Mazda CX-3 ราคาปัจจุบันเท่าไหร่? (CX-2 น่าจะเป็น CX-3) เช็คสเปคล่าสุด

สวัสดีจ้าทุกคนนน! วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยเรื่องรถยนต์นั่งยกสูงยอดฮิตที่ขับสนุก ดีไซน์เฉียบ อย่าง Mazda CX-3 กันจ้า ใครที่กำลังเล็งๆ รถคันเล็ก กะทัดรัด ขับสนุกในเมือง แถมไปไหนมาไหนก็คล่องตัว ต้องมามุงทางนี้เลยนะ เพราะเราจะมาเจาะลึกเรื่องราคา สเปคล่าสุด และเม้าท์มอยตามสไตล์คนใช้รถใช้ถนนกันนี่แหละ! ส่วนใครที่แอบงงๆ ว่า เอ๊ะ! ที่เคยเห็นมี CX-2 ด้วยนี่นา? ต้องบอกเลยว่าในไทยที่เราคุ้นเคยกันเนี่ย ที่เห็นบ่อยๆ และเป็นที่นิยมก็คือ CX-3 นี่แหละจ้า ไม่มี CX-2 ทำตลาดในไทยนะจ๊ะ สบายใจได้ หายสงสัยแล้วก็ไปลุยกันเลย!

1. เจ้า Mazda CX-3 นี่มันคือรถอะไรกันนะ?

เอาล่ะ เริ่มต้นกันที่ว่าเจ้า Mazda CX-3 นี่มันคือรถอะไร? พูดง่ายๆ มันคือ รถยนต์อเนกประสงค์ครอสโอเวอร์ขนาดเล็ก (Subcompact Crossover SUV) ที่มาจากค่ายซูม ซูม อย่าง Mazda นั่นเองจ้า ซึ่ง Mazda เค้าเป็นแบรนด์รถยนต์เก่าแก่จากประเทศญี่ปุ่น ที่ขึ้นชื่อเรื่องดีไซน์สวยงามตามปรัชญา KODO Design หรือ "จิตวิญญาณแห่งความเคลื่อนไหว" และเทคโนโลยี Skyactiv ที่เน้นความสนุกในการขับขี่ ให้ความรู้สึกเหมือนคนกับรถเป็นหนึ่งเดียวกัน หรือที่เรียกว่า Jinba Ittai นั่นแหละ เจ้า CX-3 นี่ก็เช่นกัน เค้าออกแบบมาให้มีความคล่องตัว เหมาะกับการขับขี่ในเมืองที่การจราจรหนาแน่น หาที่จอดยาก แต่ก็ยังมีความสูงที่พอจะลุยๆ ไปตามสภาพถนนเมืองไทยได้บ้าง ไม่ต้องกลัวท้องรถติด แถมดีไซน์ยังดูสปอร์ต ปราดเปรียว ใครที่อยากได้รถที่ตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองยุคใหม่ ที่ไปทำงานก็ได้ ไปเที่ยวก็ดี ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป เจ้า CX-3 นี่แหละเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากๆ เลยในตลาดบ้านเราจ้า

2. ราคาในตลาดไทยเป็นยังไงบ้าง?

มาถึงเรื่องสำคัญที่ทุกคนรอคอย นั่นก็คือ "ราคา" นั่นเอง! สำหรับ Mazda CX-3 รุ่นปัจจุบันที่จำหน่ายในไทยเนี่ย เค้าก็มีการปรับรุ่นและราคามาเรื่อยๆ นะจ๊ะ แต่ข้อมูลล่าสุดที่เราหามาได้ (อัปเดตประมาณกลางปี 2025) เค้าจะมีรุ่นย่อยให้เลือกหลากหลายเลยแหละ

รุ่น MY2025 ที่เปิดตัวมาเนี่ย ราคาเริ่มต้นน่ารักน่าลุ้นเลยทีเดียว

• รุ่น 2.0 Prime ราคาเริ่มต้น 699,000 บาท
• รุ่น 2.0 Ultra ราคา 759,000 บาท
• รุ่น 2.0 Ultra Plus ราคา 829,000 บาท
• รุ่น 2.0 Signature รุ่นท็อปสุด ราคา 899,000 บาท

