10 แว่นกรองแสงสีฟ้า ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 ถนอมสายตา ใส่สบาย
สวัสดีครับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ สายจ้องจอทุกคน! 👋 ยุคนี้ไม่ว่าจะทำงาน เรียน เล่น หรือดูซีรีส์ยาวๆ เราก็หนีไม่พ้นเจ้าแสงสีฟ้าที่พุ่งออกมาจากหน้าจอสารพัด ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต หรือแม้แต่ทีวีใช่ไหมครับ?
เจ้าแสงสีฟ้านี่แหละ ตัวร้ายที่ทำให้เราตาล้า ปวดตา ตาแห้ง บางทีปวดหัวตุ้บๆ ตอนดึกๆ ก็เพราะมันนี่แหละครับ! และในระยะยาวอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพดวงตาได้อีกด้วย. เพราะงั้น "แว่นกรองแสงสีฟ้า" เลยกลายเป็นไอเทมสามัญประจำบ้านของคนยุคนี้ไปโดยปริยาย!
แต่ปัญหาคือ... โอ้โห! ในตลาดตอนนี้มีแว่นกรองแสงสีฟ้าให้เลือกเยอะแยะเต็มไปหมด ทั้งแบรนด์ไทย แบรนด์นอก ดีไซน์เก๋ๆ เพียบ จนเลือกไม่ถูกเลยว่าจะ "แว่นกรองแสงสีฟ้า ยี่ห้อไหนดี" ที่จะช่วยถนอมสายตาเราได้จริง แถมยังใส่สบาย ไม่หนักหน้า!
ไม่ต้องปวดตา เอ๊ย! ไม่ต้องปวดหัวไปครับ วันนี้ผมจะมาเป็นไกด์พาไปส่อง 10 แว่นกรองแสงสีฟ้าตัวเด็ด ที่น่าสอยในปี 2025 นี้ คัดมาแล้วว่าคนไทยเค้าว่าดี มีทั้งตัวที่ราคาเป็นมิตร ไปจนถึงพรีเมียม ใครกำลังเล็งหาแว่นคู่ใจอยู่ ตามมาดูกันเลยครับ!
ตลาดแว่นกรองแสงสีฟ้าในไทย ฮอตปรอทแตก!
บอกเลยว่าตลาดแว่นกรองแสงในไทยช่วงนี้คือ "มาแรงแซงทุกโค้ง!" ครับ! ด้วยความที่เราใช้ชีวิตติดจอกันมากขึ้น ปัญหาตาล้า ปวดตา ก็พุ่งสูงตามไปด้วย ทำให้คนเริ่มตระหนักถึงความสำคัญของการป้องกันดวงตาจากแสงสีฟ้า.
ในตลาดบ้านเรามีทั้งแบรนด์ไทยที่ทำแว่นคุณภาพดีออกมาแข่งกับแบรนด์ต่างชาติเจ้าดังๆ หลายแบรนด์เลยครับ ส่วนใหญ่ที่เห็นกันบ่อยๆ ก็จะเป็นแบรนด์ที่เน้นขายออนไลน์บนแพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่อย่าง Lazada กับ Shopee เพราะเข้าถึงง่าย มีโปรโมชั่นเร้าใจตลอดปี. บางแบรนด์ก็นิยมนำเข้าเลนส์คุณภาพจากยุโรปอย่าง Essilor หรือ Zeiss มาประกอบกับกรอบแว่น.
พฤติกรรมผู้บริโภคชาวไทยเวลาเลือกซื้อแว่นกรองแสง ก็จะมองหาหลายปัจจัยรวมๆ กันไปครับ ตั้งแต่ราคาที่คุ้มค่า (มีตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักพัน), ดีไซน์ที่เข้ากับรูปหน้าและไลฟ์สไตล์ (มีตั้งแต่ทรงคลาสสิกไปจนถึงแฟชั่นจ๋า), น้ำหนักเบาใส่สบาย, และที่สำคัญคือ คุณสมบัติในการกรองแสงสีฟ้าและป้องกัน UV ได้จริง พร้อมกับรีวิวจากผู้ใช้งานจริงบนช่องทางออนไลน์ต่างๆ นั่นเองครับ.
