10 USB HUB ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 พอร์ตเยอะ ใช้งานหลากหลาย

สวัสดีครับเพื่อนๆ สาย Gadget และมนุษย์ยุคดิจิทัลทุกคน! 👋 ในยุคที่อุปกรณ์ไอทีรายล้อมตัวเราเต็มไปหมด ไหนจะโน้ตบุ๊ก แท็บเล็ต เมาส์ คีย์บอร์ด ฮาร์ดดิสก์ กล้อง ลำโพง และอีกสารพัดสิ่ง!

เชื่อว่าหลายคนคงเคยเจอปัญหา "พอร์ตไม่พอ!" ใช่ไหมครับ? โดยเฉพาะโน้ตบุ๊กหรือแท็บเล็ตสมัยใหม่ที่เน้นความบางเบา พอร์ตเชื่อมต่อก็หรอมแหรมเหลือเกิน จะเสียบอันนู้น อันนี้ ก็ต้องคอยสลับไปมาให้วุ่นวาย โอ๊ย... ชีวิตมันไม่ง่ายเลย!

แต่ไม่ต้องกังวลไปครับ! เพราะตัวช่วยกู้ชีพของชาวเรามาแล้ว นั่นก็คือ USB HUB นั่นเอง! เจ้าอุปกรณ์เล็กๆ แต่มากความสามารถตัวนี้ จะมาช่วยขยายพอร์ตสารพัดประโยชน์ ให้เราเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้พร้อมกันหลายๆ อย่าง ชีวิตก็จะง่ายขึ้น สะดวกขึ้น ทำงานก็ลื่นไหล ชาร์จแบตก็สบาย ถ่ายโอนข้อมูลก็รวดเร็วทันใจ!

แต่ปัญหาคือ... ตอนนี้ในตลาดมี USB HUB ออกมาเยอะมากกกก หลายยี่ห้อ หลายแบบ หลายราคาจนตาลายไปหมด! จะเลือกยังไงให้ได้ Hub ที่ใช่ พอร์ตเยอะจริง ฟังก์ชันครบครัน แถมยังทนทาน ไม่พังง่าย?

ไม่ต้องห่วงครับ! ในฐานะที่ผมเป็นคนชอบลองของใหม่ๆ และสิงอยู่ในโลกออนไลน์มานาน วันนี้ผมจะมาเป็นกูรูส่วนตัว พาเพื่อนๆ ไปเจาะลึกโลกของ USB HUB ในไทย พร้อมแนะนำ 10 รุ่นเด็ดที่น่าจับตามองในปี 2025 นี้ บอกเลยว่าอ่านจบปุ๊บ เลือกซื้อได้ปั๊บ ไม่ต้องมานั่งกลุ้มใจเรื่องพอร์ตไม่พออีกต่อไป!

ตลาด USB HUB ในไทย คึกคักแค่ไหนกันนะ?

บอกเลยว่าตลาด USB HUB ในไทยช่วงนี้กำลัง เติบโตสุดๆ! เพราะคนไทยหันมาใช้อุปกรณ์พกพาอย่างโน้ตบุ๊กหรือแท็บเล็ตกันมากขึ้น แถมอุปกรณ์เสริมต่างๆ ก็ใช้การเชื่อมต่อแบบ USB เป็นหลัก ทำให้ Hub กลายเป็นไอเทมจำเป็นที่หลายคนต้องมีติดกระเป๋าไว้เลยครับ

แบรนด์ที่เห็นส่วนใหญ่ในตลาดก็จะเป็นแบรนด์นำเข้าจากต่างประเทศที่มีชื่อเสียงด้านอุปกรณ์เสริมไอที ไม่ว่าจะเป็น Anker, UGREEN, Baseus, Belkin, Vention หรือแบรนด์อุปกรณ์คอมพิวเตอร์อย่าง TP-Link, HP ก็มี Hub คุณภาพดีออกมาให้เลือกเหมือนกันครับ.

