10 TV 65 นิ้ว รุ่นไหนดี ปี 2025 จอใหญ่เต็มตา ดูหนังมันส์


สวัสดีครับทุกคน! 👋 ในยุคที่เทคโนโลยีพุ่งทะยานแบบก้าวกระโดด แถมคอนเทนต์ความบันเทิงก็มีให้เลือกเยอะแยะเต็มไปหมด ทั้งหนัง ซีรีส์ กีฬา หรือแม้กระทั่งคอนเสิร์ตออนไลน์ การมีทีวีเครื่องเดียวจบครบทุกความต้องการที่บ้านนี่คือสวรรค์ชัดๆ! ยิ่งถ้าเป็นทีวีจอใหญ่ยักษ์อย่างขนาด 65 นิ้วด้วยแล้วล่ะก็ ฟินคูณสิบไปเลยจ้า!
ทีวี 65 นิ้วนี่แหละคือคำตอบของคนยุคใหม่! มันให้ความรู้สึกเหมือนมีโรงภาพยนตร์ส่วนตัวมาตั้งอยู่ในห้องนั่งเล่น จะดูอะไรก็เต็มตา ภาพตระการตา เสียงกระหึ่ม แถมเดี๋ยวนี้สมาร์ททีวีทำอะไรได้มากกว่าแค่ดูช่องธรรมดาๆ เยอะเลย ทั้งดูสตรีมมิ่ง เล่นเกม ต่ออินเทอร์เน็ต ครบเครื่องจริงๆ ครับ
แต่ปัญหาโลกแตกคือ... ในตลาดตอนนี้มีทีวี 65 นิ้วให้เลือกเยอะมากกกก หลายแบรนด์ หลายรุ่น หลายราคาจนปวดหัวไปหมด! จะเลือกยังไงให้ได้ทีวีที่ใช่ คุ้มค่าเงินในกระเป๋า แถมยังตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของเราได้อย่างลงตัว? 🤔
ไม่ต้องกังวลไปครับ! วันนี้ผมจะขอรับบทเป็นเพื่อนซี้ที่เข้าใจหัวอกคนรักบ้าน รักความบันเทิง พาทุกคนไปเจาะลึกโลกของทีวี 65 นิ้วในไทย พร้อมแนะนำ 10 รุ่นเด็ดที่น่าจับตามองในปี 2025 นี้ บอกเลยว่าอ่านจบปุ๊บ ได้ไอเดียเลือกทีวีเครื่องใหม่ได้ทันที!
ตลาดทีวี 65 นิ้วในไทย ฮอตเบอร์ไหน?
บอกเลยว่าตลาดทีวีจอใหญ่ในไทยช่วงนี้ เติบโตขึ้นเรื่อยๆ ครับ! โดยเฉพาะขนาด 65 นิ้วที่กำลังเป็นที่นิยมมากๆ เพราะขนาดกำลังดี เหมาะกับห้องนั่งเล่นส่วนใหญ่ของบ้านเรา แถมราคาก็เข้าถึงง่ายกว่าเมื่อก่อนเยอะมาก คนไทยยุคใหม่ให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิตในบ้านมากขึ้น เทคโนโลยีอย่าง 4K, 8K, OLED, QLED, Mini-LED กำลังเป็นที่พูดถึงอย่างกว้างขวาง
แบรนด์ที่เห็นส่วนใหญ่ในตลาดก็จะเป็นแบรนด์ต่างชาติเจ้าใหญ่นำเข้าทั้งนั้นเลยครับ ไม่ว่าจะเป็น Samsung, LG, Sony, TCL, Hisense, Sharp, Philips, Xiaomi, Panasonic พวกนี้มีรุ่น 65 นิ้วให้เลือกเยอะพอสมควร ส่วนแบรนด์ไทยอาจจะยังไม่โดดเด่นในตลาดนี้เท่าไหร่
พฤติกรรมผู้บริโภคไทยเวลามองหาทีวีจอใหญ่ ส่วนใหญ่ก็จะเน้นไปที่ คุณภาพของภาพและเสียง ฟังก์ชัน Smart TV ที่ใช้งานง่าย รองรับแอปสตรีมมิ่งที่เราใช้เป็นประจำ และแน่นอนว่า ราคาที่คุ้มค่า คือปัจจัยสำคัญ! แหล่งช้อปปิ้งยอดฮิตก็หนีไม่พ้นแพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง Lazada และ Shopee ที่มีโปรโมชั่นเด็ดๆ ออกมาตลอด หรือถ้าใครอยากไปลองดูภาพจริง สัมผัสเครื่องก่อนตัดสินใจซื้อ ก็ต้องไปที่ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าชั้นนำอย่าง Power Buy, HomePro, Big C หรือร้านตัวแทนจำหน่ายตามห้างต่างๆ ครับ
เลือกทีวี 65 นิ้ว ยังไงให้โดนใจ ภาพสวย เสียงดี?
