10 ตู้แช่ 2 ประตู ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 จุเยอะ เย็นนาน


สวัสดีครับพี่น้องชาวไทยหัวใจรักความเย็นทุกคน! ในยุคที่แดดประเทศไทยร้อนแรงกว่าเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์แบบนี้ เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ขาดไม่ได้ในทุกครัวเรือนก็ต้องยกให้ "ตู้เย็น" นี่แหละครับ เป็นทั้งคลังเสบียง Oasis กลางบ้าน ที่ช่วยให้ชีวิตเราสดชื่นขึ้นได้ในทุกๆ วัน ไม่ว่าจะน้ำเย็นๆ ชื่นใจ หรือไอศกรีมคลายร้อน (ที่มักจะละลายก่อนถึงปาก 😅) หรือแม้แต่การถนอมอาหารให้สดใหม่พร้อมปรุงในทุกมื้อ
และถ้าพูดถึงตู้เย็นที่ได้รับความนิยมในบ้านเรา ก็คงหนีไม่พ้น "ตู้เย็น 2 ประตู" นี่แหละครับ! เพราะขนาดกำลังดี ไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไป แยกช่องแช่เย็นกับช่องแช่แข็งเป็นสัดส่วน แถมยังมีความจุให้เลือกหลากหลาย ตอบโจทย์ตั้งแต่ครอบครัวเล็กๆ ไปจนถึงครอบครัวกลางๆ ได้สบายๆ
แต่ปัญหามันอยู่ตรงที่ว่า... ตอนนี้ในตลาดมีตู้เย็น 2 ประตูออกมาเยอะมากกกก หลายยี่ห้อ หลายรุ่น จนเลือกไม่ถูกเหมือนกันใช่ไหมครับ? บางทีเดินเข้าห้างฯ หรือเปิดแอปฯ ช้อปปิ้งออนไลน์นี่มีเป็นร้อยเป็นพันรุ่น จนตาลายไปหมด!
ไม่ต้องกังวลใจไปครับ! วันนี้ผมในฐานะคนรักความเย็นและชอบส่องโปรโมชั่นต่างๆ จะขออาสาเป็นไกด์ (จำเป็น) พาไปเจาะลึกโลกของตู้เย็น 2 ประตูในเมืองไทย พร้อมคัดมาให้เน้นๆ 10 รุ่นเด็ดที่น่าสอยในปี 2025 นี้ บอกเลยว่าอ่านจบปุ๊บ คุณจะเลือกตู้เย็นที่ใช่ ที่ชอบ ที่ประหยัดไฟ ได้ง่ายขึ้นเยอะเลยคร้าบ!
ตลาดตู้เย็น 2 ประตูในไทย: ร้อนแรงแค่ไหน ต้องดูอะไรบ้าง?
ตลาดตู้เย็นในไทยนี่บอกเลยว่าคึกคักไม่แพ้อากาศบ้านเราเลยครับ ยิ่งช่วงหลังๆ มานี้ ผู้บริโภคยุคใหม่ให้ความสำคัญกับการใช้ชีวิตในบ้านมากขึ้น เทรนด์การทำอาหารทานเองก็มาแรง ทำให้ความต้องการตู้เย็นที่เก็บของได้เยอะๆ แยกเป็นสัดส่วน และที่สำคัญคือ "ประหยัดพลังงาน" นี่พุ่งสูงปรี๊ดเลยครับ
แบรนด์ที่ครองตลาดบ้านเรา ส่วนใหญ่ก็จะเป็นแบรนด์ดังจากเอเชีย ไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่น เกาหลี และช่วงหลังๆ แบรนด์จากจีนก็เริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้นครับ แบรนด์ยอดนิยมที่คนไทยคุ้นเคยกันดีก็เช่น Toshiba, Sharp, Hitachi, Mitsubishi Electric, Samsung, LG, Haier, Electrolux, Hisense เป็นต้น
พฤติกรรมผู้บริโภคไทยเวลาเลือกซื้อตู้เย็น 2 ประตู นอกจากจะดูเรื่องความจุที่ต้อง "จุเยอะ" ไว้ก่อนแล้ว ก็จะมองหาฟังก์ชันที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ เช่น ระบบละลายน้ำแข็งอัตโนมัติ (No Frost), ระบบกำจัดกลิ่น, ช่องแช่ผักที่คงความสดได้นาน, ดีไซน์ที่สวยงามเข้ากับครัวสมัยใหม่ และที่ขาดไม่ได้เลยคือ "ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5" ยิ่งถ้าได้ 5 ดาวนี่ถูกใจใช่เลย! เพราะค่าไฟคือเรื่องใหญ่ที่เราต้องอยู่กับมันทุกเดือน
แหล่งช้อปปิ้งตู้เย็นยอดฮิตก็มีทั้งหน้าร้านจริงตามห้างสรรพสินค้า แผนกเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น Power Buy, HomePro, Big C, ไทวัสดุ หรือร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ทั่วประเทศ และแน่นอนว่าช่องทางออนไลน์อย่าง Lazada และ Shopee ก็เป็นที่นิยมมากๆ เพราะมีโปรโมชั่นและส่วนลดให้เลือกเพียบ สะดวกสบาย ส่งตรงถึงบ้าน!
