รีวิวซีรีส์เกาหลี The Uncanny Counter: ทีมล่าปีศาจพลังพิเศษ แอ็คชั่น แฟนตาซี สนุกจนหยุดดูไม่ได้?


สายเกาหลีมาทางนี้! ถ้าใครกำลังมองหาซีรีส์แอ็คชั่น แฟนตาซี ที่ไม่ใช่แค่ต่อยตีแย่งผู้ชาย หรือรักสามเส้าเคล้าน้ำตา ลองมาดูเรื่องนี้เลย The Uncanny Counter หรือชื่อไทยสุดเก๋ว่า เคาน์เตอร์ คนล่าปีศาจ ที่จะทำให้คุณนั่งไม่ติดขอบเตียง สนุกจนลืมเวลา หลับคาจอไม่ได้แน่นอน วันนี้เราจะมารีวิวให้ฟังแบบหมดเปลือก ว่าทำไมเรื่องนี้ถึง “ต้องดู!”
1. ภาพรวมซีรีส์: รู้จักทีมล่าปีศาจของเรากันก่อน!
ชื่อเรื่อง: The Uncanny Counter (경이로운 소문)
แนว: แอ็คชั่น, แฟนตาซี, ลึกลับ, ดราม่า, เหนือธรรมชาติ
ปีที่ฉาย: ซีซั่น 1 ปี 2020-2021, ซีซั่น 2 ปี 2023
นักแสดงหลัก: โจ บยองกยู (รับบท โซมุน), ยู จุนซัง (รับบท กาโมทัก), คิม เซจอง (รับบท โดฮานา), ยอม ฮเยรัน (รับบท ชูแมอ๊ก), อัน ซอกฮวาน (รับบท ชเวจางมุล)
จำนวนตอน: ซีซั่น 1 มี 16 ตอน, ซีซั่น 2 มี 12 ตอน
เรื่องย่อคร่าวๆ: เรื่องราวของกลุ่มคนที่เรียกตัวเองว่า "เคาน์เตอร์" ที่ปลอมตัวเป็นพนักงานร้านก๋วยเตี๋ยวสุดอร่อย เพื่อออกล่าวิญญาณชั่วร้ายที่หนีมาจากปรโลก แต่ละคนมีความสามารถพิเศษแตกต่างกันไป และแล้ววันหนึ่ง โซมุน เด็กหนุ่ม ม.ปลาย ที่ขาพิการจากอุบัติเหตุในอดีต ก็ได้รับเลือกให้เป็นเคาน์เตอร์คนใหม่ ชีวิตธรรมดาๆ ของเขาก็เปลี่ยนไปตลอดกาล!
จุดเด่นที่ทำให้ต้องดู:
- ทีมเวิร์คสุดปัง: ตัวละครหลักเข้าขากันดี เคมีลงตัวสุดๆ
- แอ็คชั่นมันส์หยด: ฉากต่อสู้ทำออกมาได้ถึงใจ พลังพิเศษอลังการ
- เนื้อเรื่องเข้มข้น: ไม่ใช่แค่ล่าปีศาจ แต่มีปมดราม่า ปริศนาให้ตามลุ้น
- ฮาและซึ้งในเวลาเดียวกัน: มีช่วงตลกโบ๊ะบ๊ะและช่วงเรียกน้ำตาครบ
2. โปรดักชั่น: งานดี มีคุณภาพ!
เรื่องนี้ต้องชมทีมงานเลยว่าทำโปรดักชั่นออกมาได้ดีมากๆ ทั้งภาพ มุมกล้อง ซีจีต่างๆ ดูไม่ลอย ไม่หลอกตา
ด้านภาพและซีจี: ฉากต่อสู้ที่ใช้พลังพิเศษ หรือตอนที่วิญญาณชั่วร้ายปรากฏตัว ทำออกมาได้สมจริง ตื่นตาตื่นใจ
คอสตูมและฉาก: ชุดยูนิฟอร์มของเคาน์เตอร์ก็เท่ดี ส่วนร้านก๋วยเตี๋ยวที่เป็นฐานลับก็ดูอบอุ่น เป็นเหมือนบ้านของพวกเขา
อุปกรณ์ประกอบฉาก: อุปกรณ์ล่าปีศาจต่างๆ ดูล้ำสมัย เข้ากับแนวแฟนตาซี
3. ประสบการณ์ล่าปีศาจ: สนุกจนหยุดไม่ได้!
