10 แอร์ ราคาไม่เกิน 20000 บาท ปี 2025 คุ้มค่า ประหยัดไฟ


สวัสดีครับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ชาวไทยที่กำลังเผชิญหน้ากับอากาศฮอตปรอทแตก! 🔥 เชื่อว่าหลายคนกำลังมองหาตัวช่วยดับร้อนคู่ใจอย่าง "แอร์" หรือเครื่องปรับอากาศ ที่จะมาช่วยให้บ้านเราเย็นฉ่ำ สบายตัว ไม่ต้องนั่งพัดให้เมื่อยมืออีกต่อไป
สมัยนี้แอร์ไม่ใช่แค่เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ให้ความเย็นอย่างเดียวนะครับ แต่ยังมาพร้อมฟังก์ชันสารพัดประโยชน์ ทั้งกรองฝุ่น PM2.5 ช่วยให้อากาศบริสุทธิ์ขึ้น หรือระบบประหยัดไฟที่ทำให้เรายิ้มออกตอนบิลค่าไฟมาถึง 😊
แต่ปัญหาโลกแตกคือ ในตลาดตอนนี้มีแอร์เยอะมากกกก! หลากหลายยี่ห้อ หลากรุ่น หลายราคาจนเลือกไม่ถูก จะเลือกแบรนด์ไหนดี? รุ่นไหนคุ้มค่า? ตัวไหนประหยัดไฟจริงไม่จกตา? 🤔
ไม่ต้องกลุ้มใจไปครับ! ผมผู้ซึ่งผ่านสมรภูมิการเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้ามานับครั้งไม่ถ้วน วันนี้จะขออาสาเป็นเพื่อนซี้ (ที่ไม่ต้องเปิดแอร์ให้เปลืองไฟตอนคุยกัน) พาไปเจาะลึกเรื่องการเลือกแอร์ในงบสบายกระเป๋าไม่เกิน 20,000 บาท สำหรับปี 2025 พร้อมเปิดโผ 10 แอร์น่าสอยที่บอกเลยว่า ทั้งคุ้มค่า ทั้งประหยัดไฟ ถูกใจคนไทยแน่นอน!
ตลาดแอร์ในไทย ฟิตเจอร์เด็ด แบรนด์ไหนครองใจ?
ต้องบอกว่าตลาดแอร์ในบ้านเรานี่คึกคักตลอดปี โดยเฉพาะช่วงหน้าร้อนที่เหมือนเป็นเทศกาลจับจ่ายแอร์ของคนไทย! แบรนด์ที่เห็นๆ กันในตลาดบ้านเราส่วนใหญ่ก็เป็นแบรนด์นำเข้าจากต่างประเทศ ทั้งญี่ปุ่น เกาหลี จีน และอเมริกา ที่แข่งกันงัดไม้เด็ด ทั้งเรื่องเทคโนโลยี ดีไซน์ และที่สำคัญคือ ราคา กับ ความประหยัดไฟ ครับ
พฤติกรรมผู้บริโภคชาวไทยส่วนใหญ่มองหาแอร์ที่ใช้งานง่าย ทนทาน บริการหลังการขายดี และแน่นอนว่าต้องมี ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ยิ่งดาวเยอะยิ่งดี! เพราะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายระยะยาวได้เยอะจริงๆ ครับ
ช่องทางการซื้อยอดฮิตก็มีทั้งร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าใหญ่ๆ อย่าง Power Buy, HomePro หรือร้านตู้แอร์แถวบ้าน และที่มาแรงสุดๆ ในยุคนี้ก็คือแพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง Lazada กับ Shopee ที่มักจะมีโปรโมชั่นลดราคาแบบดุเดือด แถมบางทีมีบริการติดตั้งให้ด้วย สะดวกสุดๆ ไปเลย!
เลือกแอร์ยังไงให้ได้ทั้งความเย็นและความคุ้มค่า?
