10 เครื่องดูดฝุ่นแบบด้ามจับ ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 น้ำหนักเบา แรงดูดสูง

สวัสดีครับเพื่อนๆ ชาวมนุษย์ภูมิแพ้และคนรักบ้านทุกคน! 👋 เคยไหมครับที่กวาดบ้านเท่าไหร่ ฝุ่นก็ยังลอยฟุ้งอยู่ดี? หรือจะหยิบไม้กวาดทีก็รู้สึกเหมือนต้องออกกำลังกายยกน้ำหนัก? แถมเส้นผมตามพื้นก็ช่างเกาะหนึบกวาดไม่ออกซะจริงจริ๊งงง! ถ้าพยักหน้าหงึกๆ แสดงว่าคุณไม่ได้อยู่คนเดียวครับ!

ในยุคที่ชีวิตต้องเร่งรีบ และเวลาเป็นสิ่งมีค่าสุดๆ เครื่องดูดฝุ่นแบบด้ามจับไร้สาย นี่แหละคือฮีโร่ขี่ม้าขาวที่แท้ทรู! ด้วยความที่ตัวเครื่องเพรียวบาง น้ำหนักเบาหวิว (บางรุ่นเบาพอๆ กับขวดน้ำเลยนะ!) แถมไม่ต้องคอยลากสายให้พันแข้งพันขา อยากดูดตรงไหนก็ยกไปได้เลย สะดวกสบายจนลืมไม้กวาดไปได้เลยครับ

แต่เหมือนชีวิตจะมีเรื่องให้ปวดหัวเล่นๆ เพราะตอนนี้ในตลาดมีเครื่องดูดฝุ่นแบบด้ามจับไร้สายออกมาเยอะมากกกก จนไม่รู้จะเลือกยี่ห้อไหนดี รุ่นไหนแรงจริง รุ่นไหนแค่สวยแต่รูปจูบไม่หอม? 🤔

ไม่ต้องกังวลครับ! เพราะผม (กูรูเรื่องช้อปปิ้งออนไลน์และออฟไลน์ตัวยง) จะมาเป็นผู้ช่วยพาเพื่อนๆ ไปส่องตลาดเครื่องดูดฝุ่นแบบด้ามจับในไทยแบบเจาะลึก พร้อมคัด 10 รุ่นเด็ดปี 2025 ที่ได้รับการยอมรับว่า น้ำหนักเบา พกพาสะดวก แรงดูดสูงปรี๊ด มาแนะนำให้ทุกคนได้รู้จัก รับรองว่าอ่านจบปุ๊บ ตัดสินใจซื้อได้ปั๊บ บ้านสะอาดวิ้งค์ทันใจแน่นอน!

ตลาดเครื่องดูดฝุ่นแบบด้ามจับในไทย ฮอตแค่ไหนกันนะ?

บอกเลยว่าตลาดเครื่องดูดฝุ่นแบบด้ามจับในไทยช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานี่คือ บูมสุดๆ! เพราะตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองที่อยู่คอนโดหรือบ้านพื้นที่จำกัดได้เป็นอย่างดี ทั้งสะดวกในการจัดเก็บและหยิบมาใช้งานอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ คนไทยยังหันมาใส่ใจเรื่องสุขภาพและคุณภาพอากาศในบ้านมากขึ้น โดยเฉพาะประเด็นเรื่องฝุ่น PM2.5 และไรฝุ่น ทำให้เครื่องดูดฝุ่นที่มีระบบกรองอากาศดีๆ เป็นที่ต้องการอย่างมากครับ

แบรนด์ที่ครองตลาดส่วนใหญ่ก็จะเป็นแบรนด์นำเข้าจากต่างประเทศ ทั้งฝั่งยุโรปอย่าง Dyson, Philips, Electrolux หรือ Tefal และฝั่งเอเชียอย่าง Xiaomi, Dreame, Deerma, Sharp, Toshiba, LG หรือ Samsung แต่ก็มีแบรนด์น้องใหม่ที่มาแรงและเน้นราคาจับต้องง่ายอย่าง Airbot หรือ Simplus ที่กำลังเป็นที่นิยมบนแพลตฟอร์มออนไลน์