เลือกแว่นกรองแสงสีฟ้ายังไง ไม่ให้พลาด?
ก่อนจะเสียเงินเสียทอง เรามาดูกันก่อนว่ามีอะไรที่เราต้องพิจารณาบ้าง เพื่อให้ได้แว่นที่ถูกใจและตอบโจทย์การใช้งานของเราที่สุดครับ ลองดูลิสต์นี้เป็นแนวทางได้เลย:
- คุณสมบัติการกรองแสง: อันนี้สำคัญสุด! เลนส์ควรจะกรองแสงสีฟ้าที่เป็นอันตราย (ช่วงคลื่นสั้น) ได้ดี. บางแบรนด์เคลมเปอร์เซ็นต์การกรองไว้ชัดเจน (เช่น 75%, 95%). เช็คด้วยว่าป้องกันรังสี UV ได้ด้วยไหม (UV400) เพราะ UV ก็อันตรายต่อตาไม่แพ้กันครับ.
- วัสดุเลนส์และกรอบ: เลนส์ที่ดีควรมีความคมชัด ทนทานต่อรอยขีดข่วน และอาจมีการเคลือบผิวพิเศษ เช่น ลดแสงสะท้อน กันน้ำ กันฝุ่น เพื่อความสบายตา. ส่วนกรอบควรทำจากวัสดุน้ำหนักเบา ยืดหยุ่น และทนทาน เช่น TR90, Titanium, Ultem. น้ำหนักแว่นที่เบาจะช่วยให้ใส่สบาย ไม่กดจมูกหรือใบหูเมื่อใส่นานๆ.
- ดีไซน์และความสบายในการสวมใส่: เลือกทรงที่เข้ากับรูปหน้าเรา ใส่แล้วรู้สึกสบาย กระชับ ไม่หลวมหรือแน่นเกินไป. บางรุ่นมีแป้นจมูกที่ออกแบบมาเพื่อคนเอเชียโดยเฉพาะ ก็จะช่วยให้ใส่สบายขึ้น.
- มีค่าสายตาไหม?: ถ้ามีปัญหาเรื่องสายตาสั้น ยาว เอียงอยู่แล้ว ควรเลือกร้านที่สามารถตัดเลนส์กรองแสงสีฟ้าแบบมีค่าสายตาได้เลย.
- ชื่อเสียงแบรนด์และรีวิว: ลองดูว่าแบรนด์มีความน่าเชื่อถือแค่ไหน มีรีวิวจากผู้ใช้งานจริงในไทยเป็นยังไงบ้าง ยิ่งมีคนรีวิวเยอะๆ คะแนนดีๆ ก็ยิ่งน่าสนใจครับ.
- ช่องทางซื้อและบริการหลังการขาย: ซื้อง่าย คืนสะดวกไหม? มีประกันสินค้าหรือบริการหลังการขายรองรับหรือเปล่า?.
จัดมา! 10 แว่นกรองแสงสีฟ้า น่าสอย ปี 2025!
ได้เวลาของพระเอกนางเอกของเราแล้วครับ! ผมคัด 10 แบรนด์ (และรุ่นเด่น) ที่น่าสนใจมาให้แล้ว มีทั้งตัวฮิตติดลมบนและน้องใหม่มาแรง ลองดูสิว่ามีตัวไหนเข้าตากรรมการบ้าง!
1. OPHTUS
- เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์ไทยที่มาแรงในวงการแว่นสำหรับ Gamer และคนทำงานหน้าจอนานๆ.
- สินค้ารุ่น/ซีรีส์เด่น: รุ่น Nighthawk, Zero, Hover 2.0.
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
- ข้อดี: เน้นกรองแสงสีฟ้าเพื่อลดอาการตาล้าจากการจ้องจอนานๆ. กรอบแว่นใช้วัสดุดี ยืดหยุ่น ทนทาน (เช่น Nova Ultem, โลหะผสม) บิดงอได้ ตกไม่แตกในบางรุ่น. น้ำหนักเบา ใส่สบาย. มีดีไซน์สวย เท่ ทันสมัย.
