พรมรถยนต์ 6D ราคาเท่าไหร่ อัปเดตล่าสุดปี 2025 สำหรับรถทุกรุ่น พร้อมวิธีติดตั้ง

สวัสดีค่าาา ชาวรักรถทุกคนนน! วันนี้มาเม้าท์เรื่องของแต่งรถคู่ใจที่บอกเลยว่าฮิตมากกก แถมช่วยยกระดับความหรูหราให้รถเราได้แบบไม่ต้องจ่ายแพง นั่นก็คือ พรมรถยนต์ 6D นั่นเองจ้าาา ใครที่กำลังมองหาพรมปูพื้นรถแบบใหม่ยกเซ็ต อยากรู้ว่าเจ้าพรม 6D นี่มันดียังไง ราคาเท่าไหร่ แล้วติดเองได้มั้ยนะ? มามุงตรงนี้เลยค่ะ เราจะมาแกะกล่อง เอ้ย! แกะข้อมูลให้ฟังแบบหมดเปลือก พร้อมอัปเดตราคาปี 2025 กันไปเลย! เตรียมตัวให้พร้อม แล้วไปดูกันเล้ยยย!

1. พรมรถยนต์ 6D คืออะไร ทำไมใครๆ ก็เลิฟ?

เอาล่ะค่ะ เริ่มต้นกันที่ว่าเจ้า พรมรถยนต์ 6D นี่มันคืออะไรกันแน่? พูดง่ายๆ มันคือพรมปูพื้นรถยนต์แบบเข้ารูปที่เค้าออกแบบมาให้ครอบคลุมพื้นที่ในรถได้เกือบทั้งหมด ตั้งแต่พื้นรถด้านหน้า ด้านหลัง ไปจนถึงขอบข้างต่างๆ เลยค่ะ ที่เรียกว่า 6D เนี่ย ก็เพราะเค้าว่ากันว่ามันมีเลเยอร์หรือชั้นวัสดุที่ซับซ้อนกว่าพรมแบบเก่าๆ ทั่วไป ทำให้มีคุณสมบัติที่เริ่ดกว่านั่นเอง หลักๆ วัสดุจะเป็นหนัง PU คุณภาพดี ที่ทำออกมาให้ดูคล้ายหนังแท้ ทำให้ภายในรถดูหรูหราพรีเมียมขึ้นมาทันทีเลยจ้า ไม่ต้องรถยุโรปแพงๆ รถบ้านๆ เราก็ดูดีได้!

ใครบ้างที่เหมาะกับพรม 6D นี่เหรอ? ก็คนที่...

• อยากให้รถดูใหม่ สะอาดตลอดเวลา
• เบื่อพรมเดิมๆ ที่เปื้อนง่าย ทำความสะอาดยาก
• ต้องการปกป้องพื้นผิวภายในรถแบบเต็มที่
• อยากเพิ่มความหรูหราให้ห้องโดยสารแบบงบไม่บานปลาย
• ชอบอะไรที่เข้ารูป เป๊ะปัง ไม่เลื่อนไปมา

เจ้าพรม 6D นี่กำลังเป็นที่นิยมในตลาดไทยมากๆ เลยนะ เพราะด้วยความสวยงาม ติดตั้งง่าย และคุณสมบัติที่ตอบโจทย์คนใช้รถในเมืองไทยที่เจอปัญหาฝุ่น น้ำ สิ่งสกปรกได้ดีเยี่ยม

2. ราคาพรมรถยนต์ 6D อัปเดตปี 2025

มาถึงเรื่องที่ทุกคนรอคอย! ราคาของ พรมรถยนต์ 6D ในตลาดไทยปี 2025 เนี่ย ต้องบอกว่ามีหลากหลายมากๆ เลยค่ะ ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง ทั้งรุ่นรถ ยี่ห้อ วัสดุเกรดต่างๆ และร้านค้าที่ขายด้วย

