10 โยเกิร์ต ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 เนื้อเนียนอร่อย ตัวช่วยขับถ่าย

สวัสดีครับเพื่อนๆ สายเฮลท์ตี้และผู้ที่มองหาตัวช่วยดูแลสุขภาพลำไส้ทุกคน! 👋 ในยุคที่ชีวิตเร่งรีบ แถมบางทีก็ต้องเผชิญกับความเครียดและพฤติกรรมการกินที่อาจไม่เอื้อต่อระบบขับถ่าย โยเกิร์ตคุณภาพดีจึงกลายเป็นหนึ่งในอาหารยอดนิยมที่หลายคนนึกถึง ไม่ใช่แค่เพื่อความอร่อยสดชื่น แต่ยังเป็นแหล่งรวมจุลินทรีย์ดีที่ช่วยปรับสมดุลลำไส้และกระตุ้นการขับถ่ายให้เป็นปกติ

แต่ปัญหาคือ... ตอนนี้ในตลาดมีโยเกิร์ตออกมาเยอะมากกกก หลายยี่ห้อ หลายสูตร จนเลือกไม่ถูกว่าแบบไหนจะตอบโจทย์เราที่สุด ไม่ว่าจะเป็นโยเกิร์ตรสธรรมชาติ โยเกิร์ตกรีก โยเกิร์ตพร้อมดื่ม หรือแม้แต่โยเกิร์ตจากพืช! 🤔

ไม่ต้องห่วงครับ! ในฐานะที่ผมคลุกคลีกับการดูแลสุขภาพและมองหาสินค้าคุณภาพ วันนี้ผมจะมาเป็นกูรูส่วนตัว พาเพื่อนๆ ไปเจาะลึกโลกของโยเกิร์ตในไทย พร้อมแนะนำ 10 โยเกิร์ตยี่ห้อเด็ดที่น่าสนใจในปี 2025 นี้ บอกเลยว่าอ่านจบปุ๊บ เลือกซื้อได้ปั๊บ ได้ประโยชน์เต็มๆ แน่นอน!

ตลาดโยเกิร์ตในประเทศไทย ฮอตแค่ไหนกันนะ?

บอกเลยว่าตลาดโยเกิร์ตในไทยช่วงนี้กำลัง เติบโตอย่างต่อเนื่องและคึกคักสุดๆ! โดยเฉพาะกลุ่มโยเกิร์ตพร้อมดื่มที่คาดการณ์ว่าจะมีมูลค่าสูงถึง 14,100 ล้านบาทในปี 2568 นี้ เทรนด์สำคัญที่ขับเคลื่อนตลาดคือ กระแสการดูแลสุขภาพและความใส่ใจในการป้องกันโรค มากกว่าการรักษา ทำให้ผู้บริโภคหันมามองหาอาหารและเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากขึ้น

ปัจจุบันตลาดโยเกิร์ตในไทยมีทั้งแบรนด์ท้องถิ่นและแบรนด์นำเข้าที่แข่งขันกันอย่างดุเดือด แบรนด์ใหญ่ที่ครองตลาดและมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในกลุ่มโยเกิร์ตถ้วยพร้อมทานคือ CP-Meiji โดยเฉพาะโยเกิร์ตเมจิ บัลแกเรีย ที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภคมากว่า 12 ปี นอกจากนี้ยังมีความนิยมเพิ่มขึ้นของโยเกิร์ตกลุ่มใหม่ๆ เช่น กรีกโยเกิร์ต ที่ได้รับความสนใจอย่างมากในช่วงการระบาดของโควิด-19 เนื่องจากมีโปรตีนสูงและน้ำตาลน้อยกว่าโยเกิร์ตทั่วไป รวมถึง โยเกิร์ตจากพืช (Plant-based Yogurt) ที่กำลังเป็นที่ต้องการในกลุ่มผู้บริโภคที่เป็นมังสวิรัติหรือแพ้แลคโตส แบรนด์พรีเมียมจากเกาหลีอย่าง YogurBara ก็เข้ามาสร้างกระแสไวรัลในไทยได้ไม่นานมานี้ด้วยเช่นกัน