ก่อนควักเงินซื้อ! เช็คลิสต์ปัจจัยสำคัญในการเลือกตู้เย็น 2 ประตู
เพื่อให้ได้ตู้เย็น 2 ประตูที่ถูกใจ ใช้แล้วมีความสุข ไม่ต้องเสียใจทีหลัง มาดูกันว่ามีอะไรที่เราต้องพิจารณาบ้างครับ
ปัจจัย | สิ่งที่ควรพิจารณา | ทำไมถึงสำคัญ (สำหรับตู้เย็น 2 ประตู) |
---|---|---|
ขนาดความจุ (คิว/ลิตร) | เลือกให้เหมาะสมกับจำนวนสมาชิกในครอบครัว และพฤติกรรมการซื้อของ (ตุนเยอะแค่ไหน?) | ตู้เย็น 2 ประตูมีขนาดให้เลือกหลากหลาย ตั้งแต่ 6 คิวขึ้นไป เหมาะกับครอบครัว 2-4 คน หรือมากกว่า ขึ้นอยู่กับความจุ |
ระบบทำความเย็น | ระบบ No Frost (ไร้น้ำแข็งเกาะ) หรือ Direct Cool? ระบบกระจายความเย็นแบบ Multi Air Flow, All-Around Cooling, Twin Cooling Plus? | ระบบ No Frost สะดวก ไม่ต้องละลายน้ำแข็งเอง ระบบกระจายความเย็นดีๆ ช่วยให้อาหารสดทั่วถึงทุกชั้น ระบบแยกช่องแช่เย็น/แข็ง ช่วยลดปัญหากลิ่นปน |
เทคโนโลยีคอมเพรสเซอร์ | ระบบ Inverter หรือ Fixed Speed? | Inverter สำคัญมาก! ช่วยให้คอมเพรสเซอร์ทำงานสม่ำเสมอ เงียบ ประหยัดพลังงาน และยืดอายุการใช้งาน ส่วนใหญ่รุ่นใหม่ๆ เป็น Inverter แล้ว |
การประหยัดพลังงาน | มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ไหม? ได้กี่ดาว? | ตัวช่วยสำคัญในการลดค่าไฟระยะยาว ยิ่งดาวเยอะยิ่งประหยัด |
ฟังก์ชันพิเศษ | ระบบกำจัดกลิ่น/แบคทีเรีย (เช่น Bio Deodorizer, Ag+ Nano Deodorizer, Plasmacluster, Pure BIO, TasteGuard) ช่องแช่ผักควบคุมความชื้น ช่องแช่เย็นแบบปรับอุณหภูมิได้ (Selectable Zone, Optimal Fresh) ระบบทำน้ำแข็งแบบบิด Smart Features (ควบคุมผ่านแอปฯ) | ฟังก์ชันพวกนี้ช่วยให้อาหารสดนานขึ้น สะดวกสบายในการใช้งาน และรักษาความสะอาด |
ดีไซน์และวัสดุ | ชอบแบบไหน? สแตนเลส กระจก หรือสีอื่นๆ? ขนาดเหมาะสมกับพื้นที่ในครัวไหม? | ตู้เย็นสมัยใหม่มีดีไซน์สวยงามเหมือนเฟอร์นิเจอร์ เลือกให้เข้ากับสไตล์บ้านเรา |
ชื่อเสียงแบรนด์และรีวิว | แบรนด์น่าเชื่อถือไหม? บริการหลังการขายเป็นอย่างไร? คนอื่นที่เคยใช้รีวิวว่าดีไหม? | เช็คจากรีวิวออนไลน์, เว็บไซต์ต่างๆ, หรือสอบถามคนรู้จัก เพื่อประกอบการตัดสินใจ |
ราคา | ตั้งงบไว้เท่าไหร่? | ตู้เย็น 2 ประตูมีราคาตั้งแต่หลักพันปลายๆ ไปจนถึงหลายหมื่นบาท เลือกให้คุ้มค่ากับฟังก์ชันที่ได้ |
จัดไป! 10 ตู้เย็น 2 ประตู น่าสอย ปี 2025 ที่คนไทยเลิฟๆ!