พฤติกรรมผู้บริโภคไทยเวลามองหาเครื่องดูดฝุ่นแบบด้ามจับ มักจะเน้นไปที่ 1) น้ำหนักที่ต้องเบาจริง ถือแล้วไม่เมื่อย 2) แรงดูดต้องทรงพลังพอจะจัดการได้ทั้งฝุ่นผง เส้นผม และขนสัตว์เลี้ยง 3) แบตเตอรี่ต้องใช้งานได้นานพอสมควรสำหรับการทำความสะอาดทั้งบ้าน และ 4) ราคาต้องสมเหตุสมผลและคุ้มค่า ครับ แหล่งช้อปปิ้งยอดฮิตก็หนีไม่พ้น Lazada และ Shopee ที่มีโปรโมชั่นลดกระหน่ำตลอดปี โดยเฉพาะช่วงเทศกาลต่างๆ ส่วนใครที่อยากลองสัมผัสเครื่องจริงก่อนซื้อ ก็มักจะไปดูที่ห้างสรรพสินค้าแผนกเครื่องใช้ไฟฟ้า หรือร้านค้าตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการครับ

เลือกเครื่องดูดฝุ่นแบบด้ามจับยังไงให้โดนใจ ไม่เสียดายทีหลัง?

ก่อนจะพุ่งตัวไปกดสั่งซื้อ เรามาดูกันก่อนว่ามีปัจจัยอะไรบ้างที่เราต้องพิจารณา เพื่อให้ได้เครื่องดูดฝุ่นคู่ใจที่ตอบโจทย์การใช้งานของเราที่สุดครับ ลองดูตารางนี้เป็นแนวทางได้เลย:

จัดไป! 10 เครื่องดูดฝุ่นแบบด้ามจับไร้สาย น่าสอย ปี 2025!

ถึงช่วงที่ทุกคนรอคอย! ผมคัดมาให้แล้ว 10 รุ่นเด็ดจากหลากหลายแบรนด์ ที่เป็นที่นิยมและมีฟังก์ชันโดดเด่น ตอบโจทย์ความต้องการของคนไทยในปี 2025 ครับ ลองพิจารณาตามสไตล์และความต้องการของตัวเองได้เลย!

1. Dyson V12 Detect Slim / V8 Slim

• เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์ระดับพรีเมียมจากอังกฤษ ขึ้นชื่อเรื่องเทคโนโลยีไซโคลนที่ทรงพลังและดีไซน์ล้ำยุค
• สินค้ารุ่นเด่น: V12 Detect Slim (มีเลเซอร์ตรวจจับฝุ่น), V8 Slim Fluffy (น้ำหนักเบา)
• วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
  ข้อดี: แรงดูดทรงพลังและคงที่ตลอดการใช้งาน น้ำหนักเบา ระบบกรองดีเยี่ยม ดักจับฝุ่นเล็กๆ ได้ดี ดีไซน์สวยงาม V12 มีหน้าจอ LCD แสดงข้อมูลฝุ่นและแบตเตอรี่
  ข้อเสีย: ราคาสูง อาจต้องซื้อหัวดูดเสริมบางประเภทแยก
• เหมาะกับใคร: คนที่ต้องการเครื่องดูดฝุ่นประสิทธิภาพสูงสุด ไม่ติดเรื่องงบประมาณ หรือมีปัญหาภูมิแพ้และต้องการเครื่องที่กรองฝุ่นได้ละเอียดจริงๆ
• ช่องทางการซื้อ: Dyson Official Store, ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ (Power Buy, Central), Lazada, Shopee
• ช่วงราคา: เริ่มต้นประมาณ 1x,xxx - 2x,xxx บาท (สำหรับ V8 Slim) และ 2x,xxx - 3x,xxx+ บาท (สำหรับ V12 Detect Slim)
• รีวิวผู้ใช้งาน: "ยอมใจ Dyson จริงๆ ค่ะ ดูดสะอาดมาก พื้นนี่วิ้งค์เลย แล้วก็เบากว่าที่คิดเยอะเลยค่ะ" - แม่บ้านยุคใหม่. "รุ่น V12 ที่มีเลเซอร์นี่ช่วยให้เห็นฝุ่นที่เรามองไม่เห็นจริงๆ ค่ะ รู้สึกสะอาดขึ้นเยอะเลย" - คนเป็นภูมิแพ้.

