logo

10 เครื่องทำความชื้น ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 เพิ่มความชื้น หายใจสบาย

user avatar
ณัฐพล ศรีสุขุม·06/25/2025 16:59
点赞
10 เครื่องทำความชื้น ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 เพิ่มความชื้น หายใจสบาย

สวัสดีครับเพื่อนๆ ชาวไทยผู้รักสุขภาพและผิวพรรณ! 👋 ในยุคที่บ้านเราอากาศร้อนอบอ้าว จนหลายคนต้องเปิดแอร์สู้ทั้งวันทั้งคืน แต่รู้ไหมครับว่าความเย็นสบายที่ได้มานั้น แอบพรากความชุ่มชื้นไปจากอากาศรอบๆ ตัวเราด้วยนะ!

อาการยอดฮิตของชาวห้องแอร์ก็คือ ผิวแห้ง ปากแห้ง แสบจมูก ไอแห้งๆ หรือบางทีก็รู้สึกไม่สบายตัว หายใจไม่ค่อยโล่ง นั่นเป็นเพราะอากาศที่แห้งเกินไปกำลังแผลงฤทธิ์อยู่ครับ นอกจากนี้อากาศแห้งๆ ยังอาจทำให้อาการภูมิแพ้แย่ลง และเฟอร์นิเจอร์ไม้แสนรักอาจเสียหายได้อีกด้วยนะ

แต่ไม่ต้องกลุ้มใจไปครับ! พระเอกที่จะมาช่วยกอบกู้สถานการณ์นี้ก็คือ "เครื่องทำความชื้น" หรือที่บางทีก็เรียกว่าเครื่องพ่นไอน้ำนั่นแหละครับ เจ้าเครื่องนี้จะช่วยเพิ่มความชื้นกลับคืนสู่อากาศ ทำให้เราหายใจสบายขึ้น ผิวไม่แห้งกร้าน แถมยังช่วยลดปัญหาที่เกิดจากอากาศแห้งได้อีกเพียบเลย

ปัญหาคือ... ตอนนี้ในตลาดมีเครื่องทำความชื้นเยอะแยะเต็มไปหมดละลานตาไปหมด! ไม่รู้จะเลือกยี่ห้อไหน รุ่นไหนดี ถึงจะคุ้มค่า ใช้งานง่าย และตอบโจทย์คนไทยอย่างเราๆ ที่สุด? 🤔

ไม่ต้องห่วงครับ! วันนี้ผมจะขออาสาเป็นเพื่อนคู่ใจ พาไปเจาะลึกเรื่องเครื่องทำความชื้น พร้อมชี้เป้า 10 ยี่ห้อเด็ดที่น่าจับตามองในปี 2025 นี้ รับรองว่าอ่านจบปุ๊บ เลือกซื้อได้ปั๊บ หายใจคล่องสบายตัวตลอดปีแน่นอนคร้าบ!

ตลาดเครื่องทำความชื้นในไทย เป็นยังไงบ้างนะ?

ถ้าถามว่าเครื่องทำความชื้นฮิตในไทยไหม เมื่อก่อนอาจจะยังไม่มากเท่าไหร่ เพราะบ้านเราเป็นเมืองร้อนชื้นอยู่แล้ว แต่เดี๋ยวนี้ที่คนไทยใช้ชีวิตในห้องแอร์กันมากขึ้น ทั้งที่บ้าน ออฟฟิศ ห้างสรรพสินค้า ทำให้ความต้องการเครื่องทำความชื้นเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลยครับ

ตลาดในไทยส่วนใหญ่เป็นแบรนด์นำเข้าครับ มีทั้งแบรนด์ดังจากจีนอย่าง Xiaomi, Deerma หรือแบรนด์อื่นๆ ที่เข้ามาทำตลาด ผู้บริโภคไทยเวลามองหาเครื่องทำความชื้นมักจะเน้นเรื่อง ราคาที่จับต้องได้ ดีไซน์สวยงามเข้ากับบ้าน ใช้งานง่าย เติมน้ำสะดวก ทำงานเงียบ และบางคนก็ชอบแบบที่สามารถใส่ น้ำมันหอมระเหย เพื่อเพิ่มความผ่อนคลายได้ด้วยครับ

