SK-II Facial Treatment Essence 230 ml ราคาล่าสุด ซื้อที่ไหนคุ้มสุด


สวัสดีค่าสาวๆ หนุ่มๆ (และทุกเพศทุกวัย!) ที่กำลังมองหาน้ำตบในตำนานที่เค้าล่ำลือกันว่าใช้แล้วหน้าจะใสปิ๊งราวกับกระจก! วันนี้เราจะมาเจาะลึกไอเทมตัวท็อปในใจใครหลายคนอย่าง SK-II Facial Treatment Essence ไซส์ 230 ml หรือที่หลายคนเรียกติดปากว่า "น้ำตบป้าเจี๊ยบ" นั่นแหละค่ะ! เตรียมตัวให้พร้อม แล้วมาดูกันว่าเจ้าขวดนี้มีดีอะไร ราคาเท่าไหร่ ซื้อที่ไหนถึงจะคุ้มค่าตัวที่สุดในยุคที่เงินทองหายากแบบนี้ ไปค่ะ ลุย!
1. น้ำตบในตำนานขวดนี้มันคืออะไรกันนะ?
เอาล่ะค่ะ มาทำความรู้จักกับเจ้า SK-II Facial Treatment Essence ไซส์ 230 ml กันแบบถึงแก่น ตัวนี้เค้าเป็นเหมือนหัวใจหลักของแบรนด์ SK-II เลยก็ว่าได้ค่ะ แบรนด์นี้มาจากประเทศญี่ปุ่น ดินแดนที่ขึ้นชื่อเรื่องผิวสวยใส เค้ามีประวัติยาวนานกว่า 30 ปีเลยนะ จุดเริ่มต้นความปังของเค้ามาจากเรื่องเล่าสมัยก่อนที่สังเกตเห็นว่าคุณลุงคุณป้าที่ทำงานโรงบ่มสาเก แม้หน้าตาจะมีริ้วรอยตามวัย แต่มือกลับนุ่มนิ่ม เต่งตึงอย่างไม่น่าเชื่อ! เค้าก็เลยไปค้นคว้าวิจัยกันอยู่นาน จนมาเจอส่วนผสมมหัศจรรย์ที่ได้จากการหมักบ่มยีสต์ตามธรรมชาติ ซึ่งเค้าตั้งชื่อเก๋ๆ ว่า Pitera™ (พิเทร่า™) นี่แหละค่ะ!
เจ้า Pitera™ เนี่ย มีสารอาหารผิวที่เป็นประโยชน์กว่า 50 ชนิด ทั้งวิตามิน กรดอะมิโน แร่ธาตุต่างๆ ซึ่งคุณสมบัติหลักๆ ของน้ำตบขวดนี้ก็คือ ช่วยบำรุงให้ผิวทำงานได้อย่างเป็นธรรมชาติ ช่วยเรื่องวงจรการผลัดเซลล์ผิวให้สมดุล ทำให้ผิวดู กระจ่างใส ขึ้น เรียบเนียน ขึ้น รูขุมขนกระชับ ขึ้น แถมยังช่วยลดเลือนจุดด่างดำ ริ้วรอยต่างๆ ทำให้ผิวดู กระชับ ยืดหยุ่น และ เปล่งประกาย อิ่มน้ำ ดูสุขภาพดี เหมือนผิวได้รับพลังใหม่ๆ เค้าบอกว่าใช้แค่ 14 วันก็เริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงแล้วนะ! เหมาะมากๆ สำหรับคนที่รู้สึกว่าผิวหมองคล้ำ ไม่สดใส ผิวไม่เรียบเนียน หรือเริ่มมีสัญญาณแห่งวัยค่ะ ใช้ได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชายเลยนะ! แถมหลายคนยังบอกว่าถ้าใช้น้ำตบตัวนี้ก่อนแต่งหน้า จะช่วยให้เครื่องสำอางติดทนมากขึ้นด้วย เป็นไอเทมที่เรียกได้ว่าเป็น "ของมันต้องมี" ในวงการสกินแคร์เลยจริงๆ ค่ะ
2. ราคาในตลาดไทยไซส์ 230 ml อยู่ที่ประมาณเท่าไหร่?