จะเห็นว่ารุ่นเริ่มต้นเนี่ย ราคาไม่ถึงเจ็ดแสน! น่าสนใจสุดๆ ส่วนรุ่นย่อยอื่นๆ ก่อนหน้านี้อย่าง MY2023 ก็ยังมีคนพูดถึงอยู่บ้างนะ

• รุ่น 2.0 Base ราคา 770,000 บาท
• รุ่น 2.0 Base Plus ราคา 830,000 บาท
• รุ่น 2.0 Comfort ราคา 900,000 บาท
• รุ่น 2.0 Sport Luxe ราคา 970,000 บาท

ราคาเนี่ยเป็นราคาอย่างเป็นทางการที่ประกาศจาก Mazda นะจ๊ะ ซึ่งราคาอาจจะมีบวกเพิ่มสำหรับสีพิเศษบางสีด้วยนะ (เช่น สีแดง Soul Red Crystal, สีเทา Machine Gray, สีขาว Snowflake White Pearl) ก็ต้องไปเช็คกับศูนย์บริการอีกทีตอนเลือกสีนะจ๊ะ

ส่วนเรื่องการซื้อรถยนต์เนี่ย ปกติเราก็จะซื้อผ่าน ผู้จำหน่ายมาสด้าอย่างเป็นทางการ (ศูนย์ Mazda) ทั่วประเทศนะ ไม่เหมือนสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่เรากดสั่งซื้อใน Lazada หรือ Shopee ได้ตรงๆ จ้า แต่ในแพลตฟอร์มออนไลน์อาจจะมีร้านค้าบางร้านที่ลงโปรโมชั่นหรือข้อมูลไว้ให้เราเข้าไปดูเบื้องต้นได้นะ แต่สุดท้ายก็ต้องไปทำเรื่องที่ศูนย์อยู่ดีจ้า

3. แล้วเทียบกับรุ่นอื่นล่ะ ราคาโอเคมั้ย?

ถ้าให้เทียบกับคู่แข่งในตลาดรถครอสโอเวอร์ขนาดเล็กในไทยเนี่ย Mazda CX-3 ถือว่ามีราคาที่แข่งขันได้เลยนะ โดยเฉพาะรุ่นเริ่มต้นที่มีราคาเข้าถึงง่ายมากๆ คู่แข่งในตลาดก็มีหลายเจ้าเลย เช่น Honda HR-V, Toyota Corolla Cross, Nissan Kicks หรือ MG ZS

อย่าง Honda HR-V หรือ Toyota Corolla Cross อาจจะมีราคาที่สูงกว่าในรุ่นที่สเปคใกล้เคียงกัน ส่วน MG ZS หรือ Nissan Kicks อาจจะมีบางรุ่นที่ราคาใกล้เคียงหรือถูกกว่า แต่ CX-3 ก็จะมีจุดเด่นเรื่องดีไซน์ที่สวยงามโดดเด่นกว่า และฟีลลิ่งในการขับขี่ที่หลายคนชื่นชอบในความสปอร์ตและการควบคุมที่แม่นยำตามสไตล์ Mazda บางทีราคาอาจจะไม่ได้ถูกที่สุดโดดๆ แต่ถ้ามองภาพรวมเรื่องสมรรถนะ ดีไซน์ และเทคโนโลยีที่ให้มาในแต่ละรุ่นย่อย ก็ถือว่ามีความคุ้มค่าในแบบของตัวเองนะจ๊ะ

4. ซื้อแล้วได้อะไรมาบ้างนะ?