แหล่งช้อปปิ้งยอดฮิตก็หนีไม่พ้นโลกออนไลน์อย่าง Lazada และ Shopee ที่มีสินค้าให้เลือกหลากหลาย ราคาแข่งขันกันสุดๆ และมีรีวิวจากผู้ใช้จริงให้อ่านเพียบ ส่วนร้านค้าออฟไลน์ใหญ่ๆ อย่าง Power Buy หรือโซนเครื่องใช้ไฟฟ้าในห้างสรรพสินค้าก็มีให้เลือกดูและสัมผัสของจริงก่อนตัดสินใจครับ

เลือกเครื่องทำความชื้นยังไงให้โดนใจ?

ก่อนจะพุ่งตัวไปช้อป มาดูกันก่อนว่ามีปัจจัยอะไรบ้างที่เราต้องพิจารณา เพื่อให้ได้เครื่องทำความชื้นที่เหมาะกับเราที่สุดครับ ลองดูตามนี้ได้เลย!

ปัจจัยสิ่งที่ควรพิจารณา (สำหรับเครื่องทำความชื้น)
ประเภทของเครื่องมีหลายแบบหลักๆ คือ
- อัลตราโซนิค (Ultrasonic): พ่นหมอกเย็น ทำงานเงียบ เป็นที่นิยมมาก
- ไอระเหย (Evaporative): ใช้พัดลมเป่าผ่านแผ่นกรอง ไม่เกิดฝุ่นขาว เหมาะกับบ้านมีเด็ก/ภูมิแพ้
- ไอน้ำ/ไออุ่น (Steam Vaporizer): ต้มน้ำให้เป็นไอน้ำ อาจมีไอร้อน เหมาะกับฆ่าเชื้อ แต่ต้องระวังเรื่องความร้อน
ขนาดห้องเครื่องแต่ละรุ่นรองรับพื้นที่ต่างกัน ต้องเลือกขนาดที่เหมาะสมกับห้องที่จะใช้งาน ถ้าเล็กไปความชื้นจะไม่พอ ถ้าใหญ่ไปอาจชื้นเกินไป
ความจุถังน้ำถ้าถังใหญ่ก็ไม่ต้องเติมน้ำบ่อย เหมาะกับการเปิดต่อเนื่องนานๆ แต่ถ้าถังเล็กก็จะกะทัดรัด เคลื่อนย้ายง่าย
ระดับเสียงสำคัญมากสำหรับห้องนอน! มองหารุ่นที่ทำงานเงียบๆ (ปกติไม่เกิน 30-35 dB สำหรับห้องนอน)
ความสามารถในการเติมน้ำ/ทำความสะอาดเลือกแบบที่เติมน้ำง่าย ล้างทำความสะอาดไม่ยุ่งยาก เพราะต้องทำความสะอาดเป็นประจำเพื่อป้องกันเชื้อรา
ฟังก์ชันพิเศษตั้งเวลาได้? มีโหมดกลางคืน? ใส่ น้ำมันหอมระเหย ได้? มีไฟ LED แสดงสถานะ? มีระบบฆ่าเชื้อ UV? เลือกตามความต้องการใช้งานเลยครับ
ความปลอดภัยมีระบบตัดไฟอัตโนมัติเมื่อน้ำหมดหรือไม่? สำคัญมากๆ ครับ
ราคามีตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักพันปลายๆ หรือหมื่นต้นๆ เลือกตามงบประมาณและความคุ้มค่า
แบรนด์และรีวิวแบรนด์น่าเชื่อถือไหม? คนที่เคยใช้ในไทยรีวิวเป็นยังไงบ้าง? ดูได้ตาม Lazada, Shopee หรือ Pantip ครับ

จัดไป! 10 เครื่องทำความชื้น น่าสอย ปี 2025!