พฤติกรรมผู้บริโภคคนไทยส่วนใหญ่เวลามองหา USB HUB ก็จะเน้นไปที่ จำนวนพอร์ตที่หลากหลาย (โดยเฉพาะ USB-A และ USB-C), ความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูล, วัสดุที่ดูแข็งแรงทนทาน และ ราคาที่สมเหตุสมผล ครับ ส่วนแหล่งช้อปปิ้งยอดฮิตก็หนีไม่พ้นแพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง Lazada และ Shopee ที่มีตัวเลือกเยอะ มีโปรโมชั่นบ่อยๆ หรือถ้าใครอยากไปดูของจริง อยากปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ ก็ต้องไปที่ร้านอุปกรณ์ไอทีชั้นนำอย่าง JIB, Advice, BaNANA หรือห้างใหญ่ๆ เช่น Power Buy ครับ

เลือก USB HUB ยังไงให้โดนใจ?

ก่อนจะพุ่งตัวไปช้อป เรามาดูกันก่อนว่ามีปัจจัยอะไรบ้างที่เราต้องพิจารณา เพื่อให้ได้ USB HUB ที่เหมาะกับการใช้งานของเราที่สุดครับ ลองดูตารางนี้เป็นแนวทางได้เลย:

จัดไป! 10 USB HUB น่าสอย ปี 2025!

ถึงช่วงที่ทุกคนรอคอย! ผมคัดมาให้แล้ว 10 แบรนด์ USB HUB ยอดนิยมในตลาดไทย พร้อมรุ่นเด่นที่น่าสนใจ ลองพิจารณาตามสไตล์และความต้องการของตัวเองได้เลย!

1. UGREEN

แบรนด์จากจีน ที่โด่งดังมากๆ ในไทยเรื่องอุปกรณ์เสริมมือถือและคอมพิวเตอร์ คุณภาพดี ราคาสมเหตุผล มีสินค้าให้เลือกหลากหลาย

• รุ่นแนะนำ: UGREEN CM481 Series (แบบมีไฟเลี้ยง พอร์ตเยอะ), UGREEN รุ่น 15495 (Type C 5-in-1), UGREEN 70408 (USB C 5-in-1)
• จุดเด่น: คุณภาพงานประกอบดี ดีไซน์เรียบหรู มีรุ่นให้เลือกเยอะมาก ครอบคลุมทุกความต้องการตั้งแต่ Hub ธรรมดาจนถึง Multiport Adapter ฟังก์ชันครบ รองรับ PD Charging ได้ดี
• ข้อเสีย: บางรุ่นชื่อรุ่นเยอะ อาจจะสับสนเล็กน้อย ต้องดูรายละเอียดสเปกดีๆ ครับ
• เหมาะกับ: ทุกคนที่มองหา USB HUB คุณภาพดี ฟังก์ชันหลากหลาย ในราคาที่เข้าถึงง่าย
• ช่องทางซื้อ: UGREEN Official Store ใน Lazada/Shopee, ร้านอุปกรณ์ไอทีทั่วไป, Mercular.com
• ช่วงราคา: เริ่มต้นหลักร้อย (สำหรับรุ่นพอร์ตน้อย) ไปจนถึงหลักพันปลายๆ (สำหรับรุ่น Multiport)
• รีวิว: "ใช้ UGREEN หลายตัวแล้ว ทนทานดี พอร์ตครบ เสียบติดง่าย" - ผู้ใช้งานใน Shopee. "รุ่น Type C 5-in-1 พกพาสะดวกมาก เสียบได้ทั้งจอ SD Card แล้วก็ชาร์จโน้ตบุ๊กได้พร้อมกัน" - นักศึกษา. "คุณภาพเกินราคาจริงๆ ครับแบรนด์นี้" - รีวิวออนไลน์.

2. Anker

แบรนด์จากอเมริกา มีชื่อเสียงระดับโลกด้านอุปกรณ์ชาร์จและอุปกรณ์เสริมคุณภาพสูง เน้นวัสดุดี ฟังก์ชันเสถียร