ก่อนจะวิ่งไปช้อป เรามาดูกันก่อนว่ามีปัจจัยอะไรบ้างที่เราต้องพิจารณา เพื่อให้ได้ทีวี 65 นิ้วที่เหมาะกับการใช้งานของเราที่สุดครับ ลองดูตารางนี้เป็นแนวทางได้เลย:
ปัจจัย | สิ่งที่ควรพิจารณา (สำหรับ TV 65 นิ้ว) |
---|---|
ประเภทหน้าจอ (Panel Type) | LED: ราคาเป็นมิตร เหมาะกับการดูทั่วไป |
QLED: สีสันสดใส สว่าง เหมาะกับห้องสว่าง ดูหนังดี | |
Mini-LED: คอนทราสต์ดี รายละเอียดแสงเงาเยี่ยม เป็นทางเลือกดีระหว่าง QLED กับ OLED | |
OLED: ดำสนิท สีสด คอนทราสต์สูงสุด มุมมองกว้างสุดยอด เหมาะกับคอหนังตัวจริง | |
ความละเอียด (Resolution) | 4K (UHD): มาตรฐานยุคนี้ ภาพคมชัด ดูคอนเทนต์ทั่วไปได้ดี |
8K: คมชัดสุดๆ รายละเอียดยิบ เหมาะกับจอใหญ่มากๆ และคอนเทนต์ 8K (ซึ่งยังมีจำกัด) | |
เทคโนโลยีภาพ (Picture Technology) | HDR (HDR10, HDR10+, Dolby Vision, HLG): ช่วยให้ภาพมีช่วงความสว่างและความมืดกว้างขึ้น สมจริงขึ้น |
Refresh Rate (60Hz, 120Hz, 144Hz): บ่งบอกความลื่นไหลของภาพ ยิ่งสูงยิ่งดีสำหรับดูหนังแอ็คชั่น กีฬา และเล่นเกม | |
AI Picture Processor: ชิปประมวลผลที่ช่วยปรับภาพให้สวยงาม คมชัด และสมจริงมากขึ้นอัตโนมัติ | |
ระบบเสียง (Audio) | ลำโพงในตัว: คุณภาพเสียงต่างกันไป ควรดูว่ารองรับ Dolby Atmos, DTS:X หรือไม่ |
เทคโนโลยีเสียงเฉพาะแบรนด์: เช่น Acoustic Surface Audio+ ของ Sony, ONKYO ของ TCL, Q-Symphony ของ Samsung | |
Smart TV & ระบบปฏิบัติการ | ระบบปฏิบัติการ: Google TV (Android TV เดิม), webOS (LG), Tizen (Samsung), VIDAA (Hisense) เลือกที่ใช้งานง่าย รองรับแอปสตรีมมิ่งที่เราต้องการ |
ฟังก์ชันเสริม: สั่งงานด้วยเสียง (ภาษาไทยได้ยิ่งดี), Chromecast/AirPlay ในตัว, การเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นในบ้าน (Smart Home) | |
การเชื่อมต่อ (Connectivity) | HDMI: จำนวนพอร์ต และเวอร์ชัน (HDMI 2.1 จำเป็นสำหรับเกมเมอร์ที่ใช้ PS5/Xbox Series X เพื่อรองรับ 4K@120Hz) |
USB: สำหรับต่อ External Harddisk/Flash Drive | |
Wi-Fi, Bluetooth: การเชื่อมต่อไร้สาย | |
ดีไซน์ (Design) | ความบางของขอบจอ (Bezel), ความหนาของตัวเครื่อง, รูปแบบขาตั้ง หรือรองรับการติดตั้งแบบแขวนผนัง |
ราคา (Price) | มีงบเท่าไหร่? ทีวี 65 นิ้วมีตั้งแต่ราคาประหยัดหมื่นต้นๆ ไปจนถึงแสนกว่าบาท |
ชื่อเสียงแบรนด์ & รีวิวผู้ใช้ | แบรนด์น่าเชื่อถือไหม? ศูนย์บริการในไทยเข้าถึงง่ายหรือเปล่า? ดูรีวิวจากผู้ใช้จริงใน Pantip, Facebook, รีวิวในร้านค้าออนไลน์ต่างๆ |
การรับประกัน & บริการหลังการขาย | ระยะเวลาการรับประกัน (ส่วนใหญ่ 1-3 ปี) มีบริการซ่อมถึงบ้าน (On-site Service) ไหม? หาซื้ออุปกรณ์เสริมได้ง่ายหรือเปล่า? |
จัดไป! 10 TV 65 นิ้ว น่าสอย ปี 2025!
