logo

ที่นอน Omazz Organique Plus รีวิว: นุ่มสบาย ดีต่อสุขภาพการนอนจริงไหม?

user avatar
เกศรินทร์ รัตนเสถียร·06/30/2025 12:02
点赞
ที่นอน Omazz Organique Plus รีวิว: นุ่มสบาย ดีต่อสุขภาพการนอนจริงไหม?

โอ้โห...พูดถึงที่นอน หลายคนคงเคยมียามค่ำคืนที่นอนพลิกตัวไปมา หลับๆ ตื่นๆ เพราะที่นอนไม่เป็นใจใช่ไหมล่ะ? บางทีก็แข็งโป๊ก นอนแล้วปวดหลัง บางทีก็นุ่มย้วย จมหายไปเลย! แถมบางทีตื่นมาจามฟืดฟาด คันไม้คันมืออีกต่างหาก โอ๊ยยย สารพัดปัญหาจริงๆ นะคะ

วันนี้เราจะมาเจาะลึกที่นอนรุ่นนึงที่เขาว่ากันว่านุ่มสบาย แถมดีต่อสุขภาพแบบสุดๆ นั่นก็คือ "ที่นอน Omazz Organique Plus" นั่นเองค่ะ! ที่นอนตัวนี้มีดีอะไร ทำไมนอนแล้วถึงสบาย? ดีต่อสุขภาพจริงไหม? และเหมาะกับเราหรือเปล่า? ตามมาดูกันเลยจ้า!


1. ภาพรวมผลิตภัณฑ์: รู้จัก Omazz Organique Plus กันก่อน

แบรนด์ Omazz นี่เขาดังเรื่องที่นอนยางพาราคุณภาพพรีเมียมมานานแล้วนะคะ ส่วนรุ่น Organique Plus นี้ก็เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่น่าจับตา

แบรนด์: Omazz
รุ่น: Organique Plus
ช่วงราคา: อยู่ในกลุ่มราคาระดับกลาง-สูงของ Omazz

ตำแหน่งในตลาด: รุ่นนี้จัดอยู่ในกลุ่มที่นอนสปริงที่ผสมผสานกับวัสดุธรรมชาติ ให้ความรู้สึกนุ่มแน่น สมดุล เหมาะกับคนที่มองหาความสบายระดับพรีเมียม แต่ยังต้องการการรองรับที่ดี ไม่นุ่มยวบจนเกินไป

จุดเด่นคร่าวๆ:

  • ผสมผสาน Organique Foam และ Super Bonnel Coil: ให้ความนุ่มสบายพร้อมการรองรับที่สมดุล
  • ใช้วัสดุธรรมชาติ: Organique Foam สกัดจากน้ำมันพืชธรรมชาติ และใช้กาวสูตรน้ำในการประกอบ ทำให้มั่นใจเรื่องความสะอาดและบริสุทธิ์
  • ระดับความนุ่มสบาย: สมดุลลงตัว เหมาะกับคนที่ชอบที่นอนแน่นเป็นพิเศษแต่ยังมีความนุ่ม
  • เทคโนโลยี Super Bonnel Coil: สปริงรุ่นใหม่ที่พัฒนามาให้รองรับน้ำหนักได้ดี และลดการสั่นสะเทือน
  • ผ้าหุ้ม Velour นุ่มสบาย: ให้สัมผัสอ่อนโยน ไม่ระคายเคือง

2. ดีไซน์ & รูปลักษณ์ภายนอก: ดูดีมีระดับตามสไตล์ Omazz

ที่นอน Omazz Organique Plus มาพร้อมดีไซน์เรียบหรู ดูมินิมอลแต่แฝงความพรีเมียมตามแบบฉบับ Omazz ตัวที่นอนมีความหนาประมาณ 12 นิ้ว (บางข้อมูลบอก 14 นิ้ว อาจต้องเช็กอีกทีที่ร้านค่ะ) ผ้าหุ้มด้านบนเป็นแบบ Velvet-velor สัมผัสนุ่มนวล ส่วนขอบข้างเป็น Cotton Velour เคลือบสาร Sanicott ช่วยปกป้องตามธรรมชาติ

