logo

รีวิว Garmin Venu/Venu 2: สมาร์ทวอทช์จอสวย ฟังก์ชันสุขภาพแน่น ราคาเท่าไหร่?

user avatar
เกศรินทร์ รัตนเสถียร·06/28/2025T04:02Z
点赞
รีวิว Garmin Venu/Venu 2: สมาร์ทวอทช์จอสวย ฟังก์ชันสุขภาพแน่น ราคาเท่าไหร่?

มาแล้วววว! ใครเป็นสายรักสุขภาพแต่ก็ยังอยากได้แกดเจ็ตสวยๆ ไว้ใส่ออกกำลังกายแบบเก๋ๆ หรือใส่ไปทำงานก็ไม่เขิน ไม่ต้องทำตัวลับๆ ล่อๆ วันนี้เรามีของดีมารีวิวให้ฟังแบบถึงพริกถึงขิง นั่นก็คือ Garmin Venu และรุ่นอัปเกรดอย่าง Garmin Venu 2 ที่เค้าว่ากันว่าจอสวยมงลง ฟังก์ชันแน่นยิ่งกว่าตู้เสื้อผ้า แต่ราคานี่สิ...จะจุกเหมือนโดนต่อยท้อง หรือสบายกระเป๋าเหมือนเก็บเงินได้?! มาหาคำตอบไปพร้อมๆ กันเลย!


1. ภาพรวมผลิตภัณฑ์: รู้จัก Garmin Venu/Venu 2 แบบคร่าวๆ ก่อน

สองพี่น้องตระกูล Venu จาก Garmin ที่เน้นตอบโจทย์คนยุคใหม่ที่ชีวิตไม่ได้มีแค่วิ่งๆ ปั่นๆ แต่ยังต้องการนาฬิกาคู่ใจที่ใส่ได้ทุกวัน ดูดีทุกโอกาส แถมยังอัดแน่นฟังก์ชันสุขภาพมาให้แบบไม่กั๊ก

แบรนด์: Garmin (เจ้าพ่อวงการ GPS และนาฬิกาสายสปอร์ต)

รุ่น: Venu (รุ่นแรก), Venu 2 Series (มี Venu 2, Venu 2S, Venu 2 Plus)

ปีที่เปิดตัว: Garmin Venu รุ่นแรกเปิดตัวช่วงปลายปี 2019 ส่วน Venu 2 Series เปิดตัวปี 2021

ช่วงราคา: Garmin Venu รุ่นแรกเคยเปิดตัวที่ประมาณ 12,100 บาท ส่วน Venu 2 Series ราคาเปิดตัวประมาณ 13,690 บาท (ราคาปัจจุบันอาจแตกต่างกันไปตามโปรโมชั่นและช่องทางการขาย)

ตำแหน่งในตลาด: อยู่ในกลุ่มสมาร์ทวอทช์ระดับกลางถึงสูง ที่เน้นทั้งดีไซน์สวยงาม หน้าจอ AMOLED และฟังก์ชันสุขภาพ/ออกกำลังกายที่จริงจัง เหมาะกับคนที่อยากได้นาฬิกาที่จบครบในเรือนเดียว ใส่ได้ในชีวิตประจำวันและตอนออกกำลังกาย

จุดเด่นหลักๆ (ของ Venu 2 Series):

  • จอ AMOLED สีสด สวยคมชัด: เห็นข้อมูลชัดเจน แม้อยู่กลางแดดเปรี้ยงๆ
  • ฟังก์ชันสุขภาพแน่นๆ: วัดหัวใจ, ออกซิเจนในเลือด (Pulse Ox), ติดตามการนอนแบบละเอียดพร้อมคะแนน, Body Battery, ติดตามความเครียด, อายุสุขภาพ (Fitness Age) และอื่นๆ อีกเพียบ!
  • โหมดออกกำลังกายเยอะจุใจ: มีให้เลือกกว่า 25 แบบ ทั้งวิ่ง, ปั่น, ว่ายน้ำ, โยคะ, HIIT พร้อมภาพอนิเมชันสอนท่าบนข้อมือ!
  • แบตเตอรี่อึดขึ้นเยอะ: Venu 2 ใช้ได้สูงสุด 11 วัน ส่วน Venu 2S ได้สูงสุด 10 วันในโหมดสมาร์ทวอทช์
  • Garmin Pay + Rabbit Card: แตะจ่ายเงิน/ขึ้นรถไฟฟ้า BTS ได้สะดวกสุดๆ (เฉพาะรุ่นที่รองรับและในไทย)

