logo

รีวิว Sony HT-MT300 ซาวด์บาร์ขนาดกะทัดรัด เสียงดีเกินตัวจริงไหม น่าใช้ไหม

user avatar
ณิชากร เทพวงศ์·07/21/2025T05:39Z
点赞
รีวิว Sony HT-MT300 ซาวด์บาร์ขนาดกะทัดรัด เสียงดีเกินตัวจริงไหม น่าใช้ไหม

เบื่อไหมกับเสียงทีวีที่แสนจะ "แบนราบ" ไร้มิติ? อยากได้ซาวด์บาร์มาช่วยเติมเต็มอรรถรสในการดูหนัง ฟังเพลง แต่ก็กลัวจะกินพื้นที่ห้อง หรือติดตั้งยุ่งยาก? ถ้าคำถามเหล่านี้วนเวียนอยู่ในหัวของคุณ วันนี้เราจะพาไปเจาะลึก Sony HT-MT300 ซาวด์บาร์ขนาดกะทัดรัด ที่มาพร้อมซับวูฟเฟอร์ไร้สายตัวจิ๋วแต่แจ๋ว รุ่นนี้จะเสียงดีเกินตัวจริงไหม น่าใช้แค่ไหน เรามีคำตอบมาให้ในรีวิวฉบับเต็ม!


1. ภาพรวมผลิตภัณฑ์: รู้จัก Sony HT-MT300 กันก่อน

แบรนด์: Sony
รุ่น: HT-MT300
ปีที่วางจำหน่าย: เริ่มจำหน่ายประมาณเดือนมีนาคม 2017
ช่วงราคาขาย: ราคาเปิดตัวอยู่ที่ประมาณ $300-$350 USD (ประมาณ 10,000 - 12,000 บาท) แต่ปัจจุบันอาจหาซื้อได้ในราคาที่ถูกลงมาก เนื่องจากเป็นรุ่นที่ออกมาสักพักแล้ว

การวางตำแหน่งสินค้า: Sony HT-MT300 ถูกวางตำแหน่งให้เป็นซาวด์บาร์ระดับเริ่มต้นที่เน้นความกะทัดรัด เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการอัปเกรดคุณภาพเสียงจากลำโพงทีวีแบบง่ายๆ โดยไม่ต้องการระบบที่ซับซ้อน หรือมีพื้นที่จำกัด

สรุปจุดเด่นหลัก:

  • ดีไซน์กะทัดรัด: ซาวด์บาร์มีขนาดเล็ก ซับวูฟเฟอร์ไร้สายดีไซน์บางเฉียบ สามารถวางซ่อนใต้โซฟาได้
  • คุณภาพเสียงดีเกินตัว: ให้เสียงที่คมชัด โดยเฉพาะเสียงกลางและเสียงสูง พร้อมเบสที่กระหึ่ม หนักแน่น จากซับวูฟเฟอร์ไร้สาย
  • ใช้งานง่าย ติดตั้งไม่ยุ่งยาก: เชื่อมต่อกับทีวีผ่านสาย Optical ที่มีมาให้ในกล่อง และซับวูฟเฟอร์เชื่อมต่อไร้สาย
  • ฟีเจอร์เพิ่มคุณภาพเสียง: มีโหมด "Voice Up" เพื่อเพิ่มความคมชัดของบทสนทนา และ "Night Mode" สำหรับการรับชมตอนกลางคืน
  • การเชื่อมต่อหลากหลาย: รองรับ Bluetooth พร้อม NFC สำหรับสตรีมเพลงจากสมาร์ทโฟน และมีช่อง USB สำหรับเล่นเพลง