มาถึงช่วงไฮไลท์ที่เราทุกคนรอคอย! ผมรวบรวม 10 แบรนด์และรุ่นตู้เย็น 2 ประตูที่ได้รับความนิยม มีคนใช้เยอะ และน่าสนใจในปี 2025 นี้มาให้แล้วครับ ลองดูรายละเอียดของแต่ละรุ่นเพื่อประกอบการตัดสินใจได้เลย
1. LG (แอลจี)
แบรนด์จากเกาหลีใต้ โดดเด่นเรื่องเทคโนโลยี Smart Inverter Compressor ที่ช่วยประหยัดไฟและทำงานเงียบ พร้อมฟังก์ชันช่วยรักษาความสดใหม่ของอาหาร
- รุ่นแนะนำ: LG GN-F372PXAK, LG GN-B202SQBB, LG GN-B392PQGB (เน้นรุ่นที่มี Smart Inverter Compressor และ LinearCooling/Door Cooling+)
- จุดเด่น: คอมเพรสเซอร์ Smart Inverter ทนทาน ทำงานเงียบ และประหยัดพลังงาน มีเทคโนโลยี LinearCooling™ รักษาอุณหภูมิให้คงที่ ลดความผันผวน ช่วยคงความสดของอาหาร บางรุ่นมี Door Cooling+™ ช่วยทำความเย็นบริเวณประตูตู้เย็นได้รวดเร็ว ดีไซน์สวยทันสมัย บางรุ่นควบคุมผ่าน Wi-Fi ได้ด้วย
- ข้อเสีย: ราคามีตั้งแต่ระดับกลางถึงสูง ขึ้นอยู่กับขนาดและฟังก์ชัน
- เหมาะกับ: ครอบครัวที่ต้องการตู้เย็นที่ประหยัดไฟ ทำงานเงียบ และมีเทคโนโลยีช่วยรักษาความสดของอาหารเป็นพิเศษ
- ช่องทางซื้อ: Power Buy, HomePro, Big C, Lazada, Shopee, ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าชั้นนำ
- ช่วงราคา: 7,000 - 20,000+ บาท (ขึ้นอยู่กับขนาดและรุ่น)
- รีวิวผู้ใช้งาน (จำลอง): "เย็นเร็วมากค่ะ ประหยัดไฟจริงๆ คอมเพรสเซอร์เงียบดีค่ะ" "ชอบดีไซน์สวยดูแพง" "ช่องแช่ผักใหญ่ดีค่ะ เก็บได้เยอะ"
2. Samsung (ซัมซุง)
แบรนด์จากเกาหลีใต้ อีกหนึ่งแบรนด์ยอดนิยม มีเทคโนโลยี Digital Inverter และระบบทำความเย็นที่หลากหลาย ทั้ง All-Around Cooling และ Twin Cooling Plus
- รุ่นแนะนำ: Samsung RT38CG6020B1ST, Samsung RT20HAR1DSA, Samsung RB30N4050B1/ST (เน้นรุ่นที่มี Digital Inverter)
- จุดเด่น: เทคโนโลยี Digital Inverter ช่วยประหยัดพลังงานและปรับการทำงานให้เหมาะสม ระบบ All-Around Cooling ช่วยกระจายความเย็นทั่วถึง บางรุ่นมี Twin Cooling Plus แยกช่องแช่เย็นกับช่องแช่แข็ง ลดกลิ่นปนและรักษาความชื้นได้ดี ดีไซน์สวยงาม มีรุ่นให้เลือกหลากหลาย
- ข้อเสีย: ฟังก์ชันเยอะ บางทีอาจจะซับซ้อนนิดหน่อยสำหรับบางคน
- เหมาะกับ: ครอบครัวขนาดกลางถึงใหญ่ ที่ต้องการตู้เย็นดีไซน์สวย เทคโนโลยีครบครัน และเน้นการถนอมอาหารแบบแยกส่วน
- ช่องทางซื้อ: Power Buy, HomePro, Big C, Lazada, Shopee, Samsung Experience Store, ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าชั้นนำ
- ช่วงราคา: 7,000 - 25,000+ บาท (ขึ้นอยู่กับขนาดและรุ่น)
