10 เครื่องอบผ้า ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 ผ้าแห้งสนิท หอมสดชื่น
สวัสดีครับเพื่อนๆ สายช้อปออนไลน์และชาวไทยทุกคน! 👋 ในยุคที่แดดจะเปรี้ยงก็เปรี้ยง พายุจะเข้าก็เข้า แถมฝุ่น PM 2.5 ก็มารบกวนใจ การตากผ้าแบบเดิมๆ อาจจะไม่ตอบโจทย์ชีวิตที่เร่งรีบและต้องการความสะดวกสบายอีกต่อไปแล้วนะครับ!
เครื่องอบผ้า นี่แหละคือผู้ช่วยชีวิตในยุคนี้! ไม่ต้องง้อแดด ไม่ต้องกลัวฝน ไม่ต้องกังวลเรื่องฝุ่น แถมผ้ายังแห้งสนิท หอมสดชื่น พร้อมใส่ได้ทันที ประหยัดเวลาชีวิตไปได้เยอะม้ากกก
แต่เดี๋ยวก่อน... เดินเข้าห้าง หรือไถแอปช้อปปิ้งทีไร เจอเครื่องอบผ้าสารพัดยี่ห้อ สารพัดรุ่น จนงงไปหมด! จะเลือกยังไงให้ได้เครื่องที่เหมาะกับบ้านเรา คุ้มค่าเงิน และตอบโจทย์การใช้งาน? 🤔
ไม่ต้องปวดหัวครับ! ในฐานะที่ผมชื่นชอบการรีวิวและสรรหาสิ่งดีๆ มาบอกต่อ วันนี้ผมจะมาเป็นเพื่อนคู่คิด พาไปทำความรู้จักกับตลาดเครื่องอบผ้าในไทย พร้อมคัดมาให้เน้นๆ กับ 10 เครื่องอบผ้า ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 ที่น่าสอยเข้าบ้าน บอกเลยว่าอ่านจบปุ๊บ ตัดสินใจได้ปั๊บ ชีวิตการซักผ้าจะเปลี่ยนไปตลอดกาล!
ตลาดเครื่องอบผ้าในไทย เขาฮิตอะไรกัน?
บอกเลยว่าตลาดเครื่องอบผ้าในไทยตอนนี้กำลัง เติบโตอย่างต่อเนื่อง! โดยเฉพาะช่วงที่คนอยู่คอนโดหรือพื้นที่จำกัดมากขึ้น หรือช่วงฤดูฝนที่ตากผ้ายังไงก็ไม่แห้ง แถมไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ก็เร่งรีบ อยากได้ผ้าแห้งเร็วทันใจ
แบรนด์ที่ครองตลาดส่วนใหญ่ก็จะเป็นแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าชื่อดังระดับโลกนำเข้าจากยุโรป เกาหลี และจีนครับ เช่น Electrolux, Bosch, Samsung, LG, Beko, Haier พวกนี้มีตัวเลือกหลากหลาย ตั้งแต่รุ่นเริ่มต้นไปจนถึงรุ่นพรีเมียม
คนไทยส่วนใหญ่เวลามองหาเครื่องอบผ้า มักจะพิจารณาเรื่อง ประเภทของเครื่อง (ระบบท่อลม, คอนเดนเซอร์, ฮีทปั๊ม), ความจุถังอบ, ฟังก์ชันพิเศษ (เช่น ลดรอยยับ, กำจัดเชื้อโรค), การประหยัดพลังงาน และราคา ครับ แหล่งช้อปปิ้งยอดฮิตก็หนีไม่พ้นร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าใหญ่ๆ อย่าง Power Buy, HomePro หรือแพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง Lazada, Shopee, Central Online ครับ
เลือกเครื่องอบผ้าคู่ใจ ต้องดูอะไรบ้าง?
ก่อนจะพุ่งตัวไปซื้อ เรามาดูกันก่อนว่ามีปัจจัยอะไรบ้างที่เราต้องพิจารณา เพื่อให้ได้เครื่องอบผ้าที่ใช่ที่สุดครับ:
- ประเภทของเครื่อง: มีหลักๆ 3 แบบคือ ระบบท่อลม (Vented), ระบบควบแน่น (Condenser), และระบบปั๊มความร้อน (Heat Pump).
