Corsair Void Pro RGB Wireless รีวิว: หูฟังเกมมิ่งไร้สาย เสียงดี ใส่สบาย

ชาวเกมเมอร์ทั้งหลาย! เคยไหม... เล่นเกมเพลินๆ แล้วสายหูฟังพันกันยุ่งเป็นรังนก หรือบางทีลุกไปหยิบน้ำแป๊บเดียว เสียงจากเกมขาดช่วง อารมณ์เสียไปหมด! ถ้าใครเคยเจอปัญหานี้ วันนี้เรามีฮีโร่มาแนะนำ นั่นก็คือ Corsair Void Pro RGB Wireless หูฟังเกมมิ่งไร้สายที่เค้าว่ากันว่าเสียงดี ใส่สบาย แถมมีไฟ RGB วิบวับตามสไตล์เกมมิ่งเกียร์! มันจะเจ๋งจริงสมคำร่ำลือมั้ย? เหมาะกับกระเป๋าตังค์เราช่วงปลายเดือนหรือเปล่า? ไปเจาะลึกพร้อมกันเลย!

1. ภาพรวมผลิตภัณฑ์: รู้จัก Corsair Void Pro RGB Wireless กันหน่อย

แบรนด์: Corsair
รุ่น: Void Pro RGB Wireless
ปีที่วางขาย: เปิดตัวมาสักพักใหญ่ๆ แล้ว (ประมาณปี 2017) แต่ยังคงเป็นรุ่นยอดนิยมอยู่
ช่วงราคา: ตอนเปิดตัวแรงหน่อย แต่ตอนนี้หาซื้อได้ในราคาเป็นมิตรขึ้นเยอะ ประมาณ 3,xxx - 4,xxx บาท แล้วแต่โปรโมชั่นและร้านค้า

ตำแหน่งในตลาด: จัดว่าเป็นหูฟังเกมมิ่งไร้สายระดับกลาง ที่เน้นความคุ้มค่า ฟังก์ชันครบ เหมาะสำหรับเกมเมอร์ที่อยากอัปเกรดจากหูฟังมีสาย

จุดเด่นหลักๆ ที่เคลมมา:

• ไร้สาย! อิสระภาพที่แท้ทรู เดินไปเข้าห้องน้ำเสียงไม่ขาด
• เสียงดี ด้วยไดรเวอร์ 50 มม. และรองรับ Dolby Headphone 7.1 Surround Sound
• ใส่สบาย ฟองน้ำนุ่ม ระบายอากาศดี ใส่ได้นานๆ ไม่ร้อนหู
• ไมค์ชัด ตัดเสียงรบกวนได้ดี สื่อสารกับเพื่อนร่วมทีมรู้เรื่อง
• ไฟ RGB เพิ่มความสวยงาม ปรับแต่งได้ตามใจ

2. ดีไซน์ & รูปลักษณ์ภายนอก: เหลี่ยมๆ แต่นั่งสบาย

ดีไซน์ของตระกูล Void Pro นี่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวเลย มาแนวเหลี่ยมๆ มุมเยอะหน่อย ไม่ได้กลมมนเหมือนชาวบ้านเค้า แต่พอเห็นแล้วรู้เลยว่านี่แหละ Corsair!

การออกแบบ: ออกแบบมาดูแข็งแรง มีความ Gaming Gear เต็มตัว วัสดุส่วนใหญ่เป็นพลาสติกแข็ง แต่ดูทนทานใช้ได้ มีโลโก้ Corsair ที่ Earcup ทั้งสองข้าง ซึ่งตรงนี้แหละคือจุดที่ไฟ RGB จะส่องประกาย

ขนาดและน้ำหนัก: ตัวหูฟังขนาดค่อนข้างใหญ่ ครอบหูได้มิด ส่วนน้ำหนักก็กำลังดี ไม่ได้เบาหวิว แต่ก็ไม่ถึงกับหนักจนเมื่อยคอ ใส่ได้นานๆ น้ำหนักประมาณ 390 กรัม

สีที่มีให้เลือก: มีทั้งสีดำคลาสสิก และสีขาวคลีนๆ บางทีมีรุ่นพิเศษสีเหลือง SE ด้วยนะ