ถึงช่วงที่ทุกคนรอคอย! ผมคัดมาให้แล้ว 10 รุ่นเด็ดจากหลากหลายแบรนด์ ที่มีทีวี 65 นิ้วน่าสนใจ และเป็นที่นิยมในตลาดไทยในปี 2025 นี้ครับ ลองพิจารณาตามสไตล์และความต้องการของตัวเองได้เลย!
1. Samsung TV (Crystal UHD, QLED, Neo QLED, OLED)
แบรนด์จากเกาหลีใต้ เจ้าตลาดทีวีในไทย มีรุ่นให้เลือกเยอะมาก ครอบคลุมทุกงบประมาณและเทคโนโลยี
- รุ่นแนะนำ: Crystal UHD DU7000/U8000F, QLED Q65D, Neo QLED QN80F/QN87D, OLED S90D/S95F
- จุดเด่น: ภาพสวยคมชัด สีสันสดใสด้วยเทคโนโลยี Crystal Display, QLED, Neo QLED หรือดำสนิทบนจอ OLED. ระบบปฏิบัติการ Tizen ใช้งานง่าย มีแอปครบ. ดีไซน์สวยงาม บางเฉียบ. มีรุ่นสำหรับทุกงบประมาณ ตั้งแต่เริ่มต้นถึงระดับพรีเมียม.
- ข้อเสีย: บางฟีเจอร์อาจจะทำงานได้ดีที่สุดเมื่อใช้อุปกรณ์ Samsung ด้วยกัน. รุ่นเริ่มต้นอาจจะไม่มีฟีเจอร์ขั้นสูงสำหรับเกมเมอร์.
- เหมาะกับ: ทุกเพศทุกวัย ครอบคลุมทุกความต้องการ ตั้งแต่ดูทีวีทั่วไปจนถึงคอหนัง คอเกม.
- ช่องทางซื้อ: Power Buy, HomePro, Big C, Central Online, Samsung Official Store ทั้งออนไลน์และหน้าร้าน, Lazada, Shopee
- ช่วงราคา: Crystal UHD เริ่มต้น 1x,xxx - 2x,xxx บาท, QLED เริ่มต้น 2x,xxx - 4x,xxx บาท, Neo QLED/OLED เริ่มต้น 3x,xxx - 8x,xxx+ บาท (สำหรับ 65 นิ้ว)
- รีวิวผู้ใช้งาน (โดยทั่วไปจากหลายแหล่ง): "ภาพสวย สีสดใส ดูหนังสนุกมาก", "ระบบ Smart TV ใช้งานง่ายดี ไม่งง", "ชอบดีไซน์มาก เข้ากับบ้านสุดๆ"
2. LG TV (UHD, NanoCell, QNED, OLED)
แบรนด์จากเกาหลีใต้ คู่แข่งตลอดกาลของ Samsung โดดเด่นเรื่องจอ OLED และระบบปฏิบัติการ webOS ที่ใช้งานง่าย
- รุ่นแนะนำ: UHD UT80/UA84, NanoCell NANO80/NANO81, QNED QNED82, OLED B5/G5
- จุดเด่น: จอ OLED ให้ภาพดำสนิท คอนทราสต์ยอดเยี่ยม ระบบปฏิบัติการ webOS ใช้งานง่าย ลื่นไหล. Magic Remote สะดวกในการควบคุม. มีเทคโนโลยีจอหลากหลายตอบโจทย์หลายงบประมาณ.
- ข้อเสีย: รุ่นเริ่มต้นอาจจะมีสเปกเสียงไม่โดดเด่นเท่าบางแบรนด์.
- เหมาะกับ: คนที่ต้องการทีวีภาพสวยสีสันสดใส โดยเฉพาะจอ OLED, คนที่ชอบระบบ Smart TV ใช้งานง่ายๆ.