พฤติกรรมผู้บริโภคชาวไทยมักมองหาโยเกิร์ตที่มี จุลินทรีย์ดี (Probiotics) ซึ่งช่วยปรับสมดุลลำไส้และระบบขับถ่าย รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่มีฉลากสะอาด (Clean Label) และส่วนผสมจากธรรมชาติ ปราศจากสารปรุงแต่ง ช่องทางจำหน่ายหลักๆ ที่คนไทยนิยมซื้อหาโยเกิร์ตได้แก่ ซูเปอร์มาร์เก็ตอย่าง Big C, Tops, Gourmet Market, Makro รวมถึงร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-Eleven และแพลตฟอร์มออนไลน์ยอดนิยมอย่าง Lazada และ Shopee นอกจากนี้ยังมีร้านโยเกิร์ตปั่นสดเฉพาะทางอย่าง Yoguruto ที่กำลังขยายสาขาอย่างรวดเร็วในปี 2025 นี้

ปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อโยเกิร์ต (Practical Tips)

ก่อนตัดสินใจเลือกโยเกิร์ตถ้วยโปรด มาดูกันว่ามีปัจจัยอะไรบ้างที่เราต้องพิจารณา เพื่อให้ได้โยเกิร์ตที่เหมาะกับความต้องการของเราที่สุดครับ ลองดูตารางนี้เป็นแนวทางได้เลย:

จัดไป! 10 โยเกิร์ตน่าลอง ปี 2025!

ถึงช่วงที่ทุกคนรอคอย! ผมคัดมาให้แล้ว 10 แบรนด์โยเกิร์ตเด็ดที่ได้รับความนิยมในตลาดไทย และมีคุณสมบัติที่น่าสนใจ ลองพิจารณาตามสไตล์และความต้องการของตัวเองได้เลย!

1. Meiji Bulgaria (เมจิ บัลแกเรีย)

• เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์ยอดนิยมจาก CP-Meiji ผู้ผลิตและผู้นำตลาดในไทย ขึ้นชื่อเรื่องการใช้จุลินทรีย์ LB81 สายพันธุ์แท้จากบัลแกเรีย ซึ่งเป็นต้นตำรับแท้ๆ
• สินค้ารุ่นหรือซีรีส์เด่น: มีทั้งรสธรรมชาติ (เนื้อคงตัว), สูตรไขมัน 0% รสกลมกล่อม, รสน้ำผึ้งและมะนาว, และแบบพร้อมดื่มรสผลไม้ต่างๆ (เช่น ไวลด์เบอร์รี่, สตรอว์เบอร์รี่)
• วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
  • ข้อดี: เนื้อเนียนนุ่ม รสชาติกลมกล่อม มีจุลินทรีย์ LB81 ช่วยเรื่องระบบขับถ่ายและปรับสมดุลลำไส้ได้ดีมาก. มีสูตรไขมัน 0% และน้ำตาลน้อยให้เลือก. หาซื้อง่ายมากตามร้านสะดวกซื้อและซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป.
  • ข้อเสีย: บางคนอาจรู้สึกว่ารสธรรมชาติค่อนข้างเปรี้ยวนำ หรือรสอื่นๆ อาจยังมีน้ำตาลสูงไปบ้างหากไม่เลือกสูตรไขมัน 0% หรือสูตรไม่เติมน้ำตาล.
• เหมาะกับใคร: ผู้ที่ต้องการดูแลระบบขับถ่ายเป็นพิเศษ ผู้ที่มองหาโยเกิร์ตต้นตำรับรสชาติดี และผู้ที่ใส่ใจสุขภาพทั่วไป
• ช่องทางการซื้อ: Big C, Tops, Makro, 7-Eleven, Lazada, Shopee
• ช่วงราคา: ประมาณ 44 บาท (แพ็ค 2x110g) - 82 บาท (450g)
• รีวิวผู้ใช้งาน: "รสกลมกล่อมอร่อยมากๆ ค่ะ เนื้อเด้งดึ๋งนิดๆ ไม่ขมฝาด ลื่นคอ กลืนง่าย" "ทานติดกันมาปีกว่าแล้ว กินมาหลายแบรนด์ จนมาจอดที่ เมจิ บัลแกเรีย ไขมัน 0%" "เนื้อโยเกิร์ตแน่นตักง่าย รสชาติหวานเปรี้ยวแบบกลมกล่อม"

