หมวกกันน็อค Shark Looper ราคาล่าสุด ดีไซน์สปอร์ต ปลอดภัยเต็มขั้น

สวัสดีจ้าพี่น้องชาวสองล้อทั้งหลาย! วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยเรื่องหมวกกันน็อคแบรนด์โปรดของใครหลายๆ คน นั่นก็คือ SHARK นั่นเอง! บอกเลยว่าชื่อนี้ได้ยินแล้วต้องร้องอ๋อ เพราะเป็นแบรนด์ที่นักแข่งระดับโลกเค้าใช้กัน แถมดีไซน์ก็หล่อเหลาเอาเรื่อง ส่วนเรื่องความปลอดภัยหายห่วง แต่รุ่นที่เราจะมาคุยกันวันนี้... เอ่อ... เท่าที่ไปแอบส่องมา ดูเหมือนชื่อรุ่นเป๊ะๆ ว่า "Looper" สำหรับหมวกกันน็อคมอเตอร์ไซค์ของ Shark เนี่ย จะยังไม่เจอข้อมูลชี้ชัดเท่าไหร่นะคะ (มีแต่ของแบรนด์อื่นที่เป็นหมวกสกี/สโนว์บอร์ด หรือเป็นเอฟเฟคกีตาร์ไปซะงั้น!) แต่อย่าเพิ่งเสียใจไปค่ะ! เพราะ Shark เค้ามีหมวกเจ๋งๆ อีกเพียบที่ดีไซน์สปอร์ต ปลอดภัยเต็มขั้นเหมือนกัน วันนี้เราจะมาดูกันคร่าวๆ ว่าหมวก Shark ในไทยเป็นยังไง ราคาประมาณไหน เผื่อใครกำลังเล็งๆ อยู่ จะได้มีข้อมูลไปตัดสินใจช่วงเปย์หนักๆ อย่าง 12.12 หรือสงกรานต์บ้านเราจ้า ลุย!

1. แบรนด์นี้มาจากไหน แล้วหมวกเค้าดียังไง?

มาทำความรู้จักกับแบรนด์ SHARK กันก่อน แบรนด์นี้เค้ามาจากประเทศฝรั่งเศสจ้า ก่อตั้งโดยพี่น้องนักแข่งมอเตอร์ไซค์ตัวจริงเสียงจริงตั้งแต่ปี 1989 โน่นแน่ะ! คิดดูว่าทำไมหมวกถึงได้เน้นเรื่องความปลอดภัยและประสิทธิภาพสุดๆ ก็เพราะคนทำเป็นนักแข่งเองนี่แหละ SHARK เค้าขึ้นชื่อเรื่องนวัตกรรมใหม่ๆ อยู่ตลอด แล้วก็เป็นที่ยอมรับในวงการแข่งขันระดับโลกด้วยนะ ไม่ว่าจะเป็น MotoGP หรือ World Superbike นักแข่งดังๆ หลายคนก็ไว้ใจใช้หมวก SHARK นี่แหละ เค้าไม่ได้ทำแค่หมวกแข่งสนามอย่างเดียวนะจ๊ะ หมวกสำหรับใส่ขี่บนถนนปกติ หรือหมวกสไตล์ Urban เท่ๆ ก็มีเพียบ จุดเด่นเลยก็คือเรื่องดีไซน์ที่ดูสปอร์ต โฉบเฉี่ยว ไม่ซ้ำใคร วัสดุคุณภาพดี ได้มาตรฐานความปลอดภัยระดับสากล ทั้ง ECE, DOT แถมหลายรุ่นยังได้คะแนน SHARP สูงๆ ด้วย เรียกว่าหล่อด้วย ปลอดภัยด้วย ครบ!

2. ราคาในตลาดไทยประมาณไหนนะ?

