10 คีย์บอร์ด ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 สัมผัสสบาย พิมพ์สนุก


สวัสดีครับเพื่อนๆ พี่น้องร่วมวงการพิมพ์ดีดและสายเกมเมอร์ทั้งหลาย! 👋 ยินดีต้อนรับสู่โลกของคีย์บอร์ดที่ไม่ได้มีแค่ปุ่ม A-Z ก.ไก่-ฮ.นกฮูก อีกต่อไปแล้วนะครับ! ในยุคที่ชีวิตประจำวันของเราผูกพันกับหน้าจอคอมพิวเตอร์และสมาร์ทโฟนอย่างแยกไม่ออก "คีย์บอร์ด" นี่แหละครับ ที่กลายเป็นเหมือนเพื่อนคู่คิด มิตรคู่ใจของเรา ไม่ว่าจะทำงาน เล่นเกม แชทกับเพื่อน หรือท่องโลกโซเชียล
แต่เดี๋ยวก่อน! พอเดินเข้าโซนอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ หรือเปิดแอปช้อปออนไลน์อย่าง Lazada Shopee ปุ๊บ โอ้โห... คีย์บอร์ดมันมีเยอะจนเลือกไม่ถูก! รูปทรงต่างกัน สัมผัสไม่เหมือนกัน ราคาไปตั้งแต่หลักร้อยยันหลักหมื่น แล้วอันไหนล่ะที่ใช่สำหรับเรา พิมพ์แล้วฟินนิ้ว เล่นเกมแล้วเทพขึ้นทันตา ไม่เมื่อยมือ ไม่ปวดข้อมือในระยะยาว?
ใจเย็นๆ ครับ! ไม่ต้องกุมขมับ ไม่ต้องกด F5 รัวๆ ให้คอมค้าง วันนี้ผมจะขอรับหน้าที่เป็นพ่อหมอ เอ้ย! เป็นกูรูคีย์บอร์ดส่วนตัว พาเพื่อนๆ ไปตะลุยวงการคีย์บอร์ดในไทยแบบเจาะลึก พร้อมเปิดโผ 10 คีย์บอร์ด ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 สัมผัสสบาย พิมพ์สนุก ที่คัดมาแล้วว่าโดนใจคนไทยแน่นอน! รับรองว่าอ่านจบปุ๊บ ได้คีย์บอร์ดคู่บุญคู่บารมีกลับบ้านไปใช้แบบฟินๆ แน่นอนครับ!
ตลาดคีย์บอร์ดในไทย คึกคัก เบอร์ไหนกันนะ?
ต้องบอกเลยว่าตลาดคีย์บอร์ดในบ้านเรานี่ คึกคักสุดๆ ยิ่งกว่าตลาดนัดวันหยุด! โดยเฉพาะช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา กระแส "คีย์บอร์ด Mechanical" นี่มาแรงแซงทุกโค้งจริงๆ ครับ จากที่เมื่อก่อนรู้จักกันแค่วงการเกมเมอร์ เดี๋ยวนี้ลามมาถึงคนทำงานทั่วไป ที่อยากได้ฟีลลิ่งการพิมพ์ที่แตกต่าง กดแล้วมีเสียงคลิ๊กๆ หรือกดแล้วรู้สึกหนึบๆ มือ มันช่วยให้การทำงานสนุกขึ้นอย่างบอกไม่ถูกเลยครับ
แบรนด์ในตลาดไทยส่วนใหญ่ก็ยังคงเป็นแบรนด์ต่างชาติเจ้าใหญ่ๆ นำเข้า ไม่ว่าจะเป็น Logitech, Razer, Corsair, SteelSeries, HyperX ที่เน้นตลาดเกมมิ่งและทำงาน หรือพวกแบรนด์ Mechanical ชื่อดังอย่าง Keychron, Royal Kludge (RK), Akko, Ducky ที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ในกลุ่มคนเล่นคีย์บอร์ดโดยเฉพาะ ส่วนแบรนด์ไทยหรือแบรนด์ที่มีราคาเป็นมิตรมากๆ ก็มีเหมือนกัน เช่น Fantech, Signo ที่เข้าถึงง่ายตามร้านอุปกรณ์ไอทีทั่วไปครับ
พฤติกรรมผู้บริโภคไทยเวลาเลือกซื้อคีย์บอร์ดก็จะเน้นไปที่ ดีไซน์ (ต้องสวย ต้องมีไฟ RGB!), ฟีลลิ่งการกด (Switch) ว่าชอบแบบไหน เสียงดังฟังชัด หรือเงียบๆ นุ่มๆ, ความทนทาน, ฟังก์ชันเสริม (ปุ่มมาโคร, ปุ่มควบคุมเพลง), และที่สำคัญคือ ราคา ที่ต้องคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปครับ แหล่งช้อปปิ้งยอดฮิตก็หนีไม่พ้นร้านอุปกรณ์ไอทีชั้นนำอย่าง JIB, Advice, BaNANA IT, IT City หรือจะสะดวกสบายกว่านั้นก็ต้องพึ่งแพลตฟอร์มออนไลน์ตัวท็อปอย่าง Lazada และ Shopee ที่มีโปรโมชั่นลดกระหน่ำอยู่ตลอด แถมบางทีมีโค้ดลดเพิ่มอีกเพียบ ถูกใจสายช้อปแน่นอนครับ!