เวลาซื้อรถยนต์ป้ายแดงจากศูนย์ Mazda เนี่ย สิ่งที่เราจะได้มาหลักๆ เลยก็คือตัวรถที่เราเลือก พร้อมอุปกรณ์มาตรฐานตามสเปคของรุ่นนั้นๆ จ้า นอกจากนี้ สิ่งที่มักจะมาพร้อมกับการซื้อรถใหม่ (และคนไทยให้ความสำคัญมากๆ) ก็คือ:

• การรับประกันตัวรถ: ปกติ Mazda จะให้การรับประกันคุณภาพตัวรถนาน 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร แล้วแต่ระยะใดถึงก่อนนะ อันนี้อุ่นใจได้เลย ถ้ามีปัญหาอะไรที่เกิดจากการผลิตก็เข้าศูนย์เคลมได้จ้า
• ฟรีค่าแรงเช็คระยะ: มักจะมีโปรโมชั่นฟรีค่าแรงเช็คระยะในช่วงแรกๆ ให้ด้วยนะ (เช่น 3 ครั้งแรก หรือตามระยะทางที่กำหนด) ช่วยประหยัดไปได้เยอะเลย
• บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน: หลายศูนย์จะมีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมงให้ด้วยนะ เผื่อรถมีปัญหาฉุกเฉินกลางทาง
• ของแถม/โปรโมชั่น: อันนี้แหละคือสิ่งที่แต่ละศูนย์และแต่ละช่วงเวลาจะแตกต่างกันไป! โปรโมชั่นรถยนต์ใหม่ๆ มักจะมีของแถมมาล่อตาล่อใจเพียบ เช่น ฟรีประกันภัยชั้น 1 (อันนี้สำคัญและคุ้มมากๆ เพราะเบี้ยประกันรถใหม่ค่อนข้างสูง) ฟรี พ.ร.บ., ฟรีค่าจดทะเบียน, ฟิล์มกรองแสง (ส่วนใหญ่มักจะเป็นฟิล์มเซรามิคคุณภาพดีหน่อย), พรมปูพื้น, ถาดยางท้ายรถ, กรอบป้ายทะเบียน, หรือบางทีก็มีพวกกล้องติดรถยนต์ให้ด้วยนะ ส่วนเรื่องคูปองน้ำมัน หรือส่วนลดเงินสดก็มีให้เห็นบ่อยๆ จ้า บางทีก็มีโปรแกรมบำรุงรักษาฟรีตามระยะที่กำหนดด้วย

เรื่อง ค่าจัดส่ง สำหรับรถยนต์ใหม่จากศูนย์ ไม่มีนะจ๊ะ เพราะเราต้องไปรับรถที่ศูนย์บริการเอง หรือบางทีเซลล์อาจจะมีบริการขับมาส่งให้ถึงบ้าน อันนี้แล้วแต่ตกลงกับเซลล์เลยจ้า

5. มีช่วงไหนน่าซื้อเป็นพิเศษมั้ย?

ถ้าอยากได้ข้อเสนอที่ดีที่สุดในการซื้อรถยนต์ใหม่เนี่ย ช่วงเวลาที่น่าจับตามองเป็นพิเศษก็คือ ช่วงปลายปี หรือ ช่วงต้นปี ที่เป็นช่วงของการปรับโฉมหรือมีรุ่นปีใหม่เข้ามา มักจะมีโปรโมชั่นพิเศษจากผู้จำหน่ายเพื่อเคลียร์สต็อกรุ่นปีก่อนหน้า หรือกระตุ้นยอดขาย นอกจากนี้ ช่วงงาน Motor Show หรือ Motor Expo ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ก็เป็นอีกช่วงเวลาที่ค่ายรถต่างๆ งัดโปรโมชั่นเด็ดๆ มาแข่งขันกันสุดฤทธิ์ ทั้งส่วนลดเงินสด ดอกเบี้ยพิเศษ ของแถมจัดเต็ม หรือเงื่อนไขไฟแนนซ์ที่น่าสนใจ

ส่วนเทศกาลไทยๆ อย่างสงกรานต์ หรือช่วง Double Digit Sale แบบ 11.11 หรือ 12.12 ที่ Lazada หรือ Shopee เนี่ย สำหรับตัวรถยนต์เอง อาจจะไม่ได้มีโปรโมชั่นโดยตรงเหมือนสินค้าทั่วไป แต่ร้านค้าอุปกรณ์ประดับยนต์ หรือร้านยางรถยนต์ อาจจะมีโปรโมชั่นในช่วงนั้นๆ นะจ๊ะ ก็เป็นโอกาสดีถ้าเราอยากซื้อของแต่งรถเพิ่มเติม

สรุปคือ ถ้าไม่รีบมากๆ รอช่วงปลายปี ต้นปี หรืองาน Motor Show/Motor Expo เนี่ย มีโอกาสได้ข้อเสนอที่ดีกว่าช่วงปกติแน่นอนจ้า!

