รีวิว AMD Ryzen Threadripper 1920X (TR4): CPU ตัวแรงสำหรับ Workstation และ Creator ประสิทธิภาพเป็นอย่างไร?


ใครที่กำลังมองหาขุมพลังแรงๆ ไว้ทำงานหนักๆ ตัดต่อวิดีโอ เรนเดอร์ 3D หรือรันโปรแกรมโหดๆ แล้วไปเจอชื่อ AMD Ryzen Threadripper 1920X เด้งขึ้นมาในลิสต์ อาจจะงงๆ ว่าเจ้าตัวนี้มันคืออะไร เก่าหรือยัง แล้วปีนี้ (2024-2025) มันยังน่าใช้ไหม? วันนี้เราจะมาแกะกล่องซีพียูตัวเทพในอดีตตัวนี้ พร้อมรีวิวแบบบ้านๆ สไตล์คนใช้จริง ให้ดูกันจะๆ ว่าประสิทธิภาพมันยังไหวอยู่หรือเปล่า แล้วเหมาะกับใครในยุคนี้ ไปดูกัน!
1. ภาพรวมผลิตภัณฑ์: รู้จักป๋าดันแห่งยุค Workstation!
แบรนด์: AMD
รุ่น: Ryzen Threadripper 1920X
เปิดตัว: สิงหาคม 2017 (สมัยนั้นนี่คือตัวตึงสุดๆ!)
ช่วงราคาตอนเปิดตัว: ประมาณ 800 ดอลลาร์สหรัฐฯ (สามหมื่นกว่าบาทไทยตอนนั้น ถือว่าแรงใช่เล่น)
ช่วงราคาปัจจุบัน (มือสอง): แตกต่างกันไปมากๆ (ต้องลองเช็คตามกลุ่มซื้อขายอุปกรณ์คอมมือสอง)
ตำแหน่งในตลาด: ซีพียูระดับ High-End Desktop (HEDT) หรือ Workstation เหมาะกับงานที่ต้องใช้คอร์เยอะๆ ประมวลผลหลายอย่างพร้อมกัน
จุดเด่นหลักๆ ที่เคยมัดใจคนเมื่อ 7 ปีก่อน:
- คอร์เยอะ เธรดแยะ: มาพร้อม 12 คอร์ 24 เธรด ทำงานมัลติทาสกิ้งได้สบาย
- เลน PCIe เพียบ: มีถึง 64 เลน ต่อการ์ดจอหรือ NVMe SSD ได้แบบเหลือเฟือ
- แรม 4 แชนแนล: เพิ่มแบนด์วิธให้แรม ประมวลผลข้อมูลก้อนใหญ่ได้ไวขึ้น
- สถาปัตยกรรม Zen: ประสิทธิภาพดีขึ้นแบบก้าวกระโดดเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนๆ ของ AMD
2. ดีไซน์ & รูปลักษณ์ภายนอก: ใหญ่กว่าที่คิดเยอะ!
บอกเลยว่าเจ้า Threadripper นี่ไม่ใช่ซีพียูจิ๋วๆ เหมือน Ryzen ทั่วไปนะ! ตัวมันใหญ่เบิ้มมาก เพราะต้องรองรับคอร์ที่อัดแน่นมาเต็มไปหมด
การออกแบบ: เป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดใหญ่กว่าซีพียูปกติพอสมควร
วัสดุ: IHS (ฝาครอบ) เป็นโลหะ ช่วยระบายความร้อนได้ดี (แถมเป็นแบบบัดกรีมาด้วยนะ ไม่ใช่แค่แปะซิลิโคนเหมือนบางค่ายสมัยก่อน)
ขนาดและน้ำหนัก: ใหญ่และหนักกว่าซีพียูบ้านๆ ทั่วไป การติดตั้งต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ
ซ็อกเก็ต: ใช้ซ็อกเก็ตเฉพาะคือ TR4 หรือ sTR4 ที่มีขนาดใหญ่มากๆ ไม่สามารถใส่กับเมนบอร์ด AM4 ทั่วไปได้เลยนะ ต้องหาเมนบอร์ดชิปเซ็ต X399 เท่านั้น ซึ่งเมนบอร์ดก็ใหญ่อลังการตามไปด้วย!