• รุ่นแนะนำ: Anker 555 USB-C Hub (8-in-1), Anker 341 USB-C Hub (7-in-1), Anker 4-Port Ultra-Slim USB 3 Data Hub
• จุดเด่น: คุณภาพดีมาก วัสดุแข็งแรงทนทาน การเชื่อมต่อเสถียร รองรับ PD Charging ได้สูง มีรุ่น Multiport ที่รวมหลายพอร์ตไว้ในตัวเดียว เหมาะกับคนใช้อุปกรณ์ Type-C เยอะๆ
• ข้อเสีย: ราคาสูงกว่าแบรนด์ทั่วไปบางรุ่น
• เหมาะกับ: คนที่ต้องการ USB HUB คุณภาพพรีเมียม เน้นความเสถียร ทนทาน และรองรับฟังก์ชันครบครัน ใช้งานหนัก
• ช่องทางซื้อ: Anker Official Store ใน Lazada/Shopee, ร้านอุปกรณ์ไอทีชั้นนำ, Ubuy Thailand (สินค้านำเข้า)
• ช่วงราคา: เริ่มต้นหลักร้อยปลายๆ ไปจนถึงสองพันกว่าบาท
• รีวิว: "Anker ไว้ใจได้เสมอ คุณภาพสมราคามาก ใช้ Hub ตัวนี้ต่อทุกอย่างพร้อมกันไม่มีปัญหา" - ผู้ใช้งาน MacBook. "ชอบดีไซน์เรียบๆ แต่แข็งแรงมาก" - รีวิวออนไลน์. "ชาร์จเร็ว ต่อจอได้สบาย" - ผู้ใช้งาน Anker Hub.

3. Baseus

แบรนด์จากจีน ที่มาแรงมากๆ ในช่วงหลัง คุณภาพดี ดีไซน์สวย มีนวัตกรรมและฟังก์ชันพิเศษ

• รุ่นแนะนำ: Baseus Metal Gleam Series (มีหลายรุ่นย่อย เช่น 6-in-1, 8-in-1, 10-in-1, 16-in-1), Baseus 8-in-1 USB C Hub
• จุดเด่น: ดีไซน์สวยงาม วัสดุดูพรีเมียม มีรุ่นที่มีพอร์ตเยอะมากๆ (เช่น 16-in-1) ตอบโจทย์คนต้องการเชื่อมต่ออุปกรณ์สารพัด มีฟังก์ชันพิเศษบางอย่าง เช่น ปุ่มปิดหน้าจอ รองรับ PD Charging สูง
• ข้อเสีย: บางรุ่นอาจมีราคาสูงตามจำนวนพอร์ตและฟังก์ชัน
• เหมาะกับ: คนที่เน้นดีไซน์สวย ฟังก์ชันครบครัน ต้องการ Hub ที่มีพอร์ตหลากหลายมากๆ หรือมองหาฟังก์ชันพิเศษเฉพาะตัว
• ช่องทางซื้อ: Baseus Official Store ใน Lazada/Shopee, ร้านอุปกรณ์ไอทีทั่วไป, Ubuy Thailand
• ช่วงราคา: เริ่มต้นหลักร้อย (รุ่นพอร์ตน้อย/เก่าหน่อย) ไปจนถึงสองพันกว่าบาท (รุ่นพอร์ตเยอะ/ใหม่)
• รีวิว: "Baseus ดีไซน์สวยมาก ถูกใจสุดๆ วางบนโต๊ะทำงานแล้วดูดี" - ผู้ใช้งาน. "รุ่น 16-in-1 คือที่สุด! ต่อครบทุกอย่างที่ผมมีเลย" - ครีเอเตอร์. "คุณภาพดีเกินคาด ราคาไม่แรงถ้าเทียบกับฟังก์ชันที่ได้" - รีวิวใน ZDNet.

4. Belkin

แบรนด์จากอเมริกา มีชื่อเสียงยาวนานด้านอุปกรณ์เชื่อมต่อและอุปกรณ์เสริมคุณภาพดี ได้มาตรฐาน

• รุ่นแนะนำ: Belkin Multiport Hub Series (เช่น 6-in-1, 7-in-1, 11-in-1)
• จุดเด่น: คุณภาพเชื่อถือได้ ได้มาตรฐานสากล การเชื่อมต่อเสถียร รองรับฟังก์ชันพื้นฐานครบครัน เช่น HDMI 4K, Ethernet, PD Charging มีประกันค่อนข้างดี
• ข้อเสีย: ราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับแบรนด์เอเชีย
• เหมาะกับ: คนที่เน้นแบรนด์คุณภาพเชื่อถือได้ ต้องการ Hub ที่ได้มาตรฐาน ใช้งานระยะยาว และให้ความสำคัญกับการรับประกัน
• ช่องทางซื้อ: Belkin Thailand Official Store, ร้านอุปกรณ์ไอทีชั้นนำ (เช่น Power Buy, Studio 7), Lazada, Shopee, Ubuy Thailand
• ช่วงราคา: เริ่มต้นพันกว่าบาท ไปจนถึงสามพันกว่าบาท
• รีวิว: "ใช้ Belkin มาหลายปีแล้ว ทนทาน ไม่เคยมีปัญหาเลย" - พนักงานออฟฟิศ. "คุณภาพตามมาตรฐาน Belkin ครับ ซื้อแล้วสบายใจ" - ลูกค้า Power Buy. "ต่อจอ 4K ได้ชัดเจนดี" - ผู้ใช้งาน Hub Belkin.