- ข้อเสีย: บางรุ่นราคาสูงกว่าแบรนด์ทั่วไปในตลาด.
- เหมาะกับใคร: Gamer ตัวยง, คนที่ต้องทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือมือถือนานๆ ทั้งวัน, นักเรียน/นักศึกษาที่เรียนออนไลน์.
- แนะนำช่องทางการซื้อ: ออนไลน์: Shopee, Lazada, เว็บไซต์แบรนด์.
- ช่วงราคา: เริ่มต้นประมาณ 2,290 บาท ขึ้นไป.
- รีวิวผู้ใช้งาน (จำลอง): "ซื้อรุ่น Zero มาใช้เล่นเกม สบายตาขึ้นเยอะเลย ไม่ปวดตาเหมือนเมื่อก่อน กรอบแว่นก็ทนมือดี". "น้ำหนักเบามากกก ใส่ทำงานทั้งวันลืมไปเลยว่าใส่แว่นอยู่".
2. Bewell
- เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์ที่เน้นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความสบาย มีแว่นกรองแสงที่ได้รับความนิยม.
- สินค้ารุ่น/ซีรีส์เด่น: รุ่น Titanium Blue Blocker.
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
- ข้อดี: กรองแสงสีฟ้าได้ในอัตราที่ค่อนข้างสูง (75% ในช่วงคลื่นอันตราย) และป้องกัน UV 100%. กรอบไทเทเนียมน้ำหนักเบา ใส่สบาย. เลนส์ทนทานต่อรอยขีดข่วน.
- ข้อเสีย: ดีไซน์อาจจะเน้นฟังก์ชันการใช้งานเป็นหลัก ไม่ได้มีแฟชั่นหลากหลายเท่าบางแบรนด์.
- เหมาะกับใคร: คนทำงานออฟฟิศ, นักเรียน/นักศึกษา, คนที่มองหาแว่นกรองแสงคุณภาพดี น้ำหนักเบา ในราคาที่เข้าถึงง่าย.
- แนะนำช่องทางการซื้อ: ออนไลน์: Lazada, Shopee.
- ช่วงราคา: ประมาณ 899 - 1,279 บาท.
- รีวิวผู้ใช้งาน (จำลอง): "แว่นเบาดีค่ะ ใส่ทำงานนานๆ ไม่เมื่อยล้า แถมกรองแสงได้ดีเลย". "ราคาไม่แพงมาก คุณภาพคุ้มราคา ซื้อให้แฟนใช้ แฟนชอบค่ะ".
3. Cyxus
- เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์ที่ได้รับความนิยมบนแพลตฟอร์มออนไลน์ มีตัวเลือกหลากหลาย.
- สินค้ารุ่น/ซีรีส์เด่น: รุ่น TR90 8183, รุ่น 8080.
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
- ข้อดี: กรอบแว่นวัสดุ TR90 มีความยืดหยุ่นสูง ทนทาน. เลนส์ใช้เทคโนโลยี HEV-Adsorb ช่วยดูดซับแสงสีฟ้า. บางรุ่นมีแผ่นรองจมูกซิลิโคนนุ่ม ออกแบบมาให้ใส่สบายสำหรับรูปหน้าชาวเอเชีย. ป้องกัน UV ได้.
- ข้อเสีย: เปอร์เซ็นต์การกรองแสงสีฟ้าอาจไม่ระบุชัดเจนทุกรุ่น.
- เหมาะกับใคร: คนที่มองหาแว่นกรองแสงดีไซน์หลากหลาย ในราคาที่จับต้องได้, นักเรียน, พนักงานออฟฟิศ.
- แนะนำช่องทางการซื้อ: ออนไลน์: Lazada, Shopee.
- ช่วงราคา: มีตั้งแต่หลักร้อย (ประมาณ 639 บาท) ไปจนถึงพันต้นๆ ขึ้นอยู่กับรุ่น.
- รีวิวผู้ใช้งาน (จำลอง): "กรอบแว่นยืดหยุ่นดีมากกก ไม่ต้องกลัวหักเลย", "ใส่ Cyxus แล้วรู้สึกตาไม่ค่อยล้าเหมือนเมื่อก่อน ดีไซน์ก็สวยด้วย".