2. Xiaomi Mi Vacuum Cleaner / Dreame (แบรนด์ลูก Xiaomi)

• เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์เทคโนโลยีชื่อดังจากจีน มีสินค้าหลากหลาย เน้นดีไซน์มินิมอล สเปกคุ้มค่าในราคาที่เข้าถึงง่าย Dreame เป็นแบรนด์ลูกที่เชี่ยวชาญด้านเครื่องดูดฝุ่นโดยเฉพาะ
• สินค้ารุ่นเด่น: Xiaomi Mi Vacuum Cleaner Light, Xiaomi 20000Pa, Dreame V10 / V10S / V12S
• วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
  ข้อดี: ราคาเข้าถึงง่าย คุ้มค่ากับสเปก ดีไซน์สวย มินิมอล แรงดูดดีสำหรับทำความสะอาดทั่วไปถึงค่อนข้างหนัก มีหลายรุ่นให้เลือกตามงบ
  ข้อเสีย: วัสดุบางรุ่นอาจจะไม่พรีเมียมเท่าแบรนด์ยุโรป. แบตเตอรี่บางรุ่นอาจจะใช้งานต่อเนื่องได้ไม่นานเท่ารุ่นท็อปๆ
• เหมาะกับใคร: คนที่มองหาเครื่องดูดฝุ่นแบบด้ามจับที่คุ้มค่า ราคาไม่แรงมากนัก เหมาะกับการใช้งานในคอนโดหรือบ้านทั่วไป
• ช่องทางการซื้อ: Xiaomi Official Store, Lazada, Shopee, ร้านค้าออนไลน์อื่นๆ
• ช่วงราคา: เริ่มต้นประมาณ 3,xxx - 1x,xxx บาท ขึ้นอยู่กับรุ่นและสเปก
• รีวิวผู้ใช้งาน: "ซื้อ Xiaomi Mi Vacuum Cleaner Light มาใช้ในคอนโดค่ะ เบามาก ดูดฝุ่นได้ดีเกินคาดสำหรับราคานี้" - คนอยู่คอนโด. "ใช้ Dreame V10S อยู่ครับ แรงดูดดีมาก ดูดขนแมวเกลี้ยงเลย" - ทาสแมว.

3. Electrolux

• เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าชื่อดังจากสวีเดน มีความเชี่ยวชาญด้านเครื่องดูดฝุ่นมายาวนาน เน้นดีไซน์สวยงาม ทนทาน
• สินค้ารุ่นเด่น: Pure Q9, Ergorapido series (อาจมีรุ่นใหม่ในปี 2025)
• วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
  ข้อดี: ดีไซน์สวยงาม วางตั้งได้โดยไม่ต้องพิงผนัง ใช้งานง่าย น้ำหนักบาลานซ์ดี มีรุ่นที่เสียงค่อนข้างเงียบ แบตเตอรี่ทนทาน
  ข้อเสีย: ราคาสูงกว่าแบรนด์จีนในสเปกใกล้เคียงกัน. บางรุ่นอาจมีน้ำหนักมากเล็กน้อย
• เหมาะกับใคร: คนที่เน้นดีไซน์สวยงาม วางเครื่องได้สะดวก ต้องการเครื่องที่ทนทาน และมีงบประมาณระดับกลางถึงสูง
• ช่องทางการซื้อ: Electrolux Official Store, ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ, Lazada, Shopee
• ช่วงราคา: เริ่มต้นประมาณ 5,xxx - 1x,xxx+ บาท
• รีวิวผู้ใช้งาน: "ชอบ Electrolux Pure Q9 มากค่ะ ดีไซน์สวย วางตรงไหนก็ดูดี แล้วก็ใช้งานง่ายมาก ดูดสะอาดดีค่ะ" - คนรักบ้านแต่งสวย. "ใช้ Electrolux มาหลายปีแล้ว ทนจริงๆ ค่ะ แบตก็ยังใช้ได้ดีอยู่เลย" - ผู้ใช้งานระยะยาว.