- ช่องทางซื้อ: Power Buy, HomePro, Big C, Central Online, LG Official Store ทั้งออนไลน์และหน้าร้าน, Lazada, Shopee
- ช่วงราคา: UHD เริ่มต้น 1x,xxx - 2x,xxx บาท, NanoCell/QNED เริ่มต้น 2x,xxx - 4x,xxx บาท, OLED เริ่มต้น 5x,xxx - 9x,xxx+ บาท (สำหรับ 65 นิ้ว)
- รีวิวผู้ใช้งาน (โดยทั่วไปจากหลายแหล่ง): "จอ OLED LG คือที่สุดของความดำ", "รีโมทเมจิกใช้ง่ายมาก แค่ชี้ๆ กดๆ", "webOS ลื่นดี แอปที่ใช้มีครบ"
3. Sony BRAVIA (LED, Mini-LED, OLED, QD-OLED)
แบรนด์จากญี่ปุ่น ขึ้นชื่อเรื่องคุณภาพของภาพที่เป็นธรรมชาติ การประมวลผลภาพที่ยอดเยี่ยม และระบบเสียงที่เป็นเอกลักษณ์
- รุ่นแนะนำ: LED X77L, Mini-LED BRAVIA 7 (XR70), QD-OLED BRAVIA 8 II (XR80M2)
- จุดเด่น: ชิปประมวลผล XR Processor ยกระดับคุณภาพภาพและเสียงได้ดีมาก. ภาพที่เป็นธรรมชาติ สีสันเที่ยงตรง. เทคโนโลยีเสียง Acoustic Surface Audio+ (ในรุ่น OLED) ให้เสียงเหมือนออกมาจากหน้าจอ. รองรับการเล่นเกมบน PlayStation 5 ได้อย่างยอดเยี่ยม. ใช้ระบบปฏิบัติการ Google TV.
- ข้อเสีย: ราคามักจะสูงกว่าแบรนด์อื่นในสเปกที่ใกล้เคียงกัน.
- เหมาะกับ: คอหนังที่เน้นภาพเป็นธรรมชาติ, เกมเมอร์โดยเฉพาะผู้ใช้ PS5, คนที่ชื่นชอบแบรนด์ญี่ปุ่นและความทนทาน.
- ช่องทางซื้อ: Power Buy, HomePro, Sony Store ทั้งออนไลน์และหน้าร้าน, Lazada, Shopee
- ช่วงราคา: LED เริ่มต้น 2x,xxx บาท, Mini-LED/OLED เริ่มต้น 4x,xxx - 9x,xxx+ บาท (สำหรับ 65 นิ้ว)
- รีวิวผู้ใช้งาน (โดยทั่วไปจากหลายแหล่ง): "ภาพ Sony สบายตา ดูนานๆ ไม่ล้า", "เสียงดีมาก เหมือนออกมาจากตัวละคร", "ต่อ PS5 เล่นเกมลื่นสุดๆ"
4. TCL TV (LED, QLED, Mini-LED)
แบรนด์จากจีน เติบโตเร็วมากในตลาดโลกและไทย โดดเด่นเรื่องเทคโนโลยี Mini-LED และราคาที่เข้าถึงง่าย
- รุ่นแนะนำ: LED P6K, QLED T7B/T8C, Mini-LED C6K/C7K/C8K, Mini-LED QM8B
- จุดเด่น: นำเสนอเทคโนโลยี Mini-LED ในราคาที่จับต้องได้. ภาพสีสันสดใส คอนทราสต์ดีในรุ่น Mini-LED. บางรุ่นมาพร้อมระบบเสียง Onkyo คุณภาพดี. ใช้ระบบปฏิบัติการ Google TV ใช้งานง่าย.
- ข้อเสีย: คุณภาพการประมวลผลภาพอาจจะไม่เท่าแบรนด์เกาหลี/ญี่ปุ่นในรุ่นเริ่มต้น. UI ของ Google TV ในบางรุ่นอาจจะยังไม่ลื่นเท่าที่ควร.
- เหมาะกับ: คนที่มองหาทีวีสเปกดี ในราคาที่คุ้มค่า, คนที่อยากลองเทคโนโลยี Mini-LED โดยใช้งบไม่สูงมาก.
