รีวิวสร้างบ้านด้วยตัวเองทุกขั้นตอน ตั้งแต่เริ่มต้นจนสร้างเสร็จ งบเท่าไหร่


สร้างบ้านเอง งบเท่าไหร่? รีวิวทุกขั้นตอนตั้งแต่เริ่มต้นจนจบ ครบจบในที่เดียว!
ความฝันของใครหลายคนคือการมีบ้านเป็นของตัวเอง แต่การ "สร้างบ้านเอง" ไม่ใช่แค่การจ้างช่างแล้วจบไป บทความนี้จะพาคุณเจาะลึกทุกแง่มุมของการสร้างบ้านด้วยตัวเอง ตั้งแต่งบประมาณที่ต้องเตรียม ขั้นตอนที่ต้องเจอ ไปจนถึงข้อดีข้อเสียที่คุณควรรู้ เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ และสร้างบ้านในฝันให้เป็นจริงได้โดยไม่บานปลาย!
1. ภาพรวมการสร้างบ้านด้วยตัวเอง: เข้าใจกระบวนการ "บ้านในฝัน" ของคุณ
การสร้างบ้านด้วยตัวเองในที่นี้ไม่ได้หมายถึงการก่ออิฐฉาบปูนทุกขั้นตอนด้วยสองมือคุณเอง แต่เป็นการที่คุณเป็น "เจ้าของโครงการ" ที่ควบคุมทุกอย่างตั้งแต่เริ่มต้น โดยอาจเป็นการจ้างผู้รับเหมาช่วง หรือประสานงานกับช่างและจัดซื้อวัสดุเอง ซึ่งได้รับความนิยมมากขึ้นสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมคุณภาพ, งบประมาณ, และรายละเอียดการออกแบบให้ได้บ้านตรงใจ 100%.
ประเภทของการสร้างบ้านเอง (การเป็นเจ้าของโครงการ):
- จ้างผู้รับเหมาช่วง/รายย่อย: คุณว่าจ้างสถาปนิกและวิศวกรเพื่อออกแบบ จากนั้นนำแบบไปให้ผู้รับเหมาหลายรายเสนอราคาและเลือกจ้างเป็นส่วนๆ หรือเหมาค่าแรง.
- บริหารจัดการเองทั้งหมด: คุณเป็นผู้ประสานงาน จัดซื้อวัสดุ และควบคุมการก่อสร้างด้วยตัวเอง (เหมาะสำหรับผู้ที่มีความรู้และเวลา).
ช่วงงบประมาณโดยประมาณ:
งบประมาณในการสร้างบ้านเองนั้นหลากหลายมาก ขึ้นอยู่กับขนาด รูปแบบ วัสดุ และทำเลที่ตั้ง.
โดยทั่วไป ค่าก่อสร้างจะอยู่ที่ประมาณ 11,000 – 25,000 บาทต่อตารางเมตร แต่บางกรณีก็สามารถสร้างได้ในงบที่ต่ำกว่านั้นมาก เช่น 300,000 - 700,000 บาทสำหรับบ้านขนาดเล็ก.
"ตำแหน่ง" ในตลาด:
การสร้างบ้านเองเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการ ความเป็นส่วนตัว, อิสระในการออกแบบ, และควบคุมคุณภาพ-งบประมาณได้สูงสุด เมื่อเทียบกับการซื้อบ้านจัดสรร.
จุดเด่นหลักของการสร้างบ้านเอง:
- ออกแบบได้ตรงใจ 100%: เลือกแบบบ้าน ฟังก์ชันการใช้งาน และวัสดุได้ตามความต้องการอย่างแท้จริง.
- ควบคุมงบประมาณได้ดีกว่า: สามารถเลือกวัสดุและเปรียบเทียบราคาได้ด้วยตัวเอง ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายบางส่วน.
- เลือกทำเลที่ต้องการได้: สร้างบนที่ดินของตัวเอง ไม่ต้องเสียค่าส่วนกลาง.
- ควบคุมคุณภาพงานก่อสร้าง: ตรวจสอบและดูแลงานได้ใกล้ชิดตั้งแต่โครงสร้างจนถึงงานสถาปัตย์.
- สร้างความภาคภูมิใจ: การได้เห็นบ้านที่สร้างขึ้นจากความตั้งใจของตัวเองเป็นความรู้สึกที่ยิ่งใหญ่.
