ราคา งูคอร์น สัตว์เลี้ยงยอดฮิต: เลี้ยงง่าย ลวดลายสวยงาม


สวัสดีค่าทุกคนนน! วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยเรื่องสัตว์เลี้ยงสุดคูลแต่ก็แอบน่ารักน่าชัง นั่นก็คือ "งูคอร์น" หรือที่บางคนเรียกว่า "งูข้าวโพด" นั่นเอง! ใครที่กำลังมองหาสัตว์เลี้ยงที่ไม่ต้องพาไปเดินเล่น ไม่ต้องฝึกเข้าห้องน้ำ ไม่ส่งเสียงรบกวนเพื่อนบ้าน และมีลวดลายสวยงามราวกับงานศิลปะ มามุงตรงนี้ด่วนๆ เลยจ้า เพราะเจ้าพวกนี้กำลังเป็นที่นิยมในหมู่คนรักสัตว์แปลก (Exotic Pet) ในไทยมากๆ วันนี้เราจะมาเจาะลึกเรื่องราคาและเรื่องอื่นๆ ที่ควรรู้ก่อนจะรับน้องมาอยู่ด้วยนะ เตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อม แล้วไปดูกันเล้ยยย!
1. เจ้างูคอร์นนี่มันคือตัวอะไรกันนะ?
มาทำความรู้จักกับ งูคอร์น (Corn Snake) กันก่อนเลย ชื่อวิทยาศาสตร์คือ *Pantherophis guttatus* เค้ามีถิ่นกำเนิดมาจากทวีปอเมริกา โดยเฉพาะแถบอเมริกาเหนือ ที่ได้ชื่อว่า "งูข้าวโพด" เนี่ยก็มีหลายที่มานะ บ้างก็ว่าชอบอยู่ในไร่ข้าวโพดเพื่อจับหนูกิน บ้างก็ว่าลายที่ท้องเค้าเหมือนเมล็ดข้าวโพด แต่ที่แน่ๆ คือเค้าเป็นงูที่ไม่มีพิษนะจ๊ะ เลี้ยงได้อย่างสบายใจหายห่วงสำหรับมือใหม่!
ทำไมถึงฮิตในไทยเหรอ? ก็เพราะเค้ามีคุณสมบัติที่ตอบโจทย์คนเลี้ยงสุดๆ เลยล่ะ:
- เลี้ยงง่าย: ดูแลไม่ยุ่งยากซับซ้อน เหมาะกับมือใหม่มากๆ
- ลวดลายสวยงาม: อันนี้คือจุดเด่นเลย! เค้ามีสีสันและลวดลายหลากหลายแบบสุดๆ เรียกว่า "มอร์ฟ" (Morph) มีตั้งแต่สีพื้นฐานไปจนถึงสีแฟนซีแปลกตา
- นิสัยดี: ปกติแล้วเค้าเป็นงูที่ค่อนข้างเรียบร้อย เป็นมิตร ไม่ดุร้าย และจัดการง่าย
- ไม่ส่งเสียงดัง: อยู่ในคอนโดหรือหอพักได้สบาย ไม่มีเสียงรบกวนใคร
สรุปง่ายๆ คือ เจ้างูคอร์นเป็นงูเลี้ยงที่น่ารัก เลี้ยงไม่ยาก แถมยังสวยงาม มีให้เลือกหลายแบบตามความชอบ เหมาะกับคนที่อยากลองเลี้ยงสัตว์แปลกแต่ยังไม่มีประสบการณ์เลยล่ะ
2. ราคาในตลาดไทยเป็นยังไงบ้าง?