มาถึงประเด็นร้อนที่ทุกคนอยากรู้! ราคาเจ้า SK-II Facial Treatment Essence 230 ml ในตลาดไทยเนี่ย บอกเลยว่ามีหลายราคาให้เห็นจนตาลายไปหมดค่ะ ราคาตั้งต้นอย่างเป็นทางการในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ หรือร้าน Sephora และ Official Store บนแพลตฟอร์มออนไลน์ใหญ่ๆ อย่าง Lazada หรือ Central Online เนี่ย จะอยู่ที่ประมาณ 8,800 บาท (฿) เลยค่ะ
แต่ใช่ว่าทุกคนจะต้องซื้อราคานี้เสมอไปค่ะ! แหล่งช้อปปิ้งยอดฮิตของคนไทยอย่าง Lazada กับ Shopee เนี่ย มีร้านค้าเยอะแยะมากมาย ทั้งร้านที่เป็น Official Store ของแบรนด์เอง ร้านจาก King Power และร้านอื่นๆ ที่อาจจะเป็นตัวแทนจำหน่ายหรือนำเข้ามาเอง ราคาบนแพลตฟอร์มเหล่านี้จะมีความยืดหยุ่นและมีการแข่งขันสูงกว่ามากค่ะ คุณอาจจะเจอราคาตั้งแต่ 6,xxx บาท ไปจนถึง 8,xxx บาท เลยทีเดียวสำหรับไซส์ 230 ml นะคะ ส่วนราคาที่ King Power (สำหรับคนที่มีไฟล์ทบินหรือใช้บริการ King Power Click & Collect) เนี่ย บางช่วงก็จะมีโปรโมชั่นที่น่าสนใจ ทำให้ราคาถูกลงไปอีก อย่าง Limited Edition บางทีก็เห็นราคาดีๆ แถวๆ 4,xxx - 7,xxx บาท นะคะ ส่วนราคาเต็มๆ ของ 230 ml ที่ King Power จะอยู่ที่ประมาณ 7,xxx - 8,xxx บาทค่ะ
ถ้าถามว่าทำไมราคาถึงต่างกันขนาดนี้ ก็ต้องบอกว่ามันขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยค่ะ ทั้งช่องทางการจำหน่าย โปรโมชั่นของแต่ละร้าน และที่สำคัญคือบางร้านอาจจะเป็นสินค้าหิ้วเข้ามาเอง ซึ่งราคาก็อาจจะถูกกว่าราคาเคาน์เตอร์ในไทยค่ะ (แต่อันนี้ก็ต้องเลือกซื้อร้านที่ไว้ใจได้นะคะ!) เมื่อเทียบกับราคาในต่างประเทศ โดยเฉพาะที่ญี่ปุ่น บางช่วงราคาที่ญี่ปุ่นก็อาจจะถูกกว่าที่ไทยอยู่บ้างค่ะ ก็เป็นอีกทางเลือกสำหรับคนที่เดินทางบ่อยๆ ค่ะ
3. แล้วถ้าเทียบกับ "น้ำตบ" ตัวอื่นๆ ในตลาดล่ะ เป็นยังไง?