ความสะดวกในการพกพา: ด้วยความที่ขนาดค่อนข้างใหญ่และดีไซน์ไม่ได้พับเก็บได้เล็กๆ น้อยๆ รุ่นนี้อาจจะไม่เหมาะกับการพกพาไปนอกบ้านเท่าไหร่ แต่ถ้าใช้ในบ้าน ย้ายจากห้องคอมไปห้องนั่งเล่น อันนี้สบายมาก

อุปกรณ์เสริมในกล่อง: หลักๆ ก็มีตัวหูฟัง, ตัวรับสัญญาณไร้สาย USB (USB Dongle), สายชาร์จ Micro USB, คู่มือ, และใบรับประกัน

3. ประสบการณ์ในการใช้งานฟังก์ชันหลัก: เสียงแน่น ไมค์แจ่ม?

มาถึงเรื่องสำคัญ! หูฟังเกมมิ่งก็ต้องดูที่เสียงกับไมค์นี่แหละ

คุณภาพเสียง: เสียงของ Corsair Void Pro RGB Wireless จัดว่าดีใช้ได้เลยสำหรับหูฟังเกมมิ่งไร้สายในช่วงราคานี้ ไดรเวอร์ขนาด 50 มม. ให้เสียงที่ดังฟังชัด เสียงเบสอาจจะไม่ได้กระหึ่มจนบ้านสั่น แต่ก็มีพอให้รู้สึกถึงแรงปะทะในเกมได้ดี จุดเด่นคือระบบเสียง Dolby Headphone 7.1 Surround Sound ที่ช่วยให้ระบุทิศทางเสียงในเกมได้ค่อนข้างแม่นยำ เหมาะมากกับเกมแนว FPS ที่ต้องฟังเสียงฝีเท้า หรือเกม Open World ที่ต้องการบรรยากาศสมจริง

ไมโครโฟน: ตัวไมค์เป็นแบบ Unidirectional (รับเสียงจากทิศทางเดียว) พร้อมระบบตัดเสียงรบกวน เท่าที่ลองใช้คุย Discord กับเพื่อน เสียงพูดชัดเจนดี เพื่อนบอกว่าฟังง่าย มีไฟ LED เล็กๆ ที่ปลายไมค์ บอกสถานะว่าเปิดหรือปิดไมค์อยู่ สะดวกมากเวลาอยากแอบนินทาเพื่อนร่วมทีม (ล้อเล่นนะ!) แค่พับไมค์ขึ้นก็ปิดเสียงได้ทันที

ประสิทธิภาพไร้สาย: ใช้การเชื่อมต่อแบบ 2.4 GHz Wireless สัญญาณค่อนข้างเสถียร ระยะทำการไกลใช้ได้ เดินไปหยิบขนมหน้าห้องก็ยังไม่หลุด เล่นเกมยิงยาวๆ สบายใจได้ ไม่มีดีเลย์มากวนใจ

ไฟ RGB: แน่นอนว่าขาดไม่ได้! ไฟ RGB ตรงโลโก้ Corsair ปรับแต่งสีและเอฟเฟกต์ได้หลากหลายผ่านซอฟต์แวร์ iCUE จะให้กระพริบเป็นจังหวะเพลง หรือไล่สีรุ้ง ก็จัดไป! เพิ่มความเท่ให้มุมคอมได้อีกเยอะ

4. ประสบการณ์การใช้งาน & ความง่ายในการใช้: เสียบปุ๊บ ใช้ได้ปั๊บ?

เรื่องความง่ายในการใช้งาน ถือว่าทำได้ดีเลย

ความง่ายในการติดตั้ง: แค่เสียบตัวรับสัญญาณ USB เข้ากับคอมพิวเตอร์ Windows ก็ใช้งานได้เลย ไม่ต้องลงไดรเวอร์อะไรวุ่นวาย แต่ถ้าอยากปรับตั้งค่าต่างๆ หรือใช้ฟังก์ชัน Dolby 7.1 ต้องลงซอฟต์แวร์ Corsair Utility Engine (iCUE) เพิ่มเติม