4. Philips

• เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าชั้นนำจากเนเธอร์แลนด์ มีเทคโนโลยีที่เป็นเอกลักษณ์
• สินค้ารุ่นเด่น: SpeedPro Max series
• วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
  ข้อดี: แรงดูดดี ทำความสะอาดได้ทั่วถึง บางรุ่นมีหัวดูดที่ดูดและถูได้พร้อมกัน แบตเตอรี่ใช้งานได้นานพอสมควร
  ข้อเสีย: ราคาสูง. ตัวเครื่องบางรุ่นอาจมีน้ำหนักมากเล็กน้อย
• เหมาะกับใคร: คนที่ต้องการเครื่องดูดฝุ่นที่ทำความสะอาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ หรือต้องการฟังก์ชันดูดพร้อมถูเพื่อประหยัดเวลา
• ช่องทางการซื้อ: Philips Official Store, ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ, Lazada, Shopee
• ช่วงราคา: เริ่มต้นประมาณ 1x,xxx - 2x,xxx+ บาท
• รีวิวผู้ใช้งาน: "Philips SpeedPro Max แรงดูดดีมากค่ะ ดูดทีเดียวเกลี้ยงเลย พื้นสะอาดจริงจัง" - แม่บ้านที่เน้นความเร็ว. "ชอบรุ่นที่ถูพื้นได้ด้วยค่ะ ประหยัดเวลาไปเยอะเลย" - คนไม่ค่อยมีเวลา.

5. Tefal

• เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนจากฝรั่งเศส ที่มีไลน์สินค้าทำความสะอาดด้วย
• สินค้ารุ่นเด่น: X-Force Flex series, X-Nano series
• วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
  ข้อดี: มีรุ่นที่ราคาจับต้องง่าย ดีไซน์ทันสมัย บางรุ่นมีท่อที่งอได้ ช่วยให้ดูดใต้เฟอร์นิเจอร์ได้สะดวก หัวดูดมีไฟ LED ส่องสว่าง
  ข้อเสีย: แรงดูดบางรุ่นอาจจะไม่เท่าแบรนด์พรีเมียมสุดๆ. วัสดุบางรุ่นอาจจะดูไม่แข็งแรงเท่าที่ควร
• เหมาะกับใคร: คนที่มองหาเครื่องดูดฝุ่นแบบด้ามจับที่ฟังก์ชันหลากหลาย ในงบประมาณที่ไม่สูงเกินไป
• ช่องทางการซื้อ: Tefal Official Store, ห้างสรรพสินค้า, Lazada, Shopee
• ช่วงราคา: เริ่มต้นประมาณ 4,xxx - 1x,xxx บาท
• รีวิวผู้ใช้งาน: "ซื้อ Tefal X-Nano มาใช้ในหอพักค่ะ เบามาก พกไปไหนมาไหนได้สบาย ดูดฝุ่นได้ดีเลย" - นักศึกษา. "ชอบรุ่นที่มีท่อ Flex ค่ะ ดูดใต้เตียงใต้โซฟาได้สบาย ไม่ต้องก้มเยอะ" - คนมีปัญหาปวดหลัง.