พอเห็นราคา 8,800 บาทเข้าไป บางคนอาจจะสะดุ้งเล็กน้อย! ก็ต้องยอมรับว่า SK-II Facial Treatment Essence เนี่ย เค้าอยู่ในหมวดสกินแคร์ระดับ Premium หรือ Luxury เลยค่ะ เมื่อเทียบกับน้ำตบหรือเอสเซนส์แบรนด์อื่นๆ ในตลาดไทยเนี่ย ราคาของ SK-II ถือว่าสูงกว่าชัดเจนเลยค่ะ
น้ำตบตัวอื่นๆ ที่เค้าฮิตๆ กันและหาซื้อง่ายในไทย อย่างเช่น น้ำตบจากแบรนด์ Eucerin, Khaokho Talaypu, Za, Kose หรือ L'Oreal เนี่ย ราคาจะอยู่ในช่วงหลักร้อยปลายๆ ไปจนถึงหลักพันต้นๆ เท่านั้นเองค่ะ ซึ่งก็ถือว่าเข้าถึงง่ายกว่ามากๆ ค่ะ
ทีนี้ถามว่าทำไม SK-II ถึงแพงกว่า? ก็เพราะส่วนผสมหลักที่เป็นหัวใจสำคัญอย่าง Pitera™ เนี่ย เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของ SK-II ที่เค้าวิจัยและพัฒนามาอย่างยาวนานค่ะ คุณสมบัติและผลลัพธ์ที่ได้จาก Pitera™ อาจจะแตกต่างจากส่วนผสมอื่นๆ ในน้ำตบแบรนด์อื่นค่ะ คือเค้าไม่ได้เน้นแค่ความชุ่มชื้น หรือความขาวอย่างเดียว แต่เน้นไปที่การปรับสมดุลผิว ฟื้นฟูผิวให้แข็งแรง และทำงานได้อย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่งหลายคนที่ใช้แล้วเห็นผลการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นในหลายๆ ด้านก็ยอมลงทุนกับราคานี้ค่ะ
สรุปคือ ถ้าคุณกำลังมองหาน้ำตบที่เน้นผลลัพธ์เรื่องความกระจ่างใส ความเรียบเนียน และความกระชับแบบครบวงจร และมีงบประมาณที่พร้อมลงทุน เจ้า SK-II ก็คือตัวเลือกที่น่าสนใจมากๆ ค่ะ แต่ถ้าอยากได้น้ำตบที่เน้นเรื่องอื่นเป็นพิเศษ หรือมีงบจำกัด น้ำตบแบรนด์อื่นๆ ก็มีตัวเลือกที่ดีและราคาเป็นมิตรให้เลือกเยอะแยะเลยค่ะ ต้องลองดูว่าความต้องการของผิวเราคืออะไร และงบในกระเป๋าพร้อมแค่ไหนเนอะ!
4. ซื้อแล้วจะได้อะไรมาบ้างนะ? (แถมมีประกันมั้ย?)
เวลาที่เราซื้อ SK-II Facial Treatment Essence 230 ml จากช่องทางที่เป็นทางการ ไม่ว่าจะเป็นเคาน์เตอร์ในห้าง, Sephora, Central Online, Lazada Official Store หรือ King Power เนี่ย สิ่งที่คุณจะได้รับหลักๆ ก็คือ ตัวผลิตภัณฑ์ SK-II Facial Treatment Essence 230 ml ในกล่องแพ็คเกจที่ซีลมาอย่างดีค่ะ
ส่วนเรื่องของแถมหรือโปรโมชั่นเนี่ย อันนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละช่วงเวลาและแต่ละร้านเลยค่ะ บ่อยครั้งที่ทางแบรนด์หรือร้านค้าจะมีโปรโมชั่นพิเศษ เช่น แถมไซส์ทดลอง ของผลิตภัณฑ์อื่นๆ ในไลน์เดียวกัน หรือไลน์อื่นๆ ของ SK-II มี กระเป๋าเครื่องสำอาง น่ารักๆ หรือ อุปกรณ์เสริม อย่างสำลีสำหรับใช้กับน้ำตบโดยเฉพาะค่ะ บางทีก็มี Gift Set ที่จัดน้ำตบมาพร้อมกับผลิตภัณฑ์ตัวอื่นๆ ในราคาที่คุ้มค่ากว่าซื้อแยกค่ะ
