หมวกกันน็อค HJC RPHA 10 Plus ราคา: รุ่นท็อป สำหรับชาวสองล้อ


สวัสดีค่าาา สายสองล้อที่กำลังมองหาหมวกกันน็อคเจ๋งๆ ฟังทางนี้เลย! วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยถึงหมวกในตำนานอีกใบรุ่นหนึ่งที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นตัวท็อปจากค่ายเกาหลีอย่าง HJC RPHA 10 Plus บอกเลยว่าตัวนี้เคยเป็นขวัญใจชาวสองล้อสายซิ่งอยู่พักใหญ่ ถ้าใครกำลังเล็งๆ หมวกมือสองสภาพดีๆ หรือพอดีไปเจอร้านที่ยังมีของค้างสต็อกอยู่ล่ะก็ บทความนี้มีประโยชน์ชัวร์ เพราะเราจะมาแกะ มาคุยกันแบบหมดเปลือก สไตล์คนเคยเห็น เคยสัมผัส แล้วไปลุยกันเล้ยยย!
1. หมวกนี้มันคืออัลลัยยย?
มาทำความรู้จักเจ้า HJC RPHA 10 Plus กันก่อน ชื่อชั้น HJC เค้าไม่ใช่ไก่กานะจ๊ะ เป็นแบรนด์หมวกกันน็อคระดับโลกจากประเทศเกาหลีที่เค้าทำหมวกให้นักแข่ง MotoGP ใส่มาแล้วหลายคน อย่าง Jorge Lorenzo ก็เคยเป็นหนึ่งในนั้น เพราะงั้นเรื่องคุณภาพและความปลอดภัยหายห่วงได้เลย (ในยุคของมันนะ) ส่วนเจ้า RPHA 10 Plus เนี่ย มันจัดอยู่ในตระกูล RPHA ซึ่งเป็นไลน์ท็อปของ HJC เค้าแหละ ตัวนี้เป็นหมวกแบบเต็มใบที่เน้นความสปอร์ต แอโรไดนามิกดีเยี่ยม เหมาะกับคนที่ขี่มอเตอร์ไซค์แบบสปอร์ตหรือเน็คเก็ตที่ใช้ความเร็วประมาณนึง วัสดุที่ใช้ทำเปลือกหมวกก็ไม่ธรรมดา เป็นเทคโนโลยี P.I.M (Premium Integrated Matrix) ที่ผสมผสานคาร์บอนไฟเบอร์ อะรามิด และไฟเบอร์กลาสเข้าด้วยกัน ทำให้หมวกมันทั้งแข็งแรงแต่น้ำหนักเบาหวิว เคยมีคนรีวิวว่าน้ำหนักประมาณ 1300 กรัม ซึ่งเบามากเมื่อเทียบกับหมวกยุคนั้น เหมาะกับนักบิดที่อยากได้หมวกประสิทธิภาพสูง น้ำหนักเบา ใส่แล้วไม่เมื่อยคอเวลานั่งขับนานๆ หรือเวลาต้องหันมองซ้ายขวาในสนามแข่ง (ถ้าเอาไปใช้นะ) ฟังก์ชันต่างๆ ก็จัดเต็มตามสไตล์หมวกตัวท็อป
2. ราคาในตลาดไทยตอนนี้เป็นไงบ้างนะ?