2. Dutchie (ดัชชี่)

• เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์ไทยยอดนิยมที่หลากหลายทั้งรสชาติและรูปแบบ เป็นที่รู้จักกันดีในตลาด
• สินค้ารุ่นหรือซีรีส์เด่น: มีทั้งรสธรรมชาติ, รสผลไม้ (สตรอว์เบอร์รี่, วุ้นมะพร้าว, ผลไม้รวม), สูตรไขมัน 0%, Dutchie Bio (เน้นโพรไบโอติกส์ช่วยขับถ่าย), และ Greek Style Yogurt
• วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
  • ข้อดี: หาซื้อง่ายมาก ราคาเข้าถึงง่าย มีตัวเลือกหลากหลายตอบโจทย์ทุกความต้องการ ตั้งแต่รสชาติทั่วไปไปจนถึงสูตรเฉพาะทาง. Dutchie Bio มีโพรไบโอติกส์ช่วยเรื่องขับถ่าย. Greek Style มีเนื้อเข้มข้น โปรตีนสูง.
  • ข้อเสีย: บางสูตรอาจมีน้ำตาลสูง. เนื้อสัมผัสอาจไม่แน่นเท่าแบรนด์พรีเมียม.
• เหมาะกับใคร: ผู้ที่ต้องการโยเกิร์ตที่หาซื้อง่าย ราคาไม่แพง มีหลากหลายรสชาติให้เลือกสรร ผู้ที่เริ่มต้นทานโยเกิร์ต หรือผู้ที่ต้องการโยเกิร์ตช่วยขับถ่ายในชีวิตประจำวัน
• ช่องทางการซื้อ: Big C, Tops, 7-Eleven, Lotus's, Lazada, Shopee
• ช่วงราคา: ประมาณ 15 บาท (ถ้วยเดี่ยว) - 58 บาท (แพ็ค 4 ถ้วย). Greek Style ประมาณ 22 บาท/ถ้วย หรือ 65 บาท (แพ็ค 3).
• รีวิวผู้ใช้งาน: "รสชาติธรรมดาทานง่าย สะดวกและหาทานง่ายได้ทั่วไป" "เนื้อโยเกิร์ตข้นกว่าปกติคล้ายๆกรีกโยเกิร์ต รสชาติอร่อยนุ่มกว่าเดิม โปรตีนสูง" (Dutchie High Protein) "หาซื้อได้ง่ายและสะดวก จะซื้อเดี่ยวหรือซื้อเป็นแพคก็ได้"

3. Dairy Home (แดรี่โฮม)

• เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์ไทยที่เน้นผลิตภัณฑ์นมและโยเกิร์ตออร์แกนิก คุณภาพสูง ใส่ใจสิ่งแวดล้อม โดยใช้ถ้วยโยเกิร์ตพลาสติกชีวภาพที่ย่อยสลายได้
• สินค้ารุ่นหรือซีรีส์เด่น: Greek Yogurt (กรีกโยเกิร์ต) รสธรรมชาติ ไม่เติมน้ำตาล, โยเกิร์ตธรรมชาติแบบคงตัว (Set Yogurt) มีหลากหลายรสชาติ เช่น บลูเบอร์รี่, สตรอว์เบอร์รี่, ลูกพรุน, ธัญพืช
• วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
  • ข้อดี: ผลิตจากน้ำนมโคออร์แกนิกแท้ 100% ปราศจากสารเคมี. เนื้อเนียนนุ่ม รสชาติเข้มข้น อร่อย. กรีกโยเกิร์ตโปรตีนสูง ไม่มีน้ำตาล เหมาะสำหรับคนรักสุขภาพ. บรรจุภัณฑ์เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม.
  • ข้อเสีย: ราคาค่อนข้างสูงกว่าโยเกิร์ตทั่วไป. บางรสชาติหรือขนาดอาจหาซื้อยากนอกเขตกรุงเทพฯ.
• เหมาะกับใคร: ผู้ที่ใส่ใจสุขภาพและสิ่งแวดล้อม ผู้ที่มองหาผลิตภัณฑ์ออร์แกนิก ผู้ที่ควบคุมน้ำหนักหรือจำกัดน้ำตาล
• ช่องทางการซื้อ: Big C, Tops, Gourmet Market, Shopee (อาจจำกัดพื้นที่จัดส่ง)
• ช่วงราคา: ประมาณ 28 บาท (130g) - 65 บาท (450g) สำหรับโยเกิร์ตธรรมชาติ. กรีกโยเกิร์ตประมาณ 200 บาท (450g).
• รีวิวผู้ใช้งาน: "เนื้อโยเกิร์ตเข้มข้นและอร่อยมากค่ะ" "อร่อยถูกปากทุกคน" (โยเกิร์ตธรรมชาติ)