- รีวิวผู้ใช้งาน (จำลอง): "ใช้ซัมซุงมาหลายเครื่องแล้วค่ะ ทนทานดี รุ่นนี้ประหยัดไฟจริง" "ชอบดีไซน์ สวยวางมุมไหนก็เข้า" "ฟังก์ชัน Twin Cooling Plus ช่วยได้เยอะเลย กลิ่นไม่ปนกัน"
3. Hitachi (ฮิตาชิ)
แบรนด์จากญี่ปุ่น เป็นที่รู้จักเรื่องความทนทาน ระบบทำความเย็น Dual Fan Cooling และเทคโนโลยี Eco Thermo Sensor
- รุ่นแนะนำ: Hitachi R-VX350PF, Hitachi HRTN5198MXTH, Hitachi R-VGX400PF (เน้นรุ่นที่มี Inverter และ Dual Fan Cooling)
- จุดเด่น: ระบบ Dual Fan Cooling พัดลมคู่แยกอิสระ ช่วยทำความเย็นได้รวดเร็วและทั่วถึงทั้งช่องแช่เย็นและแช่แข็ง Eco Thermo Sensor ตรวจจับอุณหภูมิและปรับการทำงานให้เหมาะสม คอมเพรสเซอร์ Inverter ช่วยประหยัดไฟ วัสดุแข็งแรงทนทาน
- ข้อเสีย: ดีไซน์บางรุ่นอาจจะดูเรียบๆ
- เหมาะกับ: คนที่เน้นความทนทาน การใช้งานที่เสถียร และระบบทำความเย็นที่ทรงพลัง
- ช่องทางซื้อ: Power Buy, HomePro, Big C, ไทวัสดุ, Lazada, Shopee, ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าชั้นนำ
- ช่วงราคา: 6,000 - 25,000+ บาท (ขึ้นอยู่กับขนาดและรุ่น)
- รีวิวผู้ใช้งาน (จำลอง): "ใช้ฮิตาชิมานานมาก ทนจริงค่ะ ไม่ค่อยมีปัญหา" "เย็นเร็วดี แช่ของได้เยอะ" "ประหยัดไฟเบอร์ 5 ไว้ใจได้"
4. Toshiba (โตชิบา)
แบรนด์จากญี่ปุ่น มีรุ่นให้เลือกหลากหลาย เน้นเทคโนโลยี Origin Inverter และระบบกำจัดกลิ่น Pure BIO
- รุ่นแนะนำ: Toshiba GR-RT303WE, Toshiba GR-RT234WE, Toshiba GR-RT624WE (เน้นรุ่นที่มี Origin Inverter และ Pure BIO)
- จุดเด่น: เทคโนโลยี Origin Inverter ช่วยประหยัดพลังงาน ระบบกำจัดกลิ่น Pure BIO ช่วยขจัดกลิ่นและยับยั้งแบคทีเรีย มีระบบ AirFALL Cooling ช่วยกระจายความเย็น บางรุ่นมีช่องกดน้ำด้านหน้า เพิ่มความสะดวก
- ข้อเสีย: บางรุ่นอาจจะต้องดูสเปกย่อยดีๆ
- เหมาะกับ: คนที่มองหาตู้เย็นที่ประหยัดไฟ มีระบบกำจัดกลิ่น และมีฟังก์ชันเสริมที่สะดวกในการใช้งาน
- ช่องทางซื้อ: Power Buy, HomePro, Big C, ไทวัสดุ, Lazada, Shopee, ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าชั้นนำ
- ช่วงราคา: 5,000 - 20,000+ บาท (ขึ้นอยู่กับขนาดและรุ่น)
- รีวิวผู้ใช้งาน (จำลอง): "คุ้มค่าราคาดีค่ะ ประหยัดไฟด้วย" "Pure BIO ช่วยเรื่องกลิ่นได้ดีจริงๆ" "รุ่นกดน้ำสะดวกดีค่ะ"
5. Sharp (ชาร์ป)
แบรนด์จากญี่ปุ่น มีจุดเด่นที่ระบบฟอกอากาศ Plasmacluster และเทคโนโลยี J-Tech Inverter
- รุ่นแนะนำ: Sharp Inverter MEGA Freezer (รุ่นใหญ่), Sharp SJ-C19E, Sharp SJ-X510GP2 (เน้นรุ่นที่มี Plasmacluster และ J-Tech Inverter)
