รีวิวและราคากีตาร์ Ibanez Iron Label ทุกรุ่น สำหรับชาวร็อกและเมทัลโดยเฉพาะ

โย่ว! สวัสดีชาวร็อก ชาวเมทัลทุกคนนน! วันนี้เรามีนัดกับขวานคู่กาย เอ้ย! ไม่ใช่! วันนี้เราจะมาเจาะลึกกีตาร์ที่เห็นปุ๊บรู้ปั๊บว่ามาสายโหด นั่นก็คือ Ibanez Iron Label นั่นเองจ้า ใครที่กำลังมองหากีตาร์ตัวใหม่ไว้โซโล่มันส์ๆ หรือริฟฟ์หนักๆ แบบสับกระจุย ต้องตามมาอ่านเลยนะ เพราะเราจะมาแกะกล่อง (แบบทิพย์ๆ) พร้อมบอกราคาแบบหมดเปลือกในตลาดเมืองไทยให้ฟังกัน เตรียมปิ๊กให้พร้อม แล้วไปวอร์มนิ้วรอได้เลย!

1. กีตาร์อะไร ทำไมชาวร็อกชาวเมทัลต้องมี?

เอาล่ะ มาทำความรู้จักกับเจ้า Ibanez Iron Label กันหน่อย ซีรีส์นี้เค้าไม่ได้ทำมาเล่นๆ นะจ๊ะ แต่ Ibanez เค้าตั้งใจทำมาเพื่อ ชาวร็อก ชาวเมทัลโดยเฉพาะ เลยก็ว่าได้! คิดดูสิว่าแบรนด์ Ibanez เนี่ย เค้าคลุกคลีอยู่ในวงการเพลงหนักๆ มานานนม เป็นแบรนด์ดังจากญี่ปุ่นที่มือกีตาร์ระดับโลกสายสับหลายคนไว้วางใจ รุ่น Iron Label นี่ก็เหมือนเป็นการ อัปเกรดความโหด จากรุ่นปกติให้มันสุดทางไปเลย

ฟังก์ชันเด่นๆ ของซีรีส์นี้ที่เห็นแล้วต้องร้องอ๋อ ก็คือคอที่ บางเฉียบ เล่นไวเว่อร์ ใช้ชื่อโปรไฟล์ว่า Nitro Wizard นี่แหละ ตัวช่วยชั้นดีให้เราปั่นได้แบบนิ้วไม่พันกัน! บอดี้ก็เน้นความดุดัน ไม่ได้มีลวดลายวิบวับอะไรมากมาย บางรุ่นนี่ไม่มีอินเลย์บนฟิงเกอร์บอร์ดด้วยซ้ำ คือเน้นความเรียบ โหด ดิบๆ ปิ๊กอัพที่ให้มาก็ไม่ใช่เล่นๆ ส่วนใหญ่จะเป็นพวกรุ่นที่ให้เอาต์พุตสูงๆ อย่าง EMG หรือ DiMarzio ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าเกิดมาเพื่อเสียงแตกโดยเฉพาะ! บางรุ่นยังมี Kill Switch มาให้กดเล่นทำเสียงแบบ Stutter Effect เท่ๆ อีกด้วย พูดง่ายๆ คือ Iron Label เค้าคิดมาให้แล้วว่าถ้าคุณเป็นชาวร็อกชาวเมทัลที่ต้องการกีตาร์ เสียงดุ เล่นง่าย เล่นเร็ว ทนไม้ทนมือ ตัวนี้แหละใช่เลย!

2. ราคาในตลาดไทย อยู่ที่ประมาณไหน?

มาถึงช่วงบีบหัวใจ (หรือบีบคอคนขาย) อย่างเรื่องราคา! สำหรับ Ibanez Iron Label ในตลาดเมืองไทยเนี่ย ต้องบอกว่ามีหลายรุ่น หลายสเปก ราคาก็เลยหลากหลายตามไปด้วยจ้า ถ้าเป็นรุ่นเริ่มต้นๆ หรือรุ่นที่มีพื้นฐานจาก RG ธรรมดาหน่อย ราคาก็จะอยู่ประมาณ 2x,xxx บาท ขึ้นไป (ขออุบเลขตัวหน้าไว้ก่อนนะจ๊ะ ให้ไปลุ้นเอาเองหน้างาน)