6. คนไทยใช้แล้วรู้สึกยังไงกันบ้างนะ?

จากที่ได้เห็นฟีดแบ็กและรีวิวจากผู้ใช้ Mazda CX-3 ในไทยเนี่ย เสียงตอบรับส่วนใหญ่ถือว่าดีเลยนะ จุดที่คนไทยชอบมากๆ และมักจะพูดถึงก็คือ:

• ดีไซน์สวยเฉียบ ไม่ซ้ำใคร: อันนี้ยอมรับเลยว่า Mazda เค้าทำดีไซน์ออกมาได้สวยจริงๆ ถูกใจคนไทยที่ชอบรถดีไซน์พรีเมียม ดูสปอร์ต
• ขับสนุก ขับสนั่น! : ด้วยเครื่องยนต์ Skyactiv-G 2.0 ลิตร ที่ให้กำลังสูงสุด 156 แรงม้า ทำให้ CX-3 มีอัตราเร่งดี เหยียบติดเท้า พวงมาลัยคม ขับสนุกทั้งในเมืองและนอกเมือง
• ความคล่องตัว เหมาะกับเมืองไทย: ขนาดตัวรถไม่ใหญ่มาก ทำให้ขับซอกแซกในเมืองได้สบาย หาที่จอดง่าย
• ช่วงล่างหนึบ เกาะถนนดี: อันนี้เป็นอีกจุดเด่นของ Mazda เลย ช่วงล่างเค้าเซ็ตมาได้ดี ให้ความมั่นใจในการขับขี่ เกาะถนนหนึบ

แต่ก็มีบางเสียงที่อาจจะบอกว่า พื้นที่ภายในห้องโดยสารด้านหลังอาจจะไม่กว้างเท่าคู่แข่งบางรุ่น หรือความสูงจากพื้นถึงท้องรถ (Ground Clearance) อาจจะไม่ได้สูงมากเหมือน SUV เต็มตัว แต่โดยรวมแล้ว ถ้าเน้นดีไซน์ การขับขี่ และความคล่องตัวในเมือง CX-3 ถือว่าตอบโจทย์คนไทยได้ดีเลยจ้า

7. แล้วจะไปหาซื้อได้ที่ไหนล่ะทีนี้?

สำหรับการซื้อ Mazda CX-3 ใหม่ป้ายแดง ช่องทางหลักและเป็นทางการที่สุดก็คือ ผู้จำหน่ายมาสด้าอย่างเป็นทางการ (ศูนย์ Mazda) ทั่วประเทศจ้า

• ศูนย์ Mazda: ข้อดีคือเราสามารถไปดูรถ ทดลองขับ พูดคุยกับเซลล์ ขอข้อมูลรายละเอียด โปรโมชั่นต่างๆ ได้โดยตรง แถมยังทำเรื่องไฟแนนซ์ ประกันภัย และบริการหลังการขายต่างๆ ได้ครบวงจรในที่เดียว การรับประกันและบริการต่างๆ ก็เป็นไปตามมาตรฐานของ Mazda
• แพลตฟอร์มออนไลน์ขนาดใหญ่ (สำหรับดูข้อมูลเบื้องต้น/โปรโมชั่น): อย่างที่บอกไปว่าเราไม่สามารถกดซื้อรถยนต์ใน Shopee หรือ Lazada ได้โดยตรง แต่บางทีศูนย์ Mazda หรือผู้จำหน่ายรายย่อย อาจจะลงข้อมูลรถ รุ่นย่อย ราคา หรือโปรโมชั่นคร่าวๆ ไว้ในแพลตฟอร์มเหล่านี้ เพื่อให้เราเข้าไปดูเป็นข้อมูลเบื้องต้นก่อนติดต่อไปที่ศูนย์จริงจ้า

ดังนั้น ถ้าจะซื้อ Mazda CX-3 ใหม่ป้ายแดง แนะนำให้ตรงไปที่ ศูนย์ Mazda ที่ใกล้บ้าน หรือศูนย์ที่เราสะดวกได้เลยจ้า ได้เห็นรถจริง ได้ทดลองขับ ได้พูดคุยกับเซลล์ จะได้ข้อมูลที่ครบถ้วนและมั่นใจที่สุดนะ

8. สรุปแล้วน่าซื้อไหม? เหมาะกับใคร?