4. Farmers Union (ฟาร์มเมอร์ส ยูเนี่ยน)

• เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์นำเข้าจากออสเตรเลีย ที่โดดเด่นในกลุ่มกรีกโยเกิร์ต (Greek Style Yogurt)
• สินค้ารุ่นหรือซีรีส์เด่น: Greek Style Yogurt รสธรรมชาติ, รสวานิลลา, รสน้ำผึ้ง, สูตร High Protein, สูตร Lactose Free
• วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
  • ข้อดี: เนื้อกรีกโยเกิร์ตเข้มข้นมาก ครีมมี่ โปรตีนสูงกว่าโยเกิร์ตทั่วไป. มีตัวเลือกหลากหลายสำหรับผู้ที่ต้องการโปรตีนสูง หรือผู้ที่แพ้แลคโตส.
  • ข้อเสีย: ราคาค่อนข้างสูง. บางขนาดหรือรสชาติอาจหาซื้อยากในบางร้าน.
• เหมาะกับใคร: สายออกกำลังกายที่ต้องการโปรตีนสูง ผู้ที่ชื่นชอบกรีกโยเกิร์ตเนื้อเข้มข้น ผู้ที่แพ้แลคโตส
• ช่องทางการซื้อ: Big C, Tops, Gourmet Market, Lazada, Shopee
• ช่วงราคา: ประมาณ 45 บาท (90g) - 299 บาท (1kg). ขนาด 500g ประมาณ 219-225 บาท.
• รีวิวผู้ใช้งาน: "เนื้อโยเกิร์ตเข้มข้นและอร่อยมากค่ะ" "อร่อยเข้มข้น เหมาะสำหรับคนรักโยเกิร์ต แนะนำว่าควรลองชิมทั้งสามรสชาติ"

5. Yolida ProBio (โยลิดา โพรไบโอ)

• เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์ไทยที่เน้นโยเกิร์ตจากนมโคแท้ 100% จากฟาร์มของตัวเอง โดยมีจุดเด่นเรื่องโพรไบโอติกส์
• สินค้ารุ่นหรือซีรีส์เด่น: โยเกิร์ตรสธรรมชาติ ไขมันต่ำ (มีทั้งขนาด 150g และ 1.8L)
• วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
  • ข้อดี: ได้คุณประโยชน์จากโพรไบโอติกส์. ผลิตจากน้ำนมโคแท้คุณภาพสูง เนื้อโยเกิร์ตคงตัว ไม่เหลว รสชาติอร่อย เข้มข้น หอมมัน เปรี้ยวตามคุณลักษณะของโยเกิร์ตธรรมชาติที่ดี. มีขนาดใหญ่สำหรับผู้บริโภคที่ต้องการปริมาณมาก.
  • ข้อเสีย: ตัวเลือกอาจไม่หลากหลายเท่าแบรนด์ใหญ่ในแง่ของรสชาติและรูปแบบ (เช่น ไม่มีกรีกโยเกิร์ต).
• เหมาะกับใคร: ผู้ที่ต้องการโยเกิร์ตธรรมชาติที่เน้นจุลินทรีย์โพรไบโอติกส์ ผู้ที่ต้องการโยเกิร์ตไขมันต่ำในราคาคุ้มค่า
• ช่องทางการซื้อ: Big C, Tops, Lazada, Shopee, Makro
• ช่วงราคา: ประมาณ 22 บาท (150g) - 175-298 บาท (1.8L).
• รีวิวผู้ใช้งาน: "เด่นด้วยจุลินทรีย์โพรไบโอติก ทั้งแบคทีเรีย Lactobacillus acidophilus, Bifidobacterium lactis และ Lactobacillus paracasei มีประโยชน์ต่อสุขภาพ ดีต่อระบบขับถ่ายและระบบภูมิคุ้มกันสุดๆ"

