สาย HDMI Fiber Optic ราคาเท่าไหร่? เหมาะกับการใช้งานแบบไหน เดินสายระยะไกล

สวัสดีค่าขาช้อปทั้งหลาย! วันนี้เราจะมาคุยกันถึงสายสัญญาณภาพที่อาจจะยังไม่คุ้นหูคนทั่วไปเท่าไหร่ แต่บอกเลยว่าถ้าใครอยู่ในวงการโฮมเธียเตอร์ จัดห้องดูหนัง หรือต้องเดินสายยาวๆ นี่คือพระเอกเลยจ้า! นั่นก็คือ สาย HDMI Fiber Optic นั่นเองงงง! หลายคนอาจจะงงว่ามันต่างจากสาย HDMI ปกติยังไง แล้วทำไมราคามันถึงพุ่งแรงแซงโค้งสายทองแดงธรรมดาไปได้ วันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจให้แบบหมดเปลือก แถมบอกด้วยว่าใครที่เหมาะกับสายนี้ จะได้ไม่เสียเงินฟรีกันนะจ๊ะ ไปลุย!

1. ไอ้เจ้าสาย HDMI Fiber Optic นี่มันคืออะไร?

ปกติแล้วเวลาเราต่อทีวี คอมพิวเตอร์ เครื่องเล่นเกม หรือกล่องดูหนังต่างๆ เข้าด้วยกัน เราก็จะใช้สาย HDMI ธรรมดาๆ ที่มีตัวนำสัญญาณเป็นทองแดงใช่มั้ยคะ ซึ่งมันก็ทำงานได้ดีในระยะสั้นๆ ไม่เกิน 10-15 เมตร แต่ถ้าต้องลากยาวกว่านั้นปุ๊บ สัญญาณจะเริ่มมีปัญหาทันที ภาพอาจจะกระตุกบ้าง สีเพี้ยนบ้าง หรือร้ายสุดคือ "ภาพไม่มาเลยจ้า!" เหมือนสัญญาณมันหมดแรงกลางทางอะเนอะ

แต่เจ้า สาย HDMI Fiber Optic นี่มันเหนือกว่า เพราะมันใช้ ใยแก้วนำแสง (Fiber Optic) ในการส่งสัญญาณแทนทองแดง คิดง่ายๆ ว่ามันส่งสัญญาณด้วย "แสง" แทน "ไฟฟ้า" ทำให้สัญญาณเดินทางได้ไกลกว่ามากๆ เป็นหลักสิบถึงหลักร้อยเมตรเลยทีเดียว โดยที่คุณภาพของภาพและเสียงยังคมชัดเหมือนเดิม ไม่ดรอป ไม่กระตุก ไม่ดีเลย์

เหมาะมากๆ สำหรับคนที่ต้อง เดินสายระยะไกล เช่น ต่อโปรเจคเตอร์ในห้องประชุมใหญ่ๆ ในห้องเรียน หรือทำโฮมเธียเตอร์ที่บ้านแล้วเครื่องเล่นอยู่ไกลจากจอทีวีมากๆ หรือแม้แต่งานพวกกล้องถ่ายทอดสดที่ต้องการภาพคมชัดในระยะไกลๆ เจ้าสายนี้ตอบโจทย์สุดๆ ส่วนแบรนด์ก็มีหลากหลายนะ ทั้งแบรนด์คุ้นหูคนไทยและแบรนด์เฉพาะทางด้านอุปกรณ์ภาพและเสียง

2. ราคาในตลาดไทยเป็นยังไงบ้าง?

มาถึงเรื่องที่หลายคนอยากรู้ "ราคา!" ต้องบอกเลยว่า สาย HDMI Fiber Optic เนี่ย ราคาจะสูงกว่าสาย HDMI ทองแดงทั่วไปค่อนข้างเยอะเลยจ้า เพราะเทคโนโลยีและวัสดุมันต่างกัน ซึ่งราคาในตลาดไทยก็จะแตกต่างกันไปตามความยาวของสาย และเวอร์ชันของ HDMI ด้วยนะ (เช่น 2.0 หรือ 2.1 ที่รองรับความละเอียดสูงกว่าและ Bandwidth มากกว่า)

จากที่ลองสำรวจดูตามแพลตฟอร์มออนไลน์ยอดฮิตอย่าง Lazada กับ Shopee หรือร้านอุปกรณ์ไอทีบางแห่ง ราคาคร่าวๆ จะประมาณนี้:

• ความยาว 10-20 เมตร: เริ่มต้นประมาณ หลักร้อยปลายๆ ถึงพันต้นๆ บาท (฿)
• ความยาว 30-50 เมตร: ราคาจะขยับขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ หนึ่งพันบาทกลางๆ ถึงสองพันบาท (฿) ขึ้นอยู่กับแบรนด์และสเปก
• ความยาว 70-100 เมตรขึ้นไป: ราคาก็จะยิ่งสูงขึ้นไปอีก อาจจะเห็นตั้งแต่สองพันบาท ไปจนถึงหลายพันบาทเลยก็มี

บางแบรนด์ที่เน้นคุณภาพมากๆ หรือเป็นเวอร์ชันใหม่ล่าสุด (HDMI 2.1) ราคาอาจจะสูงกว่านี้อีกนะ ส่วนตามร้านใหญ่ๆ อย่าง JIB, Banana IT, Power Buy อาจจะมีรุ่นให้เลือกไม่เยอะเท่าร้านเฉพาะทางออนไลน์ หรือบางทีก็อาจจะเจอแต่รุ่นสั้นๆ ถ้าอยากได้ยาวเป็นพิเศษต้องหาตามร้านอุปกรณ์ภาพและเสียง หรือร้านที่ขายอุปกรณ์ Network โดยเฉพาะ.

ถ้าเทียบกับราคาสาย HDMI ทองแดงที่ความยาวเท่ากัน (ซึ่งหายากมากที่จะมีสายทองแดงยาวขนาดนี้) ราคาของสาย Fiber Optic จะสูงกว่าแบบเทียบไม่ติด แต่ถ้ามองว่ามันทำในสิ่งที่สายทองแดงทำไม่ได้ในระยะไกลๆ มันก็มีเหตุผลที่ราคาสูงกว่านั่นแหละจ้า

3. แล้วเทียบกับสาย HDMI ทั่วไปล่ะ มันคุ้มมั้ย?

อันนี้ต้องดูที่การใช้งานเป็นหลักเลยจ้า ถ้าบ้านเราทีวีอยู่ติดกับเครื่องเล่น หรือลากสายแค่ 2-3 เมตรเนี่ย สาย HDMI ทองแดงธรรมดา ราคาหลักร้อยบาทก็พอแล้วจ้า ไม่ต้องถึงมือ สาย HDMI Fiber Optic เลย สายทองแดงมันทนทานกว่า งอได้มากกว่า ติดตั้งง่ายกว่าในระยะสั้นๆ

แต่ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่ระยะทางมันเกิน 10-15 เมตร แล้วเราต้องการภาพและเสียงที่คมชัด ไม่กระตุก ไม่ดีเลย์ โดยเฉพาะถ้าเป็นสัญญาณความละเอียดสูง 4K หรือ 8K เนี่ย สายทองแดงจะเริ่มมีปัญหาทันที การฝืนใช้สายทองแดงยาวมากๆ นอกจากภาพจะไม่ดีแล้ว ยังอาจจะต้องเสียเงินซื้ออุปกรณ์เสริมอย่าง HDMI Extender มาช่วยขยายสัญญาณ ซึ่งวุ่นวายและบางทีก็ยังมีปัญหาอยู่ดี

ตรงนี้แหละที่ สาย HDMI Fiber Optic ฉายแสง! มันคือโซลูชันที่เกิดมาเพื่อแก้ปัญหาการส่งสัญญาณ HDMI ระยะไกลโดยเฉพาะ คุณภาพที่ได้คือสัญญาณเต็มๆ ไม่ลดทอน แม้จะยาว 50 เมตร หรือ 100 เมตรก็ตาม เพราะฉะนั้น ถ้าการใช้งานของเราเข้าข่าย "ต้องลากสายยาว" ยังไงซะสาย Fiber Optic ก็คือตัวเลือกที่คุ้มค่าและจบปัญหากว่าสายทองแดงแน่นอน แม้ราคาจะสูงกว่าก็ตาม

4. ซื้อแล้วได้อะไรมาบ้าง? มีประกันมั้ยเนี่ย?

