อยากได้ รถยนต์ ราคา 250,000 บาท มีรุ่นไหนน่าสนใจบ้าง?


สวัสดีค่าชาวงบน้อยแต่ร้อยสิบ! ใครกำลังเล็งหารถยนต์คู่ใจสักคันไว้ขับไปทำงาน ไปเที่ยว หรือรับลูกไปโรงเรียน แต่มีงบแบบว่า… เอาน่า! ไม่เกิน 250,000 บาท ใช่ไหมล่ะ? ไม่ต้องกังวลไปจ้า! แม้ว่างบนี้อาจจะไม่ได้ถอยป้ายแดงหอมๆ ออกจากโชว์รูม แต่ในตลาดรถมือสองบ้านเราเนี่ย บอกเลยว่ามีตัวเลือกน่าสนใจซ่อนอยู่เพียบ! วันนี้เราจะมาส่อง มาเม้าท์มอยให้ฟังกันว่า งบสองแสนห้าหมื่นเนี่ย จะได้รถประมาณไหน รุ่นไหนน่าสอย มาดูกันเลย!
1. รถยนต์ในฝันงบ 250,000 บาท มันคือรุ่นไหนกันนะ?
เอาล่ะ! งบ 250,000 บาท ในตลาดรถยนต์บ้านเรา ส่วนใหญ่แล้วเราจะส่องไปที่ รถยนต์นั่งส่วนบุคคลมือสอง รุ่นเล็กๆ หรือที่เรียกว่า Eco Car หรือ City Car ที่มีอายุอานามหน่อย แต่สภาพยังน่าคบหานั่นเองจ้า! รถพวกนี้เค้าเกิดมาเพื่อเป็นเพื่อนคู่ใจในการเดินทางในเมืองเป็นหลัก ประหยัดน้ำมัน ตัวเล็กขับง่าย หาที่จอดสะดวก เหมาะมากๆ สำหรับ นักศึกษาจบใหม่ ที่ได้งานแล้วอยากมีรถเป็นของตัวเองคันแรก, คนทำงาน ที่อยากได้รถไว้ขับไปทำงานทุกวัน หรือจะเป็น รถคันที่สอง ของบ้าน ไว้ให้คนในครอบครัวขับไปจ่ายตลาด รับส่งลูก หรือขับไปทำธุระใกล้ๆ ก็ยังได้
แบรนด์ที่คุ้นหน้าคุ้นตาในไทยที่มักจะมีรถในงบประมาณนี้โผล่มาให้เห็นก็มีหลายเจ้าเลยนะ ทั้งแบรนด์ดังจากญี่ปุ่นอย่าง Toyota, Honda, Nissan, Mitsubishi, Mazda ซึ่งแบรนด์พวกนี้เค้าก็มีประวัติยาวนานในตลาดรถยนต์โลกและในไทย มีศูนย์บริการเยอะ อะไหล่หาง่าย ไม่ต้องกลัวลอยแพเลยจ้า รุ่นที่มักจะเจอในงบนี้ เช่น Toyota Vios โฉมเก่าหน่อย, Honda Jazz หรือ City รุ่นปีลึกๆ, Nissan March หรือ Almera โฉมแรก, Mitsubishi Mirage หรือ Attrage รุ่นแรกๆ หรือ Mazda 2 โฉมเก่า เป็นต้น รถพวกนี้ฟังก์ชันอาจจะไม่หวือหวาเท่ารุ่นใหม่กริ๊บ แต่พื้นฐานการใช้งานยังดีเยี่ยมเลยล่ะ
2. ราคาในตลาดไทยประมาณไหนกันนะ?
มาถึงเรื่องที่ทุกคนอยากรู้ใจจะขาด! งบ 250,000 บาทเนี่ย ราคาจริงในตลาดเป็นยังไง? ต้องบอกว่าราคามันแล้วแต่ รุ่น ปี สภาพ และเลขไมล์ ของรถแต่ละคันเลยจ้า แต่ในงบ ไม่เกิน 250,000 บาท (฿) เราพอจะหารถ Eco Car หรือ City Car อายุประมาณ 5-10 ปีขึ้นไปได้สบายๆ เลยนะ!
แหล่งที่เราจะไปเจอรถพวกนี้ได้ก็มีหลายที่เลย ทั้ง เต็นท์รถมือสอง ทั่วไป ที่มีให้เลือกเยอะมากๆ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด หรือจะเป็น ตลาดรถยนต์มือสองออนไลน์ ขนาดใหญ่ เช่น One2Car, Kaidee ซึ่งในเว็บไซต์พวกนี้เค้าจะมีรถให้เลือกเยอะสุดๆ สามารถกรองตามยี่ห้อ รุ่น ปี งบประมาณได้เลย สะดวกสุดๆ!