6. Ambrosial (แอมโบรเซียล)

• เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์โยเกิร์ตกรีกพร้อมดื่มที่ได้รับความนิยม มีต้นกำเนิดและพัฒนาสูตรร่วมกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์แห่งประเทศกรีซ
• สินค้ารุ่นหรือซีรีส์เด่น: กรีกโยเกิร์ตพร้อมดื่ม รสออริจินัล และรสสตรอว์เบอร์รี่
• วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
  • ข้อดี: เนื้อเนียนนุ่ม ชนิดพร้อมดื่ม สะดวก ดื่มง่าย. มีโปรตีนสูง และอุดมไปด้วยจุลินทรีย์ Lactobacillus bulgaricus และ Streptococcus thermophilus ที่ดีต่อระบบลำไส้. รสชาติหวานอมเปรี้ยวกลมกล่อม.
  • ข้อเสีย: เป็นแบบพร้อมดื่ม อาจไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบโยเกิร์ตเนื้อข้นแบบถ้วย. ราคาต่อหน่วยอาจสูงกว่าโยเกิร์ตทั่วไป.
• เหมาะกับใคร: ผู้ที่มองหากรีกโยเกิร์ตแบบพร้อมดื่มที่สะดวกและได้โปรตีน ผู้ที่ชื่นชอบรสชาติหวานอมเปรี้ยว และต้องการจุลินทรีย์ดีเพื่อสุขภาพลำไส้
• ช่องทางการซื้อ: Big C, Tops, Lazada, Shopee.
• ช่วงราคา: ประมาณ 32-35 บาท (205g).
• รีวิวผู้ใช้งาน: "อร่อยและดีกับรสชาติที่หลากหลาย" "กรีกโยเกิร์ตพร้อมดื่มเข้มข้นหอมมัน มีโปรตีนสูง"

7. Rivon Soygurt (ริวอง ซอยเกิร์ต)

• เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์ที่โดดเด่นในกลุ่มโยเกิร์ตจากพืช (Soygurt) ทำจากนมถั่วเหลืองแท้ 100% เหมาะสำหรับผู้ที่แพ้นมวัวหรือผู้ที่ทานเจ/มังสวิรัติ
• สินค้ารุ่นหรือซีรีส์เด่น: ซอยเกิร์ตรสออริจินัล, รสพรุน, รสสตรอว์เบอร์รี่, รสบลูเบอร์รี่, รสกระชายขาวและน้ำผึ้ง
• วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
  • ข้อดี: ไม่มีคอเลสเตอรอล มีไขมันดีจากถั่วเหลือง ช่วยลดคอเลสเตอรอลในร่างกาย. เสริมพรีไบโอติกส์และโพรไบโอติกส์. ไม่มีส่วนผสมของนมวัว แลคโตส และกลูเตน. มีรสชาติหลากหลายให้เลือก.
  • ข้อเสีย: รสชาติและเนื้อสัมผัสอาจแตกต่างจากโยเกิร์ตนมโคทั่วไป. อาจหาซื้อได้เฉพาะในซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่บางแห่ง.
• เหมาะกับใคร: ผู้ที่แพ้นมวัว ผู้ที่ทานเจ/มังสวิรัติ ผู้ที่ต้องการลดคอเลสเตอรอล และผู้ที่มองหาทางเลือกโยเกิร์ตที่ทำจากพืช
• ช่องทางการซื้อ: Big C, Tops, Gourmet Market, Makro
• ช่วงราคา: ประมาณ 22 บาท (130g) - 70-78 บาท (แพ็ค 4 ถ้วย).
• รีวิวผู้ใช้งาน: "ทำจากนมถั่วเหลืองหมักจุลินทรีย์ มีคุณค่าทางอาหารสูงด้วยโปรตีน"