2. ดีไซน์ & รูปลักษณ์ภายนอก: เล็กกระทัดรัด แต่ดูพรีเมียม

สิ่งแรกที่สัมผัสได้เมื่อเห็น Sony HT-MT300 คือความเล็กกะทัดรัดของตัวซาวด์บาร์ และความบางของซับวูฟเฟอร์ไร้สาย ตัวซาวด์บาร์มีขนาดเพียง 50 ซม. (กว้าง) x 5.4 ซม. (สูง) x 10.3 ซม. (ลึก) ทำให้สามารถวางได้ง่าย ไม่บดบังหน้าจอทีวี หรือจัดวางในพื้นที่จำกัดได้อย่างลงตัว ส่วนซับวูฟเฟอร์ขนาด 9.3 ซม. (กว้าง) x 38.3 ซม. (สูง) x 36.8 ซม. (ลึก) ถูกออกแบบมาให้สามารถวางได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอน และมี "Sofa Mode" ที่ช่วยให้สามารถสอดเก็บใต้โซฟาได้อย่างแนบเนียน เพิ่มความยืดหยุ่นในการจัดวางได้อย่างยอดเยี่ยม

ในด้านวัสดุ ตัวซาวด์บาร์มาพร้อมพื้นผิวสีดำด้าน หรือสีครีมที่ดูคล้ายหนัง (leather-like surface) ให้สัมผัสที่ดูดีมีราคา ส่วนซับวูฟเฟอร์มีการผสมผสานระหว่างสีดำด้านและ Trim สี Piano Black ทำให้ภาพรวมของดีไซน์ดูเรียบหรูและกลมกลืนกับการตกแต่งบ้านได้หลากหลายสไตล์ อย่างไรก็ตาม ซาวด์บาร์รุ่นนี้ไม่รองรับการติดตั้งบนผนัง

อุปกรณ์เสริมในกล่อง: ในกล่องจะมาพร้อมกับสาย Optical สำหรับเชื่อมต่อทีวี, รีโมตคอนโทรลขนาดกะทัดรัดพร้อมแบตเตอรี่ และคู่มือการใช้งาน ทำให้พร้อมใช้งานได้ทันที


3. ประสบการณ์ในการใช้งานฟังก์ชันหลัก: เสียงดีมีคุณภาพเกินตัว

แม้จะมีขนาดเล็ก แต่ Sony HT-MT300 ก็ให้คุณภาพเสียงที่น่าประทับใจเมื่อเทียบกับขนาดและราคา สิ่งที่โดดเด่นที่สุดคือการอัปเกรดคุณภาพเสียงจากลำโพงทีวีเดิมๆ ที่มักจะให้เสียงที่ "แบน" ให้กลายเป็นเสียงที่มีมิติและรายละเอียดที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน

สำหรับการรับชมภาพยนตร์ HT-MT300 ทำได้ดีในระดับที่น่าพอใจ เสียงกลางและเสียงสูงมีความคมชัด ทำให้บทสนทนาและเสียงเอฟเฟกต์ต่างๆ ในหนังมีความชัดเจน โดยเฉพาะฟีเจอร์ "Voice Up" ที่ช่วยเพิ่มความคมชัดของเสียงพูด ทำให้คุณไม่พลาดทุกบทสนทนาแม้จะเป็นฉากที่เสียงเบาหรือกระซิบ ส่วนซับวูฟเฟอร์ไร้สายนั้นให้เสียงเบสที่หนักแน่นและกระหึ่ม สร้างประสบการณ์การรับชมที่ดื่มด่ำยิ่งขึ้นในฉากแอคชั่นหรือระเบิดต่างๆ และสามารถปรับระดับเสียงเบสได้ผ่านรีโมตคอนโทรล "Sofa Mode" ก็ช่วยเพิ่มการสั่นสะเทือนของเบสเมื่อวางซับวูฟเฟอร์ไว้ใต้โซฟา ทำให้คุณ "รู้สึก" ได้ถึงแรงปะทะของเสียงเบส

ในด้านการฟังเพลง HT-MT300 ก็ให้เสียงที่ดี มีความสมดุล และเสียงร้องมีความชัดเจน การสตรีมเพลงผ่าน Bluetooth ทำได้ง่ายและให้คุณภาพเสียงที่ดีตามระดับราคา มีโหมดเสียงสำหรับเพลง (Music Mode) และ ClearAudio+ ที่ช่วยปรับแต่งเสียงให้เหมาะสม