ก่อนจะพุ่งตัวไปซื้อ เรามาดูกันก่อนว่ามีปัจจัยอะไรบ้างที่เราต้องพิจารณา เพื่อให้ได้แอร์ที่ตรงใจ ตรงงบ และคุ้มค่าที่สุดครับ ลองดูตามนี้ได้เลย:
ปัจจัย | สิ่งที่ควรพิจารณา |
---|---|
ขนาดห้อง vs BTU | สำคัญที่สุด! เลือก BTU (British Thermal Unit) ให้เหมาะสมกับขนาดห้อง ถ้า BTU น้อยไป แอร์จะไม่เย็นฉ่ำ แถมทำงานหนัก เปลืองไฟ ถ้า BTU มากไปก็เปลืองเงินเปล่าๆ ลองดูคร่าวๆ คือ ห้อง 9-12 ตร.ม. ใช้ 9000 BTU, ห้อง 16-20 ตร.ม. ใช้ 12000 BTU ครับ |
ระบบ Inverter หรือ Fixed Speed | ระบบ Inverter จะรักษาอุณหภูมิให้คงที่กว่า ทำงานเงียบกว่า และประหยัดไฟมากกว่า เหมาะกับห้องที่เปิดแอร์นานๆ ต่อเนื่อง ส่วน Fixed Speed ราคาจะถูกกว่า เหมาะกับห้องที่เปิดแอร์เป็นบางครั้ง |
ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 | ยิ่งดาวเยอะยิ่งประหยัด! มองหารุ่นที่มีตั้งแต่ 2 ดาวขึ้นไป จะช่วยลดค่าไฟได้ในระยะยาวครับ |
ฟังก์ชันกรองอากาศ | ยุคนี้ PM2.5 มาแรง! เลือกรุ่นที่มีฟิลเตอร์กรองฝุ่น PM2.5 หรือระบบฟอกอากาศอื่นๆ เพื่อสุขภาพที่ดีของคนในบ้านครับ |
ความทนทานและวัสดุ | คอยล์ทองแดงจะทนทานกว่าคอยล์อลูมิเนียม และช่วยยืดอายุการใช้งานของแอร์ครับ |
ระบบทำความสะอาดตัวเอง (Self-Cleaning) | ช่วยลดความชื้นและสิ่งสกปรก ลดกลิ่นอับ ทำให้แอร์สะอาดอยู่เสมอ สะดวก ไม่ต้องล้างแอร์บ่อยๆ |
ชื่อเสียงแบรนด์และบริการหลังการขาย | เลือกแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ มีศูนย์บริการในไทย หรือมีการรับประกันนานๆ ทั้งตัวเครื่องและคอมเพรสเซอร์ เพื่อความอุ่นใจครับ |
ราคา | กำหนดงบให้ชัดเจน และเปรียบเทียบราคารุ่นเดียวกันจากหลายๆ ร้าน ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อหาราคาที่ดีที่สุดครับ |
จัดไป! 10 แอร์ ราคาไม่เกิน 20000 บาท ปี 2025 น่าสอย!
มาถึงช่วงที่ทุกคนรอคอย! จากข้อมูลที่รวบรวมมา ผมคัดมาให้แล้ว 10 รุ่น/ซีรีส์แอร์ติดผนังในงบไม่เกิน 20,000 บาท (สำหรับขนาด BTU ยอดนิยมอย่าง 9000 - 13000 BTU ซึ่งเป็นขนาดที่มักจะอยู่ในงบนี้) ที่น่าสนใจในปี 2025 นี้ครับ!