สำหรับราคานะคะ ถ้าเป็น Eco Car ยอดฮิตอย่าง Nissan March, Mitsubishi Mirage รุ่นแรกๆ ปีเก่าหน่อยๆ อาจจะเจอราคาเริ่มต้นแค่แสนกลางๆ ไปจนถึงสองแสนนิดๆ ก็มีให้เห็นเยอะเลย ส่วนถ้าเป็น City Car อย่าง Toyota Vios, Honda City, Honda Jazz รุ่นปีเก่าลงมาหน่อย ก็จะมีราคาตั้งแต่ประมาณ สองแสนต้นๆ ไปจนถึงสองแสนปลายๆ เลยจ้า บางทีถ้าเจอรถสภาพดี ปีใหม่ขึ้นมาหน่อย อาจจะต้องขยับงบนิดๆ นะ
ลองเข้าไปส่องตามเว็บไซต์ One2Car หรือ Kaidee ดูได้เลย เค้าจะมีรูป รายละเอียด และราคาบอกชัดเจน บางทีเต็นท์รถเค้าก็มาลงขายในนี้ด้วย สะดวกมากๆ เลยจ้า
3. แล้วเทียบกับรถประเภทอื่นล่ะ คุ้มไหม?
ถ้าให้เทียบกับรถประเภทอื่นในงบประมาณเดียวกันเนี่ย ต้องบอกว่า รถยนต์มือสองในงบ 250,000 บาท ก็มีความน่าสนใจในแบบของตัวเองนะ ถ้าเทียบกับ มอเตอร์ไซค์ใหม่ๆ ราคาแพงๆ งบเท่านี้อาจจะได้มอเตอร์ไซค์คันใหญ่ๆ หรือมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์มือสองรุ่นเล็กๆ แต่ถ้ามองเรื่อง ความปลอดภัย, ความสะดวกสบายในการเดินทางหลายคน หรือการ บรรทุกของ รถยนต์ก็กินขาดเลยจ้า
หรือถ้าเทียบกับรถยนต์รุ่นที่ใหม่กว่า หรือรุ่นใหญ่กว่า งบ 250,000 บาทอาจจะยังห่างไกล แต่สำหรับคนที่เพิ่งเริ่มต้น หรือต้องการรถใช้งานพื้นฐาน งบนี้คือ คุ้มค่ามากๆ ที่จะได้รถยนต์สักคันมาใช้งานจริงๆ ไม่ต้องตากแดด ตากฝน แถมยังพาเพื่อนพาครอบครัวไปด้วยกันได้หลายคนอีกด้วยนะ!
แน่นอนว่าถ้าเพิ่มงบไปอีกหน่อย ตัวเลือกก็จะเยอะขึ้น ได้รถปีใหม่ขึ้น หรือรุ่นที่ฟังก์ชันดีขึ้น แต่ถ้าฟิกซ์งบไว้ที่ 250,000 บาท ตัวเลือก Eco Car / City Car มือสองเนี่ยแหละที่ตอบโจทย์ที่สุดในแง่ของความคุ้มค่าและการใช้งานจริงจ้า
4. ซื้อแล้วได้อะไรมาบ้างนะ?
อันนี้ต้องทำความเข้าใจก่อนเลยว่า การซื้อ รถยนต์มือสองในงบ 250,000 บาท สิ่งที่เราจะได้มาหลักๆ ก็คือ ตัวรถยนต์ นั่นแหละจ้า อุปกรณ์เสริมหรือบริการที่ติดมากับรถอาจจะไม่เหมือนรถป้ายแดงนะ สิ่งที่ควรเช็คและสอบถามคนขายให้ดีคือ:
- สภาพรถ: อันนี้สำคัญสุดๆ! ต้องดูตัวถัง เครื่องยนต์ ช่วงล่าง ภายใน สภาพยางดีๆ นะ แนะนำว่าถ้าไม่ชำนาญ พาช่างที่ไว้ใจไปช่วยดูด้วย จะดีมากๆ
- เอกสารรถ: เล่มทะเบียนรถ ต้องมีครบถ้วน ถูกต้อง โอนกรรมสิทธิ์ได้ไม่มีปัญหา
- ประกันภัย: ส่วนใหญ่รถมือสองอาจจะไม่ได้แถมประกันชั้น 1 มาให้แล้วนะ อาจจะต้องซื้อเพิ่มเอง หรือบางทีอาจจะมีแค่ประกันภาคบังคับ (พ.ร.บ.)