ถึงช่วงที่ทุกคนรอคอย! ผมคัดมาให้แล้ว 10 รุ่นเด็ดจากหลากหลายแบรนด์ ที่เป็นที่นิยมและหาซื้อง่ายในตลาดไทยครับ ลองพิจารณาตามสไตล์และความต้องการของตัวเองได้เลย!


1. Xiaomi Mijia Humidifier / Smart Humidifier

แบรนด์จากจีน ยอดฮิตเรื่องดีไซน์มินิมอล ราคาเป็นมิตร และเชื่อมต่อ Smart Home ได้

  • รุ่นแนะนำ: Xiaomi Mijia Smart Humidifier 2, Xiaomi Humidifier 2
  • จุดเด่น: ดีไซน์สวยงาม มินิมอล ควบคุมผ่านแอป Mi Home ได้ (บางรุ่น) เติมน้ำง่ายจากด้านบน มีรุ่นที่มีระบบ UV ฆ่าเชื้อในน้ำ ราคาเข้าถึงง่าย
  • ข้อเสีย: บางรุ่นอาจจะไม่มีหน้าจอแสดงระดับความชื้น ทำให้ต้องดูผ่านแอปฯ
  • เหมาะกับ: คนที่ชอบดีไซน์สวยๆ มินิมอล ผู้ใช้งานอุปกรณ์ Smart Home ของ Xiaomi หรือคนที่มองหาเครื่องทำความชื้นฟังก์ชันครบในราคาคุ้มค่า
  • ช่องทางซื้อ: Xiaomi Official Store, Lazada, Shopee, ร้านค้าตัวแทนจำหน่าย
  • ราคา: เริ่มต้นประมาณ 8xx - 2,xxx บาท ขึ้นอยู่กับรุ่นและฟังก์ชัน
  • รีวิว: "ดีไซน์สวยมาก เข้ากับห้องสุดๆ ควบคุมผ่านมือถือได้สะดวกดี" - ผู้ใช้จาก Shopee. "เติมน้ำง่ายไม่ต้องยกถัง ชอบที่มี UV ฆ่าเชื้อด้วย" - คุณแม่ลูกอ่อน.

2. DEERMA Ultrasonic Air Humidifier

แบรนด์จากจีน เป็นอีกแบรนด์ที่ได้รับความนิยมในตลาดออนไลน์ ราคาดี ฟังก์ชันหลากหลาย

  • รุ่นแนะนำ: Deerma F600/F600S, Deerma F628S
  • จุดเด่น: ราคาเป็นมิตร มีหลากหลายรุ่นให้เลือกตามความจุและฟังก์ชัน บางรุ่นมีหน้าจอแสดงผล มีระบบ UV ฆ่าเชื้อ ความจุถังน้ำเยอะ ใช้งานต่อเนื่องได้นาน
  • ข้อเสีย: วัสดุอาจจะไม่พรีเมียมเท่าแบรนด์ราคาสูง.
  • เหมาะกับ: คนที่มองหาเครื่องทำความชื้นราคาประหยัด ฟังก์ชันพื้นฐานครบ หรือต้องการความจุถังน้ำเยอะๆ
  • ช่องทางซื้อ: Deerma Official Store, Lazada, Shopee
  • ราคา: เริ่มต้นประมาณ 5xx - 1,xxx บาท
  • รีวิว: "คุ้มค่ากับราคามาก เติมน้ำ 5 ลิตรใช้ได้ทั้งคืน" - ผู้ใช้จาก Lazada. "ชอบรุ่นที่มีหน้าจอ บอกอุณหภูมิกับความชื้นได้" - พนักงานออฟฟิศ.