หมายเหตุ: ราคาที่ระบุเป็นราคาโดยประมาณ อาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับร้านค้า โปรโมชั่น และขนาด BTU ที่เลือกนะครับ
1. Carrier Copper 11 Inverter / Copper 10 Inverter
- เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์เก่าแก่จากอเมริกา แต่ฐานผลิตในไทย ทำให้มั่นใจเรื่องบริการและอะไหล่
- สินค้ารุ่นหรือซีรีส์เด่น: Copper 11 Inverter, Copper 10 Inverter
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
- ข้อดี: ราคาเป็นมิตร คอยล์ทองแดงทนทาน มีระบบ Self Cleaning และฟิลเตอร์ PM2.5 กระจายลมเย็นได้ดี
- ข้อเสีย: ฟังก์ชันอาจจะไม่หวือหวาเท่าแบรนด์เกาหลีบางรุ่น
- เหมาะกับใคร: คนที่มองหาแอร์ Inverter คุณภาพดี ราคาคุ้มค่า เน้นความทนทานและการใช้งานพื้นฐานที่ครอบคลุม
- แนะนำช่องทางการซื้อ: Power Buy, HomePro, ไทวัสดุ, Lazada, Shopee
- ช่วงราคา: ประมาณ 11,xxx - 17,xxx บาท (สำหรับ 9000-12000 BTU)
- รีวิวผู้ใช้งาน (จากการสรุปข้อมูล): "เย็นเร็วดี คุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไป" "คอยล์ทองแดงน่าจะทนทานใช้ได้นาน"
2. Daikin Smile Lite Inverter / Max Inverter
- เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์ดังจากญี่ปุ่น ขึ้นชื่อเรื่องความทนทานและประหยัดพลังงาน
- สินค้ารุ่นหรือซีรีส์เด่น: Smile Lite Inverter (FTKQ-YV2S), Max Inverter (FTKC-YV2S)
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
- ข้อดี: ประหยัดไฟเบอร์ 5 (บางรุ่น 1 ดาว) ทำงานเงียบ ฟอกอากาศได้ดี มีฟิลเตอร์ PM2.5 และระบบ Self Cleaning แผงวงจรทนทานต่อไฟตกไฟกระชาก คอมเพรสเซอร์สวิงทนทาน
- ข้อเสีย: ราคาสูงกว่าแบรนด์จีนบางแบรนด์เล็กน้อยในรุ่นเริ่มต้น
- เหมาะกับใคร: คนที่เน้นแบรนด์น่าเชื่อถือ คุณภาพดี ทนทาน และประหยัดไฟในระยะยาว
- แนะนำช่องทางการซื้อ: Power Buy, HomePro, ตัวแทนจำหน่าย Daikin, Lazada, Shopee
- ช่วงราคา: Smile Lite เริ่มต้นประมาณ 12,xxx - 16,xxx บาท (สำหรับ 9000-12000 BTU)
- รีวิวผู้ใช้งาน (จากการสรุปข้อมูล): "เปิดนานๆ ก็ยังประหยัดไฟ" "เครื่องเงียบมาก ไม่รบกวนตอนนอน" "แผงวงจรทนทานดี"
3. Haier Clean Cool Inverter / UV Cool Deluxe Inverter
- เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์จากจีนที่ได้รับความนิยมในไทยเรื่องความคุ้มค่าและฟังก์ชันที่หลากหลาย
- สินค้ารุ่นหรือซีรีส์เด่น: Clean Cool Inverter, UV Cool Deluxe Inverter (HSU-VRWA03T)
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
- ข้อดี: ราคาเป็นมิตรมากๆ ได้ระบบ Inverter ในราคาที่เข้าถึงง่าย บางรุ่นมีฟังก์ชันฆ่าเชื้อด้วย UV-C หรือ Self-Cleaning ช่วยให้อากาศสะอาด มีระบบ Turbo Cool เร่งความเย็น
- ข้อเสีย: ความทนทานในระยะยาวอาจต้องรอดู บางรุ่นรับประกันคอมเพรสเซอร์ 3 ปี
