logo

10 เครื่องฟอกอากาศ ราคาไม่เกิน 5000 บาท ปี 2025 คุ้มค่า อากาศสะอาด

user avatar
จิราวรรณ มงคลธรรม·06/25/2025 16:29
点赞
10 เครื่องฟอกอากาศ ราคาไม่เกิน 5000 บาท ปี 2025 คุ้มค่า อากาศสะอาด

สวัสดีครับเพื่อนๆ ที่รักอากาศสะอาด และมนุษย์ผู้กำลังต่อสู้กับมลพิษรอบตัว! 👋 ในยุคที่มองออกไปนอกหน้าต่างทีไรก็เจอแต่หมอกจางๆ ที่ไม่ใช่ควันหลงจากคอนเสิร์ต แต่เป็นฝุ่น PM2.5 ตัวร้ายกาจ! บอกเลยว่าการมีเครื่องฟอกอากาศไว้ในบ้านนี่ไม่ใช่แค่เรื่องแฟชั่นอีกต่อไปแล้วนะครับ แต่มันคือ ไอเทมจำเป็นเพื่อความอยู่รอดของปอดเราและคนที่เรารัก!

ปัญหาคือ... ในตลาดตอนนี้เครื่องฟอกอากาศมีเป็นร้อยเป็นพันรุ่น หลายยี่ห้อจนเลือกไม่ถูกจริงๆ ไหนจะเรื่องสเปก ฟังก์ชัน ขนาดห้อง ราคา โอ๊ยยย ปวดหัวตุ้บๆ!

ไม่ต้องกังวลครับ! เพราะผมเข้าใจดีว่าหลายคนก็มีงบประมาณที่จำกัด วันนี้ผมเลยจะมาเป็นกูรูจำเป็น พาเพื่อนๆ ไปส่อง 10 เครื่องฟอกอากาศ ราคาไม่เกิน 5000 บาท ที่ยังน่าสอยในปี 2025 นี้ บอกเลยว่าคัดมาแล้วเน้นๆ คุณภาพดี คุ้มค่าสมราคา หายใจโล่ง ปอดไม่พังแน่นอน!

ตลาดเครื่องฟอกอากาศในไทย: มาแรงแซงทุกโค้งจริงๆ นะ!

ต้องยอมรับว่าสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ในไทยช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทำให้คนไทยตื่นตัวเรื่องคุณภาพอากาศในบ้านมากขึ้นแบบก้าวกระโดดเลยครับ จากที่เมื่อก่อนอาจจะมองว่าเป็นของฟุ่มเฟือย แต่ตอนนี้กลายเป็นของใช้ไฟฟ้าติดบ้านที่หลายๆ ครอบครัวต้องมี โดยเฉพาะช่วงฤดูฝุ่น หรือช่วงที่มลพิษพุ่งสูงปรี๊ด การหาอากาศบริสุทธิ์หายใจนี่กลายเป็นเรื่องยากจริงๆ ครับ

แบรนด์ที่ครองตลาดส่วนใหญ่ก็จะเป็นแบรนด์ต่างชาติเจ้าใหญ่ๆ ที่มีชื่อเสียงด้านเครื่องใช้ไฟฟ้าอยู่แล้ว เช่น Sharp, Philips, Xiaomi, Electrolux, Panasonic รวมถึงแบรนด์เกาหลีอย่าง Samsung หรือ Coway ที่เริ่มมีรุ่นราคาจับต้องได้เข้ามาบ้าง นอกจากนี้ก็มีแบรนด์ไทยอย่าง Hatari หรือแบรนด์ทางเลือกอื่นๆ ที่เน้นความคุ้มค่าก็เป็นที่นิยมเช่นกัน

พฤติกรรมผู้บริโภคไทยเวลานี้คือ เน้นรุ่นที่กรอง PM2.5 ได้จริงจัง มีไส้กรอง HEPA เป็นอย่างน้อย ขนาดเครื่องเหมาะกับห้องที่จะใช้ ไม่เกะกะ ดีไซน์สวยหน่อยก็ดี และที่สำคัญคือ ราคาต้องไม่แรงเกินไป และ หาซื้อไส้กรองง่าย ราคาไม่แพง ช่องทางช้อปปิ้งยอดฮิตก็หนีไม่พ้นออนไลน์แพลตฟอร์มใหญ่ๆ อย่าง Lazada และ Shopee ที่มีโปรโมชั่นลดแลกแจกแถมกันตลอดปีครับ

เลือกเครื่องฟอกอากาศราคาเบาๆ ยังไงให้ได้อากาศสะอาดชื่นใจ?

