logo

กล้องฟิล์ม Minolta TC-1 ราคาปัจจุบัน หายากแค่ไหน น่าเก็บสะสมไหม?

user avatar
เกศรินทร์ รัตนเสถียร·07/12/2025T04:09Z
点赞
กล้องฟิล์ม Minolta TC-1 ราคาปัจจุบัน หายากแค่ไหน น่าเก็บสะสมไหม?

สวัสดีค่าาา ทุกคนนน! วันนี้เราจะพามาเจาะลึกกล้องฟิล์มในตำนานอีกตัวที่ชื่อชั้นอาจจะไม่แมสเท่าตัวอื่นๆ แต่บอกเลยว่าความเล็กพริกขี้หนู คุณภาพคับแก้วเนี่ย ไม่เป็นรองใครเลยค่ะ นั่นก็คือเจ้า Minolta TC-1 นั่นเอง! ใครที่กำลังวนเวียนอยู่ในวงการกล้องฟิล์ม หรือกำลังมองหากล้องคอมแพ็คตัวจิ๋วแต่แจ๋วไว้พกไปลุยทุกที่ ต้องมาอ่านกันให้ไวเลยนะ เพราะกว่าจะได้น้องมาครอบครองเนี่ย ต้องใช้ทั้งเงิน ทั้งดวง และความไวระดับนึงเลยทีเดียวเชียวล่ะ! มาดูกันซิว่าเจ้าตัวนี้มันมีดีอะไร ทำไมถึงได้ราคาสูงลิ่วขนาดนี้ แล้วมันน่าเก็บสะสมมั้ย ไปค่ะ! ลุย!

1. เจ้ากล้องจิ๋ว Minolta TC-1 นี่มันคืออะไรกันนะ?

เอาล่ะ มาทำความรู้จักกับเจ้า Minolta TC-1 กันก่อนค่ะ เจ้าตัวนี้เป็นกล้องฟิล์มคอมแพ็ค 35mm ระดับพรีเมียม (Luxury Point and Shoot) ที่ทาง Minolta ซึ่งเป็นอดีตแบรนด์กล้องชื่อดังจากญี่ปุ่น ปล่อยออกมาในปี 1996 ความพิเศษของมันอยู่ที่ขนาดที่เล็กจิ๋วมากๆ เล็กพอๆ กับกลักฟิล์ม 3 ม้วนมาเรียงต่อกันเลยทีเดียว แต่ถึงจะเล็กขนาดนี้ วัสดุที่ใช้ไม่ธรรมดานะคะ ตัวกล้องหุ้มด้วยไทเทเนียม (Titanium Clad) ซึ่งเป็นที่มาของชื่อรุ่น 'TC-1' นั่นเอง ทำให้ตัวกล้องดูแข็งแรงพรีเมียมสุดๆ และที่เด็ดกว่านั้นคือเลนส์! มันมาพร้อมกับเลนส์ Fix Minolta G-Rokkor 28mm f/3.5 ที่ได้ชื่อว่าคมกริบ คุณภาพระดับเทพ และมีความพิเศษตรงที่ม่านรูรับแสงเป็นแบบวงกลม (Circular Aperture) ที่ Minolta เคลมว่าจะให้โบเก้ที่สวยงาม

เจ้า TC-1 เนี่ย ไม่ใช่แค่เล็กและสวยนะ ฟังก์ชันก็ไม่ธรรมดาค่ะ มีระบบ Auto Focus ที่แม่นยำ ปรับค่า ISO ได้กว้าง (ทั้ง DX Code และ Manual) และมีจุดเด่นมากๆ คือโหมด Aperture Priority ที่ให้เราเลือกรูรับแสงได้ (f/3.5, 5.6, 8, 16) แล้วกล้องจะคำนวณสปีดชัตเตอร์ให้เอง ทำให้เราควบคุมชัดลึกชัดตื้นได้ตามต้องการ ใครที่ชอบกล้องตัวเล็กๆ คุณภาพเลนส์ดีเยี่ยม เน้นพกพาง่าย ถ่ายสตรีท ถ่ายวิว หรืออยากได้กล้องฟิล์มคอมแพ็คระดับไฮเอนด์ไว้ในคอลเลคชั่น เจ้าตัวนี้คือหนึ่งในตัวเลือกอันดับต้นๆ เลยค่ะ


2. ราคาในตลาดไทยตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?