6. LG CordZero™

• เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าชั้นนำจากเกาหลีใต้ โดดเด่นเรื่องมอเตอร์ที่ทนทานและเทคโนโลยี Smart Inverter Motor™
• สินค้ารุ่นเด่น: A9K-ULTRA, A9T-ULTRA
• วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
  ข้อดี: แรงดูดทรงพลัง มอเตอร์ทนทาน (รับประกันมอเตอร์ 10 ปี) มีเทคโนโลยีบีบอัดฝุ่นในกล่องเก็บ ช่วยให้ทิ้งฝุ่นน้อยลง บางรุ่นมีแท่นชาร์จที่ทิ้งฝุ่นได้อัตโนมัติ มีแบตเตอรี่คู่ ใช้งานได้ต่อเนื่องยาวนาน
  ข้อเสีย: ราคาสูง. ตัวเครื่องอาจมีน้ำหนักมากเล็กน้อยในบางรุ่น
• เหมาะกับใคร: คนที่ต้องการเครื่องดูดฝุ่นแรงดูดสูง ทนทาน ใช้งานได้ต่อเนื่องยาวนาน และมีงบประมาณระดับสูง
• ช่องทางการซื้อ: LG Official Store, ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ, Lazada, Shopee
• ช่วงราคา: เริ่มต้นประมาณ 1x,xxx - 2x,xxx+ บาท
• รีวิวผู้ใช้งาน: "LG CordZero นี่แรงดูดดีสุดๆ ค่ะ ดูดฝุ่นกับเส้นผมบนพรมได้เกลี้ยงเลย" - คนที่บ้านปูพรม. "ชอบฟังก์ชันที่บีบอัดฝุ่นได้ค่ะ ไม่ต้องเทบ่อยดี" - คนขี้เกียจเทฝุ่น.

7. Sharp

• เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าจากญี่ปุ่น ที่มีสินค้าหลากหลายประเภท
• สินค้ารุ่นเด่น: EC-SC42B (แบบมีสาย), รุ่นไร้สายอื่นๆ (อาจมีรุ่นใหม่ในปี 2025)
• วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
  ข้อดี: แบรนด์น่าเชื่อถือ หาซื้อได้ง่าย มีศูนย์บริการในไทย มีรุ่นที่ราคาไม่แพง
  ข้อเสีย: รุ่นไร้สายอาจจะยังไม่หลากหลายเท่าแบรนด์อื่น. สเปกบางรุ่นอาจจะไม่ได้โดดเด่นเท่าแบรนด์ที่เน้นเครื่องดูดฝุ่นโดยเฉพาะ
• เหมาะกับใคร: คนที่ต้องการเครื่องดูดฝุ่นจากแบรนด์ญี่ปุ่นที่คุ้นเคย หาซื้อง่าย และมีบริการหลังการขายที่เชื่อถือได้
• ช่องทางการซื้อ: ห้างสรรพสินค้า, ร้านค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไป, Lazada, Shopee
• ช่วงราคา: เริ่มต้นประมาณ 2,xxx - 5,xxx+ บาท
• รีวิวผู้ใช้งาน: "ใช้ Sharp แบบมีสายอยู่ค่ะ ทนดี ใช้มานานแล้ว ไม่มีปัญหาอะไร" - ผู้ใช้งานเก่า. "เห็น Sharp มีเครื่องดูดฝุ่นไร้สายด้วย น่าสนใจดีค่ะ แบรนด์ญี่ปุ่นน่าจะทน" - คนที่ชอบแบรนด์ญี่ปุ่น.

8. Toshiba

• เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าเก่าแก่จากญี่ปุ่น (ไม่พบข้อมูลเครื่องดูดฝุ่นด้ามจับรุ่นเด่นในปี 2025 มากนักจากการค้นหา แต่เป็นแบรนด์ที่คนไทยคุ้นเคย)
• สินค้ารุ่นเด่น: (ไม่พบข้อมูลเฉพาะรุ่นที่เป็นที่นิยมในปี 2025 มากนัก)
• วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
  ข้อดี: แบรนด์เป็นที่รู้จักในไทย. น่าจะมีความทนทานตามสไตล์แบรนด์ญี่ปุ่น
  ข้อเสีย: อาจจะมีตัวเลือกเครื่องดูดฝุ่นแบบด้ามจับไร้สายไม่หลากหลายเท่าแบรนด์อื่น. ข้อมูลรีวิวผู้ใช้อาจไม่เยอะเท่า
• เหมาะกับใคร: คนที่ชื่นชอบแบรนด์ญี่ปุ่น และมองหาเครื่องดูดฝุ่นสำหรับใช้งานทั่วไป
• ช่องทางการซื้อ: ห้างสรรพสินค้า, ร้านค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไป, Lazada, Shopee
• ช่วงราคา: อาจอยู่ในช่วง 3,xxx - 7,xxx+ บาท (คาดการณ์)
• รีวิวผู้ใช้งาน: (อาจต้องค้นหารีวิวเฉพาะรุ่นอีกครั้ง)