การเลือกเครื่องฟอกอากาศให้อากาศดีในงบประมาณจำกัดไม่ใช่เรื่องยากครับ แค่รู้ปัจจัยสำคัญในการเลือก ลองดูตารางนี้เป็นไกด์ไลน์ได้เลย:

ปัจจัยสิ่งที่ต้องพิจารณา (สำหรับงบไม่เกิน 5000 บาท)
ขนาดพื้นที่ห้อง (Coverage Area)ดูว่าเครื่องรองรับพื้นที่ได้กี่ตารางเมตร ควรเลือกให้ใหญ่กว่าขนาดห้องจริงเล็กน้อยเพื่อให้ทำงานได้เต็มที่
ค่า CADR (Clean Air Delivery Rate)ค่านี้บอกความเร็วในการฟอกอากาศ ยิ่งสูงยิ่งดี แปลว่าเครื่องฟอกอากาศได้เร็วขึ้น เทียบกับขนาดห้องที่รองรับ
ประเภทแผ่นกรอง (Filter Type)ต้องมี HEPA Filter เพื่อกรองฝุ่น PM2.5 และอนุภาคเล็กๆ ได้ แผ่นกรองคาร์บอน (Activated Carbon) ช่วยเรื่องกลิ่น
ระบบฆ่าเชื้อ (ถ้ามี)บางรุ่นมีระบบปล่อยประจุ (Plasma Cluster ใน Sharp) หรือ UV เพื่อช่วยฆ่าเชื้อโรค แบคทีเรีย ไวรัส (แต่ต้องระวังเรื่องโอโซนในบางระบบ)
ระดับเสียง (Noise Level)สำคัญมากถ้าจะวางในห้องนอน เลือกรุ่นที่เสียงเบาในโหมด Sleep (ปกติจะต่ำกว่า 35 dB)
ฟังก์ชันเสริมโหมด Auto, เซ็นเซอร์ตรวจจับฝุ่น PM2.5, หน้าจอแสดงค่า PM2.5, ตั้งเวลาปิด, Child Lock, แจ้งเตือนเปลี่ยนไส้กรอง
ความสะดวกในการใช้งานควบคุมง่าย มีรีโมท หรือเชื่อมต่อแอปได้ (บางรุ่นในงบนี้มีให้ด้วย!)
ค่าใช้จ่ายระยะยาว (ไส้กรอง)ไส้กรองหาซื้อยากไหม? ราคาเท่าไหร่? ต้องเปลี่ยนบ่อยแค่ไหน? สำคัญกว่าราคาเครื่องซะอีกนะ!
แบรนด์และรีวิวเลือกแบรนด์ที่มีชื่อเสียง มีศูนย์บริการในไทย ลองดูรีวิวจากผู้ใช้งานจริงใน Pantip, กลุ่มรีวิวต่างๆ

ชี้เป้า! 10 เครื่องฟอกอากาศ ราคาไม่เกิน 5000 บาท ปี 2025 ที่น่าสอย!

ถึงช่วงที่ทุกคนรอคอย! ผมได้รวบรวมเครื่องฟอกอากาศที่อยู่ในงบประมาณที่เราตั้งไว้ และเป็นรุ่นที่น่าสนใจ มีรีวิวดีๆ หรือเป็นที่พูดถึงในตลาดไทย มาให้พิจารณาครับ (ราคาและรุ่นอาจมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในปี 2025 แต่นี่คือแนวโน้มและรุ่นที่เป็นที่นิยมในงบนี้ครับ)