2. ดีไซน์ & รูปลักษณ์ภายนอก: สวยหรู ดูสปอร์ต ลงตัวสุดๆ

ดีไซน์ของ Garmin Venu และ Venu 2 Series มาในทรงกลมสุดคลาสสิก ใส่ได้ทั้งชายและหญิง ดูไม่เทอะทะเกินไป ตัวเรือน Venu 2 Series ขอบเป็นสแตนเลสสตีล แข็งแรงทนทาน ส่วนหน้าจอใช้กระจก Gorilla Glass 3 กันรอยขีดข่วนได้ดีในระดับหนึ่ง

ขนาดและน้ำหนัก:

  • Venu 2: หน้าปัด 45 มม., น้ำหนัก 49 กรัม (เหมาะกับข้อมือปกติ-ใหญ่)
  • Venu 2S: หน้าปัด 40 มม., น้ำหนัก 38.2 กรัม (เหมาะกับข้อมือเล็ก-ผู้หญิง)
  • Venu (รุ่นแรก): หน้าปัด 43 มม.

เห็นน้ำหนักแค่นี้ เบาหวิว ใส่ติดข้อมือได้ทั้งวันทั้งคืนแบบไม่รำคาญเลยจ้า

สีที่มีให้เลือก: มีหลายสีให้เลือกตามสไตล์ ทั้งสีดำ, สีน้ำเงิน, สีขาว, สีทอง, สีเทา (แล้วแต่รุ่นย่อย)

อุปกรณ์เสริมในกล่อง: หลักๆ ก็จะมีตัวนาฬิกา, สายชาร์จ/สายดาต้า, และคู่มือการใช้งาน


3. ประสบการณ์ในการใช้งานฟังก์ชันหลัก: จอสวย ฟังก์ชันจัดเต็ม!

ทีเด็ดของรุ่นนี้คือ หน้าจอ AMOLED นี่แหละ! สีสันสดใส ดูแล้วสบายตามากๆ ข้อมูลต่างๆ บนหน้าจอคมชัด อ่านง่าย ไม่ต้องเพ่งจนปวดตาเลย ยิ่งเวลาออกกำลังกายกลางแดด หน้าจอก็ยังสู้แสงได้ดี แถมยังเปิดโหมด Always-On Display ไว้ดูเวลาได้ตลอดก็ได้นะ (แต่แบตอาจจะหมดไวขึ้นนิดนึง)

ฟังก์ชันสุขภาพนี่คือจัดเต็มมากๆ วัดได้แทบทุกอย่างที่ร่างกายเราส่งสัญญาณมา ไม่ว่าจะเป็น:

  • อัตราการเต้นของหัวใจ: วัดได้ตลอด 24 ชั่วโมง แม่นยำขึ้นด้วยเซ็นเซอร์ Elevate V4 ใน Venu 2 Series
  • วัดออกซิเจนในเลือด (Pulse Ox): สำคัญมากสำหรับสายปีนเขา หรือคนที่อยากรู้คุณภาพการหายใจของตัวเอง
  • Body Battery: เหมือนเป็นมาตรวัดพลังงานในร่างกาย บอกได้ว่าเรามีพลังพร้อมลุยแค่ไหน หรือควรพักแล้วนะ
  • ติดตามการนอน: บอกได้ละเอียดว่าหลับลึกแค่ไหน หลับฝันกี่ชั่วโมง มีคะแนนการนอนให้ด้วย!
  • ติดตามความเครียด: วัดได้ตลอดวัน พร้อมแนะนำให้พักผ่อนเมื่อเครียดเกินไป
  • Fitness Age: วัดอายุสุขภาพของเรา เปรียบเทียบกับอายุจริง เพื่อกระตุ้นให้เราฟิตขึ้น!