- ค่าโอนกรรมสิทธิ์: อันนี้เป็นค่าใช้จ่ายที่ต้องเตรียมไว้นะว่าต้องมีค่าธรรมเนียมในการโอนรถที่กรมการขนส่งทางบก
- การรับประกัน: ส่วนใหญ่รถบ้านที่ขายโดยตรงจะ ไม่มีการรับประกัน นะจ๊ะ ซื้อแล้วคือจบ ถ้ามีปัญหาเราต้องซ่อมเอง แต่ถ้าซื้อจาก เต็นท์รถใหญ่ๆ ที่มีมาตรฐาน บางทีเค้าอาจจะมี รับประกันเครื่องยนต์/เกียร์ ให้สั้นๆ เช่น 3 เดือน หรือ 5,000 กม. ก็ต้องสอบถามเงื่อนไขให้ละเอียด
- ของแถม/โปรโมชั่น: ในงบนี้อาจจะไม่ได้มีของแถมหวือหวาอะไรนัก นอกจากอาจจะได้ล้าง ขัด เคลือบสีให้ก่อนส่งมอบ หรือบางเต็นท์อาจจะมีโปรโมชั่นช่วยเรื่องไฟแนนซ์บ้างเล็กน้อย
เรื่อง ค่าจัดส่ง สำหรับรถยนต์นี่ไม่ใช่แบบส่งพัสดุนะจ๊ะ ส่วนใหญ่เราต้องไปรับรถเองที่เต็นท์หรือที่บ้านผู้ขาย หรือถ้าอยู่ไกลมากๆ จริงๆ อาจจะต้องจ้างรถสไลด์ขนส่งซึ่งมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง แนะนำว่าหารถที่อยู่ในพื้นที่ใกล้ๆ จะสะดวกที่สุดจ้า
5. มีช่วงไหนน่าซื้อเป็นพิเศษมั้ย?
สำหรับตลาดรถยนต์มือสองเนี่ย ช่วงเวลาโปรโมชั่นอาจจะไม่ชัดเจนเท่ารถป้ายแดงนะจ๊ะ แต่ก็พอมีช่วงที่น่าสนใจอยู่บ้าง:
- ช่วงปลายปี: บางทีเต็นท์รถอยากจะปิดยอด เคลียร์สต็อกรถเก่า ก็อาจจะมีโปรโมชั่นลดราคา หรือจัดแคมเปญพิเศษออกมาบ้าง
- ช่วงที่คนต้องการใช้เงินเยอะๆ: อันนี้เป็นเคล็ดลับส่วนตัวนะ บางทีเจ้าของรถที่เค้าต้องการใช้เงินด่วนในช่วงเทศกาลใหญ่ๆ เช่น ก่อนสงกรานต์ หรือก่อนปีใหม่ อาจจะรีบปล่อยรถในราคาที่ถูกลงกว่าปกติ ลองส่องๆ ตามเว็บขายรถบ้านดูนะ
- ช่วงที่เต็นท์รถจัดกิจกรรม: บางทีเต็นท์รถใหญ่ๆ เค้าก็มีจัดงานเปิดท้ายขายรถ หรือจัดโปรโมชั่นพิเศษเฉพาะกิจ ลองติดตามข่าวสารของเต็นท์ที่เราสนใจดู
ส่วนเรื่องโปรโมชั่นช่วง 12.12 หรือตามแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซใหญ่ๆ เนี่ย สำหรับรถยนต์อาจจะยังไม่ตรงจุดเท่าไหร่นะจ๊ะ แต่ถ้าจะซื้อพวก อุปกรณ์ดูแลรักษารถยนต์ หรือ ของแต่งรถ เล็กๆ น้อยๆ เนี่ย ช่วง Double Digit Sale นี่แหละ คือโอกาสทองเลยจ้า! สรุปคือ ถ้าไม่รีบมากๆ การหมั่นติดตามข่าวสารจากเต็นท์รถ หรือส่องประกาศขายตามเว็บ/กลุ่มต่างๆ ก็มีโอกาสเจอรถดีราคาโดนในช่วงที่คาดไม่ถึงได้นะ!
6. คนไทยใช้แล้วรู้สึกยังไงกันบ้างนะ?
