รีวิวลิป Burberry Lip Velvet เนื้อแมตต์ สีสวย ติดทนไหม?

สาวๆ คนไหนเป็นสาวกลิปแมตต์ยกมือขึ้น! 👋 แล้วถ้าพูดถึงลิปแมตต์เนื้อกำมะหยี่ในตำนาน ที่ใครๆ ก็เล็ง ก็ต้องมีชื่อ Burberry Lip Velvet ติดโผแน่นอน วันนี้เราจะมาเจาะลึกกันแบบไม่มีกั๊ก ว่าลิปตัวนี้เค้าดีจริงสมคำร่ำลือไหม? สีสวยบาดใจ ติดทนเหมือนชื่อเคลมหรือเปล่า? แล้วใช้แล้วปากจะแห้งแตกระแหงเหมือนทะเลทรายซาฮาร่าไหม? เตรียมตัวให้พร้อม แล้วไปหาคำตอบด้วยกันเลยค่า!

1. ภาพรวมน้องลิป Burberry Lip Velvet

ก่อนจะไปเม้าท์มอยเรื่องเนื้อสี เรามาทำความรู้จักน้องคนนี้กันก่อนค่ะ

แบรนด์: Burberry (แน่นอนอยู่แล้ว!) รุ่น: Lip Velvet (อันนี้คือรุ่นที่เป็นเนื้อแมตต์กำมะหยี่นะคะ เค้ามีหลายรุ่นจัดไป) ประเภท: ลิปสติกเนื้อแมตต์ ช่วงราคา: ประมาณ 1,000 - 1,500 บาท (ราคาอาจมีขึ้นมีลงแล้วแต่โปรและแหล่งที่ซื้อนะจ๊ะ)

ตำแหน่งในตลาด: ตัวนี้เค้าอยู่ในกลุ่ม High-End หรือลิปเคาน์เตอร์แบรนด์หรูๆ เหมาะกับสาวๆ ที่อยากได้ลิปคุณภาพดี แพ็คเกจปังๆ พกไปเติมแล้วดูแพง! ✨

จุดเด่นคร่าวๆ ที่แบรนด์เคลมมา:

• เนื้อแมตต์กำมะหยี่: เคลมว่าแมตต์แต่นุ่ม ไม่แห้งผาก
• เม็ดสีแน่น: ปาดทีเดียวสีชัด กลบสีปากมิด
• ติดทนยาวนาน: ชื่อรุ่น Long Lasting Matte เลยนะ!
• ให้ความชุ่มชื้น: แมตต์แต่ปากไม่แห้งตึง

2. ดีไซน์ & รูปลักษณ์ภายนอก: เรียบหรู ดูแพง ของมันต้องมี!

แค่เห็นแพ็คเกจก็ใจละลายแล้วแม่! ตัวแท่งเป็นสีเงินเงาวับ ดูแข็งแรง ทนทาน มีลายตารางอันเป็นเอกลักษณ์ของ Burberry สลักอยู่รอบแท่ง คือถือแล้วดูดีมาก ไม่ต้องทำอะไรมากก็ได้ฟีลลูกคุณหนูแล้วอ่ะ

การออกแบบ: เรียบหรู คลาสสิก สไตล์อังกฤษผู้ดี วัสดุ: เป็นโลหะเนื้อดี ดูแข็งแรงทนทาน ขนาดและน้ำหนัก: ขนาดกำลังดี ไม่เล็กไม่ใหญ่ พกพาง่าย ใส่กระเป๋าเครื่องสำอางได้สบายๆ สีที่มีให้เลือก: มีเฉดสีให้เลือกเยอะมาก ตั้งแต่โทนนู้ด ส้ม ชมพู แดง ไปจนถึงสีเข้มๆ เลย เลือกได้ตามใจชอบ ไม่ว่าจะสายเกา สายฝอ มีหมด! อุปกรณ์เสริมในกล่อง: ส่วนใหญ่ก็จะมีแค่ตัวลิปสติกมาในกล่องกระดาษตามสไตล์ลิปทั่วไปค่ะ

3. ประสบการณ์ในการใช้งาน: แมตต์จริง ไม่จกตา!

มาถึงช่วงที่ทุกคนรอคอย! ลองทาจริงสิเป็นยังไง?!