- จุดเด่น: ระบบ Plasmacluster Ion ช่วยกำจัดเชื้อรา แบคทีเรีย และลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ เทคโนโลยี J-Tech Inverter คอมเพรสเซอร์ทำงานสม่ำเสมอ เงียบ และประหยัดไฟ มีรุ่น MEGA Freezer ที่ช่องแช่แข็งใหญ่พิเศษ บางรุ่นมีปุ่มแช่แข็งเร่งด่วน
- ข้อเสีย: ฟังก์ชัน Plasmacluster อาจจะต้องเปลี่ยนอะไหล่บ้าง (แต่รุ่นใหม่ๆ ส่วนใหญ่ทนทานขึ้น)
- เหมาะกับ: คนที่ใส่ใจเรื่องสุขอนามัย ต้องการระบบฟอกอากาศในตู้เย็น หรือต้องการพื้นที่แช่แข็งเยอะเป็นพิเศษ
- ช่องทางซื้อ: Power Buy, HomePro, Big C, Lazada, Shopee, ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าชั้นนำ
- ช่วงราคา: 6,000 - 20,000+ บาท (ขึ้นอยู่กับขนาดและรุ่น)
- รีวิวผู้ใช้งาน (จำลอง): "ใช้ชาร์ปเพราะมี Plasmacluster ค่ะ รู้สึกมั่นใจเรื่องความสะอาด" "MEGA Freezer นี่ตอบโจทย์คนชอบตุนของแช่แข็งมาก" "J-Tech Inverter เงียบจริงค่ะ"
6. Mitsubishi Electric (มิตซูบิชิ อีเล็คทริค)
แบรนด์จากญี่ปุ่น ขึ้นชื่อเรื่องความทนทาน คุณภาพวัสดุ และเทคโนโลยี Neuro Fuzzy System (ในบางรุ่น)
- รุ่นแนะนำ: Mitsubishi MR-FC23ET, Mitsubishi MR-FS45ES, Mitsubishi MR-FX38ES (เน้นรุ่นที่มี Inverter และฉลากประหยัดไฟ)
- จุดเด่น: วัสดุคุณภาพดี แข็งแรงทนทาน มักได้รับรีวิวเรื่องความอึด คอมเพรสเซอร์ Inverter ช่วยประหยัดไฟ มีช่องแช่แข็งแบบ Soft Freezing (ในบางรุ่น) และบางรุ่นมี Extra Box เพิ่มพื้นที่จัดเก็บ
- ข้อเสีย: ราคามักจะสูงกว่าแบรนด์อื่นๆ ในสเปกที่ใกล้เคียงกัน
- เหมาะกับ: คนที่ให้ความสำคัญกับความทนทาน อายุการใช้งานที่ยาวนาน และคุณภาพวัสดุ
- ช่องทางซื้อ: Power Buy, HomePro, Big C, ไทวัสดุ, Lazada, Shopee, ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าชั้นนำ
- ช่วงราคา: 8,000 - 25,000+ บาท (ขึ้นอยู่กับขนาดและรุ่น)
- รีวิวผู้ใช้งาน (จำลอง): "มิตซูบิชิใช้ดีสมคำร่ำลือค่ะ ทนมาก ใช้มาหลายปีแล้วยังไม่มีปัญหาเลย" "Soft Freezing สะดวกดีค่ะ ไม่ต้องเสียเวลาละลายน้ำแข็งเนื้อ"
7. Haier (ไฮเออร์)
แบรนด์จากจีน มีจุดเด่นเรื่องความหลากหลายของสินค้า ราคาเข้าถึงง่าย และดีไซน์ที่ทันสมัย
- รุ่นแนะนำ: Haier HRF-THM18NS, Haier EHRT257ONL (เน้นรุ่นที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5)
- จุดเด่น: ราคาเป็นมิตรกับงบประมาณ มีรุ่นให้เลือกหลากหลายขนาด ดีไซน์สวยงาม ทันสมัย บางรุ่นมีฟังก์ชัน Quick Cool/Quick Freeze ประหยัดไฟเบอร์ 5