เรื่อง ค่าจัดส่ง ถ้าซื้อออนไลน์ ส่วนใหญ่ร้านค้าอย่างเป็นทางการบน Lazada หรือ Central Online มักจะมีโปรโมชั่น ส่งฟรี เมื่อซื้อครบยอดที่กำหนดค่ะ หรือถ้าซื้อจาก King Power ก็มีบริการรับสินค้าที่สนามบินหรือจุดบริการต่างๆ ค่ะ
ทีนี้มาถึงเรื่องที่คนไทยให้ความสำคัญมากๆ นั่นก็คือ "การรับประกัน" ค่ะ สำหรับผลิตภัณฑ์ประเภทสกินแคร์แบบนี้ ปกติแล้วจะ ไม่มีการรับประกัน แบบพวกเครื่องใช้ไฟฟ้าหรืออุปกรณ์ไอทีนะคะ แต่สิ่งที่ได้รับคือ การรับประกันความแท้ ของผลิตภัณฑ์ค่ะ ถ้าซื้อจากช่องทางที่เป็นทางการหรือร้านค้าที่น่าเชื่อถือ เรามั่นใจได้เลยว่าได้ของแท้แน่นอนค่ะ
ถ้ามีปัญหาเกี่ยวกับตัวผลิตภัณฑ์ เช่น แพ็คเกจชำรุด หรือสินค้ามีปัญหาจากการผลิต (ซึ่งพบน้อยมากๆ) ก็สามารถติดต่อร้านค้าที่ซื้อมาเพื่อแจ้งปัญหาได้ค่ะ แพลตฟอร์มออนไลน์ใหญ่ๆ ก็มีระบบการคืนสินค้าหรือขอเปลี่ยนสินค้าอยู่แล้ว แต่ต้องเช็คเงื่อนไขของแต่ละที่อีกทีนะคะ ส่วนร้านหิ้วหรือร้านที่ไม่น่าเชื่อถือ อันนี้ก็ต้องระมัดระวังหน่อยค่ะ เพราะอาจจะไม่ได้การรับประกันหรือบริการหลังการขายที่ดีเท่าที่ควรค่ะ
5. ช่วงไหนน่าซื้อที่สุด มีโปรโมชั่นกับเทศกาลไทยไหม?
ถ้าอยากได้ SK-II Facial Treatment Essence 230 ml ในราคาที่คุ้มค่าโดนใจเนี่ย การรอช่วงโปรโมชั่นคือคำตอบที่ดีที่สุดเลยค่ะ! แบรนด์ SK-II เค้าจัดโปรโมชั่นบ่อยอยู่แล้วค่ะ โดยเฉพาะช่วง เทศกาลช้อปปิ้งใหญ่ๆ ที่เป็นสากลอย่างพวก Double Digit Sale เช่น 11.11 (วันที่ 11 เดือน 11), 12.12 (วันที่ 12 เดือน 12) บน Lazada และ Shopee เนี่ย ขอบอกเลยว่าลดหนักจัดเต็มมากๆ ค่ะ บางทีก็มี โปรโมชั่นช่วงกลางปี หรือ ปลายปี ช่วง Black Friday / Cyber Monday ด้วยค่ะ
ส่วนเทศกาลไทยๆ อย่างช่วง สงกรานต์ หรือ ปีใหม่ เนี่ย ร้านค้าต่างๆ ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ก็มักจะร่วมจัดโปรโมชั่นลดราคา หรือมีของแถมพิเศษออกมาดึงดูดลูกค้าค่ะ นอกจากนี้ ร้านค้าอย่างเป็นทางการบน Lazada หรือ Shopee (ที่เรียกว่า Flagship Store หรือ Official Store) รวมถึงเคาน์เตอร์ในห้างสรรพสินค้า ก็จะมีโปรโมชั่นของตัวเองอยู่เรื่อยๆ ค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการลดราคาตรงๆ, การสะสมคะแนนเพื่อแลกส่วนลดหรือของรางวัล, หรือการจัดเซ็ตพิเศษที่คุ้มค่ากว่าเดิม
คำแนะนำคือ ถ้าไม่ได้รีบใช้มากๆ ให้ อดใจรอช่วงโปรโมชั่นใหญ่ๆ ค่ะ โดยเฉพาะช่วง 11.11 หรือ 12.12 เนี่ย โอกาสได้ราคาดีๆ สูงมากๆ ค่ะ หรือถ้ามีแพลนจะเดินทางต่างประเทศ การซื้อที่ King Power ก็เป็นอีกช่องทางที่ราคาดีเช่นกันค่ะ หมั่นเช็คโปรโมชั่นจากหลายๆ แหล่ง ทั้งเว็บไซต์ของแบรนด์เอง, เพจ Facebook ของแบรนด์, แอปพลิเคชั่น Lazada/Shopee, เว็บไซต์ห้างสรรพสินค้า Central Online หรือ Sephora ค่ะ กดติดตามร้านค้าไว้ก็จะได้ไม่พลาดโปรโมชั่นเด็ดๆ นะคะ!