มาถึงเรื่องร้อนๆ อย่างเรื่องราคา! สำหรับ Minolta TC-1 เนี่ย บอกเลยว่ามันไม่ใช่กล้องที่จะหาซื้อได้ง่ายๆ ตามร้านทั่วไปแล้วค่ะ เพราะหยุดผลิตไปตั้งแต่ปี 2007 และกลายเป็นกล้องสะสมไปแล้ว ทำให้ราคาในตลาดตอนนี้เป็นราคาของ กล้องมือสอง และมีความผันผวนสูงมากๆ ขึ้นอยู่กับสภาพกล้อง ความสมบูรณ์ของอุปกรณ์ และความหายาก

ถ้าลองไปส่องๆ ดูตามกลุ่มซื้อขายกล้องฟิล์มใน Facebook หรือตามแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอย่าง Shopee หรือ Lazada ในไทย (อาจจะต้องใช้คีย์เวิร์ดภาษาอังกฤษในการค้นหา เช่น "Minolta TC-1" หรือ "กล้องฟิล์ม Minolta TC-1") จะพบว่าราคาของเจ้า TC-1 อยู่ในช่วงที่เรียกได้ว่า "หูฉี่" เลยทีเดียวค่ะ ราคาเริ่มต้นอาจจะมีตั้งแต่ 30,000 บาท (฿) ขึ้นไป จนถึง 50,000 - 60,000 บาท (฿) หรืออาจจะสูงกว่านั้นมากๆ ถ้าสภาพสวยกริ๊บ มีกล่อง มีอุปกรณ์ครบชุด อย่างในร้านกล้องฟิล์มมือสองบางร้านในกรุงเทพฯ ก็เห็นตั้งราคาไว้หลักหลายหมื่นบาทเลยค่ะ เทียบกับราคาเปิดตัวเมื่อปี 1996 ที่ญี่ปุ่นประมาณ 148,000 เยน (เทียบเท่าประมาณ 1,400 USD ในปี 2016) ราคาตอนนี้ถือว่าพุ่งสูงขึ้นมาเยอะเลยทีเดียวค่ะ

เนื่องจากเป็นกล้องมือสองที่หายาก ร้านค้าใหญ่ๆ อย่าง Central, Big C, The Mall หรือร้านอุปกรณ์ไอทีอย่าง JIB, Banana IT, Power Buy จะไม่มีขายแน่นอนค่ะ ต้องพึ่งพาตลาดกล้องมือสองเป็นหลัก


3. เปรียบเทียบราคากับกล้องฟิล์มตัวอื่นแล้วเป็นไง?

ถ้าให้เทียบราคา Minolta TC-1 กับกล้องฟิล์มคอมแพ็คระดับไฮเอนด์ตัวอื่นๆ ที่อยู่ในยุคเดียวกันและเป็นที่ต้องการของนักสะสมเหมือนกัน เช่น Contax T2, Contax T3, Ricoh GR1v, Leica Minilux หรือ Nikon 28/35Ti ต้องบอกว่าเจ้า TC-1 จัดอยู่ในกลุ่มที่มีราคาสูงอันดับต้นๆ เลยค่ะ บางทีราคาอาจจะใกล้เคียงหรือสูงกว่า Contax T2/T3 ในบางสภาพด้วยซ้ำ

กล้องเหล่านี้ต่างก็มีเลนส์คุณภาพดี บอดี้พรีเมียม และขนาดเล็กพกพาง่ายเหมือนกัน แต่ TC-1 มีความพิเศษเฉพาะตัวตรงที่เป็นกล้องคอมแพ็ค 28mm ที่เล็กที่สุดในโลกตอนที่เปิดตัว และดีไซน์ที่แตกต่างออกไป รวมถึงม่านรูรับแสงแบบวงกลมที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้มันมี "คาแรคเตอร์" และความน่าสะสมในแบบของตัวเอง ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ล้วนส่งผลให้ราคามันสูงลิ่วไม่แพ้คู่แข่งในตลาดเดียวกันเลยค่ะ บางคนอาจจะมองว่าราคานี้ "หูฉี่" เกินไปสำหรับกล้องฟิล์มคอมแพ็ค ในขณะที่นักสะสมหรือคนที่ชื่นชอบคาแรคเตอร์ภาพจากเลนส์ G-Rokkor จริงๆ อาจจะมองว่ามันคือการลงทุนที่คุ้มค่ากับความหายากและคุณภาพที่ได้รับค่ะ


4. ซื้อแล้วได้อะไรมาบ้าง? มีประกันมั้ย?