เวลาซื้อ สาย HDMI Fiber Optic เนี่ย ส่วนใหญ่หลักๆ ที่ได้ก็คือตัว สาย เลยจ้า บางรุ่นอาจจะมีหัวต่อมาให้เรียบร้อยเป็น HDMI มาตรฐานทั้งสองฝั่งเลย สิ่งที่ต้องสังเกตคือ ตัวสายจะค่อนข้างบางกว่าสายทองแดงทั่วไป และต้องระวังเรื่องการงอสายมากๆ เพราะใยแก้วข้างในอาจเสียหายได้

บางรุ่นที่เป็นสายยาวมากๆ หรือเป็น Active Optical Cable (AOC) อาจจะต้องใช้ไฟเลี้ยงเสริม ซึ่งบางทีก็มี Adapter เล็กๆ แถมมาให้ หรือบางรุ่นก็ดึงไฟจากพอร์ต HDMI ได้เลย (แต่เช็คสเปกดีๆ ก่อนนะ)

ส่วนเรื่อง ประกัน อันนี้สำคัญมากสำหรับคนไทย! ส่วนใหญ่แล้วสาย HDMI Fiber Optic จะมี ประกันสินค้าให้ประมาณ 6 เดือนถึง 1 ปี นะคะ ขึ้นอยู่กับแบรนด์และร้านค้าที่ขายด้วย บางร้านอาจจะมีประกันร้านให้เพิ่มเติมก็ต้องสอบถามดู แนะนำว่าให้ซื้อจากร้านที่น่าเชื่อถือและมีการรับประกันที่ชัดเจน เพราะถ้าสายมีปัญหา การส่งซ่อมหรือเคลมจะได้ไม่ยุ่งยาก

เรื่อง ค่าจัดส่ง ถ้าซื้อออนไลน์ส่วนใหญ่ก็จะมีค่าส่งนะ แต่หลายๆ ร้านบน Lazada หรือ Shopee ก็มีโปรโมชั่น ส่งฟรี หรือมีโค้ดส่วนลดค่าส่งให้ใช้เรื่อยๆ ลองเช็คเงื่อนไขตอนสั่งซื้อได้เลยจ้า ส่วนของแถมหรือคูปองส่วนลดต่างๆ ก็แล้วแต่ร้านเลย บางทีอาจจะมีแถมสายรัดเก็บสาย หรือมีโค้ดส่วนลดถ้าซื้อพร้อมสินค้าอื่นในร้าน

5. มีช่วงไหนน่าช้อปเป็นพิเศษมั้ยนะ?

ถ้าไม่อยากจ่ายราคาเต็ม หรืออยากได้ของดีราคาโดนๆ เนี่ย ก็ต้องเล็งช่วง โปรโมชั่น สิคะ! ถึงแม้สาย HDMI Fiber Optic จะไม่ใช่สินค้าที่ลดราคาบ่อยเท่าพวกมือถือหรือเครื่องใช้ไฟฟ้าหลักๆ แต่ก็มีโอกาสเจอดีลเด็ดๆ อยู่เหมือนกัน โดยเฉพาะช่วงเทศกาลช้อปปิ้งยอดฮิตของไทย

• ช่วง Double Digit Sale: นี่คือช่วงเวลาทองเลยจ้า ทั้ง 11.11, 12.12 หรือช่วงกลางปีอย่าง 6.6, 7.7 ที่ Lazada และ Shopee เค้าจัดแคมเปญใหญ่ๆ ร้านค้าต่างๆ มักจะเข้าร่วมโปรโมชั่น ลดราคา หรือมีโค้ดส่วนลดพิเศษให้เก็บเพียบ บางทีร้านที่ขายอุปกรณ์ Network หรืออุปกรณ์ภาพและเสียงก็มีโปรโมชั่นร่วมด้วยนะ
• ช่วงเทศกาลไทย: เช่น ปีใหม่ไทย (สงกรานต์) หรือช่วงปลายปีใกล้ๆ ปีใหม่ ก็อาจจะมีร้านค้าจัดโปรโมชั่นเล็กๆ น้อยๆ เพื่อกระตุ้นยอดขายได้
• Flash Sale/Campaign อื่นๆ: ลองติดตามร้านค้าที่เราสนใจไว้ดีๆ บางทีเค้าก็มี Flash Sale หรือจัดแคมเปญลดราคาเป็นครั้งคราว ไม่จำเป็นต้องรอถึงเทศกาลใหญ่ก็ได้นะ

แนะนำว่าให้ กดติดตามร้านค้า Official Store หรือร้านที่เป็นตัวแทนจำหน่ายที่น่าเชื่อถือบนแพลตฟอร์มออนไลน์ไว้เลย เพราะเค้าอาจจะมีแจ้งเตือนโปรโมชั่น หรือมีโค้ดส่วนลดเฉพาะผู้ติดตามให้ใช้จ้า การซื้อช่วงโปรโมชั่นเนี่ย ช่วยให้ประหยัดไปได้เยอะเลยล่ะ

6. คนไทยที่ใช้แล้วเค้ารู้สึกยังไงกันบ้าง?

