Jabra Elite 65t Active รีวิว: หูฟัง Truly Wireless สำหรับออกกำลังกาย ดีไหม?

เอาล่ะ... ใครกำลังมองหาหูฟังคู่ใจไปวิ่ง ไปฟิตเนส หรือแค่เดินช้อปปิ้งให้เหงื่อออกนิดๆ แล้วกลัวหูฟังสุดที่รักจะเปียกพังยกมือขึ้น! วันนี้เรามีหูฟัง True Wireless ตัวจี๊ดที่เคลมว่าเกิดมาเพื่อสาย Active โดยเฉพาะ นั่นก็คือ Jabra Elite 65t Active นั่นเอง! หลายคนอาจจะสงสัยว่า "เอ๊ะ...มันดีจริงป่ะ แล้วเหมาะกับคนขี้เหงื่อแบบเรามั้ย?" ไม่ต้องคิดเยอะ วันนี้เราจะมาเล่าให้ฟังแบบหมดเปลือก สไตล์คนใช้จริง! มีทั้งเรื่องประทับใจ เรื่องจุกจิกกวนใจ (มีมั้ยนะ?) เตรียมตัวให้พร้อม แล้วไปดูกันเลยจ้า!

1. ภาพรวมผลิตภัณฑ์: รู้จักเจ้า Jabra Elite 65t Active กันหน่อย

แบรนด์: Jabra
รุ่น: Elite 65t Active
ปีที่วางขาย: เปิดตัวประมาณปี 2018 เป็นรุ่นที่ต่อยอดมาจาก Elite 65t ธรรมดา
ช่วงราคา: ตอนเปิดตัวก็มีราคาสูงพอสมควร แต่ตอนนี้ราคาดีลงเยอะมาก บางทีเจอโปรเหลือไม่ถึงสองพันก็มี

ตำแหน่งในตลาด: หูฟัง True Wireless ระดับกลาง ที่เน้นเจาะกลุ่มคนชอบออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมที่เหงื่อออกเยอะๆ

สรุปจุดเด่นหลัก (ที่เคลมมา):

• กันน้ำกันเหงื่อ กันฝุ่น IP56: อันนี้แหละตัวชูโรง! ออกกำลังกายหนักแค่ไหนก็สบายใจ
• ใส่กระชับ ไม่หลุดง่าย: ออกแบบมาให้เข้ากับสรีระหู แถมมีจุกหูฟังให้เลือกหลายไซส์
• มี HearThrough: เปิดรับเสียงรอบข้างได้ ปลอดภัยเวลาวิ่งริมถนน หรือเดินคนเดียว
• แบตเตอรี่พอตัว: ใช้ได้ต่อเนื่อง 5 ชม. ชาร์จจากเคสได้อีกรวมเป็น 15 ชม.
• เสียงดี คุยชัด: มีไมค์ 4 ตัว ช่วยลดเสียงรบกวน

2. ดีไซน์ & รูปลักษณ์ภายนอก: เล็กๆ แต่แน่นนะ!

เจ้า Jabra Elite 65t Active เนี่ย ดีไซน์มาแนวสปอร์ตหน่อยๆ ตัวหูฟังไม่ได้เล็กจิ๋วมาก แต่ก็ไม่เทอะทะจนน่าเกลียดนะ วัสดุเป็นพลาสติกผิวด้านๆ ให้ความรู้สึกแข็งแรงทนทานดี ขนาดกำลังดี พกใส่กระเป๋ากางเกงได้อยู่ เคสชาร์จก็กลมๆ มนๆ น่ารักดี มีสีให้เลือกหลายสีนะ ที่ฮิตๆ ก็ Titanium Black หรือ Copper Blue/Black นี่แหละ

ในกล่องมีอะไรบ้าง? ก็จะมีตัวหูฟัง, เคสชาร์จ, สาย Micro USB (แอบเชยไปนิด), แล้วก็จุกหูฟังซิลิโคน 3 ไซส์ (S, M, L) อันนี้สำคัญมากนะ ต้องลองหาไซส์ที่พอดีกับหูเราที่สุดเพื่อความสบายและความกระชับ

3. ประสบการณ์ในการใช้งานฟังก์ชันหลัก: ลุยเหงื่อได้จริงไหม?

