SSD SATA 3 ราคาล่าสุด ยี่ห้อไหนดี? อัปเกรดให้คอมเร็วขึ้น

สวัสดีจ้าทุกคนนน! วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยเรื่องไอเทมเด็ดที่จะช่วยปลุกชีพคอมเก่าของคุณให้กลับมาเร็ว แรง แซงทุกโค้ง นั่นก็คือ SSD SATA 3 นั่นเอง! ใครที่กำลังทนกับคอมที่บูตนานเป็นชาติ เปิดโปรแกรมทีต้องไปชงกาแฟรอ หรือย้ายไฟล์ทีนึกว่าเต่าคลาน มามุงทางนี้เลยจ้า เพราะเราจะมาบอกหมดเปลือก ทั้งเรื่องราคา ยี่ห้อไหนดี๊ดี และช้อปยังไงให้คุ้มค่าที่สุดในตลาดเมืองไทย เตรียมตัวให้พร้อม แล้วไปอัปเกรดคอมคู่ใจกันเลย!

1. SSD SATA 3 มันคืออะไรกันนะ?

เอาล่ะ เริ่มต้นกันที่ว่าเจ้า SSD SATA 3 นี่มันคืออะไร? พูดง่ายๆ มันคือ หน่วยความจำสำรอง หรือที่เก็บข้อมูลของคอมพิวเตอร์เรานี่แหละ แต่ไม่ใช่แบบจานหมุนเอื่อยๆ เหมือน Hard Drive (HDD) แบบเก่านะจ๊ะ เจ้า SSD เนี่ยย่อมาจาก Solid State Drive ซึ่งทำงานเหมือน Flash Drive อันใหญ่ๆ ที่ไม่มีชิ้นส่วนเคลื่อนไหว ทำให้มัน อ่านและเขียนข้อมูลได้เร็วกว่า HDD แบบเดิมๆ หลายเท่าตัว เลยทีเดียว!

ส่วนคำว่า SATA 3 ก็คือประเภทของการเชื่อมต่อระหว่าง SSD กับเมนบอร์ดคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ใช้กันมานานแล้วและยังคงเป็นที่นิยมมากๆ เพราะ เมนบอร์ดเก่าๆ หลายรุ่นก็ยังรองรับ ทำให้เจ้า SSD SATA 3 เนี่ยเหมาะมากๆ สำหรับ คนที่อยากอัปเกรดคอมเก่า ทั้ง Desktop และ Laptop ให้เร็วขึ้นแบบไม่ต้องยกเครื่องใหม่ แค่เปลี่ยนจาก HDD ลูกเดิมมาเป็น SSD SATA 3 ชีวิตก็เปลี่ยนแล้วจ้า! บูตเครื่องเร็ว เปิดโปรแกรมปุ๊บปั๊บ ย้ายไฟล์ไวทันใจ ไม่ต้องทนรออีกต่อไป เหมาะกับนักเรียน นักศึกษา คนทำงานทั่วไป หรือใครก็ตามที่เบื่อความหน่วงของคอมเก่าๆ จ้า

2. ราคาในตลาดไทยเป็นยังไงบ้าง?

มาถึงเรื่องสำคัญที่ทำให้หลายคนตาลุกวาว นั่นก็คือ "ราคา" นั่นเอง! สำหรับ SSD SATA 3 ในตลาดไทยเนี่ย ราคาถือว่า เป็นมิตรกับกระเป๋าสตางค์มากๆ เมื่อเทียบกับความเร็วที่ได้ ส่วนใหญ่แล้วราคาจะขึ้นอยู่กับ ความจุ เป็นหลักจ้า

• ความจุ 120GB - 256GB: เหมาะสำหรับคนที่ต้องการอัปเกรดแค่ลง Windows และโปรแกรมพื้นฐาน ราคาเริ่มต้นประมาณ 500 - 1,000 บาท (฿)
• ความจุ 480GB - 512GB: ยอดนิยมเลยจ้า ลง Windows ลงโปรแกรม แถมยังพอมีพื้นที่เก็บไฟล์งาน เกม หรือหนังได้บ้าง ราคาประมาณ 1,000 - 1,800 บาท (฿)
• ความจุ 1TB ขึ้นไป: สำหรับคนที่ต้องการพื้นที่เยอะๆ เก็บข้อมูลได้จุใจ หรือลงเกมเยอะๆ ราคาจะขยับขึ้นมาเป็นประมาณ 2,500 บาท (฿) ขึ้นไป