ลองไปส่องๆ ดูตามรีวิวหรือกระทู้ต่างๆ ของคนไทยที่เคยใช้ สาย HDMI Fiber Optic มาแล้ว ส่วนใหญ่เค้าจะแฮปปี้กับ ประสิทธิภาพในการส่งสัญญาณระยะไกล มากๆ เลยนะ

• หลายคนบอกว่า "ภาพคมชัดเหมือนต้นฉบับจริงๆ" ไม่มีปัญหาภาพกระตุก หรือสีเพี้ยนเลย แม้จะลากสายยาวเป็นสิบเมตร
• เรื่อง คุณภาพเสียง ก็มาเต็ม ไม่ดรอป ไม่มีเสียงรบกวน
• บางคนใช้กับโปรเจคเตอร์ระยะไกลๆ คือจบปัญหาเดิมๆ ไปได้เลย ไม่ต้องวุ่นวายกับ Extender อีกต่อไป
• จุดที่ต้องระวังที่คนใช้มักจะย้ำคือ เรื่องความเปราะบางของสาย นะคะ เพราะมันเป็นใยแก้ว ห้ามงอสายแบบหักศอกเด็ดขาดตอนติดตั้ง ต้องเดินสายแบบโค้งๆ หน่อยๆ แล้วก็ระวังเรื่องการถูกกดทับหรือกระแทก
• บางคนก็อาจจะรู้สึกว่า ราคาค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับสาย HDMI ทองแดง แต่ถ้าดูจากประสิทธิภาพที่ได้ในระยะไกล ก็ยอมจ่ายนะ

โดยรวมคือ คนไทยที่จำเป็นต้องใช้สายยาวๆ และต้องการคุณภาพสัญญาณที่ดี ส่วนใหญ่พอใจกับผลลัพธ์ของสาย HDMI Fiber Optic มากๆ ค่ะ แค่ต้องดูแลรักษาดีๆ หน่อยเท่านั้นเอง

7. แล้วจะไปหาซื้อได้ที่ไหนถึงจะชัวร์?

สำหรับ สาย HDMI Fiber Optic เนี่ย ช่องทางการซื้อหลักๆ ที่คนไทยนิยมกันก็จะมี:

• แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซใหญ่ๆ: อย่าง Shopee และ Lazada ถือเป็นแหล่งใหญ่เลยค่ะ มีร้านค้าให้เลือกเยอะมากๆ ทั้งร้านที่เป็นตัวแทนจำหน่าย ร้านที่นำเข้าเอง หรือร้านที่เน้นขายอุปกรณ์ Network ข้อดีคือมีตัวเลือกหลากหลาย ราคาแข่งขันกันสูง บางทีมีโปรโมชั่นเยอะ แถมระบบการชำระเงินและการจัดส่งค่อนข้างสะดวก แต่ข้อควรระวังคือต้องเลือกร้านที่น่าเชื่อถือ ดูคะแนนร้าน รีวิวจากผู้ซื้อคนอื่นๆ และสอบถามรายละเอียดสินค้ากับผู้ขายให้ชัดเจนก่อนสั่งซื้อนะจ๊ะ
• ร้านอุปกรณ์ Network หรือร้านเฉพาะทางด้านภาพและเสียง: บางร้านที่ขายพวกอุปกรณ์ติดตั้งระบบ หรืออุปกรณ์สำหรับงานภาพและเสียงโดยเฉพาะ ก็จะมีสาย HDMI Fiber Optic ให้เลือกซื้อเหมือนกัน ข้อดีคืออาจจะได้คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญโดยตรง สามารถไปดูสินค้าจริงได้ (ถ้ามีหน้าร้าน) และบางทีมีบริการติดตั้งด้วย แต่ราคาก็อาจจะสูงกว่าซื้อออนไลน์เล็กน้อย
• ร้านค้าปลีกอุปกรณ์ไอทีขนาดใหญ่: อย่าง JIB, Banana IT, Power Buy อาจจะมีสาย HDMI Fiber Optic ขายบ้าง แต่ส่วนใหญ่ที่เจอจะเป็นรุ่นสั้นๆ หรือมีตัวเลือกไม่เยอะมากเท่าร้านเฉพาะทาง แต่ถ้าใครสะดวกสาขาใกล้บ้านก็ลองไปดูก่อนได้ เผื่อเจอตัวที่ต้องการค่ะ