9. Deerma

• เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนจากจีน เน้นดีไซน์สวยงาม มินิมอล และราคาเป็นมิตร
• สินค้ารุ่นเด่น: Deerma DX115C, Deerma VC series (VC20 Plus, VC25 Plus), Deerma DX700
• วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
  ข้อดี: ราคาถูกมาก เข้าถึงง่ายสุดๆ ดีไซน์น่ารัก มินิมอล เหมาะสำหรับดูดฝุ่นเบาๆ หรือใช้ในพื้นที่ไม่ใหญ่มาก
  ข้อเสีย: แรงดูดอาจจะไม่สูงเท่าแบรนด์ราคาสูง. วัสดุอาจจะดูไม่แข็งแรงทนทานมากนัก. แบตเตอรี่อาจจะหมดไว
• เหมาะกับใคร: นักเรียน นักศึกษา หรือคนที่อยู่หอพัก/คอนโดขนาดเล็ก ที่ต้องการเครื่องดูดฝุ่นราคาประหยัดมากๆ เน้นใช้งานง่าย และดูดฝุ่นเบาๆ
• ช่องทางการซื้อ: Lazada, Shopee เป็นหลัก
• ช่วงราคา: เริ่มต้นหลักร้อยปลายๆ - 3,xxx บาท
• รีวิวผู้ใช้งาน: "ซื้อ Deerma DX115C มาใช้ในห้องค่ะ ราคาถูกมาก ดูดฝุ่นตามพื้นได้ดีสำหรับห้องเล็กๆ ค่ะ" - นักศึกษา. "น่ารักดีค่ะ ไว้ดูดฝุ่นเล็กๆ น้อยๆ ในห้องนั่งเล่น" - คนที่ต้องการเครื่องสำรองราคาถูก.

10. Airbot / Simplus

• เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่กำลังเป็นที่นิยมบนช่องทางออนไลน์ โดยเฉพาะ Airbot ที่เน้นเครื่องดูดฝุ่นสเปกดีในราคาที่แข่งขันได้ Simplus เป็นอีกแบรนด์ที่มาแรงในกลุ่มสินค้าไลฟ์สไตล์ราคาเข้าถึงง่าย
• สินค้ารุ่นเด่น: Airbot Aura series, Airbot Hypersonics series, Simplus Stick Vacuum
• วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
  ข้อดี: สเปกดีเมื่อเทียบกับราคา (โดยเฉพาะ Airbot แรงดูดสูงในราคากลางๆ) ดีไซน์สวยงาม ทันสมัย หาซื้อได้ง่ายบนแพลตฟอร์มออนไลน์ มีโปรโมชั่นบ่อย
  ข้อเสีย: เป็นแบรนด์ใหม่ในไทย บริการหลังการขายอาจจะยังไม่ครอบคลุมเท่าแบรนด์ใหญ่. รีวิวระยะยาวยังมีไม่มากนัก
• เหมาะกับใคร: คนที่มองหาเครื่องดูดฝุ่นแบบด้ามจับที่คุ้มค่าสุดๆ ได้สเปกดีในราคาที่ไม่ต้องจ่ายแพง เน้นช้อปออนไลน์
• ช่องทางการซื้อ: Lazada, Shopee เป็นหลัก
• ช่วงราคา: เริ่มต้นประมาณ 2,xxx - 6,xxx บาท
• รีวิวผู้ใช้งาน: "Airbot Hypersonics แรงดูดดีจริงค่ะ คุ้มราคามากๆ ซื้อตอนมีโปรยิ่งถูกไปอีก" - นักช้อปออนไลน์. "Simplus ก็น่ารักดีค่ะ ใช้ดูดในรถสบายๆ ราคาไม่แพง" - คนที่ต้องการเครื่องดูดในรถ.

คำถามที่พบบ่อย (FAQ) สไตล์คนไทย!