- ช่องทางซื้อ: Power Buy, HomePro, Big C, ร้านค้าตัวแทนจำหน่าย, Lazada, Shopee
- ช่วงราคา: เริ่มต้น 1x,xxx - 5x,xxx+ บาท (สำหรับ 65 นิ้ว)
- รีวิวผู้ใช้งาน (โดยทั่วไปจากหลายแหล่ง): "คุ้มราคามากๆ ได้ Mini-LED ในราคานี้", "ภาพสวยเกินคาด", "Google TV ใช้งานง่ายดี"
5. Hisense TV (UHD, QLED, ULED, Mini-LED)
แบรนด์จากจีน เน้นตลาดกลางถึงล่าง ให้สเปกที่คุ้มค่าในราคาที่น่าสนใจ
- รุ่นแนะนำ: UHD A6100K, QLED A7Q, ULED/Mini-LED U6Q/U8N
- จุดเด่น: ราคาเป็นมิตร เข้าถึงง่าย. ให้สเปกที่สูงกว่าแบรนด์อื่นในระดับราคาเดียวกัน เช่น ULED หรือ Mini-LED ในรุ่นราคาไม่แรงมาก. บางรุ่นใช้ระบบปฏิบัติการ VIDAA ที่เน้นความรวดเร็วในการเข้าถึงแอป หรือบางรุ่นใช้ Google TV.
- ข้อเสีย: คุณภาพวัสดุและงานประกอบอาจจะไม่พรีเมียมเท่าแบรนด์เกาหลี/ญี่ปุ่น. ระบบปฏิบัติการ VIDAA อาจจะยังมีแอปให้เลือกไม่หลากหลายเท่า Google TV หรือ Tizen/webOS.
- เหมาะกับ: คนที่เน้นความคุ้มค่าสูงสุดในงบประมาณจำกัด, คนที่อยากได้ทีวีจอใหญ่สเปกดีในราคาเบาๆ.
- ช่องทางซื้อ: Power Buy, HomePro, Big C, ร้านค้าตัวแทนจำหน่าย, Lazada, Shopee
- ช่วงราคา: เริ่มต้น 1x,xxx - 5x,xxx+ บาท (สำหรับ 65 นิ้ว)
- รีวิวผู้ใช้งาน (โดยทั่วไปจากหลายแหล่ง): "ราคานี้ได้สเปกนี้คือคุ้มสุดๆ", "ภาพใช้ได้เลยสำหรับราคานี้", "เหมาะกับห้องนอน/ห้องรับแขกที่ไม่เน้นสเปกสูงสุด"
6. Xiaomi TV (LED, QLED)
แบรนด์จากจีน โดดเด่นด้วยราคาที่เข้าถึงง่าย และการเป็นส่วนหนึ่งของ Ecosystem อุปกรณ์อัจฉริยะ
- รุ่นแนะนำ: TV A Pro 65 2025
- จุดเด่น: ราคาถูกมากเมื่อเทียบกับขนาดและสเปก. ใช้ระบบปฏิบัติการ Google TV ใช้งานง่าย มีแอปให้เลือกเยอะ. ดีไซน์เรียบง่าย สวยงาม. รองรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ Smart Home อื่นๆ ของ Xiaomi.
- ข้อเสีย: คุณภาพของภาพและเสียงอาจจะไม่โดดเด่นเท่าแบรนด์ที่ราคาสูงกว่า. การประมวลผลภาพอาจจะยังไม่ดีเท่าแบรนด์หลัก.
- เหมาะกับ: คนที่ต้องการทีวี 65 นิ้ว ในงบประมาณที่จำกัดมากๆ, คนที่ใช้อุปกรณ์ Xiaomi อยู่แล้ว.
- ช่องทางซื้อ: Xiaomi Store, Power Buy, HomePro, ร้านค้าตัวแทนจำหน่าย, Lazada, Shopee
- ช่วงราคา: เริ่มต้น 1x,xxx - 2x,xxx บาท (สำหรับ 65 นิ้ว)
- รีวิวผู้ใช้งาน (โดยทั่วไปจากหลายแหล่ง): "ราคาดีมาก คุ้มสุดๆ", "Google TV ใช้งานง่าย ลื่นดี", "เหมาะกับห้องที่ไม่ต้องการสเปกเทพๆ"
7. Sharp TV (LED, Google TV)
แบรนด์จากญี่ปุ่น (ปัจจุบันเป็นของ Foxconn ไต้หวัน) ยังคงทำตลาดทีวีในไทย เน้นความทนทานและฟังก์ชันพื้นฐานที่ดี
- รุ่นแนะนำ: LED Google TV GU8500X
- จุดเด่น: แบรนด์ญี่ปุ่นที่คนไทยคุ้นเคย เชื่อมั่นในคุณภาพระดับหนึ่ง. บางรุ่นใช้ระบบ Google TV.
