logo

รีวิว ลำโพง Marshall รุ่นยอดนิยม: เสียงดีไซน์คลาสสิก น่าซื้อไหมในปี 2024?

user avatar
ปวีณ์ ธีรกุล·06/30/2025 11:23
点赞
รีวิว ลำโพง Marshall รุ่นยอดนิยม: เสียงดีไซน์คลาสสิก น่าซื้อไหมในปี 2024?

Okay, I have gathered information about popular Marshall speaker models like Acton III, Stanmore III, Woburn III (home speakers), and Emberton II/III, Kilburn II, Willen II (portable speakers). I also have information about their prices in Thailand, features, design, connectivity, battery life (for portable ones), warranty, and places to buy (official website, major retailers like BaNANA, Studio7, Central Online, Powerbuy, Lazada, Shopee, Mercular, Ash Asia). I can structure the article according to the user's requirements, incorporating the Thai casual and humorous tone. I will focus on the popular Gen III home speakers (Acton, Stanmore, Woburn) and the popular portable Emberton II/III as key examples. Here's a refined plan: 1. **Introduction:** Hook the reader with the classic Marshall vibe and the burning question of whether it's worth buying in 2024. Mention the mix of iconic design and modern tech. 2. **Overview:** Briefly introduce the Marshall brand and its reputation. List the popular series (Home: Acton, Stanmore, Woburn; Portable: Emberton, Kilburn, Willen). Give a general price range for the brand in Thailand. Mention their positioning – from portable buddies to room-filling powerhouses. Summarize key brand highlights like classic design, powerful sound, and solid build. 3. **Design & Looks:** Describe the iconic Marshall aesthetic – the textured vinyl, the classic logo, the metal grille, the control knobs. Talk about the different sizes and how they fit into home decor or are easy to carry. Mention color options (black, cream, brown). Note the eco-friendly materials in newer models. 4. **Sound Experience:** Describe the signature Marshall sound – powerful, dynamic, great for rock but versatile. Explain features like Dynamic Loudness and the re-engineered soundstage in Gen III models for wider sound dispersion. Mention connectivity options (Bluetooth 5.2, AUX, RCA, sometimes HDMI for Woburn III). 5. **Ease of Use:** Highlight the simple, tactile control knobs. Mention the Marshall Bluetooth app for updates and EQ adjustments. Emphasize the straightforward pairing process. 6. **Battery/Power/Value:** Discuss battery life for portable models (Emberton II/III with 30+ hours). For home speakers, mention they are mains powered. Talk about the build quality and durability contributing to long-term value. Briefly touch upon the price relative to features and brand status. 7. **Pros & Cons:** List the major advantages (iconic design, powerful signature sound, durable build, user-friendly controls, good connectivity) and disadvantages (can be pricey, home speakers aren't portable, some portable lack advanced smart features). 8. **Who it's for & Buying Advice:** Recommend different models based on user needs (portable for travel/outdoors, home speakers for living rooms/parties). Advise on waiting for promotions during major Thai festivals or online shopping events. 9. **Comparison (Optional but good):** Briefly compare, e.g., Acton vs Stanmore vs Woburn for size/power, or Emberton vs Kilburn for portability. 10. **After-sales & Where to Buy:** Detail warranty information (usually 1 year from official retailers in Thailand, sometimes extendable). Mention official distributors like ASH Asia. List major online and offline retailers in Thailand (Lazada, Shopee, Central, Dotlife, BaNANA, Studio7, Munkong Gadget). Discuss payment options like installments often available online. Mention delivery times. 11. **Conclusion:** Summarize the overall recommendation – is it worth it in 2024? Reiterate who would benefit most from buying a Marshall speaker. Now I will write the HTML content based on this plan and the gathered information, incorporating the specified Thai tone.

สวัสดีค่าเพื่อนๆ ชาวแก๊งค์คนรักเสียงเพลง! วันนี้เมย์มีไอเท็มสุดคลาสสิกมารีวิวให้ฟังกัน นั่นก็คือลำโพง Marshall นั่นเองงง! แบรนด์นี้ขึ้นชื่อเรื่องดีไซน์เก๋าๆ สไตล์แอมป์กีตาร์ในตำนานที่เห็นแล้วใจละลาย แต่ๆๆ ปี 2024 แล้ว ลำโพง Marshall รุ่นยอดฮิตเนี่ย เสียงยังดีอยู่มั้ย? ดีไซน์ยังน่าโดนรึเปล่า? แล้วที่สำคัญ...น่าควักเงินซื้อไหมในปีนี้?! วันนี้เราจะมาเจาะลึกให้รู้กันไปเลยค่ะ!