6. คนไทยใช้แล้วรู้สึกยังไง มีฟีดแบ็กอะไรบ้าง?
ลองไปส่องๆ ดูตามกระทู้รีวิวใน Pantip หรือตามโซเชียลต่างๆ เนี่ย เสียงตอบรับจากคนไทยที่ใช้ SK-II Facial Treatment Essence ส่วนใหญ่คือ ดีงามพระรามแปด เลยค่ะ! หลายคนยกให้เป็นลูกรัก เป็นไอเทมที่ต้องมีติดโต๊ะเครื่องแป้ง ขาดไม่ได้เลย
ฟีดแบ็กที่เจอบ่อยๆ เลยก็คือ เค้าช่วยให้ ผิวหน้าดูใสขึ้นจริงๆ รอยแดงรอยดำจากสิวดูจางลง ผิวดู เรียบเนียนละเอียด ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด รูขุมขนที่เคยกว้างก็ดู กระชับ ขึ้น ผิวดู อิ่มฟู ชุ่มชื้น สุขภาพดี ไม่แห้งกร้าน แถมยังช่วยให้ผิวดู กระชับ ขึ้นด้วยค่ะ
ข้อดีอีกอย่างที่คนไทยชอบคือ เนื้อสัมผัสบางเบา ซึมง่าย ไม่เหนียวเหนอะหนะ เหมือนทาแค่น้ำเปล่าเลย บางคนชอบเอามามาสก์หน้ากับสำลีในวันที่ผิวดูเหนื่อยๆ ก็ช่วยให้ผิวสดชื่นขึ้นได้ค่ะ
แต่ก็มีฟีดแบ็กเรื่อง "กลิ่น" ค่ะ ด้วยความที่ส่วนผสมหลักมาจากยีสต์ บางคนก็จะไม่ค่อยชอบกลิ่นธรรมชาติของเค้าเท่าไหร่ แต่ส่วนใหญ่ก็จะบอกว่าพอใช้ไปสักพักก็ชิน หรือมองข้ามไปได้เมื่อเห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้นค่ะ
เรื่อง ความคุ้มค่า ถึงแม้ราคาจะสูง แต่หลายคนก็บอกว่าใช้แล้วเห็นผลชัดเจน ขวดนึงใช้ได้นานหลายเดือนเมื่อเทียบกับปริมาณ 230 ml ก็ถือว่าคุ้มค่ากับการลงทุนเพื่อผิวสวยค่ะ
โดยรวมแล้วฟีดแบ็กคนไทยคือค่อนข้างประทับใจกับผลลัพธ์ที่ได้จาก "น้ำตบป้าเจี๊ยบ" ค่ะ เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของผิวในทางที่ดีขึ้น จนยอมควักเงินซื้อซ้ำๆ กันเลยทีเดียวค่ะ
7. จะไปหาซื้อ SK-II Facial Treatment Essence 230 ml ได้ที่ไหนบ้าง?