2. การออกแบบและวางแผน: รากฐานของบ้านในฝัน
ขั้นตอนนี้คือการแปลงความฝันให้เป็นรูปธรรมบนกระดาษ และวางแผนสิ่งที่สำคัญที่สุดก่อนลงมือก่อสร้างจริง การออกแบบที่ดีจะช่วยลดปัญหาระหว่างก่อสร้างและลดงบบานปลาย.
การออกแบบ: บ้านของคุณจะเริ่มต้นจากการ ออกแบบร่วมกับสถาปนิก เพื่อให้ได้แบบแปลนที่ตรงตามความต้องการ ขนาดพื้นที่ใช้สอย จำนวนห้อง ฟังก์ชันการใช้งาน รวมถึงทิศทางของแสงแดดและลม เพื่อบ้านที่เย็นสบายและประหยัดพลังงาน. ค่าออกแบบจะขึ้นอยู่กับขนาดของบ้าน โดยปกติอยู่ที่ประมาณ 50,000 - 200,000 บาท.
วัสดุที่ใช้: คุณจะได้ เลือกวัสดุก่อสร้างเอง ตั้งแต่โครงสร้าง (เช่น เหล็ก, ปูน), วัสดุผนัง (อิฐมอญ, อิฐมวลเบา), วัสดุมุงหลังคา, ประตู, หน้าต่าง, สุขภัณฑ์, และวัสดุตกแต่งภายในอื่นๆ. การเลือกวัสดุที่มีคุณภาพตั้งแต่ต้นจะช่วยลดค่าบำรุงรักษาในระยะยาว.
ขนาดและน้ำหนัก (ของโครงการ): โครงการสร้างบ้านเองมีขนาดตั้งแต่บ้านหลังเล็กๆ (เช่น 39 ตร.ม.) ไปจนถึงบ้านขนาดใหญ่ ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่องบประมาณและระยะเวลา.
สิ่งที่คุณต้องมีในขั้นตอนนี้:
- ที่ดินพร้อมก่อสร้าง: ต้องมั่นใจว่าที่ดินอยู่ในพื้นที่ที่สามารถสร้างที่อยู่อาศัยได้ และมีการถมดินเตรียมพร้อมหากจำเป็น.
- แบบบ้าน: ได้แก่ แบบสถาปัตยกรรม แบบโครงสร้าง แบบไฟฟ้าสุขาภิบาล ที่ได้รับการรับรองจากวิศวกรและสถาปนิก.
- งบประมาณเริ่มต้น: วางแผนงบประมาณสำหรับค่าออกแบบ ค่าขออนุญาต และค่าวัสดุบางส่วน.
3. ประสบการณ์การดำเนินงานหลักในการสร้างบ้าน: จากแบบแปลนสู่โครงสร้าง
เมื่อมีแบบแปลนและงบประมาณพร้อม ก็เข้าสู่ขั้นตอนการลงมือก่อสร้างจริง ซึ่งเป็นส่วนที่ใช้เงินและเวลามากที่สุด.
ขั้นตอนหลักที่ต้องดำเนินการ:
- งานขออนุญาต: ยื่นเอกสารขออนุญาตก่อสร้างกับหน่วยงานท้องถิ่น.
- งานปรับพื้นที่และลงเสาเข็ม/ฐานราก: เตรียมพื้นที่และวางโครงสร้างฐานรากของบ้าน.
- งานโครงสร้าง: หล่อเสา คาน พื้น และโครงหลังคา.
- งานผนัง: ก่ออิฐและฉาบผนัง.
- งานระบบ: ติดตั้งระบบไฟฟ้า ประปา สุขาภิบาล และระบบปรับอากาศ.
- งานหลังคา: มุงหลังคา.
- งานตกแต่งภายในและภายนอก: ปูกระเบื้อง, ติดตั้งฝ้าเพดาน, ทาสี, ติดตั้งประตูหน้าต่าง, และงานตกแต่งอื่นๆ.
ตัวอย่างสถานการณ์จริงและข้อมูลประกอบ: การควบคุมงานด้วยตัวเองช่วยให้คุณสามารถ ตรวจสอบคุณภาพวัสดุและการทำงานของช่างได้อย่างละเอียด. เช่น หากพบว่าการติดตั้งไม่ได้มาตรฐาน หรือวัสดุไม่ตรงตามสเปกที่ตกลงไว้ ก็สามารถแจ้งแก้ไขได้ทันที. ผู้ที่สร้างบ้านเองบางรายเลือกที่จะลงมือทำบางส่วนด้วยตัวเอง เช่น การปูหลังคาหรือติดตั้งประตู เพื่อประหยัดงบประมาณ.