- ความจุถังอบ: เลือกให้เหมาะสมกับจำนวนสมาชิกในบ้านและความถี่ในการซักผ้าครับ.
- เทคโนโลยีและฟังก์ชันพิเศษ: เช่น ระบบเซ็นเซอร์วัดความชื้น (SenseDry), ฟังก์ชันลดรอยยับ (Anti-Crease), โปรแกรมอบผ้าเฉพาะประเภท, โปรแกรมอบด่วน, ระบบกำจัดเชื้อโรค/ไรฝุ่น (Hygiene Care).
- การประหยัดพลังงาน: โดยทั่วไป ระบบ Heat Pump จะประหยัดพลังงานที่สุด แต่ราคาสูงกว่าระบบอื่น.
- ราคา: ตั้งงบประมาณไว้ จะช่วยจำกัดตัวเลือกได้เยอะครับ.
- ชื่อเสียงและการรับประกัน: แบรนด์น่าเชื่อถือ มีศูนย์บริการในไทยไหม รับประกันมอเตอร์กี่ปี?
- พื้นที่ในการติดตั้ง: เครื่องระบบท่อลมต้องมีที่ระบายลมร้อนออกไปข้างนอก ส่วนระบบควบแน่นและฮีทปั๊มวางตรงไหนก็ได้ แต่ต้องเทน้ำทิ้งหรือต่อท่อน้ำทิ้ง.
คัดมาแล้ว! 10 เครื่องอบผ้า น่าสอย ปี 2025!
ถึงช่วงที่ทุกคนรอคอย! ผมคัดมาให้แล้ว 10 แบรนด์เครื่องอบผ้า (รวมถึงเครื่องซักอบผ้าในตัวบางรุ่นที่น่าสนใจ) ที่เป็นที่นิยมและหาซื้อง่ายในตลาดไทยครับ ลองพิจารณาตามสไตล์และความต้องการของตัวเองได้เลย!
1. Electrolux (อีเลคโทรลักซ์)
แบรนด์จากสวีเดน โดดเด่นเรื่องดีไซน์ยุโรป ฟังก์ชันหลากหลาย และการถนอมผ้า
- รุ่นแนะนำ: UltimateCare series (มีทั้งแบบท่อลม, ควบแน่น, และ Heat Pump)
- จุดเด่น: มีเทคโนโลยี SensiCare ป้องกันผ้าอบแห้งเกินไป, DelicateCare อบผ้าบอบบาง, VapourRefresh ลดรอยยับด้วยไอน้ำ, มีรุ่น Heat Pump ที่ประหยัดพลังงานสูง
- ข้อเสีย: ราคากลางๆ ไปจนถึงสูงในรุ่นพรีเมียม
- เหมาะกับ: คนที่ต้องการเครื่องอบผ้าที่ถนอมผ้าเป็นพิเศษ มีฟังก์ชันหลากหลาย ครอบคลุมทุกงบประมาณ
- ช่องทางซื้อ: Power Buy, HomePro, Central Online, Lazada, Shopee
- ช่วงราคา: 1x,xxx - 4x,xxx+ บาท ขึ้นอยู่กับประเภทและฟังก์ชัน
- รีวิว: "อบผ้าแห้งไวมาก แถมผ้านุ่ม ไม่ค่อยยับเลย" "ชอบฟังก์ชันอบไอน้ำ ช่วยลดรอยยับได้จริง"
2. Samsung (ซัมซุง)
แบรนด์จากเกาหลีใต้ ขึ้นชื่อเรื่องนวัตกรรม ดีไซน์ทันสมัย และการเชื่อมต่อกับ SmartThings
- รุ่นแนะนำ: OptimalDry series, AI Control models
- จุดเด่น: มีเทคโนโลยี Heat Pump ประหยัดพลังงาน, ฟังก์ชัน AI Control เรียนรู้พฤติกรรมการใช้งาน, โปรแกรมอบด่วน, ระบบกำจัดเชื้อโรค
- ข้อเสีย: ราคากลางๆ ไปจนถึงสูงในรุ่นที่มีเทคโนโลยีสูง
- เหมาะกับ: คนที่ชอบเทคโนโลยี Smart Home ใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ Samsung อื่นๆ หรือต้องการเครื่องที่มีฟังก์ชันอัจฉริยะ
