Apple AirPort Time Capsule ราคาเท่าไหร่? คุ้มไหมที่จะซื้อปี 2024?

สวัสดีจ้าาา! วันนี้มาคุยกันเรื่อง gadget ในตำนานจาก Apple ที่อาจจะทำให้หลายคนคิดถึง หรือบางคนอาจจะกำลังมองหาอยู่ นั่นก็คือ Apple AirPort Time Capsule นั่นเองงง! ถ้าใครสงสัยว่าเจ้าตัวนี้มันคืออะไร แล้วปี 2024 นี่ยังน่าซื้ออยู่ไหม ราคาเท่าไหร่ถึงจะคุ้มค่า ตามมาดูกันเลยแบบเน้นๆ เข้าใจง่าย สไตล์คนไทยชอบช้อป! 😉

1. เจ้า AirPort Time Capsule นี่มันคืออะไรกันนะ?

พูดง่ายๆ เลยนะ เจ้า Apple AirPort Time Capsule เนี่ย มันคือการรวมร่างของ เราเตอร์ Wi-Fi เข้ากับ ฮาร์ดดิสก์แบบ Network Attached Storage (NAS) หรืออธิบายให้เห็นภาพคือ มันเป็นทั้งตัวปล่อย Wi-Fi แรงๆ (ในยุคนั้นนะ) และเป็นเหมือนกระปุกออมสินดิจิทัลขนาดใหญ่ ที่เก็บข้อมูลของเราได้แบบอัตโนมัติ โดยเฉพาะคนที่ใช้ Mac เนี่ย จะรู้จักดีเลย เพราะมันออกแบบมาให้ทำงานร่วมกับโปรแกรม Time Machine ของ Mac ได้อย่างลงตัวสุดๆ แค่เสียบปลั๊ก ตั้งค่าแป๊บเดียว ที่เหลือ Mac ของเราก็จะสำรองข้อมูลไปเก็บไว้ใน Time Capsule เองแบบไร้สาย สะดวกสบาย ไม่ต้องมาคอยเสียบ external harddisk ให้ยุ่งยากเลยจ้าาา

Apple เนี่ยเป็นแบรนด์ระดับโลกจากอเมริกาที่ขึ้นชื่อเรื่องดีไซน์สวยงาม ใช้งานง่าย และมักจะทำผลิตภัณฑ์ที่ทำงานเข้ากันได้ดีใน Ecosystem ของตัวเอง ซึ่ง AirPort Time Capsule ก็เป็นหนึ่งในนั้น ออกแบบมาดูมินิมอล ทันสมัย (ในยุคนั้น) วางตรงไหนก็สวย เหมาะกับคนที่ใช้ Mac หลายๆ เครื่องในบ้าน หรือในออฟฟิศเล็กๆ ที่ต้องการระบบสำรองข้อมูลแบบรวมศูนย์ และอยากได้เราเตอร์ที่ตั้งค่าง่ายๆ ไม่ปวดหัว

แต่เดี๋ยวก่อนนน! มีเรื่องสำคัญที่ต้องรู้คือ Apple เค้าได้ ยกเลิกการผลิต และ เลิกขาย อุปกรณ์ตระกูล AirPort ทั้งหมด รวมถึง Time Capsule ไปตั้งแต่ปี 2018 แล้วนะ นั่นหมายความว่า ตอนนี้ไม่มี AirPort Time Capsule "ของใหม่แกะกล่อง" ขายตามร้านทั่วไปแล้วจ้า

2. แล้วราคาในตลาดไทย (มือสอง) เป็นยังไงบ้างล่ะ?