แต่ถ้าขยับมาเป็นรุ่นที่สเปกจัดเต็มขึ้น มีจำนวนสายมากขึ้น (7 สาย, 8 สาย) มีระบบ Multi-Scale (เฟรตเฉียงๆ ที่กำลังฮิตในหมู่ชาวเมทัล) หรือใช้วัสดุไม้ที่พิเศษขึ้นมาหน่อย ราคาก็จะดีดตัวขึ้นไปอีก อยู่ในช่วง 3x,xxx - 4x,xxx บาท หรือบางทีอาจจะทะลุ 5x,xxx บาท ก็มีนะจ๊ะ ราคานี้เราเจอตามร้านตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ หรือร้านเครื่องดนตรีชั้นนำในไทยนี่แหละ

ส่วนตามแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซใหญ่ๆ อย่าง Lazada หรือ Shopee เนี่ย ก็มีขายนะ ส่วนใหญ่จะเป็นร้านที่เป็นตัวแทนจำหน่ายเองเลย หรือเป็นร้านค้าที่เอาเข้ามาขาย ซึ่งราคาก็จะใกล้เคียงกับหน้าร้านนะ แต่อาจจะมีโปรโมชั่นพิเศษ หรือโค้ดส่วนลดเพิ่มเติมให้เราได้ใช้บ้าง ก็ต้องคอยส่องดีๆ จ้า เรื่องส่วนต่างราคาเมื่อเทียบกับราคานอก เราว่าถ้าหักค่าขนส่ง ค่าภาษีนำเข้าอะไรต่างๆ แล้ว ราคาในไทยก็ถือว่าสมเหตุสมผลอยู่นะ ไม่ได้โดดไปเยอะมากจนน่าตกใจ

3. เปรียบเทียบราคากับแบรนด์อื่น เป็นไงบ้าง?

ถ้าให้เทียบกับกีตาร์แบรนด์อื่นๆ ในสายเลือดเดียวกันที่เน้นตลาดร็อกเมทัลเหมือนกัน อย่างเช่น ESP LTD หรือ Schecter เนี่ย Ibanez Iron Label ก็ถือเป็นคู่แข่งที่สูสีมากๆ เลยนะ

ในงบประมาณที่ใกล้เคียงกัน คือช่วงสองหมื่นกลางๆ ไปจนถึงสี่หมื่นต้นๆ เราจะเจอตัวเลือกจากทั้ง 3 แบรนด์นี้เยอะมาก สเปกก็จะคล้ายๆ กันคือเน้นคอเล่นง่าย ปิ๊กอัพแรงๆ บางทีก็เป็น EMG หรือ DiMarzio เหมือนกัน ระบบบริดจ์ก็มีทั้งแบบ Fix และ Tremolo ให้เลือก

ความแตกต่างอาจจะไปอยู่ที่รูปทรง บอดี้สไตล์ หรือรายละเอียดปลีกย่อยอื่นๆ มากกว่า อย่าง Ibanez Iron Label ก็จะมีทรง RG ที่เป็นซิกเนเจอร์ หรือบางทีก็มีทรงแปลกๆ อย่าง Xiphos หรือ Iceman ในขณะที่ LTD กับ Schecter อาจจะมีทรงอื่นๆ ที่เป็นเอกลักษณ์ของเค้าเอง

ถามว่าคุ้มค่ากว่ากันไหม? เราว่า มันแล้วแต่ความชอบส่วนตัว เลยนะ เพราะสเปกและคุณภาพค่อนข้างใกล้เคียงกันมากๆ ทั้ง 3 แบรนด์นี้คือเน้นความคุ้มค่าสำหรับชาวเมทัลโดยเฉพาะ ไม่ได้เน้นความหรูหราฟิงเกอร์บอร์ดประดับมุกอะไรขนาดนั้น แต่เน้นที่เสียงและฟิลลิ่งในการเล่นที่ตอบโจทย์เพลงหนักๆ มากกว่าจ้า

4. ซื้อแล้วได้อะไรมาบ้างนะ?