เลือกคีย์บอร์ดคู่ใจ ต้องดูอะไรบ้าง?
ก่อนจะพุ่งตัวไปกดสั่งซื้อ เรามาดูกันก่อนว่ามีปัจจัยอะไรบ้างที่เราต้องพิจารณา เพื่อให้ได้คีย์บอร์ดที่ใช่ ตรงใจที่สุดครับ ลองดูเช็คลิสต์นี้ไว้เลย:
ปัจจัย | สิ่งที่ควรพิจารณา |
---|---|
ประเภทของ Switch | Mechanical (มีหลายแบบ เช่น Red, Blue, Brown, Black) หรือ Membrane? ชอบฟีลลิ่งการกดและเสียงแบบไหน? |
รูปแบบ (Layout) | Full Size (มี Numpad), Tenkeyless (TKL - ไม่มี Numpad), Compact (60%, 65%, 75%, 80%)? เลือกตามพื้นที่บนโต๊ะและความจำเป็นในการใช้ Numpad |
การเชื่อมต่อ | มีสาย (Wired) หรือ ไร้สาย (Wireless - Bluetooth, 2.4GHz)? เน้นความเสถียร หรือความสะดวกในการพกพา? |
Ergonomics (การยศาสตร์) | มีที่รองข้อมือไหม? ปรับระดับความสูงได้ไหม? พิมพ์นานๆ เมื่อยมือหรือเปล่า? สำคัญมากสำหรับคนใช้งานนานๆ ครับ |
วัสดุและความทนทาน | ตัวคีย์บอร์ดทำจากอะไร? Keycaps เป็นแบบไหน (ABS, PBT)? ทนทานต่อการใช้งานหนักๆ ไหม? |
ฟังก์ชันเสริม | ไฟ RGB ปรับได้กี่แบบ? มีปุ่ม Macro ไหม? มีปุ่มควบคุม Multimedia แยกหรือเปล่า? ซอฟต์แวร์ปรับตั้งค่าใช้งานง่ายไหม? |
ชื่อเสียงของแบรนด์ | แบรนด์น่าเชื่อถือไหม? รีวิวจากผู้ใช้งานจริงในไทยเป็นยังไง? |
ราคา | มีงบเท่าไหร่? คุ้มค่ากับฟังก์ชันและคุณภาพที่ได้ไหม? |
Tip เด็ด: ถ้ามีโอกาส ลองไปกดสัมผัสคีย์บอร์ดจริงที่ร้านก่อน จะช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นเยอะเลยครับ เพราะฟีลลิ่งการกดนี่เป็นเรื่องของความชอบส่วนบุคคลจริงๆ นะ!
เปิดโผ! 10 คีย์บอร์ดน่าโดน ปี 2025!
ถึงช่วงเวลาที่ทุกคนรอคอย! ผมได้คัดมาแล้ว 10 แบรนด์คีย์บอร์ดที่มีรุ่นเด่นๆ น่าจับตามองในปี 2025 นี้ มีทั้งแบรนด์ยอดนิยมที่คุ้นเคยและแบรนด์ที่มาแรงในวงการ Mechanical ครับ ไปดูกันเลย!