ลองไปส่องตามแหล่งช้อปปิ้งออนไลน์ยอดฮิตในไทยดูสิ อย่าง Lazada หรือ Shopee เนี่ย มีร้านค้า Official และร้านค้าอื่นๆ ให้เลือกเยอะมากๆ สามารถเปรียบเทียบราคาได้ง่ายเลยจ้า นอกจากนี้ ตามร้านค้าไอทีชั้นนำอย่าง JIB, Banana IT, Power Buy ก็มีวางขายเช่นกัน ราคาอาจจะสูงกว่าออนไลน์เล็กน้อย แต่ก็สะดวกตรงที่สามารถสอบถามพนักงาน หรือบางทีมีโปรโมชั่นหน้าร้านที่น่าสนใจนะ

3. แล้วเทียบกับตัวอื่นล่ะ ราคาโอเคมั้ย?

ถ้าให้เทียบกับ Hard Drive (HDD) แบบเก่าเนี่ย แน่นอนว่า SSD SATA 3 ราคายังคงสูงกว่าต่อความจุที่เท่ากัน แต่ถ้าเทียบเรื่อง ความเร็ว แล้ว SSD ชนะขาดลอยจ้า! ความต่างของราคากับความเร็วที่ได้ ถือว่า คุ้มค่ามากๆ สำหรับการใช้งานทั่วไปที่เน้นความรวดเร็วในการเปิดเครื่องและเปิดโปรแกรม

ส่วนถ้าเทียบกับ SSD แบบ M.2 NVMe ที่เป็นเทคโนโลยีใหม่กว่าและเร็วกว่ามาก (ถ้าเมนบอร์ดรองรับและมีช่องเสียบแบบ M.2) เจ้า SSD SATA 3 จะมี ราคาที่ถูกกว่าเยอะ เลยจ้า ถึงแม้ความเร็วจะไม่เท่า NVMe แต่ความเร็วของ SATA 3 ก็เพียงพอแล้วสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันทั่วๆ ไป และเป็นการอัปเกรดที่เห็นผลชัดเจนมากๆ เมื่อเทียบกับ HDD ถือเป็นตัวเลือกที่ คุ้มค่าที่สุดสำหรับการอัปเกรดคอมเก่าโดยใช้งบประมาณไม่สูง

4. ซื้อแล้วได้อะไรมาบ้างนะ?

ส่วนใหญ่แล้ว เวลาเราซื้อ SSD SATA 3 สิ่งที่เราจะได้มาในกล่องก็จะมีแค่ ตัว SSD เพียวๆ นี่แหละจ้า อาจจะมีคู่มือเล็กๆ น้อยๆ ติดมาด้วย แต่บางยี่ห้อก็ไม่มีอะไรเลยนะ อุปกรณ์เสริมอื่นๆ เช่น สาย SATA data cable หรือน็อตสำหรับยึด อาจจะต้อง ซื้อเพิ่มเอง ถ้าของเดิมในเครื่องไม่มี หรือถ้าติดตั้งในเคส Desktop ก็อาจจะต้องมีถาดแปลงจากขนาด 2.5 นิ้ว เป็น 3.5 นิ้ว ด้วยนะ อันนี้ต้องเช็คดูดีๆ

สิ่งสำคัญมากๆ ที่คนไทยให้ความสนใจคือเรื่อง การรับประกัน (Warranty) ซึ่งโดยปกติแล้ว SSD SATA 3 ยี่ห้อชั้นนำในไทยจะมีการรับประกันตั้งแต่ 3 ปี ไปจนถึง 5 ปี เลยทีเดียวจ้า! อันนี้สบายใจได้เลย เพราะถ้ามีปัญหาในระยะเวลารับประกันก็สามารถเคลมกับทางศูนย์บริการในไทยได้เลย ส่วนเรื่อง ค่าจัดส่ง ถ้าซื้อออนไลน์ ส่วนใหญ่ก็จะมีโปรโมชั่น ส่งฟรี เมื่อซื้อถึงยอดที่กำหนด หรือมีโค้ดส่วนลดค่าส่งให้ใช้ ก็ต้องคอยเช็คโปรโมชั่นของแต่ละร้าน แต่ละแพลตฟอร์มนะจ๊ะ

5. มีช่วงไหนน่าซื้อเป็นพิเศษมั้ย?