ในเมื่อไม่มีของใหม่ขายแล้ว ถ้าอยากได้ AirPort Time Capsule ตอนนี้ก็ต้องมองหาในตลาด มือสอง เท่านั้นนะจ๊ะ ซึ่งราคาก็จะมีความหลากหลายมากๆ ขึ้นอยู่กับรุ่น (มีตั้งแต่รุ่นแรกๆ ที่รองรับ 802.11n ไปจนถึงรุ่นสุดท้ายที่รองรับ 802.11ac), ขนาดความจุ (มีตั้งแต่ 500GB, 1TB, 2TB, ไปจนถึง 3TB) และที่สำคัญคือ สภาพ ของตัวเครื่องและฮาร์ดดิสก์ภายใน

จากการสำรวจตลาดออนไลน์ในไทยเนี่ย ราคา AirPort Time Capsule มือสองปี 2024 จะอยู่ประมาณนี้จ้า:

• รุ่นเก่าๆ (802.11n) หรือความจุน้อยๆ (500GB - 1TB): อาจจะเจอราคาตั้งแต่ 2,000 - 4,000 บาท (฿) โดยประมาณ
• รุ่นใหม่หน่อย (802.11ac) หรือความจุเยอะขึ้น (2TB - 3TB): ราคาจะขยับขึ้นมาเป็นประมาณ 4,000 - 8,000 บาท (฿) หรืออาจจะสูงกว่านั้น ถ้าสภาพดีมากๆ หรือเป็นรุ่น 3TB

แหล่งที่จะเจอส่วนใหญ่ก็ไม่ใช่ร้านค้าไอทีใหญ่ๆ อย่าง JIB, Banana IT, Power Buy, Central หรือ The Mall แล้วนะ เพราะเค้าเลิกขายไปนานแล้ว แต่ต้องไปส่องตาม:

• แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซหลัก: อย่าง Shopee หรือ Lazada ลองใช้คีย์เวิร์ด "AirPort Time Capsule มือสอง" หรือ "Time Capsule มือสอง" ดูนะ จะมีผู้ขายรายย่อย หรือร้านที่รับซื้อขายสินค้า Apple มือสองนำมาลงขาย
• กลุ่มซื้อขายสินค้า Apple มือสองใน Facebook: เป็นอีกแหล่งยอดฮิตเลยจ้า มีการโพสต์ขายกันตลอด สามารถพูดคุย สอบถาม ขอดูรูป หรือนัดรับของเพื่อเช็คสภาพได้

ส่วนเรื่องส่วนต่างอัตราแลกเปลี่ยนกับราคานานาชาติ อันนี้แทบไม่มีผลแล้วจ้า เพราะมันไม่ใช่สินค้าใหม่ที่นำเข้าแล้ว แต่เป็นราคาตามกลไกตลาดมือสองล้วนๆ เลย

3. เทียบราคากับสินค้าประเภทเดียวกันแล้วคุ้มไหม?

อันนี้ต้องมองว่าเราต้องการใช้งานแบบไหนนะ ถ้าเทียบกับ "เราเตอร์ Wi-Fi" ทั่วไปในตลาดปี 2024 ที่เป็นรุ่นใหม่ๆ รองรับมาตรฐาน Wi-Fi ล่าสุด (เช่น Wi-Fi 6 หรือ 6E) และมีฟังก์ชันเยอะแยะมากมายเนี่ย AirPort Time Capsule รุ่นเก่าๆ อาจจะดูเหมือนไม่คุ้มค่า เพราะเทคโนโลยี Wi-Fi มันเก่ากว่าแล้ว แต่ถ้าเรามองในมุมของ "อุปกรณ์ 2-in-1" คือเป็นทั้งเราเตอร์และ NAS สำหรับ Time Machine โดยเฉพาะ:

• การซื้อ เราเตอร์ Wi-Fi ดีๆ สักตัว บวกกับ External Harddisk หรือ NAS แยกต่างหาก เนี่ย ราคารวมๆ แล้วอาจจะสูงกว่า AirPort Time Capsule มือสองสภาพดีๆ อยู่พอสมควรเลยนะ โดยเฉพาะ NAS ที่ออกแบบมาดีๆ สำหรับใช้งานหลายคนก็มีราคาตั้งแต่หลักพันปลายๆ ไปจนถึงหลายหมื่นบาท
• ความคุ้มค่าของ Time Capsule อยู่ที่ความ ง่ายในการตั้งค่าและใช้งานร่วมกับ Mac แบบไร้รอยต่อ ซึ่งอันนี้อุปกรณ์อื่นๆ อาจจะทำได้ไม่ดีเท่า

ดังนั้น ถ้าเน้นความสะดวกในการสำรองข้อมูล Mac แบบไร้สายในงบที่จำกัด และไม่ได้ต้องการเราเตอร์ที่ล้ำสมัยที่สุด AirPort Time Capsule มือสองก็ยังพอเป็นตัวเลือกที่น่าพิจารณาอยู่จ้า แต่ต้องยอมรับข้อจำกัดเรื่องเทคโนโลยี Wi-Fi ที่ไม่ใหม่แล้วนะ

4. ซื้อแล้วได้อะไรมาบ้าง? (ฉบับมือสองนะ!)