1. Sharp FP-J30TA series

  • เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์ดังจากญี่ปุ่น เชื่อถือได้เรื่องคุณภาพและนวัตกรรมด้านอากาศ
  • สินค้ารุ่นเด่น: FP-J30TA มีหลายสีให้เลือก
  • วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย: ข้อดี: มีเทคโนโลยี Plasma Cluster เฉพาะของ Sharp ช่วยกำจัดเชื้อโรค แบคทีเรีย และกลิ่นได้ดี กรองฝุ่น PM2.5 ได้ ขนาดกะทัดรัด เหมาะกับห้องไม่ใหญ่มาก ข้อเสีย: พื้นที่ครอบคลุมไม่ใหญ่มากนัก (ประมาณ 23 ตร.ม.) ไส้กรอง Plasma Cluster อาจมีค่าใช้จ่ายในการดูแล/เปลี่ยน
  • เหมาะกับใคร: คนที่ต้องการเครื่องฟอกอากาศสำหรับห้องขนาดเล็กถึงกลาง (คอนโด, ห้องนอน) เน้นเรื่องการกำจัดเชื้อโรคและกลิ่นอับด้วย
  • แนะนำช่องทางการซื้อ:
    • ออนไลน์: Lazada, Shopee, Power Buy Online
    • ออฟไลน์: Power Buy, HomePro, ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ
  • ช่วงราคา: ประมาณ 2,890 - 4,990 บาท
  • รีวิวผู้ใช้งาน: "ใช้ Sharp ตัวนี้มานานมาก ทนทานดี กลิ่นอับในห้องหายไปเยอะเลยค่ะ" "ชอบ Plasma Cluster รู้สึกอากาศสะอาด สดชื่นขึ้นจริง"

2. Xiaomi Smart Air Purifier series (รุ่น Compact / Lite)

  • เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์จากจีนที่มาแรงมากในไทย ด้วยสินค้า Gadget คุณภาพดี ราคาเป็นมิตร
  • สินค้ารุ่นเด่น: Smart Air Purifier 4 Compact, 4 Lite (เช็กรุ่นที่ราคาไม่เกิน 5000 บาทในปี 2025)
  • วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย: ข้อดี: ราคาเข้าถึงง่าย ฟังก์ชันครบครัน มีเซ็นเซอร์ PM2.5 และหน้าจอแสดงผล ควบคุมผ่านแอป Mi Home ได้ สะดวกสบาย ดีไซน์สวย มินิมอล ไส้กรองหาซื้อง่าย ราคาไม่แรงมาก ข้อเสีย: บางรุ่น Compact พื้นที่ครอบคลุมอาจจะไม่ใหญ่มาก ต้องพึ่งพาแอปในการใช้งานฟังก์ชันเต็มที่
  • เหมาะกับใคร: คนที่มองหาเครื่องฟอกอากาศฟังก์ชันเยอะ คุมผ่านมือถือได้ ในราคาคุ้มค่า เหมาะกับห้องขนาดกลางถึงใหญ่ขึ้นมาหน่อย (ขึ้นอยู่กับรุ่น Lite/Compact)
  • แนะนำช่องทางการซื้อ:
    • ออนไลน์: Xiaomi Official Store ใน Lazada/Shopee, ร้านค้า IT ชั้นนำ
    • ออฟไลน์: Mi Store, BaNANA IT, JIB, Advice
  • ช่วงราคา: ประมาณ 1,600 - 4,xxx บาท (ขึ้นอยู่กับรุ่นและโปรโมชั่น)
  • รีวิวผู้ใช้งาน: "Xiaomi คุ้มค่าตัวจริง คุมผ่านแอปได้สะดวกมาก" "ไส้กรองราคาไม่แพง เปลี่ยนเองได้ง่ายๆ" "หน้าจอแสดงค่า PM2.5 ทำให้รู้คุณภาพอากาศแบบเรียลไทม์เลย"