เนื่องจาก Minolta TC-1 เป็นกล้องมือสอง สิ่งที่คุณจะได้มาด้วยจะขึ้นอยู่กับผู้ขายแต่ละรายเลยค่ะ โดยทั่วไปแล้ว คุณจะได้:

  • ตัวกล้อง Minolta TC-1: อันนี้แน่นอนอยู่แล้ว เช็คสภาพดีๆ นะคะ ว่ามีรอยเยอะแค่ไหน ทำงานสมบูรณ์มั้ย
  • แบตเตอรี่ (CR123A): ส่วนใหญ่มักจะไม่ได้แถมมา ต้องหาซื้อเองค่ะ
  • สายคล้องมือ/คล้องคอ: บางทีอาจจะได้สายเดิมมาด้วย บางทีก็ได้สายอื่นมาแทน หรือไม่ได้เลย
  • ซอง/เคสใส่กล้อง: บางครั้งอาจจะได้ซองหนังแท้เดิมๆ มาด้วย ซึ่งจะเพิ่มมูลค่าได้อีก

ส่วนอุปกรณ์อื่นๆ ที่อาจจะแถมมาด้วยหรือไม่ก็ได้ และจะเพิ่มมูลค่ามากๆ ถ้ามีครบ คือ:

  • กล่องแพ็คเกจเดิม: หายากสุดๆ และเพิ่มมูลค่ากล้องได้เยอะมาก
  • คู่มือการใช้งาน: ก็หายากไม่แพ้กล่องค่ะ ช่วยให้เราเข้าใจการใช้งานได้ง่ายขึ้น
  • ใบรับประกันเดิม: อันนี้มีไว้ดูขลังๆ ค่ะ เพราะแน่นอนว่า ไม่มีประกันศูนย์แล้ว แน่ๆ

เรื่องประกัน: สำหรับกล้องมือสองแบบนี้ ไม่มีประกันศูนย์ แล้ว 100% ค่ะ ถ้าซื้อกับร้านกล้องมือสองบางร้าน อาจจะมี ประกันร้าน ให้สั้นๆ เช่น 7 วัน หรือ 30 วัน เพื่อให้เราได้ลองเช็คการทำงานเบื้องต้น แต่ถ้าซื้อกับผู้ใช้โดยตรง มักจะไม่มีประกันเลย ต้องทำใจและเช็คสภาพกล้องให้ละเอียดที่สุดก่อนตัดสินใจซื้อค่ะ ปัญหาที่พบบ่อยในรุ่นนี้ก็มี เช่น ม่านรูรับแสงค้าง หรือมีแสงรั่ว (Light Leak) ซึ่งอาจจะต้องส่งซ่อมกับช่างผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางเท่านั้น และอาจมีค่าใช้จ่ายสูง

ส่วนเรื่อง ค่าจัดส่ง ก็แล้วแต่ผู้ขายค่ะ บางทีอาจจะมีโปรโมชั่นส่งฟรี แต่ส่วนใหญ่มักจะมีค่าจัดส่งเพิ่มเติมนะจ๊ะ


5. ช่วงไหนน่าซื้อเป็นพิเศษ มีโปรโมชั่นไหม?

อย่างที่บอกไปว่า Minolta TC-1 เป็นกล้องมือสองที่หายาก การรอช่วงโปรโมชั่นใหญ่ๆ แบบ 11.11 หรือ 12.12 จากแบรนด์โดยตรงนั้นไม่มีแล้วค่ะ

แต่โอกาสที่จะเจอราคาดีๆ หรือมีของปล่อยออกมาในช่วงที่น่าสนใจก็พอมีอยู่บ้าง เช่น:

  • ช่วงใกล้เทศกาลใหญ่ๆ: ไม่ว่าจะเป็นปีใหม่ สงกรานต์ หรือช่วง Double Digit Sale บางทีร้านค้ากล้องมือสอง หรือผู้ขายรายย่อยในแพลตฟอร์มออนไลน์ อาจจะจัดโปรโมชั่นเล็กๆ น้อยๆ หรือลดราคาเพื่อระบายสต็อก
  • ช่วงที่วงการกล้องฟิล์มกลับมาคึกคักเป็นพิเศษ: บางทีอาจจะมีคนปล่อยของสะสมออกมาในช่วงที่กระแสกล้องฟิล์มพีคๆ

อย่างไรก็ตาม วิธีที่ดีที่สุดในการได้ Minolta TC-1 มาในราคาที่สมเหตุสมผลคือการ หมั่นติดตาม และ หาข้อมูล อยู่เสมอค่ะ ทั้งในกลุ่มซื้อขายกล้องฟิล์มต่างๆ ใน Facebook, เว็บไซต์ร้านกล้องมือสองที่เชื่อถือได้ หรือการตั้งแจ้งเตือนในแพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง Shopee/Lazada เมื่อมีผู้ลงขายสินค้าด้วยคีย์เวิร์ดที่เราสนใจ ความเร็วและดวงเป็นปัจจัยสำคัญเลยล่ะค่ะ! บางทีเจอราคาดี สภาพถูกใจ ต้องรีบตัดสินใจเลยนะ ไม่งั้นอาจจะโดนคนอื่นคว้าไปก่อน!


6. รีวิวและฟีดแบ็กจากผู้ใช้ในไทย (และทั่วโลก) เป็นยังไงบ้าง?

แม้ในไทยอาจจะหารีวิวจากผู้ใช้คนไทยโดยตรงที่เจาะลึกมากๆ ได้ไม่เยอะเท่ากล้องรุ่นยอดนิยม แต่จากรีวิวและฟีดแบ็กของผู้ใช้ทั่วโลก (ซึ่งน่าจะมีมุมมองคล้ายๆ กับคนไทยที่ชื่นชอบกล้องรุ่นนี้) สรุปจุดเด่นของ Minolta TC-1 ที่ทำให้คนรักได้ดังนี้ค่ะ:

  • ขนาดเล็กและน้ำหนักเบา: เป็นกล้อง 35mm ที่เล็กที่สุดตัวหนึ่ง พกพาง่ายมากๆ ใส่กระเป๋าเสื้อยังได้เลย
  • วัสดุและงานประกอบพรีเมียม: บอดี้ไทเทเนียมให้ความรู้สึกแข็งแรง ทนทาน และดูดี
  • คุณภาพเลนส์ G-Rokkor 28mm f/3.5: ได้รับคำชมเรื่องความคมชัด คอนทราสต์ดีเยี่ยม และมีคาแรคเตอร์ภาพที่เป็นเอกลักษณ์ โดยเฉพาะเรื่อง Vignetting (ขอบภาพมืด) ที่บางคนชอบมากๆ และม่านรูรับแสงวงกลมที่ให้โบเก้สวยงาม
  • ใช้งานง่าย (ในโหมด Aperture Priority): แม้จะมีปุ่มเล็กๆ แต่หลายคนบอกว่าควบคุมได้สะดวกเมื่อคุ้นเคย และระบบวัดแสงก็ทำได้ดี
  • เป็นกล้องสะสม: ความหายากและชื่อชั้นทำให้เป็นที่ต้องการของนักสะสม

ส่วนจุดที่ต้องพิจารณาหรือเป็นข้อด้อยที่ผู้ใช้พูดถึงกันก็มีค่ะ เช่น

  • ราคาแพง: เมื่อเทียบกับกล้องคอมแพ็คตัวอื่นๆ ในตลาด
  • ความเปราะบาง/ปัญหาจุกจิก: แม้บอดี้จะแข็งแรง แต่มีรายงานปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น ม่านรูรับแสงค้าง หรือมีแสงรั่ว ซึ่งซ่อมยากและค่าซ่อมสูง
  • รูรับแสงมีให้เลือกจำกัด: มีแค่ f/3.5, 5.6, 8, 16 เท่านั้น
  • ปุ่มควบคุมเล็ก: อาจจะไม่ถนัดสำหรับบางคนที่มีนิ้วใหญ่

โดยรวมแล้ว ผู้ใช้ที่เลือก Minolta TC-1 มักจะประทับใจในคุณภาพเลนส์ ขนาด และงานประกอบที่พรีเมียมมากๆ แต่อาจจะต้องยอมรับความเสี่ยงเรื่องปัญหาการใช้งานที่อาจเกิดขึ้นได้ในกล้องเก่าค่ะ