จากที่ลองฟังเสียงผู้ใช้งานรถยนต์มือสองในงบประมาณนี้ของคนไทยเนี่ย ส่วนใหญ่เค้าก็จะมองถึงเรื่อง ความคุ้มค่า เป็นหลักเลยจ้า สิ่งที่คนไทยมักจะคอมเมนต์ถึงรถกลุ่มนี้บ่อยๆ คือ:
- ประหยัดน้ำมัน: จุดเด่นของ Eco Car/City Car เลยจ้า ช่วยลดภาระค่าน้ำมันไปได้เยอะ เหมาะกับยุคน้ำมันแพงแบบนี้
- ค่าบำรุงรักษาไม่แพง: รถรุ่นยอดนิยม อะไหล่หาง่าย มีทั้งอะไหล่แท้ อะไหล่เทียบ อะไหล่มือสองให้เลือกหลากหลาย อู่ซ่อมทั่วไปซ่อมได้สบายๆ ไม่ต้องเข้าศูนย์อย่างเดียว ทำให้ค่าใช้จ่ายในการดูแลไม่สูงมาก
- คล่องตัว หาที่จอดง่าย: ขนาดกะทัดรัด ขับซอกแซกในเมืองสะดวก หาที่จอดตามห้าง หรือในซอยแคบๆ ได้ไม่ยาก
- ราคาขายต่อดี (บางรุ่น): รถตลาดอย่าง Toyota หรือ Honda รุ่นยอดฮิต ถึงจะเป็นมือสองก็ยังพอมีราคาขายต่ออยู่บ้าง ถ้าดูแลรักษาดีๆ
- ต้องทำใจเรื่องสภาพ: อันนี้คือความเป็นจริงของรถมือสองนะจ๊ะ อาจจะต้องเจอริ้วรอยบ้าง มีซ่อมตามอายุการใช้งานบ้าง ต้องเข้าใจและยอมรับตรงนี้
สรุปคือ คนไทยที่ซื้้อรถในงบนี้ส่วนใหญ่จะพอใจกับ ความประหยัด และ ความสะดวกในการใช้งานในชีวิตประจำวัน แต่ก็ต้องแลกมากับการที่ต้องดูแลเอาใจใส่รถมือสองเป็นพิเศษกว่ารถป้ายแดงนะจ๊ะ
7. แล้วจะไปหาซื้อได้ที่ไหนล่ะทีนี้?
แหล่งซื้อรถยนต์มือสองในงบ 250,000 บาทที่คนไทยนิยมและน่าแนะนำก็มีตามนี้เลยจ้า:
- เต็นท์รถมือสอง: มีกระจายอยู่ทั่วประเทศ ทั้งเต็นท์เล็ก เต็นท์ใหญ่ ข้อดีคือ มีรถให้เลือกหลากหลาย รุ่น ยี่ห้อ งบประมาณ สามารถ ดูรถจริง ลองขับ ได้เลย บางเต็นท์มีบริการไฟแนนซ์ครบวงจร หรือมีรับประกันหลังการขายสั้นๆ ให้ด้วย แต่ข้อเสียคือราคาอาจจะสูงกว่าซื้อจากเจ้าของโดยตรงนิดหน่อย และต้องเลือกเต็นท์ที่น่าเชื่อถือนะจ๊ะ
- เว็บไซต์/แอปพลิเคชันขายรถมือสองออนไลน์: เช่น One2Car, Kaidee อันนี้เป็นแหล่งรวมรถเยอะมากๆ ทั้งจากเต็นท์รถและจากเจ้าของรถโดยตรง ข้อดีคือ มีตัวเลือกเยอะสุดๆ สามารถเปรียบเทียบราคา รุ่นต่างๆ ได้ง่าย สะดวกในการค้นหา แต่ข้อเสียคือเราเห็นแค่รูปกับข้อมูลที่ผู้ขายให้มา ต้องนัดเจอเพื่อดูรถจริง และต้องระวังผู้ขายที่ไม่น่าเชื่อถือด้วยนะจ๊ะ
- กลุ่มซื้อขายรถยนต์มือสองใน Facebook: เป็นอีกแหล่งที่น่าสนใจ เพราะมักจะเป็นผู้ใช้ด้วยกันเองที่เอามาขาย ทำให้บางทีได้รถสภาพดีในราคาถูกกว่าเต็นท์ ข้อดีคือสามารถพูดคุย สอบถามประวัติการใช้งานจากเจ้าของโดยตรงได้เลย แต่ข้อเสียคือไม่มีการรับประกันใดๆ และต้องนัดเจอเพื่อดูรถ ตรวจสอบสภาพรถ และทำธุรกรรมด้วยตัวเองทั้งหมด ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษนะจ๊ะ
- ศูนย์รถยนต์มือสองของผู้ผลิตบางราย: ศูนย์ใหญ่ๆ ของ Toyota (Sure), Honda (Certified Used Car) หรือแบรนด์อื่นๆ บางทีก็มีรถมือสองสภาพดีขายนะ แต่ส่วนใหญ่งบ 250,000 บาทอาจจะยังไม่ถึง ต้องเป็นรุ่นที่ปีเก่ามากๆ หรือเป็นช่วงที่มีโปรโมชั่นพิเศษจริงๆ ลองเข้าไปส่องดูได้ เผื่อฟลุคเจอรถดีราคาโดนใจจ้า
สรุปคือ ช่องทางออนไลน์ทำให้เรามีข้อมูลและตัวเลือกเยอะ แต่การไปดูรถจริงที่เต็นท์หรือนัดเจอเจ้าของโดยตรงยังเป็นสิ่งที่จำเป็นมากๆ ก่อนตัดสินใจซื้อนะจ๊ะ!