อุปกรณ์เสริมในกล่อง (ตอนซื้อใหม่): มักจะมีอุปกรณ์แปลงสำหรับติดตั้งชุดระบายความร้อนมาให้ด้วย เพราะซ็อกเก็ต TR4 มันใหญ่ไม่เหมือนใคร
3. ประสบการณ์ในการใช้งานฟังก์ชันหลัก: งานหนักเอาอยู่ (ในแบบของมัน)
หัวใจหลักของ Threadripper 1920X คือการทำงานที่เน้นคอร์เยอะๆ ครับ ไม่ว่าจะเป็นงานสาย Creator ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น:
- ตัดต่อวิดีโอ: เรนเดอร์วิดีโอความละเอียดสูงๆ ทำได้ดีในยุคนั้น ด้วยจำนวนคอร์และเธรดที่เยอะ ช่วยให้โปรแกรมตัดต่ออย่าง Premiere Pro หรือ DaVinci Resolve ใช้พลังประมวลผลได้เต็มที่
- เรนเดอร์ 3D: งานที่ต้องใช้พลังประมวลผลแบบดิบๆ อย่างการเรนเดอร์ภาพใน Blender หรือโปรแกรม 3D อื่นๆ เจ้า 1920X นี่ทำได้สบายมาก ยิ่งคอร์เยอะยิ่งเรนเดอร์เสร็จไว
- พัฒนาซอฟต์แวร์/คอมไพล์โค้ด: ถ้าใครเขียนโปรแกรมใหญ่ๆ แล้วต้องคอมไพล์บ่อยๆ ซีพียูที่มีหลายคอร์จะช่วยลดเวลาตรงนี้ไปได้เยอะ
- งานจำลองต่างๆ (Simulation) หรือ Virtualization: เหมาะกับการรันโปรแกรมจำลองทางวิศวกรรม หรือเปิด Virtual Machine หลายๆ ตัวพร้อมกันโดยที่เครื่องไม่หน่วง
เรื่อง Benchmark: สมัยเปิดตัว คะแนน Multi-Core นี่พุ่งกระฉูด แซงหน้าคู่แข่งตัวท็อปในยุคนั้นแบบสบายๆ แต่ถ้าเทียบกับซีพียูรุ่นใหม่ๆ ในปี 2024-2025 แม้แต่ซีพียูบ้านๆ อย่าง i5-14400 หรือ Ryzen 7 8700G คะแนนรวมก็อาจจะแซงไปแล้ว หรือให้ประสิทธิภาพต่อคอร์ที่ดีกว่าเยอะ อย่างใน Cinebench คะแนนรวมอาจจะยังดูดี แต่คะแนน Single-Core อาจจะสู้รุ่นใหม่ๆ ไม่ได้เลย
เรื่องเล่นเกม: ถามว่าเล่นเกมได้ไหม? เล่นได้แน่นอนครับ แต่ถ้าเน้นเล่นเกมเป็นหลัก มีซีพียูตัวอื่นที่ราคาถูกกว่า ให้เฟรมเรตในเกมได้ดีกว่าเยอะครับ เพราะเกมส่วนใหญ่ยังไม่ได้ใช้คอร์เยอะขนาดนี้ และเน้นความแรงต่อคอร์มากกว่า การซื้อ Threadripper มาเล่นเกมอย่างเดียวก็เหมือนเอารถบรรทุกไปวิ่งแข่งกับรถเก๋งนั่นแหละครับ (ถึงรถบรรทุกเราจะแรงมากก็เถอะ)
4. ประสบการณ์การใช้งาน & ความง่ายในการใช้: ใหญ่โตแต่ไม่ซับซ้อน
การติดตั้งตัวซีพียูเองอาจจะดูน่าหวาดเสียวหน่อย เพราะขนาดใหญ่และต้องระวังขา CPU แต่ขั้นตอนไม่ได้ซับซ้อนเกินไปครับ
ความง่ายในการใช้: เมื่อติดตั้งเสร็จแล้ว ในแง่การใช้งานทั่วไปก็เหมือนคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งนี่แหละครับ เปิดติด ลงวินโดวส์ ใช้งานโปรแกรมต่างๆ ได้ปกติ
ระบบซอฟต์แวร์: โปรแกรมส่วนใหญ่ที่รองรับการทำงานแบบ Multi-Thread จะสามารถใช้ประโยชน์จากคอร์จำนวนมากได้ดี แต่โปรแกรมที่เน้น Single-Thread ก็อาจจะไม่เห็นความแตกต่างจากซีพียูคอร์น้อยๆ เท่าไหร่