Q: เครื่องดูดฝุ่นแบบด้ามจับไร้สาย ดูดขนสัตว์เลี้ยงได้ดีไหม?
A: ส่วนใหญ่ดูดได้ครับ แต่ถ้าบ้านมีสัตว์เลี้ยงที่ขนเยอะ แนะนำให้เลือกรุ่นที่มีแรงดูดสูงหน่อย (ประมาณ 15,000 Pa หรือมากกว่า) และมีหัวดูดแบบ Motorized Brush หรือหัวดูดเฉพาะสำหรับขนสัตว์ จะช่วยเก็บขนได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นครับ

Q: แบตเตอรี่เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย ใช้ได้นานแค่ไหน? แล้วถ้าแบตเสื่อมจะเปลี่ยนได้ไหม?
A: ระยะเวลาการใช้งานขึ้นอยู่กับรุ่นและโหมดที่เลือกใช้ครับ ส่วนใหญ่จะอยู่ได้ตั้งแต่ 15-60 นาที ถ้าใช้โหมดแรงดูดสูง แบตก็จะหมดเร็วขึ้น ส่วนเรื่องแบตเสื่อม แบรนด์ส่วนใหญ่จะมีแบตเตอรี่สำรองขายครับ แต่บางรุ่นอาจจะเปลี่ยนเองยาก ควรสอบถามกับทางร้านหรือศูนย์บริการก่อนซื้อครับ

Q: ซื้อเครื่องดูดฝุ่นบน Lazada/Shopee เชื่อถือได้ไหม? มีของปลอมเยอะหรือเปล่า?
A: แพลตฟอร์มเหล่านี้มีร้านค้าทั้งที่เป็น Official Store ของแบรนด์โดยตรง และร้านค้าของตัวแทนจำหน่ายครับ ถ้าซื้อจาก Official Store หรือร้านที่มีเรตติ้งดี มีรีวิวเยอะๆ ก็ค่อนข้างเชื่อถือได้ครับ แต่ถ้าเจอร้านที่ราคาถูกผิดปกติ หรือดูไม่น่าไว้ใจ ให้เช็คข้อมูลร้านให้ดี อ่านรีวิวเยอะๆ หรือสอบถามก่อนครับ ทางที่ดีซื้อจากร้านค้าทางการจะมั่นใจกว่าครับ

Q: เครื่องดูดฝุ่นแบบด้ามจับดูแลรักษายากไหม? ต้องซื้ออะไรเพิ่มหรือเปล่า?
A: ส่วนใหญ่ดูแลไม่ยากครับ หลังใช้งานก็เทฝุ่นในกล่องทิ้ง ส่วนแผ่นกรองบางรุ่นล้างน้ำได้ บางรุ่นต้องเป่าทำความสะอาด และต้องเปลี่ยนเมื่อถึงอายุการใช้งาน (ระยะเวลาขึ้นอยู่กับรุ่นและการใช้งาน) แนะนำให้เช็คว่าหาซื้อแผ่นกรองเปลี่ยนได้ง่ายในไทยไหมครับ

Q: ระหว่างเครื่องดูดฝุ่นแบบมีสายกับไร้สาย แบบไหนดีกว่ากัน?
A: ขึ้นอยู่กับการใช้งานครับ! ถ้าบ้านใหญ่ พื้นที่กว้าง เน้นดูดต่อเนื่องนานๆ และไม่ซีเรียสเรื่องสายไฟ แบบมีสายอาจจะคุ้มค่ากว่าและแรงดูดคงที่กว่า แต่ถ้าอยู่คอนโด/บ้านเล็ก เน้นความคล่องตัว หยิบใช้ง่าย ไม่ต้องเสียบปลั๊กหลายจุด หรือต้องการดูดในรถยนต์ แบบไร้สายจะสะดวกกว่ามากครับ

สรุปส่งท้าย เลือกเครื่องดูดฝุ่นแบบด้ามจับให้ใช่ ในสไตล์เรา!

เป็นยังไงบ้างครับกับ 10 รุ่นเครื่องดูดฝุ่นแบบด้ามจับไร้สายที่เราคัดมาให้ หวังว่าคงจะพอเห็นภาพและมีรุ่นที่เล็งไว้ในใจกันแล้วนะครับ! การจะเลือกรุ่นที่ใช่ ก็ต้องกลับมาที่คำถามเดิมคือ เราจะเอาไปทำอะไร? งบประมาณเท่าไหร่? และต้องการฟังก์ชันอะไรเป็นพิเศษ?