3. Electrolux Air Purifier series (รุ่นเริ่มต้น)

  • เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าชั้นนำจากยุโรป มีชื่อเสียงด้านคุณภาพและดีไซน์
  • สินค้ารุ่นเด่น: FA31-202GY หรือรุ่นอื่นๆ ที่อยู่ในงบ
  • วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย: ข้อดี: ดีไซน์สวยงาม มินิมอล สร้างลมหมุนเวียนได้ดี ช่วยกระจายอากาศสะอาด กรองฝุ่น PM2.5 ได้ เป็นแบรนด์ที่เชื่อถือได้ ข้อเสีย: ฟังก์ชันเสริมอาจจะไม่เยอะเท่าแบรนด์จีนในราคาเดียวกัน
  • เหมาะกับใคร: คนที่เน้นดีไซน์สวยงาม เข้ากับบ้าน และต้องการแบรนด์ที่น่าเชื่อถือในราคาจับต้องได้ เหมาะกับห้องขนาดกลาง
  • แนะนำช่องทางการซื้อ:
    • ออนไลน์: Lazada, Shopee
    • ออฟไลน์: ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ, Power Buy, HomePro
  • ช่วงราคา: ประมาณ 4,xxx บาท
  • รีวิวผู้ใช้งาน: "ดีไซน์สวยถูกใจมากค่ะ วางตรงไหนก็ดูดี" "เครื่องทำงานเงียบดีตอนกลางคืน"

4. Hatari Air Purifier series

  • เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าของไทย ที่อยู่คู่คนไทยมานาน โดดเด่นเรื่องความทนทานและราคาที่เข้าถึงง่าย
  • สินค้ารุ่นเด่น: AP12R1 หรือรุ่นอื่นๆ ที่อยู่ในงบ
  • วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย: ข้อดี: ราคาเป็นมิตรมากๆ หาซื้อง่ายทั่วประเทศ ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน มีเซ็นเซอร์ PM2.5 ในบางรุ่น ข้อเสีย: ดีไซน์อาจจะไม่ทันสมัยเท่าแบรนด์ต่างชาติ ฟังก์ชันเสริมไม่หลากหลายเท่า
  • เหมาะกับใคร: คนที่มองหาเครื่องฟอกอากาศฟังก์ชันพื้นฐานครบครัน ในราคาที่ประหยัดที่สุด เน้นความทนทาน หาซื้อง่าย
  • แนะนำช่องทางการซื้อ:
    • ออนไลน์: Shopee, Lazada
    • ออฟไลน์: ห้างสรรพสินค้า, ร้านค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไป, Big C, Tops
  • ช่วงราคา: ประมาณ 1,xxx - 3,xxx บาท
  • รีวิวผู้ใช้งาน: "Hatari นี่ของคนไทย ทนจริงๆ ซื้อมาหลายปีแล้วยังใช้ได้ดี" "ราคาดีมาก ซื้อมาไว้หลายห้องได้เลย"

5. Mitsuta Air Purifier series

  • เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่เน้นความคุ้มค่า มีสินค้าหลากหลาย
  • สินค้ารุ่นเด่น: MAP450, MAP300 หรือรุ่นอื่นๆ ในงบ
  • วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย: ข้อดี: ราคาถูกมากเมื่อเทียบกับฟังก์ชันที่ให้มา บางรุ่นมีระบบกรองถึง 6 ขั้นตอน มีโหมด Sleep เสียงเบา ครอบคลุมพื้นที่ได้พอสมควรในบางรุ่น ข้อเสีย: อาจจะยังไม่เป็นที่รู้จักในวงกว้างเท่าแบรนด์ใหญ่
  • เหมาะกับใคร: คนที่ต้องการเครื่องฟอกอากาศฟังก์ชันเยอะในราคาประหยัดสุดๆ เหมาะสำหรับห้องขนาดเล็กถึงกลาง
  • แนะนำช่องทางการซื้อ:
    • ออนไลน์: Lazada, Shopee
    • ออฟไลน์: ร้านค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าบางแห่ง
  • ช่วงราคา: ประมาณ 1,xxx - 3,xxx บาท
  • รีวิวผู้ใช้งาน: "ซื้อ Mitsuta รุ่น MAP300 มาให้ที่บ้าน ราคาถูกมาก ฟังก์ชันครบดีเกินคาด" "มีโหมด Sleep เสียงเบา ไม่รบกวนตอนนอน"