ตอนทาเนี่ย เนื้อลิปเค้าจะมีความนุ่ม ลื่น เหมือนกำมะหยี่จริงๆ ไม่ได้แมตต์แบบฝืดๆ บาดปากนะ ปาดง่ายมาก สีก็ชัดเจนตั้งแต่ปาดแรก กลบสีปากเดิมได้ค่อนข้างดีเลย

ฟินิชที่ได้คือแมตต์สนิท แต่ไม่ได้ดูแห้งด้าน ยังมีความนวลๆ ที่ปากอยู่ ซึ่งตรงนี้ชอบมาก! 😍 ทาแล้วรู้สึกเบาสบายปาก ไม่ได้รู้สึกเหมือนโบกปูนหนาๆ

เรื่องความติดทน อันนี้ต้องบอกว่าเค้าทำได้ดีในระดับหนึ่ง สำหรับลิปแมตต์เนื้อประมาณนี้ คือถ้าไม่ได้กินข้าวหนักๆ หรือแบบซัดส้มตำปูปลาร้าเต็มที่ ก็มีสีติดอยู่ทนพอสมควรเลยค่ะ แต่ถ้ากินของมันๆ ก็มีหลุดบ้างตามปกติของลิปสติกนะ

ส่วนตัวลองทาไปทำงาน ใส่แมสก์ทั้งวัน ก็ยังมีสีติดอยู่ที่ปากอยู่นะ แต่ก็มีเลอะแมสก์บ้างเล็กน้อยเป็นเรื่องธรรมดาของลิปทุกยี่ห้อแหละเนอะ

4. ใช้ง่ายไหม? มือใหม่หัดทาก็รอด!

สำหรับความง่ายในการใช้งาน บอกเลยว่าง่ายมากกกก! ไม่ต้องเป็นโปรเมคอัพอาร์ติสต์ก็ทาให้สวยได้

เนื้อลิปเค้าเกลี่ยง่าย ไม่เป็นคราบ ไม่ตกร่อง (แต่ถ้าปากแห้งมากๆ ก็ควรบำรุงก่อนนะจ๊ะ) ไม่ต้องใช้ดินสอเขียนขอบปากก็ได้ ถ้าไม่ได้อยากได้ขอบปากที่คมกริบเป๊ะเว่อร์ ทาเบลอๆ ขอบปากก็ได้ลุคสวยละมุนไปอีกแบบ

ใช้แล้วไม่รู้สึกหนักปาก หรือเหนอะหนะเลย สบายเหมือนไม่ได้ทา (แอบเว่อร์ไปนิด แต่ฟีลมันได้!) เรื่องร้อนเร็ว เสียงดัง อันนี้เป็นลิปสติก เลยไม่มีประเด็นพวกนี้ค่ะ 😂

5. ความคุ้มค่าในระยะยาว: จ่ายแพง แต่ได้อะไรบ้าง?

มาถึงเรื่องที่ทำให้หลายคนคิดหนัก... ราคา! ด้วยความที่เป็นลิปเคาน์เตอร์แบรนด์ ราคาเค้าก็อาจจะสูงกว่าลิปใน drugstore ทั่วไป

แต่ถ้ามองในแง่ของคุณภาพ แพ็คเกจ และชื่อแบรนด์ ก็ถือว่าสมเหตุสมผลกับราคาค่ะ เนื้อลิปดี สีชัด ติดทนในระดับที่น่าพอใจ แพ็คเกจก็สวยงามน่าพกพา

หนึ่งแท่งใช้ได้นานแค่ไหน ขึ้นอยู่กับว่าทาบ่อยแค่ไหนค่ะ แต่โดยทั่วไปลิปสติกแท่งนึงก็ใช้ได้หลายเดือนอยู่นะ ไม่ได้หมดไวขนาดนั้น

ถ้าเทียบกับลิปแมตต์ High-End แบรนด์อื่นๆ ราคาของ Burberry ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์กลางๆ ค่ะ ไม่ได้แพงหูฉี่จนเกินไปนัก

6. สรุปข้อดี-ข้อเสีย

ชั่งน้ำหนักกันหน่อย ดูสิว่ามีอะไรที่น่าโดน และอะไรที่อาจจะต้องคิดดูก่อน

ข้อดีงามพระรามแปด:

• แพ็คเกจสวยหรู ดูแพงมากกก: ถือแล้วเพิ่มความมั่นใจสุดๆ
• เนื้อลิปนุ่มลื่น ทาง่าย: ไม่เหมือนลิปแมตต์สมัยก่อนที่แห้งฝืด
• เม็ดสีแน่นชัด ปาดเดียวอยู่: กลบสีปากคล้ำได้ดี
• แมตต์แต่เบาสบายปาก: ไม่รู้สึกหนักหรือแห้งตึง
• ความติดทนกำลังดี: อยู่ได้นานพอสมควรในชีวิตประจำวัน

ข้อที่อาจจะต้องคิดดูก่อน:

• ราคาค่อนข้างสูง: งบจำกัดอาจจะต้องคิดหนักหน่อย
• มีโอกาสเลอะแมสก์ได้บ้าง: เหมือนลิปทั่วไป ไม่ได้ติดทนแบบร้อยเปอร์เซ็นต์
• ถ้าปากแห้งมากๆ อาจจะต้องบำรุงเป็นพิเศษ: แม้เค้าจะเคลมว่าชุ่มชื้น แต่พื้นฐานปากแห้งก็ยังต้องดูแลนะ

7. เหมาะกับใคร & ซื้อดีไหม?

แล้วใครล่ะที่เหมาะกับลิป Burberry Lip Velvet ตัวนี้?

เหมาะกับ:

• สาวๆ ที่มองหาลิปแมตต์คุณภาพดี สีชัด ติดทน และสบายปาก
• คนที่ชอบแพ็คเกจสวยหรู ถือแล้วดูดี
• คนที่มีงบประมาณพอสมควร และอยากลงทุนกับลิปเคาน์เตอร์แบรนด์
• คนที่ชอบเนื้อลิปแบบกำมะหยี่ นุ่มๆ ลื่นๆ

สถานการณ์แนะนำ: ทาไปทำงาน, ไปเที่ยว, ออกเดท, หรือแม้กระทั่งทาในชีวิตประจำวันก็ได้หมด เพราะมีหลายเฉดสีให้เลือกใช้ตามโอกาส

ควรซื้อเลยไหม?: ถ้าตรงกับสิ่งที่เราบอกไปด้านบน แล้วมีสีที่ถูกใจมากๆ จัดเลยค่ะ! คุณภาพเค้าดีจริง แต่ถ้ายังลังเลเรื่องราคา หรืออยากได้ลิปที่ติดทนแบบกินส้มตำแล้วไม่หลุดเลย อาจจะต้องลองดูตัวอื่นที่เน้นเรื่องความติดทนเป็นพิเศษไปเลยค่ะ หรือจะรอช่วงโปรโมชั่นตามห้างสรรพสินค้า หรือร้านค้าออนไลน์ใหญ่ๆ ก็เป็นทางเลือกที่ดีนะ!

8. เปรียบเทียบกับตัวอื่นๆ ในตลาด (อันนี้แถมให้ เผื่อช่วยตัดสินใจ!)

ถ้าเทียบกับลิปแมตต์เคาน์เตอร์แบรนด์อื่นๆ ที่อยู่ในเรทราคาใกล้เคียงกัน เช่น MAC Powder Kiss (เนื้อจะฟุ้งๆ นัวๆ ไม่ได้แมตต์สนิทเท่า), Chanel Rouge Allure Velvet (แมตต์แต่ยังมีความลื่น), Dior Rouge Dior Ultra Care Liquid (อันนี้ลิควิดแมตต์), Burberry Lip Velvet จะมีความเป็นเนื้อกำมะหยี่ที่ชัดเจน ให้ฟินิชแมตต์ที่ดูหรู ไม่แห้งเกินไป และแพ็คเกจก็กินขาดหลายๆ แบรนด์เลยค่ะ

หรือถ้าเทียบกับลิควิดลิปแมตต์รุ่นฮิตอย่าง Burberry Liquid Lip Velvet (รุ่นจิ้มจุ่ม) อันนั้นจะติดทนกว่า แต่ก็อาจจะมีความแมตต์และตึงปากมากกว่าแบบแท่งนี้ค่ะ อยู่ที่ความชอบเลย!

9. บริการหลังการขาย & ช่องทางการซื้อ: ซื้อง่ายหายห่วง!

ไม่ต้องกลัวว่าจะซื้อยาก หรือไม่มีที่ให้ลองค่ะ!