อ่ะ มาถึงเรื่องของเงินๆ ทองๆ ที่หลายคนอยากรู้! ต้องบอกก่อนว่า HJC RPHA 10 Plus เนี่ย เป็นรุ่นที่ออกมานานแล้วนะจ๊ะ ในตลาดไทยตอนนี้ส่วนใหญ่ถ้าหาซื้อใหม่แกะกล่องอาจจะต้องเป็นร้านที่มีของค้างสต็อกจริงๆ หรือไม่ก็ต้องมองหาตามตลาดมือสองแทน เพราะรุ่นใหม่กว่าอย่าง RPHA 11, RPHA 70, หรือ RPHA 1, RPHA 12 ออกมาทำตลาดแทนแล้ว
ตอนที่รุ่นนี้ยังวางขายเป็นของใหม่ ราคาเริ่มต้นก็แรงเอาเรื่องอยู่เหมือนกันนะ อยู่ในกลุ่มหมวกพรีเมียมหลักหมื่นบาทไทย (฿) เลยแหละ เคยเห็นราคาช่วงที่ยังฮิตๆ กันอยู่ที่ประมาณ 13,xxx - 18,xxx บาทไทย ขึ้นอยู่กับลายและความลิมิเต็ดของกราฟิก ลาย Replica นักแข่งดังๆ ราคาก็จะพุ่งไปอีกหน่อย
แต่ถ้าเป็นตอนนี้ ตามแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอย่าง Lazada หรือ Shopee เนี่ย ส่วนใหญ่จะเจอเป็นอะไหล่หรือชิ้นส่วนของรุ่นนี้มากกว่า ตัวหมวกเองถ้ามีคนเอามาขายก็จะเป็นมือสอง ซึ่งราคาจะขึ้นอยู่กับสภาพการใช้งาน ลาย และอุปกรณ์ที่ให้มาด้วย อาจจะเจอตั้งแต่หลักพันปลายๆ ไปจนถึงหมื่นต้นๆ ถ้าสภาพดีมากๆ
สำหรับร้านตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ HJC ในไทยตอนนี้ (เช่น Kamix Performance) เค้าก็จะเน้นขายรุ่นใหม่ๆ เป็นหลัก ถ้าอยากได้ RPHA 10 Plus จริงๆ คงต้องพึ่งร้านหมวกมือสอง หรือตามกลุ่มซื้อขายในโซเชียลมีเดียเอาล่ะ
3. เทียบราคากับคู่แข่งในวงการแล้วเป็นไง?
เมื่อครั้งที่ HJC RPHA 10 Plus ยังเป็นรุ่นใหม่ตัวท็อปเนี่ย คู่แข่งในตลาดก็จะเป็นพวกแบรนด์พรีเมียมจากฝั่งญี่ปุ่นหรือยุโรป อย่าง Shoei, Arai, AGV ในรุ่นท็อปๆ ของเค้า ซึ่งแน่นอนว่าราคาของแบรนด์พวกนั้นเค้าก็ยืนพื้นกันที่หลักหมื่นปลายๆ หรือสองหมื่นอัพอยู่แล้ว
ถ้าเทียบกันปอนด์ต่อปอนด์ตอนนั้น RPHA 10 Plus ถือว่าให้สเปกและฟังก์ชันที่ใกล้เคียงกับหมวกตัวท็อปแบรนด์ดังๆ ในราคาที่เข้าถึงง่ายกว่านิดหน่อย หรือเรียกง่ายๆ ว่าเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าในกลุ่มหมวกระดับพรีเมียม ทำให้คนไทยที่อยากขยับจากหมวกราคาปานกลางไปเล่นหมวกตัวท็อปตัดสินใจได้ง่ายขึ้น อย่างที่เค้าว่ากันว่า "จ่ายหมื่นกลางๆ ได้หมวกตัวท็อป แถมชิลด์ดำมาอีก!" ก็ถือว่าน่าสนใจในยุคนั้นมากๆ เลยล่ะ
4. ซื้อแล้วได้อะไรติดไม้ติดมือมาบ้างนะ?