- เหมาะกับใคร: คนที่งบจำกัด แต่อยากได้แอร์ Inverter ที่มีฟังก์ชันครบครัน เน้นเรื่องความสะอาดของอากาศ
- แนะนำช่องทางการซื้อ: Power Buy, HomePro, ไทวัสดุ, Lazada, Shopee
- ช่วงราคา: เริ่มต้นประมาณ 9,xxx - 15,xxx บาท (สำหรับ 9000-12000 BTU)
- รีวิวผู้ใช้งาน (จากการสรุปข้อมูล): "ราคาดีมาก ได้ Inverter ด้วย" "ฟังก์ชัน UV ฆ่าเชื้อน่าสนใจ" "เย็นเร็วดี"
4. Mitsubishi Electric Mr.Slim Happy Inverter
- เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์ญี่ปุ่นยอดนิยมในไทย คุณภาพดี ทนทาน ได้รับความไว้วางใจสูง
- สินค้ารุ่นหรือซีรีส์เด่น: Happy Inverter (MSY-KY/GT Series)
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
- ข้อดี: ทนทาน ใช้งานได้ยาวนาน ประหยัดไฟเบอร์ 5 ทำงานเงียบ มีฟิลเตอร์กรองฝุ่น PM2.5 และสารก่อภูมิแพ้ ระบบ Fast Cooling เย็นเร็ว
- ข้อเสีย: ราคาสูงกว่าบางแบรนด์ในสเปกเดียวกัน
- เหมาะกับใคร: คนที่เน้นคุณภาพ ความทนทาน และความน่าเชื่อถือของแบรนด์ ยอมจ่ายเพิ่มขึ้นเพื่อความสบายใจระยะยาว
- แนะนำช่องทางการซื้อ: Power Buy, HomePro, ตัวแทนจำหน่าย Mitsubishi Electric, Lazada, Shopee
- ช่วงราคา: ประมาณ 12,xxx - 19,xxx บาท (สำหรับ 9000-12000 BTU)
- รีวิวผู้ใช้งาน (จากการสรุปข้อมูล): "มิตซูฯ ไม่เคยทำให้ผิดหวัง ใช้ทนจริงๆ" "เย็นฉ่ำสมชื่อ ประหยัดไฟด้วย"
5. Toshiba Gen Z Inverter / Magic Cool Plus
- เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์ญี่ปุ่นที่มีนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่น่าสนใจ
- สินค้ารุ่นหรือซีรีส์เด่น: Gen Z Inverter, Magic Cool Plus
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
- ข้อดี: มีระบบ Inverter ราคาเข้าถึงง่าย มีฟิลเตอร์ PM2.5 ระบบ Self Cleaning แผงคอยล์เคลือบสาร Aqua Resin ลดการเกาะตัวของฝุ่น ทำให้แอร์สะอาด
- ข้อเสีย: ดีไซน์อาจจะไม่ได้โดดเด่นมากนักเมื่อเทียบกับบางแบรนด์
- เหมาะกับใคร: คนที่มองหาแอร์ Inverter คุณภาพจากแบรนด์ญี่ปุ่นในราคาที่ไม่แรงมาก เน้นฟังก์ชันทำความสะอาดและกรองฝุ่น
- แนะนำช่องทางการซื้อ: Power Buy, HomePro, ไทวัสดุ, Lazada, Shopee
- ช่วงราคา: ประมาณ 10,xxx - 17,xxx บาท (สำหรับ 9000-12000 BTU)
- รีวิวผู้ใช้งาน (จากการสรุปข้อมูล): "เคลือบ Aqua Resin ดีจริง ฝุ่นเกาะน้อยลง" "ฟังก์ชัน Self Cleaning สะดวกมาก"
6. Sharp J-Tech Inverter / Plasmacluster
- เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์ญี่ปุ่นที่มีเทคโนโลยี Plasmacluster ช่วยเรื่องคุณภาพอากาศ
- สินค้ารุ่นหรือซีรีส์เด่น: J-Tech Inverter (AH-XP/GX Series)
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