มองรวมๆ คือสวยงาม วางในห้องนอนแล้วดูดีมีสไตล์ ไม่ได้มีลวดลายฉูดฉาด แต่เน้นความเรียบง่ายที่ดูแพง

ขนาดที่มีให้เลือก: 3.5 ฟุต, 5 ฟุต, และ 6 ฟุต

ส่วนใหญ่ที่นอนพรีเมียมแบบนี้จะไม่มีอุปกรณ์เสริมจุกจิกมาให้ในกล่องค่ะ จะเน้นที่ตัวที่นอนเป็นหลัก แต่บางช่วงโปรโมชั่นอาจมีหมอนแถมมาให้บ้าง


3. ประสบการณ์ในการใช้งานฟังก์ชันหลัก: นอนแล้วรู้สึกยังไง?

มาถึงเรื่องสำคัญ! การนอนค่ะ! ที่นอน Omazz Organique Plus เขามีจุดเด่นที่การผสมผสานระหว่าง Organique Foam และ Super Bonnel Coil

Organique Foam: เป็นโฟมที่สกัดจากน้ำมันพืชธรรมชาติ มีโครงสร้างแบบรวงผึ้งและเซลล์เปิด คุณสมบัติน่าจะคล้ายๆ ยางพารา คือมีความยืดหยุ่น ช่วยกระจายแรงกดทับ และระบายอากาศได้ดี

Super Bonnel Coil: ระบบสปริงที่พัฒนามาเป็นพิเศษ ช่วยรองรับน้ำหนักในแนวตรงได้ดีและเสถียรขึ้น แถมยังช่วยลดการสั่นสะเทือนจากการพลิกตัวของคนข้างๆ ได้อีกด้วย (อันนี้ดีงามมากสำหรับคนนอนคู่!)

ฟีลลิ่งโดยรวมที่เขาเคลมและจากรีวิวบางส่วนคือ นุ่มแน่น สมดุลลงตัว นอนแล้วจะรู้สึกว่าที่นอนโอบรับสรีระอย่างนุ่มนวล แต่ก็ยังมีความแน่นที่ช่วยรองรับกระดูกสันหลังและแผ่นหลังได้ดี ไม่จมยวบจนเสียการทรงตัว ทำให้รู้สึกสบายตัว ลดอาการปวดเมื่อยได้ คือได้ทั้งความสบายแบบที่นอนยางพาราผสมกับความเด้งและการรองรับของสปริงนั่นเองค่ะ


4. ประสบการณ์การใช้งาน & ความง่ายในการใช้: วางแล้วนอนเลย สบายๆ

สำหรับที่นอน การใช้งานก็ง่ายมากๆ ค่ะ แค่แกะพลาสติกออกแล้ววางบนฐานรองที่นอนที่เหมาะสม (อันนี้สำคัญนะคะ ฐานรองดี ที่นอนก็ส่งเสริมการทำงานได้เต็มที่) ที่นอน Omazz ส่วนใหญ่จะออกแบบมาให้ไม่ต้องพลิกด้าน (Non-flip) ทำให้สะดวกในการดูแลรักษา

ความยากง่ายในการใช้งานอื่นๆ ก็แทบไม่มีเลยค่ะ ที่นอนไม่ใช่เครื่องใช้ไฟฟ้า ไม่ต้องตั้งค่าอะไร แค่วางให้เข้าที่ก็พร้อมใช้งานได้ทันที

แต่ด้วยความที่เป็นที่นอนหนา 12 นิ้ว (หรือ 14 นิ้ว) และมีน้ำหนักพอสมควร การเคลื่อนย้ายอาจจะต้องใช้แรงงานหน่อยนะคะ


5. แบตเตอรี่ / พลังงาน / ความคุ้มค่าในระยะยาว: ลงทุนเพื่อสุขภาพการนอน

ที่นอนไม่ใช่สินค้าที่ใช้พลังงานโดยตรงนะคะ แต่เรื่องความคุ้มค่าในระยะยาวเป็นสิ่งที่ต้องพิจารณาค่ะ

ราคา: อย่างที่บอกว่า Omazz Organique Plus อยู่ในกลุ่มราคาระดับกลาง-สูง ซึ่งถือเป็นการลงทุนที่ค่อนข้างสูงสำหรับที่นอน