ปกติแล้วตอนที่ HJC RPHA 10 Plus ยังเป็นของใหม่ ของที่แถมมาในกล่องนี่แหละคือจุดเด่นที่ทำให้หลายคนว้าวเลยนะ เค้าจัดเต็มมาให้ตามสไตล์หมวกสปอร์ตตัวท็อป:
- ชิลด์ใส (Clear Visor): อันนี้มากับหมวกอยู่แล้ว ใช้ขับขี่ทั่วไป
- ชิลด์ดำ (Dark Smoke Visor): อันนี้เด็ด! ปกติซื้อแยกก็หลายพันอยู่ แถมมาให้เลยสำหรับขับขี่กลางวันแดดเปรี้ยงๆ
- แผ่นกันฝ้า Pinlock: สำคัญมากสำหรับบ้านเราที่เจอทั้งแดดทั้งฝน เจ้า Pinlock นี่ช่วยให้ชิลด์ไม่เป็นฝ้าตอนอากาศเย็นหรือเจอฝน
- แผ่นปิดใต้คาง (Chin Curtain): ช่วยลดลมตีเข้าใต้คาง
- แผ่นกันลมหายใจ (Breath Deflector): ติดตรงจมูก ช่วยป้องกันลมหายใจพุ่งขึ้นไปที่ชิลด์
- ถุงผ้าใส่หมวก: ไว้เก็บหมวก ป้องกันรอยขีดข่วน
- คู่มือ: วิธีใช้ การดูแลรักษา
ส่วนเรื่อง การรับประกัน ปกติหมวก HJC เค้าให้ประกันค่อนข้างนานนะ เคยเห็นว่ามีประกัน 5 ปีเลยด้วย แต่ถ้าเป็นมือสองก็ต้องทำใจนะจ๊ะ ส่วนใหญ่ประกันก็จะหมดไปแล้ว หรือถ้าซื้อจากร้านมือสอง เค้าอาจจะมีประกันร้านให้เล็กๆ น้อยๆ ก็ต้องสอบถามกันให้ดี
สำหรับเรื่อง ค่าจัดส่ง ถ้าซื้อออนไลน์ส่วนใหญ่ก็จะมีค่าส่ง หรือบางร้านอาจจะมีโปรโมชั่นส่งฟรีช่วงเทศกาลก็ว่ากันไป
5. ช่วงไหนน่าสอย มีโปรโมชั่นกับเค้าไหม?
แม้ว่า HJC RPHA 10 Plus จะไม่ใช่รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่ถ้าเจอตามร้านที่มีของค้างสต็อก หรือร้านมือสองเนี่ย ช่วงเวลาที่น่าจับตาก็หนีไม่พ้นช่วงเทศกาลลดราคาสุดยิ่งใหญ่ของบ้านเรานี่แหละ ไม่ว่าจะเป็น:
- ช่วงกลางปี: 6.6, 7.7, 8.8 บนแพลตฟอร์มอย่าง Lazada หรือ Shopee
- ช่วงปลายปี: 9.9, 10.10, 11.11 (ลดโหดจริงจัง!), และ 12.12 (ส่งท้ายปี จัดเต็มไม่แพ้กัน!) ช่วงนี้ร้านค้าออนไลน์ทุกวงการจัดโปรหนักมาก
- เทศกาลสำคัญอื่นๆ: อย่าง สงกรานต์ หรือปีใหม่ไทย บางร้านอาจจะมีจัดโปรโมชั่นเล็กๆ น้อยๆ
ถ้าไปเจอในร้านที่ขายหมวกมือสองโดยเฉพาะ บางทีเค้าก็จะมีช่วงลดราคาพิเศษของทางร้านเอง หรือถ้าอยากได้ลายเก่าๆ ที่เลิกผลิตไปแล้ว ลองตามหาในกลุ่มซื้อขายหมวกกันน็อคใน Facebook ช่วงที่เค้าอยากปล่อยของ ก็อาจจะได้ราคาดีแบบคาดไม่ถึง!
สรุปคือ ถ้าไม่รีบมาก การรอซื้อช่วงที่มีโปรโมชั่น หรือช่วงที่ผู้ขายมือสองเค้าอยากรีบปล่อยของเนี่ย มีโอกาสได้หมวกสภาพดีๆ ในราคาที่ถูกลงกว่าปกติเยอะเลยนะ!
6. คนไทยที่เคยใช้ เค้าว่าไงกันบ้าง?
จากที่ลองไปส่องๆ ดูรีวิวเก่าๆ หรือคอมเมนต์จากคนไทยที่เคยใช้ HJC RPHA 10 Plus มาเนี่ย เสียงตอบรับส่วนใหญ่ค่อนข้างดีเลยนะ โดยเฉพาะในเรื่อง:
- น้ำหนักเบา: อันนี้เป็นจุดเด่นที่หลายคนประทับใจมาก ใส่ขับนานๆ หรือในสนามแข่งแล้วไม่เมื่อยคอ
- การระบายอากาศ: ระบบช่องลม "Max Air Flow" ที่ปรับได้ ช่วยให้ลมเข้าหมวกได้ดี รู้สึกเย็นสบาย (แต่บางคนก็บอกว่าช่องลมด้านบนไม่ค่อยเห็นผลเท่าไหร่)
- ความสบายและฟิตติ้ง: วัสดุนวมภายในนุ่ม ใส่สบาย มีร่องสำหรับคนใส่แว่นด้วย บางคนบอกว่ามันบีบแก้มหน่อยๆ ซึ่งเป็นปกติของหมวกสปอร์ตเพื่อให้กระชับ แต่โดยรวมฟิตติ้งดี
- ทัศนวิสัย: ชิลด์ 2D ให้มุมมองที่กว้างชัดเจน แถมได้ชิลด์ดำกับ Pinlock มาด้วย คุ้ม!