8. Yoguruto (โยกุรุโตะ)

• เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์โยเกิร์ตสดปั่นสไตล์ญี่ปุ่นที่กำลังมาแรงในไทย เน้นความสดใหม่และสามารถเลือกระดับความหวานและท็อปปิ้งได้หลากหลาย
• สินค้ารุ่นหรือซีรีส์เด่น: โยเกิร์ตปั่นรสออริจินัล, โยเกิร์ตอโวคาโด้, โยเกิร์ตสตรอว์เบอร์รี่, โยเกิร์ตข้าวไรซ์เบอร์รี่, โยเกิร์ตน้ำผึ้ง
• วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
  • ข้อดี: รสชาติสดชื่น เนื้อเนียนนุ่ม ปรับความหวานได้ตามใจชอบ (0-5 ระดับ). มีท็อปปิ้งหลากหลาย ทั้งผลไม้สดและธัญพืช. ราคาเข้าถึงง่ายเริ่มต้นที่ 49 บาท.
  • ข้อเสีย: ส่วนใหญ่เป็นร้านแบบ Takeaway หรือมีที่นั่งจำกัด. ยังไม่ครอบคลุมทั่วประเทศ เน้นสาขาในกรุงเทพฯ และเมืองใหญ่.
• เหมาะกับใคร: ผู้ที่ชื่นชอบโยเกิร์ตปั่นสดใหม่ สายสุขภาพที่ต้องการควบคุมความหวาน ผู้ที่มองหาของว่างอร่อยสดชื่น
• ช่องทางการซื้อ: มีสาขาในห้างสรรพสินค้า (เช่น Siam Center, EmSphere) และศูนย์การค้า (QSNCC, Paradise Park), Delivery Apps (Robinhood, Lineman).
• ช่วงราคา: เริ่มต้นประมาณ 49-89 บาท.
• รีวิวผู้ใช้งาน: "รสชาติเป็นโยเกิร์ตสดปั่น ใส่น้ำผึ้ง เปรี้ยวนำ แต่ก็ได้รับความหวานจากน้ำผึ้งดี" "อร่อยมาก รสชาติมันๆเปรี้ยวหวานพอดี" (โยเกิร์ตอโวคาโด) "เนื้อโยเกิร์ตปั่นเนียนนุ่ม บวกกับซอสสตรอเบอรี่หวานๆ เปรี้ยวๆ มีเนื้อให้เคี้ยวด้วย อร่อยมากค่ะ"

9. YogurBara (โยเกอร์บารา)

• เกี่ยวกับแบรนด์: โยเกิร์ตพรีเมียมจากเกาหลีที่เพิ่งเปิดตัวในไทยและกลายเป็นกระแสไวรัลอย่างรวดเร็ว ด้วยคอนเซ็ปต์ "Omma-Made Yogurt" – โยเกิร์ตที่ทำด้วยหัวใจและความใส่ใจเหมือนทำให้คนในครอบครัวทาน
• สินค้ารุ่นหรือซีรีส์เด่น: โยเกิร์ตพร้อมดื่มรสออริจินัล, รสมะเขือเทศ (รสชาติพิเศษเฉพาะในไทย), โยเกิร์ตท็อปปิ้งผลไม้
• วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
  • ข้อดี: รสชาติพรีเมียม เนื้อเนียนนุ่ม เป็นที่พูดถึงในโซเชียลมีเดีย. มีรสชาติพิเศษที่สร้างสรรค์เพื่อตลาดไทย.
  • ข้อเสีย: ยังเป็นแบรนด์ใหม่ ตัวเลือกอาจยังไม่

หลากหลายเท่าแบรนด์ที่อยู่มานาน. ราคาน่าจะอยู่ในกลุ่มพรีเมียม. การเข้าถึงอาจยังจำกัดในพื้นที่กรุงเทพฯ.* เหมาะกับใคร: ผู้ที่ชื่นชอบลองของใหม่ๆ แบรนด์พรีเมียม สายโซเชียลที่ตามกระแสอาหารและเครื่องดื่ม

• ช่องทางการซื้อ: สาขา Pop-up หรือ Flagship Store ในห้างสรรพสินค้าชั้นนำในกรุงเทพฯ (เช่น สยามพารากอน).
• ช่วงราคา: คาดว่าอยู่ในระดับพรีเมียม (ไม่มีข้อมูลราคาเฉพาะเจาะจงในผลการค้นหา แต่ระบุว่าเป็น "พรีเมียม" และ "ยอดขายทะลุเป้า คิวยาวทุกวัน")
• รีวิวผู้ใช้งาน: "เปิดตัวไม่ถึงเดือนกลายเป็นไวรัลบนโซเชียลหนักมาก ยอดขายทะลุเป้า คิวยาวทุกวัน"