โดยทั่วไปแล้ว ราคาพรม 6D แบบ เต็มคัน (ส่วนใหญ่จะรวมพื้นที่ด้านหน้า ด้านหลัง และบางส่วนของขอบข้าง) สำหรับรถเก๋ง 4 ประตู หรือรถกระบะ 4 ประตู จะอยู่ในช่วงประมาณ 1,000 บาทปลายๆ ไปจนถึง 4,000 บาทต้นๆ (฿) โดยประมาณค่ะ ส่วนรถ SUV หรือรถ 7 ที่นั่ง ที่มีพื้นที่เยอะกว่า ราคาก็จะสูงขึ้นไปอีก เริ่มตั้งแต่ประมาณ 2,000 บาท ไปจนถึง 5,000 บาทหรือมากกว่านั้น ก็มีค่ะ

ลองไปส่องตามแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซยอดฮิตอย่าง Lazada และ Shopee ดูสิคะ จะเจอร้านค้าเยอะมากๆ ที่ขายพรม 6D สำหรับรถยนต์เกือบทุกรุ่น ทุกยี่ห้อเลยค่ะ ราคาก็จะมีความแตกต่างกันไป บางร้านเน้นราคาถูก บางร้านเน้นคุณภาพวัสดุเกรดพรีเมียมหน่อยๆ ก็ต้องเลือกดูกันให้ดีๆ นะคะ

สำหรับร้านค้าอุปกรณ์รถยนต์ทั่วไป หรือร้านประดับยนต์ต่างๆ ก็มีพรม 6D ขายเช่นกันค่ะ ราคาอาจจะสูงกว่าบนออนไลน์เล็กน้อย แต่ข้อดีคือเราอาจจะได้เห็นตัวอย่างวัสดุจริงก่อนตัดสินใจค่ะ

3. เทียบกับพรมแบบอื่น ดีกว่า คุ้มกว่าไหม?

แล้วถ้าเทียบกับพรมรถยนต์แบบอื่นๆ ที่มีในตลาดล่ะ? เจ้าพรม 6D นี่มันเป็นยังไงบ้าง มาดูกันแบบหมัดต่อหมัด!

• พรมกระดุม / ผ้ายางกระดุม: อันนี้ราคาถูกสุด หาซื้อง่าย ติดตั้งง่าย แต่ไม่ค่อยดักฝุ่น ไม่ค่อยซับน้ำ และไม่ได้ช่วยเรื่องความสวยงามหรูหราเท่าไหร่
• พรมไวนิลดักฝุ่น: ตัวนี้เน้นดักฝุ่นได้ดีมาก กันลื่นได้ดี แต่บางทีทำความสะอาดยากถ้าฝุ่นเยอะมากๆ และอาจไม่ได้เข้ารูปเป๊ะเหมือน 6D
• พรม 3D / 5D: เป็นพรมเข้ารูปเหมือนกันค่ะ แต่ 6D จะมีการปกปิดพื้นที่ขอบข้างได้ดีกว่า และวัสดุอาจจะหนาหรือมีคุณภาพดีกว่า 5D เล็กน้อย (แล้วแต่ผู้ผลิตด้วยนะ)

สรุปคือ พรม 6D จะอยู่ตรงกลางระหว่างพรมราคาถูกทั่วไปกับพรมสั่งตัดราคาแพงมากๆ มันให้ความสวยงามหรูหรา เข้ารูป ปกป้องพื้นรถได้ดี ทำความสะอาดง่าย (ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดได้เลย) แถมยังช่วยลดเสียงรบกวนจากพื้นรถได้อีกด้วย แม้ราคาจะสูงกว่าพรมกระดุมหรือไวนิล แต่ถ้ามองเรื่องฟังก์ชัน ความสวยงาม และความทนทานในระยะยาว (บางร้านเคลมว่าใช้ได้ 5-6 ปี) ถือว่า คุ้มค่า ทีเดียวค่ะ

4. ซื้อแล้วได้อะไรมาบ้างนะ? อุปกรณ์เสริมและการรับประกัน

เวลาซื้อพรม 6D แบบเต็มคัน ส่วนใหญ่สิ่งที่ได้มาก็คือชุดพรมที่ตัดเข้ารูปตามรุ่นรถของเราเลยค่ะ โดยจะแบ่งเป็นชิ้นๆ สำหรับปูบริเวณพื้นห้องโดยสารทั้งหมด และบางชุดอาจจะมีส่วนที่ปิดหลังเบาะ หรือส่วนพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังมาให้ด้วย (อันนี้แล้วแต่แพ็คเกจและรุ่นรถนะ)