4. ประสบการณ์และแนวทางการจัดการโครงการ: เหนื่อยแต่คุ้มค่า
การสร้างบ้านเองนั้นต้องใช้พลังงานและเวลามาก แต่ก็เป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำ.
ใช้ง่ายไหม? ต้องเรียนรู้อะไรเยอะไหม?: การสร้างบ้านเอง ไม่ได้ใช้ง่ายสำหรับทุกคน เพราะต้องใช้ความรู้ความเข้าใจในงานก่อสร้างพอสมควร. คุณจะต้องเรียนรู้เรื่องการอ่านแบบแปลน, ประเภทวัสดุ, ขั้นตอนการทำงาน, และการประสานงานกับหลายฝ่าย. หากไม่มีความรู้เลย อาจมีความเสี่ยงถูกโกงสเปกวัสดุ หรือผู้รับเหมาทิ้งงานได้.
ระบบซอฟต์แวร์ลื่นไหม เป็นมิตรกับผู้ใช้หรือเปล่า: ในที่นี้คือ "ระบบการจัดการ" ของคุณเอง คุณจะต้องจัดระบบการเก็บเอกสาร, บันทึกค่าใช้จ่าย, ตารางการทำงาน, และการสื่อสารกับช่างหรือผู้รับเหมา หากมีแอปพลิเคชันหรือโปรแกรมช่วยจัดการโครงการก่อสร้าง ก็จะช่วยให้การติดตามงานง่ายขึ้น.
เสียงดังไหม ร้อนเร็วไหม สบายเวลาถือ/สวมใส่หรือไม่: ในระหว่างการก่อสร้าง แน่นอนว่าจะเกิดเสียงดังและมีฝุ่น. ส่วน "สบายเวลาถือ/สวมใส่" นั้นหมายถึง ความสบายใจในการเป็นผู้ควบคุม ซึ่งอาจเต็มไปด้วยความเครียดหากขาดการวางแผนที่ดี หรือขาดผู้ช่วยที่มีความรู้.
รองรับภาษาไทยไหม ใช้กับแอปในไทยได้หรือเปล่า: การสื่อสารกับช่างและคนงานส่วนใหญ่จะเป็นภาษาไทย ดังนั้น ทักษะการสื่อสารที่ดีเป็นสิ่งสำคัญ. การหาข้อมูลจากกลุ่มหรือฟอรัมสร้างบ้านในไทยก็มีประโยชน์อย่างยิ่ง.
5. งบประมาณและความคุ้มค่าในระยะยาว: การลงทุนที่ต้องคิดรอบด้าน
การวางแผนงบประมาณที่แม่นยำเป็นหัวใจสำคัญของการสร้างบ้านเอง เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหางบบานปลาย.
ระยะเวลาการใช้งานต่อการชาร์จ 1 ครั้ง (เปรียบเทียบกับกำลังทรัพย์): ในที่นี้คือ "ระยะเวลาที่คุณสามารถทุ่มเทให้กับโครงการได้" และ "สภาพคล่องทางการเงิน" การสร้างบ้านเองใช้เวลาหลายเดือนหรือเป็นปี. คุณต้องมีเงินทุนหมุนเวียนและพร้อมรับมือกับค่าใช้จ่ายที่ทยอยเกิดขึ้นตามงวดงาน.
ความเร็วในการชาร์จ/เติมพลังงาน (เปรียบเทียบกับความยืดหยุ่นทางการเงิน): คือความสามารถในการจัดหาเงินทุนเพิ่มเติมเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน หรือความสามารถในการปรับเปลี่ยนแผนงานหากงบประมาณตึงตัว.
ค่าใช้จ่ายระยะยาว: นอกจากค่าก่อสร้าง ยังมีค่าใช้จ่ายแฝงอื่นๆ เช่น:
- ค่าออกแบบและขออนุญาต: สถาปนิก วิศวกร ค่าธรรมเนียม.
- ค่าสำรองเผื่อฉุกเฉิน: ควรเผื่องบประมาณสำรองไว้ 10-20% สำหรับค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิด.