- ข้อดี: เทคโนโลยี J-Tech Inverter ช่วยประหยัดพลังงานและควบคุมอุณหภูมิได้ดี มีโหมด Super Jet เร่งความเย็นเร็ว บางรุ่นมี Plasmacluster ช่วยฟอกอากาศ
- ข้อเสีย: รุ่นที่มี Plasmacluster ราคามักจะเกินงบ 20,000 บาท
- เหมาะกับใคร: คนที่เน้นเรื่องความเย็นเร็ว และเทคโนโลยี Inverter จากแบรนด์ญี่ปุ่น
- แนะนำช่องทางการซื้อ: Power Buy, HomePro, Lazada, Shopee
- ช่วงราคา: ประมาณ 9,xxx - 15,xxx บาท (สำหรับ 9000-12000 BTU ในรุ่น J-Tech Inverter)
- รีวิวผู้ใช้งาน (จากการสรุปข้อมูล): "Super Jet เย็นเร็วทันใจดี" "J-Tech Inverter ช่วยประหยัดไฟได้จริง"
7. Samsung Windfree™ / Standard Inverter
- เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์เกาหลี ดีไซน์สวย ฟังก์ชันทันสมัย เชื่อมต่อกับ SmartThings ได้
- สินค้ารุ่นหรือซีรีส์เด่น: Windfree™ Cooling (ราคาอาจเกินงบ), Standard Inverter (AR**CYHCAWKNST Series)
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
- ข้อดี: ดีไซน์สวยงามทันสมัย มีระบบ Inverter และฟิลเตอร์กรอง PM2.5 บางรุ่นมีฟังก์ชัน Windfree™ เย็นสบายแบบไม่มีลมปะทะตัว (ในรุ่นที่ราคาสูงขึ้น)
- ข้อเสีย: รุ่น Windfree™ ส่วนใหญ่มักจะเกินงบ 20,000 บาทในขนาด BTU ที่ใหญ่ขึ้น
- เหมาะกับใคร: คนที่ชอบดีไซน์สวยงาม ฟังก์ชัน Smart Home และต้องการแอร์ Inverter ในราคาที่จับต้องได้
- แนะนำช่องทางการซื้อ: Samsung Experience Store, Power Buy, HomePro, Lazada, Shopee
- ช่วงราคา: รุ่น Standard Inverter ประมาณ 10,xxx - 18,xxx บาท (สำหรับ 9000-12000 BTU)
- รีวิวผู้ใช้งาน (จากการสรุปข้อมูล): "ดีไซน์สวยถูกใจมาก" "เชื่อมต่อกับมือถือ Samsung ได้สะดวก"
8. Hisense CE Series Inverter / T-Series Inverter
- เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์จากจีนที่กำลังมาแรงเรื่องความคุ้มค่าและเทคโนโลยี
- สินค้ารุ่นหรือซีรีส์เด่น: CE Series Inverter (AS-TRCE Series), T-Series Inverter
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
- ข้อดี: ราคาถูก ได้แอร์ระบบ Inverter ในราคาที่ประหยัด มีฟังก์ชันพื้นฐานครบ ทั้งกรองฝุ่น PM2.5 และ Self Cleaning ทำงานเงียบ
- ข้อเสีย: อาจจะยังไม่เป็นที่รู้จักเท่าแบรนด์ญี่ปุ่นเจ้าใหญ่ ความทนทานในระยะยาวยังต้องพิสูจน์
- เหมาะกับใคร: คนที่เน้นเรื่องราคาเป็นหลัก อยากได้แอร์ Inverter ในงบที่จำกัดมากๆ
- แนะนำช่องทางการซื้อ: Lazada, Shopee, Power Buy, HomePro
- ช่วงราคา: เริ่มต้นประมาณ 8,xxx - 15,xxx บาท (สำหรับ 9000-12000 BTU)
- รีวิวผู้ใช้งาน (จากการสรุปข้อมูล): "ราคาดีมาก ได้แอร์ Inverter ในราคาเท่านี้" "เย็นโอเคเลยค่ะสำหรับห้องนอน"
9. TCL TAC-XAL Series Inverter
- เกี่ยวกับแบรนด์: อีกหนึ่งแบรนด์จากจีนที่เน้นตลาดคุ้มค่า
- สินค้ารุ่นหรือซีรีส์เด่น: TAC-XAL Series Inverter