- ข้อเสีย: รุ่นและเทคโนโลยีอาจจะไม่ได้อัปเดตเท่าแบรนด์เกาหลีหรือจีนบางแบรนด์. ตัวเลือกในตลาดอาจจะน้อยกว่า.
- เหมาะกับ: คนที่เชื่อมั่นในแบรนด์ญี่ปุ่น ต้องการทีวีที่เน้นความทนทานและฟังก์ชันพื้นฐานที่ดี.
- ช่องทางซื้อ: Power Buy, HomePro, ร้านค้าตัวแทนจำหน่าย, Lazada, Shopee
- ช่วงราคา: เริ่มต้น 1x,xxx - 2x,xxx+ บาท (สำหรับ 65 นิ้ว)
- รีวิวผู้ใช้งาน (โดยทั่วไปจากหลายแหล่ง): "ใช้ Sharp มานาน ทนดีไม่มีปัญหา", "ภาพสีสวยเป็นธรรมชาติสไตล์ญี่ปุ่น"
8. Philips TV (LED, OLED)
แบรนด์จากเนเธอร์แลนด์ (ปัจจุบันธุรกิจทีวีบริหารโดย TP Vision) โดดเด่นด้วยเทคโนโลยี Ambilight ที่ให้แสงรอบทีวีเปลี่ยนตามภาพ
- รุ่นแนะนำ: มีรุ่นทั้ง LED และ OLED
- จุดเด่น: เทคโนโลยี Ambilight สร้างบรรยากาศในการรับชมได้ดีมาก. คุณภาพภาพและเสียงดีในรุ่นระดับกลางถึงสูง.
- ข้อเสีย: ตัวเลือกในตลาดไทยอาจจะยังมีไม่มากเท่าแบรนด์หลัก. ราคาค่อนข้างสูงในรุ่นที่มี Ambilight และสเปกดีๆ.
- เหมาะกับ: คนที่ต้องการทีวีที่มีฟีเจอร์พิเศษไม่เหมือนใคร (Ambilight), คนที่เน้นคุณภาพภาพและเสียงในระดับพรีเมียม.
- ช่องทางซื้อ: Power Buy, HomePro, ร้านค้าตัวแทนจำหน่าย
- ช่วงราคา: เริ่มต้น 2x,xxx - 5x,xxx+ บาท (สำหรับ 65 นิ้ว)
- รีวิวผู้ใช้งาน (โดยทั่วไปจากหลายแหล่ง): "Ambilight มันสร้างบรรยากาศได้ดีจริงๆ ดูหนังเพลินขึ้นเยอะ", "ภาพสวย เสียงดีตามสไตล์ Philips"
9. Panasonic TV (LED, Google TV)
แบรนด์จากญี่ปุ่น เป็นอีกแบรนด์เก่าแก่ที่คนไทยคุ้นเคย เน้นคุณภาพและความทนทาน
- รุ่นแนะนำ: LED Google TV MX800T
- จุดเด่น: แบรนด์ญี่ปุ่นที่เน้นคุณภาพและความทนทาน. ภาพสีสันเป็นธรรมชาติ. บางรุ่นใช้ระบบ Google TV.
- ข้อเสีย: ตัวเลือกและเทคโนโลยีอาจจะไม่ได้หลากหลายและทันสมัยเท่าแบรนด์เกาหลี. อาจจะหาซื้อได้ยากกว่าบางแบรนด์ในบางช่องทาง.
- เหมาะกับ: คนที่เชื่อมั่นในแบรนด์ญี่ปุ่น เน้นความทนทาน ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน.
- ช่องทางซื้อ: Power Buy, HomePro, ร้านค้าตัวแทนจำหน่าย, Lazada, Shopee
- ช่วงราคา: เริ่มต้น 2x,xxx - 3x,xxx+ บาท (สำหรับ 65 นิ้ว)
- รีวิวผู้ใช้งาน (โดยทั่วไปจากหลายแหล่ง): "Panasonic ทีวีทนมาก ใช้ได้นาน", "ภาพคมชัดดี สีไม่จัดจ้านเกินไป"
10. Skyworth TV (LED, Google TV)
แบรนด์จากจีน เป็นอีกทางเลือกสำหรับทีวีราคาประหยัด เน้นฟังก์ชัน Smart TV ที่ครบครัน
- รุ่นแนะนำ: 4K UHD 65V6 Pro
- จุดเด่น: ราคาเข้าถึงง่ายมากๆ เมื่อเทียบกับขนาด 65 นิ้ว. ให้ฟังก์ชัน Smart TV และความละเอียด 4K. บางรุ่นใช้ Google TV.