ซอฟต์แวร์ iCUE: เป็นหัวใจหลักในการปรับแต่งหูฟังตัวนี้เลย ในโปรแกรมมีครบ ทั้งปรับ EQ เสียง, ตั้งค่าไฟ RGB, เปิด/ปิดระบบ 7.1 Surround, ปรับระดับเสียงไมค์ และ Sidetone (ฟังเสียงตัวเอง) หน้าตาโปรแกรมอาจจะดูซับซ้อนนิดหน่อยสำหรับมือใหม่ แต่ลองเล่นไปสักพักก็จะเริ่มคุ้นเคย

ความสบายในการสวมใส่: จุดนี้เป็นอีกหนึ่งข้อดีที่หลายคนชอบ! ตัว Earcup เป็นทรงข้าวหลามตัด (Rhombus) บุด้วยเมมโมรี่โฟมและหุ้มด้วยผ้าตาข่ายระบายอากาศ ทำให้ใส่ได้นานๆ ไม่อับ ไม่ร้อนหู แถบคาดศีรษะก็บุมานุ่มสบาย ไม่กดทับ แม้ตัวหูฟังจะดูใหญ่ แต่ Corsair ออกแบบให้มันบาลานซ์น้ำหนักได้ดี ทำให้ใส่แล้วไม่รู้สึกถ่วงหัว แต่อาจจะต้องลองปรับตำแหน่งการคาดหัวนิดหน่อยให้เข้าที่

ปุ่มควบคุมบนหูฟัง: ปุ่มต่างๆ ส่วนใหญ่อยู่ที่ Earcup ข้างซ้าย มีปุ่ม Power, ปุ่ม Mute ไมค์ และปุ่มปรับระดับเสียงแบบโยกขึ้นลง ตัวปุ่มปรับเสียง ถ้ากดลงไปจะเป็นการเปลี่ยน EQ Preset และถ้ากดค้างไว้จะเป็นการเปิด/ปิด Dolby 7.1 Surround Sound ใช้งานง่าย สะดวก ไม่ต้องคลำหาให้วุ่นวาย

การรองรับ: ออกแบบมาหลักๆ สำหรับใช้งานกับ PC บน Windows รองรับ Windows 7, 8, 10 ไม่ได้รองรับการเชื่อมต่อแบบ 3.5mm หรือใช้งานกับคอนโซลอย่าง Xbox One โดยตรง (นอกจากรุ่น Surround)

5. แบตเตอรี่ / พลังงาน / ความคุ้มค่าในระยะยาว: ชาร์จที เล่นได้ยาวแค่ไหน?

หูฟังไร้สาย แบตเตอรี่คือหัวใจหลัก!

ระยะเวลาการใช้งาน: Corsair เคลมว่าใช้งานได้สูงสุด 16 ชั่วโมงต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ซึ่งจากการใช้งานจริงก็ใกล้เคียงตามนั้นเลย เล่นเกมยาวๆ ทั้งวันสบายๆ

ความเร็วในการชาร์จ: ชาร์จผ่านพอร์ต Micro USB (อันนี้อาจจะดูล้าสมัยไปหน่อยสำหรับยุคนี้ที่ Type-C มาแรง) ความเร็วในการชาร์จก็ทั่วๆ ไป ไม่ได้เร็วเวอร์ แต่ก็ไม่ได้ช้าจนน่าหงุดหงิด

ค่าใช้จ่ายระยะยาว: โดยทั่วไปหูฟังเกมมิ่งอายุการใช้งานค่อนข้างนาน ส่วนที่อาจจะต้องเปลี่ยนในอนาคตก็คือฟองน้ำ Earcup ซึ่งเป็นเรื่องปกติ สามารถหาซื้ออะไหล่เปลี่ยนได้ไม่ยาก

วิเคราะห์ความคุ้มค่า: เมื่อเทียบกับราคาตอนนี้นี่ถือว่า คุ้มค่ามากๆ ในราคาไม่ถึง 4 พัน ได้หูฟังไร้สายแบรนด์ดัง ฟังก์ชันครบ เสียงดี ใส่สบาย มีไฟ RGB ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับเกมเมอร์งบกลางๆ

6. สรุปข้อดี-ข้อเสีย: อะไรที่ทำให้รัก อะไรที่ทำให้ลังเล?