ทีนี้มาดูเรื่องที่หลายคนอยากรู้สุดๆ นั่นก็คือ "ราคา" สำหรับหมวกกันน็อค SHARK ในตลาดบ้านเราเนี่ย ต้องบอกว่ามีหลายรุ่น หลายราคามากๆ เลยค่ะ ตั้งแต่รุ่นเริ่มต้นไปจนถึงตัวท็อปที่นักแข่งใช้จริง อย่างรุ่นที่เห็นบ่อยๆ แล้วราคาน่ารักหน่อย ก็จะมีพวก RIDILL 2 ที่ราคาเริ่มต้นประมาณ 5,900 - 7,500 บาท (฿) หรือขยับมาหน่อยก็มี D-SKWAL 3 ประมาณ 8,900 บาท, EVO ES (ตัวยกคาง) ประมาณ 10,900 บาท ถ้าเป็นรุ่นที่เน้นความสปอร์ตขึ้นมาอีกนิดอย่าง SPARTAN ก็จะมีหลายราคาตามวัสดุและลวดลาย ตั้งแต่หมื่นต้นๆ อย่าง SPARTAN RS Carbon (ประมาณ 13,350 บาท) หรือ SPARTAN GT Carbon (ประมาณ 12,900 - 14,900 บาท) ส่วนตัวท็อปสุดๆ ระดับสนามแข่งอย่าง Race-R Pro GP หรือ AERON GP นี่ราคาก็จะพุ่งไปสองหมื่นปลายๆ ยันสามหมื่นกว่าบาทเลยทีเดียว

ถามว่าซื้อที่ไหน? ก็มีให้เลือกหลายช่องทางเลยค่ะ ทั้งร้านตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในไทย หรือจะช้อปออนไลน์สะดวกๆ บนแพลตฟอร์มยอดฮิตอย่าง Lazada กับ Shopee ก็มีร้านค้าเยอะแยะให้เลือกสรร ราคาก็อาจจะแตกต่างกันไปตามร้าน ตามช่วงโปรโมชั่น ก็ต้องลองเปรียบเทียบดูดีๆ ก่อนจ่ายเงินนะจ๊ะ

3. เทียบราคากับแบรนด์อื่นแล้วเป็นไง?

ถ้าเอาหมวก SHARK มาเทียบกับแบรนด์อื่นๆ ในตลาดบ้านเราเนี่ย SHARK จะจัดอยู่ในกลุ่มหมวกระดับกลางไปจนถึงระดับบนค่ะ ถ้าเทียบกับแบรนด์ที่ราคาเป็นมิตรกับกระเป๋าสตางค์มากๆ อย่าง Index หรือ Bilmola เนี่ย SHARK ราคาก็จะสูงกว่าแน่นอน เพราะเค้าเน้นเรื่องคุณภาพ วัสดุ และเทคโนโลยีที่ใส่เข้ามา เพื่อความปลอดภัยขั้นสูง แต่ถ้าไปเทียบกับแบรนด์ตัวท็อปแบบสุดๆ อย่าง AGV หรือ Shoei บางรุ่น SHARK ก็อาจจะมีราคาที่เข้าถึงง่ายกว่า ในคุณภาพและความปลอดภัยที่ใกล้เคียงกัน หรือมีดีไซน์และฟังก์ชันบางอย่างที่โดดเด่นกว่าในราคาที่เท่ากัน สรุปคือ SHARK เค้าวางตัวเองไว้ในจุดที่เน้นความคุ้มค่าระหว่าง ราคา คุณภาพ ความปลอดภัย และดีไซน์สปอร์ต ที่ได้มาจากดีเอ็นเอนักแข่งนั่นเองจ้า!

4. ซื้อแล้วได้อะไรมาบ้างนะ?

เวลาซื้อหมวก SHARK หลักๆ ที่จะได้มาแน่ๆ ก็คือตัวหมวกนั่นแหละ! แต่ส่วนใหญ่แล้วเค้าก็จะแถม ถุงผ้าใส่หมวก มาให้ด้วย เอาไว้ใส่เก็บหมวกกันฝุ่นกันรอยนะจ๊ะ บางรุ่นอาจจะมีแถม แผ่นกันฝ้า (Pinlock) มาให้ในกล่องเลย อันนี้ดีงามมากๆ เพราะช่วยให้ทัศนวิสัยตอนเจออากาศเย็นๆ หรือฝนตกดีขึ้นเยอะ ส่วน คู่มือการใช้งาน ก็ต้องมีมาให้อยู่แล้วนะ

เรื่องสำคัญที่คนไทยให้ความสำคัญมากๆ ก็คือ การรับประกัน ! หมวก SHARK ที่เป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในไทย เค้ามีการรับประกันยาวๆ ให้ถึง 5 ปี เลยนะ! อันนี้สบายใจได้เลย เพราะถ้ามีปัญหาจากการผลิต หรือมีอะไรที่อยู่ในเงื่อนไขการรับประกัน ก็ส่งไปเคลมไปซ่อมกับศูนย์บริการได้เลยจ้า ส่วนเรื่อง ค่าจัดส่ง ถ้าซื้อออนไลน์ ส่วนใหญ่ร้านค้ามักจะมีโปรโมชั่น ส่งฟรี เมื่อซื้อถึงยอดที่กำหนด หรือบางทีก็มีส่วนลดค่าส่งให้ ก็ต้องลองเช็คเงื่อนไขของแต่ละร้านดูนะจ๊ะ

5. ช่วงไหนน่าสอยที่สุด? มีโปรโมชั่นอะไรเด็ดๆ ไหม?