อย่างไรก็ตาม ด้วยขนาดที่กะทัดรัด ทำให้ HT-MT300 มีข้อจำกัดเรื่อง "เวทีเสียง (Soundstage)" ที่ค่อนข้างแคบ และเทคโนโลยี "S-Force PRO Front Surround Sound" ที่ Sony เคลมว่าเป็นระบบเสียงรอบทิศทางเสมือนจริงนั้น ยังถือเป็นเพียงลูกเล่น (gimmick) และไม่สามารถทดแทนระบบเสียงรอบทิศทาง 5.1 แท้ๆ ได้ ดังนั้นจึงเหมาะกับการใช้งานแบบสเตอริโอ 2.1 แชนเนลมากกว่า และไม่รองรับระบบเสียงขั้นสูงอย่าง Dolby Atmos หรือ DTS:X


4. ประสบการณ์การใช้งาน & ความง่ายในการใช้

หนึ่งในจุดแข็งของ Sony HT-MT300 คือความง่ายในการใช้งานและการติดตั้ง การเชื่อมต่อกับทีวีทำได้ง่ายดายผ่านสาย Optical ที่แถมมาให้ในกล่อง (ส่วนใหญ่ทีวีจะมีช่องนี้) เพียงเสียบสาย, เสียบปลั๊กไฟให้ซาวด์บาร์และซับวูฟเฟอร์ไร้สาย และกดปุ่ม Sync เพื่อจับคู่ ซาวด์บาร์ก็พร้อมใช้งานได้ทันที

รีโมตคอนโทรลที่ให้มานั้นถูกออกแบบมาอย่างเรียบง่าย มีปุ่มควบคุมที่จำเป็นเท่านั้น ทำให้เข้าใจและใช้งานได้ไม่ยาก นอกจากนี้ ยังมีปุ่มควบคุมแบบสัมผัสอยู่ด้านบนของตัวซาวด์บาร์สำหรับควบคุมพื้นฐาน เช่น เพิ่ม/ลดเสียง, เลือกแหล่งสัญญาณ, หรือเปิด/ปิด Bluetooth การเชื่อมต่อไร้สายผ่าน Bluetooth และ NFC ก็ทำได้สะดวกรวดเร็ว เพียงแตะสมาร์ทโฟน Android ที่รองรับ NFC บนตัวซาวด์บาร์ก็สามารถจับคู่และสตรีมเพลงได้ทันที

ข้อสังเกตเล็กน้อยคือ ไม่มีหน้าจอแสดงผลระดับเสียงแบบตัวเลข มีเพียงไฟ LED แสดงสถานะเท่านั้น ซึ่งอาจทำให้ยากต่อการทราบระดับเสียงที่แน่นอน นอกจากนี้ยังไม่มีช่องเชื่อมต่อ HDMI ARC ซึ่งหมายความว่าคุณอาจจะต้องใช้รีโมตของซาวด์บาร์แยกต่างหากเพื่อควบคุมเสียง ไม่สามารถใช้รีโมตทีวีเพียงตัวเดียวควบคุมได้ทั้งหมด


5. แบตเตอรี่ / พลังงาน / ความคุ้มค่าในระยะยาว

เนื่องจาก Sony HT-MT300 เป็นซาวด์บาร์ที่ต้องเสียบปลั๊กไฟตลอดเวลา (ทั้งซาวด์บาร์และซับวูฟเฟอร์) จึงไม่ต้องกังวลเรื่องแบตเตอรี่ ในด้านการใช้พลังงาน ซาวด์บาร์ใช้ไฟประมาณ 25W และซับวูฟเฟอร์ 20W ในโหมดสแตนด์บายใช้พลังงานเพียง 0.5W ซึ่งถือว่าประหยัดพลังงานในระดับหนึ่ง