3. Levoit Humidifier

แบรนด์จากอเมริกา ได้รับความนิยมในระดับสากล เน้นคุณภาพและดีไซน์

  • รุ่นแนะนำ: Levoit Humidifier Classic 200, Levoit Humidifier VeSync Classic 300S
  • จุดเด่น: ดีไซน์สวยงาม คุณภาพดี มีรุ่นที่ควบคุมผ่านแอปพลิเคชัน VeSync ได้ ทำงานเงียบ เหมาะสำหรับห้องนอน บางรุ่นความจุเยอะ ใช้งานได้ยาวนาน
  • ข้อเสีย: ราคาสูงกว่าแบรนด์จีนทั่วไป.
  • เหมาะกับ: คนที่มองหาเครื่องทำความชื้นคุณภาพดี เชื่อถือได้ ต้องการฟังก์ชัน Smart Home หรือเน้นเครื่องที่ทำงานเงียบในห้องนอน
  • ช่องทางซื้อ: Levoit Official Store, Lazada, Shopee, ร้านค้าอุปกรณ์เพื่อสุขภาพ
  • ราคา: เริ่มต้นประมาณ 1,xxx - 3,xxx บาท
  • รีวิว: "เครื่องสวยมาก ทำงานเงียบจริง หลับสบายขึ้นเยอะเลย" - ผู้ใช้จาก Pantip. "ควบคุมผ่านแอปได้สะดวก ตั้งเวลาเปิดปิดได้เลย" - คนชอบเทคโนโลยี.

4. Simplus Humidifier

แบรนด์ที่เน้นสินค้าไลฟ์สไตล์ มีเครื่องทำความชื้นดีไซน์น่ารัก ราคาเข้าถึงง่าย

  • รุ่นแนะนำ: Simplus Humidifier รุ่นต่างๆ
  • จุดเด่น: ดีไซน์กะทัดรัด น่ารัก เหมาะกับการวางบนโต๊ะทำงานหรือหัวเตียง ราคาเป็นมิตรมากๆ หาซื้อง่าย
  • ข้อเสีย: ฟังก์ชันอาจจะไม่หลากหลายเท่าแบรนด์ราคาสูง ความจุถังน้ำอาจจะไม่เยอะมาก.
  • เหมาะกับ: นักเรียน นักศึกษา หรือคนที่ต้องการเครื่องทำความชื้นขนาดเล็กสำหรับพื้นที่ส่วนตัว งบประมาณจำกัด
  • ช่องทางซื้อ: Simplus Official Store, Lazada, Shopee
  • ราคา: เริ่มต้นประมาณ 3xx - 8xx บาท
  • รีวิว: "เครื่องเล็กน่ารักดีค่ะ เอามาตั้งบนโต๊ะทำงานช่วยได้เยอะเลย" - พนักงานออฟฟิศ. "ราคาถูกมาก ลองซื้อมาใช้ดู ก็โอเคเลยค่ะ" - นักศึกษา.

5. KIVEE Humidifier

แบรนด์เน้นอุปกรณ์เสริมอิเล็กทรอนิกส์ มีเครื่องทำความชื้นดีไซน์หลากหลาย ราคาดี

  • รุ่นแนะนำ: KIVEE เครื่องเพิ่มความชื้น รุ่นต่างๆ เช่น JSQ16
  • จุดเด่น: ราคาดี มีรุ่นให้เลือกหลายขนาด หลายดีไซน์ บางรุ่นมีหัวพ่นคู่ ความจุถังน้ำพอเหมาะ
  • ข้อเสีย: อาจจะต้องดูรีวิวแต่ละรุ่นย่อยๆ เพราะฟังก์ชันอาจแตกต่างกัน.
  • เหมาะกับ: คนที่มองหาเครื่องทำความชื้นราคาไม่แพง มีตัวเลือกดีไซน์เยอะ
  • ช่องทางซื้อ: KIVEE Official Store, Lazada, Shopee
  • ราคา: เริ่มต้นประมาณ 4xx - 1,xxx บาท
  • รีวิว: "เครื่องน่ารัก มีไฟด้วย ชอบค่ะ" - ผู้ใช้จาก Lazada. "พ่นไอน้ำได้แรงดี ใช้ในห้องนอนโอเคเลย" - ลูกค้าออนไลน์.