มาถึงหัวใจหลัก! คือมันเหมาะกับการออกกำลังกายแค่ไหน? จากที่ลองใช้ตอนวิ่ง คาร์ดิโอในฟิตเนส หรือแม้แต่ตอนทำความสะอาดบ้านที่เหงื่อท่วมตัว (อันนี้คือการออกกำลังกายรูปแบบหนึ่ง!) บอกเลยว่า เรื่องความกระชับหายห่วง ถ้าเลือกจุกหูฟังถูกไซส์ มันเกาะอยู่ในหูดีมาก กระโดดโลดเต้นยังไงก็ไม่หลุดง่ายๆ แต่บางคนอาจจะรู้สึกว่ามันดันหูเล็กน้อยถ้าใส่นานๆ

ส่วนเรื่องกันเหงื่อ IP56 นี่เอาอยู่จริง! เหงื่อจะไหลเป็นทางก็ไม่หวั่น พอล้างน้ำสะอาดเช็ดให้แห้งก็เหมือนใหม่ เหมาะกับอากาศเมืองไทยสุดๆ ที่ร้อนอบอ้าว เหงื่อแตกพลั่กตลอดเวลา

คุณภาพเสียง? สำหรับหูฟังออกกำลังกาย ถือว่าทำได้ดีเลยนะ เสียงออกแนวสมดุล ฟังได้หลากหลายแนวเพลง แต่ถ้าอยากได้เบสแน่นๆ ตุ้บๆ ก็สามารถเข้าไปปรับ EQ ในแอป Jabra Sound+ ได้ตามใจชอบ

ฟังก์ชัน HearThrough นี่ชอบมาก เวลาวิ่งริมถนน หรืออยู่ในที่ที่ต้องระวังสภาพแวดล้อม เปิดโหมดนี้ไว้จะได้ยินเสียงรถ เสียงคนรอบข้าง ช่วยเพิ่มความปลอดภัยได้เยอะเลย

4. ประสบการณ์การใช้งาน & ความง่ายในการใช้: ใช้ง่ายเหมือนปอกกล้วย?

เรื่องความง่ายในการใช้งาน ถือว่าสอบผ่าน! การเชื่อมต่อ Bluetooth 5.0 ก็เสถียรดีนะ ไม่ค่อยมีปัญหาเสียงหลุดหรือกระตุก ตัวหูฟังมีปุ่มกดจริงๆ ไม่ใช่ระบบสัมผัส บางคนอาจจะชอบเพราะกดแล้วชัวร์ดี แต่ก็มีบ้างที่กดแล้วเหมือนดันหูเข้าไปอีกนิดหน่อย

แอปพลิเคชัน Jabra Sound+ ก็ใช้ง่าย เมนูไม่ซับซ้อน เข้าไปปรับ EQ, เปิด/ปิด HearThrough, อัปเดตเฟิร์มแวร์ หรือเช็กแบตเตอรี่ได้ รองรับภาษาไทยไหม? แอปส่วนใหญ่เป็นภาษาอังกฤษนะ แต่เมนูไม่ได้ยาก ไม่ต้องเรียนรู้อะไรเยอะก็ใช้ได้สบายๆ

เวลาใส่ หูฟังน้ำหนักเบา ใส่แล้วไม่เมื่อยหูเท่าไหร่ (ถ้าเลือกจุกถูกไซส์นะ) ไม่มีอาการร้อนเร็ว หรือทำให้รำคาญ

5. แบตเตอรี่ / พลังงาน / ความคุ้มค่าในระยะยาว: ชาร์จบ่อยไหม?