- ข้อเสีย: ความทนทานในระยะยาวอาจจะต้องดูรีวิวผู้ใช้งานประกอบ
- เหมาะกับ: คนที่มองหาตู้เย็น 2 ประตูในงบประมาณจำกัด เน้นฟังก์ชันพื้นฐานที่ครบครัน และดีไซน์ที่สวยงาม
- ช่องทางซื้อ: HomePro, Big C, ไทวัสดุ, Lazada, Shopee, ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าชั้นนำ
- ช่วงราคา: 5,000 - 15,000+ บาท (ขึ้นอยู่กับขนาดและรุ่น)
- รีวิวผู้ใช้งาน (จำลอง): "ราคาดีมากค่ะ เหมาะกับคนงบน้อย" "ดีไซน์สวย แช่ของได้เยอะดีค่ะ" "ประหยัดไฟเบอร์ 5 ถูกใจค่ะ"
8. Electrolux (อีเลคโทรลักซ์)
แบรนด์จากสวีเดน เน้นดีไซน์เรียบหรู ฟังก์ชันทันสมัย และเทคโนโลยีช่วยถนอมอาหาร
- รุ่นแนะนำ: Electrolux ETB4600B, Electrolux ETM3100L, Electrolux ETM4302C (เน้นรุ่นที่มี Inverter และเทคโนโลยีถนอมอาหาร)
- จุดเด่น: ดีไซน์เรียบหรู ทันสมัย สไตล์ยุโรป มีเทคโนโลยี TasteLockPlus™ ช่วยรักษาความสดและความชื้นของผักผลไม้ ระบบ EvenTemp™ ลดความผันผวนของอุณหภูมิ คอมเพรสเซอร์ Inverter ช่วยประหยัดพลังงาน มีระบบ TasteGuard™ ช่วยกรองกลิ่น
- ข้อเสีย: ราคามักจะอยู่ในระดับกลางถึงสูง
- เหมาะกับ: คนที่ชื่นชอบดีไซน์สไตล์มินิมอล ยุโรป และให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีช่วยถนอมอาหารเป็นพิเศษ
- ช่องทางซื้อ: Power Buy, HomePro, Big C, ไทวัสดุ, Lazada, Shopee, ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าชั้นนำ
- ช่วงราคา: 10,000 - 25,000+ บาท (ขึ้นอยู่กับขนาดและรุ่น)
- รีวิวผู้ใช้งาน (จำลอง): "ชอบดีไซน์มากค่ะ วางในครัวแล้วดูแพงขึ้นเลย" "ผักผลไม้เก็บได้นานขึ้นจริงๆ ค่ะ" "คอมเพรสเซอร์เงียบดีมาก"
9. Hisense (ไฮเซ่นส์)
แบรนด์จากจีน เริ่มเป็นที่นิยมในไทย มีจุดเด่นเรื่องราคาที่เข้าถึงง่าย และฟังก์ชันที่ครบครัน
- รุ่นแนะนำ: Hisense ERB286S, Hisense ERT169B, Hisense RT266N4TGN (เน้นรุ่นที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5)
- จุดเด่น: ราคาคุ้มค่า ฟังก์ชันพื้นฐานครบครัน มีรุ่นดีไซน์สวยหรู ประหยัดไฟเบอร์ 5 บางรุ่นมีระบบกำจัดกลิ่น
- ข้อเสีย: อาจจะยังไม่เป็นที่รู้จักเท่าแบรนด์ญี่ปุ่น/เกาหลีในบางกลุ่มผู้บริโภค
- เหมาะกับ: คนที่ต้องการตู้เย็น 2 ประตูฟังก์ชันดีในราคาที่สบายกระเป๋า
- ช่องทางซื้อ: HomePro, Big C, ไทวัสดุ, Lazada, Shopee, ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าชั้นนำ
- ช่วงราคา: 5,000 - 15,000+ บาท (ขึ้นอยู่กับขนาดและรุ่น)