ความทนทาน: Omazz เป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงด้านคุณภาพและใช้วัสดุพรีเมียม โดยเฉพาะยางพารา Talalay ที่เขานำมาใช้ (ถึงแม้รุ่นนี้จะเน้น Organique Foam ผสมสปริง แต่ชื่อแบรนด์ก็การันตีคุณภาพได้ระดับหนึ่ง) แถมยังมีเทคโนโลยี Super Bonnel Coil ที่พัฒนามาเพื่อความทนทาน และมีการรับประกันถึง 8 ปี ซึ่งถือว่าค่อนข้างนาน ทำให้มั่นใจได้ในระดับหนึ่งว่าที่นอนจะอยู่กับเราไปได้หลายปี

ค่าใช้จ่ายระยะยาว: นอกจากราคาซื้อแล้ว ก็มีแค่ค่าทำความสะอาดที่นอนเป็นครั้งคราวค่ะ ไม่มีค่าอะไหล่หรือซ่อมบำรุงจุกจิกเหมือนเครื่องใช้ไฟฟ้า

ความคุ้มค่า: ถ้ามองว่าเป็น "การลงทุนเพื่อสุขภาพ" ในระยะยาว ที่นอนดีๆ ช่วยให้เรานอนหลับได้เต็มที่ ตื่นมาสดชื่น ไม่มีอาการปวดเมื่อย ก็นับว่าคุ้มค่าค่ะ เมื่อเทียบกับที่นอนราคาถูกที่อาจจะต้องเปลี่ยนบ่อยๆ หรือนอนแล้วมีปัญหาตามมา การลงทุนกับที่นอนคุณภาพดีที่ใช้งานได้นานและส่งผลดีต่อสุขภาพก็อาจจะคุ้มค่ากว่าในระยะยาวค่ะ


6. ข้อดี-ข้อเสีย: มีทั้งที่ชอบและที่อาจจะต้องคิดหนัก

ไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบในโลกใบนี้ ที่นอน Omazz Organique Plus ก็เช่นกันค่ะ มาดูข้อดีข้อเสียแบบตรงไปตรงมากันเลย:

ข้อดี:

  • นุ่มแน่น สมดุล: ได้ทั้งความสบายของโฟมธรรมชาติและความเด้งของสปริง
  • รองรับสรีระได้ดี: ช่วยรักษาสมดุลกระดูกสันหลัง ลดอาการปวดเมื่อย
  • ใช้วัสดุธรรมชาติ: Organique Foam และกาวสูตรน้ำ ดีต่อสุขภาพ ลดความเสี่ยงภูมิแพ้
  • ลดแรงสั่นสะเทือน: นอนคู่แล้วพลิกตัวไม่รบกวนคนข้างๆ
  • ทนทาน มีประกันนาน: รับประกัน 8 ปี มั่นใจได้ในคุณภาพ
  • ดีไซน์สวยหรู: วางในห้องนอนแล้วดูดีมีระดับ

ข้อเสีย:

  • ราคาสูง: เป็นที่นอนระดับพรีเมียม ต้องมีงบประมาณพอสมควร
  • หนักและใหญ่: เคลื่อนย้ายยากพอสมควร
  • อาจจะไม่นุ่มพอสำหรับคนชอบนุ่มมากๆ: รุ่นนี้เน้นความแน่นเป็นพิเศษ ถ้าชอบที่นอนนุ่มแบบจมหาย อาจจะไม่ตอบโจทย์
  • หาลองยากกว่าแบรนด์ทั่วไป: อาจจะต้องไปลองที่ Showroom หรือร้านตัวแทนใหญ่ๆ ของ Omazz เท่านั้น

7. เหมาะกับใคร & คำแนะนำในการซื้อ: ใครควรเปย์ ใครควรรอดูก่อน?