6. Sharp Air Purifier with Humidifying Function

แบรนด์จากญี่ปุ่น โดดเด่นเรื่องเครื่องฟอกอากาศ และมีบางรุ่นที่รวมฟังก์ชันทำความชื้นไว้ด้วย

  • รุ่นแนะนำ: Sharp Air Purifier รุ่นที่มีฟังก์ชันทำความชื้น เช่น KI-N40TA
  • จุดเด่น: ได้ทั้งฟอกอากาศและเพิ่มความชื้นในเครื่องเดียว ลดปัญหาพื้นที่จำกัด คุณภาพเชื่อถือได้ตามสไตล์แบรนด์ญี่ปุ่น
  • ข้อเสีย: ราคาสูงกว่าเครื่องทำความชื้นเพียวๆ ฟังก์ชันทำความชื้นอาจจะไม่เด่นเท่าเครื่องเฉพาะทาง.
  • เหมาะกับ: คนที่ต้องการทั้งเครื่องฟอกอากาศและเครื่องทำความชื้นในเครื่องเดียว หรือคนที่ไว้ใจแบรนด์ญี่ปุ่น
  • ช่องทางซื้อ: ร้านค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าชั้นนำ (Power Buy, HomePro), Central Online, Lazada, Shopee (ร้านทางการ)
  • ราคา: เริ่มต้นประมาณ 6,xxx - 1x,xxx+ บาท (ขึ้นอยู่กับรุ่นและฟังก์ชันฟอกอากาศ)
  • รีวิว: "เครื่องเดียวจบ ได้ทั้งอากาศบริสุทธิ์และความชื้นในห้องนอน" - ผู้ใช้จาก Central Online. "มั่นใจในคุณภาพ Sharp ใช้มาหลายอย่างแล้ว" - คุณลุงข้างบ้าน.

7. Philips Humidifier

แบรนด์จากเนเธอร์แลนด์ เป็นที่รู้จักในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน มีเครื่องทำความชื้นที่เน้นประสิทธิภาพ

  • รุ่นแนะนำ: Philips Humidifier รุ่นต่างๆ
  • จุดเด่น: คุณภาพดี แบรนด์น่าเชื่อถือ ดีไซน์สวยงามทันสมัย บางรุ่นเน้นการกระจายความชื้นที่สม่ำเสมอ
  • ข้อเสีย: ราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับแบรนด์เอเชีย.
  • เหมาะกับ: คนที่เน้นแบรนด์ยุโรป คุณภาพดี ดีไซน์สวยงาม
  • ช่องทางซื้อ: ร้านค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าชั้นนำ, Central Online, Lazada, Shopee (ร้านทางการ)
  • ราคา: เริ่มต้นประมาณ 2,xxx - 5,xxx+ บาท
  • รีวิว: "ดีไซน์สวย มินิมอล วางมุมไหนก็ดูดี" - อินฟลูเอนเซอร์แต่งบ้าน. "รู้สึกว่าอากาศในห้องชุ่มชื้นขึ้นจริงๆ ค่ะ" - ผู้ใช้จาก Power Buy.

8. Houseworth Humidifier

แบรนด์ไทย/จัดจำหน่ายในไทย เน้นเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนและขนาดเล็ก ราคาไม่แรง

  • รุ่นแนะนำ: Houseworth รุ่น HW-K101
  • จุดเด่น: ราคาเข้าถึงง่าย หาซื้อง่ายตามห้างและร้านค้าทั่วไป เหมาะกับการใช้งานพื้นฐาน
  • ข้อเสีย: ฟังก์ชันอาจไม่หลากหลายเท่าแบรนด์ที่เน้นด้านนี้โดยเฉพาะ ดีไซน์อาจจะธรรมดา.
  • เหมาะกับ: คนที่ต้องการเครื่องทำความชื้นฟังก์ชันพื้นฐาน ใช้งานง่าย ราคาประหยัด เน้นแบรนด์ที่มีในไทย
  • ช่องทางซื้อ: ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ, ร้านค้าเครื่องใช้ไฟฟ้า, Lazada, Shopee
  • ราคา: เริ่มต้นประมาณ 5xx - 1,xxx บาท
  • รีวิว: "ซื้อมาใช้ในห้องนอนลูก ราคาไม่แพง ใช้ได้ดีเลย" - คุณแม่. "มีขายตามห้าง หาซื้อง่ายดี" - ลูกค้าทั่วไป.