มาถึงเรื่องที่หลายคนอยากรู้ที่สุด! ราคาของเจ้างูคอร์นในตลาดไทยเนี่ย บอกเลยว่ามีตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักหมื่นเลยจ้า ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง โดยเฉพาะเรื่อง "มอร์ฟ" หรือสีและลวดลาย ของน้องงู ยิ่งมอร์ฟแปลกๆ หายาก ราคาก็จะยิ่งสูงขึ้นไปอีกนะ
ราคาคร่าวๆ ในตลาดไทย:
- มอร์ฟพื้นฐาน (Normal, Amel, Anery): ราคาเริ่มต้นประมาณ 1,000 - 2,500 บาท (฿)
- มอร์ฟยอดนิยมอื่นๆ (เช่น Hypo, Snow, Butter, Sunkissed, Motley): ราคาอาจจะขยับขึ้นมาหน่อย อยู่ที่ประมาณ 2,000 - 4,000 บาท (฿) หรืออาจจะสูงกว่านั้นขึ้นอยู่กับลายและความคมชัด
- มอร์ฟพิเศษหรือหายากมากๆ (เช่น Palmetto, Blizzard สวยๆ): ราคาอาจพุ่งไปที่ 4,000 บาท (฿) ขึ้นไป จนถึง 15,000 - 20,000 บาท (฿) หรือมากกว่านั้นก็มี
ราคานี้เป็นราคาโดยประมาณนะ บางทีถ้าเป็นลูกงู (Hatchling) ราคาก็จะถูกลงมาหน่อย ส่วนถ้าเป็นงูวัยรุ่นหรือโตเต็มวัย ราคาก็จะอีกแบบนึง
แล้วจะไปหาซื้อได้ที่ไหนล่ะ? หลักๆ ก็ตามนี้เลย:
- ร้านขายสัตว์ exotic โดยเฉพาะ: ตามตลาดสัตว์เลี้ยงใหญ่ๆ อย่างจตุจักรในกรุงเทพฯ หรือร้านในต่างจังหวัดบางแห่ง
- ฟาร์มเพาะพันธุ์โดยตรง: อันนี้จะได้เจอน้องงูหลากหลายมอร์ฟ และอาจจะได้ข้อมูลจากผู้เพาะพันธุ์โดยตรง
- กลุ่มซื้อขายสัตว์ exotic ใน Facebook หรือ LINE: เป็นช่องทางที่นิยมมากๆ ในไทย มีทั้งผู้เพาะพันธุ์รายย่อยและคนเลี้ยงที่ต้องการปล่อยน้อง ข้อดีคือตัวเลือกเยอะ เปรียบเทียบราคาได้ แต่ก็ต้องระวังเรื่องการหลอกลวงนะจ๊ะ เช็คโปรไฟล์ผู้ขายดีๆ
พวกแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอย่าง Lazada หรือ Shopee ส่วนใหญ่จะไม่ได้ขายสัตว์เลี้ยงที่มีชีวิตโดยตรง แต่จะขายอุปกรณ์สำหรับเลี้ยงงูมากกว่านะ
3. แล้วเทียบกับงูหรือสัตว์เลี้ยงประเภทอื่นล่ะ ราคาเป็นไง?
ถ้าเทียบกับงูสำหรับมือใหม่อีกสายพันธุ์ที่ฮิตพอๆ กันอย่าง งูบอลไพธอน (Ball Python) เนี่ย งูคอร์นส่วนใหญ่จะมีราคาเริ่มต้นที่เข้าถึงง่ายกว่านะ งูบอลฯ เองก็มีมอร์ฟเยอะมาก ราคาเริ่มต้นอาจจะใกล้เคียงกัน แต่ถ้าเป็นมอร์ฟพิเศษ งูบอลฯ บางทีราคาสูงกว่างูคอร์นไปอีกไกลเลยจ้า
ถ้าเทียบกับสัตว์เลี้ยงอื่นๆ ที่เลี้ยงง่ายๆ อย่างหนูแฮมสเตอร์ นก หรือปลา ราคาตัวงูคอร์นอาจจะสูงกว่าพอสมควร แต่ถ้ามองในระยะยาว ค่าใช้จ่ายเรื่องอาหาร (หนูไมซ์แช่แข็ง) อาจจะไม่บ่อยเท่าให้อาหารสัตว์เลี้ยงอื่นๆ ที่ต้องให้ทุกวันนะ
โดยรวมแล้ว งูคอร์นถือเป็นสัตว์เลี้ยง Exotic ที่มีราคาเริ่มต้นค่อนข้างเป็นมิตรกับกระเป๋าสตางค์ เมื่อเทียบกับสัตว์แปลกชนิดอื่นๆ ทำให้คนทั่วไปเข้าถึงได้ง่ายขึ้น
4. ซื้อน้องมาแล้วได้อะไรมาบ้างนะ?