1. Logitech
แบรนด์จากสวิตเซอร์แลนด์ เจ้าพ่ออุปกรณ์ต่อพ่วงคอมพิวเตอร์ มีคีย์บอร์ดให้เลือกหลากหลาย ตั้งแต่เน้นทำงานออฟฟิศไปจนถึงเกมมิ่ง
- รุ่นแนะนำ: MX Keys series (ทำงาน), G Pro X TKL / G915 TKL (เกมมิ่ง Mechanical ไร้สาย)
- จุดเด่น: คุณภาพดี ทนทาน ใช้งานง่าย มีรุ่นสำหรับทำงานที่ออกแบบตามหลักการยศาสตร์ และรุ่นเกมมิ่งที่ตอบสนองรวดเร็ว บางรุ่นมีฟีเจอร์เชื่อมต่อหลายอุปกรณ์
- ข้อเสีย: รุ่น Mechanical ตัวเลือก Switch อาจไม่เยอะเท่าแบรนด์เฉพาะทางด้าน Mechanical. ราคากลางๆ ไปจนถึงสูง
- เหมาะกับ: คนทำงานที่ต้องการคีย์บอร์ดคุณภาพดี พิมพ์สบาย หรือเกมเมอร์ที่ต้องการคีย์บอร์ดที่ไว้ใจได้ มีฟังก์ชันครบครัน
- ช่องทางซื้อ: ร้านค้าไอทีทั่วไป (JIB, Advice, BaNANA IT), Power Buy, Central Online, Lazada, Shopee (ร้าน Official Store)
- ราคา: เริ่มต้น 1,xxx - 6,xxx+ บาท
- รีวิว: "ใช้ Logitech MX Keys มานาน พิมพ์สบายมาก ต่อกับไอแพด แมค ได้หมด ชีวิตดีขึ้นเยอะ" - พนักงานออฟฟิศ. "Logitech G Pro X TKL ตัวเล็ก พกพาสะดวก กดมันส์ดีครับ" - เกมเมอร์.
2. Razer
แบรนด์จากสหรัฐอเมริกา/สิงคโปร์ ขึ้นชื่อเรื่องอุปกรณ์เกมมิ่งที่มีดีไซน์ดุดัน สีดำเขียว พร้อมไฟ RGB จัดเต็ม
- รุ่นแนะนำ: BlackWidow series, Huntsman series (Optical Switch), DeathStalker V2 Pro (Low-Profile Optical Wireless)
- จุดเด่น: ดีไซน์โดดเด่น เหมาะกับเกมเมอร์ มีเทคโนโลยี Switch เฉพาะตัว (Mechanical และ Optical) ที่ตอบสนองไว ไฟ RGB สวยงาม ปรับแต่งได้เยอะผ่านซอฟต์แวร์ Synapse
- ข้อเสีย: ราคาสูง. บางคนอาจไม่ชอบดีไซน์ที่ดูล้ำสมัยเกินไป.
- เหมาะกับ: เกมเมอร์ตัวจริง ที่ต้องการคีย์บอร์ดประสิทธิภาพสูง ดีไซน์สวยงาม ไฟ RGB จัดเต็ม
- ช่องทางซื้อ: ร้านค้าไอทีทั่วไป (JIB, Advice, BaNANA IT), Power Buy, Lazada, Shopee (ร้าน Official Store)
- ราคา: เริ่มต้น 3,xxx - 8,xxx+ บาท
- รีวิว: "Razer Huntsman กดโคตรมันส์! เสียงดังสะใจดี ไฟ RGB ก็สวยมากกกก" - สตรีมเมอร์. "ดีไซน์ดุเดือดถูกใจสายเกมมากๆ" - เกมเมอร์ FPS.