ส่วนโหมดออกกำลังกายก็มีให้เลือกเยอะจนตาลาย จะวิ่ง, ปั่น, ว่ายน้ำ, โยคะ, พิลาทิส หรือแม้แต่ HIIT ก็มี! ที่เจ๋งคือมีภาพอนิเมชันบอกท่าออกกำลังกายบนหน้าปัดนาฬิกาด้วย! สะดวกสุดๆ ไม่ต้องงงว่าท่านี้ทำยังไง


4. ประสบการณ์การใช้งาน & ความง่ายในการใช้: ใช้ง่าย มีภาษาไทย!

การใช้งาน Garmin Venu/Venu 2 Series ถือว่าค่อนข้างง่าย หน้าจอเป็นระบบสัมผัส ตอบสนองไวดี เมนูต่างๆ จัดวางเป็นระเบียบ หาฟังก์ชันที่ต้องการได้ไม่ยาก

ระบบซอฟต์แวร์ (Garmin Connect) บนมือถือก็ใช้งานง่ายมากๆ เชื่อมต่อนาฬิกาแล้วดูข้อมูลสุขภาพและกิจกรรมของเราได้แบบละเอียด จะตั้งค่า ปรับเปลี่ยนหน้าปัด หรือดาวน์โหลดโหมดออกกำลังกายเพิ่มก็ได้ ที่สำคัญคือ รองรับภาษาไทยเต็มรูปแบบ! การแจ้งเตือนจากไลน์ เฟซบุ๊ก หรือแอปอื่นๆ ก็อ่านภาษาไทยได้ปกติ ไม่มีปัญหาสระลอย ตอบข้อความด่วนเป็นภาษาไทยก็ได้ (สำหรับ Android)

ตอนใส่ก็สบายมากๆ ด้วยวัสดุซิลิโคน น้ำหนักเบา ใส่ติดข้อมือได้ทั้งวันทั้งคืน ไม่ร้อน ไม่คัน


5. แบตเตอรี่ / พลังงาน / ความคุ้มค่าในระยะยาว: อึดขึ้นเยอะ คุ้มมั้ย?

แบตเตอรี่เป็นอีกจุดที่ Venu 2 Series ทำได้ดีขึ้นกว่ารุ่นแรกเยอะมากๆ Venu 2 ใช้ได้สูงสุดถึง 11 วัน และ Venu 2S ใช้ได้สูงสุด 10 วันในโหมดสมาร์ทวอทช์ปกติ ถ้าเปิด GPS ต่อเนื่องตอนออกกำลังกาย Venu 2 ได้ประมาณ 22 ชั่วโมง ส่วน Venu 2S ได้ประมาณ 19 ชั่วโมง เรียกว่าใส่ออกกำลังกายพร้อมเปิด GPS ได้ยาวๆ ไม่ต้องกลัวแบตหมดกลางทาง

รองรับการชาร์จเร็วด้วยนะ ชาร์จแค่ 10 นาที ก็ใช้ในโหมดสมาร์ทวอทช์ได้ 1 วัน หรือเปิด GPS ได้ 1 ชั่วโมง สะดวกสุดๆ ในวันที่รีบๆ

ในระยะยาว สายนาฬิกาสามารถหาซื้อเปลี่ยนได้ง่าย มีให้เลือกหลายแบบ ส่วนแบตเตอรี่ถ้าเสื่อมก็สามารถเปลี่ยนได้ มีร้านที่รับเปลี่ยนแบตเตอรี่ Garmin Venu 2 อยู่