สิ่งที่คนไทยให้ความสำคัญมากกกก ก็คือเรื่อง ค่าจัดส่ง กับ การรับประกัน ใช่ไหมล่ะคะ? ดีใจด้วยค่ะ! พรม 6D ส่วนใหญ่ที่ขายบนออนไลน์มักจะมีโปรโมชั่น ส่งฟรีทั่วประเทศ หรือในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลก็อาจจะมีบริการ จัดส่งพร้อมติดตั้งฟรี ให้ด้วยนะ!

ส่วนเรื่อง การรับประกัน สำหรับพรมปูพื้นรถยนต์อาจจะไม่ได้มีประกันศูนย์แบบสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ค่ะ แต่ร้านค้าส่วนใหญ่จะมี การรับประกันคุณภาพสินค้า เช่น รับประกันว่าสินค้าเข้ารูปตรงรุ่น ไม่มีตำหนิจากการผลิต หรือรับประกันวัสดุ (เช่น หนังไม่ลอก ไม่บวม ไม่พอง) เป็นระยะเวลาสั้นๆ (เช่น 7 วัน หรือ 30 วัน) หรือบางร้านอาจจะกล้ารับประกันนานกว่านั้น ก็ต้องลองสอบถามผู้ขายดูค่ะ

นอกจากนี้ บางร้านใจดี๊ใจดี อาจจะมี ของแถม เล็กๆ น้อยๆ มาให้ด้วยนะ เช่น แผ่นรองส้นเท้าสำหรับฝั่งคนขับ (อันนี้มีประโยชน์มาก ช่วยยืดอายุพรมตรงจุดที่ใช้งานหนัก) ปลอกหุ้มเข็มขัดนิรภัย หรือหมอนรองคอค่ะ ก่อนซื้อก็ลองดูรายละเอียดโปรโมชั่นดีๆ นะ อาจจะได้ของแถมจุใจกลับบ้านไปด้วย!

5. ช้อปช่วงไหนได้โปรดีๆ บ้างนะ?

ถ้าถามว่าช่วงไหนเหมาะแก่การช้อปพรม 6D ที่สุด ก็ต้องบอกว่า ช่วงโปรโมชั่น นี่แหละจ้าาา! เหมือนสินค้าอื่นๆ เลยค่ะ พรมรถยนต์ 6D ก็มักจะมีโปรโมชั่นลดราคา หรือมีโค้ดส่วนลดออกมาเรื่อยๆ โดยเฉพาะบนแพลตฟอร์มใหญ่อย่าง Lazada และ Shopee

ช่วงเทศกาลช้อปปิ้งใหญ่ๆ ระดับโลกอย่าง 11.11 และ 12.12 เนี่ย พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์เค้าจัดหนักจัดเต็มแน่นอนค่ะ รวมถึงช่วงเทศกาลสำคัญๆ ของไทย อย่าง สงกรานต์ หรือ ปีใหม่ ก็มีโอกาสเจอโปรโมชั่นดีๆ ได้เช่นกัน

นอกจากนี้ ร้านค้าที่เป็น Official Store หรือร้านใหญ่ๆ ที่มีผู้ติดตามเยอะๆ บน Lazada/Shopee ก็มักจะมีโปรโมชั่น หรือโค้ดส่วนลดเฉพาะร้านออกมาบ่อยๆ นะคะ บางทีก็เป็นส่วนลดตามยอดซื้อ หรือมีโปรโมชั่นแฟลชเซลล์ช่วงเวลาสั้นๆ ก็ต้องคอยเข้าไปส่อง เข้าไปกดติดตามร้านไว้ค่ะ

สรุปคือ ถ้าไม่รีบใช้มากๆ การ รอซื้อช่วงโปรโมชั่น จะช่วยให้เราประหยัดเงินในกระเป๋าไปได้เยอะเลยค่ะ! เก็บโค้ดส่วนลด เก็บโค้ดส่งฟรี แล้วกดสั่งซื้อตอนที่ราคาดีที่สุดไปเลย!