1. ภาพรวมน้อง Marshall: รู้จักกันหน่อยก่อนจะเสียตังค์!

ถ้าพูดถึง Marshall ก็ต้องนึกถึงแบรนด์จากอังกฤษ ที่เริ่มต้นจากแอมป์กีตาร์ระดับโลก แล้วค่อยขยับมาทำลำโพงบ้าน ลำโพงพกพา ที่ยังคงเอกลักษณ์ความร็อกแอนด์โรลไว้เต็มเปี่ยม

รุ่นฮิตติดลมบนที่คนไทยเลิฟๆ ก็จะมีทั้งรุ่นตั้งโต๊ะตัวใหญ่ๆ อย่าง Acton III, Stanmore III, Woburn III และรุ่นพกพาสุดคูลอย่าง Emberton II/III, Kilburn II, Willen II

ช่วงราคา: มีตั้งแต่หลักพันปลายๆ (รุ่นพกพาเล็ก) ไปจนถึงสองหมื่นปลายๆ หรือสามหมื่นกว่าบาทเลย (รุ่นตั้งโต๊ะตัวท็อป)

ตำแหน่งสินค้า: มีตั้งแต่รุ่นเล็กๆ พกพาง่าย เสียงดีเกินตัว ไปจนถึงรุ่นใหญ่ที่ตั้งไว้ในห้องรับแขกแล้วเหมือนมีแอมป์ Marshall มาตั้งเท่ๆ ให้เสียงกระหึ่มสะเทือนซอย!

จุดเด่นแบบสรุปย่อ (ที่ทำให้ใจสั่น):

  • ดีไซน์โคตรคลาสสิก: วางตรงไหนก็สวย เหมือนเป็นเฟอร์นิเจอร์เก๋ๆ
  • เสียงเป็นเอกลักษณ์: เบสแน่น กลางชัด แหลมพุ่ง ฟังเพลงร็อกมันส์มาก แต่แนวอื่นก็เอาอยู่
  • วัสดุดี งานประกอบเนี้ยบ: ดูแข็งแรง ทนทาน สมราคา
  • ใช้งานง่าย: ควบคุมด้วยปุ่มหมุนสุดคลาสสิก หรือจะผ่านแอปฯ ก็ได้
  • เชื่อมต่อสะดวก: มีทั้ง Bluetooth ล่าสุด (5.2 ในรุ่น Gen III) และช่อง AUX/RCA

2. ดีไซน์ & รูปลักษณ์ภายนอก: หล่อจริง ไม่จกตา!

เห็นครั้งแรกก็ต้องร้อง "โอ้โห!" เลย เพราะดีไซน์มันกินขาดจริงๆ ตัวลำโพงจะหุ้มด้วยวัสดุคล้ายหนัง (แต่วัสดุรุ่นใหม่ๆ เค้าบอกว่าเป็น Vegan นะจ๊ะ) มีตะแกรงหน้าปักโลโก้ Marshall สีทองเด่นเป็นสง่า ด้านบนเป็นแผงควบคุมสีทองเหลืองอร่าม พร้อมลูกบิดควบคุมเสียง เบส แหลม ที่หมุนได้ฟีลลิ่งวินเทจสุดๆ

ขนาดและน้ำหนัก: รุ่นเล็กอย่าง Emberton หรือ Willen นี่คือจิ๋วแต่แจ๋ว พกพาสะดวก กำน้ำหนักได้สบายๆ (Emberton II หนัก 0.7 กก.) ส่วนรุ่นกลางอย่าง Stanmore III ก็เริ่มมีน้ำหนักหน่อยๆ (ประมาณ 4.3-4.25 กก.) และรุ่นใหญ่ Woburn III นี่คือน้ำหนักเอาเรื่อง ต้องมีที่วางเป็นหลักแหล่ง (ประมาณ 7.45 กก.) วางในห้องนั่งเล่น ห้องทำงาน หรือเป็นพร็อพในคาเฟ่คือขึ้นกล้องมาก

สี: หลักๆ จะมีสีดำ, สีครีม, และสีน้ำตาล (บางรุ่นมีสีพิเศษด้วย)

อุปกรณ์ในกล่อง: โดยทั่วไปก็จะมีตัวลำโพง, สายไฟ (สำหรับรุ่นตั้งโต๊ะ), สายชาร์จ USB-C (สำหรับรุ่นพกพา), คู่มือ


3. ประสบการณ์ในการใช้งานฟังก์ชันหลัก: เสียงดีจนเพื่อนบ้านต้องเหลียว!