การซื้อผ่านช่องทาง Official Store หรือร้านค้าที่น่าเชื่อถือบนแพลตฟอร์มออนไลน์ก็เป็นทางเลือกที่ดีค่ะ เพราะมักจะมีประกันสินค้าที่ชัดเจน และบริการหลังการขายที่ไว้ใจได้มากกว่า

8. สรุปแล้วน่าซื้อไหม? เหมาะกับใครกันนะ?

มาถึงบทสรุปสุดท้ายแล้วจ้า! ถามว่า สาย HDMI Fiber Optic น่าซื้อไหม? ถ้าคุณมีโจทย์ที่ต้อง เดินสาย HDMI ระยะไกลเกิน 10-15 เมตร แล้วอยากได้ภาพและเสียงคุณภาพสูงแบบไม่ลดทอน ไม่เจอปัญหาสัญญาณดรอป กระตุก หรือภาพไม่มาแล้วล่ะก็ คำตอบคือ น่าซื้อมากๆ และเป็นโซลูชันที่คุ้มค่ากับเงินที่เสียไปแน่นอนค่ะ

สายนี้เหมาะกับใคร?

• คนที่ต้องการต่อทีวี/โปรเจคเตอร์กับเครื่องเล่นที่อยู่ห่างกันมากๆ ในห้องดูหนัง, ห้องประชุม, ห้องเรียน
• คนที่ต้องการคุณภาพสัญญาณภาพและเสียงระดับ 4K/8K ที่คมชัดเต็มที่ในระยะไกล
• คนที่เบื่อปัญหาสัญญาณของสายทองแดงในระยะยาวๆ และอยากได้ความเสถียร
• คนที่ต้องการเดินสายแบบซ่อนสายไปตามผนังหรือฝ้าในระยะไกลๆ โดยที่สัญญาณไม่ตก

แต่ถ้าใครต่ออุปกรณ์ในระยะใกล้ๆ ไม่กี่เมตร ใช้สาย HDMI ทองแดงธรรมดาก็พอแล้วจ้า ไม่จำเป็นต้องลงทุนกับสาย Fiber Optic ที่ราคาสูงกว่า

ส่วนจะเลือกรุ่นไหน ความยาวเท่าไหร่ หรือเวอร์ชันอะไร (HDMI 2.0 หรือ 2.1) ก็ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ที่เราใช้และงบประมาณเลยค่ะ ถ้าอุปกรณ์รองรับถึง 8K ก็จัดเวอร์ชัน 2.1 ไปเลย เพื่ออนาคต แต่ถ้าแค่ 4K 60Hz เวอร์ชัน 2.0 ก็เพียงพอแล้ว

หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ทุกคนเข้าใจเรื่อง สาย HDMI Fiber Optic มากขึ้น และตัดสินใจได้ว่าจะลงทุนกับสายนี้ดีไหมนะจ๊ะ ขอให้ได้สายที่ตอบโจทย์การใช้งาน และมีความสุขกับการดูหนังฟังเพลง หรือทำงานแบบภาพคมชัดจัดเต็มทุกคนค่า! เจอกันใหม่บทความหน้า บ๊ายบายยย!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• EP27. แนะนำสาย HDMI Fiber Optic เดินสายได้ไกลสุด 400 เมตร ...
• EP27. แนะนำสาย HDMI Fiber Optic เดินสายได้ไกลสุด 400 เมตร ...
• พรีวิวสาย HDMI Fiber 100เมตร SalrayWorks FIHD 2.0 Active ...
• รู้ก่อนซื้อ DTECH สาย HDMI Fiber Optic 4k@60Hz เจาะลึก ...
• EP51 การแสดงผลภาพระยะไกลด้วย HDMI พร้อมกับออกจอมอนิเตอร์ ...