• ถ้า งบจำกัดมากๆ และเน้นดูดฝุ่นเบาๆ ในพื้นที่ไม่ใหญ่ ลองดู Deerma รุ่นเริ่มต้น หรือ Xiaomi Mi Vacuum Cleaner Light ครับ
• ถ้าต้องการ ความคุ้มค่า สเปกดีในราคากลางๆ แนะนำ Xiaomi / Dreame รุ่นยอดนิยม, Tefal X-Nano หรือ Airbot / Simplus เลยครับ
• ถ้าเน้น แรงดูดทรงพลัง จัดการได้ทั้งฝุ่นและขนสัตว์เลี้ยง มีงบประมาณระดับกลางถึงสูง ต้องมองไปที่ Dyson V8 Slim / V12 Detect Slim หรือ LG CordZero™ ครับ
• ถ้าเน้น ดีไซน์สวยงาม วางตั้งได้สะดวก และต้องการความทนทาน แนะนำ Electrolux Pure Q9 ครับ
• ถ้าต้องการ ฟังก์ชันพิเศษ เช่น ดูดพร้อมถู หรือมีเลเซอร์ตรวจจับฝุ่น ลองดู Philips SpeedPro Max Aqua หรือ Dyson V12 Detect Slim ครับ

ข้อควรระวัง! นอกจากเรื่องสเปกและราคาแล้ว อย่าลืมเช็คเรื่อง การรับประกัน และ บริการหลังการขาย ในไทยด้วยนะครับ เพราะเครื่องใช้ไฟฟ้าก็มีโอกาสที่จะต้องเข้าศูนย์บริการได้เหมือนกัน และที่สำคัญมากๆ คือ ระวังของปลอม ครับ! ถ้าเจอราคาถูกจนน่าตกใจ ให้สงสัยไว้ก่อน และพยายามซื้อจากร้านค้าทางการ หรือร้านที่มีความน่าเชื่อถือสูงครับ

สุดท้ายนี้ ไม่ว่าคุณจะเลือกเครื่องดูดฝุ่นแบบด้ามจับรุ่นไหน ขอให้การทำความสะอาดบ้านของคุณเป็นเรื่องง่าย สะดวกสบาย และทำให้บ้านของคุณสะอาด น่าอยู่ ปลอดฝุ่น ปลอดภูมิแพ้กันถ้วนหน้านะครับ!

มาเมาท์มอยกันหน่อย! แชร์ประสบการณ์หน่อยจ้า!

เพื่อนๆ คนไหนกำลังใช้เครื่องดูดฝุ่นแบบด้ามจับไร้สายรุ่นไหนอยู่บ้าง? เป็นยังไง เล่าสู่กันฟังหน่อยสิครับ! ชอบตรงไหน ไม่ชอบตรงไหน หรือมีรุ่นไหนอยากแนะนำเพิ่มเติม คอมเมนต์มาคุยกันได้เลยนะ! 👇

ถ้าใครถูกใจบทความนี้ อยากให้กำลังใจ หรืออยากได้พิกัดร้าน/ลิงก์โปรโมชั่นดีๆ (จากร้านค้าทางการที่เชื่อถือได้) รบกวนพิมพ์คำว่า "จัดลิงก์เครื่องดูดฝุ่นมาเลย!" เดี๋ยวผมรวบรวมร้านค้า Official บน Lazada/Shopee ที่น่าเชื่อถือมาแปะให้เป็นพิเศษเลยจ้าาา! แล้วเจอกันใหม่บทความหน้า สวัสดีครับ! 👋

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• 10 อันดับ เครื่องดูดฝุ่น ยี่ห้อไหนดี 2025
• 10 อันดับ เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย ยี่ห้อไหนดี 2025
• เครื่องดูดฝุ่น 10 อันดับ ยี่ห้อไหนดี พลังแรงดูดสูง ทำความสะอาดง่าย ...
• เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย ยี่ห้อไหนดี 2024
• 12 แบรนด์ เครื่องดูดฝุ่น ยอดนิยมในไทย