6. Philips Air Purifier series (รุ่นเล็ก)

  • เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ระดับโลกจากเนเธอร์แลนด์ คุณภาพไว้ใจได้
  • สินค้ารุ่นเด่น: AC0820/20 หรือรุ่นเล็กอื่นๆ ที่อยู่ในงบ
  • วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย: ข้อดี: แบรนด์น่าเชื่อถือ คุณภาพการกรองดี กรองอนุภาคเล็กได้ละเอียดมาก (0.003 ไมครอน) ขนาดกะทัดรัด ประหยัดพื้นที่ มีระบบฟอกอากาศอัตโนมัติ ข้อเสีย: ในงบนี้จะได้รุ่นเล็ก เหมาะกับพื้นที่ไม่ใหญ่มาก
  • เหมาะกับใคร: คนที่เน้นแบรนด์คุณภาพ เชื่อถือได้ เน้นการกรองละเอียด เหมาะสำหรับห้องขนาดเล็ก (ห้องนอน, ห้องทำงานส่วนตัว)
  • แนะนำช่องทางการซื้อ:
    • ออนไลน์: Lazada, Shopee, Power Buy Online
    • ออฟไลน์: Power Buy, ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ
  • ช่วงราคา: ประมาณ 3,xxx - 4,990 บาท
  • รีวิวผู้ใช้งาน: "Philips ตัวเล็กนี้เหมาะวางบนโต๊ะทำงานมาก อากาศรอบตัวสะอาดขึ้นจริงๆ" "แบรนด์ Philips ไว้ใจได้ เรื่องคุณภาพการกรอง"

7. Imarflex Air Purifier series

  • เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านที่คุ้นเคยของคนไทย
  • สินค้ารุ่นเด่น: F-C042R หรือรุ่นอื่นๆ ในงบ
  • วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย: ข้อดี: ราคาไม่แพง ครอบคลุมพื้นที่ได้พอสมควรในบางรุ่น ใช้งานง่าย มีฟังก์ชันพื้นฐานครบ มีแผ่นกรอง HEPA และ Carbon ข้อเสีย: ดีไซน์และฟังก์ชันอาจจะไม่ได้โดดเด่นมากนัก
  • เหมาะกับใคร: คนที่ต้องการเครื่องฟอกอากาศราคาประหยัดสำหรับห้องขนาดเล็กถึงกลาง เน้นฟังก์ชันการกรองพื้นฐานที่ใช้งานได้จริง
  • แนะนำช่องทางการซื้อ:
    • ออนไลน์: Lazada, Shopee
    • ออฟไลน์: ร้านค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไป
  • ช่วงราคา: ประมาณ 1,xxx - 3,xxx บาท
  • รีวิวผู้ใช้งาน: "Imarflex ราคาสบายกระเป๋าดี ซื้อมาไว้ห้องลูกก็โอเคเลยค่ะ" "ใช้งานง่ายดีค่ะ เปิดแล้วรู้สึกอากาศดีขึ้น"

8. Toshiba Air Purifier series

  • เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าเก่าแก่จากญี่ปุ่น คุณภาพเชื่อถือได้
  • สินค้ารุ่นเด่น: CAF-H20 หรือรุ่นอื่นๆ ในงบ
  • วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย: ข้อดี: แบรนด์น่าเชื่อถือ มีเทคโนโลยีการกรองที่ดี ช่วยดักจับกลิ่นและแบคทีเรียได้ ปรับความแรงลมได้หลายระดับ ข้อเสีย: รุ่นในงบนี้อาจครอบคลุมพื้นที่ได้จำกัด
  • เหมาะกับใคร: คนที่มองหาเครื่องฟอกอากาศจากแบรนด์ญี่ปุ่นที่คุ้นเคย เน้นฟังก์ชันพื้นฐานและคุณภาพการกรอง เหมาะสำหรับห้องขนาดเล็ก
  • แนะนำช่องทางการซื้อ:
    • ออนไลน์: Lazada, Shopee
    • ออฟไลน์: ห้างสรรพสินค้า, Power Buy
  • ช่วงราคา: ประมาณ 3,xxx - 4,xxx บาท
  • รีวิวผู้ใช้งาน: "Toshiba แบรนด์ญี่ปุ่นไว้ใจได้ค่ะ เครื่องเงียบดี" "กรองกลิ่นได้ดีในระดับนึงเลย"