3. Corsair
แบรนด์จากสหรัฐอเมริกา อีกหนึ่งยักษ์ใหญ่ในวงการอุปกรณ์เกมมิ่ง เน้นคุณภาพและประสิทธิภาพ
- รุ่นแนะนำ: K70 / K100 series, K65 TKL
- จุดเด่น: วัสดุดี งานประกอบแน่นหนา ทนทาน ใช้ Mechanical Switch คุณภาพสูง (ส่วนใหญ่เป็น Cherry MX) มีฟังก์ชันครบครันสำหรับเกมเมอร์ ทั้งปุ่ม Macro, ไฟ RGB, ที่พักข้อมือที่ถอดได้
- ข้อเสีย: ราคาสูง. ซอฟต์แวร์ iCUE ค่อนข้างซับซ้อนสำหรับผู้เริ่มต้น.
- เหมาะกับ: เกมเมอร์และคนที่ต้องการคีย์บอร์ด Mechanical คุณภาพสูง ทนทาน ใช้งานได้นาน
- ช่องทางซื้อ: ร้านค้าไอทีทั่วไป (JIB, Advice, BaNANA IT), Lazada, Shopee (ร้าน Official Store)
- ราคา: เริ่มต้น 3,xxx - 7,xxx+ บาท
- รีวิว: "Corsair K70 ตัวเก่าใช้มาหลายปีแล้วยังไม่พังเลย โคตรทน!" - เกมเมอร์. "วัสดุดีจริง พิมพ์มันส์ เสียงเพราะ" - คนทำงาน.
4. SteelSeries
แบรนด์จากเดนมาร์ก อุปกรณ์เกมมิ่งดีไซน์เรียบหรู เน้นประสิทธิภาพและความสบายในการใช้งาน
- รุ่นแนะนำ: Apex Pro series (Adjustable Mechanical Switch), Apex 7 TKL
- จุดเด่น: ดีไซน์เรียบหรูดูดี มีนวัตกรรม Switch ที่ปรับระยะการกดได้ (OmniPoint Switch ในรุ่น Pro) หน้าจอ OLED ขนาดเล็กบนคีย์บอร์ด แสดงข้อมูลได้หลากหลาย
- ข้อเสีย: ราคาสูงมากในรุ่น Top. ตัวเลือก Switch ไม่เยอะเท่าแบรนด์ Mechanical เฉพาะทาง.
- เหมาะกับ: เกมเมอร์ที่ต้องการคีย์บอร์ดประสิทธิภาพสูง พร้อมฟังก์ชันล้ำๆ และดีไซน์ที่ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาหน่อย
- ช่องทางซื้อ: ร้านค้าไอทีทั่วไป (JIB, Advice, BaNANA IT), Lazada, Shopee (ร้าน Official Store)
- ราคา: เริ่มต้น 3,xxx - 8,xxx+ บาท
- รีวิว: "SteelSeries Apex Pro ปรับระยะกดได้นี่โคตรเจ๋ง! เล่นเกมฟินขึ้นเยอะ" - เกมเมอร์. "ดีไซน์สวยมาก วางบนโต๊ะแล้วดูดีเลย" - คนทำงานที่ชอบเล่นเกม.
5. HyperX
แบรนด์จากสหรัฐอเมริกา (ส่วนหนึ่งของ HP) อุปกรณ์เกมมิ่งที่เน้นความคุ้มค่า คุณภาพดี และดีไซน์เรียบง่ายแต่ดูดี
- รุ่นแนะนำ: Alloy Origins series, Alloy Elite 2
- จุดเด่น: วัสดุอลูมิเนียมคุณภาพดี แข็งแรงทนทาน ใช้ HyperX Mechanical Switch ที่ให้ฟีลลิ่งการกดที่ดี ไฟ RGB สวยงาม ซอฟต์แวร์ NGENUITY ใช้งานง่าย
- ข้อเสีย: ตัวเลือก Layout อาจไม่เยอะเท่าบางแบรนด์.
- เหมาะกับ: เกมเมอร์ที่มองหาคีย์บอร์ด Mechanical คุณภาพดี ราคาคุ้มค่า ไม่เน้นฟังก์ชันหวือหวามากนัก
- ช่องทางซื้อ: ร้านค้าไอทีทั่วไป (JIB, Advice, BaNANA IT), Lazada, Shopee (ร้าน Official Store)
- ราคา: เริ่มต้น 2,xxx - 5,xxx บาท
- รีวิว: "HyperX Alloy Origins ตัวเล็ก พกพาสะดวกดี กดสนุก สเปกคุ้มราคา" - นักศึกษา. "คีย์บอร์ดแข็งแรงมาก พิมพ์มันส์ดีครับ" - คนทำงานสายพิมพ์เยอะ.