- ข้อเสีย: คุณภาพของภาพและเสียงอาจจะไม่ดีเท่าแบรนด์ชั้นนำ. ความทนทานและการบริการหลังการขายอาจจะต้องพิจารณาเป็นพิเศษ.
- เหมาะกับ: คนที่ต้องการทีวีจอใหญ่ 65 นิ้ว ด้วยงบประมาณที่จำกัดสุดๆ เน้นแค่ฟังก์ชันพื้นฐานของ Smart TV.
- ช่องทางซื้อ: ร้านค้าตัวแทนจำหน่าย, Lazada, Shopee
- ช่วงราคา: เริ่มต้น 1x,xxx บาท (สำหรับ 65 นิ้ว)
- รีวิวผู้ใช้งาน (โดยทั่วไปจากหลายแหล่ง): "ได้จอ 65 นิ้วในราคานี้คือคุ้มมาก", "ดู Netflix YouTube ได้สบายๆ", "เหมาะกับเป็นทีวีเครื่องรอง"
คำถามที่พบบ่อย (FAQ) สไตล์คนไทย!
Q: ทีวี 65 นิ้ว ต้องนั่งดูห่างแค่ไหนถึงจะสบายตา?
A: ระยะห่างที่เหมาะสมสำหรับทีวี 65 นิ้ว คือประมาณ 2.5 - 3.5 เมตรครับ ถ้านั่งใกล้เกินไปนอกจากจะเห็นไม่ทั่วทั้งจอ อาจจะทำให้ปวดตาได้ง่ายด้วยครับ
Q: ระหว่างจอ QLED กับ OLED ควรเลือกแบบไหนดี?
A: ถ้าเน้นความสว่าง สู้แสงในห้องที่สว่างมากๆ ได้ดี สีสันสดใส เหมาะกับดูหนัง ดูการ์ตูน หรือเปิดทีวีทิ้งไว้ในห้องนั่งเล่นที่แสงเข้าเยอะๆ แนะนำ QLED ครับ แต่ถ้าเป็นคอหนังตัวจริง ชอบภาพที่ดำสนิท คอนทราสต์จัดๆ สีสันสมจริง ดูในห้องที่คุมแสงได้ดี หรือชอบเล่นเกมที่ต้องการความละเอียดในฉากมืดๆ แนะนำ OLED ครับ แต่ OLED อาจจะต้องระวังเรื่องอาการ Burn-in ถ้าเปิดภาพนิ่งค้างไว้นานๆ ครับ
Q: ซื้อทีวี 65 นิ้ว ใน Lazada/Shopee ไว้ใจได้ไหม? มีของปลอมเยอะหรือเปล่า?
A: ส่วนใหญ่ร้านค้าที่เป็น Official Store หรือร้านค้าทางการของแบรนด์บน Lazada/Shopee ค่อนข้างเชื่อถือได้ครับ แต่ถ้าเจอร้านที่ไม่คุ้นเคย ราคาถูกจนน่าตกใจ ให้เช็คดีๆ อ่านรีวิวจากผู้ซื้อคนอื่นเยอะๆ ก่อนตัดสินใจครับ ทางที่ดีซื้อจากร้านตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการหรือร้านค้าที่น่าเชื่อถือจะปลอดภัยที่สุดครับ
Q: Smart TV ที่ใช้ระบบ Google TV, webOS, Tizen OS ต่างกันยังไง?
A: หลักๆ คือเรื่องของหน้าตาการใช้งาน (UI) และแอปพลิเคชันที่มีให้เลือกครับ.
Google TV: เป็นระบบที่หลายแบรนด์ใช้ มีแอปให้เลือกเยอะ เชื่อมต่อกับ Google Ecosystem ได้ดี สั่งงานด้วย Google Assistant ได้.
webOS (LG): ใช้งานง่าย UI เป็นระเบียบ มี Magic Remote ช่วยให้ควบคุมสะดวก.
Tizen (Samsung): ใช้งานง่าย มีฟังก์ชันเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ Samsung ได้ดี.
VIDAA (Hisense): เน้นความรวดเร็วในการเข้าถึงแอปหลักๆ อาจจะยังมีแอปให้เลือกไม่เยอะเท่าระบบอื่น. เลือกที่ชอบและมีแอปที่เราต้องการใช้งานครับ
Q: ซื้อทีวีใหม่ ควรซื้อประกันเพิ่มดีไหม?