อันนี้แหละคือจุดที่ต้อง พิจารณาดีๆ เวลาซื้อ AirPort Time Capsule มือสองนะจ๊ะ เพราะสิ่งที่ได้มามักจะไม่ครบเหมือนซื้อของใหม่ และที่สำคัญคือเรื่อง การรับประกัน ที่คนไทยเราค่อนข้างให้ความสำคัญ:

• อุปกรณ์ที่ได้: ส่วนใหญ่แล้ว จะได้แค่ ตัวเครื่อง AirPort Time Capsule กับ สายไฟ AC เท่านั้น คู่มือ กล่อง หรือสาย LAN อาจจะต้องหาเอง หรือสอบถามผู้ขายให้แน่ใจก่อน
• ค่าขนส่ง: ถ้าซื้อออนไลน์ผ่าน Shopee/Lazada หรือกลุ่ม Facebook ส่วนใหญ่จะมีค่าขนส่งนะจ๊ะ นอกจากผู้ขายจะใจดีจัดโปรฯ ส่งฟรีให้
• การรับประกัน: อันนี้สำคัญมากกกก! AirPort Time Capsule ที่ยกเลิกการผลิตไปตั้งแต่ปี 2018 เนี่ย ไม่มีประกันศูนย์ Apple แล้วแน่นอน ถ้าซื้อกับผู้ขายรายย่อย อาจจะไม่มีประกันเลย หรือมีแค่ประกันใจนิดหน่อย (เช่น 7 วัน) ถ้าซื้อจากร้านที่รับซื้อขายมือสองโดยเฉพาะ บางร้านอาจจะ มีประกันร้านให้สั้นๆ เช่น 1 เดือน ซึ่งก็ถือว่าดีกว่าไม่มีเลยนะ แต่อย่าคาดหวังประกันนานๆ เหมือนสินค้าใหม่นะจ๊ะ
• ของแถม/โปรโมชั่น: แทบไม่มีเลยจ้าสำหรับสินค้ามือสอง นอกจากผู้ขายอยากจะแถมอะไรเล็กๆ น้อยๆ ให้เอง

ดังนั้น ก่อนซื้อ ต้องสอบถามผู้ขายให้ชัดเจน เรื่องอุปกรณ์ที่ให้มา และระยะเวลาการรับประกัน (ถ้ามี) เพื่อป้องกันปัญหาในภายหลังนะจ๊ะ

5. มีช่วงไหนน่าซื้อเป็นพิเศษ หรือมีโปรโมชั่นอะไรไหม?

สำหรับ AirPort Time Capsule มือสอง เนี่ย มันไม่มีโปรโมชั่นอย่างเป็นทางการจาก Apple แล้วนะจ๊ะ พวกโปรโมชั่นช่วง 12.12, เทศกาลสงกรานต์ หรือ Double Digit Sale ต่างๆ บน Lazada/Shopee เนี่ย จะเป็นโปรโมชั่นของแพลตฟอร์ม หรือของร้านค้าที่นำมาลงขายเองมากกว่า

โอกาสที่จะเจอราคาดีๆ หรือมีส่วนลด อาจจะอยู่ในช่วงที่ผู้ขายต้องการปล่อยของเร็วๆ หรือในช่วงเทศกาลที่คนนิยมซื้อขายของออนไลน์กันเยอะๆ ซึ่งก็อาจจะมีผู้ขายบางรายนำ Time Capsule มือสองมาจัดโปรโมชั่นลดราคาดึงดูดลูกค้าก็ได้นะ แต่ก็ไม่ได้มีบ่อยๆ หรือเป็นระบบเหมือนสินค้าใหม่จ้า