6. Keychron
แบรนด์จากฮ่องกง มาแรงสุดๆ ในวงการ Mechanical Keyboard เน้นดีไซน์ Retro/Minimal และความหลากหลายของ Switch และ Layout
- รุ่นแนะนำ: K series (K2, K4, K6, K8), V series, Q series (Custom Keyboard)
- จุดเด่น: มี Layout ให้เลือกเยอะมาก (ตั้งแต่ Full Size ยัน 60%), รองรับการใช้งานได้ทั้ง Mac และ Windows, มีตัวเลือก Switch ทั้ง Optical, Gateron, Cherry MX และ Hot-swappable (เปลี่ยน Switch ได้ง่าย), ดีไซน์สวย คุณภาพดีเมื่อเทียบกับราคา
- ข้อเสีย: บางรุ่นอาจต้องสั่งออนไลน์โดยตรง. การรับประกันอาจไม่ครอบคลุมเท่าแบรนด์ใหญ่ในประเทศ.
- เหมาะกับ: คนที่เพิ่งเข้าวงการ Mechanical Keyboard, คนที่ต้องการคีย์บอร์ดสวยๆ มี Layout แปลกๆ, หรือคนที่ชอบปรับแต่งคีย์บอร์ดเอง
- ช่องทางซื้อ: Lazada, Shopee (ร้าน Official Store หรือร้านนำเข้า), ร้านค้าไอทีบางแห่ง
- ราคา: เริ่มต้น 2,xxx - 6,xxx+ บาท
- รีวิว: "Keychron K2 ตัวแรกของผมเลย ดีไซน์สวย กดมันส์มากครับ!" - มือใหม่ Mechanical. "ชอบที่มี Layout ให้เลือกเยอะ ตอบโจทย์คนชอบคีย์บอร์ดเล็กๆ" - โปรแกรมเมอร์.
7. Royal Kludge (RK)
แบรนด์จากจีน ยอดนิยมในกลุ่มคนเริ่มต้น Mechanical Keyboard เพราะราคาเป็นมิตร คุณภาพดีเกินราคา
- รุ่นแนะนำ: RK61, RK68, RK84
- จุดเด่น: ราคาถูกมาก! เมื่อเทียบกับคีย์บอร์ด Mechanical ทั่วไป มีรุ่น Hot-swappable ให้เปลี่ยน Switch ได้ง่าย รองรับการเชื่อมต่อหลากหลาย (มีสาย, Bluetooth, 2.4GHz) ดีไซน์ Compact ประหยัดพื้นที่
- ข้อเสีย: วัสดุอาจไม่พรีเมียมเท่าแบรนด์ราคาสูง. คุณภาพ QC อาจไม่สม่ำเสมอในบางครั้ง.
- เหมาะกับ: คนที่อยากลอง Mechanical Keyboard ในงบจำกัด, นักเรียน นักศึกษา, คนที่ต้องการคีย์บอร์ดพกพาง่าย
- ช่องทางซื้อ: Lazada, Shopee (ร้านค้าต่างๆ ที่นำเข้า), ร้านค้าไอทีออนไลน์
- ราคา: เริ่มต้น 8xx - 2,xxx บาท
- รีวิว: "RK61 ตัวเล็ก ราคาถูกมาก เอามาลองเล่น Mechanical ครั้งแรก ไม่ผิดหวังเลย" - นักศึกษา. "ราคาแค่นี้ได้ Hot-swap คุ้มสุดๆ เปลี่ยน Switch ได้ตามใจชอบ" - คนชอบ Mod คีย์บอร์ด.
8. Akko
แบรนด์จากจีน โดดเด่นเรื่องคีย์บอร์ด Mechanical ดีไซน์สวยงาม มีสีสันและลวดลายให้เลือกเยอะมาก
- รุ่นแนะนำ: 3068B Plus, 5075B Plus, PC75B
- จุดเด่น: ดีไซน์สวยงามเป็นเอกลักษณ์ มีลายลิมิเต็ดเอดิชั่นบ่อยๆ ใช้ Akko CS Switch คุณภาพดี มีฟีลลิ่งการกดที่เป็นเอกลักษณ์ (มีหลายแบบให้เลือก) คุณภาพคุ้มราคา มีรุ่น Hot-swappable
- ข้อเสีย: อาจต้องสั่งออนไลน์เป็นหลัก. บางลายอาจหาซื้อยาก.