- แอโรไดนามิก: ดีเยี่ยม ไม่ต้านลม โดยเฉพาะเวลาขับขี่ด้วยความเร็วสูง
- ความคุ้มค่า (เมื่อซื้อในราคาเปิดตัว): ตอนที่ยังเป็นรุ่นใหม่ การได้หมวกตัวท็อปสเปกดีๆ ในราคานี้ถือว่าคุ้มค่ามากๆ
แต่ก็มีข้อติเล็กๆ น้อยๆ เหมือนกัน เช่น บางคนบอกว่าสีหรือลายอาจจะถลอกง่ายหน่อย หรือเสียงลมค่อนข้างดังตามสไตล์หมวกสปอร์ต (ซึ่งปกติคนขี่สปอร์ตเค้าใส่ที่อุดหูกันอยู่แล้ว)
โดยรวมแล้ว คนไทยที่เคยใช้ RPHA 10 Plus ส่วนใหญ่จะเน้นไปที่เรื่อง ประสิทธิภาพ ความสบาย และความคุ้มค่า ที่ได้รับในราคาที่จ่ายไปเมื่อเทียบกับหมวกตัวท็อปอื่นๆ ในยุคเดียวกัน
7. แล้วจะไปหาซื้อเจ้าหมวกตัวนี้ได้จากที่ไหนดีล่ะ?
อย่างที่บอกไปว่ารุ่นนี้ไม่ได้เป็นรุ่นใหม่ที่วางขายทั่วไปแล้วนะจ๊ะ ช่องทางหลักๆ ที่พอจะหาได้ในตอนนี้ก็คือ:
- ร้านตัวแทนจำหน่าย HJC ในไทย: ลองเช็คกับร้านที่เป็นตัวแทนอย่างเป็นทางการ ดูว่าเค้ายังมีของค้างสต็อกอยู่บ้างไหม หรืออาจจะมีอะไหล่ของรุ่นนี้ขายอยู่
- ร้านขายหมวกมือสองโดยเฉพาะ: ร้านพวกนี้จะมีหมวกหลากหลายรุ่น สภาพต่างๆ กันไป ลองไปดู ไปลองใส่ด้วยตัวเองจะดีที่สุด
- แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ (Shopee, Lazada): อาจจะมีผู้ขายรายย่อยเอามาลงขายเป็นมือสอง ต้องดูรายละเอียด รูปภาพ และสอบถามสภาพจากผู้ขายให้ละเอียดก่อนตัดสินใจนะจ๊ะ เช็คเครดิตร้านให้ดีด้วย!
- กลุ่มซื้อขายหมวกกันน็อคใน Facebook: เป็นแหล่งรวมคนรักหมวกที่อาจจะมีคนอยากปล่อยหมวก RPHA 10 Plus ในสภาพดีๆ ลองโพสต์ถามหา หรือติดตามดูโพสต์ขายได้เลย ข้อดีคืออาจจะได้เจอผู้ขายโดยตรง พูดคุยง่าย แต่ก็ต้องระวังมิจฉาชีพเหมือนกันนะ นัดเจอเพื่อดูของจะปลอดภัยสุด
การซื้อจากช่องทางเหล่านี้อาจจะไม่ได้มีการรับประกันศูนย์เหมือนซื้อของใหม่ แต่ถ้าเจอร้านที่ไว้ใจได้ หรือผู้ขายที่ให้ข้อมูลชัดเจน สภาพดี ราคาเป็นมิตร ก็ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากๆ เลยล่ะ
8. สรุปแล้ว เจ้าหมวกตัวนี้ยังน่าซื้อไหม? เหมาะกับใคร?