9. Levoit Air Purifier series (รุ่นเล็ก)

  • เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์ที่เน้นเครื่องฟอกอากาศโดยเฉพาะ ได้รับความนิยมในต่างประเทศ
  • สินค้ารุ่นเด่น: Core Mini, H128 หรือรุ่นอื่นๆ ในงบ
  • วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย: ข้อดี: ได้รับรีวิวดีเรื่องประสิทธิภาพการกรอง ใช้ HEPA Filter คุณภาพดี บางรุ่นมีช่องใส่น้ำมันหอมระเหยได้ ดีไซน์สวย ไส้กรองราคาไม่แพง ข้อเสีย: บางรุ่นเหมาะกับพื้นที่เล็กมากๆ (เช่น Core Mini) ยังหาซื้อหน้าร้านได้ไม่หลากหลายเท่าแบรนด์ใหญ่
  • เหมาะกับใคร: คนที่ต้องการเครื่องฟอกอากาศขนาดเล็ก ประสิทธิภาพการกรองดี เน้นใช้ในห้องนอน หรือพื้นที่ส่วนตัวมากๆ
  • แนะนำช่องทางการซื้อ:
    • ออนไลน์: Lazada, Shopee (Official Store หรือร้านที่เชื่อถือได้)
  • ช่วงราคา: ประมาณ 1,xxx - 4,xxx บาท
  • รีวิวผู้ใช้งาน: "Levoit H128 ตัวเล็กแต่กรองดีมาก เสียงเงียบด้วย" "ไส้กรอง Levoit ราคาเป็นมิตรดีค่ะ"

10. Smart Air series

  • เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์ที่เน้นเรื่องอากาศสะอาดโดยเฉพาะ
  • สินค้ารุ่นเด่น: The Sqair หรือรุ่นอื่นๆ ในงบ
  • วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย: ข้อดี: ดีไซน์มินิมอล สวยงาม ประสิทธิภาพการกรองดี ใช้ HEPA Filter ราคาเข้าถึงง่าย ข้อเสีย: ดีไซน์เน้นความเรียบง่าย อาจไม่มีฟังก์ชันเสริมซับซ้อนมากนัก
  • เหมาะกับใคร: คนที่เน้นดีไซน์สวยงาม มินิมอล และต้องการเครื่องฟอกอากาศที่เน้นประสิทธิภาพการกรองฝุ่นจริงๆ ในราคาที่สมเหตุสมผล เหมาะกับห้องขนาดกลาง
  • แนะนำช่องทางการซื้อ:
    • ออนไลน์: Lazada
    • ออฟไลน์: Power Buy (บางสาขา)
  • ช่วงราคา: ประมาณ 3,xxx - 4,xxx บาท
  • รีวิวผู้ใช้งาน: "The Sqair ดีไซน์ดีมาก วางมุมไหนก็เข้ากับบ้าน" "ประสิทธิภาพกรองฝุ่นโอเคเลยสำหรับราคานี้"

คำถามที่พบบ่อย (FAQ) ที่คนไทยสงสัย!

Q: ระหว่าง Xiaomi กับ Sharp รุ่นเล็กๆ ราคาไม่เกิน 5000 บาท ควรเลือกอันไหนดีคะ เน้นกรอง PM2.5 และใช้ในห้องนอน?
A: ถ้าเน้นฟังก์ชัน Smart Home คุมผ่านแอปได้ มีหน้าจอแสดงค่า PM2.5 และไส้กรองราคาเข้าถึงง่าย แนะนำ Xiaomi ครับ แต่ถ้าเน้นเรื่องการกำจัดเชื้อโรค กลิ่นอับ และต้องการแบรนด์ญี่ปุ่นที่มีเทคโนโลยีเฉพาะอย่าง Plasma Cluster และไม่ติดเรื่องไม่มีแอปคุม Sharp ก็เป็นตัวเลือกที่ดีมากครับ