- ช่องทางซื้อ: Power Buy, HomePro, Central Online, Lazada, Shopee
- ช่วงราคา: 1x,xxx - 3x,xxx+ บาท
- รีวิว: "เชื่อมต่อกับมือถือสะดวกมาก ควบคุมง่าย" "อบผ้าแห้งตามต้องการ ไม่ทำลายเนื้อผ้า"
3. LG (แอลจี)
แบรนด์จากเกาหลีใต้ โดดเด่นด้วยเทคโนโลยี Inverter ที่เงียบและทนทาน และฟังก์ชันดูแลผ้า
- รุ่นแนะนำ: DUAL Inverter Heat Pump series
- จุดเด่น: เทคโนโลยี DUAL Inverter Heat Pump ช่วยประหยัดพลังงานและอบผ้าที่อุณหภูมิต่ำ ถนอมผ้าได้ดี, ฟังก์ชัน Allergy Care ช่วยกำจัดไรฝุ่นและสารก่อภูมิแพ้, ควบคุมผ่านแอป ThinQ ได้
- ข้อเสีย: รุ่น Heat Pump ราคาสูง
- เหมาะกับ: คนที่มองหาเครื่องอบผ้าที่เน้นการประหยัดพลังงาน ถนอมผ้า และมีฟังก์ชันเพื่อสุขอนามัย
- ช่องทางซื้อ: Power Buy, HomePro, Central Online, Lazada, Shopee
- ช่วงราคา: 2x,xxx - 4x,xxx+ บาท
- รีวิว: "เครื่องเงียบมาก อบผ้าสะอาดแถมยังช่วยลดภูมิแพ้ได้ด้วย" "ลงทุนกับ Heat Pump คุ้มค่าไฟระยะยาว"
4. Bosch (บ๊อช)
แบรนด์จากเยอรมนี ขึ้นชื่อเรื่องความทนทาน แข็งแรง และวิศวกรรมที่แม่นยำ
- รุ่นแนะนำ: Serie 4, Serie 6, Serie 8 (ส่วนใหญ่เป็นระบบ Heat Pump และ Condenser)
- จุดเด่น: ตัวเครื่องแข็งแรงทนทาน ใช้งานได้ยาวนาน, เทคโนโลยี AutoDry อบผ้าแห้งพอดี ไม่ทำลายผ้า, มอเตอร์ EcoSilence Drive ทำงานเงียบ
- ข้อเสีย: ราคาสูงกว่าแบรนด์เอเชีย, ดีไซน์เรียบๆ
- เหมาะกับ: คนที่เน้นเรื่องความทนทาน อายุการใช้งานยาวนาน และประสิทธิภาพการอบที่แม่นยำ
- ช่องทางซื้อ: Power Buy, HomePro, Central Online (บางรุ่น), ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าพรีเมียม
- ช่วงราคา: 2x,xxx - 5x,xxx+ บาท
- รีวิว: "เครื่อง Bosch ทนทานจริงๆ ใช้มาหลายปีไม่มีปัญหา" "อบผ้าได้ดีตามมาตรฐานเยอรมัน"
5. Beko (เบโค่)
แบรนด์จากตุรกี โดดเด่นด้วยนวัตกรรมเพื่อสุขภาพและฟังก์ชันที่คุ้มค่า
- รุ่นแนะนำ: AquaWave series, Daily Express models
- จุดเด่น: มีรุ่นหลากหลายทั้งแบบท่อลมและ Heat Pump ในราคาที่เข้าถึงง่าย, เทคโนโลยี AquaWave ถนอมผ้าด้วยการเคลื่อนไหวแบบคลื่น, โปรแกรม Hygienic Drying & Refresh กำจัดแบคทีเรียและกลิ่น
- ข้อเสีย: บางฟังก์ชันอาจไม่หลากหลายเท่าแบรนด์พรีเมียม
- เหมาะกับ: คนที่มองหาเครื่องอบผ้าฟังก์ชันครบครัน ในราคาที่สมเหตุสมผล เน้นฟังก์ชันเพื่อสุขอนามัย
- ช่องทางซื้อ: Power Buy, HomePro, Central Online, Lazada, Shopee