แบตเตอรี่ตัวหูฟังเองอยู่ได้ประมาณ 5 ชั่วโมง ตัวเคสชาร์จได้อีกประมาณ 2 รอบ รวมๆ แล้วใช้ได้สูงสุด 15 ชั่วโมง สำหรับคนออกกำลังกายวันละ 1-2 ชั่วโมง ถือว่าเพียงพอ ใช้ได้หลายวันเลย

การชาร์จ? ใช้สาย Micro USB ชาร์จกับเคส ซึ่งก็ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงเต็ม ไม่ได้มีระบบชาร์จไร้สาย หรือ USB-C เหมือนรุ่นใหม่ๆ อันนี้อาจจะเป็นข้อสังเกตเล็กน้อย

ความคุ้มค่าในระยะยาว? เนื่องจากเป็นรุ่นที่ออกมานานแล้ว ราคาตอนนี้เลยค่อนข้างเป็นมิตร แถมความทนทานเรื่องกันเหงื่อก็ไว้ใจได้ ถ้าไม่ได้ต้องการฟีเจอร์ใหม่ล่าสุด อย่าง ANC แบบเทพๆ หรือชาร์จไร้สาย รุ่นนี้ถือว่า คุ้มค่ากับราคาปัจจุบันมาก! เทียบกับหูฟังออกกำลังกายแบรนด์อื่นในราคาใกล้เคียงกัน Jabra Elite 65t Active ก็ยังเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสุดๆ

6. ข้อดี-ข้อเสีย (แบบไม่อวย ไม่ด่า): มีอะไรน่ารัก มีอะไรน่าบ่น?

ข้อดีเด็ดๆ ที่คนไทยน่าจะชอบ:

• ลุยเหงื่อ ลุยฝนปรอยๆ ได้สบาย: IP56 ตอบโจทย์อากาศเมืองไทยสุดๆ
• ใส่แน่น ไม่ต้องกลัวหลุด: เคลื่อนไหวเยอะแค่ไหนก็มั่นใจ
• มี HearThrough: ปลอดภัย ไปไหนมาไหนก็ได้ยินเสียงรอบตัว
• เสียงดี ปรับ EQ ได้: ฟังเพลงสนุกขึ้น ปรับเสียงได้ตามใจ
• ราคาดีงามมากในปัจจุบัน: หาโปรโมชั่นดีๆ ได้ง่าย

ข้อเสียที่อาจทำให้ลังเลใจ:

• ใช้สาย Micro USB: แอบเชยเมื่อเทียบกับรุ่นใหม่ๆ ที่เป็น USB-C
• เป็นรุ่นเก่าแล้ว: ฟีเจอร์อาจจะไม่เท่ารุ่นใหม่ล่าสุดของแบรนด์เอง หรือแบรนด์อื่น
• ไม่มีระบบตัดเสียงรบกวน Active Noise Cancellation (ANC): ถ้าเน้นใช้ในที่เสียงดังมากๆ อาจจะยังไม่ตอบโจทย์เท่าที่ควร
• ปุ่มกดบางทีกดแล้วดันหู: อาจจะต้องใช้เวลาปรับตัวนิดหน่อย
• เคสชาร์จบางทีเปิดยาก: บางคนบอกว่าต้องออกแรงงัดนิดนึง

7. เหมาะกับใคร & คำแนะนำในการซื้อ: ซื้อเลยดีไหม?

เหมาะกับใคร?

• สายออกกำลังกายตัวจริง: วิ่ง, ฟิตเนส, คาร์ดิโอ ที่เหงื่อออกเยอะๆ นี่เหมาะเลย
• คนที่ต้องการหูฟัง True Wireless ที่ใส่กระชับ: กลัวหูฟังหลุดง่าย รุ่นนี้เอาอยู่
• คนที่งบประมาณจำกัด: แต่ยังอยากได้หูฟังคุณภาพดี ฟีเจอร์ครบครัน
• คนที่เน้นความปลอดภัย: อยากได้ยินเสียงรอบข้างเวลาใช้งานนอกบ้าน

ควรซื้อเลยไหม? ถ้าคุณเข้าข่ายตามที่บอกมาข้างบน และเจอราคาที่ถูกใจช่วงโปรโมชั่น กดซื้อเลยจ้า ไม่ต้องลังเล! เป็นรุ่นที่คุ้มค่ามากๆ ในราคาปัจจุบัน แต่ถ้าไม่ได้ออกกำลังกายหนัก หรือต้องการ ANC เป็นหลัก อาจจะต้องมองหารุ่นอื่น

8. เปรียบเทียบกับสินค้าคล้ายๆ กัน (อันนี้แถมให้): แล้วตัวอื่นล่ะ?