ส่วนใหญ่แล้ว เวลาซื้อน้องงูคอร์น สิ่งที่เราจะได้มาก็คือ... ตัวน้องงู นั่นแหละจ้า! ฮ่าๆ
อุปกรณ์การเลี้ยงส่วนใหญ่เราต้องไปจัดหาเองนะ ซึ่งก็มีหลายอย่างที่จำเป็นมากๆ ขาดไม่ได้เลย ถ้าไม่อยากให้น้องงูเครียดหรือไม่สบาย ได้แก่:
- กล่องหรือตู้เลี้ยง: ควรมีขนาดที่เหมาะสมกับขนาดตัวน้องนะ ไม่เล็กหรือใหญ่เกินไป และต้องมีฝาปิดที่แน่นหนา มีรูระบายอากาศที่ดีมากๆ ป้องกันน้องหนีเที่ยว
- วัสดุรองพื้น (Substrate): มีหลายแบบให้เลือก เช่น ขี้เลื่อยสำหรับงู หรือซังข้าวโพด ช่วยเรื่องความชื้นและความสะอาด
- ถ้วยน้ำ: ใส่น้ำสะอาดให้น้องได้ดื่มและช่วยเพิ่มความชื้นในกล่อง
- Hide Box หรือที่ซ่อน: สำคัญมากๆ สำหรับงูคอร์นนะ เค้าเป็นสัตว์ที่ต้องการที่ซ่อนเพื่อลดความเครียด จะเป็นโพรงไม้ ถ้ำจำลอง หรือกล่องเล็กๆ เจาะรูก็ได้
- อุปกรณ์ทำความร้อน (ถ้าจำเป็น): เช่น แผ่นทำความร้อน (Heat Mat) หรือหลอดไฟเซรามิก (Ceramic Heat Emitter) พร้อมเทอร์โมสตัทควบคุมอุณหภูมิ เพื่อรักษาอุณหภูมิให้เหมาะสมกับน้องงู โดยเฉพาะในห้องที่เปิดแอร์เย็นๆ ตลอด
- ที่คีบอาหาร: ใช้คีบหนูแช่แข็งให้น้องกิน ป้องกันน้องงับมือเราผิด
เรื่อง การรับประกัน เนี่ย ถ้าซื้อจากฟาร์มหรือร้านที่เชื่อถือได้ บางทีเค้าอาจจะมีประกันสุขภาพให้เล็กน้อย เช่น รับประกันว่าน้องงูแข็งแรง ไม่มีไร ไม่เป็นหวัด ในช่วง 1-7 วันแรก หลังจากนั้นก็อยู่ที่การดูแลของเราแล้วนะจ๊ะ ต้องสอบถามกับผู้ขายให้ชัดเจน ส่วนใหญ่จะไม่มีประกันยาวนานเหมือนสินค้าอิเล็กทรอนิกส์
เรื่อง ค่าจัดส่ง ถ้าซื้อจากต่างจังหวัดหรือสั่งออนไลน์ ส่วนใหญ่ก็จะมีค่าจัดส่งนะ ต้องสอบถามราคาให้ดีก่อนตัดสินใจ บางทีผู้ขายอาจจะจัดโปรโมชั่นส่งฟรี (แต่น้อยมากสำหรับสัตว์เลี้ยงที่มีชีวิต)
5. มีโปรโมชั่นหรือช่วงไหนน่าซื้อเป็นพิเศษไหม?
สำหรับสัตว์เลี้ยงอย่างงูคอร์นเนี่ย อาจจะไม่ได้มีโปรโมชั่นลดราคาเป็นประจำเหมือนสินค้าทั่วไปตามเทศกาลใหญ่ๆ แบบ 11.11 หรือ 12.12 ที่ Lazada Shopee เค้าจัดหนักกันนะจ๊ะ เพราะเค้าเป็นสัตว์มีชีวิต ไม่ใช่สินค้าแฟชั่นหรืออิเล็กทรอนิกส์ที่จะตุนมาขายเยอะๆ แล้วลดราคาได้ง่ายๆ
แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสเจอราคาดีๆ เลยนะ!
- ช่วงที่ฟาร์มเพาะพันธุ์งูเยอะ: ปกติงูคอร์นจะผสมพันธุ์และวางไข่ในช่วงเดือนมีนาคม-กรกฎาคม พอฟักออกมาเป็นลูกงูจำนวนมาก ผู้เพาะพันธุ์อาจจะเริ่มทยอยปล่อยขาย ซึ่งในช่วงที่มีลูกงูออกมาเยอะๆ อาจจะมีตัวเลือกเยอะและมีโอกาสได้ราคาที่หลากหลายขึ้น
- ตามงานประกวดหรือตลาดสัตว์ Exotic: บางครั้งตามงานอีเวนต์เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง exotic อาจจะมีผู้เพาะพันธุ์นำน้องงูมาขาย ซึ่งเราอาจจะได้เห็นตัวจริง เปรียบเทียบหลายๆ ตัว และบางทีอาจจะได้ราคาพิเศษจากผู้ขายโดยตรง
- ช่วงที่ผู้เลี้ยงต้องการปล่อย: บางทีผู้เลี้ยงเก่าที่อาจจะไม่มีเวลาดูแลแล้ว หรือต้องการเปลี่ยนไปเลี้ยงสัตว์ชนิดอื่น อาจจะนำน้องงูมาปล่อยขายในราคาที่ไม่สูงมาก ซึ่งเราสามารถหาได้ตามกลุ่มซื้อขายสัตว์เลี้ยงใน Facebook หรือ LINE นี่แหละ
คำแนะนำคือ ถ้าอยากได้น้องงูคอร์นจริงๆ ให้หมั่นติดตามเพจฟาร์ม หรือกลุ่มซื้อขายต่างๆ ในโซเชียลมีเดีย จะมีโอกาสเจอผู้ขายและน้องงูที่ถูกใจ พร้อมกับราคาที่รับได้มากกว่านะจ๊ะ
6. คนไทยที่เลี้ยงน้องงูคอร์นเค้ารู้สึกยังไงกันบ้างนะ?