เมื่อเทียบกับราคาเปิดตัวที่หมื่นต้นๆ กับฟังก์ชันสุขภาพที่แน่นมากๆ หน้าจอสวยงาม และแบตเตอรี่ที่อึดขึ้น ถือว่า Garmin Venu 2 Series เป็นตัวเลือกที่ ค่อนข้างคุ้มค่า เลยนะ โดยเฉพาะถ้าคุณเป็นคนที่เน้นเรื่องสุขภาพและการออกกำลังกายที่หลากหลาย และอยากได้นาฬิกาที่ใส่ได้ทุกวันจริงๆ


6. ข้อดี-ข้อเสีย: มีอะไรที่ต้องรู้ก่อนตัดสินใจ?

ข้อดีที่คนไทยน่าจะเลิฟๆ:

  • จอ AMOLED สวยมาก: สีสด คมชัด ดูแล้วสบายตาจริงๆ
  • ฟังก์ชันสุขภาพครบสุดๆ: เหมือนมีผู้ช่วยดูแลสุขภาพติดข้อมือตลอดเวลา
  • แบตเตอรี่อึดหายห่วง: ใช้ได้หลายวัน ไม่ต้องชาร์จบ่อย
  • รองรับภาษาไทยเต็มรูปแบบ: อ่าน/ตอบข้อความภาษาไทยได้สบาย
  • Garmin Pay + Rabbit Card: ฟังก์ชันนี้คือสะดวกมากสำหรับคนเดินทางด้วย BTS

ข้อเสียที่อาจทำให้ลังเล:

  • ราคาสูงกว่าสมาร์ทวอทช์ทั่วไป: อยู่ในระดับหมื่นต้นๆ ซึ่งก็ต้องพิจารณางบประมาณ
  • บางคนอาจจะรู้สึกว่าวัสดุตัวเรือนยังดูเป็นพลาสติกไปนิด (ใน Venu 2) แม้ขอบจะเป็นสแตนเลส (แต่ Venu 2 Plus ขอบเป็นสแตนเลสสตีลและดูพรีเมียมขึ้น)
  • หน้าจอ Always On ทำให้แบตหมดไว: ถ้าอยากให้แบตอึดสุดๆ อาจจะต้องปิดฟังก์ชันนี้

7. เหมาะกับใคร & คำแนะนำในการซื้อ: ซื้อเลยดีมั้ย?

Garmin Venu/Venu 2 Series เหมาะกับ:

  • สายสุขภาพตัวจริง: ที่ต้องการติดตามข้อมูลร่างกายแบบละเอียด ไม่ว่าจะเป็นการนอน, ความเครียด, ออกซิเจนในเลือด
  • คนที่ออกกำลังกายหลากหลาย: ไม่ได้เน้นแค่วิ่งอย่างเดียว แต่อาจจะมีเข้ายิม, โยคะ, ว่ายน้ำ สลับกันไป
  • คนที่มองหาสมาร์ทวอทช์ที่ใส่ได้ทุกวัน: ทั้งตอนออกกำลังกาย ไปทำงาน หรือไปเที่ยว ดีไซน์สวย ไม่ดูเป็นนาฬิกากีฬาจ๋าเกินไป
  • คนที่เดินทางด้วย BTS บ่อยๆ: ฟังก์ชัน Garmin x Rabbit Card คือตอบโจทย์มากๆ

ถ้าคุณเข้าข่ายกลุ่มเหล่านี้ แล้วมีงบประมาณถึงระดับหมื่นต้นๆ น่าซื้อมากๆ เลยค่ะ!