10. Activia (แอคทีเวีย)

• เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์โยเกิร์ตระดับโลกที่รู้จักกันดีในเรื่องคุณประโยชน์ต่อระบบขับถ่าย ด้วยจุลินทรีย์ Bifidus ActiRegularis®
• สินค้ารุ่นหรือซีรีส์เด่น: มีทั้งรสธรรมชาติ, รสผลไม้ (เช่น สตรอว์เบอร์รี่), สูตรไขมัน 0%
• วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
  • ข้อดี: เน้นประโยชน์ด้านการขับถ่ายเป็นหลัก ด้วยจุลินทรีย์เฉพาะ. มีสูตรไขมัน 0% และน้ำตาลน้อย. หาซื้อง่ายตามซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านสะดวกซื้อ.
  • ข้อเสีย: บางคนอาจรู้สึกว่าเนื้อเหลวไปหน่อย. ปริมาณต่อถ้วยอาจน้อยกว่าแบรนด์อื่นในราคาเท่ากัน.
• เหมาะกับใคร: ผู้ที่มีปัญหาท้องผูกหรือต้องการปรับสมดุลระบบขับถ่ายเป็นประจำ ผู้ที่มองหาโยเกิร์ตแคลอรี่ต่ำ
• ช่องทางการซื้อ: Big C, Tops, 7-Eleven, Lotus's, Makro, Gourmet Market
• ช่วงราคา: ประมาณ 14 บาท (105g)
• รีวิวผู้ใช้งาน: "ข้างถ้วยเขียนว่าเป็นสูตร light&fitt เนื้อเหลวตักง่าย รสชาติดีและหวานมากๆ แต่น้ำตาลน้อย" "แอคทิเวีย ก็อร่อยใช้ได้ เนื้อโยเกิร์ตมีความหนืดกว่าทุกยี่ห้อ (ในความรู้สึกส่วนตัวนะครับ)"

คำถามที่พบบ่อย (FAQ) สไตล์คนไทย!

Q: โยเกิร์ตช่วยเรื่องการขับถ่ายได้จริงหรือ?
A: จริงครับ! โยเกิร์ตอุดมไปด้วยโพรไบโอติกส์ (Probiotics) ซึ่งเป็นจุลินทรีย์ดีที่มีชีวิตที่ช่วยปรับสมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้ ทำให้ระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่ายทำงานได้ดียิ่งขึ้น ลดอาการท้องผูกและท้องอืดได้

Q: กรีกโยเกิร์ตต่างจากโยเกิร์ตธรรมดาอย่างไร?
A: กรีกโยเกิร์ตผ่านกระบวนการกรองน้ำเวย์ออกไปมากกว่า ทำให้มีเนื้อสัมผัสที่เข้มข้น หนืดกว่าโยเกิร์ตทั่วไป มีโปรตีนสูงกว่า และมีน้ำตาลแลคโตสน้อยกว่า จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการโปรตีนสูง ควบคุมน้ำหนัก หรือแพ้แลคโตส

Q: ควรเลือกโยเกิร์ตรสธรรมชาติ หรือแบบมีรสชาติ/ผลไม้ดีกว่า?
A: หากเน้นสุขภาพเป็นหลัก โยเกิร์ตรสธรรมชาติที่ไม่เติมน้ำตาล จะดีที่สุดครับ เพราะจะได้รับประโยชน์เต็มที่และควบคุมปริมาณน้ำตาลได้ แต่ถ้ารสชาติธรรมชาติทานยาก สามารถเลือกแบบที่มีผลไม้แท้ หรือแบบที่ระบุว่า "น้ำตาลน้อย" หรือ "ไม่เติมน้ำตาลทราย" ได้ครับ

Q: ซื้อโยเกิร์ตออนไลน์เชื่อถือได้ไหม?
A: โดยส่วนใหญ่ร้านค้าที่เป็น Official Store หรือร้านค้าที่มีเรตติ้งดีๆ บนแพลตฟอร์มอย่าง Lazada หรือ Shopee ค่อนข้างเชื่อถือได้ครับ แต่ควรตรวจสอบรีวิวจากผู้ซื้อคนอื่น และเปรียบเทียบราคาก่อนตัดสินใจซื้อเสมอ เพื่อให้ได้สินค้าที่คุณภาพดีและราคาที่เหมาะสม