- ช่วงราคา: 1x,xxx - 3x,xxx+ บาท
- รีวิว: "ราคาดี ฟังก์ชันเยอะ อบผ้าแห้งสะอาดดี" "โปรแกรมอบด่วนสะดวกมาก"
6. Haier (ไฮเออร์)
แบรนด์จากจีน เติบโตเร็วในตลาดไทย มีสินค้าหลากหลาย เน้นความคุ้มค่าและนวัตกรรม
- รุ่นแนะนำ: Easy Drying series, Heat Pump models
- จุดเด่น: ราคาเข้าถึงง่าย มีรุ่นให้เลือกทั้งแบบท่อลมและ Heat Pump, ฟังก์ชันอบผ้าหลากหลายโปรแกรม, ดีไซน์ทันสมัย
- ข้อเสีย: ความทนทานระยะยาวอาจจะต้องพิจารณาเทียบกับแบรนด์ยุโรป
- เหมาะกับ: คนที่ต้องการเครื่องอบผ้าในงบประมาณจำกัด หรือมองหาความคุ้มค่าต่อราคา
- ช่องทางซื้อ: Power Buy, HomePro, Central Online, Lazada, Shopee
- ช่วงราคา: 8,xxx - 2x,xxx+ บาท
- รีวิว: "ราคาดีงามมาก เทียบกับฟังก์ชันที่ได้ถือว่าคุ้ม" "ใช้งานง่าย ไม่มีปัญหาจุกจิก"
7. Sharp (ชาร์ป)
แบรนด์จากญี่ปุ่น มีชื่อเสียงมายาวนานในไทย ด้านเครื่องใช้ไฟฟ้า
- รุ่นแนะนำ: มีทั้งแบบเครื่องอบผ้าแยก และเครื่องซักอบผ้าในตัว
- จุดเด่น: บางรุ่นมีเทคโนโลยี Plasmacluster ช่วยลดกลิ่นอับและเชื้อรา, เน้นความทนทานตามสไตล์ญี่ปุ่น, ใช้งานง่าย
- ข้อเสีย: รุ่นเครื่องอบผ้าแยกอาจมีตัวเลือกน้อยกว่าแบรนด์ยุโรป
- เหมาะกับ: คนที่ต้องการเครื่องอบผ้าที่ไว้ใจได้ในแบรนด์ที่คุ้นเคย หรือมองหาเครื่องซักอบผ้าในตัว
- ช่องทางซื้อ: Power Buy, HomePro, ตัวแทนจำหน่ายชาร์ป, Lazada, Shopee
- ช่วงราคา: 1x,xxx - 3x,xxx+ บาท
- รีวิว: "ใช้ Sharp มาตลอด ทนทานดี ไม่มีปัญหา" "เครื่องซักอบผ้า Sharp สะดวกดี ซักเสร็จอบต่อได้เลย"
8. Toshiba (โตชิบา)
แบรนด์จากญี่ปุ่น มีความเชี่ยวชาญด้านมอเตอร์และเทคโนโลยีประหยัดพลังงาน
- รุ่นแนะนำ: มีรุ่น Heat Pump และ Vented Dryer
- จุดเด่น: มอเตอร์ Origin Inverter เงียบและประหยัดพลังงาน, เทคโนโลยี SenseDry วัดความชื้นอัตโนมัติ, ฟังก์ชัน UV SANITIZE ฆ่าเชื้อโรคด้วยแสง UV
- ข้อเสีย: ตัวเลือกอาจไม่หลากหลายเท่าบางแบรนด์
- เหมาะกับ: คนที่เน้นเรื่องความทนทานมอเตอร์ การประหยัดพลังงาน และฟังก์ชันเพื่อสุขอนามัย
- ช่องทางซื้อ: Power Buy, HomePro, Thaiwatsadu, Lazada, Shopee
- ช่วงราคา: 1x,xxx - 3x,xxx+ บาท
- รีวิว: "มอเตอร์ Inverter เงียบจริง ผ้าแห้งสนิทดี" "ชอบฟังก์ชัน UV Sanitize ช่วยให้ผ้าสะอาดมั่นใจขึ้น"
9. Midea (มีเดีย)
แบรนด์จากจีน ผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้ารายใหญ่ของโลก มีสินค้าหลากหลาย ราคาจับต้องได้