เรื่องเสียงนี่แหละคือหัวใจหลักของ Marshall! เสียงเค้าจะมีความหนักแน่น เบสเป็นลูกๆ ฟังสนุก มีพลัง โดยเฉพาะเพลงร็อก เพลงที่มีจังหวะนี่คือถึงใจถึงอารมณ์ รุ่นใหม่ๆ Gen III เค้าปรับปรุงให้มีมิติเสียงกว้างขึ้นด้วย คือไม่ว่าจะนั่งมุมไหนของห้องก็ได้ยินเสียงชัดเจน

ความดัง: รุ่นใหญ่ๆ อย่าง Stanmore III หรือ Woburn III นี่คือเปิดปาร์ตี้ในบ้านได้สบายๆ เสียงดังกระหึ่ม ส่วนรุ่นพกพาก็เสียงดังเกินตัว เปิดฟังในห้อง หรือริมสระคือเอาอยู่

การปรับเสียง: ชอบตรงที่มีลูกบิดปรับ Bass กับ Treble นี่แหละค่ะ! อยากได้เบสหนักๆ เอาไปเปิดเพลงลูกทุ่งช่วงสงกรานต์ก็จัดไป หรือจะปรับแหลมให้ใสๆ ฟังเพลงสบายๆ ตอนจิบกาแฟยามบ่ายก็ทำได้ง่ายๆ ไม่ต้องเข้าแอปให้ยุ่งยาก

การเชื่อมต่อ: เชื่อม Bluetooth 5.2 ได้เร็วและเสถียรมาก แถมยังมีช่อง 3.5mm AUX ให้เสียบสายตรงได้ด้วย ใครชอบฟังเพลงจากเครื่องเล่นที่ไม่รองรับ Bluetooth ก็ยังใช้ได้ Woburn III มีช่อง RCA และ HDMI ต่อกับทีวีได้ด้วยนะ


ใช้งานง่ายไหม? มือใหม่หัดร็อกก็ใช้ได้!

ง่ายมากกกก! แค่เปิด Bluetooth มือถือแล้วกดปุ่ม Pairing ที่ลำโพง ก็เชื่อมต่อได้เลย การควบคุมหลักๆ อยู่ที่ลูกบิดด้านบน ซึ่งเข้าใจง่ายสุดๆ ใครไม่ถนัดลูกบิด จะใช้แอป Marshall Bluetooth ในมือถือก็ได้นะ เอาไว้ปรับ EQ หรืออัปเดตเฟิร์มแวร์

แอปฯ: ใช้งานง่าย หน้าตาเป็นมิตร

เสียง/ความร้อน: เสียงตอนเปิดดังๆ คือมันส์สะใจ แต่ไม่ได้มีเสียงรบกวนจี่ๆ หรือเสียงพัดลมให้กวนใจ ส่วนความร้อน รุ่นตั้งโต๊ะอาจมีอุ่นๆ บ้างถ้าเปิดนานๆ แต่ก็ปกติค่ะ


4. แบตเตอรี่ / พลังงาน / ความคุ้มค่าในระยะยาว

รุ่นตั้งโต๊ะ (Acton III, Stanmore III, Woburn III) ใช้ไฟบ้านจ้า ไม่มีแบตเตอรี่ในตัว

รุ่นพกพา: ตัวฮิตสุดๆ อย่าง Emberton II/III นี่แบตอึดมาก อยู่ได้เกิน 30 ชั่วโมงต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง ชาร์จเร็วก็ได้ด้วยนะ! Kilburn II ก็อยู่ได้ประมาณ 20 ชั่วโมง

ความคุ้มค่าระยะยาว: ด้วยความที่เป็น Marshall วัสดุดี งานประกอบแน่น ทำให้มันดูทนทาน ใช้งานได้นาน ตัวดีไซน์ก็ไม่ตกยุค เรียกว่าซื้อแล้วใช้ได้ยาวๆ คุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไป เพราะไม่ใช่แค่ลำโพง แต่เหมือนได้ของแต่งบ้านเก๋ๆ ด้วย


5. สรุปข้อดี-ข้อเสีย (ตรงไปตรงมา ไม่ต้องอวย!)