7. ช่องทางการซื้อที่แนะนำ

เนื่องจากเป็นกล้องที่ไม่มีขายแบบมือหนึ่งแล้ว ช่องทางการซื้อหลักๆ จะเป็นตลาดมือสองค่ะ:

  • กลุ่มซื้อขายกล้องฟิล์มใน Facebook: เป็นแหล่งที่ผู้ใช้กล้องฟิล์มตัวจริงนำมาปล่อยขาย มีโอกาสเจอสภาพดี ราคาอาจจะยืดหยุ่นกว่าร้าน และสามารถพูดคุยสอบถามประวัติกล้องกับผู้ขายโดยตรงได้ แต่ก็ต้องระวังมิจฉาชีพและนัดเจอเพื่อเช็คของด้วยตัวเองจะปลอดภัยที่สุดค่ะ
  • แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ (Shopee, Lazada): มีร้านค้าและผู้ขายรายย่อยที่นำเข้ากล้องมือสองจากต่างประเทศมาขายเยอะพอสมควร ข้อดีคือมีระบบคุ้มครองผู้ซื้อระดับหนึ่ง มีตัวเลือกเยอะ เปรียบเทียบราคาได้ง่าย แต่ข้อเสียคือไม่ได้เห็นของจริงก่อน ต้องอาศัยการดูรูป รายละเอียด และเครดิตร้านอย่างละเอียด
  • ร้านกล้องฟิล์มมือสองโดยเฉพาะ: ในกรุงเทพฯ หรือหัวเมืองใหญ่อาจจะมีร้านที่นำเข้ากล้องฟิล์มหายากมาขาย ข้อดีคือได้ ลองจับ ลองเทสกล้อง ด้วยตัวเองก่อนซื้อ ได้คำแนะนำจากผู้ขายโดยตรง แต่อาจจะมีราคาสูงกว่าช่องทางอื่นเล็กน้อย
  • เว็บไซต์ประมูล/ขายของมือสองจากต่างประเทศ (เช่น eBay): เป็นแหล่งรวมกล้องหายากจากทั่วโลก มีตัวเลือกเยอะมาก แต่ขั้นตอนการซื้ออาจจะยุ่งยากกว่า ต้องคำนึงถึงค่าส่ง ค่าภาษีนำเข้า และความเสี่ยงในการขนส่งระหว่างประเทศค่ะ

แนะนำว่าให้ลองเช็คหลายๆ ช่องทาง เปรียบเทียบสภาพและราคาให้ดีก่อนตัดสินใจค่ะ


8. สรุปแล้วน่าเก็บสะสมไหม? เหมาะกับใคร?

ถามว่า Minolta TC-1 น่าเก็บสะสมไหม? ถ้าคุณเป็นนักสะสมกล้องฟิล์มคอมแพ็คระดับตำนานล่ะก็ น่าเก็บสะสมมากๆ เลยค่ะ ด้วยความที่เป็นกล้องลิมิเต็ด เอดิชั่น ผลิตจำนวนจำกัด วัสดุพรีเมียม ดีไซน์เป็นเอกลักษณ์ และที่สำคัญคือเลนส์ G-Rokkor ที่คุณภาพดีเยี่ยม ทำให้มันเป็นกล้องที่มีคุณค่าในตัวเอง ไม่ใช่แค่กล้องเก่าๆ ทั่วไปค่ะ

ส่วนจะคุ้มค่าที่จะซื้อมาใช้งานไหมในราคาปัจจุบันหลักหลายหมื่นบาท? อันนี้ขึ้นอยู่กับว่าคุณเป็นใครและต้องการอะไรค่ะ