อยากได้ของดีราคาโดนใจ ก็ต้องรอช่วง โปรโมชั่น นี่แหละ! ถึงแม้หมวกกันน็อคอาจจะไม่ได้ลดราคาบ่อยเท่าพวกแฟชั่นหรือเครื่องใช้ไฟฟ้า แต่ก็มีช่วงเวลาที่น่าจับตามองอยู่จ้า อย่างช่วงเทศกาลช้อปปิ้งออนไลน์สุดฮิตของบ้านเรา ไม่ว่าจะเป็น 11.11, 12.12 หรือพวกแคมเปญกลางปี ใหญ่ๆ ของ Lazada กับ Shopee เนี่ย บางทีร้านค้า Official หรือร้านตัวแทนจำหน่ายเค้าก็จัดโปรโมชั่นลดราคาหมวก หรือมี โค้ดส่วนลด พิเศษมาแจกนะ นอกจากนี้ ลองสังเกตช่วง เทศกาลสำคัญๆ เช่น ปีใหม่ สงกรานต์ หรือช่วงวันเกิดแพลตฟอร์มต่างๆ ก็อาจจะมีเซอร์ไพรส์ส่วนลดให้เห็นเหมือนกันจ้า

ร้านค้า ระดับแฟลกชิพสโตร์ บน Lazada/Shopee ส่วนใหญ่เค้าก็จะมีโปรโมชั่นหมุนเวียนมาเรื่อยๆ นะคะ ไม่ได้จัดหนักตลอดเวลา แต่ก็มีส่วนลดเล็กๆ น้อยๆ หรือของแถมพิเศษโผล่มาให้เห็นบ่อยๆ คำแนะนำคือ ถ้าไม่ได้รีบใช้มากๆ รอช่วงที่มีโปรโมชั่นใหญ่ๆ เนี่ยคุ้มสุด! กดติดตามร้านค้าที่เราสนใจไว้ แล้วตั้งแจ้งเตือนไว้เลย พอมีโปรฯ เด็ดๆ จะได้ไม่พลาดจ้า!

6. คนไทยใช้แล้วฟีดแบ็กเป็นยังไงบ้างนะ?

เท่าที่ลองไปส่องๆ ดูตามกลุ่มมอเตอร์ไซค์ หรือรีวิวในแพลตฟอร์มต่างๆ คนไทยที่ใช้หมวก SHARK ส่วนใหญ่ค่อนข้างพอใจนะ จุดที่เค้าชมกันบ่อยๆ ก็คือเรื่อง ดีไซน์ ที่สวยงาม โฉบเฉี่ยว ดูสปอร์ต ใส่แล้วหล่อ ดูโปรขึ้นมาทันที! เรื่อง ความปลอดภัย ก็เป็นอีกจุดที่คนมั่นใจ เพราะรู้ว่าแบรนด์นี้มีดีเอ็นเอมาจากการแข่งขัน ความรู้สึกในการ สวมใส่ หลายคนบอกว่านวมนุ่ม กระชับ แต่ก็ต้องเลือกไซส์ให้พอดีกับหัวตัวเองด้วยนะ การระบายอากาศ หลายรุ่นทำได้ดี ไม่ร้อนอึดอัดเกินไป ส่วนเรื่อง น้ำหนัก ก็มีตั้งแต่เบามากๆ ในรุ่นคาร์บอนตัวท็อป ไปจนถึงน้ำหนักมาตรฐานในรุ่นอื่นๆ

ฟีดแบ็กจากผู้ใช้จริงในไทยเน้นไปที่ความ คุ้มค่า เมื่อเทียบกับราคาที่จ่ายไป คือได้หมวกที่ดูดี มีชาติตระกูล ปลอดภัยได้มาตรฐาน ในราคาที่จับต้องได้ (สำหรับบางรุ่น) ความทนทานก็เป็นอีกเรื่องที่คนให้ความสำคัญ ซึ่ง SHARK ก็ทำได้ค่อนข้างดี แต่ก็ต้องอยู่กับการดูแลรักษาของแต่ละคนด้วยนะ!

7. จะไปหาซื้อได้จากช่องทางไหนดี?