- ค่าสาธารณูปโภคชั่วคราว: ค่ามิเตอร์น้ำ-ไฟชั่วคราวระหว่างก่อสร้าง.
- ค่าตกแต่งเพิ่มเติม: เฟอร์นิเจอร์, จัดสวน.
- ค่าบำรุงรักษา: แม้จะเลือกวัสดุดี แต่บ้านก็ยังต้องการการดูแลในระยะยาว.
วิเคราะห์ความคุ้มค่า: การสร้างบ้านเองอาจมี ต้นทุนรวมถูกกว่า การซื้อบ้านจัดสรรหรือจ้างบริษัทรับสร้างบ้านทั้งหมด. โดยเฉพาะถ้าคุณมีที่ดินอยู่แล้ว และมีเวลาควบคุมงานได้อย่างใกล้ชิด หรือมีความรู้ด้านช่าง. การเลือกวัสดุเองทำให้มั่นใจในคุณภาพ และอาจช่วยประหยัดค่าซ่อมแซมในอนาคต.
6. สรุปข้อดี-ข้อเสีย (แบบกลางๆ ไม่อวยเกิน)
เพื่อให้เห็นภาพรวมที่ชัดเจนยิ่งขึ้น ลองพิจารณาข้อดีและข้อเสียของการสร้างบ้านด้วยตัวเอง:
ข้อดี:
- อิสระในการออกแบบ: สร้างบ้านได้ตรงตามความฝันและความต้องการใช้งานทุกตารางนิ้ว.
- ควบคุมงบประมาณ: เลือกวัสดุและเปรียบเทียบราคาได้เอง มีโอกาสประหยัดค่าใช้จ่ายรวม.
- เลือกทำเลและสภาพแวดล้อมได้: สร้างบนที่ดินที่ต้องการ ไม่ต้องเสียค่าส่วนกลาง.
- มั่นใจในคุณภาพ: ควบคุมและตรวจสอบงานก่อสร้างได้ทุกขั้นตอน.
- ความภาคภูมิใจ: ได้เป็นส่วนหนึ่งของทุกรายละเอียดตั้งแต่ต้นจนจบ.
ข้อเสีย:
- ใช้เวลามากและเหนื่อย: ต้องลงมาดูแล ประสานงาน และแก้ปัญหาด้วยตัวเอง.
- ความเสี่ยงสูงกว่า: หากขาดประสบการณ์ อาจเจอปัญหาผู้รับเหมาทิ้งงาน, งบบานปลาย, หรือคุณภาพงานไม่ได้มาตรฐาน.
- ต้องมีความรู้: จำเป็นต้องศึกษาข้อมูลงานก่อสร้าง กฎหมาย และการบริหารจัดการ.
- ขาดการรับประกันงานรวม: หากจ้างช่างรายย่อย อาจไม่มีผู้รับประกันงานโดยรวมเหมือนบริษัทรับสร้างบ้าน.
- ต้องเผชิญปัญหาเฉพาะหน้า: มักเกิดปัญหานอกเหนือแผนที่ต้องแก้ไขอยู่เสมอ.
7. เหมาะกับใคร & คำแนะนำในการตัดสินใจสร้างบ้าน
การสร้างบ้านเองไม่ใช่สำหรับทุกคน แต่เหมาะกับผู้ที่...
เหมาะกับผู้ใช้แบบไหน:
- ผู้ที่มีเวลาและกำลัง: พร้อมทุ่มเทแรงกายและใจในการดูแลโครงการ.
- ผู้ที่มีความรู้ด้านก่อสร้าง/วิศวกรรม/สถาปัตย์: หรือมีคนใกล้ชิดที่เชี่ยวชาญให้คำปรึกษาและช่วยดูงาน.
- ผู้ที่ต้องการประหยัดงบสูงสุด: ยินดีลงแรงและเวลาเพื่อคุมค่าใช้จ่าย.
- ผู้ที่ต้องการบ้านที่ไม่เหมือนใคร: มีไอเดียเฉพาะตัวและอยากได้บ้านที่สะท้อนความเป็นตัวเองอย่างแท้จริง.
เหมาะกับการใช้งานแบบไหน:
- การสร้างบ้านพักอาศัย: ที่ต้องการฟังก์ชันครบครันและตรงใจ.