5. Vention

แบรนด์จากจีน ที่เน้นอุปกรณ์เชื่อมต่อและสายเคเบิล มีสินค้าหลากหลาย คุณภาพดีในราคาที่เข้าถึงง่าย

• รุ่นแนะนำ: Vention Multiport Hub รุ่นต่างๆ (มีให้เลือกหลากหลายพอร์ต), Vention 4-Port USB 3.0 Hub
• จุดเด่น: ราคาเป็นมิตรกับกระเป๋า มีรุ่นให้เลือกเยอะมาก ครอบคลุมทั้งแบบ USB-A และ USB-C คุณภาพคุ้มราคา
• ข้อเสีย: คุณภาพวัสดุบางรุ่นอาจจะไม่พรีเมียมเท่าแบรนด์ราคาสูงๆ
• เหมาะกับ: คนที่มองหา USB HUB ราคาประหยัด มีพอร์ตพื้นฐานครบครัน ใช้งานทั่วไป เน้นความคุ้มค่า
• ช่องทางซื้อ: Vention Official Store ใน Lazada/Shopee, ร้านอุปกรณ์ไอทีทั่วไป, Remax Thailand
• ช่วงราคา: เริ่มต้นหลักร้อย ไม่ถึงพันบาทสำหรับรุ่นทั่วไป
• รีวิว: "Vention ราคาถูกดี แต่คุณภาพใช้ได้เลยนะ พอร์ตครบตามต้องการ" - นักเรียน. "ซื้อมาใช้กับโน้ตบุ๊กที่บ้านโอเคเลย ต่อเมาส์ คีย์บอร์ด ฮาร์ดดิสก์ สบายๆ" - ผู้ใช้งานทั่วไป. "มีรุ่นให้เลือกเยอะมากครับ หาสเปกที่ต้องการได้ง่าย" - รีวิวออนไลน์.

6. TP-Link

แบรนด์จากจีน ที่รู้จักกันดีในไทยเรื่องอุปกรณ์เน็ตเวิร์ก แต่ก็มี USB HUB คุณภาพดีออกมาเช่นกัน เน้นความเสถียรและฟังก์ชันที่จำเป็น

• รุ่นแนะนำ: TP-Link UH700 (7-Port USB 3.0 Hub), TP-Link UH720 (7-Port USB 3.0 + 2 Charging Ports)
• จุดเด่น: แบรนด์เชื่อถือได้เรื่องความเสถียร มีรุ่นที่มีพอร์ต USB-A เยอะๆ พร้อมไฟเลี้ยง เหมาะกับการต่ออุปกรณ์หลายๆ อย่างที่กินไฟ มีพอร์ตชาร์จสำหรับมือถือหรือแท็บเล็ตในบางรุ่น
• ข้อเสีย: รุ่น Type-C Multiport อาจจะยังมีตัวเลือกไม่หลากหลายเท่าแบรนด์อื่นที่เน้นด้านนี้โดยเฉพาะ
• เหมาะกับ: คนที่ต้องการ USB HUB ที่มีความเสถียร ต่ออุปกรณ์ USB-A เยอะๆ หรือต้องการ Hub แบบมีไฟเลี้ยง เน้นใช้งานกับคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะหรือโน้ตบุ๊กที่มีพอร์ต USB-A
• ช่องทางซื้อ: TP-Link Official Store ใน Lazada/Shopee, ร้านอุปกรณ์ไอทีทั่วไป (เช่น JIB, Advice, BaNANA, Power Buy), ตัวแทนจำหน่ายอย่าง RS Components
• ช่วงราคา: เริ่มต้นหลักร้อยปลายๆ ไปจนถึงพันต้นๆ
• รีวิว: "TP-Link UH700 เสียบพร้อมกันหลายอย่างก็ยังเสถียรดีครับ" - ผู้ใช้งาน Hub TP-Link. "รุ่นมีไฟเลี้ยง ต่อฮาร์ดดิสก์หลายลูกสบายเลย ไม่มีปัญหาไฟไม่พอ" - ช่างคอม. "แบรนด์นี้ไว้ใจได้เรื่องความทนทาน" - รีวิวออนไลน์.