ข้อดี (ที่โดนใจคนไทย):

  • ดีไซน์คือชนะเลิศ: วางมุมไหนก็ดูดี มีสไตล์ เป็นได้ทั้งลำโพงและของแต่งบ้าน
  • เสียง Marshall มันคือ Marshall: เบสหนัก กลางชัด ฟังสนุก มีพลัง
  • ใช้งานง่าย: ลูกบิดคลาสสิกคือจุดเด่นที่ทำให้ควบคุมง่าย ไม่ซับซ้อน
  • มีหลายขนาดให้เลือก: จะพกพาไปเที่ยว หรือตั้งไว้เปิดเพลงในบ้านก็มีครบ
  • วัสดุและการประกอบดี: ดูแข็งแรงทนทาน น่าจะอยู่กันไปยาวๆ

ข้อเสีย (ที่อาจจะต้องคิดหนัก):

  • ราคาสูงกว่าลำโพงทั่วไป: จ่ายแพงกว่าเพื่อแลกกับดีไซน์และแบรนด์
  • รุ่นตั้งโต๊ะไม่ portable เลย: ตัวใหญ่และหนัก ยกไปไหนมาไหนไม่สะดวก
  • รุ่นพกพาบางรุ่นปรับ EQ บนตัวไม่ได้: ต้องใช้แอปฯ ช่วย
  • ฟังก์ชันอัจฉริยะอาจจะไม่เยอะเท่าแบรนด์อื่น: เน้นความเป็นลำโพงเพียวๆ

6. เหมาะกับใคร & คำแนะนำในการซื้อ

Marshall เหมาะกับ:

  • คนที่ชอบดีไซน์คลาสสิก วินเทจ: อยากได้ลำโพงที่เป็นของแต่งบ้านด้วย
  • คนชอบฟังเพลงที่มีเบส มีพลัง: เพลงร็อก ป๊อป ฮิปฮอป EDM นี่คือเข้าทาง
  • คนที่มองหาลำโพงตั้งโต๊ะเสียงดีสำหรับห้องนั่งเล่น: รุ่น Acton, Stanmore, Woburn ตอบโจทย์
  • คนที่มองหาลำโพงพกพาแบตอึด เสียงดี พกไปเที่ยว: รุ่น Emberton, Kilburn คือเพื่อนคู่ใจ

ควรซื้อเลยไหม? ถ้าใจรักและงบถึง ซื้อเลยค่ะ ไม่ผิดหวังเรื่องดีไซน์และเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ แต่ถ้าอยากได้ราคาดีๆ แนะนำให้รอช่วงโปรโมชั่นตามเทศกาลช้อปปิ้งใหญ่ๆ เช่น 11.11, 12.12, Mid-Year Sale หรือช่วงปีใหม่ มีจัดลดราคาอยู่เรื่อยๆ ค่ะ


7. เปรียบเทียบกับสินค้าคล้ายๆ กัน (ถ้ายังลังเล)

ถ้าเทียบกับแบรนด์อื่นในดีไซน์ใกล้เคียงกัน Marshall อาจจะให้เสียงที่ออกแนวดิบๆ พุ่งๆ กว่า เน้นความเป็นดนตรีร็อก ส่วนเรื่องฟังก์ชันอัจฉริยะต่างๆ อย่าง Google Assistant หรือ Alexa บางรุ่นของ Marshall อาจจะไม่มี (ยกเว้นรุ่น Uxbridge Voice)

เทียบ Marshall ด้วยกันเอง:

  • Acton III: ตัวเล็กสุดในซีรีส์ Home เหมาะกับห้องไม่ใหญ่มาก เสียงดีเกินตัว
  • Stanmore III: ตัวกลาง ยอดนิยม สมดุลทั้งขนาดและความดัง เหมาะกับห้องนั่งเล่นทั่วไป
  • Woburn III: ตัวท็อป เสียงดังสุด เบสแน่นสุด เหมาะกับพื้นที่กว้างๆ หรือคนชอบเบสหนักๆ
  • Emberton II/III: ตัวพกพาสุดฮิต ขนาดเล็ก แบตอึด กันน้ำได้ดี เหมาะกับสายเที่ยว
  • Kilburn II: ตัวพกพาที่ใหญ่ขึ้นมาหน่อย เสียงดังขึ้น มีหูหิ้ว พกไปตั้งแคมป์ได้

8. บริการหลังการขายและช่องทางการซื้อ: ซื้อที่ไหนดี ได้ของแท้ชัวร์!