- การสร้างบ้านพักตากอากาศ/รีสอร์ทขนาดเล็ก: ที่ต้องการเอกลักษณ์เฉพาะตัว.
- การสร้างอาคารพาณิชย์ขนาดเล็ก: ที่ต้องการควบคุมรายละเอียดเอง.
ควรสร้างเลยไหม? หรือรอช่วงเวลาที่เหมาะสมกว่า?: หากคุณมีที่ดินพร้อม งบประมาณเบื้องต้น และศึกษาข้อมูลมาอย่างดีแล้ว ก็สามารถเริ่มวางแผนได้เลย. แต่หากยังไม่มีเวลา หรือยังขาดความรู้ แนะนำให้ เตรียมตัวให้พร้อมก่อน หรือพิจารณาจ้างบริษัทรับสร้างบ้านที่น่าเชื่อถือแทน.
8. เปรียบเทียบกับทางเลือกอื่นๆ: สร้างเอง vs จ้างครบวงจร vs ซื้อบ้านจัดสรร
เพื่อให้เห็นภาพชัดเจน ลองมาเปรียบเทียบทางเลือกหลักๆ ในการมีบ้าน:
สร้างบ้านเอง (จ้างผู้รับเหมา หรือบริหารเอง):
- ข้อดี: ออกแบบอิสระ, ควบคุมงบ-คุณภาพ, ไม่เสียค่าส่วนกลาง, เลือกทำเลได้.
- ข้อเสีย: เหนื่อย, เสี่ยงงบบานปลาย-ผู้รับเหมาทิ้งงาน, ต้องมีความรู้, ใช้เวลามาก.
จ้างบริษัทรับสร้างบ้าน:
- ข้อดี: สะดวกสบาย, มีผู้เชี่ยวชาญดูแลครบวงจร, มีการรับประกันงาน, ลดความเสี่ยงทิ้งงาน, ควบคุมงบประมาณได้ง่ายกว่า (ตามสัญญา).
- ข้อเสีย: ค่าใช้จ่ายสูงกว่าการคุมงานเอง, อาจไม่ตรงใจ 100% ถ้าไม่ได้คุยละเอียด, มีแบบให้เลือกจำกัด.
ซื้อบ้านจัดสรร:
- ข้อดี: รวดเร็ว, วางแผนงบง่าย, มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน, ระบบรักษาความปลอดภัยดี, สภาพแวดล้อมดี.
- ข้อเสีย: ไม่สามารถออกแบบเองได้, พื้นที่จำกัด, มีค่าส่วนกลางรายปี, วัสดุเลือกเองไม่ได้, ราคาค่อนข้างสูง.
คำแนะนำ: หากคุณต้องการความสะดวกสบายและลดความเสี่ยง การจ้างบริษัทรับสร้างบ้านอาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า. แต่ถ้าคุณมีเวลา มีความรู้ และต้องการบ้านในฝันที่ปรับแต่งได้ทุกรายละเอียด การสร้างบ้านเองก็เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่า.
9. การหาผู้ช่วยและแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้: กุญแจสู่ความสำเร็จ
การสร้างบ้านเองต้องอาศัยข้อมูลและผู้เชี่ยวชาญเข้ามาช่วยสนับสนุน.
การรับประกัน/บริการหลังการขาย: หากคุณจ้างผู้รับเหมาช่วงหรือรายย่อย การรับประกันงานอาจขึ้นอยู่กับการตกลงส่วนบุคคล. ในขณะที่บริษัทรับสร้างบ้านมักมีการรับประกันโครงสร้างและงานระบบที่ชัดเจนกว่า.
ช่องทางและแหล่งข้อมูลสำคัญ:
- สถาปนิกและวิศวกร: เป็นหัวใจหลักในการออกแบบและควบคุมคุณภาพโครงสร้าง.
- ผู้รับเหมา: เลือกผู้รับเหมาที่มีผลงานน่าเชื่อถือและมีประสบการณ์. การตรวจสอบรีวิวและผลงานที่ผ่านมาเป็นสิ่งจำเป็น.
- ร้านค้าวัสดุก่อสร้าง: เปรียบเทียบราคาและคุณภาพวัสดุจากหลายแหล่ง.
- หน่วยงานราชการ: สำหรับการขออนุญาตก่อสร้าง.