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
- ข้อดี: ราคาถูกมาก ได้ระบบ Inverter มีฟังก์ชันพื้นฐานครบ ทั้งกรองอากาศและ Self Cleaning ทำความเย็นได้รวดเร็ว
- ข้อเสีย: เป็นแบรนด์จีนที่ยังใหม่ในตลาดแอร์ไทยเมื่อเทียบกับเจ้าตลาด
- เหมาะกับใคร: คนที่ต้องการแอร์ Inverter ราคาถูกที่สุด เน้นฟังก์ชันพื้นฐานครบถ้วน
- แนะนำช่องทางการซื้อ: Lazada, Shopee
- ช่วงราคา: เริ่มต้นประมาณ 8,xxx - 15,xxx บาท (สำหรับ 9000-12000 BTU)
- รีวิวผู้ใช้งาน (จากการสรุปข้อมูล): "ราคาดีจนตกใจ" "ใช้งานได้ดีเกินคาดสำหรับราคานี้"
10. Comfee Inverter Series
- เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์ลูกของ Midea จากจีน เน้นความคุ้มค่าและเทคโนโลยี Smart Home บางส่วน
- สินค้ารุ่นหรือซีรีส์เด่น: Inverter Series (CF-VAGF/VCBF Series)
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
- ข้อดี: ราคาคุ้มค่า ได้ระบบ Inverter มีระบบทำความสะอาดตัวเอง และฟิลเตอร์กรองฝุ่น บางรุ่นเชื่อมต่อ Wi-Fi ควบคุมผ่านแอปได้
- ข้อเสีย: เป็นแบรนด์ที่อาจจะยังไม่คุ้นหูคนไทยเท่าแบรนด์อื่น
- เหมาะกับใคร: คนที่มองหาแอร์ Inverter ราคาประหยัด และสนใจฟังก์ชัน Smart Home เบื้องต้น
- แนะนำช่องทางการซื้อ: ไทวัสดุ, Lazada, Shopee
- ช่วงราคา: ประมาณ 11,xxx - 18,xxx บาท (สำหรับ 9000-18000 BTU)
- รีวิวผู้ใช้งาน (จากการสรุปข้อมูล): "ควบคุมผ่านมือถือได้สะดวกดี" "ราคาไม่แพงสำหรับแอร์ Inverter"
คำถามที่พบบ่อย (FAQ) สไตล์คนอยากติดแอร์!
Q: แอร์ Inverter กับ Fixed Speed อันไหนเหมาะกับห้องนอน?
A: ถ้าเปิดแอร์นอนทุกคืน หรือเปิดนานกว่า 8 ชั่วโมงต่อวัน แนะนำ Inverter เลยครับ เพราะทำงานเงียบกว่า อุณหภูมิคงที่ และประหยัดไฟกว่าในระยะยาว
Q: แอร์ที่กรอง PM2.5 ได้จริงไหม?
A: ส่วนใหญ่รุ่นที่มีฟิลเตอร์ PM2.5 หรือระบบฟอกอากาศจะช่วยดักจับฝุ่นขนาดเล็กได้จริงครับ แต่ประสิทธิภาพก็แตกต่างกันไปในแต่ละรุ่น ถ้ากังวลเรื่องคุณภาพอากาศมากๆ การใช้เครื่องฟอกอากาศควบคู่ไปด้วยก็จะช่วยได้ดียิ่งขึ้นครับ
Q: ซื้อแอร์ออนไลน์ใน Lazada/Shopee ดีไหม? ต่างจากซื้อร้านใหญ่ยังไง?
A: ซื้อออนไลน์มักจะได้ราคาดีกว่า หรือมีโปรโมชั่นเยอะกว่าครับ แต่ต้องเลือกร้านที่เป็น Official Store หรือร้านที่น่าเชื่อถือ มีรีวิวดีๆ และต้องสอบถามเรื่องบริการติดตั้งให้ชัดเจนครับ การซื้อจากร้านใหญ่หรือตัวแทนจำหน่ายอาจจะได้บริการติดตั้งที่ไว้ใจได้มากกว่า แต่ราคาก็อาจจะสูงกว่าครับ
Q: แอร์ 12000 BTU เหมาะกับห้องขนาดเท่าไหร่?
A: โดยทั่วไป แอร์ 12000 BTU เหมาะกับห้องขนาดประมาณ 16-20 ตารางเมตรครับ แต่ถ้าห้องโดนแดดจัด หรือมีปัจจัยอื่นๆ ที่ทำให้ห้องร้อน ก็อาจจะต้องพิจารณา BTU ที่สูงขึ้นอีกหน่อยครับ
Q: ติดตั้งแอร์เองได้ไหม หรือต้องจ้างช่าง?