8. สรุปแล้วน่าซื้อไหม? เหมาะกับใคร?
มาถึงบทสรุปสุดท้ายแล้วจ้า! ถามว่า รถยนต์มือสองในงบ 250,000 บาท น่าซื้อไหม? คำตอบคือ น่าซื้อมากๆ เลยจ้า ถ้าคุณเป็นคนที่:
- มีงบประมาณจำกัด แต่อยากมีรถยนต์ส่วนตัวไว้ใช้งาน
- ต้องการรถยนต์คันแรก สำหรับเริ่มต้นการเดินทาง
- ต้องการรถยนต์สำหรับใช้งานในเมืองเป็นหลัก เน้นประหยัดน้ำมัน คล่องตัว
- รับได้กับสภาพรถยนต์มือสอง ที่อาจมีริ้วรอยหรือต้องมีการซ่อมบำรุงตามอายุ
- ต้องการลดภาระในการเดินทาง ไม่ต้องทนแดด ทนฝน หรือเบียดเสียดบนรถสาธารณะ
รถกลุ่มนี้คือคำตอบที่ คุ้มค่ากับเม็ดเงินที่จ่ายไปที่สุด แล้วในตลาดบ้านเราเลยจ้า! มันอาจจะไม่ได้หรูหรา ไม่ได้แรง ไม่ได้ฟังก์ชันเยอะเท่ารถใหม่ๆ แต่ก็สามารถพาคุณไปถึงจุดหมายได้อย่างปลอดภัยและสะดวกสบาย
ส่วนจะเลือกรุ่นไหนดีระหว่าง Eco Car กับ City Car ในงบนี้? ถ้าเน้น ประหยัดน้ำมันสุดๆ และตัวเล็กมากๆ March, Mirage, Attrage คือตัวเลือกที่ดี แต่ถ้าอยากได้ พื้นที่ภายในกว้างขึ้น หน่อย นั่งสบายขึ้น หรือเครื่องยนต์มีกำลังมากกว่านิดหน่อย Vios, City, Jazz รุ่นปีเก่าๆ ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจนะ ลองดูว่าไลฟ์สไตล์การใช้งานของคุณเป็นแบบไหน แล้วเลือกรุ่นที่ตอบโจทย์ที่สุดจ้า!
ที่สำคัญที่สุดคือ ก่อนตัดสินใจซื้อ ต้องไปดูรถจริงให้ดีๆ นะคะ! พาคนที่มีความรู้เรื่องรถไปช่วยดูด้วย หรือลองปรึกษาช่างที่ไว้ใจได้ การเลือกรถมือสองที่ดีจะช่วยให้เราประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาวได้เยอะเลยจ้า
หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคนที่กำลังมองหารถยนต์ในงบ 250,000 บาทนะจ๊ะ ขอให้ได้รถคู่ใจที่ถูกใจ คุ้มค่า คุ้มราคา ขับขี่ปลอดภัยกันทุกคนจ้า! บ๊ายบายยย!
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
แนะนำสำหรับคุณ
อัปเดตราคาและรีวิวรถบังคับ Kyosho Mini-Z ทุกซีรี่ส์ที่นักสะสมต้องมี
ย้อนดูราคาเปิดตัว Nokia X สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์รุ่นแรกจากโนเกียที่น่าจดจำ
รวมจอมอนิเตอร์จาก AOC ทุกรุ่นสำหรับเล่นเกมและทำงาน ภาพสวยคมชัดในราคาสบายกระเป๋า
อัปเดตราคาบัตรเข้าชมภูเก็ตแฟนตาซีล่าสุด พร้อมโปรโมชั่นและโซนการแสดง
Hoka Gaviota ราคาล่าสุด พร้อมรีวิวรองเท้าวิ่งสำหรับคนเท้าแบนและ stabilitiy
เปรียบเทียบราคาผงชูรสแต่ละยี่ห้อในท้องตลาด พร้อมข้อมูลและขนาดบรรจุภัณฑ์ล่าสุด