สำหรับใครที่อ่านมาถึงตรงนี้แล้วรู้สึกว่า "ของมันต้องมี!" อยากสอย SK-II Facial Treatment Essence 230 ml มาลองใช้ดูบ้าง นี่คือช่องทางการซื้อยอดฮิตในประเทศไทยค่ะ:
- เคาน์เตอร์ SK-II ในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ: เช่น Central, The Mall, Robinson เป็นช่องทางที่สะดวกมากๆ ค่ะ สามารถไปทดลองเนื้อผลิตภัณฑ์ ปรึกษา BA (Beauty Advisor) ขอคำแนะนำได้โดยตรง และมั่นใจได้ว่าเป็นของแท้ 100% ค่ะ ราคาจะเป็นราคามาตรฐานตามที่แบรนด์กำหนด แต่อาจจะมีโปรโมชั่นของห้าง หรือของแบรนด์เองในช่วงต่างๆ ค่ะ
- Sephora (ทั้งหน้าร้านและออนไลน์): Sephora เป็นร้านมัลติแบรนด์เครื่องสำอางค์และสกินแคร์ที่มี SK-II วางจำหน่ายค่ะ มีทั้งหน้าร้านให้ไปลอง และช่องทางออนไลน์ที่สะดวกมากๆ ค่ะ มักจะมีโปรโมชั่นและระบบสะสมคะแนนด้วยค่ะ
- Central Online / M Online (ของ The Mall Group): เว็บไซต์ช้อปปิ้งออนไลน์ของห้างสรรพสินค้าโดยตรงค่ะ สะดวกมากๆ ไม่ต้องเดินทาง มีโปรโมชั่นและส่วนลดให้เลือกเยอะ แถมยังมั่นใจเรื่องความแท้ของสินค้าได้ค่ะ
- Lazada / Shopee (Official Store): บนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่สองเจ้านี้ มีร้านค้าอย่างเป็นทางการของ SK-II อยู่ค่ะ เป็นช่องทางที่สะดวกสุดๆ มีสินค้าให้เลือกครบ มีโปรโมชั่นจัดหนักจัดเต็มตลอดปี โดยเฉพาะช่วง Double Digit Sale และมีระบบรีวิวจากผู้ใช้จริงช่วยในการตัดสินใจค่ะ
- King Power: สำหรับคนที่มีแพลนเดินทางไปต่างประเทศ หรือใช้บริการ King Power Click & Collect การซื้อที่ King Power ก็เป็นอีกทางเลือกที่ราคาดีมากๆ ค่ะ เพราะเป็นสินค้าร้านค้าปลอดอากร ราคาจะถูกกว่าราคาเคาน์เตอร์ปกติค่ะ
- ร้านพรีออเดอร์ / ร้านหิ้ว / ร้านในแพลตฟอร์มออนไลน์อื่นๆ: อันนี้เป็นอีกแหล่งที่ราคาอาจจะถูกกว่าช่องทางทางการพอสมควรค่ะ แต่ต้องใช้ความระมัดระวังในการเลือกซื้อมากๆ ค่ะ ควรเลือกร้านที่เชื่อถือได้ มีรีวิวดีๆ และมีการรับประกันความแท้ของสินค้า เพื่อหลีกเลี่ยงสินค้าปลอมค่ะ
คำแนะนำคือ ถ้าเน้นความสบายใจ ได้ของแท้ชัวร์ๆ และอยากได้คำแนะนำดีๆ เลือกซื้อจากเคาน์เตอร์ในห้าง, Sephora, หรือ Official Store บนแพลตฟอร์มออนไลน์ค่ะ แต่ถ้าเน้นราคาที่คุ้มค่าที่สุดจริงๆ และยอมรับความเสี่ยงได้บ้าง ก็ลองเปรียบเทียบราคาจาก King Power (ถ้ามีโอกาส) หรือร้านค้าที่น่าเชื่อถือบน Lazada / Shopee ดูค่ะ
8. สรุปแล้ว SK-II Facial Treatment Essence 230 ml คุ้มค่าน่าซื้อไหม? เหมาะกับใคร?