แอ็คชั่น: จุดเด่นที่สุดของเรื่องนี้! ฉากต่อสู้คือทำถึงมาก มีทั้งการต่อสู้ระยะประชิด การใช้พลังพิเศษ การวางแผน เป็นอะไรที่ต้องนั่งลุ้นตาม โดยเฉพาะฉากที่โซมุนเริ่มใช้พลังได้คล่องแคล่ว คือแบบ...เท่บาดใจ!
พลังพิเศษ: แต่ละคนมีพลังที่แตกต่างกัน ทำให้การต่อสู้ไม่ซ้ำซาก จำเจ เช่น โซมุนพลังกายเยอะ, โดฮานาอ่านความทรงจำ/จับตำแหน่งปีศาจได้, ชูแมอ๊กรักษาเก่ง
การดำเนินเรื่อง: เล่าเรื่องได้น่าติดตาม มีการเปิดปมตัวละคร ปมของปีศาจแต่ละตัว ทำให้เราอยากรู้เรื่องราวเบื้องหลัง ไม่ใช่แค่โผล่มาให้ปราบเฉยๆ
4. ดูง่ายไหม? เข้าถึงได้ทุกคนรึเปล่า?
การทำความเข้าใจ: เนื้อเรื่องหลักเข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อนมาก มีการอธิบายเรื่องโลกของวิญญาณ และพลังของเคาน์เตอร์ชัดเจนตั้งแต่แรก
ตัวละคร: ตัวละครหลักแต่ละตัวมีเสน่ห์ มีมิติ มีเรื่องราวเบื้องหลังให้น่าเอาใจช่วย เห็นถึงพัฒนาการของตัวละคร โดยเฉพาะโซมุนที่ค่อยๆ เก่งขึ้น
อารมณ์: ครบรสมาก! มีทั้งฉากบู๊สุดมันส์, ฉากตลกจากความสัมพันธ์ของทีมเคาน์เตอร์, ฉากซึ้งๆ ของปมในอดีต และฉากดราม่ากับปีศาจชั่วร้าย
แพลตฟอร์มที่ดูได้: มีพากย์ไทย ซับไทยใน Netflix ทำให้คนไทยดูง่ายสุดๆ
5. ความคุ้มค่ากับการดู: เวลาที่เสียไปมีค่าแน่นอน!
ด้วยความสนุกครบรสขนาดนี้ ถือว่าคุ้มค่ากับเวลาที่เสียไปมากๆ ดูแล้วได้ทั้งความบันเทิง ลุ้นระทึก และข้อคิดเกี่ยวกับความดีความชั่ว มิตรภาพ และครอบครัว
6. ข้อดี-ข้อเสีย (แบบไม่อวย):
ข้อดีเด็ดๆ:
- แอ็คชั่นมันส์สะใจ: ฉากต่อสู้คือทีเด็ด ดูแล้วไม่ผิดหวัง
- ทีมเคาน์เตอร์น่ารัก: เคมีดีมาก ดูแล้วอบอุ่นหัวใจ
- เนื้อเรื่องน่าติดตาม: ปมเยอะ ชวนให้ดูต่อเรื่อยๆ
- ตัวร้ายน่ากลัว: ปีศาจแต่ละตัวคือร้ายจริง ทำให้ลุ้นตาม
- มีทั้งฮา ทั้งซึ้ง: อารมณ์หลากหลาย ไม่น่าเบื่อ
ข้อเสียที่อาจทำให้ลังเล:
- บางช่วงดราม่าหนักไปหน่อย: อาจมีบางตอนที่เน้นดราม่าตัวละครเยอะเป็นพิเศษ
- ปมบางอย่างอาจจะดูง่ายไปนิด: เมื่อเทียบกับความซับซ้อนของปีศาจเลเวลสูงๆ
- ซีซั่น 2 อาจจะรู้สึกดร็อปลงนิดหน่อย: บางคนอาจจะรู้สึกว่าความเข้มข้นสู้ซีซั่นแรกไม่ได้
7. เหมาะกับใคร & คำแนะนำในการดู:
เหมาะกับ:
- คนที่ชอบซีรีส์แนว แอ็คชั่น แฟนตาซี เหนือธรรมชาติ
- คนที่ชอบเรื่องราวเกี่ยวกับ ทีมเวิร์ค การต่อสู้เพื่อความถูกต้อง