ความร้อน & เสียง: ด้วยความที่เป็นซีพียู 12 คอร์ TDP สูงถึง 180W เจ้าตัวนี้สร้างความร้อนได้ไม่เบาเลยครับ! ต้องใช้ชุดระบายความร้อนคุณภาพดีมากๆ อาจจะเป็น Heatsink ขนาดใหญ่สุดๆ หรือแนะนำเป็นชุดน้ำ AIO ขนาด 240mm ขึ้นไป เพื่อให้ซีพียูทำงานเต็มประสิทธิภาพและไม่ร้อนจนเกินไป เสียงดังแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับพัดลมของชุดระบายความร้อนนี่แหละครับ
การรองรับ: ใช้งานได้กับ Windows และ Linux ทั่วไป ไม่มีปัญหาเรื่องภาษาไทยแน่นอนครับ
5. พลังงาน / ความคุ้มค่าในระยะยาว: กินไฟดุ แต่ก็ยังมีที่ยืน
อัตราการใช้พลังงาน: อย่างที่บอกไปว่า TDP สูงถึง 180W นั่นหมายความว่ามันกินไฟมากกว่าซีพียูทั่วไปเยอะครับ การ์ดจอถ้าใช้ตัวแรงๆ ด้วย อาจจะต้องใช้ Power Supply ขนาด 750W ขึ้นไปเพื่อความปลอดภัย
ค่าใช้จ่ายระยะยาว: หลักๆ คือค่าไฟที่อาจจะพุ่งขึ้นถ้าใช้งานหนักๆ ตลอดเวลา ส่วนเรื่องอะไหล่ ซีพียูไม่ค่อยเสียอยู่แล้ว แต่ถ้าเมนบอร์ดเสีย การหาเมนบอร์ด X399 มาเปลี่ยนอาจจะเริ่มยากและแพงขึ้นเรื่อยๆ เพราะเป็นแพลตฟอร์มเก่าแล้ว
ความคุ้มค่าในปัจจุบัน: ถ้าดูที่ราคาเปิดตัว บอกเลยว่าตอนนี้ไม่คุ้มที่จะซื้อในราคานั้นแล้วครับ แต่ถ้าได้มาในราคาที่ถูกมากๆ จากตลาดมือสอง แล้วงานที่ทำเป็นงานที่เน้น Multi-Threaded จ๋าๆ จริงๆ เจ้า 1920X ก็ยังพอให้ประสิทธิภาพที่ดีสำหรับงบที่จำกัดได้อยู่ อย่างไรก็ตาม ต้องชั่งน้ำหนักกับค่าเมนบอร์ดและชุดระบายความร้อนที่ต้องลงทุนเพิ่มด้วย
6. สรุปข้อดี-ข้อเสีย: มีดี มีด้อย ตามวัย
ข้อดี:
- พลังประมวลผล Multi-Core ยังแรงพอตัวสำหรับงานเฉพาะทาง
- จำนวนคอร์/เธรดเยอะ ทำงานหลายอย่างพร้อมกันได้ดี
- เลน PCIe เยอะมาก ต่ออุปกรณ์เสริมได้สะใจ
- รองรับแรม Quad-Channel
- ถ้าได้มือสองราคาดี อาจจะคุ้มค่าสำหรับบางงาน เมื่อเทียบกับงบที่จ่าย
ข้อเสีย:
- เป็นแพลตฟอร์มเก่า (X399) ไม่มีอัปเกรดแล้ว
- ประสิทธิภาพ Single-Core สู้ซีพียูรุ่นใหม่ๆ ไม่ได้เลย
- กินไฟเยอะ และต้องการชุดระบายความร้อนชั้นดี
- เมนบอร์ด X399 หายากและอาจมีราคาสูงในตลาดมือสอง
- ไม่เหมาะกับการเล่นเกมเป็นหลัก
7. เหมาะกับใคร & คำแนะนำในการซื้อ: แล้วฉันควรซื้อไหม?
เจ้า AMD Ryzen Threadripper 1920X ในปี 2024-2025 นี้ ไม่ได้เหมาะกับคนส่วนใหญ่แล้วครับ
แต่ถ้าถามว่าเหมาะกับใคร?
- คนที่ทำงานเฉพาะทางที่เน้น Multi-Threaded หนักๆ จริงๆ เช่น เรนเดอร์ 3D, คอมไพล์โปรแกรม, รัน VM หลายๆ ตัว และมีงบประมาณจำกัดมากๆ
- คนที่ไปเจอเครื่องมือสองที่ใช้ซีพียูตัวนี้อยู่ แล้วได้มาราคาดีแบบสุดๆ เมื่อรวมทั้งชุดแล้วคุ้มกว่าไปจัดชุดใหม่
- นักศึกษา หรือคนที่อยากลองสัมผัสประสบการณ์ Workstation ในราคาเข้าถึงง่าย (ถ้าได้ของถูก)
ควรซื้อเลยไหม?