4. ALP
- เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์ที่โดดเด่นเรื่องความคุ้มค่า ราคาเป็นมิตร เข้าถึงง่าย.
- สินค้ารุ่น/ซีรีส์เด่น: รุ่น E040, E032 (ทรงหยดน้ำ), BB0077 (ไร้กรอบ).
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
- ข้อดี: ราคาถูกมาก!. เคลมว่ากรองแสงสีฟ้าได้สูงถึง 95% ในหลายรุ่น. ป้องกันรังสี UV ได้. น้ำหนักเบา ใส่สบาย.
- ข้อเสีย: คุณภาพวัสดุอาจจะไม่พรีเมียมเท่าแบรนด์ที่ราคาสูงกว่า. ดีไซน์เน้นความเรียบง่าย.
- เหมาะกับใคร: คนที่งบประมาณจำกัดมากๆ, นักเรียน/นักศึกษา, คนที่อยากลองใช้แว่นกรองแสงเป็นครั้งแรก.
- แนะนำช่องทางการซื้อ: ออนไลน์: Lazada, Shopee.
- ช่วงราคา: ราคาเริ่มต้นหลักร้อย ไม่ถึงพัน.
- รีวิวผู้ใช้งาน (จำลอง): "ถูกและดีมีอยู่จริงค่ะตัวนี้! กรองแสงได้ดีเลย คุ้มเกินราคา", "ซื้อมาให้ลูกใช้เรียนออนไลน์ ไม่ต้องกลัวพัง ราคาเบาๆ".
5. Xiaomi
- เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์เทคโนโลยีระดับโลกจากจีน ที่มีสินค้าหลากหลาย รวมถึงแว่นสำหรับใช้งานกับหน้าจอ.
- สินค้ารุ่น/ซีรีส์เด่น: Xiaomi Youpin TS / Computer Glasses Pro.
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
- ข้อดี: แบรนด์น่าเชื่อถือ คุณภาพมาตรฐาน. กรองแสงสีฟ้าและ UV400 ได้. น้ำหนักเบา ใส่สบาย. ดีไซน์เรียบง่าย ทันสมัย.
- ข้อเสีย: อาจมีตัวเลือกดีไซน์และรุ่นที่เน้นกรองแสงโดยเฉพาะไม่มากเท่าแบรนด์แว่นตาโดยตรง.
- เหมาะกับใคร: แฟนๆ Xiaomi, คนที่มองหาแว่นกรองแสงจากแบรนด์เทคโนโลยีที่คุ้นเคย, คนทำงานทั่วไป.
- แนะนำช่องทางการซื้อ: ออนไลน์: Shopee, Lazada. ร้านค้า Xiaomi ในไทย.
- ช่วงราคา: ราคาปานกลาง ประมาณ 500 - 1,000+ บาท.
- รีวิวผู้ใช้งาน (จำลอง): "ใช้ของ Xiaomi หลายอย่าง คุณภาพดีเหมือนเดิม แว่นเบาดีค่ะ ใส่ทำงานนานๆ โอเคเลย", "ซื้อมาใช้คู่กับมือถือ Xiaomi รู้สึกเข้ากันดี ไม่ปวดตาเวลาเล่นมือถือนานๆ".
6. Bolon
- เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์แว่นตาแฟชั่นจากอิตาลี มีดีไซน์สวยงาม และมักใช้เลนส์คุณภาพ.
- สินค้ารุ่น/ซีรีส์เด่น: รุ่น Corwen BJ7271 (ใช้เลนส์ Essilor), รุ่น Lima BT6028 (เลนส์ออโต้), รุ่น Tasmania BT1590 (ไร้กรอบ).
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
- ข้อดี: ดีไซน์แฟชั่น สวยหรู มีสไตล์. มักใช้ร่วมกับเลนส์คุณภาพสูงจาก Essilor ซึ่งเป็นแบรนด์ดังจากฝรั่งเศส ทำให้มั่นใจในคุณภาพการกรองแสงและถนอมสายตา. มีวัสดุกรอบคุณภาพดี เช่น ไทเทเนียม.