9. Winben Humidifier

แบรนด์ที่พบในตลาดออนไลน์ มีเครื่องทำความชื้นดีไซน์น่ารัก ขนาดเล็ก

  • รุ่นแนะนำ: Winben Humidifier รุ่นต่างๆ
  • จุดเด่น: ดีไซน์น่ารัก กะทัดรัด พกพาง่าย บางรุ่นใช้ USB ได้ เหมาะกับใช้ส่วนตัว
  • ข้อเสีย: ความจุถังน้ำน้อยมาก เหมาะกับใช้ใกล้ตัว ไม่ครอบคลุมพื้นที่กว้าง.
  • เหมาะกับ: คนที่ต้องการเครื่องทำความชื้นขนาดเล็กมากๆ สำหรับใช้บนโต๊ะทำงาน ในรถ หรือพกพา เน้นดีไซน์น่ารัก
  • ช่องทางซื้อ: Lazada, Shopee
  • ราคา: เริ่มต้นประมาณ 2xx - 5xx บาท
  • รีวิว: "น่ารักมากค่ะ เอามาวางบนโต๊ะทำงาน พ่นเบาๆ ก็รู้สึกดีขึ้น" - พนักงานออฟฟิศ. "ตัวเล็กพกพาง่าย ชาร์จ USB ได้สะดวก" - นักศึกษา.

10. Muji Aroma Diffuser / Humidifier

แบรนด์จากญี่ปุ่น โดดเด่นเรื่องดีไซน์เรียบง่าย มินิมอล และเน้นการใช้งานกับน้ำมันหอมระเหย

  • รุ่นแนะนำ: Muji Aroma Diffuser (มีฟังก์ชันเพิ่มความชื้นได้)
  • จุดเด่น: ดีไซน์สวยงาม เรียบง่าย มินิมอลมาก คุณภาพดี สร้างบรรยากาศผ่อนคลายด้วยกลิ่นอโรม่า ทำงานค่อนข้างเงียบ
  • ข้อเสีย: ราคาสูง ความสามารถในการเพิ่มความชื้นอาจไม่เท่าเครื่องทำความชื้นโดยเฉพาะ ความจุถังน้ำไม่เยอะมาก.
  • เหมาะกับ: คนที่เน้นดีไซน์สวยงาม มินิมอล ชอบกลิ่นหอมอโรม่า และต้องการเครื่องที่ช่วยเพิ่มความชื้นไปพร้อมๆ กัน เหมาะสำหรับห้องขนาดเล็ก
  • ช่องทางซื้อ: Muji Shop ทุกสาขา, Central Online
  • ราคา: เริ่มต้นประมาณ 1,xxx - 3,xxx+ บาท (ขึ้นอยู่กับขนาด)
  • รีวิว: "สวยมากค่ะ เปิดแล้วรู้สึกผ่อนคลายสุดๆ กลิ่นหอมอ่อนๆ กำลังดี" - คนชอบแต่งบ้าน. "ซื้อมาตั้งในห้องนอนแล้วหลับสบายขึ้น ทั้งเรื่องกลิ่นและความชื้น" - ผู้ใช้จาก Central Online.

คำถามที่พบบ่อย (FAQ) สไตล์คนไทย!

Q: อยู่ห้องแอร์ตลอดเวลา จำเป็นต้องใช้เครื่องทำความชื้นไหม?
A: ถ้าคุณมีอาการผิวแห้ง ปากแห้ง แสบจมูก ไอแห้ง หรือรู้สึกไม่สบายตัวเมื่ออยู่ในห้องแอร์เป็นเวลานานๆ ก็จำเป็นมากครับ เครื่องทำความชื้นจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นในอากาศ ทำให้ร่างกายเราไม่ต้องทำงานหนักเพื่อปรับอากาศที่เราหายใจเข้าไป หายใจสบายขึ้นเยอะเลยครับ