- เหมาะกับ: คนที่ชอบ Mechanical Keyboard ที่มีดีไซน์สวยงาม สีสันสดใส ไม่เหมือนใคร, คนที่ชอบสะสมคีย์บอร์ดลายพิเศษ
- ช่องทางซื้อ: Lazada, Shopee (ร้านค้าที่นำเข้า), ร้านค้าไอทีออนไลน์บางแห่ง
- ราคา: เริ่มต้น 2,xxx - 4,xxx บาท
- รีวิว: "Akko คือคีย์บอร์ดที่สวยที่สุดในโลก! ลายเยอะมากกกก เลือกไม่ถูกเลย" - สาวๆ ที่ชอบคีย์บอร์ดสวยๆ. "Akko CS Switch กดสนุกมาก ฟีลลิ่งดีจริงๆ" - คนที่เล่น Mechanical มาสักพัก.
9. Ducky
แบรนด์จากไต้หวัน คีย์บอร์ด Mechanical คุณภาพสูง เน้นประสิทธิภาพและความทนทาน เป็นที่ยอมรับในวงการ
- รุ่นแนะนำ: One 3 series, Mecha Mini
- จุดเด่น: คุณภาพงานประกอบดีเยี่ยม ทนทาน ใช้ Cherry MX Switch คุณภาพสูง มีดีไซน์และ Layout ให้เลือกหลากหลาย ตัว Keycaps เป็น PBT Double-shot ทนทาน ตัวอักษรไม่ลอก
- ข้อเสีย: ราคาสูงกว่าแบรนด์จีน. ฟังก์ชันเสริมหรือซอฟต์แวร์อาจไม่หวือหวาเท่าแบรนด์เกมมิ่ง.
- เหมาะกับ: คนที่ต้องการ Mechanical Keyboard คุณภาพสูง พิมพ์สนุก ทนทาน ใช้ได้ยาวๆ ไม่เน้นลูกเล่นเยอะ
- ช่องทางซื้อ: ร้านค้าไอทีทั่วไป (JIB, Advice, BaNANA IT - รุ่นที่นำเข้า), Lazada, Shopee (ร้านค้าที่นำเข้า/ร้าน Official Store บางร้าน)
- ราคา: เริ่มต้น 3,xxx - 6,xxx บาท
- รีวิว: "Ducky คือจบ! คุณภาพดีจริง พิมพ์มันส์มาก ใช้มาหลายปีแล้วยังแจ๋ว" - คนที่เล่น Mechanical Keyboard มานาน. "วัสดุดี คีย์แคป PBT พิมพ์แล้วรู้สึกดีกว่าจริงๆ" - คนทำงาน.
10. Fantech / Signo
แบรนด์จากจีน/ไทย (แบรนด์ที่มีฐานในไทย) อุปกรณ์เกมมิ่งและอุปกรณ์ต่อพ่วงในราคาที่เข้าถึงง่าย เน้นความคุ้มค่า
- รุ่นแนะนำ: Fantech Maxfit series, Signo Mechanical Keyboard (รุ่นต่างๆ)
- จุดเด่น: ราคาถูกมากๆ! เมื่อเทียบกับฟังก์ชันที่ได้ มีคีย์บอร์ด Mechanical ให้เลือกในราคาหลักพันต้นๆ เหมาะสำหรับคนงบน้อย อยากได้คีย์บอร์ด Mechanical มาลองเล่น มีไฟ RGB สวยงาม
- ข้อเสีย: คุณภาพวัสดุและ Switch อาจไม่ทนทานเท่าแบรนด์ราคาสูง. ฟีลลิ่งการกดอาจไม่สู้แบรนด์ Mechanical แท้ๆ.