- แหล่งข้อมูลออนไลน์: กลุ่มเฟซบุ๊กเกี่ยวกับการสร้างบ้าน, เว็บไซต์รีวิว, ฟอรัมต่างๆ (เช่น Pantip) เป็นแหล่งรวมประสบการณ์และคำแนะนำจากผู้ที่สร้างบ้านจริง.
โปรโมชั่นและข้อเสนอ: ร้านค้าวัสดุก่อสร้างมักมีโปรโมชั่นหรือส่วนลดพิเศษ หากซื้อปริมาณมาก หรือช่วงเทศกาล. การเปรียบเทียบราคาจากหลายร้านเป็นสิ่งสำคัญ.
10. บทสรุปและคำแนะนำในการสร้างบ้าน
หลังจากพิจารณาทุกแง่มุมแล้ว การสร้างบ้านด้วยตัวเองเป็นโครงการที่ คุ้มค่าและน่าลงทุนสำหรับผู้ที่มีความพร้อม
คำแนะนำขั้นสุดท้าย: ควรสร้าง / เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น / ไม่แนะนำ
หากคุณเป็นคนที่มี เวลา, มีความรู้พื้นฐานด้านงานช่างหรือพร้อมที่จะศึกษาเรียนรู้, และมีงบประมาณที่ยืดหยุ่นพอสมควร เรา แนะนำให้สร้างบ้านเอง เพราะคุณจะได้บ้านที่ตรงใจที่สุดและอาจประหยัดงบประมาณได้ในระยะยาว.
คำแนะนำเฉพาะสำหรับกลุ่มผู้ใช้งาน:
- สำหรับผู้เริ่มต้นแต่ใจรัก: ควรเริ่มต้นด้วยบ้านขนาดไม่ใหญ่มากนัก, ศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด, และหาที่ปรึกษาที่เป็นสถาปนิกหรือวิศวกรที่ไว้ใจได้.
- สำหรับผู้ที่งบจำกัด: เน้นการออกแบบที่เรียบง่าย, เลือกใช้วัสดุในท้องถิ่น, และพิจารณาการลงมือทำบางส่วนด้วยตัวเองเพื่อประหยัดค่าแรง.
- สำหรับผู้ที่ไม่ค่อยมีเวลาหรือประสบการณ์: หากไม่พร้อมรับความเครียดและความยุ่งยาก การจ้างบริษัทรับสร้างบ้านที่มืออาชีพอาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกว่า เพื่อให้บ้านเสร็จตามกำหนดและลดความเสี่ยง.
ไม่ว่าคุณจะเลือกเส้นทางไหน การวางแผนที่ดี การศึกษาข้อมูลที่รอบด้าน และการเตรียมใจรับมือกับปัญหาที่อาจเกิดขึ้น จะช่วยให้คุณได้บ้านในฝันที่สวยงามและคุ้มค่าอย่างแท้จริง!
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
- (รวมคลิป) 180 วัน สร้างบ้านด้วยตัวเอง งบ 2.8 แสน, Build my house ...
- (รวมคลิป) 300 วัน สร้างบ้านด้วยตัวเอง งบ 2.4 แสน, Build my house ...
- Real Talk!! How to Built Your First House on a Budget ...
- สร้างบ้านเอง ใช้งบ 37000 ??? สร้างบ้านเอง EP 53 I T3B DIY
- 8 ขั้นตอน สร้างบ้านเองยังไงให้ผิดพลาดน้อยที่สุด! | ช่างเถอะ by พี่ปี้
แนะนำสำหรับคุณ
เที่ยวโตเกียวเดือนตุลาคม: อากาศดีไหม? มีงานอะไรน่าเที่ยว? เตรียมตัวยังไง?
Garmin GDR E530 รีวิวกล้องติดรถยนต์: ชัด ทน อุ่นใจทุกการเดินทางไหม?
รีวิว Hourglass Vanish Seamless Finish Foundation Stick: รองพื้นสติ๊ก ปกปิดเรียบเนียน คุมมัน กันน้ำไหม
รีวิว Brother MFC-J3930DW: ปริ้นเตอร์ Inkjet พิมพ์งานใหญ่ ฟังก์ชันครบ
รีวิว Nike Quest 2: รองเท้าวิ่งราคาเข้าถึงง่าย ใส่สบาย เหมาะกับวิ่งเบาๆ หรือใส่เดินไหม?
รีวิว Harley-Davidson Sportster Iron 1200: ตำนานคลาสสิก สไตล์ดุดัน