ถ้าเทียบกับ Jabra Elite 65t ธรรมดา: รุ่น Active จะมี IP Rating ที่สูงกว่า (IP56 vs IP55) และมี Motion Sensor ที่รุ่นธรรมดาไม่มี นอกนั้นแทบจะเหมือนกันหมด ถ้าเน้นออกกำลังกาย รุ่น Active ก็ตอบโจทย์กว่านิดหน่อย

ถ้าเทียบกับรุ่นใหม่กว่าอย่าง Jabra Elite Active 75t หรือ 7 Active: รุ่นใหม่ๆ จะมีฟีเจอร์ที่ครบครันกว่า เช่น ANC ที่ดีขึ้น, แบตเตอรี่ที่นานขึ้น, เคสชาร์จรองรับ USB-C หรือชาร์จไร้สาย แต่ราคาก็จะสูงกว่า Jabra Elite 65t Active พอสมควร

9. บริการหลังการขายและช่องทางการซื้อ: ซื้อที่ไหนดี?

เรื่องบริการหลังการขาย Jabra เองก็เป็นแบรนด์ที่เชื่อถือได้ มีการรับประกันสินค้าตามมาตรฐาน (ส่วนใหญ่ 1 ปี บางทีอาจมีโปรขยายประกัน) ถ้ามีปัญหา สามารถติดต่อศูนย์บริการในไทยได้

ช่องทางการซื้อ? โอ้โห เพียบ! ทั้งร้านค้าออนไลน์ยอดฮิตอย่าง Lazada, Shopee, JD Central หรือร้านค้าGadget ใหญ่ๆ ก็มีขาย แนะนำให้ลองเช็กราคาช่วงแคมเปญต่างๆ นะ ส่วนลดเพียบ! บางทีมีโค้ดลดเพิ่ม, ผ่อน 0%, หรือได้เงินคืนอีก คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม!

ระยะเวลาจัดส่งก็แล้วแต่ร้าน แล้วแต่พื้นที่นะ ส่วนใหญ่ถ้าสั่งจากร้านในไทยก็ไม่กี่วันก็ได้ของแล้ว ค่าส่งบางทีก็ฟรีด้วยนะ

10. บทสรุปและคำแนะนำในการซื้อ: ฟันธง!

สรุปแล้ว Jabra Elite 65t Active คือหูฟัง True Wireless ที่เกิดมาเพื่อสาย Active โดยเฉพาะ! ถ้าคุณกำลังมองหาหูฟังที่ใส่กระชับ ออกกำลังกายหนักแค่ไหนก็ไม่หลุด กันเหงื่อกันฝนได้สบายๆ มี HearThrough เพื่อความปลอดภัย แถมราคาตอนนี้เป็นมิตรมากๆ นี่คือตัวเลือกที่ ควรมีไว้ในครอบครองอย่างยิ่ง!

เหมาะสำหรับ: นักวิ่ง, คนเข้าฟิตเนส, คนที่เหงื่อออกเยอะ, คนที่ต้องการหูฟังเน้นใส่ออกกำลังกายโดยเฉพาะ

ไม่เหมาะสำหรับ: คนที่ต้องการหูฟังเน้นฟังเพลงอย่างเดียว คุณภาพเสียงเทพๆ, คนที่ต้องการระบบ ANC แบบเงียบสนิท, คนที่ต้องการฟีเจอร์ล่าสุดทั้งหมดแบบจัดเต็ม

ถ้าเจอรุ่นนี้ราคาดีๆ ช่วงโปรโมชั่น อย่าปล่อยให้หลุดมือนะจ๊ะ บอกเลยว่าคุ้มค่าตัวแน่นอน!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• รีวิว Jabra Elite Active 65t เสียงดี เบสแน่น และกันน้ำระดับ IP56
• รีวิว Jabra Elite 65t - ยอดหูฟัง True Wireless กับ Bluetooth 5.0 ...
• รีวิว Jabra Elite65t การใช้งาน
• รีวิว Jabra Elite Sport 4.5 - หูฟังออกกำลังกาย True Wireless สุดล้ำ ...
• รีวิว Jabra Elite Active 75t - หูฟัง True Wireless ออกกำลังกายสี ...