6. เสียงตอบรับจากคนไทยที่ใช้พรม 6D เป็นยังไงบ้าง?

จากที่ลองไปส่องๆ ดูรีวิวจากผู้ใช้จริงในไทยตามโซเชียล หรือใน Pantip เนี่ย เสียงส่วนใหญ่ค่อนข้างเป็นไปในทางที่ดีเลยค่ะ

จุดที่คนไทยชอบมากๆ เกี่ยวกับพรม 6D ก็คือ:

• เข้ารูปเป๊ะ! หลายคนบอกว่าพรมตัดมาตรงรุ่นรถพอดีเป๊ะ ติดตั้งแล้วดูเรียบร้อย สวยงาม
• ทำความสะอาดง่าย: อันนี้คือดีงามมาก แค่ใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ เช็ดๆ คราบสกปรกก็ออกแล้ว ไม่ต้องเหนื่อยยกไปซัก
• ช่วยให้รถดูหรูขึ้น: วัสดุหนัง PU ทำให้ภายในรถดูดี มีระดับ อย่างกับรถแพงๆ เลยล่ะ
• กันน้ำ กันฝุ่นดี: เหมาะกับสภาพอากาศและสภาพถนนในไทยมากๆ ช่วยป้องกันคราบน้ำ คราบโคลน หรือฝุ่นต่างๆ ได้ดีเยี่ยม
• ทนทาน: หลายคนที่ใช้มาสักพักบอกว่าวัสดุค่อนข้างทนทาน ไม่ฉีกขาดง่าย
• ติดตั้งเองได้: แม้จะดูเป็นชุดใหญ่ แต่ส่วนใหญ่ผู้ใช้จริงบอกว่าติดตั้งเองได้ไม่ยากค่ะ

แน่นอนว่าของทุกอย่างมีข้อจำกัดค่ะ บางรีวิวก็อาจจะเจอเรื่องสีเพี้ยนจากรูปบ้าง หรือบางทีตีนตุ๊กแกที่ใช้ยึดอาจจะดึงใยพรมเดิมขึ้นมาบ้าง แต่อย่างไรก็ตาม โดยรวมแล้ว คนไทยค่อนข้างพอใจกับ ความคุ้มค่าและคุณภาพ ที่ได้จากพรม 6D ในระดับราคานี้ค่ะ

7. จะไปหาซื้อพรม 6D ได้จากช่องทางไหนบ้างนะ?

ถ้าตัดสินใจแล้วว่าจะถอยพรม 6D มาเสริมหล่อให้รถคู่ใจ จะไปหาซื้อได้จากที่ไหนบ้างล่ะ?

• แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซใหญ่ๆ: อันนี้สะดวกสุดๆ เลยค่ะ ทั้ง Lazada และ Shopee เป็นแหล่งรวมร้านค้าพรม 6D เยอะมากๆ มีตัวเลือกหลากหลายรุ่น หลากหลายราคา เปรียบเทียบง่าย มีรีวิวจากผู้ซื้อจริงให้ดูด้วย แถมมีระบบการชำระเงินที่ปลอดภัย และโปรโมชั่นส่วนลดเพียบ ข้อควรระวังคือต้องเลือกร้านที่น่าเชื่อถือ ดูคะแนนร้าน ดูรีวิวจากลูกค้าคนอื่นๆ เยอะๆ นะคะ
• ร้านค้าอุปกรณ์รถยนต์ / ร้านประดับยนต์: ตามร้านประดับยนต์ใหญ่ๆ หรือร้านที่ขายอุปกรณ์รถยนต์โดยเฉพาะก็มีพรม 6D ขายค่ะ ข้อดีคือเราสามารถไป ดูของจริง สัมผัสวัสดุจริง ก่อนตัดสินใจซื้อได้ และบางทีก็มีบริการติดตั้งให้ด้วยค่ะ แต่ราคาก็อาจจะสูงกว่าซื้อออนไลน์เล็กน้อยนะ
• เว็บไซต์โรงงานผู้ผลิต/ตัวแทนจำหน่ายโดยตรง: บางโรงงานผู้ผลิต หรือตัวแทนจำหน่ายรายใหญ่ๆ ก็มีเว็บไซต์ของตัวเองให้เราเข้าไปสั่งซื้อโดยตรงค่ะ ข้อดีคือน่าจะได้สินค้าที่เป็นของแท้ คุณภาพตรงตามที่โฆษณาไว้ และบางทีอาจจะได้ราคาที่ดีกว่าด้วย