- รีวิวผู้ใช้งาน (จำลอง): "เซอร์ไพรส์มากกับ Hisense ราคาดีแต่ฟังก์ชันโอเคเลย" "แช่ของเย็นเร็วดีค่ะ ประหยัดไฟด้วย"
10. Beko (เบโค)
แบรนด์จากตุรกี มีนวัตกรรม HarvestFresh™ ช่วยถนอมวิตามินในผักผลไม้ และ NeoFrost™ Dual Cooling
- รุ่นแนะนำ: Beko RDNT371E50VZGB, Beko RDNT271I50HFK (เน้นรุ่นที่มี HarvestFresh™ และ NeoFrost™)
- จุดเด่น: เทคโนโลยี HarvestFresh™ ด้วยแสง 3 สีในช่องแช่ผัก ช่วยเลียนแบบแสงธรรมชาติ เพื่อคงคุณค่าวิตามินในผักผลไม้ ระบบ NeoFrost™ Dual Cooling แยกส่วนทำความเย็นระหว่างช่องแช่เย็นและแช่แข็ง ช่วยรักษาความชื้นและป้องกันกลิ่นปน ดีไซน์สวย มีรุ่นเน้นประหยัดพลังงาน
- ข้อเสีย: ยังมีรุ่นให้เลือกไม่มากเท่าแบรนด์หลักอื่นๆ ในไทย
- เหมาะกับ: คนที่ใส่ใจเรื่องสุขภาพ ต้องการถนอมวิตามินในผักผลไม้ และชอบนวัตกรรมใหม่ๆ
- ช่องทางซื้อ: HomePro, Power Buy, ไทวัสดุ, Lazada, Shopee, ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าชั้นนำ
- ช่วงราคา: 8,000 - 20,000+ บาท (ขึ้นอยู่กับขนาดและรุ่น)
- รีวิวผู้ใช้งาน (จำลอง): "HarvestFresh™ น่าสนใจมากค่ะ รู้สึกว่าผักสดนานขึ้นจริงๆ" "ดีไซน์สวย ฟังก์ชัน NeoFrost™ ก็ดีเลยค่ะ"
ไขข้อข้องใจ! คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับตู้เย็น 2 ประตู สไตล์คนไทย
ไหนๆ ก็จะซื้อตู้เย็นใหม่แล้ว มักจะมีคำถามคาใจเสมอ มาดูกันว่ามีคำถามยอดฮิตอะไรบ้างครับ
Q: ตู้เย็น 2 ประตูระบบ Inverter ต่างกับแบบธรรมดายังไง? จำเป็นต้องซื้อแบบ Inverter ไหม?
A: ต่างกันตรงที่คอมเพรสเซอร์ครับ แบบธรรมดา (Fixed Speed) จะทำงานเต็มที่แล้วตัด พอกลับมาทำงานใหม่ก็จะกระชากไฟและมีเสียงดัง ส่วนแบบ Inverter จะทำงานแบบหรี่รอบ ทำให้ความเย็นคงที่กว่า เสียงเงียบกว่า และที่สำคัญคือ ประหยัดไฟกว่ามาก ในระยะยาว ถ้าเน้นเรื่องค่าไฟและความทนทาน แนะนำให้เลือกแบบ Inverter ครับ
Q: ตู้เย็น 2 ประตู ประหยัดไฟเบอร์ 5 ดูตรงไหน? ยิ่งดาวเยอะยิ่งดีจริงหรือเปล่า?
A: ดูได้จากฉลากที่ติดอยู่หน้าตู้เย็นเลยครับ จะเป็นสัญลักษณ์วงกลมสีส้มๆ มีเลข 5 อยู่ตรงกลาง ส่วนดาวที่อยู่บนฉลากก็บ่งบอกถึงระดับการประหยัดพลังงานครับ ยิ่งจำนวนดาวเยอะ ยิ่งประหยัดไฟมากครับ ถ้ามีงบหน่อย เลือกแบบ 5 ดาวไปเลย คุ้มค่าในระยะยาวแน่นอน
Q: อยู่หอพัก/คอนโด ควรใช้ตู้เย็น 2 ประตูขนาดเท่าไหร่ดี?
A: ถ้าอยู่คนเดียวหรือ 2 คน ตู้เย็น 2 ประตูขนาดเล็กประมาณ 6-8 คิว ก็เพียงพอแล้วครับ แต่ถ้าชอบทำอาหาร หรือชอบตุนของ ก็อาจจะขยับไปเป็น 8-10 คิวได้ครับ
Q: ระบบละลายน้ำแข็งอัตโนมัติ (No Frost) ดีไหม?