- เหมาะกับ: นักเรียน นักศึกษา คนงบน้อยที่อยากได้คีย์บอร์ดเกมมิ่งหรือ Mechanical มาใช้
- ช่องทางซื้อ: ร้านค้าไอทีทั่วไปในไทย, Lazada, Shopee
- ราคา: เริ่มต้น 5xx - 2,xxx บาท
- รีวิว: "ซื้อ Fantech มาใช้เล่นเกม ราคาถูกมาก มีไฟ RGB ด้วย คุ้มดี" - นักเรียน. "Signo รุ่น Mechanical ราคาพันกว่าบาท ได้ฟีลลิ่ง Mechanical มาลองเล่นถือว่าโอเคเลย" - คนงบน้อย.
คำถามที่พบบ่อย (FAQ) ฉบับคนอยากได้คีย์บอร์ดใหม่!
Q: Mechanical Keyboard คืออะไร? ทำไมคนฮิตจัง?
A: มันคือคีย์บอร์ดที่แต่ละปุ่มมี Switch กลไกแยกของตัวเองครับ ทำให้เวลากดแล้วรู้สึกแตกต่างจากคีย์บอร์ดปุ่มยาง (Membrane) ทั่วไป มีฟีลลิ่งการกดและเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ (บางทีก็ดังมาก!) คนฮิตเพราะมันให้สัมผัสที่ดีกว่า พิมพ์สนุกกว่า และบางทีก็ตอบสนองเร็วกว่า เหมาะทั้งพิมพ์งานและเล่นเกมครับ!
Q: Switch สีแดง สีน้ำเงิน สีน้ำตาล มันต่างกันยังไง? เลือกอันไหนดี?
A: อันนี้เป็นสีมาตรฐานของ Cherry MX Switch ครับ:
- สีแดง (Red): Linear Switch กดตรงๆ ไม่มีจังหวะ ไม่มีเสียงคลิ๊ก เหมาะกับเล่นเกมที่ต้องการกดปุ่มซ้ำๆ ไวๆ
- สีน้ำเงิน (Blue): Clicky Switch มีจังหวะคลิ๊ก มีเสียงดังชัดเจน เหมือนพิมพ์ดีด เหมาะกับคนชอบฟีลลิ่งและเสียงในการพิมพ์
- สีน้ำตาล (Brown): Tactile Switch มีจังหวะหนึบๆ แต่ไม่มีเสียงคลิ๊ก เหมาะกับคนที่ต้องการฟีลลิ่งการพิมพ์ที่ดี แต่ไม่ต้องการเสียงดังรบกวน
ยังมี Switch แบบอื่นๆ อีกเยอะแยะไปหมดครับ ลองไปกดที่ร้านจริงดูว่าชอบแบบไหนดีที่สุดครับ!
Q: คีย์บอร์ดไร้สาย (Wireless) ดีไหม? เล่นเกมแล้วดีเลย์หรือเปล่า?
A: คีย์บอร์ดไร้สายสะดวกตรงที่ไม่มีสายเกะกะครับ เดี๋ยวนี้เทคโนโลยีพัฒนาไปเยอะมาก รุ่นดีๆ แทบไม่มีดีเลย์ให้รู้สึกในการใช้งานทั่วไปหรือเล่นเกมครับ แต่ก็ต้องดูเป็นรุ่นๆ ไป และต้องคอยชาร์จแบตหรือเปลี่ยนถ่านด้วยครับ ถ้าเน้นความเสถียรสูงสุดแบบ 100% จริงๆ สายก็ยังเป็นตัวเลือกที่ไว้ใจได้มากกว่าครับ
Q: ซื้อคีย์บอร์ด Mechanical ราคาถูกๆ จากจีนดีไหม?
A: ถ้าอยากลอง Mechanical Keyboard ในงบจำกัด ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจครับ อย่างแบรนด์ RK, Fantech, Signo ก็ทำออกมาได้ดีเกินราคา แต่ก็ต้องยอมรับว่าคุณภาพวัสดุและความทนทานอาจจะไม่เท่าแบรนด์ราคาสูงๆ และอาจต้องรับความเสี่ยงเรื่อง QC ที่ไม่สม่ำเสมอครับ อ่านรีวิวร้านค้าเยอะๆ ก่อนตัดสินใจซื้อครับ
Q: คีย์บอร์ดภาษาไทยมีไหม? ต้องดูตรงไหน?