ช่องทางการซื้อ:

• เคาน์เตอร์ Burberry Beauty ตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำในไทย: อันนี้ไปลองสีได้สบายใจ BA บริการดี แต่ราคาก็อาจจะเต็มแรงหน่อย
• ร้าน Multi-Brand Beauty อย่าง Sephora: ก็มีให้ลองนะ บางทีมีโปรโมชั่นดีๆ ด้วย
• ร้านค้าออนไลน์อย่างเป็นทางการของ Burberry หรือ Central Online / M Online: มั่นใจว่าเป็นของแท้ จัดส่งถึงบ้าน สะดวกมาก
• แพลตฟอร์ม E-commerce ใหญ่ๆ เช่น Lazada, Shopee: มีร้าน Official ของแบรนด์ หรือร้านที่น่าเชื่อถือเข้ามาขายเยอะ บางทีมีโปรโมชั่นแรงๆ ลดราคาเยอะ มีโค้ดส่วนลด หรือ cashback ด้วย!

การรับประกันและการคืนสินค้า: ถ้าซื้อจากเคาน์เตอร์ หรือร้านค้าทางการ มักจะมีการรับประกันสินค้า ถ้ามีปัญหาเรื่องคุณภาพ หรือแพ้ ก็สามารถสอบถามเรื่องการเปลี่ยนหรือคืนได้ตามนโยบายของร้านค่ะ

โปรโมชั่น: แนะนำให้ส่องโปรโมชั่นช่วง Double Digit (เลขเบิ้ล) อย่าง 10.10, 11.11, 12.12 หรือช่วงเทศกาลต่างๆ ราคาจะดีงามมากค่ะ บางทีมีผ่อน 0% ด้วยนะ!

ระยะเวลาการจัดส่ง: ถ้าสั่งออนไลน์ โดยทั่วไปก็ใช้เวลาประมาณ 1-3 วันทำการค่ะ ขึ้นอยู่กับพื้นที่

10. บทสรุปและคำแนะนำสุดท้าย: สอยไม่สอยดีน้า?

มาถึงโค้งสุดท้ายแล้วค่ะ! สรุปแล้ว ลิป Burberry Lip Velvet เนื้อแมตต์ตัวนี้ น่าสอยไหม?

ถ้าคุณกำลังมองหาลิปแมตต์เนื้อกำมะหยี่ที่สบายปาก ไม่แห้งตึง เม็ดสีแน่นชัด และมีแพ็คเกจที่สวยหรูดูแพง พกไปไหนก็ไม่อายใคร แนะนำให้ซื้อค่ะ! คุณภาพเค้าสมราคาจริงๆ ค่ะ เป็นการลงทุนกับลิปที่ใช้ได้บ่อย และช่วยเสริมลุคให้ดูดีขึ้นได้เยอะเลย

แต่ถ้าคุณเป็นสายประหยัด งบจำกัด หรือไม่ซีเรียสเรื่องแพ็คเกจมากนัก ลิปแมตต์แบรนด์ไทย หรือ drugstore คุณภาพดีๆ ในราคาที่เข้าถึงง่ายก็มีให้เลือกเยอะแยะเลยนะคะ ลองเปรียบเทียบดูก่อนได้

สำหรับคนที่เน้นความติดทนแบบสุดๆ กินอะไรก็ไม่หลุดเลย อาจจะต้องไปลองดูพวกลิควิดลิปแมตต์ที่เน้นคุณสมบัตินี้มากกว่าค่ะ

ท้ายที่สุดแล้ว การเลือกลิปสติกก็เหมือนการเลือกคู่! ต้องลองเองถึงจะรู้ว่าใช่หรือไม่ใช่ ไปลองปาดที่เคาน์เตอร์ หรือดูรีวิวสีให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อนะคะ! ขอให้ทุกคนเจอลิปแท่งโปรดที่ใช่ค่ะ! 😊

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• รีวิว BURBERRY ลิปรุ่น BRIT SHINE สวยโดนใจ!
• ลิปบำรุงใหม่จาก Burberry Beauty: Brit Shine
• รีวิว 3 สีลิปสติก Burberry สวย ดูดี ไม่ควรพลาด
• รีวิวลิปกระแต: ความติดทนและความชัดเจน
• รีวิวลิปติดทน Barenbliss Dual Lip Cream