สำหรับใครที่อยากได้หมวก SHARK มาครอบครอง ก็มีหลายช่องทางให้เลือกเลยจ้า

• ร้านตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ: อันนี้ชัวร์สุด! ได้ของแท้แน่นอน มีผู้เชี่ยวชาญให้คำแนะนำเรื่องไซส์ การเลือกหมวกที่เหมาะสมกับเรา แถมยังเคลมประกันได้สะดวกด้วย ลองเข้าไปดูรายชื่อตัวแทนจำหน่ายบนเว็บไซต์ SHARK Thailand ได้เลย
• แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซขนาดใหญ่: Lazada กับ Shopee นี่เป็นแหล่งรวมร้านค้าเยอะมากๆ ทั้งร้าน Official, ร้านตัวแทนจำหน่าย, หรือร้านค้าอื่นๆ ข้อดีคือ สะดวก ช้อปได้ 24 ชั่วโมง เปรียบเทียบราคา ง่าย มี โค้ดส่วนลด และ โปรโมชั่น บ่อยๆ มีระบบ เก็บเงินปลายทาง หรือ ผ่อนชำระ ได้ด้วย แต่ข้อควรระวังคือต้องเลือกร้านที่น่าเชื่อถือ ดูรีวิวร้านดีๆ ก่อนสั่งซื้อนะจ๊ะ
• ร้านค้าอุปกรณ์มอเตอร์ไซค์: ตามร้านขายอะไหล่ หรือร้านอุปกรณ์สำหรับขับขี่มอเตอร์ไซค์ใหญ่ๆ หลายร้านก็นำเข้าหมวก SHARK มาขายเหมือนกัน ข้อดีคือเราสามารถ ไปลองสวม ลองไซส์จริง ก่อนตัดสินใจซื้อได้เลย อันนี้สำคัญมากนะ เพราะหมวกกันน็อคต้องใส่พอดีกับศีรษะจริงๆ เพื่อความปลอดภัยสูงสุด

เลือกช่องทางที่สะดวกและมั่นใจได้เลยจ้า!

8. สรุปแล้วน่าซื้อไหม? เหมาะกับใคร?

สรุปเลยนะ! หมวกกันน็อค SHARK ถือเป็นตัวเลือกที่ น่าสนใจมากๆ สำหรับใครที่กำลังมองหาหมวกกันน็อคดีๆ สักใบในงบประมาณระดับกลางถึงบน มัน คุ้มค่า กับเงินที่จ่ายไป เพราะได้ทั้ง ความปลอดภัยระดับสูง ที่มาจากดีเอ็นเอนักแข่ง, ดีไซน์สปอร์ต ที่ไม่ซ้ำใคร, วัสดุคุณภาพดี, และ การรับประกันที่ยาวนาน ถึง 5 ปี

หมวก SHARK เหมาะกับ :

• คนที่ใช้มอเตอร์ไซค์เป็นประจำ ทั้งเดินทางในเมืองและออกทริปบ้าง
• คนที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยสูงสุด
• คนที่ชอบหมวกดีไซน์สปอร์ต โฉบเฉี่ยว ดูดี
• คนที่พร้อมลงทุนกับอุปกรณ์เซฟตี้คุณภาพดี

ถ้าเป็นนักบิดมือใหม่ งบไม่สูงมาก อาจจะลองดูรุ่นเริ่มต้นอย่าง RIDILL 2 ก่อนก็ได้ คุณภาพและความปลอดภัยก็ยังดีเยี่ยมตามมาตรฐาน SHARK อยู่แล้ว แต่ถ้าเป็นสายซิ่ง สายหล่อ หรือต้องการฟังก์ชันระดับท็อป วัสดุคาร์บอนเน้นความเบา ก็จัดรุ่นสูงๆ อย่าง Spartan หรือ Race-R Pro GP ไปเลย รับรองไม่ผิดหวัง!

แม้ว่ารุ่น "Looper" จะยังไม่เจอข้อมูลตรงๆ ในฐานะหมวกมอเตอร์ไซค์ของ Shark แต่แบรนด์นี้เค้ามีรุ่นอื่นๆ ที่น่าสนใจเพียบ หวังว่าข้อมูลภาพรวมเกี่ยวกับหมวก SHARK นี้จะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจของเพื่อนๆ นะคะ ขอให้ทุกคนได้หมวกถูกใจ ปลอดภัยทุกการเดินทางจ้า! ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงตรงนี้นะคะ บ๊ายบาย!