- ข้อเสีย: ราคาสูงกว่าแบรนด์ที่เน้นความคุ้มค่า.
- เหมาะกับใคร: คนที่เน้นเรื่องดีไซน์และความสวยงามของแว่น, คนที่ต้องการแว่นคุณภาพดีจากแบรนด์แฟชั่นที่เชื่อถือได้, สามารถตัดเลนส์มีค่าสายตาและกรองแสงในร้านแว่นได้สะดวก.
- แนะนำช่องทางการซื้อ: ออฟไลน์: ร้านแว่นตาชั้นนำ (เช่น ร้านที่ขายเลนส์ Essilor/Zeiss). ออนไลน์: Lazada, Shopee (ร้านค้าทางการ).
- ช่วงราคา: ราคาสูงกว่าแบรนด์ทั่วไป เริ่มต้นประมาณ 2,000+ บาท.
- รีวิวผู้ใช้งาน (จำลอง): "กรอบ Bolon สวยมาก ใส่แล้วดูดี มีคนทักเยอะเลยค่ะ เลนส์ Essilor ก็สบายตามาก". "ซื้อจากร้านแว่น ตัดเลนส์กรองแสงของ Essilor ใส่ สบายตามากๆ ค่ะ คุ้มกับราคา".
7. ENVISZO
- เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์ที่มีแว่นกรองแสงให้เลือกหลากหลายบนแพลตฟอร์มออนไลน์.
- สินค้ารุ่น/ซีรีส์เด่น: รุ่น EZ3992 (Blue Control).
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
- ข้อดี: มีเลนส์แบบ Blue Control ช่วยตัดแสงสีฟ้าและป้องกัน UV. มีให้เลือกหลายแบบ หลายทรง เหมาะกับผู้ใช้งานทั่วไป. ราคาเข้าถึงง่าย.
- ข้อเสีย: ข้อมูลรีวิวเชิงลึกอาจจะไม่มากเท่าบางแบรนด์ใหญ่.
- เหมาะกับใคร: คนที่ชอบช้อปปิ้งออนไลน์, มองหาแว่นกรองแสงราคาไม่แพง คุณสมบัติครบถ้วน.
- แนะนำช่องทางการซื้อ: ออนไลน์: Lazada, Shopee.
- ช่วงราคา: ราคาเป็นมิตร หลักร้อยบาท.
- รีวิวผู้ใช้งาน (จำลอง): "สั่งจากในแอปส้ม ราคาดีมากค่ะ ลองใช้แล้วรู้สึกตาไม่ค่อยล้าเท่าเดิม โอเคเลย", "มีหลายแบบให้เลือกดีค่ะ ได้ทรงที่ชอบพอดี".
8. PERCY
- เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์แว่นตาที่มีจำหน่ายในร้านแว่นชั้นนำและบนช่องทางออนไลน์.
- สินค้ารุ่น/ซีรีส์เด่น: รุ่น 51191-C1.
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
- ข้อดี: สามารถเข้าถึงได้ง่าย ทั้งจากร้านแว่นและออนไลน์. เลนส์เป็นแบบ Blue Cut ช่วยกรองแสงสีฟ้าและป้องกัน UV. มีดีไซน์หลากหลาย.
- ข้อเสีย: คุณสมบัติทางเทคนิคของเลนส์อาจจะไม่ได้ระบุรายละเอียดชัดเจนเท่าเลนส์เฉพาะทาง.
- เหมาะกับใคร: คนที่สะดวกไปเลือกแว่นและลองที่ร้านแว่นโดยตรง, คนที่มองหาแว่นกรองแสงดีไซน์สวยในราคาปานกลาง.
- แนะนำช่องทางการซื้อ: ออฟไลน์: ร้านแว่นตา. ออนไลน์: Shopee, Lazada.
- ช่วงราคา: ราคาปานกลาง เริ่มต้นประมาณ 500+ บาท.
- รีวิวผู้ใช้งาน (จำลอง): "ไปลองที่ร้านแว่นแล้วชอบทรงนี้ค่ะ พอมาใช้กับหน้าจอคอมก็รู้สึกสบายตาขึ้น", "กรอบสวยดีค่ะ คุณภาพโอเคกับราคา ใส่ได้ทั้งวัน".