  • เหมาะกับ:
    • นักสะสมกล้องฟิล์ม: ที่ต้องการกล้องคอมแพ็คระดับท็อปอยู่ในคอลเลคชั่น ไม่ติดเรื่องงบประมาณ และเข้าใจถึงความเสี่ยงของกล้องเก่า
    • คนที่ให้ความสำคัญสูงสุดกับคุณภาพเลนส์และขนาดที่เล็กมากๆ: พร้อมยอมจ่ายในราคาสูงเพื่อแลกกับไฟล์ภาพจากเลนส์ G-Rokkor และความสะดวกในการพกพา
    • คนที่ชอบคาแรคเตอร์ภาพที่เป็นเอกลักษณ์: เช่น Vignetting หรือโบเก้จากม่านรูรับแสงวงกลม
  • อาจจะไม่เหมาะกับ:
    • มือใหม่หัดเล่นกล้องฟิล์ม: ด้วยราคาที่สูงและความเสี่ยงเรื่องกล้องเสีย อาจจะไม่ใช่ตัวเลือกแรกที่แนะนำให้เริ่มต้น
    • คนที่เน้นความคุ้มค่า/งบประมาณจำกัด: มีกล้องฟิล์มคอมแพ็คตัวอื่นที่ราคาถูกกว่านี้มากและให้ภาพที่ดีพอสมควร
    • คนที่ต้องการกล้องที่ทนทาน ใช้งานหนักได้ไม่ต้องกังวล: TC-1 มีชื่อเสียงเรื่องความเปราะบางในบางจุด และค่าซ่อมอาจจะสูง

สรุปคือ Minolta TC-1 เป็นกล้องฟิล์มที่พิเศษมากๆ มีทั้งความสวยงาม คุณภาพ และความเป็นตำนาน แต่ก็มาพร้อมกับราคาที่สูงลิ่วและความเสี่ยงในการใช้งาน ถ้าคุณเข้าใจและยอมรับข้อจำกัดเหล่านี้ได้ และต้องการกล้องที่ให้ประสบการณ์และไฟล์ภาพที่ไม่เหมือนใคร เจ้า TC-1 ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากๆ ค่ะ แต่ถ้ายังลังเล หรืองบประมาณไม่ใช่ปัญหาใหญ่ การมองหากล้องคอมแพ็คไฮเอนด์ตัวอื่นที่อาจจะทนทานกว่า หรือมีฟังก์ชันตรงใจกว่า ก็อาจจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าค่ะ

หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจนะคะ ขอให้ทุกคนได้กล้องฟิล์มที่ถูกใจและสนุกกับการถ่ายภาพค่ะ! แล้วเจอกันใหม่บทความหน้านะคะ บ๊ายบาย!


วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

บทความล่าสุดดูเพิ่มเติม

สวัสดีจ้าชาวสองล้อสายลุย! วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยรถแอดเวนเจอร์ไบค์ไซส์กำลังน่ารัก ที่พร้อมพาเราไปผจญภัยได้ทุกเส้นทาง กับเจ้า Kawasaki Versys-X 300 นั่นเอง! ใครที่กำลังเล็งหารถมอเตอร์ไซค์คู่ใจไว้ขี่เที่ยว ขี่ทำงาน หรืออยากลองออกไปลุยๆ นอกเส้น
ราคา Kawasaki Versys-X 300 แอดเวนเจอร์ไบค์ พร้อมลุยทุกเส้นทาง
สวัสดีค่าทุกคนนน! วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยถึงมือถือรุ่นเก๋าแต่ยังน่าสนอย่าง OPPO R15x กันหน่อย เผื่อใครกำลังมองหามือถือเครื่องที่สอง หรืออยากได้เครื่องราคาเบาๆ ไว้ใช้งานทั่วไป เน้นกล้องสวยสเปกดีในงบจำกัด รุ่นนี้ยังน่าสอยอยู่มั้ยในปีนี้ มาดูกั
โทรศัพท์ OPPO R15x ราคาล่าสุด กล้องสวย สเปกดี น่าใช้ในปีนี้ไหม?
สวัสดีค่าทุกคนนน! วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยสมาร์ทโฟนตัวเก๋าแต่กล้องยังสวยน่าใช้อย่าง OPPO R15x กันหน่อย ใครที่กำลังมองหามือถือเครื่องสำรอง หรืออยากได้เครื่องที่กล้องสวยๆ ในงบสบายกระเป๋า มาดูกันว่าเจ้าตัวนี้ยังน่าสอยอยู่ไหมในปีนี้! พร้อมเคล็ดลั
โทรศัพท์ OPPO R15x ราคาล่าสุด กล้องสวย สเปกดี น่าใช้ในปีนี้ไหม?

บทความยอดนิยม

บทความที่แนะนำ