Q: เครื่องทำความชื้นแบบ Ultrasonic กับ Evaporative ต่างกันยังไง? อันไหนดีกว่า?
A: แบบ Ultrasonic ใช้การสั่นสะเทือนสร้างหมอกเย็น ทำงานเงียบ เติมความชื้นได้เร็ว แต่ถ้าใช้น้ำที่มีแร่ธาตุเยอะอาจเกิดฝุ่นขาวได้ ต้องใช้น้ำกรองหรือน้ำดื่มจะดีกว่า. ส่วนแบบ Evaporative ใช้พัดลมเป่าผ่านแผ่นกรอง ความชื้นจะเพิ่มขึ้นตามธรรมชาติ ไม่เกิดฝุ่นขาว ปลอดภัยกับเด็กและคนเป็นภูมิแพ้บางประเภท แต่จะมีเสียงพัดลมและต้องเปลี่ยนแผ่นกรองครับ ไม่มีแบบไหนดีกว่า ขึ้นอยู่กับความชอบและการใช้งานครับ

Q: ใส่ น้ำมันหอมระเหย ในเครื่องทำความชื้นได้ทุกรุ่นไหม?
A: ไม่ได้ทุกรุ่นครับ! ต้องดูสเปกของเครื่องรุ่นนั้นๆ ว่ารองรับการใส่น้ำมันหอมระเหยหรือไม่ ถ้าเครื่องไม่ได้ออกแบบมาให้ใส่ แล้วเราใส่เข้าไป อาจทำให้เครื่องเสียหายได้ครับ มองหารุ่นที่ระบุชัดเจนว่าเป็น Aroma Diffuser หรือรองรับ Essential Oil ครับ

Q: ซื้อเครื่องทำความชื้นออนไลน์ใน Lazada/Shopee เชื่อถือได้แค่ไหน? จะเจอของปลอมไหม?
A: ส่วนใหญ่ถ้าเป็นร้าน Official Store ของแบรนด์นั้นๆ หรือร้านที่มีเรตติ้งดี มีรีวิวเยอะๆ บนแพลตฟอร์มใหญ่ๆ อย่าง Lazada หรือ Shopee ค่อนข้างเชื่อถือได้ครับ แต่ถ้าเจอร้านที่ราคาถูกผิดปกติ หรือไม่คุ้นเคย ให้เช็คดีๆ อ่านรีวิวเยอะๆ หรือเลือกซื้อจากร้านตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ จะปลอดภัยที่สุดครับ

Q: ใช้เครื่องทำความชื้นแล้วต้องทำความสะอาดบ่อยแค่ไหน?
A: ต้องทำความสะอาดเป็นประจำและบ่อยครั้งครับ อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง เพราะน้ำที่ค้างอยู่ในเครื่องอาจเป็นแหล่งสะสมของเชื้อราและแบคทีเรียได้ ซึ่งถ้าเราสูดดมเข้าไป อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ครับ ใช้น้ำเปล่าสะอาดหรือน้ำส้มสายชูเจือจางในการทำความสะอาดตามคู่มือแนะนำครับ

สรุปและคำแนะนำ เลือกเครื่องทำความชื้นคู่ใจ ในสภาพอากาศไทย!

การเลือกเครื่องทำความชื้นที่เหมาะกับเรา จะช่วยให้คุณภาพชีวิตในห้องแอร์ดีขึ้นเยอะเลยครับ หายใจสบายขึ้น ผิวไม่แห้งกร้าน แถมยังช่วยลดอาการภูมิแพ้บางอย่างได้ด้วย

  • สำหรับคน งบจำกัด หรืออยากได้เครื่องเล็กๆ น่ารักๆ ลองดู Simplus หรือ KIVEE ครับ
  • ถ้าเน้น ความคุ้มค่า ฟังก์ชันหลากหลาย ความจุเยอะ แนะนำ Xiaomi หรือ DEERMA
  • คนที่ต้องการ คุณภาพดี ดีไซน์สวยงาม ทำงานเงียบ แนะนำ Levoit หรือ Philips
  • ถ้าอยากได้ทั้ง ฟอกอากาศและเพิ่มความชื้น ในเครื่องเดียว และไว้ใจแบรนด์ญี่ปุ่น ลองดู Sharp ครับ
  • ส่วนสาย มินิมอล ชอบกลิ่นอโรม่า และใช้ในพื้นที่ไม่ใหญ่มาก Muji ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ

สิ่งที่ต้อง ระวัง เป็นพิเศษคือเรื่อง การทำความสะอาด ครับ ต้องทำอย่างสม่ำเสมอ และใช้น้ำสะอาดหรือน้ำดื่มในการเติม เพื่อลดปัญหาเชื้อราและฝุ่นขาว และอย่าเปิดเครื่องจนห้องชื้นเกินไป เพราะอาจทำให้รู้สึกไม่สบายตัวและเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคอื่นๆ ได้

และที่สำคัญ! ช่วงเทศกาล หรือแคมเปญใหญ่ๆ บน Lazada Shopee มักจะมีโปรโมชั่นลดราคาเยอะมาก จับตาดูให้ดีนะครับ อาจจะได้เครื่องทำความชื้นดีๆ ในราคาที่ถูกลงกว่าเดิม!

มาเมาท์มอย แชร์ประสบการณ์กันหน่อยจ้า!

เพื่อนๆ คนไหนกำลังใช้เครื่องทำความชื้นยี่ห้อไหน รุ่นไหนอยู่บ้างครับ? เป็นยังไง ถูกใจกันไหม? หรือมีเคล็ดลับการดูแลเครื่องทำความชื้นยังไงบ้าง? คอมเมนต์มาแชร์ประสบการณ์กันได้เลยนะคร้าบ! 👇

ถ้าใครอ่านแล้วชอบ อยากให้กำลังใจ หรืออยากได้พิกัดร้านดีๆ หรือลิงก์สินค้าโปรโมชั่นเด็ดๆ พิมพ์มาเลยว่า "ขอพิกัดร้านหน่อย!" เดี๋ยวผมจะรวบรวมแหล่งช้อปปิ้งมาให้เพื่อนๆ ได้ไปตำกัน! แล้วเจอกันใหม่ในบทความหน้านะครับทุกคน หายใจสบาย ผิวชุ่มชื้นกันถ้วนหน้าครับ! 👋

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

บทความล่าสุดดูเพิ่มเติม

Okay, I have gathered information on popular 24000 BTU air conditioner brands in Thailand, their features (Inverter, energy saving labels like Energy Saving Label No. 5 with stars, EER/SEER values, air purification), price ranges, and where
10 แอร์ 24000 BTU ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 เย็นฉ่ำ ประหยัดพลังงาน
สวัสดีครับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่กำลังมองหา "เพื่อนคู่ครัว" ตัวใหม่ ที่จะช่วยเก็บอาหารให้สดใหม่ แถมยังช่วยเซฟเงินในกระเป๋าช่วงค่าไฟพุ่งกระฉูด! 👋 ในยุคที่ข้าวของแพงขึ้นทุกวัน การมีตู้เย็นดีๆ สักเครื่องไม่ใช่แค่ความสะดวกสบาย แต่กลายเป็นปัจจัย
10 ตู้เย็น ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 จุเยอะ ประหยัดพลังงาน
สวัสดีครับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ชาวไทยหัวใจรักความสะอาด (แต่แอบขี้เกียจ) ทุกคน! 👋 ในยุคที่ฝุ่น PM 2.5 ก็มาเยือนเป็นพักๆ แถมชีวิตก็ยุ่งเหยิงซะเหลือเกิน การจะหยิบไม้กวาดมาปัดๆ แล้วเจอฝุ่นฟุ้งกระจาย หรือจะก้มๆ เงยๆ ถูบ้านก็เมื่อยหลังเกินไป... บอ
10 เครื่องดูดฝุ่น ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 แรงดูดดี ทำความสะอาดง่าย

บทความยอดนิยม

บทความที่แนะนำ