7. HyperDrive

แบรนด์จากอเมริกา ที่โดดเด่นด้านอุปกรณ์เสริมสำหรับ Apple โดยเฉพาะ Mac และ iPad เน้นดีไซน์พรีเมียม ฟังก์ชันครบสำหรับผู้ใช้งาน Apple

• รุ่นแนะนำ: HyperDrive DUO Series (สำหรับ MacBook), HyperDrive NET Series, HyperDrive 4-in-1 USB-C Hub
• จุดเด่น: ดีไซน์สวยงาม เข้ากับอุปกรณ์ Apple ได้ดี วัสดุเป็นอะลูมิเนียมแข็งแรงทนทาน มีรุ่นที่ออกแบบมาสำหรับ MacBook Pro/Air โดยเฉพาะ เสียบเข้ากับพอร์ตคู่ได้พอดี รองรับพอร์ตครบครันสำหรับสายทำงาน เช่น HDMI 4K, SD Card Reader, Ethernet
• ข้อเสีย: ราคาสูงกว่าแบรนด์ทั่วไป เน้นตลาดผู้ใช้งาน Apple เป็นหลัก
• เหมาะกับ: ผู้ใช้งาน MacBook, iPad Pro ที่ต้องการ USB HUB คุณภาพดี ดีไซน์สวยงาม ฟังก์ชันครบ และเข้ากันได้ดีกับอุปกรณ์ Apple
• ช่องทางซื้อ: ร้านค้าที่จำหน่ายอุปกรณ์เสริม Apple (เช่น iStudio by Copperwired - ต้องตรวจสอบรุ่น), ตัวแทนจำหน่าย Hyper, Lazada, Shopee, Ubuy Thailand (สินค้านำเข้า)
• ช่วงราคา: เริ่มต้นประมาณพันกลางๆ ไปจนถึงสามพันกว่าบาท
• รีวิว: "HyperDrive เป็น Hub คู่บุญ MacBook จริงๆ ครับ เสียบแล้วดูดีมาก" - ผู้ใช้งาน MacBook. "พอร์ตครบ ต่อจอ ต่อ SD Card ได้สบาย" - ช่างภาพที่ใช้ MacBook. "วัสดุดีมาก งานประกอบเนี๊ยบสมราคา" - รีวิวใน 425degree.

8. Remax

แบรนด์จากฮ่องกง ที่มีสินค้าหลากหลายประเภท โดยเฉพาะอุปกรณ์เสริมมือถือ มี USB HUB ที่เน้นดีไซน์และราคาที่เป็นเจ้าของได้ง่าย

• รุ่นแนะนำ: Remax USB HUB รุ่นต่างๆ (เช่น RU-U7)
• จุดเด่น: ราคาถูก หาซื้อได้ง่าย มีรุ่นที่มีพอร์ตพื้นฐานที่จำเป็น เช่น USB-A, Card Reader เหมาะกับการใช้งานง่ายๆ ทั่วไป
• ข้อเสีย: คุณภาพและฟังก์ชันอาจจะไม่เทียบเท่าแบรนด์ที่ราคาสูงกว่า ตัวเลือกพอร์ตอาจไม่หลากหลายเท่า Hub Multiport ของแบรนด์อื่น
• เหมาะกับ: คนที่ต้องการ USB HUB ราคาประหยัดมากๆ สำหรับใช้งานพื้นฐานทั่วไป ไม่ได้ต้องการพอร์ตพิเศษหรือความเร็วสูงมากนัก
• ช่องทางซื้อ: Remax Thailand Official Store, ร้านอุปกรณ์เสริมมือถือทั่วไป, Lazada, Shopee
• ช่วงราคา: เริ่มต้นหลักร้อย ไม่ถึงพันบาท
• รีวิว: "Remax ราคาดีมาก ซื้อมาใช้แค่ต่อเมาส์ คีย์บอร์ด ก็คุ้มแล้ว" - ผู้ใช้งาน. "หาซื้อง่ายดี มีขายตามร้านทั่วไป" - ลูกค้า Remax. "พอร์ตมีเท่าที่จำเป็น ใช้ได้ดีกับมือถือบางรุ่นด้วย" - รีวิวออนไลน์.