มาดูกันชัดๆ แบบฟันธงไปเลย!

ข้อดี:

• ไร้สาย! อิสระในการเล่นเกมสุดๆ
• ใส่สบายมาก ใส่นานๆ ไม่เมื่อย ไม่ร้อนหู
• เสียงดี โดยเฉพาะระบบ 7.1 Surround ที่ช่วยระบุทิศทางเสียงในเกมได้ดี
• ไมค์ชัดเจน คุยกับเพื่อนร่วมทีมรู้เรื่อง ตัดเสียงรบกวนใช้ได้
• แบตเตอรี่อึด ใช้งานได้ยาวนานต่อการชาร์จ
• ราคาคุ้มค่า เมื่อเทียบกับฟังก์ชันและคุณภาพที่ได้ในช่วงราคานี้
• ไฟ RGB เท่ๆ ปรับแต่งได้ตามสไตล์

ข้อเสีย:

• การเชื่อมต่อเป็น Micro USB ดูล้าสมัยไปหน่อย
• ไม่สามารถใช้งานแบบมีสายได้ ถ้าแบตหมดคือจบเห่!
• ซอฟต์แวร์ iCUE อาจจะซับซ้อนนิดๆ สำหรับมือใหม่
• ดีไซน์เหลี่ยมๆ บางคนอาจจะไม่ชอบ
• ไมค์ไม่ได้ถอดออกได้ ทำให้พกพาลำบากขึ้นหน่อย

7. เหมาะกับใคร & คำแนะนำในการซื้อ: ใครควรสอย ใครควรรอ?

เหมาะกับ:

• เกมเมอร์ PC ที่ต้องการหูฟังไร้สายคุณภาพดี ไม่ติดสายรุงรัง
• คนที่ชอบเล่นเกมแนว FPS หรือ Open World ที่เน้นเรื่องทิศทางเสียงและบรรยากาศ
• คนที่ให้ความสำคัญกับความสบายในการสวมใส่ เพราะรุ่นนี้ใส่สบายจริงจัง
• คนที่อยากได้ Gaming Gear มีไฟ RGB มาประดับโต๊ะคอม
• คนที่มองหาหูฟังไร้สายงบประมาณกลางๆ ที่คุ้มค่าคุ้มราคา

คำแนะนำในการซื้อ:

ถ้าคุณเข้าข่ายตามด้านบน แล้วกำลังมองหาหูฟังเกมมิ่งไร้สายดีๆ สักตัว ในงบประมาณประมาณนี้ จัดเลยครับไม่ผิดหวัง! โดยเฉพาะถ้าเจอช่วงมีโปรโมชั่นตามร้านค้าออนไลน์ต่างๆ นี่คือคุ้มสุดๆ ราคาจะดีกว่าหน้าร้านพอสมควร

8. เปรียบเทียบกับสินค้าคล้ายๆ กัน (เลือกใส่ก็ได้): ใครคือคู่แข่ง?

ในตลาดหูฟังเกมมิ่งไร้สายช่วงราคาใกล้เคียงกัน ก็มีคู่แข่งหลายเจ้า เช่น Logitech G533, HyperX Cloud Flight อะไรพวกนี้ ซึ่งแต่ละตัวก็มีข้อดีข้อเสียต่างกันไป

• เทียบกับ Logitech G533: G533 อาจจะมีเสียง default ที่ฟังดูดีกว่านิดหน่อย แต่ Corsair Void Pro RGB Wireless จะได้เรื่องความสบายในการสวมใส่, ไมค์ที่ดีกว่า, และงานประกอบที่รู้สึกแข็งแรงกว่า
• เทียบกับ HyperX Cloud Flight: Cloud Flight ก็เด่นเรื่องความสบายและแบตเตอรี่ที่อึดมากๆ แต่เรื่องคุณภาพเสียงและฟังก์ชันเสริมอื่นๆ อาจจะไม่ได้โดดเด่นเท่า Corsair Void Pro

สรุปคือ ถ้าเน้นความสบาย ฟังก์ชันครบ และเสียงรอบทิศทางที่ดีในราคาที่เข้าถึงง่าย Corsair Void Pro RGB Wireless ก็ยังเป็นตัวเลือกที่แข็งแกร่งมากๆ ครับ

9. บริการหลังการขายและช่องทางการซื้อ: ซื้อที่ไหนดี?