ไม่แนะนำให้ซื้อแบบของใหม่ ถ้ายังมีขายอยู่ เพราะราคาคงไม่คุ้มแล้วเมื่อเทียบกับประสิทธิภาพซีพียูรุ่นใหม่ๆ แต่ถ้าคุณไปเจอชุดมือสองที่ประกอบด้วย Threadripper 1920X + เมนบอร์ด X399 + แรม DDR4 แบบ Quad-Channel แล้วราคาถูกมากๆ จนน่าตกใจจริงๆ และงานที่คุณทำคือตามข้อข้างบน... อันนี้ก็อาจจะพอลุ้นได้ครับ แต่ต้องทำใจว่าเป็นของเก่า ไม่มีประกัน และอาจจะต้องเจอปัญหาจุกจิกบ้าง
คำแนะนำคือ: ถ้าไม่ได้มีความจำเป็นเร่งด่วน หรืองานไม่ได้บังคับให้ใช้คอร์เยอะขนาดนั้นจริงๆ เก็บเงินไปจัดซีพียู Ryzen รุ่นใหม่ๆ อย่าง Ryzen 7 หรือ Ryzen 9 ที่ให้ประสิทธิภาพต่อคอร์ดีกว่า กินไฟน้อยกว่า และเป็นแพลตฟอร์มปัจจุบัน มีอนาคตในการอัปเกรดดีกว่าครับ
8. เปรียบเทียบกับสินค้าคล้ายๆ กัน (ในยุคเดียวกันและปัจจุบัน): มวยคนละรุ่น?
เทียบกับคู่แข่งในยุคเดียวกัน (2017):
- Intel Core i9-7900X: เป็นคู่แข่งโดยตรงในตลาด HEDT สมัยนั้น 1920X มักจะชนะในงาน Multi-Core ที่ใช้คอร์เยอะๆ แต่ i9-7900X อาจจะทำได้ดีกว่าในบางงานที่เน้น Single-Core และมีราคาแพงกว่า 1920X ตอนเปิดตัว
เทียบกับซีพียูรุ่นใหม่ๆ (2024-2025):
- Ryzen 7 8700G / Intel Core i5-14400: ซีพียูระดับกลาง-บนในปัจจุบัน ให้ประสิทธิภาพโดยรวม (คะแนน Benchmark รวม) ที่สูงกว่า 1920X ทั้งในแง่ Single-Core และ Multi-Core ในราคาที่ถูกกว่า กินไฟน้อยกว่า และเป็นแพลตฟอร์มใหม่
- Ryzen 9 Series (เช่น 5900X, 5950X หรือรุ่นใหม่กว่า): ให้จำนวนคอร์/เธรดที่ใกล้เคียงหรือมากกว่า 1920X (เช่น 5900X มี 12C/24T เท่ากัน, 5950X มี 16C/32T) ด้วยสถาปัตยกรรมที่ใหม่กว่า ให้ประสิทธิภาพต่อคอร์ที่แรงกว่า กินไฟน้อยกว่า และอยู่บนแพลตฟอร์ม AM4/AM5 ที่ใหม่กว่า TR4 เยอะมาก
- Ryzen Threadripper รุ่นใหม่กว่า (เช่น 3000 หรือ 5000 Series): แน่นอนว่ารุ่นใหม่กว่าแรงกว่าทุกด้าน แต่ราคาก็สูงกว่ามาก และเมนบอร์ดก็เป็นคนละเจนกัน
สรุปคือ ในแง่ประสิทธิภาพโดยรวม ซีพียูระดับกลาง-บนรุ่นใหม่ๆ ในปัจจุบันแซงหน้า Threadripper 1920X ไปเยอะแล้วครับ
9. บริการหลังการขายและช่องทางการซื้อ: ส่วนใหญ่ต้องลุ้น!