9. Orico

แบรนด์จากจีน ที่เชี่ยวชาญด้านอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลและอุปกรณ์เชื่อมต่อ มี USB HUB ที่หลากหลาย เน้นประสิทธิภาพและความคุ้มค่า

• รุ่นแนะนำ: Orico Multiport Hub รุ่นต่างๆ (เช่น ORICO MC-U601P), Orico 4-Port USB 3.0 Hub
• จุดเด่น: มีรุ่นให้เลือกเยอะ ทั้งแบบ USB-A และ USB-C บางรุ่นดีไซน์สวยงาม ช่วยระบายความร้อนได้ดี เน้นความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูล มีรุ่นที่ออกแบบมาให้หนีบกับขอบโต๊ะหรือจอได้
• ข้อเสีย: บางรุ่นรีวิวผู้ใช้อาจจะแตกต่างกันไป ควรดูรีวิวเฉพาะรุ่นที่สนใจ
• เหมาะกับ: คนที่ต้องการ USB HUB ที่มีตัวเลือกหลากหลายตามงบประมาณและสเปกที่ต้องการ เน้นการใช้งานที่บ้านหรือออฟฟิศ มีรุ่นสำหรับจัดระเบียบสายได้ดี
• ช่องทางซื้อ: Orico Official Store ใน Lazada/Shopee, ร้านอุปกรณ์ไอทีทั่วไป, Power Buy
• ช่วงราคา: เริ่มต้นหลักร้อย ไปจนถึงพันกว่าบาท
• รีวิว: "Orico รุ่นหนีบโต๊ะดีมาก ช่วยประหยัดพื้นที่บนโต๊ะได้เยอะ" - พนักงานออฟฟิศ. "ความเร็วใช้ได้เลยครับ ย้ายไฟล์ใหญ่ๆ ไม่ช้า" - ผู้ใช้งาน Orico Hub. "มีรุ่นดีไซน์สวยๆ ให้เลือกเยอะ" - รีวิวออนไลน์.

10. Hagibis

แบรนด์จากจีน ที่กำลังได้รับความนิยมในกลุ่มผู้ใช้งานอุปกรณ์ Apple และผู้ที่มองหาอุปกรณ์เสริมที่มีดีไซน์และฟังก์ชันครบครัน

• รุ่นแนะนำ: Hagibis TSX series Multifunction Hub
• จุดเด่น: รองรับพอร์ตหลากหลาย ทั้ง USB-A 5Gbps, HDMI 4K 60Hz บางรุ่นดีไซน์สวยงาม เหมาะกับผู้ใช้งาน Mac
• ข้อเสีย: อาจจะยังไม่เป็นที่รู้จักในวงกว้างเท่าแบรนด์ใหญ่ๆ บางรุ่นอาจจะต้องสั่งผ่านร้านนำเข้า
• เหมาะกับ: ผู้ใช้งานที่ต้องการ Hub ที่มีพอร์ตจำเป็นครบครัน โดยเฉพาะ HDMI 4K 60Hz สำหรับต่อจอภายนอก เน้นความคุ้มค่าและฟังก์ชันการใช้งาน
• ช่องทางซื้อ: Hagibis Official Thailand ใน Shopee, ร้านค้าออนไลน์อื่นๆ
• ช่วงราคา: เริ่มต้นหลักร้อย ไปจนถึงพันต้นๆ
• รีวิว: "Hagibis ใช้ดีเกินคาดครับ ต่อจอนอกได้ชัดเจน ไม่มีดีเลย์" - ผู้ใช้งาน. "ราคาสบายกระเป๋า แต่ได้ Hub ที่มีพอร์ตครบตามต้องการ" - รีวิวใน Shopee.

คำถามที่พบบ่อย (FAQ) ฉบับคนอยากมีพอร์ตเยอะๆ!