- รุ่นแนะนำ: มีรุ่นเครื่องอบผ้าหลากหลายขนาดความจุ
- จุดเด่น: ราคาเป็นมิตรกับงบประมาณ, มีรุ่นความจุใหญ่ให้เลือก, ฟังก์ชันพื้นฐานครบครันสำหรับการอบผ้า
- ข้อเสีย: ฟังก์ชันพิเศษอาจจะไม่เยอะเท่าแบรนด์พรีเมียม, ความน่าเชื่อถือของแบรนด์ในไทยอาจจะยังไม่เท่าแบรนด์ใหญ่
- เหมาะกับ: คนที่มองหาเครื่องอบผ้าฟังก์ชันพื้นฐาน ในราคาที่ประหยัดที่สุด
- ช่องทางซื้อ: Lazada, Shopee, ร้านค้าออนไลน์ต่างๆ
- ช่วงราคา: 7,xxx - 1x,xxx+ บาท
- รีวิว: "ราคาถูกมากกกก อบผ้าแห้งได้ดีตามราคา" "เหมาะกับคนงบน้อย หรือใช้ไม่บ่อย"
10. Whirlpool (เวอร์ลพูล)
แบรนด์จากอเมริกา มีชื่อเสียงในตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่
- รุ่นแนะนำ: มีทั้งเครื่องอบผ้าแยก และเครื่องซักอบผ้า
- จุดเด่น: บางรุ่นเน้นความจุขนาดใหญ่, ระบบอบผ้าที่ทรงพลัง, ทนทานตามแบบฉบับอเมริกา
- ข้อเสีย: อาจจะหาซื้อได้ยากกว่าบางแบรนด์ในไทย, รุ่นและตัวเลือกอาจไม่หลากหลายเท่าแบรนด์หลัก
- เหมาะกับ: ครอบครัวขนาดใหญ่ที่ต้องการเครื่องอบผ้าความจุเยอะๆ หรือคนที่ชื่นชอบแบรนด์อเมริกา
- ช่องทางซื้อ: HomePro (บางสาขา), ตัวแทนจำหน่าย, Lazada, Shopee (บางร้านนำเข้า)
- ช่วงราคา: 2x,xxx - 4x,xxx+ บาท
- รีวิว: "เครื่องใหญ่ดี อบผ้านวมได้สบาย" "ทนทาน ใช้ได้นาน"
คำถามยอดฮิต เกี่ยวกับเครื่องอบผ้าในไทย!
Q: เครื่องอบผ้าแบบ Heat Pump แพงกว่า แต่ประหยัดไฟกว่าจริงไหม?
A: จริงครับ! แม้ราคาเครื่องจะสูงกว่าแบบท่อลมหรือควบแน่น แต่ใช้พลังงานน้อยกว่ามาก ถ้าใช้งานบ่อยๆ ในระยะยาว ค่าไฟที่ประหยัดได้ก็จะช่วยชดเชยส่วนต่างราคาเครื่องได้ครับ แถมยังถนอมผ้ามากกว่าด้วยอุณหภูมิที่ต่ำกว่า
Q: อยู่คอนโด ไม่มีที่ระบายอากาศ ใช้เครื่องอบผ้าแบบไหนดี?
A: เลือกแบบ ระบบควบแน่น (Condenser) หรือ ระบบ Heat Pump ครับ สองแบบนี้ไม่ต้องต่อท่อระบายอากาศออกนอกตัวอาคาร แค่มีที่วางเครื่อง และมีถังพักน้ำทิ้งที่ต้องเทออก (หรือต่อท่อน้ำทิ้งได้)
Q: เครื่องซักอบผ้าในตัวสะดวกไหม แตกต่างกับเครื่องอบผ้าแยกยังไง?
A: เครื่องซักอบผ้าในตัวสะดวกตรงที่ไม่ต้องย้ายผ้าไปมาระหว่างเครื่องซักกับเครื่องอบ ประหยัดพื้นที่ด้วย แต่ข้อจำกัดคือมักจะอบผ้าได้ปริมาณน้อยกว่าที่ซักได้ในรอบเดียวกัน และใช้เวลานานกว่าเครื่องอบผ้าแยกครับ ถ้ามีพื้นที่ แนะนำเครื่องอบผ้าแยกจะอบได้เร็วกว่าและจุได้เยอะกว่าครับ
Q: หน้าฝน อบผ้าแล้วยังมีกลิ่นอับอยู่ ทำไงดี?