9. Botanic Glasses
- เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์แว่นตาที่เน้นการกรองแสงสีฟ้า ได้รับความนิยมในช่องทางออนไลน์.
- สินค้ารุ่น/ซีรีส์เด่น: รุ่น Super Blue Block, รุ่นที่มีเลนส์ออโต้+กรองแสงสีฟ้า.
วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
-
ข้อดี: เคลมคุณสมบัติการกรองแสงสีฟ้าที่สูง (สูงสุด 95%). ป้องกัน UV400. มีตัวเลือกเลนส์ออโต้ที่เปลี่ยนสีได้เมื่อออกแดด ซึ่งสะดวกในการใช้งาน. ราคาเป็นมิตร.
-
ข้อเสีย: อาจจะเน้นขายออนไลน์เป็นหลัก.
-
เหมาะกับใคร: คนที่เน้นคุณสมบัติการกรองแสงที่สูงเป็นพิเศษในราคาที่ไม่แพง, คนที่อยากได้แว่นกรองแสงพร้อมเลนส์ออโต้ที่สะดวกใช้งาน.
-
แนะนำช่องทางการซื้อ: ออนไลน์: Shopee, Lazada.
-
ช่วงราคา: ราคาหลักร้อยถึงพันต้นๆ เป็นมิตรกับงบประมาณ.
-
รีวิวผู้ใช้งาน (จำลอง): "95% นี่น่าสนใจมากค่ะ ลองใช้แล้วรู้สึกสบายตาดีจริง", "เลนส์ออโต้คือเริ่ด! ออกแดดก็เปลี่ยนสี กลับเข้าที่ร่มก็ใส สะดวกมาก".
10. OWNDAYS
- เกี่ยวกับแบรนด์: ร้านแว่นตาแฟชั่นจากประเทศญี่ปุ่นที่มีสาขามากมายในประเทศไทย.
- สินค้ารุ่น/ซีรีส์เด่น: มีกรอบแว่นหลากหลายรุ่น สามารถเลือกเลนส์กรองแสงสีฟ้าเพิ่มเติมได้. (เช่น รุ่น ESSENTIAL ที่เป็นกรอบไทเทเนียมน้ำหนักเบา).
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
- ข้อดี: มีกรอบแว่นดีไซน์แฟชั่นให้เลือกเยอะมาก. มีผู้เชี่ยวชาญช่วยวัดสายตาและให้คำแนะนำการเลือกเลนส์และกรอบอย่างมืออาชีพ. สามารถตัดเลนส์มีค่าสายตาพร้อมคุณสมบัติกรองแสงสีฟ้าได้ในร้านเดียว. ให้บริการรวดเร็ว.
- ข้อเสีย: ราคาสูงกว่าแบรนด์ที่ขายออนไลน์อย่างเดียว.
- เหมาะกับใคร: คนที่มีปัญหาเรื่องสายตาและต้องการตัดแว่นพร้อมเลนส์กรองแสงสีฟ้า, คนที่ชอบลองแว่นก่อนตัดสินใจซื้อ, คนที่ต้องการบริการจากผู้เชี่ยวชาญและรับประกันคุณภาพ.
- แนะนำช่องทางการซื้อ: ออฟไลน์: ร้าน OWNDAYS ตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำ.
- ช่วงราคา: ราคาปานกลางถึงสูง ขึ้นอยู่กับกรอบและเลนส์ที่เลือก เริ่มต้นประมาณ 2,000+ บาท.
- รีวิวผู้ใช้งาน (จำลอง): "ชอบดีไซน์ของ OWNDAYS มาก มีให้เลือกเยอะจริงๆ ค่ะ ตัดเลนส์บลูคัทที่นี่เลย พนักงานบริการดี รวดเร็ว". "สะดวกมากค่ะ มาที่เดียวได้ทั้งกรอบ ได้ทั้งเลนส์สายตา+กรองแสงเลย แถมวัดสายตาละเอียดดี".