Q: USB HUB แบบมีไฟเลี้ยงกับไม่มีไฟเลี้ยง ต่างกันยังไง? อันไหนดีกว่ากัน?
A: แบบไม่มีไฟเลี้ยง (Bus-powered) จะดึงไฟจากพอร์ต USB ของอุปกรณ์หลักเราโดยตรงครับ ข้อดีคือพกพาสะดวก ไม่ต้องต่อ Adapter ให้ยุ่งยาก แต่ข้อเสียคือถ้าต่ออุปกรณ์ที่กินไฟเยอะพร้อมกันหลายๆ อย่าง เช่น ฮาร์ดดิสก์ภายนอก อาจจะทำให้ไฟไม่พอ หรือ Hub ทำงานได้ไม่เต็มที่ครับ ส่วน แบบมีไฟเลี้ยง (Self-powered) จะมี Adapter มาให้เสียบไฟเพิ่ม ข้อดีคือจ่ายไฟได้เสถียร ต่ออุปกรณ์ที่กินไฟเยอะๆ ได้สบาย ไม่มีปัญหาเรื่องไฟตกครับ เหมาะกับคนที่ต่ออุปกรณ์หลายชิ้นพร้อมกัน หรือใช้ Hub เป็นเหมือน Docking Station บนโต๊ะทำงานครับ

Q: USB 3.0, USB 3.1, USB 3.2 Gen 1/Gen 2 ต่างกันยังไง?
A: ง่ายๆ เลยคือเรื่อง ความเร็ว ครับ! USB 3.0, USB 3.1 Gen 1 และ USB 3.2 Gen 1 คือความเร็วเท่ากันที่ 5Gbps ครับ ส่วน USB 3.1 Gen 2 และ USB 3.2 Gen 2 จะเร็วกว่าที่ 10Gbps ครับ ถ้าต้องย้ายไฟล์ใหญ่ๆ บ่อยๆ เลือก Hub ที่รองรับ Gen 2 ขึ้นไปจะดีกว่าครับ

Q: Hub USB-C แบบมี Power Delivery (PD) จำเป็นไหม?
A: ถ้าโน้ตบุ๊กหรือแท็บเล็ตเราชาร์จผ่านพอร์ต USB-C ได้และมีพอร์ต Type-C น้อย การมี Hub ที่รองรับ PD จำเป็นมากๆ ครับ! เพราะเราจะสามารถเสียบชาร์จอุปกรณ์หลักของเราผ่าน Hub ได้เลย โดยไม่ต้องเสียสละพอร์ต Type-C ไปเพื่อชาร์จอย่างเดียว ทำให้เรามีพอร์ตเหลือสำหรับต่ออุปกรณ์อื่นๆ ได้มากขึ้นครับ

Q: ซื้อ USB HUB ใน Lazada/Shopee ร้านที่ไม่ใช่ Official Store เชื่อถือได้ไหม?
A: มีทั้งร้านที่เชื่อถือได้และร้านที่ไม่น่าไว้ใจปะปนกันไปครับ ถ้าเป็นร้านที่คะแนนรีวิวดีมากๆ มีผู้ซื้อเยอะๆ ก็มีโอกาสได้ของแท้ คุณภาพดีครับ แต่ถ้าเจอร้านที่ไม่คุ้นเคย ราคาถูกจนน่าตกใจมากๆ ให้ เช็คดีๆ อ่านรีวิวจากผู้ซื้อคนอื่นเยอะๆ ก่อนตัดสินใจครับ หรือถ้าไม่แน่ใจจริงๆ ซื้อจากร้าน Official Store หรือร้านตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการจะปลอดภัยที่สุดครับ

Q: ต่อ USB HUB แล้วมีปัญหาอุปกรณ์บางอย่างใช้ไม่ได้ หรือความเร็วตก ต้องทำยังไง?
A: ลองเช็คดูครับว่า Hub ของเรามีไฟเลี้ยงเพียงพอไหม ถ้าต่ออุปกรณ์ที่กินไฟเยอะหลายๆ อย่างพร้อมกัน อาจจะต้องใช้ Hub แบบมีไฟเลี้ยง นอกจากนี้ ลองเช็ค Driver ของอุปกรณ์ที่นำมาต่อ และ Driver ของพอร์ต USB บนคอมพิวเตอร์เราด้วยครับว่าอัปเดตล่าสุดหรือยัง บางครั้งการอัปเดต Driver ก็ช่วยแก้ปัญหาได้ครับ และสุดท้าย ลองเช็คว่าเป็นที่สาย USB ที่นำมาต่อกับ Hub หรือไม่ บางครั้งสายคุณภาพไม่ดีก็ทำให้เกิดปัญหาได้ครับ

สรุปส่งท้าย เลือก USB HUB ให้ใช่ ในสไตล์เรา!

