นยนต์สุนัข Sony Aibo ราคาเท่าไหร่? มีขายในไทยหรือไม่