เมื่อพิจารณาถึงความคุ้มค่าในระยะยาว Sony HT-MT300 เป็นการลงทุนที่ค่อนข้างคุ้มค่าสำหรับผู้ที่ต้องการอัปเกรดเสียงทีวีให้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ด้วยราคาที่เข้าถึงได้ง่าย โดยเฉพาะเมื่อมีโปรโมชั่นหรือเป็นสินค้ามือสอง ตัวเครื่องมีความแข็งแรงทนทานตามมาตรฐาน Sony การบำรุงรักษามีเพียงการปัดฝุ่นทำความสะอาดทั่วไป ไม่ต้องเปลี่ยนอะไหล่สิ้นเปลืองมากนัก


6. ข้อดี-ข้อเสีย

ข้อดี:

  • ดีไซน์กะทัดรัดและสวยงาม: ประหยัดพื้นที่ วางได้แนบเนียนกับทุกการตกแต่ง
  • ซับวูฟเฟอร์ไร้สายพร้อม "Sofa Mode": จัดวางได้อิสระ ให้เบสที่กระหึ่มเกินตัว
  • คุณภาพเสียงดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด: เหนือกว่าลำโพงทีวีอย่างมาก ทั้งสำหรับหนังและเพลง
  • เสียงสนทนาคมชัด: ด้วยฟีเจอร์ Voice Up ที่ช่วยให้ได้ยินบทพูดชัดเจน
  • ติดตั้งและใช้งานง่าย: ไม่ยุ่งยาก แม้เป็นมือใหม่ก็ทำได้เอง
  • การเชื่อมต่อครบครัน (สำหรับพื้นฐาน): Bluetooth, NFC, Optical, USB

ข้อเสีย:

  • เวทีเสียงแคบ: ด้วยขนาดที่เล็ก ทำให้มิติเสียงแยกซ้ายขวาได้ไม่กว้างนัก
  • ระบบเสียงเซอร์ราวด์เสมือนไม่สมจริง: S-Force PRO Front Surround เป็นเพียงลูกเล่น ไม่ใช่เสียงรอบทิศทางแท้จริง
  • ไม่มี HDMI ARC: ทำให้ต้องใช้รีโมตแยกสำหรับซาวด์บาร์
  • ไม่รองรับ Wi-Fi หรือ Chromecast: ไม่มีฟังก์ชันการสตรีมเพลงผ่านเครือข่าย
  • ไม่มีหน้าจอแสดงระดับเสียง: อาจทำให้กะระดับเสียงได้ยาก
  • ไม่เหมาะกับห้องขนาดใหญ่: อาจให้เสียงที่ไม่เต็มอิ่มสำหรับห้องที่กว้างมาก

7. เหมาะกับใคร & คำแนะนำในการซื้อ

Sony HT-MT300 เหมาะกับ:

  • ผู้ที่อาศัยอยู่ในห้องขนาดเล็กหรือคอนโด: ด้วยดีไซน์ที่กะทัดรัดและซับวูฟเฟอร์ที่ซ่อนได้ง่าย ทำให้ไม่กินพื้นที่
  • ผู้ที่ต้องการอัปเกรดเสียงทีวีแบบง่ายๆ: เน้นความสะดวกในการติดตั้งและใช้งาน ไม่ต้องการระบบที่ซับซ้อน
  • ผู้ที่เน้นการดูหนัง ฟังเพลงทั่วไป: ให้เสียงที่ดีเกินคาดสำหรับคอนเทนต์ในชีวิตประจำวัน
  • ผู้ที่ต้องการเบสหนักแน่นในขนาดที่ไม่ใหญ่: ซับวูฟเฟอร์ให้เสียงเบสที่ทรงพลัง แม้ตัวเครื่องจะเล็ก

ควรซื้อเลยไหม?