A: การติดตั้งแอร์ค่อนข้างซับซ้อนและต้องใช้อุปกรณ์เฉพาะทาง แนะนำให้จ้างช่างมืออาชีพมาติดตั้งจะดีที่สุดครับ เพื่อความปลอดภัยและเพื่อให้แอร์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ร้านค้าส่วนใหญ่มักจะมีบริการติดตั้งด้วย ลองสอบถามก่อนตัดสินใจซื้อนะครับ
สรุปและคำแนะนำ: เลือกแอร์ให้ใช่ ในสไตล์เรา!
เป็นยังไงกันบ้างครับกับ 10 แอร์ราคาไม่เกิน 20,000 บาทที่คัดมาให้ หวังว่าจะเป็นแนวทางให้เพื่อนๆ เลือกแอร์คู่ใจกันได้ง่ายขึ้นนะครับ!
- สำหรับคน งบจำกัดสุดๆ แต่อยากได้ Inverter ลองดู Haier, Hisense, หรือ TCL ครับ ฟังก์ชันพื้นฐานครบ ราคาเป็นมิตร
- ถ้าเน้น ความทนทาน บริการดี และประหยัดไฟในระยะยาว แบรนด์ญี่ปุ่นอย่าง Mitsubishi Electric, Daikin, Toshiba หรือ Sharp คือตัวเลือกที่น่าสนใจ
- ถ้าชอบ ดีไซน์สวย ฟังก์ชัน Smart Home ลองดู Samsung ครับ
สิ่งที่ต้องเน้นย้ำอีกครั้งคือ การเลือก ขนาด BTU ให้เหมาะสมกับห้อง เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการทำให้แอร์เย็นและประหยัดไฟครับ และอย่าลืมเช็ค ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ยิ่งดาวเยอะยิ่งดี!
ในช่วงเทศกาลหรือโปรโมชั่นใหญ่ๆ อย่าง 11.11, 12.12 ใน Lazada Shopee หรือโปรโมชั่นกลางปี ปลายปีของร้านเครื่องใช้ไฟฟ้า มักจะมีแอร์ราคาพิเศษออกมาเยอะมากครับ ลองเปรียบเทียบราคาจากหลายๆ ที่ก่อนตัดสินใจซื้อนะครับ ระวังของปลอมหรือร้านที่ไม่น่าเชื่อถือด้วย!
ขอให้ทุกคนได้แอร์ที่ถูกใจ เย็นฉ่ำกาย สบายกระเป๋า สู้กับหน้าร้อนเมืองไทยได้อย่างมีความสุขนะครับ! 😊
มาเมาท์มอย แชร์ประสบการณ์แอร์กันหน่อย!
เพื่อนๆ ใช้แอร์ยี่ห้ออะไร รุ่นไหนกันอยู่บ้างครับ? ประหยัดไฟจริงไหม? มีฟังก์ชันเด็ดอะไรน่าสนใจอีก? หรือกำลังเล็งรุ่นไหนอยู่ มาคอมเมนต์แลกเปลี่ยนประสบการณ์กันได้เลยนะครับ! 👇
ถ้าชอบบทความนี้ อยากให้กำลังใจ หรืออยากได้พิกัดร้าน/ลิงก์รุ่นที่แนะนำเพิ่มเติม พิมพ์คำว่า "อยากได้พิกัด!" เดี๋ยวผมรวบรวมข้อมูลเท่าที่หาได้มาให้เป็นพิเศษเลยจ้าาา! แล้วเจอกันใหม่บทความหน้า สวัสดีครับ! 👋
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
- จะซื้อแอร์ปี2025 ดูคลิปนี้ก่อน! วิธีเลือกซื้อแอร์บ้าน อัพเดทปี 2025 ...
- 10 แอร์ 9000 BTU ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 ประหยัดไฟ กรองฝุ่น P.M 2.5
- 10 แอร์ inverter ยี่ห้อไหนดี ล่าสุด 2025 | @thailand_smile
- 11 แอร์ 12000 BTU ยี่หอไหนดี 2025 ที่ยังน่าใช้อยู่ เย็นสบาย ...
- 10 อันดับ แอร์ 12000 BTU ยี่ห้อไหนดี ปี 2024 เย็นเร็ว ประหยัดไฟ