คำแนะนำคือ ถ้าอยากได้จริงๆ ก็ต้อง หมั่นเช็คตามแหล่งขายมือสองอยู่เรื่อยๆ นะจ๊ะ ถ้าเจอเครื่องสภาพดี ราคาถูกใจ ก็จัดได้เลย ไม่ต้องรอช่วงเทศกาลจ้า

6. คนไทยที่เคยใช้ AirPort Time Capsule เค้าว่ายังไงกันบ้าง? (จากผู้ใช้งานจริงในอดีต)

แม้จะเป็นสินค้าที่เลิกผลิตไปแล้ว แต่ในอดีต AirPort Time Capsule ก็มีผู้ใช้งานในไทยอยู่ไม่น้อยเลยนะ จากฟีดแบ็กหรือรีวิวเก่าๆ ที่พอจะหาดูได้ (ต้องอาศัยการอ่านตามเว็บบอร์ด หรือกระทู้เก่าๆ หน่อยนะ) จุดที่คนไทยมักจะประทับใจก็คือ:

• ความง่ายในการตั้งค่า: หลายคนบอกว่าตั้งค่าง่ายมากๆ แค่ไม่กี่คลิกก็พร้อมใช้งาน โดยเฉพาะกับอุปกรณ์ Apple
• การสำรองข้อมูล Time Machine แบบไร้สาย: อันนี้คือ Killer Feature เลยจ้า สะดวกสุดๆ ไม่ต้องเสียบสายให้เกะกะ สำรองข้อมูลให้อัตโนมัติเบื้องหลัง
• ดีไซน์สวย: ถูกใจสาย Apple อยู่แล้ว เพราะออกแบบมาเรียบๆ ดูดี
• ความเสถียร (ในยุคของมัน): หลายคนบอกว่ามันค่อนข้างเสถียร ทำงานได้ดี ไม่มีปัญหาจุกจิก (ในตอนที่มันยังใหม่ๆ นะ)

แต่ก็มีข้อสังเกต หรือปัญหาที่ผู้ใช้เคยเจอกันบ้าง เช่น ฮาร์ดดิสก์ภายในอาจจะมีปัญหาเมื่อใช้งานไปนานๆ (เป็นธรรมดาของฮาร์ดดิสก์) หรือสัญญาณ Wi-Fi อาจจะไม่ครอบคลุมเท่าเราเตอร์รุ่นใหม่ๆ ในปัจจุบัน และแน่นอนว่าเรื่อง ไม่มีประกันศูนย์ ก็เป็นเรื่องที่ต้องยอมรับถ้าจะซื้อมือสองจ้า

7. ถ้าอยากได้ จะไปหาซื้อได้จากช่องทางไหนดีล่ะ?

อย่างที่เน้นย้ำไปหลายรอบแล้วว่าต้องเป็นตลาด มือสอง เท่านั้นนะจ๊ะ ช่องทางที่แนะนำในไทยก็คือ:

• แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซยอดนิยม (Shopee / Lazada): เป็นแหล่งที่หาได้ง่ายที่สุด มีผู้ขายหลายราย แต่ต้อง เช็คประวัติผู้ขาย ดูคะแนนรีวิว อ่านรายละเอียดสินค้าให้ดีๆ ก่อนตัดสินใจซื้อนะจ๊ะ
• กลุ่มซื้อขายสินค้า Apple มือสองใน Facebook: แหล่งรวมผู้ใช้งาน Apple โดยตรง บางทีเจอคนปล่อยราคาดีๆ สภาพสวยๆ ก็มี ข้อดีคือพูดคุยกับผู้ขายได้โดยตรง แต่ต้องระวังเรื่องความน่าเชื่อถือของผู้ขายด้วยนะ พยายามนัดเจอเพื่อเช็คของด้วยตัวเองจะปลอดภัยที่สุด
• ร้านรับซื้อขายสินค้า Apple มือสอง: อาจจะต้องลองหาร้านที่รับซื้อขาย Mac หรืออุปกรณ์ Apple เก่าๆ โดยเฉพาะ ข้อดีคืออาจจะพอมีประกันร้านให้ และได้เช็คสภาพเครื่องก่อนซื้อด้วยตัวเอง

หลีกเลี่ยงช่องทาง Official ของ Apple หรือร้านค้าไอทีใหญ่ๆ ทั่วไปได้เลย เพราะเค้าไม่มีขายแล้วจ้า

8. สรุปแล้ว Apple AirPort Time Capsule ยังน่าซื้อไหมในปี 2024? เหมาะกับใคร?