คำแนะนำในการซื้อ:

ถ้าไม่ได้รีบมาก แนะนำให้รอช่วงโปรโมชั่นใหญ่ๆ เช่น Double Day (เลขเบิ้ล) ของ Lazada หรือ Shopee อาจจะได้ส่วนลดพิเศษ, โค้ดลดเพิ่ม, หรือของแถมที่คุ้มค่ากว่าเดิม ลองเช็กราคาหลายๆ ร้านเปรียบเทียบกันก่อนตัดสินใจด้วยนะ บางทีร้านค้าอย่างเป็นทางการก็มีโปรโมชั่นเด็ดๆ


8. เปรียบเทียบกับสินค้าคล้ายๆ กัน: แล้วจะเลือกรุ่นไหนดีในตระกูล Venu?

ถ้าเทียบกันเองในตระกูล Venu (ไม่นับ Venu 3 Series ที่ใหม่กว่า):

  • Garmin Venu (รุ่นแรก): เหมาะกับคนงบน้อย ไม่ได้ซีเรียสเรื่องแบตเตอรี่ที่อึดเท่า Venu 2 และฟังก์ชันบางอย่างอาจจะยังไม่ละเอียดเท่า แต่ก็ยังได้หน้าจอ AMOLED และฟังก์ชันพื้นฐานครบ
  • Garmin Venu 2S vs Venu 2: ฟังก์ชันเหมือนกันเป๊ะ! ต่างกันแค่ขนาดหน้าปัดและแบตเตอรี่ (Venu 2S เล็กกว่า แบตน้อยกว่านิดหน่อย) เลือกตามขนาดข้อมือได้เลย
  • Garmin Venu 2 vs Venu 2 Plus: Venu 2 Plus จะเพิ่มฟังก์ชันรับสาย/โทรออกจากนาฬิกาได้ และรองรับ Voice Assistant (ต้องเชื่อมต่อมือถือ) ดีไซน์ขอบหน้าจออาจต่างกันเล็กน้อย Venu 2 Plus ราคาจะสูงกว่า Venu 2 ถ้าฟังก์ชันโทรออกบนข้อมือสำคัญกับคุณ Venu 2 Plus ก็เป็นตัวเลือกที่ดี แต่ถ้าไม่เน้น Venu 2 ก็เพียงพอแล้ว
  • Garmin Venu SQ: รุ่นนี้ดีไซน์หน้าปัดเหลี่ยม ราคาเป็นมิตรที่สุดในตระกูล Venu ฟังก์ชันหลักๆ ยังอยู่ แต่หน้าจอไม่ใช่ AMOLED และฟังก์ชันสุขภาพอาจจะไม่ละเอียดเท่า Venu 2 Series เหมาะกับคนเริ่มต้นมากๆ

9. บริการหลังการขายและช่องทางการซื้อ: ซื้อแล้วสบายใจได้!

Garmin ในไทยมีการรับประกันสินค้าผ่านตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ โดยทั่วไปประกันจะอยู่ที่ 1-2 ปี (ขึ้นอยู่กับรุ่นและร้านค้า) มีศูนย์บริการรองรับในประเทศไทย ถ้ามีปัญหาก็สามารถส่งเคลมได้

ช่องทางการซื้อยอดนิยม:

  • ออนไลน์: Lazada, Shopee, JD Central (ถ้ายังมี), ร้านค้าออนไลน์อย่างเป็นทางการของ Garmin หรือตัวแทนจำหน่าย เช่น Banana IT, Power Buy ช่วงโปรโมชั่นลดเยอะจริงจัง แถมมีโค้ดลด, ส่งฟรี, หรือผ่อน 0% ด้วยนะ!
  • ออฟไลน์: ร้านค้า Gadget, ร้านอุปกรณ์กีฬา, ห้างสรรพสินค้าแผนกนาฬิกา บางร้านมีโปรโมชั่นผ่อนร่วมกับบัตรเครดิต

ซื้อออนไลน์สะดวกมากๆ บางร้านส่งไววันเดียวถึง (ในพื้นที่กรุงเทพฯ)


10. บทสรุปและคำแนะนำในการซื้อ: ฟันธง!