คำถามที่พบบ่อย (FAQ) สไตล์คนใช้ชีวิตติดจอ!
Q: ระหว่างแว่นกรองแสงสีฟ้าแบบ "เลนส์ใส" กับ "เลนส์สีเหลือง/ชา" อันไหนกรองแสงดีกว่ากัน?
A: โดยทั่วไป เลนส์ที่มีสีเหลืองหรือสีชามักจะกรองแสงสีฟ้าได้มากกว่าเลนส์ใสครับ เพราะสีจะช่วยบล็อกแสงสีฟ้าได้ดีขึ้น แต่ข้อเสียคืออาจทำให้สีภาพที่มองเห็นเพี้ยนไปบ้าง. เลนส์ใสก็กรองได้ดีเช่นกัน แต่ต้องอาศัยเทคโนโลยีการเคลือบผิวเลนส์เป็นหลัก. ถ้าเน้นสีไม่เพี้ยน เลนส์ใสคุณภาพดีก็ตอบโจทย์ครับ ถ้าเน้นกรองสูงสุดและรับได้กับสีที่อมเหลืองนิดหน่อย ก็เลนส์สีได้เลย.
Q: ใส่แว่นกรองแสงสีฟ้าแล้วจะช่วยให้ไม่ปวดตาเลยจริงเหรอ?
A: แว่นกรองแสงสีฟ้ามีส่วนช่วยลดอาการตาล้า ปวดตา แสบตา จากการจ้องหน้าจอนานๆ ได้จริงครับ. แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะช่วยแก้ปัญหาทั้งหมด 100% นะครับ ควรดูแลสุขภาพตาด้านอื่นๆ ควบคู่ไปด้วย เช่น พักสายตาทุกๆ 20 นาที (กฎ 20-20-20 คือมองไกล 20 ฟุต เป็นเวลา 20 วินาที ทุกๆ 20 นาทีที่ใช้จอ), ปรับความสว่างหน้าจอให้เหมาะสม, กระพริบตาบ่อยๆ และอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีแสงสว่างเพียงพอ.
Q: ซื้อแว่นกรองแสงสีฟ้าจาก Shopee/Lazada ที่ราคาหลักร้อย จะมั่นใจได้แค่ไหนว่ากรองแสงได้จริง?
A: แว่นกรองแสงราคาถูกบนแพลตฟอร์มออนไลน์มีหลายร้านครับ บางร้านก็คุณภาพดีเกินราคา (เช่น ALP) แต่บางร้านก็อาจจะไม่ได้มาตรฐานเท่าที่ควร. ถ้าอยากมั่นใจจริงๆ ควรเลือกร้านที่เป็น Official Store ของแบรนด์นั้นๆ หรือร้านที่มีรีวิวและเรตติ้งดีๆ เยอะๆ. บางแบรนด์มีชุดทดสอบแถมมาให้ในกล่อง เราก็สามารถทดสอบเองเบื้องต้นได้ครับ. แต่ถ้าต้องการการรับรองที่แน่นอน ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญและซื้อจากร้านแว่นที่มีมาตรฐานจะดีที่สุด.
Q: แว่นกรองแสงสีฟ้าสำหรับเด็ก จำเป็นไหม?
A: จำเป็นมากๆ ครับ! เพราะเด็กยุคนี้ใช้เวลาอยู่กับหน้าจอเยอะมาก และดวงตาของเด็กยังบอบบางกว่าผู้ใหญ่ แสงสีฟ้าอาจส่งผลเสียต่อสายตาเด็กได้ในระยะยาว. แว่นกรองแสงสำหรับเด็กมักจะทำจากวัสดุที่ปลอดภัย ยืดหยุ่นสูง ทนทานต่อการบิดงอ เพราะเด็กอาจจะซนหน่อย. มีหลายแบรนด์ที่ทำแว่นกรองแสงสำหรับเด็กโดยเฉพาะครับ (เช่น Säker, COZY EYES, Orion, SECG, IZIPIZI).
สรุปและคำแนะนำ: เลือกแว่นกรองแสงให้ใช่ ในสไตล์เรา!