มาถึงคำถามสุดท้ายที่หลายคนสงสัย! สรุปแล้ว Apple AirPort Time Capsule ยังน่าซื้ออยู่ไหมในปี 2024?

คำตอบคือ อาจจะน่าซื้อ... ถ้าคุณเป็นคนกลุ่มนี้:

• คนใช้ Mac ที่ต้องการระบบสำรองข้อมูล Time Machine แบบไร้สายที่ตั้งค่าง่ายมากๆ และยอมรับได้ว่าเป็นเทคโนโลยีที่เก่าแล้ว
• มีงบประมาณจำกัด และมองหาโซลูชัน 2-in-1 (เราเตอร์ + NAS) ในราคาไม่แพง (เมื่อเทียบกับการซื้อแยกชิ้น)
• เข้าใจและยอมรับความเสี่ยงของการซื้อสินค้ามือสอง เช่น ไม่มีประกันศูนย์ ฮาร์ดดิสก์อาจจะเสื่อมสภาพตามอายุการใช้งาน และเทคโนโลยี Wi-Fi ไม่ใช่รุ่นล่าสุด
• ต้องการใช้เป็นเราเตอร์รอง หรือใช้ในพื้นที่ที่ไม่ต้องการประสิทธิภาพ Wi-Fi สูงสุด

ไม่น่าซื้ออย่างยิ่ง... ถ้าคุณเป็นคนกลุ่มนี้:

• ต้องการเราเตอร์ Wi-Fi ที่ทันสมัยที่สุด รองรับมาตรฐานล่าสุด ให้สัญญาณแรงครอบคลุมพื้นที่กว้างๆ
• ต้องการระบบสำรองข้อมูลที่เชื่อถือได้สูงสุด สำหรับข้อมูลสำคัญมากๆ และต้องการการรับประกันที่ยาวนาน
• ไม่สะดวกใจกับการซื้อสินค้าอิเล็กทรอนิกส์มือสอง
• ไม่ได้ใช้ Mac เป็นหลัก (เพราะฟังก์ชัน Time Machine จะใช้ได้เต็มที่กับ Mac)

ถ้าตัดสินใจจะซื้อ ควรเลือกรุ่นที่เป็น 802.11ac (รุ่นปี 2013 ขึ้นไป) และมีความจุตามที่ต้องการ (2TB หรือ 3TB) และที่สำคัญสุดๆ คือ เช็คสภาพเครื่องให้ดีมากๆ โดยเฉพาะสถานะของฮาร์ดดิสก์ภายใน ถ้าเป็นไปได้ควรสอบถามหรือขอดูรูป/วิดีโอตอนเครื่องทำงานจากผู้ขาย หรือนัดเจอเพื่อทดสอบด้วยตัวเองนะจ๊ะ

สรุปง่ายๆ คือ AirPort Time Capsule ในปี 2024 เหมาะกับคนที่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไรจริงๆ และยอมรับข้อจำกัดของมันได้ ในราคาที่สมเหตุสมผลในตลาดมือสอง แต่ถ้ามองหาความใหม่ ความแรง ความเสถียรระยะยาว และการรับประกัน การซื้อเราเตอร์ใหม่และ NAS หรือ External Harddisk แยกต่างหาก อาจจะเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่ากว่าในระยะยาวจ้า

หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจนะทุกคน! ช้อปปิ้งอย่างมีสตินะจ๊ะ บ๊ายบายยย! 👋

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• Apple "Airport Family" รุ่นไหนที่เหมาะกับคุณ
• รอขึ้นเครื่องบินที่ปักกิ่ง สนามบินดีไหม?
• ที่พักใกล้ฮงแดสำหรับ 7 คน หารแค่ 870 บาท
• ไปเที่ยวโตเกียว 7 วัน ใช้งบประมาณเท่าไหร่?
• ช้อปปิ้งที่ญี่ปุ่น 2025: สิ่งที่ห้ามพลาด