A: สำหรับทีวีจอใหญ่ 65 นิ้ว ซึ่งเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีราคาสูงและเทคโนโลยีซับซ้อน การซื้อประกันเพิ่ม (ส่วนใหญ่จาก 1 ปี เป็น 2-3 ปี) ก็เป็นสิ่งที่น่าพิจารณาครับ เพราะหากเกิดปัญหาหลังหมดระยะเวลาประกันศูนย์ ค่าซ่อมอาจจะค่อนข้างสูง การมีประกันเพิ่มก็ช่วยลดความเสี่ยงตรงนี้ได้ครับ
สรุปส่งท้าย เลือก TV 65 นิ้ว ให้ใช่ ในสไตล์เรา!
เห็นไหมครับว่าทีวี 65 นิ้วมีตัวเลือกเยอะแยะเต็มไปหมด! การจะเลือกรุ่นที่ใช่ ก็ต้องเริ่มจากถามตัวเองก่อนว่า เราจะเอาไปทำอะไรเป็นหลัก? งบประมาณเท่าไหร่? และเน้นฟังก์ชันอะไรเป็นพิเศษ?
- ถ้า งบจำกัด แต่อยากได้จอใหญ่ ลองดู Xiaomi TV, Hisense TV, Skyworth TV หรือ Samsung/LG รุ่น Crystal UHD/UHD ครับ
- ถ้าเน้น ภาพสวย สีสันสดใส คอนทราสต์ดี เหมาะกับห้องสว่างๆ ลองดู Samsung QLED/Neo QLED, TCL QLED/Mini-LED, Hisense QLED/ULED/Mini-LED, Xiaomi QLED ครับ
- ถ้าเป็น คอหนังตัวจริง ต้องการภาพดำสนิท คอนทราสต์สูงสุด สีสันสมจริง แนะนำ LG OLED, Sony OLED/QD-OLED, Samsung OLED ครับ
- ถ้าเป็น เกมเมอร์ ที่มี PS5/Xbox Series X มองหารุ่นที่รองรับ HDMI 2.1, Refresh Rate สูงๆ (120Hz ขึ้นไป), VRR, ALLM แนะนำ Sony BRAVIA, Samsung Neo QLED/OLED, LG OLED/QNED, TCL Mini-LED บางรุ่น ครับ
- ถ้าเน้น ความทนทาน แบรนด์ที่เชื่อถือได้ แนะนำ Sony, Samsung, LG, Panasonic ครับ
สิ่งสำคัญอีกอย่างคือ อย่าลืมเช็ค ระยะห่างที่เหมาะสมในการรับชม ด้วยนะครับ และในสภาพอากาศบ้านเราที่ร้อนและมีฝุ่นเยอะ การทำความสะอาดและดูแลรักษาอย่างสม่ำเสมอก็จะช่วยยืดอายุการใช้งานของทีวีได้ครับ ระวังเรื่องไฟตกไฟกระชากด้วย หาตัวป้องกันไฟกระชากมาใช้ก็ดีนะ! ที่สำคัญ! ในช่วงเทศกาลลดราคาใหญ่ๆ บน Lazada Shopee หรือตามร้านเครื่องใช้ไฟฟ้า มักจะมีดีลเด็ดๆ ออกมาให้ช้อปกันแบบจัดเต็ม อย่าพลาดเชียวล่ะ! 😉
มาเมาท์มอยกันหน่อย! แชร์ประสบการณ์ทีวีจอใหญ่หน่อยจ้า!
เพื่อนๆ คนไหนกำลังใช้ทีวี 65 นิ้ว รุ่นไหนอยู่บ้าง? เป็นยังไง เล่าสู่กันฟังหน่อยสิครับ! ชอบตรงไหน ไม่ชอบตรงไหน หรือมีรุ่นไหนอยากแนะนำเพิ่มเติม คอมเมนต์มาคุยกันได้เลยนะ! 👇
ถ้าใครถูกใจบทความนี้ อยากให้กำลังใจ หรืออยากได้พิกัดร้าน/ลิงก์โปรโมชั่นดีๆ รบรวมมาให้เป็นพิเศษ รบกวนพิมพ์คำว่า "จัดลิงก์มาเลย!" เดี๋ยวผมจัดให้จ้าาา! แล้วเจอกันใหม่บทความหน้า สวัสดีครับ! 👋