เป็นยังไงบ้างครับกับ 10 แบรนด์แว่นกรองแสงสีฟ้าที่ผมคัดมาให้ หวังว่าคงจะพอเป็นไอเดียให้เพื่อนๆ ได้ตัดสินใจง่ายขึ้นนะครับ การเลือกแว่นที่ใช่ ก็ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยของเราเองเลยครับ ทั้งงบประมาณ ไลฟ์สไตล์ และความต้องการพิเศษ:
- ถ้า งบจำกัด เน้นคุ้มค่า ต้องลองดู ALP หรือ ENVISZO เลยครับ.
- ถ้าเป็น Gamer หรือคนจ้องจอนานๆ ต้องการแว่นที่ออกแบบมาเพื่อสิ่งนี้โดยเฉพาะ แนะนำ OPHTUS.
- ถ้าเน้น กรอบยืดหยุ่น ทนทาน และมีดีไซน์หลากหลายบนออนไลน์ ลองดู Cyxus.
- ถ้าต้องการ แว่นคุณภาพดี น้ำหนักเบา พร้อมคุณสมบัติกรองแสงและ UV ที่ชัดเจน Bewell ก็น่าสนใจครับ.
- ถ้าเป็น แฟน Xiaomi หรือชอบแบรนด์เทคโนโลยีที่น่าเชื่อถือ ก็จัด Xiaomi Computer Glasses ได้เลย.
- ถ้าเน้น ดีไซน์สวย แฟชั่นจ๋า พร้อมเลนส์คุณภาพดี อาจจะต้องเพิ่มงบมาที่ Bolon หรือมองหาแบรนด์แฟชั่นอื่นๆ ที่มีเลนส์กรองแสง.
- ถ้าสะดวก เดินเข้าร้านแว่น อยากลองเอง ได้คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ และอาจต้องการเลนส์มีค่าสายตา แนะนำไปที่ร้านแว่นอย่าง OWNDAYS หรือร้านที่เป็นพาร์ทเนอร์เลนส์ดังๆ อย่าง Essilor/Zeiss ครับ.
- ถ้าเน้น กรองแสงสูงปรี๊ด ในราคาเป็นมิตร ลองดู Botanic Glasses.
- ถ้าชอบ ซื้อจากร้านแว่นแต่ก็มีออนไลน์ ให้เลือกเยอะ PERCY ก็เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจครับ.
ข้อควรระวังเล็กๆ น้อยๆ: ถึงแม้แว่นกรองแสงสีฟ้าจะช่วยได้เยอะ แต่ก็ไม่ใช่ "เกราะป้องกัน" ที่ทำให้ดวงตาเราปลอดภัย 100% จากการใช้จอแบบไม่ยั้งนะครับ! อย่าลืมดูแลสุขภาพตาด้านอื่นๆ ด้วย พักสายตาบ้าง ปรับแสงหน้าจอ ที่สำคัญ ระวังของปลอมที่ขายออนไลน์ในราคาถูกจนน่าตกใจ ถ้าไม่มั่นใจคุณภาพ ซื้อจากแหล่งที่เชื่อถือได้จะปลอดภัยกว่าครับ.
มาเมาท์มอย แชร์ประสบการณ์กันหน่อยจ้า!
เพื่อนๆ คนไหนกำลังใช้แว่นกรองแสงสีฟ้าตัวไหนอยู่บ้าง? เป็นยังไง เล่าสู่กันฟังหน่อยสิครับ! ประทับใจตรงไหน หรือมีรุ่นไหนอยากแนะนำเพิ่มเติม คอมเมนต์มาคุยกันได้เลยนะ! 👇
ถ้าใครถูกใจบทความนี้ อยากให้กำลังใจ หรืออยากได้พิกัดร้าน/ลิงก์โปรโมชั่นดีๆ ของแว่นตัวไหนเป็นพิเศษ รบกวนพิมพ์คำว่า "ขอพิกัดหน่อย!" เดี๋ยวผมรวบรวมให้เป็นพิเศษเลยจ้าาา! แล้วเจอกันใหม่บทความหน้า สวัสดีครับ! 👋
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
บทความล่าสุดดูเพิ่มเติม
บทความยอดนิยม