แน่นอนว่าถ้าอยากได้ของดีราคาโดน ช่วง โปรโมชั่น นี่แหละคือเวลาทองเลยจ้า! แพลตฟอร์มออนไลน์ใหญ่อย่าง Lazada กับ Shopee เค้าจัดหนักจัดเต็มเรื่องส่วนลดและโปรโมชั่นบ่อยมากๆ โดยเฉพาะช่วง Double Digit Sale ยอดฮิตอย่าง 11.11, 12.12 รวมถึงช่วง เทศกาลใหญ่ๆ ของไทย เช่น สงกรานต์, ปีใหม่ หรือแม้แต่ช่วง Black Friday, Cyber Monday ที่ร้านค้าออนไลน์ก็เข้าร่วมด้วยนะ

ร้านค้าที่เป็น Official Store ของแบรนด์ SSD ชั้นนำบน Lazada หรือ Shopee เนี่ย มักจะมีโปรโมชั่นลดราคาออกมาเรื่อยๆ ไม่ต้องรอถึงเทศกาลใหญ่ก็ได้ แต่ช่วงเทศกาลใหญ่ส่วนลดจะเยอะและคุ้มค่ากว่าเป็นพิเศษจ้า แนะนำว่าถ้าไม่รีบมากๆ รอช่วงโปรโมชั่นใหญ่ๆ แล้วกดซื้อ จะได้ราคาที่ถูกลงเยอะเลยนะ บางทีมีทั้งส่วนลดสินค้า ส่วนลดจากแพลตฟอร์ม ส่วนลดบัตรเครดิต และโค้ดส่งฟรีอีกด้วย คุ้มสุดๆ ไปเลย!

6. คนไทยใช้แล้วรู้สึกยังไงกันบ้างนะ?

จากที่ลองไปส่องๆ ดูตามรีวิวของคนไทยในเว็บบอร์ดไอที หรือตามร้านค้าออนไลน์เนี่ย เสียงตอบรับส่วนใหญ่เกี่ยวกับ SSD SATA 3 คือ ดีงามพระรามแปด เลยจ้า จุดที่คนไทยชอบมากๆ และมักจะรีวิวถึงก็คือ:

• ความเร็วที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด: ทุกคนต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าคอมเร็วขึ้นแบบคนละเรื่อง! บูตเครื่องไว เปิดโปรแกรมปุ๊บ ไม่มีอาการหน่วงให้หงุดหงิด
• คุ้มค่ากับราคาที่จ่าย: ด้วยราคาที่ไม่แพงมาก แต่เห็นผลเรื่องความเร็วชัดเจนมากๆ ทำให้รู้สึกว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าสุดๆ
• ติดตั้งง่าย: สำหรับคนที่พอมีความรู้เรื่องคอมอยู่บ้าง การเปลี่ยนจาก HDD เป็น SSD SATA 3 ทำได้ไม่ยาก มีคู่มือหรือวิดีโอสอนออนไลน์เยอะแยะไปหมด
• ทนทาน reliable: แบรนด์ยอดนิยมมักจะมีความเสถียรและทนทาน ใช้งานได้ยาวนาน ไม่ค่อยมีปัญหาจุกจิก (อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับการใช้งานและการดูแลด้วยนะ!)
• มีตัวเลือกหลากหลาย: มีหลายยี่ห้อ หลายความจุ ให้เลือกตามงบประมาณและความต้องการ

สรุปคือ คนไทยที่อัปเกรดมาใช้ SSD SATA 3 ส่วนใหญ่จะแฮปปี้กับ ความเร็วที่เพิ่มขึ้น และ ความคุ้มค่า ที่ได้เลยจ้า

7. แล้วจะไปหาซื้อได้ที่ไหนล่ะทีนี้?

สำหรับ SSD SATA 3 เนี่ย หาซื้อได้ง่ายมากๆ เลยจ้า มีหลายช่องทางให้เลือกตามความสะดวกเลยนะ