มาถึงบทสรุปสุดท้ายกันแล้วค่ะ! ถามว่า SK-II Facial Treatment Essence 230 ml คุ้มค่าน่าซื้อไหมในยุคนี้? ถ้าคุณเป็นคนที่:
- พร้อมที่จะลงทุนกับสกินแคร์คุณภาพดี: ราคาน้องเค้าอาจจะแรงหน่อย แต่ผลลัพธ์ที่หลายคนได้รับคือคุ้มค่ากับการลงทุนค่ะ
- มีปัญหาผิวหมองคล้ำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ: น้องน้ำตบตัวนี้ช่วยเรื่องความกระจ่างใสได้ดีเยี่ยมค่ะ
- อยากให้ผิวดูเรียบเนียน รูขุมขนกระชับขึ้น: Pitera™ ช่วยปรับผิวให้ละเอียดขึ้นได้ค่ะ
- เริ่มกังวลเรื่องริ้วรอยและความกระชับของผิว: เค้าช่วยเรื่องความยืดหยุ่นและลดเลือนริ้วรอยได้ด้วยค่ะ
- อยากได้ไอเทมที่ใช้แล้วรู้สึกว่าผิวแข็งแรง สุขภาพดี: น้ำตบตัวนี้ช่วยปรับสมดุลและฟื้นฟูผิวได้ดีค่ะ
ถ้าคุณมีข้อใดข้อหนึ่งในลิสต์ข้างบน หรือมีทั้งหมดเลย! เจ้า SK-II Facial Treatment Essence 230 ml คือตัวเลือกที่น่าลองมากๆ ค่ะ แม้ราคาเต็มจะสูง แต่ถ้าซื้อช่วงโปรโมชั่นหรือจากแหล่งที่ราคาดีๆ อย่าง King Power หรือร้านค้าที่น่าเชื่อถือบนออนไลน์ ก็จะคุ้มค่ามากขึ้นไปอีกค่ะ
สำหรับคนที่เพิ่งเริ่มต้น หรือยังไม่แน่ใจว่าจะเข้ากับผิวตัวเองไหม อาจจะลองไซส์เล็ก 75 ml หรือ 160 ml ก่อนก็ได้ค่ะ แต่ถ้าใช้แล้วชอบ ใช้แล้วติดใจ การซื้อไซส์ 230 ml หรือใหญ่กว่าอย่าง 330 ml หรือแบบ Duo Set จะคุ้มค่าต่อมิลลิลิตรมากกว่าในระยะยาวค่ะ
สรุปคือ เป็นไอเทมที่น่าลงทุนสำหรับคนที่อยากยกระดับการดูแลผิวให้เห็นผลชัดเจนค่ะ อาจจะต้องคำนวณงบในกระเป๋าหน่อย แต่รับรองว่าถ้าใช้แล้วอินกับผลลัพธ์ที่ได้ จะเข้าใจเลยว่าทำไมหลายคนถึงยกให้เป็น "น้ำตบในตำนาน" ที่ต้องมีค่ะ! ขอให้ทุกคนได้ผิวสวยใสในแบบที่ต้องการกันนะคะ!
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
แนะนำสำหรับคุณ
ราคา เมมโมรี่การ์ด 16GB อัปเดตปี 2568 เลือกซื้อแบบไหนดี สำหรับกล้องและมือถือ
น้ำหอม Vanitas By Versace ราคาล่าสุด กลิ่นหอมหวานเย้ายวน น่าซื้อไหม
ราคา iPhone 7 Plus ล่าสุด 128GB มือสอง ปี 2568 ยังน่าซื้ออยู่ไหม
BMX ราคา 3000 บาท ปี 2568 ซื้อรุ่นไหนดี? เหมาะสำหรับมือใหม่หัดปั่น
ราคาจดโดเมนเนม เว็บไซต์ ล่าสุด เลือกผู้ให้บริการไหนดีที่สุด
รถยนต์ Mitsuoka ราคาล่าสุด ปี 2568 ดีไซน์คลาสสิก ไม่เหมือนใคร น่าจับตามอง