อันนี้ก็เป็นอีกเรื่องที่สำคัญไม่แพ้ราคาเลยนะ! เวลาสอย Ibanez Iron Label มาเนี่ย ปกติแล้วสิ่งที่ควรจะได้มาแน่ๆ ก็จะมี:

• ตัวกีตาร์: อันนี้แน่นอนอยู่แล้วจ้า
• คู่มือ/ใบรับประกัน: ควรจะมีมาให้ด้วยนะ
• เครื่องมือปรับแต่ง: พวกประแจสำหรับปรับคอ หรือปรับบริดจ์ (โดยเฉพาะถ้าเป็นแบบ Floyd Rose) มักจะมีมาให้ในกล่องเล็กๆ ด้วย

ส่วนของอื่นๆ นี่ต้องเช็คดีๆ ว่าร้านแถมอะไรบ้าง ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว กีตาร์ในซีรีส์ Iron Label มักจะไม่ได้แถมเคสแข็ง นะจ๊ะ อาจจะได้เป็น Gig Bag คุณภาพดีมาให้แทน อันนี้ก็สะดวกในการพกพาดี แต่ถ้าอยากได้เคสแข็งไว้ปกป้องอย่างแน่นหนา อาจจะต้องซื้อเพิ่มเองนะจ๊ะ

เรื่อง ค่าขนส่ง ถ้าซื้อออนไลน์กับร้านใหญ่ๆ หรือตัวแทนจำหน่าย บางทีเค้ามีโปรโมชั่น ส่งฟรี นะ หรือบางทีก็คิดราคาตามระยะทาง ก็ต้องเช็คเงื่อนไขตอนกดสั่งซื้ออีกที

ที่คนไทยให้ความสำคัญสุดๆ ก็คือ การรับประกัน ใช่ไหมล่ะ! ปกติแล้วกีตาร์ Ibanez ที่ซื้อจากตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในไทย จะมีการรับประกันศูนย์อย่างน้อย 1 ปี นะ อันนี้อุ่นใจได้เลย ถ้ามีปัญหาอะไรที่เกิดจากการผลิต ก็เคลมได้สบายๆ จ้า แต่ถ้าเอาไปโมดิฟายเอง หรือทำตกทำพังเอง อันนี้ประกันก็อาจจะไม่ครอบคลุมนะจ๊ะ

ส่วนของแถมอื่นๆ นอกเหนือจาก Gig Bag ก็แล้วแต่โปรโมชั่นของแต่ละร้านเลย บางร้านอาจจะมีสายแจ็ค สายสะพาย ปิ๊ก หรือน้ำยาเช็ดกีตาร์แถมให้บ้าง ก็ลองสอบถามดูก่อนตัดสินใจซื้อได้เลยจ้า

5. ช่วงไหนน่าซื้อ มีโปรโมชั่นอะไรเด็ดๆ ไหม?

ถ้าอยากได้ Ibanez Iron Label ในราคาที่คุ้มค่ากว่าเดิม ช่วง โปรโมชั่น นี่แหละคือเวลาที่ต้องจับตา! แน่นอนว่าช่วงเทศกาลช้อปปิ้งออนไลน์ระดับชาติอย่าง 11.11 หรือ 12.12 เนี่ย Lazada กับ Shopee เค้าจัดหนักจัดเต็มทุกหมวดหมู่ สินค้าเครื่องดนตรีก็มีร่วมด้วยนะจ๊ะ ร้านค้าที่เป็น Official Store หรือร้านใหญ่ๆ มักจะมีโค้ดส่วนลดพิเศษ หรือโปรโมชั่นลดราคาในช่วงนี้ ทำให้เราได้กีตาร์ในฝันในราคาที่ถูกลงไปอีก!

นอกจากนี้ ช่วงเทศกาลสำคัญอื่นๆ ของไทย อย่าง ปีใหม่ไทย (สงกรานต์) หรือช่วงปลายปี ก็อาจจะมีโปรโมชั่นจากร้านเครื่องดนตรีต่างๆ ทั้งออนไลน์และหน้าร้าน บางทีร้านตัวแทนจำหน่ายเค้าก็จัดโปรโมชั่นเองเลย ไม่ต้องรอแพลตฟอร์มก็ได้

ถ้าไม่รีบมากๆ เราว่า รอช่วงโปรโมชั่นใหญ่ๆ แล้วค่อยสอย จะคุ้มค่าที่สุดนะจ๊ะ แต่ก็ต้องแลกกับการที่อาจจะต้องแย่งชิงกับคนอื่นหน่อย เพราะรุ่นฮิตๆ สีสวยๆ อาจจะหมดไวก็ได้! ก็ต้องอาศัยความไวและติดตามข่าวสารจากร้านต่างๆ ให้ดีจ้า

6. ชาวร็อกชาวเมทัลในไทย ใช้แล้วรู้สึกยังไงกันบ้าง?