Q: เครื่องฟอกอากาศราคาไม่เกิน 5000 บาท จะกรอง PM2.5 ได้จริงเหรอ?
A: กรองได้จริงครับ! รุ่นที่แนะนำส่วนใหญ่ในงบนี้มักจะใช้แผ่นกรอง HEPA ซึ่งเป็นมาตรฐานในการดักจับฝุ่น PM2.5 และอนุภาคขนาดเล็กอื่นๆ ครับ แต่ประสิทธิภาพและความเร็วในการฟอกจะขึ้นอยู่กับค่า CADR และขนาดพื้นที่ที่เครื่องรองรับ

Q: ซื้อเครื่องฟอกอากาศราคาถูกจากร้านที่ไม่เป็นทางการใน Lazada/Shopee ไว้ใจได้ไหม?
A: ควรระมัดระวังครับ! แนะนำให้เลือกร้านค้าที่เป็น Official Store หรือร้านที่มีคะแนนรีวิวสูง มียอดขายเยอะ และมีรีวิวจากผู้ซื้อคนไทยที่ยืนยันว่าได้รับสินค้าถูกต้องและมีคุณภาพ เพื่อลดความเสี่ยงเจอของปลอมหรือสินค้าไม่ได้มาตรฐานครับ

Q: ไส้กรองเครื่องฟอกอากาศต้องเปลี่ยนบ่อยแค่ไหน แล้วราคาประมาณเท่าไหร่?
A: อายุการใช้งานไส้กรองขึ้นอยู่กับรุ่น ยี่ห้อ และสภาพอากาศที่ใช้งานครับ โดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 6 เดือน - 2 ปี ราคาไส้กรองจะแตกต่างกันไปตามแบรนด์และรุ่น แต่สำหรับเครื่องในงบไม่เกิน 5000 บาท ไส้กรองมักจะราคาไม่แพงมาก (หลักร้อยบาท) และหาซื้อได้ตามช่องทางออนไลน์หรือร้านค้าตัวแทนจำหน่ายครับ

Q: เครื่องฟอกอากาศที่ราคาถูกมากๆ เห็นขายกันหลักร้อยบาทตามออนไลน์ ใช้ได้จริงไหม?
A: เครื่องฟอกอากาศราคาหลักร้อยบาทส่วนใหญ่มักเป็นเครื่องขนาดเล็กมากๆ เหมาะสำหรับใช้ในพื้นที่จำกัดสุดๆ เช่น บนโต๊ะทำงาน หรือในรถยนต์ ประสิทธิภาพอาจไม่เท่าเครื่องใหญ่ที่ใช้กับห้องนอนหรือห้องนั่งเล่น และอาจไม่ได้ใช้ HEPA Filter คุณภาพดี หรือมีค่า CADR ต่ำมากครับ ถ้าจะใช้กับห้อง แนะนำให้ดูรุ่นที่อยู่ในลิสต์นี้จะคุ้มค่ากว่าครับ

สรุปปิดท้าย เลือกเครื่องฟอกอากาศคู่ใจในงบสบายกระเป๋า!

เป็นยังไงกันบ้างครับกับ 10 เครื่องฟอกอากาศราคาไม่เกิน 5000 บาท ที่ผมคัดมาให้เห็นแล้วว่าในงบประมาณนี้เราก็ยังได้เครื่องที่คุณภาพดี กรองฝุ่น PM2.5 และมลพิษต่างๆ ได้จริงจัง หายใจได้อย่างสบายใจขึ้นเยอะเลยครับ

  • ถ้า งบจำกัดสุดๆ เน้นความคุ้มค่า และแบรนด์ไทย หาซื้อง่าย ต้อง Hatari หรือ Mitsuta เลยครับ
  • ถ้าชอบ ฟังก์ชัน Smart Home คุมผ่านมือถือได้ หน้าจอแสดงค่า PM2.5 ชัดเจน ไส้กรองราคาดี ต้องยกให้ Xiaomi ครับ
  • ถ้าเน้น แบรนด์ญี่ปุ่น คุณภาพไว้ใจได้ มีเทคโนโลยีเฉพาะช่วยเรื่องเชื้อโรคและกลิ่น แนะนำ Sharp หรือ Toshiba ครับ
  • ถ้าเน้น ดีไซน์สวย มินิมอล และประสิทธิภาพการกรองดี ต้องดู Electrolux หรือ Smart Air ครับ
  • ถ้าต้องการเครื่องเล็กๆ เน้นใช้ในห้องนอน หรือพื้นที่ส่วนตัวมากๆ ประสิทธิภาพดี และไส้กรองราคาไม่แรง ลองดู Philips (รุ่นเล็ก) หรือ Levoit (รุ่นเล็ก) ครับ