A: ดีมากครับ! ระบบ No Frost จะช่วยกระจายความเย็นโดยไม่มีน้ำแข็งเกาะ ทำให้เราไม่ต้องเสียเวลาแซะน้ำแข็งในช่องฟรีซเอง และยังช่วยรักษาความเย็นให้สม่ำเสมอด้วย ตู้เย็น 2 ประตูส่วนใหญ่ในปัจจุบันก็เป็นระบบ No Frost แล้วครับ
Q: ซื้อตู้เย็นออนไลน์กับหน้าร้านต่างกันไหม?
A: ต่างกันตรงประสบการณ์ครับ ซื้อออนไลน์สะดวก มีโปรโมชั่นเยอะ เปรียบเทียบราคาได้ง่าย แต่ถ้าซื้อหน้าร้าน เราจะได้เห็นสินค้าจริง สัมผัสวัสดุ และสอบถามพนักงานได้โดยตรงครับ แนะนำให้ลองไปดูของจริงที่ร้านก่อน แล้วค่อยมาเปรียบเทียบราคาออนไลน์อีกทีก็ได้ครับ
สรุปส่งท้าย: เลือกตู้เย็น 2 ประตู ให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ความเย็นของเรา!
การเลือกตู้เย็น 2 ประตูสักเครื่อง ไม่ใช่แค่เลือกที่ราคาถูกที่สุด หรือสวยที่สุดนะครับ แต่ต้องเลือกที่ตอบโจทย์การใช้งานของเราจริงๆ ทั้งเรื่องความจุ ฟังก์ชันที่จำเป็น และความคุ้มค่าในระยะยาว
- ถ้า งบประมาณจำกัด แต่อยากได้ตู้เย็นดีๆ ลองดู Haier หรือ Hisense รุ่นเริ่มต้นครับ
- ถ้าเน้น ประหยัดไฟ เป็นหลัก มองหารุ่นที่มี Inverter และ ฉลากเบอร์ 5 แบบ 5 ดาว ไว้ก่อนเลยครับ หลายแบรนด์ยอดนิยมมีให้เลือก ทั้ง LG, Samsung, Hitachi, Toshiba, Mitsubishi Electric
- ถ้าเป็น ครอบครัวขนาดกลาง ชอบทำอาหาร ตุนของ แนะนำขนาด 8-12 คิว จากแบรนด์อย่าง Samsung, LG, Hitachi, Toshiba, Mitsubishi Electric
- ถ้า ใส่ใจเรื่องความสะอาด และสุขอนามัย ลองดู Sharp ที่มี Plasmacluster หรือรุ่นที่มีระบบกำจัดกลิ่นอื่นๆ ครับ
- ถ้า ชอบดีไซน์สวยๆ สไตล์มินิมอล ลองดู Electrolux หรือรุ่นดีไซน์พรีเมียมจาก Samsung, LG, Hitachi, Toshiba
สิ่งที่ควรระวังคือ อย่าเห็นแก่ของถูกเกินไป จนได้ตู้เย็นที่กินไฟ หรือฟังก์ชันไม่เพียงพอต่อการใช้งานนะครับ
และเช็คการรับประกัน รวมถึงบริการหลังการขายให้ดีด้วย โดยเฉพาะคอมเพรสเซอร์ ส่วนใหญ่มีการรับประกันยาว 5-10 ปี
มาแชร์ประสบการณ์ตู้เย็นคู่ใจกันหน่อยเร็ว! 👇
เป็นยังไงกันบ้างครับ กับข้อมูลตู้เย็น 2 ประตูที่ผมรวบรวมมาให้ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจนะครับ! เพื่อนๆ คนไหนกำลังใช้ตู้เย็น 2 ประตูรุ่นไหนอยู่ หรือมีประสบการณ์ดีๆ (หรือไม่ดี!) กับแบรนด์ไหน รุ่นไหน คอมเมนต์มาแชร์กันหน่อยได้เลยนะคร้าบ ถือว่าเป็นการช่วยเพื่อนๆ คนอื่นที่กำลังมองหาตู้เย็นด้วยครับ!
ถ้าชอบบทความนี้ หรืออยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรุ่นไหนเป็นพิเศษ พิมพ์บอกมาได้เลยนะครับ แล้วเจอกันใหม่บทความหน้า สวัสดีครับ! 👋