จากที่ลองไปส่องๆ ดูตามกลุ่มรีวิว หรือกระทู้ต่างๆ ของมือกีตาร์ในไทย เสียงตอบรับเกี่ยวกับ Ibanez Iron Label ส่วนใหญ่ก็ไปในทิศทางที่ดีมากๆ เลยนะ จุดที่ชาวร็อกชาวเมทัลไทยปลื้มปริ่มสุดๆ ก็คือ:

• คอเล่นง่าย เล่นเร็ว: อันนี้คือจุดขายหลักเลยจ้า! คอ Nitro Wizard นี่คือสวรรค์ของสายสับ ปั่นมันส์นิ้วไม่เมื่อย
• เสียงดุ เสียงพุ่ง: ด้วยปิ๊กอัพที่ให้มาอย่าง EMG หรือ DiMarzio ทำให้เสียงแตกที่ได้มันสะใจชาวเมทัลมากๆ เสียงพุ่ง เสียงหนา เหมาะกับการริฟฟ์หนักๆ
• ดีไซน์เรียบ โหด ถูกใจ: หลายคนชอบดีไซน์ที่ดูมินิมอล ดุดัน ไม่ต้องมีอะไรเยอะแยะ แต่ดูแล้วรู้เลยว่ามาสายแข็ง
• ความคุ้มค่า: เมื่อเทียบกับสเปกและราคาที่จ่ายไป หลายคนมองว่า Iron Label คือกีตาร์ที่ คุ้มค่ามากๆ สำหรับแนวร็อกเมทัล
• ทนทาน: ด้วยการผลิตที่ได้มาตรฐานจาก Ibanez ทำให้กีตาร์ค่อนข้างแข็งแรงทนทาน เหมาะกับการเอาไปออกงาน หรือเล่นแบบหนักๆ ได้สบาย
• ระบบบริดจ์มั่นคง: ไม่ว่าจะเป็นแบบ Fix หรือ Tremolo รุ่นที่ให้มาก็ค่อนข้างได้มาตรฐาน ทำให้ตั้งสายอยู่ และเล่นเทคนิคต่างๆ ได้มั่นใจ

สรุปคือ ถ้าคุณเป็นคนที่เน้น ฟิลลิ่งในการเล่นที่รวดเร็ว เสียงที่ดุดัน และกีตาร์ที่ทนทานพร้อมลุย เนี่ย Ibanez Iron Label ตอบโจทย์ชาวไทยได้เป็นอย่างดีเลยจ้า!

7. อยากได้ ต้องไปหาซื้อที่ไหนดี?

สำหรับช่องทางการซื้อ Ibanez Iron Label ในไทย ก็มีหลายทางเลือกเลยจ้า:

• ร้านตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ: อันนี้ชัวร์สุด ได้ของแท้ มีประกันศูนย์แน่นอน สามารถไปลองจับ ลองเล่นที่ร้านได้เลย ได้ฟิลลิ่งจริงๆ ก่อนตัดสินใจซื้อ พนักงานที่ร้านก็ให้คำแนะนำได้ดีด้วยนะ ร้านดังๆ ก็มีหลายที่ ลองเสิร์ชหาดูว่ามีร้านไหนใกล้บ้านบ้าง
• แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซขนาดใหญ่: อย่าง Lazada หรือ Shopee ก็เป็นอีกทางเลือกที่สะดวก ข้อดีคือมีตัวเลือกเยอะ บางทีมีโปรโมชั่นลดราคา หรือโค้ดส่วนลดพิเศษให้ใช้ แถมยังเปรียบเทียบราคาง่าย แต่ข้อควรระวังคือต้องเลือกร้านที่น่าเชื่อถือ ดูจากรีวิวของลูกค้าคนอื่นๆ ก่อนตัดสินใจซื้อนะจ๊ะ
• ร้านเครื่องดนตรีออนไลน์อื่นๆ: นอกจากแพลตฟอร์มใหญ่ๆ ก็ยังมีร้านเครื่องดนตรีที่มีเว็บไซต์ของตัวเองอีกหลายร้าน บางทีก็มีโปรโมชั่นพิเศษ หรือรุ่นที่หาได้ยากกว่าในแพลตฟอร์มทั่วไป ลองเปรียบเทียบราคาและบริการหลังการขายดูนะ