Q: โยเกิร์ตจากพืชเหมาะกับใคร?
A: โยเกิร์ตจากพืช (เช่น ซอยเกิร์ตจากนมถั่วเหลือง) เหมาะสำหรับผู้ที่แพ้แลคโตสในนมวัว ผู้ที่เป็นมังสวิรัติหรือวีแกน และผู้ที่ต้องการลดคอเลสเตอรอล เนื่องจากมักไม่มีคอเลสเตอรอลและมีไขมันดี

สรุปและคำแนะนำ (Summary & Suggestion)

เห็นไหมครับว่าโยเกิร์ตมีตัวเลือกหลากหลายมาก และแต่ละประเภทก็มีคุณประโยชน์ที่แตกต่างกันไป การจะเลือกรุ่นที่ใช่ ก็ต้องเริ่มจากถามตัวเองก่อนว่า เราจะเอาไปทำอะไร? งบประมาณเท่าไหร่? และเน้นฟังก์ชันอะไรเป็นพิเศษ?

• ถ้า เน้นช่วยเรื่องขับถ่ายเป็นหลักและหาซื้อง่าย แนะนำ Meiji Bulgaria หรือ Dutchie Bio ครับ
• ถ้าเป็น สายสุขภาพ เน้นโปรตีนสูง น้ำตาลน้อย และต้องการความเข้มข้น ต้อง Dairy Home Greek Yogurt หรือ Farmers Union Greek Style เลยครับ
• ถ้า แพ้นมวัว หรือเป็นสาย Plant-based ต้องลอง Rivon Soygurt ครับ
• ถ้าชอบ โยเกิร์ตปั่นสดใหม่ ปรับความหวานได้ และมีท็อปปิ้งสนุกๆ ต้องไปที่ร้าน Yoguruto ครับ
• ถ้า ตามเทรนด์ ชอบของพรีเมียม และอยากลองประสบการณ์ใหม่ๆ จากเกาหลี ลองมองหา YogurBara ดูครับ

สิ่งสำคัญอีกอย่างคือ อย่าลืมตรวจสอบวันหมดอายุบนฉลากเสมอ และหากซื้อโยเกิร์ตแบบมีรสชาติหรือผสมผลไม้ ควรดูปริมาณน้ำตาลที่ระบุบนฉลากด้วยนะครับ เพื่อให้ได้รับประโยชน์สูงสุดโดยไม่ได้รับน้ำตาลมากเกินไป ที่สำคัญ! ในช่วงเทศกาลหรือโปรโมชั่นใหญ่ๆ บนแพลตฟอร์มออนไลน์และซูเปอร์มาร์เก็ต มักจะมีดีลเด็ดๆ ออกมาให้ช้อปกันแบบจัดเต็ม อย่าพลาดเชียวล่ะ! 😉

มาเมาท์มอยกันหน่อย! แชร์ประสบการณ์หน่อยจ้า!

เพื่อนๆ คนไหนกำลังทานโยเกิร์ตยี่ห้อไหนอยู่บ้าง? เป็นยังไง เล่าสู่กันฟังหน่อยสิครับ! ชอบตรงไหน ไม่ชอบตรงไหน หรือมีรุ่นไหนอยากแนะนำเพิ่มเติม คอมเมนต์มาคุยกันได้เลยนะ! 👇

ถ้าใครถูกใจบทความนี้ อยากให้กำลังใจ หรืออยากได้พิกัดร้าน/ลิงก์โปรโมชั่นดีๆ รบกวนพิมพ์คำว่า "จัดลิงก์มาเลย!" เดี๋ยวผมรวบรวมให้เป็นพิเศษเลยจ้าาา! แล้วเจอกันใหม่บทความหน้า สวัสดีครับ! 👋

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• (เช็คสูตร) รีวิวโยเกิร์ตทุกยี่ห้อ ยี่ห้อไหนกินลดน้ำหนัก แก้ท้องผูก ...
• พาเช็คโยเกิร์ตใน 7-11 ที่ดีที่สุด
• รีวิวกรีกโยเกิร์ตที่กำลังเป็นที่นิยมในตลาด
• กระแสกรีกโยเกิร์ตกำลังมา วันนี้แม่หยิบมารีวิวให้ดูกัน 7 ยี่ห้อ สายเฮลตี ...
• รีวิวกรีกโยเกิร์ต 3 ยี่ห้อที่น่าสนใจ