ถ้าคุณกำลังมองหาซาวด์บาร์ที่ให้คุณภาพเสียงดีขึ้นกว่าลำโพงทีวีเดิมอย่างชัดเจน ใช้งานง่าย ไม่ต้องยุ่งยากกับการติดตั้ง และมีพื้นที่จำกัด Sony HT-MT300 เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจและคุ้มค่าอย่างยิ่ง โดยเฉพาะถ้าคุณสามารถหาซื้อได้ในราคาที่ลดลงจากราคาเปิดตัวมากๆ อย่างไรก็ตาม หากคุณเป็นสายออดิโอไฟล์ หรือต้องการระบบเสียงเซอร์ราวด์แท้ๆ พร้อมฟังก์ชันเชื่อมต่อที่ครบครัน (เช่น HDMI ARC, Wi-Fi, Dolby Atmos) รุ่นนี้อาจไม่ตอบโจทย์ และควรพิจารณารุ่นที่สูงกว่าหรือแบรนด์อื่นที่เน้นฟังก์ชันเหล่านั้น


8. เปรียบเทียบกับสินค้าคล้ายๆ กัน (เลือกใส่ก็ได้)

ในตลาดซาวด์บาร์ระดับเริ่มต้นที่มีขนาดกะทัดรัด Sony HT-MT300 มีคู่แข่งอยู่บ้าง เช่น Q Acoustics M3 หรือ Samsung HW-MS650 ซึ่งอาจให้เวทีเสียงที่กว้างกว่าเล็กน้อย แต่ในแง่ของความกะทัดรัดของซับวูฟเฟอร์และการซ่อนใต้โซฟา Sony HT-MT300 ถือเป็นจุดเด่นเฉพาะตัว

หากเทียบกับซาวด์บาร์ Sony ในตระกูล HT-CT ซีรีส์ เช่น HT-CT390 ที่มีกำลังขับสูงกว่า (300W) รุ่น CT จะมีขนาดใหญ่กว่า เน้นกำลังขับที่มากขึ้น ส่วน MT300 จะเน้นความมินิมอลและขนาดที่เล็กกว่า โดยมีกำลังขับรวม 100W ถ้าคุณต้องการฟีเจอร์เพิ่มเติมอย่าง Wi-Fi หรือรองรับ Hi-Res Audio คุณอาจต้องมองไปที่รุ่นพี่อย่าง Sony HT-MT500


9. บริการหลังการขายและช่องทางการซื้อ

Sony HT-MT300 มาพร้อมการรับประกันมาตรฐาน 1 ปีจากผู้จัดจำหน่ายในประเทศไทย ซึ่งคุณสามารถนำเครื่องเข้าศูนย์บริการของ Sony ได้หากเกิดปัญหา การบริการลูกค้าและการเคลมสินค้าของ Sony โดยทั่วไปถือว่าได้มาตรฐานและมีเครือข่ายศูนย์บริการที่เข้าถึงได้ง่าย

ปัจจุบัน Sony HT-MT300 อาจไม่ได้วางจำหน่ายเป็นสินค้าใหม่ในร้านค้าใหญ่ๆ มากนัก เนื่องจากเป็นรุ่นที่ออกมาหลายปีแล้ว แต่คุณยังคงสามารถหาซื้อได้จากช่องทางออนไลน์ยอดนิยม เช่น Lazada, Shopee หรือร้านค้าที่จำหน่ายสินค้าอิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ บ่อยครั้งจะมีการจัดโปรโมชั่นลดราคาพิเศษ หรือการจำหน่ายในสถานะสินค้า "เปิดกล่อง" (Open Box) หรือ "มือสอง" ในราคาที่น่าสนใจมากๆ ซึ่งอาจมาพร้อมโค้ดส่วนลด หรือสิทธิประโยชน์อื่นๆ เช่น ผ่อนชำระ 0% หรือบริการจัดส่งฟรี ควรตรวจสอบเงื่อนไขการรับประกันและสภาพสินค้าให้ละเอียดก่อนตัดสินใจซื้อจากแหล่งเหล่านี้