- คนที่มองหาซีรีส์ที่ สนุก ดูเพลิน ไม่ต้องคิดเยอะมาก แต่ก็มีสาระ
- คนที่ชอบนักแสดงนำทั้ง 4 คน หรือเคยดูผลงานอื่นของพวกเขา
ควรดูเลยไหม? ถ้าชอบแนวที่ว่ามา จัดเลยค่ะ! ไม่ต้องรอช้า เปิด Netflix แล้วกดดูได้เลย
8. เทียบกับเรื่องอื่น (นิดหน่อย):
ถ้าชอบแนวล่าปีศาจ อาจจะนึกถึงเรื่องอย่าง "Ghost Doctor" (แต่เรื่องนั้นเน้นการแพทย์) หรือแนวเหนือธรรมชาติอย่าง "Hotel Del Luna" (แต่เรื่องนั้นเน้นโรแมนติกแฟนตาซี) แต่ถ้าเอาความแอ็คชั่นแบบทีมเวิร์คสู้ปีศาจโดยเฉพาะ เรื่องนี้ถือว่าโดดเด่นมากๆ ในแนวของตัวเอง
9. ช่องทางการรับชม: ดูได้ที่ไหน?
ตอนนี้สามารถดู The Uncanny Counter ได้แบบถูกลิขสิทธิ์ที่ Netflix เท่านั้นค่ะ มีทั้งพากย์ไทยและซับไทยให้เลือกครบ ดูได้ทั้งซีซั่น 1 และซีซั่น 2 เลยค่ะ
10. บทสรุปและคำแนะนำในการดู:
สรุปง่ายๆ เลยว่า The Uncanny Counter เป็นซีรีส์เกาหลีแนวแอ็คชั่น แฟนตาซี ที่สนุกมากๆ คุ้มค่าแก่การดูจริงๆ ค่ะ ด้วยเนื้อเรื่องที่น่าติดตาม ฉากแอ็คชั่นสุดมันส์ และตัวละครที่น่ารัก มีเสน่ห์ ทำให้ดูแล้วเพลินจนอยากกดดูต่อเรื่อยๆ
ถ้าคุณกำลังมองหาซีรีส์ที่ดูแล้วไม่ผิดหวัง ได้ทั้งความบันเทิง ความตลก ความซึ้ง และความมันส์ เรื่องนี้คือคำตอบ! เตรียมตัวให้พร้อม แล้วไปร่วมภารกิจล่าปีศาจกับทีมเคาน์เตอร์ที่ร้านก๋วยเตี๋ยวกันได้เลย!
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
- รีวิวซีรีส์ The Uncanny Counter / เคาน์เตอร์ คนล่าปีศาจ by ...
- Review Drama Korea The Uncanny Counter Season 1 | วิดีโอ ...
- เมื่อเด็กพิการต้องมาเป็นยมทูตล่าปีศาจ (The Uncanny Counter) I ส ...
- ดูจบแล้วมาคุยกัน The Uncanny Counter | คนล่าปีศาจ (สปอย)
- เรื่องย่อซีรีส์เกาหลี “เคาน์เตอร์ คนล่าปีศาจ | The Uncanny Counter ...
แนะนำสำหรับคุณ
จัดกระดูก คืออะไร? รีวิว ประสบการณ์ และข้อควรรู้
รวมร้านหมูจุ่ม เชียงใหม่ อร่อยเด็ด บรรยากาศดี
รีวิว Beauty Plus Clinic กำจัดขน: เลเซอร์ขนที่นี่ดีไหม ราคาเป็นอย่างไร?
รีวิวหนัง "ฮาวทูทิ้ง..ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ" ประทับใจแค่ไหน?
รีวิว Adidas Edge Lux Clima: รองเท้าวิ่ง Adidas ระบายอากาศดี น่าใส่ไหม?
รีวิว Hisense 55B7700UW ทีวี 55 นิ้ว ภาพสวย คุ้มราคาไหม?