ที่นอน Omazz Organique Plus เหมาะกับ:

  • คนที่กำลังมองหาที่นอนคุณภาพดีแบบลงทุนระยะยาว: ยอมจ่ายแพงหน่อยเพื่อสุขภาพการนอนที่ดี
  • คนที่ชอบที่นอนฟีลนุ่มแน่น: ไม่นุ่มยวบ แต่ก็ไม่แข็งโป๊ก มีความสมดุล
  • คนที่มีปัญหาปวดหลังหรือไม่สบายตัวกับที่นอนเดิม: การรองรับของรุ่นนี้น่าจะช่วยได้
  • คนที่มีคู่และไม่อยากให้การพลิกตัวไปมารบกวนกัน: ระบบสปริงช่วยลดการสั่นสะเทือนได้ดี
  • คนที่ให้ความสำคัญกับวัสดุธรรมชาติและสุขภาพ: Organique Foam และกาวสูตรน้ำ ตอบโจทย์

ไม่เหมาะกับ:

  • คนที่มีงบประมาณจำกัด: ราคาค่อนข้างสูง อาจจะต้องมองหารุ่นอื่นหรือแบรนด์อื่น
  • คนที่ชอบที่นอนนุ่มมากๆ แบบจมลงไปเลย: รุ่นนี้จะแน่นกว่า
  • คนที่ต้องเคลื่อนย้ายที่นอนบ่อยๆ: น้ำหนักและขนาดอาจเป็นอุปสรรค

คำแนะนำในการซื้อ:

  • ถ้าอยู่ในกลุ่มที่เหมาะ และงบประมาณถึง แนะนำให้ไปลองที่ Showroom หรือร้านตัวแทนจำหน่ายของ Omazz เลยค่ะ การลองนอนเองสำคัญที่สุด จะได้รู้ว่าฟีลลิ่งแบบนุ่มแน่นของรุ่นนี้ใช่สำหรับเราไหม
  • ควรรอช่วงโปรโมชั่น: ที่นอน Omazz มักจะมีโปรโมชั่นตามห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ หรือในร้านค้าออนไลน์ช่วงเทศกาลต่างๆ ราคาอาจจะลดลงมาได้เยอะ หรือมีของแถมคุ้มๆ
  • เช็กโปรโมชั่นผ่อนชำระ 0% กับบัตรเครดิตต่างๆ ด้วยนะคะ จะได้ช่วยแบ่งเบาภาระได้เยอะ

8. บริการหลังการขายและช่องทางการซื้อ: ซื้อที่ไหนได้บ้าง?

การรับประกัน: ที่นอน Omazz Organique Plus มีการรับประกัน 8 ปี (เฉพาะโครงสร้าง ไม่รวมผ้าหุ้ม) การรับประกันที่นานขนาดนี้แสดงถึงความมั่นใจในคุณภาพของสินค้าค่ะ

ช่องทางการซื้อ:

  • ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ: แผนกที่นอนในห้างใหญ่ๆ มักจะมีเคาน์เตอร์ Omazz ให้ไปลองนอนและสอบถามได้
  • Showroom Omazz โดยเฉพาะ: มี Showroom หลายที่ในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด การไป Showroom จะมีตัวเลือกเยอะกว่าและพนักงานให้ข้อมูลได้ละเอียดค่ะ
  • ร้านค้าออนไลน์อย่างเป็นทางการ: มีจำหน่ายในแพลตฟอร์มออนไลน์ใหญ่ๆ เช่น Shopee และ Lazada ซึ่งมักจะมีโปรโมชั่นลดราคา หรือผ่อนชำระ 0% และมีบริการจัดส่งฟรีทั่วประเทศ (อาจมีเงื่อนไขสำหรับบางพื้นที่ เช่น คอนโดที่ไม่มีลิฟต์ หรือพื้นที่ห่างไกล)

การซื้อผ่านช่องทางออนไลน์สะดวกสบาย บางทีราคาดีกว่า แต่ถ้าเป็นไปได้ แนะนำให้ไปลองนอนที่ร้านก่อนตัดสินใจซื้อนะคะ เพราะที่นอนเป็นสินค้าที่เราต้องใช้ทุกวัน การได้สัมผัสและทดสอบด้วยตัวเองสำคัญที่สุดค่ะ


9. บทสรุปและคำแนะนำในการซื้อ: ที่สุดของการนอนนุ่มแน่น ดีต่อสุขภาพ?