จากที่รีวิวมาทั้งหมด ถ้าคุณกำลังมองหาสมาร์ทวอทช์ที่ จอสวยระดับพรีเมียม ฟังก์ชันสุขภาพแน่นๆ แบบละเอียด มีโหมดออกกำลังกายครบครัน แบตเตอรี่อึดพอตัว รองรับภาษาไทย และใช้แตะจ่ายเงิน/ขึ้น BTS ได้สะดวก

Garmin Venu 2 หรือ Venu 2S คือตัวเลือกที่ "ควรซื้อ" เลยค่ะ! เป็นนาฬิกาที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพและต้องการความสะดวกสบายในชีวิตประจำวันมากๆ

คำแนะนำเพิ่มเติม:

  • สำหรับคนเน้นความคุ้มค่าเริ่มต้น: ถ้าเพิ่งเริ่มเข้าวงการสมาร์ทวอทช์ หรือมีงบจำกัดจริงๆ ลองดู Garmin Venu SQ เป็นตัวเลือกได้
  • สำหรับคนอยากได้ฟังก์ชันโทรออกบนข้อมือ: ขยับไป Venu 2 Plus เลย จบ!

แต่ถ้าคุณเป็นสายออกกำลังกายจริงจัง เน้นวิ่งมาราธอน ไตรกีฬา หรือต้องการฟังก์ชันเชิงลึกมากๆ อาจจะต้องมองไปที่ซีรีส์ Forerunner ของ Garmin แทนนะคะ

หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจช้อปนาฬิกาเรือนใหม่กันนะคะ! มีคำถามอะไรอีก คอมเมนต์มาคุยกันได้เลยจ้า!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

บทความล่าสุดดูเพิ่มเติม

กำลังมองหาที่พักในเชียงใหม่ที่เดินทางสะดวกสบาย อยู่ใจกลางเมืองเก่า และราคาดีอยู่ใช่ไหม? โรงแรมรอยัล พรรณราย เชียงใหม่ อาจเป็นคำตอบที่คุณตามหา! ในบทความนี้ เราจะพาคุณเจาะลึกทุกซอกทุกมุมของโรงแรมแห่งนี้ ตั้งแต่ห้องพัก สิ่งอำนวยความสะดวก ไปจนถ
รีวิวโรงแรม รอยัล พรรณราย เชียงใหม่ ที่พักใจกลางเมืองเก่า เดินทางสะดวก
กำลังมองหาทีวีใหม่ที่ให้ภาพสวยคมชัด เสียงกระหึ่มเหมือนโรงหนัง แต่ราคาไม่แรงเกินไปอยู่ใช่ไหม? วันนี้เราจะพาทุกคนไปเจาะลึก LG 55SK8000PTA ทีวี 4K Super UHD ที่มาพร้อมเทคโนโลยี Nano Cell Display อันเป็นเอกลักษณ์ของ LG ที่เคยสร้างความฮือฮาเมื่อ
รีวิวทีวี LG 55SK8000PTA Nano Cell Display 4K ภาพสวยเสียงดี คุ้มค่ามั้ย
เบื่อไหมกับใต้ตาคล้ำเป็นหมีแพนด้า? นอนดึกตาบวมจนเพื่อนทัก? ถ้าคุณกำลังมองหาตัวช่วยกอบกู้ใต้ตาให้กลับมาสดใส มีชีวิตชีวาอีกครั้ง บทความนี้มีคำตอบ! วันนี้เราจะพามารีวิวเจาะลึก Origins Ginzing Eye Cream อายครีมตัวดังที่ใครๆ ก็พูดถึง ว่าจะช่วยลด
รีวิว Origins Ginzing Eye Cream อายครีมลดบวมและความหมองคล้ำรอบดวงตา

บทความยอดนิยม

บทความที่แนะนำ

รีวิว Garmin Venu/Venu 2: สมาร์ทวอทช์จอสวย ฟังก์ชันสุขภาพแน่น ราคาเท่าไหร่? - Thaihomeshopping