Corsair เป็นแบรนด์ที่มีตัวแทนจำหน่ายในไทย ดังนั้นเรื่องบริการหลังการขายหายห่วงครับ

การรับประกัน: โดยทั่วไปจะมีการรับประกันจากตัวแทนจำหน่ายในไทยประมาณ 2 ปี สามารถส่งเคลมผ่านศูนย์บริการได้

ช่องทางการซื้อ: หาซื้อได้ง่ายมากๆ ทั้งร้านค้าออนไลน์ยอดนิยมอย่าง Lazada, Shopee และร้านค้าอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ชั้นนำทั่วไป รวมถึงร้านค้าออนไลน์อย่างเป็นทางการของแบรนด์หรือตัวแทนจำหน่าย

โปรโมชั่นและส่วนลด: แนะนำให้ติดตามช่วงเทศกาลลดราคาต่างๆ เช่น Mid Year Sale, 11.11, 12.12 หรือโปรโมชั่นจากร้านค้าโดยตรง มักจะมีโค้ดส่วนลด, คูปองส่งฟรี, หรือ Cash Back ให้เก็บ บางร้านมีตัวเลือกผ่อนชำระ 0% ด้วยนะ ราคามักจะดีกว่าซื้อหน้าร้านพอสมควรเลย

การจัดส่ง: ถ้าสั่งออนไลน์ การจัดส่งส่วนใหญ่จะรวดเร็ว โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ บางทีวันเดียวก็ถึงแล้ว ค่าจัดส่งก็แล้วแต่ร้านและโปรโมชั่นครับ

10. บทสรุปและคำแนะนำในการซื้อ: ฟันธง! ควรซื้อไหม?

หลังจากลองใช้ เจาะลึกทุกซอกทุกมุมแล้ว ขอสรุปแบบตรงไปตรงมาเลยว่า Corsair Void Pro RGB Wireless เป็นหูฟังเกมมิ่งไร้สายที่คุ้มค่ามากๆ สำหรับเกมเมอร์ PC ที่กำลังมองหาหูฟังไร้สายคุณภาพดี ฟังก์ชันครบ ใส่สบาย ในงบประมาณที่จับต้องได้

ถ้าคุณเน้นเล่นเกมเป็นหลัก โดยเฉพาะเกมที่ต้องการทิศทางเสียง ระบบ 7.1 Surround ของรุ่นนี้ช่วยได้เยอะ และถ้าคุณเป็นคนใส่หูฟังนานๆ ความสบายของ Earcup นี่คือสวรรค์เลย

แนะนำให้ซื้อเลย! โดยเฉพาะถ้าเจอโปรโมชั่นดีๆ นี่คือห้ามพลาดจริงๆ ครับ แต่ถ้าคุณเป็นคนที่ซีเรียสเรื่องคุณภาพเสียงระดับ Audiophile หรือต้องการหูฟังที่ใช้ได้ทั้งมีสายและไร้สาย หรือใช้กับคอนโซลอื่นๆ ด้วย อาจจะต้องลองพิจารณารุ่นอื่นดูครับ แต่สำหรับเกมเมอร์ทั่วไปที่เน้นความคุ้มค่าและความสบาย Corsair Void Pro RGB Wireless คือเพื่อนคู่หูในการเล่นเกมที่ไว้ใจได้แน่นอน!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• รีวิวหูฟัง Corsair VOID WIRELESS v2 เสียงดีแต่.....
• CORSAIR VOID WIRELESS V2 หูฟังเกมมิ่งระดับตำนาน ใส่สบาย ...
• Corsair Void Pro RGB USB หูฟังเกมมิ่ง 7.1 เสียงแจ่ม ราคาประหยัด ...
• รีวิว CORSAIR VOID PRO RGB : USB Gaming Headset
• Review l รีวิวCorsair Void RGB Elite หูฟังเล่นเกมส์ไร้สาย7.1 มา ...