เห็นไหมครับว่า USB HUB มีตัวเลือกเยอะแยะเต็มไปหมด! การจะเลือกรุ่นที่ใช่ ก็ต้องเริ่มจากถามตัวเองก่อนว่า เราจะเอาไปทำอะไร? งบประมาณเท่าไหร่? และต้องการพอร์ตอะไรบ้าง?

• ถ้า งบจำกัด แต่อยากได้ Hub คุณภาพพอใช้ มีพอร์ตพื้นฐานครบๆ ลองดู Vention หรือ Remax ครับ
• ถ้าต้องการ คุณภาพดี เสถียร ทนทาน ใช้งานยาวๆ แนะนำ Anker หรือ Belkin ครับ
• ถ้าเน้น พอร์ตเยอะ หลากหลาย ฟังก์ชันครบ ดีไซน์สวย มองไปที่ UGREEN หรือ Baseus รุ่น Multiport ได้เลยครับ
• ถ้าใช้ MacBook หรือ iPad Pro และต้องการ Hub ที่เข้ากันได้ดี ดีไซน์สวย แนะนำ HyperDrive ครับ
• ถ้าเน้น Hub แบบมีไฟเลี้ยง ต่ออุปกรณ์ USB-A เยอะๆ ใช้งานที่บ้านหรือออฟฟิศ ลองดู TP-Link UH Series หรือ UGREEN CM481 ครับ
• ถ้าต้องการ Hub ที่มี พอร์ตหลากหลาย ดีไซน์เก๋ๆ จัดระเบียบโต๊ะได้ ลองดู Orico บางรุ่นได้ครับ

สิ่งสำคัญอีกอย่างคือ อย่าลืมเช็ค ชนิดของพอร์ตหลักบนอุปกรณ์เรา ให้ดีก่อนซื้อ และเลือก Hub ที่มี พอร์ตที่เราต้องการใช้งานจริงๆ ครับ อย่าซื้อตามกระแสอย่างเดียว และแน่นอน! ในช่วงเทศกาลช้อปปิ้งใหญ่ๆ อย่าง 11.11, 12.12 หรือโปรโมชั่นกลางปี บน Lazada Shopee มักจะมีดีลเด็ดๆ ลดราคา USB HUB เยอะมาก! ถ้าเล็งตัวไหนไว้ เตรียมกดให้ทันนะครับ! 😉

มาเมาท์มอยกันหน่อย! แชร์ประสบการณ์หน่อยจ้า!

เพื่อนๆ คนไหนกำลังใช้ USB HUB ยี่ห้อไหน รุ่นไหนอยู่บ้าง? เป็นยังไง เล่าสู่กันฟังหน่อยสิครับ! ชอบตรงไหน ไม่ชอบตรงไหน หรือมีรุ่นไหนอยากแนะนำเพิ่มเติม คอมเมนต์มาคุยกันได้เลยนะ! 👇

ถ้าใครถูกใจบทความนี้ อยากให้กำลังใจ หรืออยากได้พิกัดร้าน/ลิงก์โปรโมชั่นดีๆ รบกวนพิมพ์คำว่า "จัดลิงก์ Hub มาเลย!" เดี๋ยวผมรวบรวมแหล่งช้อปปิ้งออนไลน์ที่น่าสนใจให้เป็นพิเศษเลยจ้าาา! แล้วเจอกันใหม่บทความหน้า สวัสดีครับ! 👋

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• USB-C Hub เจ๋งที่สุด 10-in-1 มีทั้งพอร์ต DP, UHS-II ความเร็วมา ...
• รีวิว USD HUB 10 in 1 มัลติฟังก์ชันแบบครบครัน
• 9 อันดับ USB HUB ยี่ห้อไหนดี ? 2021
• 10 in 1 USB Hub โคตรคุ้มมาพร้อม M.2 SSD Doc และระบายความ ...
• แนะนำ 5 อันดับ Multiport USB-C ยอดนิยม | JIB Review EP.214 ...