10. บทสรุปและคำแนะนำในการซื้อ

จากภาพรวมทั้งหมด Sony HT-MT300 เป็นซาวด์บาร์ที่ "น่าซื้อ" สำหรับกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน

แนะนำให้ซื้อ: หากคุณเป็นผู้ที่กำลังมองหาการอัปเกรดเสียงทีวีในห้องขนาดเล็กหรือคอนโด ด้วยงบประมาณที่จำกัด และต้องการซาวด์บาร์ที่ใช้งานง่าย ติดตั้งสะดวก มีดีไซน์มินิมอลไม่เกะกะสายตา พร้อมด้วยเสียงเบสที่หนักแน่นพอตัวสำหรับดูหนังฟังเพลงทั่วไป รุ่นนี้จะไม่ทำให้คุณผิดหวัง และให้ประสบการณ์เสียงที่ดีขึ้นกว่าลำโพงทีวีแบบ "หน้ามือเป็นหลังมือ" อย่างแน่นอน

ไม่แนะนำสำหรับ: ผู้ที่คาดหวังระบบเสียงรอบทิศทางแท้จริง, Audiophile ที่ต้องการรายละเอียดเสียงขั้นสุด, หรือผู้ที่ต้องการฟังก์ชันเชื่อมต่อที่ครบครันอย่าง HDMI ARC, Wi-Fi หรือการรองรับ Dolby Atmos/DTS:X คุณอาจจะต้องพิจารณาซาวด์บาร์ในระดับราคาที่สูงขึ้นกว่านี้

โดยสรุปแล้ว Sony HT-MT300 คือซาวด์บาร์ที่ "เสียงดีเกินตัวจริง" และ "น่าใช้" มากๆ สำหรับผู้ที่มองหาความเรียบง่ายแต่ได้คุณภาพเสียงที่แตกต่างไปจากเดิม

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

บทความล่าสุดดูเพิ่มเติม

กำลังมองหาที่พักในเชียงใหม่ที่เดินทางสะดวกสบาย อยู่ใจกลางเมืองเก่า และราคาดีอยู่ใช่ไหม? โรงแรมรอยัล พรรณราย เชียงใหม่ อาจเป็นคำตอบที่คุณตามหา! ในบทความนี้ เราจะพาคุณเจาะลึกทุกซอกทุกมุมของโรงแรมแห่งนี้ ตั้งแต่ห้องพัก สิ่งอำนวยความสะดวก ไปจนถ
รีวิวโรงแรม รอยัล พรรณราย เชียงใหม่ ที่พักใจกลางเมืองเก่า เดินทางสะดวก
กำลังมองหาทีวีใหม่ที่ให้ภาพสวยคมชัด เสียงกระหึ่มเหมือนโรงหนัง แต่ราคาไม่แรงเกินไปอยู่ใช่ไหม? วันนี้เราจะพาทุกคนไปเจาะลึก LG 55SK8000PTA ทีวี 4K Super UHD ที่มาพร้อมเทคโนโลยี Nano Cell Display อันเป็นเอกลักษณ์ของ LG ที่เคยสร้างความฮือฮาเมื่อ
รีวิวทีวี LG 55SK8000PTA Nano Cell Display 4K ภาพสวยเสียงดี คุ้มค่ามั้ย
เบื่อไหมกับใต้ตาคล้ำเป็นหมีแพนด้า? นอนดึกตาบวมจนเพื่อนทัก? ถ้าคุณกำลังมองหาตัวช่วยกอบกู้ใต้ตาให้กลับมาสดใส มีชีวิตชีวาอีกครั้ง บทความนี้มีคำตอบ! วันนี้เราจะพามารีวิวเจาะลึก Origins Ginzing Eye Cream อายครีมตัวดังที่ใครๆ ก็พูดถึง ว่าจะช่วยลด
รีวิว Origins Ginzing Eye Cream อายครีมลดบวมและความหมองคล้ำรอบดวงตา

บทความที่แนะนำ