จากที่ส่องๆ ดูตามกระทู้หรือกลุ่มต่างๆ ในโซเชียลเนี่ย คนไทยที่เลี้ยงงูคอร์นส่วนใหญ่ค่อนข้างแฮปปี้เลยนะ!
- หลายคนบอกว่า เลี้ยงง่ายจริงๆ เหมาะกับมือใหม่มากๆ ไม่ต้องดูแลจุกจิกเท่าสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม
- เรื่องความสวยงามของลาย นี่คือจุดที่คนชอบสุดๆ เค้ามีมอร์ฟให้เลือกเยอะมาก เลือกลายที่ถูกใจได้เลย
- นิสัยดี ไม่ดุ เป็นมิตร ทำให้คนไม่กลัวงูมาก่อนก็สามารถเลี้ยงได้
- ขนาดตัวไม่ใหญ่มากนัก เมื่อเทียบกับงูสายพันธุ์อื่น ทำให้จัดการได้ง่าย
- ค่าใช้จ่ายเรื่องอาหารไม่สูงมาก เพราะให้กินไม่บ่อย
ข้อควรระวังที่คนเลี้ยงมักจะเจอก็คือ เรื่องการจัดการความชื้นและอุณหภูมิในกล่องเลี้ยงให้เหมาะสม ถ้าไม่ดีพอน้องอาจจะไม่สบายได้ แล้วก็เรื่องการเลือกขนาดหนูแช่แข็งให้เหมาะสมกับขนาดตัวน้อง และห้ามรบกวนน้องตอนกำลังย่อยอาหารหรือลอกคราบเด็ดขาด
โดยรวมแล้ว ฟีดแบ็กจากคนไทยคือ เจ้างูคอร์นเป็นสัตว์เลี้ยงที่น่าสนใจมากๆ สำหรับคนที่ชอบสัตว์แปลกและอยากได้สัตว์ที่ไม่ต้องดูแลเยอะ แถมยังได้ชื่นชมความสวยงามของลวดลายเค้าด้วย
7. แล้วจะไปหาซื้อน้องงูคอร์นได้ที่ไหนบ้างล่ะ?
ช่องทางยอดนิยมในการหาซื้อน้องงูคอร์นในไทยก็จะมีประมาณนี้:
- ร้านขายสัตว์ Exotic โดยเฉพาะ: อันนี้เป็นช่องทางมาตรฐานเลยนะ อย่างที่บอกคือตามตลาดสัตว์เลี้ยงใหญ่ๆ หรือร้านที่นำเข้าสัตว์แปลกเข้ามาขาย ข้อดีคือได้เห็นตัวจริง ได้สอบถามข้อมูลกับคนขายโดยตรง ข้อเสียคืออาจจะต้องเดินทางไปถึงร้าน และราคาอาจจะสูงกว่าช่องทางอื่นเล็กน้อย
- ฟาร์มเพาะพันธุ์: ถ้าอยากได้น้องงูมอร์ฟสวยๆ แปลกๆ หรืออยากได้ลูกงูตั้งแต่เล็กๆ การติดต่อฟาร์มเพาะโดยตรงก็เป็นทางเลือกที่ดีนะ เราอาจจะเห็นพ่อแม่พันธุ์ ได้รู้วันเกิดน้องที่แน่นอน ข้อดีคือมักจะได้น้องที่มีสุขภาพแข็งแรง มีประวัติชัดเจน ข้อเสียคืออาจจะต้องเดินทางไปที่ฟาร์ม หรือถ้าอยู่ไกลมากๆ การจัดส่งก็ต้องมีขั้นตอนพิเศษ
- กลุ่มหรือเพจซื้อขายสัตว์ Exotic ใน Facebook/LINE: อันนี้คือแหล่งใหญ่และคึกคักที่สุดในไทยแล้วก็ว่าได้! มีผู้ขายหลากหลาย ทั้งฟาร์มรายใหญ่ รายย่อย หรือแม้กระทั่งคนเลี้ยงทั่วไปที่ต้องการปล่อยน้อง ข้อดีคือตัวเลือกเยอะมากกกกก แทบทุกมอร์ฟที่คุณอยากได้ ราคาก็หลากหลาย เปรียบเทียบง่าย สะดวก ไม่ต้องเดินทาง ข้อเสียคือต้องระวังมิจฉาชีพ และบางทีรูปที่เห็นอาจจะไม่ตรงปกนัก ต้องเช็คเครดิตผู้ขายดีๆ ก่อนตัดสินใจโอนเงิน หรือนัดเจอเพื่อรับน้องเองจะปลอดภัยที่สุดนะจ๊ะ
สำหรับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซหลักๆ อย่าง Lazada Shopee ไม่แนะนำให้หาสัตว์เลี้ยงมีชีวิตในนั้นนะ เพราะผิดกฎของแพลตฟอร์มส่วนใหญ่จ้า
8. สรุปแล้วน่าซื้อไหม? เหมาะกับใคร?
สรุปเลยนะ เจ้างูคอร์นเนี่ย น่าซื้อมากๆ สำหรับคนที่สนใจอยากเลี้ยงสัตว์แปลกเป็นครั้งแรก! เค้าเป็นงูที่เหมาะสำหรับ มือใหม่หัดเลี้ยงงู สุดๆ ด้วยความที่เลี้ยงง่าย ไม่ยุ่งยาก นิสัยดี ไม่ดุ และไม่ต้องใช้พื้นที่เยอะ
เหมาะกับใครบ้าง?
- คนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่จำกัด เช่น คอนโด หอพัก
- คนที่ไม่มีเวลาดูแลสัตว์เลี้ยงแบบใกล้ชิดมากๆ เพราะงูคอร์นไม่ต้องให้อาหารทุกวัน
- คนที่อยากได้สัตว์เลี้ยงที่ไม่ส่งเสียงดังรบกวน
- คนที่หลงใหลในความสวยงามของลวดลายสัตว์ และอยากได้สัตว์ที่มีสีสันหลากหลาย
- คนที่อยากลองเลี้ยงงู แต่ยังกล้าๆ กลัวๆ หรือกังวลเรื่องพิษ เพราะงูคอร์นไม่มีพิษและไม่ดุ
ส่วนเรื่องจะเลือกรุ่น (มอร์ฟ) ไหนดี ก็ขึ้นอยู่กับงบประมาณและความชอบส่วนตัวเลยจ้า ถ้าเน้นประหยัด มอร์ฟพื้นฐานก็สวยงามน่ารักแล้ว แต่ถ้ามีงบหน่อยและอยากได้ลวดลายที่ไม่เหมือนใคร มอร์ฟแฟนซีก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากๆ ที่สำคัญคือ เลือกตัวที่ดูแข็งแรง สุขภาพดี เป็นหลักนะจ๊ะ
หวังว่าข้อมูลเรื่องราคาและเรื่องอื่นๆ ของงูคอร์นจะเป็นประโยชน์กับทุกคนที่กำลังตัดสินใจรับน้องมาเลี้ยงนะจ๊ะ ขอให้ได้น้องงูที่ถูกใจ และมีความสุขกับการเป็นทาสงูตัวน้อยๆ กันทุกคนค่าาา! บ๊ายบายยย!
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
แนะนำสำหรับคุณ
ราคา iPhone 6s Plus ล่าสุด โปรโมชั่น และเคล็ดลับการซื้อ ปี 2025
รวมพิกัด ร้านกระเบื้อง ราคาถูก คุณภาพดี สำหรับรีโนเวทบ้าน
อัปเดตราคา Mazda2 ใหม่ล่าสุด 2025: ผ่อนเริ่มต้นเท่าไหร่?
ราคา iPhone 14 ล่าสุด โปรโมชั่น และเคล็ดลับการซื้อ ปี 2025
ราคา iPhone 6 Plus ล่าสุด โปรโมชั่น และเคล็ดลับการซื้อ ปี 2025
ราคา Canon EOS RP ล่าสุด: กล้อง Mirrorless Full Frame ที่น่าจับตามอง