ฟันธงเลยว่า HJC RPHA 10 Plus ในปัจจุบัน (ในฐานะหมวกมือสองหรือของค้างสต็อก) ยังน่าซื้ออยู่ถ้าคุณเข้าใจข้อจำกัดของมัน และเหมาะมากๆ สำหรับคนที่:
- มีงบประมาณจำกัด แต่ใฝ่ฝันอยากลองใช้หมวกระดับพรีเมียมที่เคยเป็นตัวท็อป
- ชอบดีไซน์ และลายกราฟิกเก่าๆ ที่อาจจะหาไม่ได้แล้วในรุ่นปัจจุบัน
- เน้นเรื่องน้ำหนักเบา และประสิทธิภาพด้านแอโรไดนามิกสำหรับการขับขี่แบบสปอร์ต
- รับได้กับการที่หมวกอาจจะไม่มีประกันศูนย์ หรือมีเฉพาะประกันร้าน (ถ้าซื้อจากร้าน)
ถ้าคุณเป็นสายที่ไม่ได้ซีเรียสว่าจะต้องใช้หมวกใหม่ล่าสุด มีมาตรฐานความปลอดภัยที่อัปเดตที่สุดอยู่ตลอดเวลา (เพราะมาตรฐานหมวกกันน็อคมีการพัฒนาไปเรื่อยๆ นะจ๊ะ) และอยากได้หมวกสเปกดีๆ ในราคาที่จับต้องได้ RPHA 10 Plus ในตลาดมือสองนี่คือตัวเลือกที่ โคตรคุ้ม!
แต่ถ้าคุณเป็นคนที่เน้นความปลอดภัยสูงสุด อยากได้ฟังก์ชันใหม่ๆ เช่น รองรับการติดตั้งบลูทูธแบบเนียนๆ หรือมีแว่นกันแดดในตัว (RPHA 10 Plus ไม่มีแว่นกันแดดในตัวนะ) อาจจะต้องมองข้ามรุ่นนี้ไปหารุ่นใหม่ๆ ในตระกูล RPHA แทน อย่าง RPHA 70 ที่เป็นแนว Sport Touring หรือ RPHA 1 / RPHA 12 ที่เป็น Racing ตัวจริงเสียงจริง
สรุปง่ายๆ ว่า HJC RPHA 10 Plus เป็นหมวก "อดีตตัวท็อป" ที่ยังคงมีเสน่ห์และความน่าใช้ในตลาดมือสอง ให้ประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมในราคาที่เอื้อมถึงได้ง่ายขึ้น แต่ต้องยอมรับเรื่องการรับประกันและมาตรฐานความปลอดภัยที่อาจจะไม่ได้อัปเดตเท่ารุ่นปัจจุบัน ถ้าเจอสภาพดีๆ ราคาโดนๆ ก็จัดเลยจ้า รับรองไม่ผิดหวังในเรื่องฟีลลิ่งหมวกสปอร์ตตัวท็อปแน่นอน! ขอให้ทุกคนได้หมวกที่ถูกใจและปลอดภัยในการขับขี่นะจ๊ะ บ๊ายบาย!
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
แนะนำสำหรับคุณ
ราคา เมมโมรี่การ์ด 16GB อัปเดตปี 2568 เลือกซื้อแบบไหนดี สำหรับกล้องและมือถือ
น้ำหอม Vanitas By Versace ราคาล่าสุด กลิ่นหอมหวานเย้ายวน น่าซื้อไหม
ราคา iPhone 7 Plus ล่าสุด 128GB มือสอง ปี 2568 ยังน่าซื้ออยู่ไหม
BMX ราคา 3000 บาท ปี 2568 ซื้อรุ่นไหนดี? เหมาะสำหรับมือใหม่หัดปั่น
ราคาจดโดเมนเนม เว็บไซต์ ล่าสุด เลือกผู้ให้บริการไหนดีที่สุด
รถยนต์ Mitsuoka ราคาล่าสุด ปี 2568 ดีไซน์คลาสสิก ไม่เหมือนใคร น่าจับตามอง