A: คีย์บอร์ดส่วนใหญ่ที่ขายในไทยจะมี Keycaps เป็นภาษาไทย/อังกฤษ มาให้เลยครับ หรือบางรุ่นอาจจะต้องซื้อ Keycaps ภาษาไทยมาเปลี่ยนเองครับ เวลาซื้อให้ดูที่รูปสินค้าหรือสอบถามผู้ขายให้แน่ใจว่าเป็น Layout ภาษาไทยนะครับ
สรุปส่งท้าย: คีย์บอร์ดแบบไหน ใช่เลย!
เป็นไงบ้างครับ หวังว่าคงจะได้ไอเดียในการเลือกคีย์บอร์ดคู่ใจกันไปบ้างแล้วนะครับ การเลือกคีย์บอร์ดที่ดี ไม่ใช่แค่เรื่องสเปกหรือราคา แต่มันคือการเลือกลงทุนเพื่อสุขภาพข้อมือและนิ้วมือของเราในระยะยาว แถมยังช่วยเพิ่มความสุขและประสิทธิภาพในการทำงานหรือเล่นเกมได้อีกด้วยนะครับ!
- ถ้า งบไม่เยอะ แต่อยากได้ Mechanical Keyboard มาลองพิมพ์ ลองดู RK, Fantech, Signo ครับ
- ถ้าเน้น เกมมิ่งแบบจริงจัง พร้อมไฟ RGB จัดเต็ม ก็ต้อง Razer, Corsair, SteelSeries, HyperX เลยครับ
- ถ้าเป็น มือใหม่ Mechanical อยากได้คีย์บอร์ดดีๆ มี Layout ให้เลือกเยอะๆ และ Hot-swappable ลองดู Keychron, Akko ครับ
- ถ้าเน้น คุณภาพ พิมพ์งานสบาย ใช้ได้นานๆ หรือเป็น Mechanical คุณภาพสูง ก็ต้อง Logitech, Dell, Ducky ครับ (Dell ไม่ได้อยู่ใน 10 อันดับ แต่ก็มีรุ่นทำงานที่ดี)
- ถ้าชอบ ดีไซน์สวยๆ มีสีสันไม่เหมือนใคร ต้อง Akko ครับ
ข้อควรระวัง: ระวังของปลอม! โดยเฉพาะตามร้านค้าออนไลน์ที่ไม่น่าเชื่อถือ หรือเสนอราคาที่ถูกจนเกินจริง ควรซื้อจากร้าน Official Store หรือตัวแทนจำหน่ายที่เชื่อถือได้ในไทย และอย่าลืมเช็ค การรับประกัน ด้วยนะครับ! บางทีคีย์บอร์ดดีๆ ก็ต้องมีการรับประกันที่อุ่นใจด้วย! และที่สำคัญสุดๆ ในช่วงเทศกาลลดราคาใหญ่ๆ ของ Lazada Shopee นี่แหละครับ คือโอกาสทองในการสอยคีย์บอร์ดในฝันในราคาที่คุ้มค่าที่สุด!
มาเม้าท์มอยเรื่องคีย์บอร์ดกันหน่อยเร็ว! 👇
เพื่อนๆ คนไหนใช้คีย์บอร์ดรุ่นไหนอยู่บ้าง? ประทับใจไม่ประทับใจยังไง? หรือมีรุ่นไหนอยากแนะนำเพิ่มเติมให้เพื่อนๆ คนอื่นได้ลองใช้ บอกมาได้เลยในคอมเมนต์ข้างล่างนี้เลยนะครับ มาแชร์ประสบการณ์กันเยอะๆ นะ!
ถ้าใครอ่านแล้วคันไม้คันมือ อยากได้คีย์บอร์ดใหม่ขึ้นมาทันที หรืออยากได้พิกัดร้าน/ลิงก์โปรโมชั่นเด็ดๆ ขอมาได้เลยนะครับ พิมพ์คำว่า "
อยากได้คีย์บอร์ดใหม่แล้ว! จัดลิงก์ให้หน่อย!" เดี๋ยวผมไปหาดีลเด็ดๆ มาฝากเป็นพิเศษเลยจ้า! แล้วเจอกันใหม่ในบทความหน้านะครับทุกคนนน สวัสดีครับ! 👋