มาถึงบทสรุปกันแล้ว! ถามว่า Mazda CX-3 ยังน่าซื้ออยู่ไหมในปีนี้? คำตอบคือ น่าซื้อมากๆ เลยจ้า ถ้าคุณเป็นคนที่:

• มองหารถครอสโอเวอร์ขนาดเล็ก ที่คล่องตัว ขับในเมืองสบาย
• ชอบรถดีไซน์สวย โดดเด่น ไม่เหมือนใคร
• ให้ความสำคัญกับสมรรถนะการขับขี่ ชอบรถที่ขับสนุก พวงมาลัยคม ช่วงล่างดี
• มีงบประมาณที่มองหารถในช่วงราคาเริ่มต้นถึงกลางๆ ของตลาดครอสโอเวอร์ เพราะตอนนี้มีรุ่นเริ่มต้นที่ราคาเข้าถึงง่ายมากๆ แล้ว
• ต้องการรถที่มีเทคโนโลยีความปลอดภัยและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ในรุ่นสูงๆ ก็จัดเต็มให้เลยนะ

เจ้า CX-3 คือคำตอบเลยจ้า! มันเป็นรถที่ให้ ความคุ้มค่า ในเรื่องดีไซน์ สมรรถนะ และฟีลลิ่งในการขับขี่ที่แตกต่างจากคู่แข่งในคลาสเดียวกัน

ส่วนจะเลือกรุ่นไหนดีระหว่างรุ่น Prime, Ultra, Ultra Plus, หรือ Signature ก็ขึ้นอยู่กับงบประมาณและความต้องการเลยจ้า ถ้าเน้นความคุ้มค่า อยากได้รถ Mazda CX-3 มาขับในราคาที่จับต้องง่าย รุ่น Prime ก็เพียงพอสำหรับการใช้งานพื้นฐานและได้ดีไซน์สวยๆ แล้ว แต่ถ้าอยากได้ออปชันที่เพิ่มขึ้นมาหน่อย เช่น ไฟหน้า LED, ระบบความปลอดภัยบางส่วน หรืออุปกรณ์อำนวยความสะดวกอื่นๆ ก็ขยับไปดูรุ่น Ultra หรือ Ultra Plus ส่วนใครที่อยากได้ฟังก์ชันครบจัดเต็ม ทั้งระบบความปลอดภัย i-Activsense ตัวท็อป, หลังคา Sunroof, หรือระบบเครื่องเสียง Bose รุ่น Signature ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ แม้ราคาจะสูงขึ้นไปอีกหน่อย

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคนที่กำลังตัดสินใจซื้อ Mazda CX-3 นะจ๊ะ ขอให้ได้รถที่ถูกใจ ขับขี่ปลอดภัย สนุกกับการเดินทางในทุกๆ วันจ้า! บ๊ายบายยย!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• เปิดตัว 2023 MAZDA CX-3 ราคา 7.7-9.7 แสน เพิ่มรุ่นใหม่ เติมออปชั่ ...
• รีวิว Mazda CX3 ใหม่ คุ้มค่าน่าใช้ประหยัดน้ำมัน | CARACTER | 17 ธ ...
• ลองขับ 2022 Mazda CX-3 COMFORT 8.79 แสน เครื่อง 2.0 เกียร์ ...
• พาชม New Mazda CX-3 (2023) ราคาตัวท็อปรุ่นใหม่อยู่ที่ 970000 ...
• Mazda CX-3 คือรถสูตรหายากที่สามารถเหินได้ ? รีวิว Mazda CX-3 ...