• แพลตฟอร์มออนไลน์ขนาดใหญ่: เช่น Shopee และ Lazada อันนี้เป็นช่องทางที่ สะดวกที่สุด มีร้านค้าเยอะ ทั้ง Official Store ของแบรนด์โดยตรง และร้านค้าไอทีต่างๆ สามารถเปรียบเทียบราคา ดูรีวิวจากผู้ซื้อคนอื่นๆ ได้ง่าย มีระบบการจ่ายเงินที่ปลอดภัย และมีโปรโมชั่นให้ใช้ตลอดๆ ข้อเสียคือนอกจากร้าน Official เราจะไม่เห็นของจริง ต้องดูจากรูปและรายละเอียดที่ร้านให้มา
• ร้านค้าไอทีชั้นนำ: เช่น JIB, Banana IT, Power Buy, Advice, IT City เป็นต้น ร้านพวกนี้มีสาขาเยอะตามห้างสรรพสินค้าต่างๆ ข้อดีคือเราสามารถไป ดูสินค้าจริง สอบถามข้อมูลจากพนักงานได้โดยตรง ถ้ามีปัญหาก็สามารถนำไปเคลมที่สาขาได้เลย สะดวกมากๆ สำหรับบางคน แต่ราคาอาจจะสูงกว่าออนไลน์เล็กน้อยนะ
• ร้านค้าออนไลน์อื่นๆ: นอกจาก Shopee/Lazada ก็ยังมีร้านค้าออนไลน์ของร้านไอทีใหญ่ๆ โดยตรง หรือร้านค้าออนไลน์เฉพาะทางด้านคอมพิวเตอร์อีกหลายร้าน ก็เป็นอีกทางเลือกในการเปรียบเทียบราคาและโปรโมชั่นนะ

แนะนำว่าถ้าเน้นความสะดวกและราคาดี ให้ดูตามแพลตฟอร์มออนไลน์ใหญ่ๆ ก่อนเลยจ้า แต่ถ้าอยากได้ความสบายใจ ได้เห็นของจริง หรือต้องการคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ ก็ไปที่ร้านค้าไอทีได้เลยนะ

8. สรุปแล้วน่าซื้อไหม? เหมาะกับใคร?

มาถึงบทสรุปกันแล้ว! ถามว่า SSD SATA 3 ยังน่าซื้ออยู่ไหมในปีนี้? คำตอบคือ น่าซื้อมากๆ เลยจ้า ถ้าคุณเป็นคนที่:

• ใช้คอมเก่าที่มีแต่ Hard Drive (HDD) แล้วรู้สึกว่ามันช้า ไม่ทันใจ
• มีงบประมาณจำกัด แต่อยากเห็นผลเรื่องความเร็วของคอมแบบชัดเจน
• ต้องการอัปเกรด Laptop หรือ Desktop เครื่องเก่า ให้กลับมาใช้งานได้ลื่นไหลขึ้น
• ใช้งานคอมพิวเตอร์ทั่วไป เช่น เล่นเน็ต ดูหนัง ฟังเพลง ทำงานเอกสาร เล่นเกมที่ไม่เน้นกราฟิกสูงมากๆ

เจ้า SSD SATA 3 คือ ตัวเลือกที่คุ้มค่าที่สุด สำหรับคุณเลยจ้า! มันเป็นการอัปเกรดที่ลงทุนไม่สูง แต่ให้ผลลัพธ์เรื่องความเร็วที่น่าพอใจมากๆ เหมือนได้คอมเครื่องใหม่ในราคาหลักพัน!

ส่วนจะเลือกความจุเท่าไหร่ ก็ขึ้นอยู่กับการใช้งานเลยจ้า ถ้าเน้นแค่ลง Windows กับโปรแกรมทำงานพื้นฐาน 240-256GB ก็เพียงพอ แต่ถ้าจะลงโปรแกรมเยอะหน่อย หรือเก็บไฟล์งานบ้าง 480-512GB กำลังดีเลย และถ้าเป็นสายเก็บข้อมูลหรือเกมเมอร์ ก็จัด 1TB ขึ้นไปได้เลยจ้า

ใครที่ลังเลอยู่ บอกเลยว่าไม่ต้องลังเลแล้ว! อัปเกรดเป็น SSD SATA 3 เถอะ แล้วชีวิตการใช้คอมของคุณจะสบายขึ้นอีกเยอะเลยจ้า ไม่ต้องมานั่งรอโหลดจนเหงือกแห้งอีกต่อไปแล้วนะ! ขอให้ทุกคนได้ SSD ที่ถูกใจ และมีความสุขกับการใช้คอมที่เร็วขึ้นจ้า! บ๊ายบายยย!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• SSD แบบมีกี่แบบ เลือกยังไงดี ให้เหมาะสมคุ้มค่าที่สุด อัปเดต 2025
• SSD แบบ Sata ยังน่าใช้มั้ยในปี 2025 ?
• ควรซื้อ SSD ความจุเท่าไรในปี 2025 !
• แนะนำการเลือก SSD อัพเกรดให้โน้ตบุ๊ค พร้อมย้าย Windows !!
• ลองสั่ง SSD 2TB แค่ 500 กว่าบาท ใช้จริงเป็นยังไง ?