สิ่งสำคัญที่สุดคือ อย่าลืมเช็คพื้นที่ครอบคลุมของเครื่องให้เหมาะสมกับขนาดห้อง และ เช็คราคาและความง่ายในการหาซื้อไส้กรอง ด้วยนะครับ เพราะนี่คือค่าใช้จ่ายระยะยาวที่ต้องเจอแน่ๆ

สุดท้ายนี้ ถึงแม้จะมีเครื่องฟอกอากาศแล้ว ก็อย่าลืมดูแลสุขภาพตัวเองด้วยการลดกิจกรรมกลางแจ้งในวันที่ฝุ่นสูง และสวมหน้ากากอนามัยเมื่อจำเป็นด้วยนะครับ เป็นห่วงสุขภาพปอดของทุกคนจริงๆ ครับ!

มาแชร์ประสบการณ์เครื่องฟอกอากาศกันหน่อย!

เพื่อนๆ ใช้เครื่องฟอกอากาศรุ่นไหนกันอยู่บ้าง? ประสิทธิภาพเป็นยังไง เจอดีลเด็ดๆ ที่ไหนมา เล่าสู่กันฟังในคอมเมนต์หน่อยสิครับ จะได้เป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ คนอื่นด้วย!

ถ้าใครอ่านมาถึงตรงนี้แล้วอยากได้พิกัดร้านค้าออนไลน์ที่มีโปรโมชั่นดีๆ สำหรับเครื่องฟอกอากาศในงบนี้ พิมพ์คำว่า "ขอพิกัดร้านด่วน!" มาได้เลยครับ เดี๋ยวผมรวมลิงก์ดีๆ จาก Lazada/Shopee มาให้พิจารณาเป็นพิเศษจ้าาา!

แล้วเจอกันใหม่ในบทความหน้าครับ ขอให้ทุกคนมีอากาศบริสุทธิ์หายใจกันถ้วนหน้านะคร้าบ! ฟิ้ววว~💨

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

บทความล่าสุดดูเพิ่มเติม

Okay, I have gathered information on popular 24000 BTU air conditioner brands in Thailand, their features (Inverter, energy saving labels like Energy Saving Label No. 5 with stars, EER/SEER values, air purification), price ranges, and where
10 แอร์ 24000 BTU ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 เย็นฉ่ำ ประหยัดพลังงาน
สวัสดีครับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่กำลังมองหา "เพื่อนคู่ครัว" ตัวใหม่ ที่จะช่วยเก็บอาหารให้สดใหม่ แถมยังช่วยเซฟเงินในกระเป๋าช่วงค่าไฟพุ่งกระฉูด! 👋 ในยุคที่ข้าวของแพงขึ้นทุกวัน การมีตู้เย็นดีๆ สักเครื่องไม่ใช่แค่ความสะดวกสบาย แต่กลายเป็นปัจจัย
10 ตู้เย็น ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 จุเยอะ ประหยัดพลังงาน
สวัสดีครับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ชาวไทยหัวใจรักความสะอาด (แต่แอบขี้เกียจ) ทุกคน! 👋 ในยุคที่ฝุ่น PM 2.5 ก็มาเยือนเป็นพักๆ แถมชีวิตก็ยุ่งเหยิงซะเหลือเกิน การจะหยิบไม้กวาดมาปัดๆ แล้วเจอฝุ่นฟุ้งกระจาย หรือจะก้มๆ เงยๆ ถูบ้านก็เมื่อยหลังเกินไป... บอ
10 เครื่องดูดฝุ่น ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 แรงดูดดี ทำความสะอาดง่าย

บทความยอดนิยม

บทความที่แนะนำ