สำหรับ AMD Ryzen Threadripper 1920X ที่เปิดตัวมาหลายปีแล้ว ส่วนใหญ่จะหมดระยะเวลาประกันปกติไปแล้วครับ การซื้อขายจึงมักจะอยู่ในตลาดมือสองเป็นหลัก
ช่องทางการซื้อหลักๆ ในปัจจุบัน:
- กลุ่มซื้อขายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์มือสองออนไลน์: ใน Facebook หรือฟอรั่มต่างๆ
- แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซสำหรับสินค้ามือสอง/นำเข้า: เช่น eBay หรืออาจจะเจอใน Lazada/Shopee บ้างแต่ไม่เยอะ
ข้อควรรู้:
- ไม่มีประกันศูนย์ไทยแล้วแน่นอน: การรับประกันถ้ามีก็เป็นแค่ประกันใจจากผู้ขาย หรือประกันจากแพลตฟอร์ม (ถ้าซื้อผ่านแพลตฟอร์ม)
- เช็คประวัติผู้ขายให้ดี: ก่อนซื้อของมือสอง ควรตรวจสอบประวัติผู้ขายให้มั่นใจ
- ทดสอบสินค้าก่อนรับ: ถ้าเป็นไปได้ ควรนัดเจอเพื่อทดสอบสินค้าก่อนจ่ายเงิน
- ราคาผันผวน: ราคาในตลาดมือสองไม่คงที่ ขึ้นอยู่กับสภาพและความพอใจของผู้ขาย/ผู้ซื้อ
- เมนบอร์ดหายากกว่าซีพียู: การหาเมนบอร์ด X399 อาจจะยากกว่าและแพงกว่าตัวซีพียูซะอีก
10. บทสรุปและคำแนะนำในการซื้อ: สรุปแล้วไงดี?
จากการรีวิวทั้งหมด ถ้าให้ฟันธงแบบตรงไปตรงมา:
สำหรับคนทั่วไปที่ต้องการคอมพิวเตอร์แรงๆ ไว้ทำงานหรือเล่นเกมในปี 2024-2025: ไม่แนะนำให้ซื้อ AMD Ryzen Threadripper 1920X ครับ ควรไปดูซีพียูรุ่นใหม่ๆ ที่อยู่บนแพลตฟอร์มปัจจุบันจะคุ้มค่ากว่าในทุกๆ ด้าน ทั้งประสิทธิภาพต่อคอร์, การใช้พลังงาน, อนาคตในการอัปเกรด, และการหาซื้อเมนบอร์ด/แรมที่ง่ายกว่า
สำหรับคนที่ทำงานเฉพาะทางที่เน้น Multi-Threaded หนักมากๆ และมีงบประมาณจำกัดสุดๆ: ถ้าไปเจอชุด Threadripper 1920X มือสองในราคาที่ "ถูกมากๆ จนปฏิเสธไม่ได้จริงๆ" เมื่อรวมค่าซีพียู เมนบอร์ด และแรมแล้ว ยังถูกกว่าการไปจัดชุด Ryzen รุ่นใหม่ๆ เยอะมาก และคุณยอมรับความเสี่ยงเรื่องของไม่มีประกัน และปัญหาจุกจิกของแพลตฟอร์มเก่าได้... ก็อาจจะพิจารณาได้ แต่นี่เป็นกรณีที่เฉพาะเจาะจงจริงๆ นะครับ
คำแนะนำสุดท้าย: ส่วนใหญ่แล้ว การลงทุนในซีพียูและแพลตฟอร์มรุ่นใหม่กว่า ย่อมดีกว่าในระยะยาวครับ เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ไปไวมาก ซีพียูอายุ 7 ปี แม้จะเคยเทพแค่ไหน วันนี้ก็ถูกรุ่นใหม่ๆ แซงไปหมดแล้วครับ
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
แนะนำสำหรับคุณ
Clarins สำหรับผู้ชาย รีวิว: สกินแคร์ดูแลผิวผู้ชาย น่าใช้ไหม? ผลลัพธ์เป็นอย่างไร?
รีวิว X Cute Me: ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม ราคาดี คุณภาพเกินคาด
รีวิว Brother MFC-J3930DW: ปริ้นเตอร์ Inkjet พิมพ์งานใหญ่ ฟังก์ชันครบ
Bath & Body Works กลิ่นไหนหอม? รีวิวกลิ่นยอดนิยมทั้งผู้หญิงและผู้ชาย
รีวิว Nike Quest 2: รองเท้าวิ่งราคาเข้าถึงง่าย ใส่สบาย เหมาะกับวิ่งเบาๆ หรือใส่เดินไหม?
รีวิว Grande Pleno วัชรพล-สุขาภิบาล 5: โครงการบ้านน่าอยู่ สิ่งอำนวยความสะดวกครบครันไหม