ไม่ว่าจะเลือกซื้อช่องทางไหน สิ่งสำคัญคือต้องเช็คเรื่องการรับประกัน และนโยบายการคืนสินค้าให้ดีก่อนจ่ายเงินนะจ๊ะ จะได้ไม่มีปัญหาตามมาทีหลัง

8. สรุปแล้วน่าซื้อไหม? เหมาะกับใครกันแน่?

มาถึงคำถามสุดท้ายที่หลายคนอยากรู้! Ibanez Iron Label น่าซื้อไหม? ฟันธงเลยว่า น่าซื้อมากๆ จ้า โดยเฉพาะถ้าคุณเป็น:

• มือกีตาร์ร็อก/เมทัล: อันนี้คือเป้าหมายหลักของกีตาร์ซีรีส์นี้เลย! ถ้าชอบเล่นเพลงหนักๆ ต้องการกีตาร์ที่ตอบสนองได้ดีในเรื่องความเร็วและเสียงที่ดุดัน ตัวนี้เกิดมาเพื่อคุณ
• คนที่ต้องการกีตาร์สเปกดี ในงบที่เข้าถึงได้: Iron Label ให้สเปกที่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับราคา ทำให้เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่ามากๆ สำหรับคนที่อยากได้กีตาร์คุณภาพดีโดยไม่ต้องจ่ายแพงลิบลิ่ว
• คนที่ชอบคอกีตาร์บางๆ เล่นง่ายๆ: คอ Nitro Wizard คือที่สุดของความสบายมือสำหรับสายปั่น รับรองว่าลองแล้วจะติดใจ
• คนที่ชอบดีไซน์เรียบๆ ดุดัน: ถ้าไม่ชอบกีตาร์ที่มีลวดลายเยอะๆ หรือสีสันฉูดฉาด Iron Label นี่แหละคือสไตล์ของคุณ

ถามว่าควรซื้อรุ่นสูงหรือรุ่นต่ำดี? อันนี้ขึ้นอยู่กับงบประมาณและความต้องการเลยจ้า ถ้าเป็นมือใหม่ หรือเพิ่งเริ่มเข้าสู่โลกเมทัล รุ่นเริ่มต้นของ Iron Label ก็เพียงพอและคุ้มค่ามากๆ แล้ว แต่ถ้าเป็นมือเก๋า ต้องการฟังก์ชันพิเศษ เช่น Multi-Scale, จำนวนสายเยอะขึ้น หรือวัสดุที่ดีขึ้น เพื่อรีดเค้นประสิทธิภาพสูงสุดในการเล่น รุ่นที่สเปกสูงขึ้นก็ตอบโจทย์ได้ดีกว่าแน่นอน

สุดท้ายนี้ ขอให้ทุกคนได้กีตาร์ Ibanez Iron Label คู่ใจไปสร้างสรรค์ผลงานเพลงร็อกเมทัลสุดมันส์กันนะจ๊ะ! ขอให้มีความสุขกับการเล่นกีตาร์ทุกคนจ้า! ร็อกออนนน!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• Ibanez-GRG121PAR กีต้าร์คุ้มราคา โดนใจชาวร็อค และเมทัลแน่นอน ...
• แนะนำ guitar สุดROCK "Ibanez RGIR30BFE" Review By Pop ...
• คนอวดกีต้าร์ 4 : Ibanez Iron Label S Series SIR70FD
• รีวิวกีตาร์ Ibanez GRGR131EX-BKF สำหรับชาวร็อค
• "IBANEZ RGDIX6MPB" Review By POP WORAVIT