สรุปแล้ว ที่นอน Omazz Organique Plus เป็นที่นอนคุณภาพสูงที่ผสมผสานเทคโนโลยีสปริง Super Bonnel Coil เข้ากับ Organique Foam จากธรรมชาติได้อย่างลงตัว

ถ้าคุณกำลังมองหาที่นอนที่ให้ฟีลนุ่มแน่นกำลังดี รองรับสรีระได้เยี่ยม ลดอาการปวดเมื่อย และใช้วัสดุที่ค่อนข้างเป็นธรรมชาติ แถมยังนอนคู่แล้วไม่รบกวนกัน รุ่นนี้ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากๆ ค่ะ

แม้ราคาจะสูงสักหน่อย แต่ถ้ามองเป็นการลงทุนเพื่อสุขภาพการนอนที่ดีในระยะยาว บวกกับการรับประกันที่ยาวนานถึง 8 ปี ก็ถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าค่ะ

คำแนะนำสุดท้าย: ถ้าคุณเป็นคนที่งบถึง ชอบที่นอนฟีลนุ่มแน่น และให้ความสำคัญกับสุขภาพ ควรไปลองนอน Omazz Organique Plus ที่ร้านดูเลยค่ะ! อาจจะเป็นที่นอนในฝันของคุณก็ได้นะ!

แต่ถ้าคุณมีงบจำกัด หรือชอบที่นอนที่นุ่มกว่านี้มากๆ อาจจะต้องมองหารุ่นอื่นหรือแบรนด์อื่นที่ตรงกับความต้องการมากกว่าค่ะ

นอนหลับฝันดี ราตรีสวัสดิ์ค่ะทุกคน!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

บทความที่เกี่ยวข้อง

ใครที่กำลังตามหาที่นอนตัวท็อปที่เขาว่ากันว่านอนสบายเหมือนลอยได้ วันนี้เรามีนัดกับ Omazz ที่นอนแบรนด์ดังที่หลายคนเล็งไว้ โดยเฉพาะรุ่นที่เป็นยางพาราผสมสปริง! ได้ยินมาหนาหูว่านุ่มสบาย แถมยังช่วยเรื่องปวดหลังได้จริง งานนี้เราเลยต้องขอพิสูจน์ให้
รีวิว ที่นอน Omazz: ที่นอนยางพารา/สปริง แบรนด์ดัง นุ่มสบายจริงไหม?

บทความล่าสุดดูเพิ่มเติม

โอ๊ยยย... ปวดหลัง ปวดคอ ปวดไหล่! เป็นกันมั้ยจ๊ะชาวออฟฟิศ (หรือชาวฟรีแลนซ์ที่นั่งทำงานหน้าคอมนานๆ) อาการปวดเมื่อยมันเหมือนเพื่อนสนิทที่ตามติดไปทุกที่ บางทีก็คิดนะว่าร่างกายเรามันคงจะเบี้ยวๆ บูดๆ ไปแล้วแน่เลย ถึงได้ปวดได้เมื่อยขนาดนี้! แล้วไอ
จัดกระดูก คืออะไร? รีวิว ประสบการณ์ และข้อควรรู้
ลมหนาวเอื่อยๆ เริ่มพัดมา (หรืออาจจะแค่มโนไปเองในบางวัน 🤣) ท้องฟ้าเริ่มเป็นสีชมพูตอนเย็นๆ โอ๊ย...บรรยากาศมันชวนให้คิดถึงอะไรน้า... ใช่แล้ว! หมูจุ่มร้อนๆ น้ำซุปนัวๆ น้ำจิ้มรสเด็ด! ยิ่งถ้าได้มาอยู่เชียงใหม่ เมืองที่เต็มไปด้วยร้านอร่อย บรรยากา
รวมร้านหมูจุ่ม เชียงใหม่ อร่อยเด็ด บรรยากาศดี
โอ๊ยยย... เบื่อจริงจริ๊งงง! ปัญหาขนกวนใจเนี่ย ไม่ว่าจะขนรักแร้ ขนหน้าแข้ง ขนจิมิ สารพัดขนที่ทำให้เสียเซลฟ์ จะใส่บิกินี่ไปทะเลช่วงสงกรานต์ก็ไม่มั่นใจ จะยกแขนก็กลัวคนเห็นตอขน แถมบางทีโกน ถอน แว็กซ์ จนเป็นหนังไก่บ้าง ขนคุดบ้าง คันยุบยิบไปอีก!
รีวิว Beauty Plus Clinic กำจัดขน: เลเซอร์ขนที่นี่ดีไหม ราคาเป็นอย่างไร?

บทความที่แนะนำ