A: ลองเช็คเรื่องความสะอาดของเครื่องอบผ้าครับ โดยเฉพาะแผ่นกรองใยผ้า ต้องทำความสะอาดทุกครั้งหลังใช้งาน บางรุ่นมีฟังก์ชันอบไอน้ำหรือกำจัดเชื้อโรคที่ช่วยลดกลิ่นอับได้ครับ
Q: ควรเลือกความจุเครื่องอบผ้าเท่าไหร่ดี?
A: โดยทั่วไป แนะนำให้เลือกเครื่องอบผ้าที่มีความจุ เท่ากับ หรือมากกว่าความจุถังซักเล็กน้อย ครับ เพื่อให้ผ้ามีพื้นที่หมุนเวียนและแห้งทั่วถึง สำหรับครอบครัว 1-2 คน อาจจะใช้ 7-8 kg, 3-4 คน ใช้ 8-10 kg, ครอบครัวใหญ่ 5 คนขึ้นไป ควรใช้ 10 kg ขึ้นไปครับ
สรุปและคำแนะนำ เลือกเครื่องอบผ้าให้ตอบโจทย์ชีวิต!
เป็นยังไงกันบ้างครับ กับข้อมูลเครื่องอบผ้าที่เราคัดมาให้เต็มๆ หวังว่าพอจะเห็นภาพและตัดสินใจกันได้ง่ายขึ้นนะครับ!
- ถ้า งบประหยัด อยากได้เครื่องอบผ้าเครื่องแรก ลองดู Haier หรือ Midea ครับ
- ถ้าเน้น ความคุ้มค่า ฟังก์ชันดี ในราคาไม่แรงเกินไป ลองดู Beko, Sharp หรือ Toshiba รุ่นเริ่มต้นครับ
- ถ้าเน้น ประหยัดพลังงาน ถนอมผ้า และฟังก์ชันเพื่อสุขภาพ แนะนำ Electrolux, LG หรือ Samsung รุ่น Heat Pump ครับ
- ถ้าเน้น ความทนทาน ใช้งานยาวๆ หรือชอบแบรนด์ยุโรป ก็ต้อง Bosch เลยครับ
- ถ้าเป็น ครอบครัวใหญ่ เน้นความจุเยอะๆ ลองดู Whirlpool หรือรุ่นความจุสูงๆ ของแบรนด์อื่นๆ ครับ
สิ่งสำคัญคือ อย่าลืมเช็ค ประเภทของเครื่อง ให้เหมาะกับพื้นที่ติดตั้ง และเช็ค การรับประกัน ให้ดีครับ โดยเฉพาะการรับประกันมอเตอร์ ที่มักจะนานกว่าตัวเครื่อง และที่สำคัญในไทยคือเรื่อง บริการหลังการขาย ลองดูว่าแบรนด์ไหนมีศูนย์บริการใกล้บ้าน หรือติดต่อสะดวกครับ สุดท้ายนี้ ไม่ว่าจะเลือกเครื่องอบผ้าแบบไหน ก็อย่าลืมทำความสะอาดแผ่นกรองใยผ้าทุกครั้งหลังใช้ เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดและยืดอายุการใช้งานนะครับ!
มาเมาท์มอยกันหน่อย! มีประสบการณ์ใช้เครื่องอบผ้ารุ่นไหนดีๆ มาแชร์กันได้นะ!
เพื่อนๆ คนไหนใช้เครื่องอบผ้ารุ่นไหนอยู่บ้าง ถูกใจไม่ถูกใจตรงไหน หรือมีเคล็ดลับการใช้เครื่องอบผ้าให้ผ้าหอมฟูน่าใช้ มาคอมเมนต์บอกต่อกันได้เลยนะครับ! 👇
ถ้าชอบบทความนี้ หรืออยากให้ผมรีวิวเจาะลึกเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นไหนอีก คอมเมนต์บอกได้นะ! แล้วเจอกันใหม่บทความหน้า ชีวิตดีๆ ที่มีเครื่องใช้ไฟฟ้าดีๆ รออยู่ครับ! 👋
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
บทความล่าสุดดูเพิ่มเติม
บทความยอดนิยม