เลือกช่องทางที่สะดวกและมั่นใจได้เลยค่ะ แต่ถ้าเน้นความหลากหลายของสินค้าและราคาที่สามารถเปรียบเทียบได้ง่าย ออนไลน์นี่แหละตอบโจทย์สุดๆ!

8. สรุปแล้ว พรม 6D น่าซื้อไหม? เหมาะกับใคร?

มาถึงบทสรุปกันแล้วค่ะ! ถามว่าพรมรถยนต์ 6D น่าซื้อไหมในปี 2025 นี้? บอกเลยว่า น่าซื้อมากๆ เลยค่ะ โดยเฉพาะถ้าคุณกำลังมองหา:

• พรมปูพื้นรถที่ เข้ารูปพอดี กับรถของคุณ
• อยากให้ภายในรถดู สะอาด เรียบร้อย ตลอดเวลา
• ต้องการ ปกป้องพื้นรถ จากฝุ่น น้ำ และสิ่งสกปรกต่างๆ
• อยาก เพิ่มความหรูหรา ให้กับห้องโดยสาร แต่มีงบประมาณจำกัด
• ชอบอะไรที่ ทำความสะอาดง่าย ไม่ต้องเสียเวลาดูแลเยอะ

พรม 6D ถือเป็นตัวเลือกที่ คุ้มค่าคุ้มราคา มากๆ ค่ะ มันยกระดับความสวยงามและความสะดวกสบายภายในรถได้แบบเห็นผลชัดเจน ในราคาที่เข้าถึงได้

เหมาะมากๆ สำหรับ คนใช้รถทั่วไป ที่อยากดูแลรถให้ดูดีอยู่เสมอ หรือคนที่ใช้รถเป็นประจำและเจอปัญหาเรื่องความสกปรกในรถบ่อยๆ ค่ะ ส่วนจะเลือกรุ่นไหน เกรดไหน? ถ้าเน้นความคุ้มค่า basic พรม 6D ก็เพียงพอแล้วค่ะ แต่ถ้าอยากได้คุณสมบัติเสริม เช่น มีใยดักฝุ่นด้านบนอีกชั้น (ที่บางทีเรียก 7D) หรือวัสดุที่หนาเป็นพิเศษ ก็อาจจะต้องเพิ่มงบขึ้นไปอีกหน่อยค่ะ

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคนที่กำลังเล็งๆ พรมรถยนต์ 6D อยู่นะคะ ขอให้ได้พรมที่ถูกใจ ทำให้รถคู่ใจของเราดูดีขึ้น สะอาดขึ้น และน่าใช้งานมากขึ้นไปอีกค่าาา! ขับขี่ปลอดภัยทุกคนนะค้าาา!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• ติดตั้งพรมรถกระบะ 4 ประตู ✨ พรมปูพื้นรถยนต์ คุณกิ๊ก พีพีออโต้ ...
• อีซูซุมิวเอ็กซ์ 2025: ติดตั้งพรมปูพื้นสวยงาม
• ติดตั้งพรมรถยนต์อย่างง่ายดายที่ทุกคนทำได้
• มาแล้วคร้าบ #Isuzu Mu-x 2025 RS Top ติดตั้งพรม 6D VIP เกรดพรี ...
• ออกรถไปแล้ว อยากติดพรม 6 D เพิ่มความสวยงาม #แจ็คอีซูซุโปรเทพ ...