การรับประกันสินค้า Marshall ในไทย ส่วนใหญ่รับประกัน 1 ปีค่ะ บางทีมีโปรโมชั่นขยายประกันด้วย ซื้อผ่านตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในไทยอย่าง ASH Asia หรือร้านค้าใหญ่ๆ ที่เป็น Authorized Dealer จะมั่นใจได้ว่าเป็นของแท้และมีบริการหลังการขายค่ะ

ช่องทางการซื้อยอดนิยมในไทย:

  • ร้านค้าออนไลน์ Official Store: ใน Lazada, Shopee มักจะมี Official Store ของ Marshall หรือตัวแทนจำหน่ายอย่าง Ash Asia ให้ซื้อ
  • ร้านค้า Gadget ชื่อดัง: เช่น Dotlife, Munkong Gadget, Studio7, BaNANA อันนี้เข้าไปลองฟังเสียงก่อนซื้อได้
  • ห้างสรรพสินค้า: แผนกเครื่องเสียงใน Central, Powerbuy ก็มี Marshall ให้เลือกค่ะ

โปรโมชั่นและการผ่อนชำระ: ตามแพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง Lazada, Shopee, Powerbuy มักจะมีโค้ดส่วนลด, โปรโมชั่นส่งฟรี, หรือตัวเลือกผ่อนชำระ 0% กับบัตรเครดิตที่ร่วมรายการด้วย แนะนำให้เช็คดีๆ ค่ะ บางทีซื้อออนไลน์ได้ราคาดีกว่าหน้าร้าน แถมส่งถึงบ้านเลย


9. บทสรุปและคำแนะนำในการซื้อ: คุ้มไหม... ขึ้นอยู่กับคุณ!

จากที่รีวิวมาทั้งหมด ถ้าถามว่าลำโพง Marshall รุ่นยอดนิยมในปี 2024 น่าซื้อไหม? คำตอบคือ "น่าซื้อมาก...ถ้าตรงกับไลฟ์สไตล์และความต้องการของคุณ"

ถ้าคุณเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ ชอบความคลาสสิกเหนือกาลเวลา และชอบเสียงเพลงที่มีพลัง เบสแน่น ฟังสนุก ไม่ว่าจะเอาไว้เปิดในบ้าน หรือพกไปสร้างบรรยากาศดีๆ นอกบ้าน Marshall คือตัวเลือกที่ตอบโจทย์และคุ้มค่ากับการลงทุนค่ะ

แนะนำให้พิจารณา:

  • งบประมาณ: Marshall ราคาไม่ได้ถูก แต่ก็ได้คุณภาพและแบรนด์ที่แข็งแรง
  • สถานที่ใช้งานหลัก: ถ้าใช้ในบ้านอย่างเดียว จัดรุ่น Home ได้เลย เลือกขนาดตามขนาดห้อง ถ้าเน้นพกพา ไปเที่ยว ต้องรุ่น Portable เท่านั้น
  • ฟังก์ชันที่ต้องการ: ต้องการแค่เสียงดี ดีไซน์สวย หรือต้องการฟังก์ชันอัจฉริยะอื่นๆ ด้วย? Marshall จะเน้นความเป็นลำโพงดนตรีมากกว่า

หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจนะคะ! ใครสอย Marshall รุ่นไหนมาแล้ว อย่าลืมมาอวดกันบ้างนะ! 😊

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

บทความที่เกี่ยวข้อง

โอ้โห! ใครสายลำโพงเก๋าๆ ดีไซน์คลาสสิก เห็น Marshall แล้วใจมันสั่นแน่นอน! โดยเฉพาะเจ้า Marshall Stanmore II ตัวนี้นี่แหละ ที่หลายคนเล็งมานาน เพราะขนาดกำลังดี วางตรงไหนในบ้านก็ดูดีมีชาติตระกูล แถมเสียงยังกระหึ่มสะใจ! แต่เอ๊ะ... ลำโพงรุ่นนี้ที
รีวิว ลำโพง Marshall Stanmore II: ลำโพง Bluetooth เสียงดี ดีไซน์คลาสสิก เหมาะกับใคร?
สวัสดีจ้าทุกคนนน! วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยเรื่องลำโพงจิ๋วแต่แจ๋ว เสียงดีเกินตัวอย่าง Focal Chorus 706 กัน ใครที่กำลังมองหาลำโพงวางหิ้ง (Bookshelf Speaker) คุณภาพดี เสียงใส รายละเอียดพุ่ง แต่ไซส์กำลังน่ารัก วางตรงไหนก็สวย มามุงทางนี้เลยจ้า เพร
ลำโพง Focal Chorus 706 ราคาล่าสุด รีวิวเสียงดีแค่ไหน?
สวัสดีค่าเพื่อนๆ ชาวแก๊งค์คนรักเสียงเพลงและของแต่งบ้านสไตล์คูลๆ วันนี้เราจะมาเจาะลึกถึงลำโพงตัวตึง ดีไซน์กินใจที่ใครเห็นก็ต้องเหลียวหลังอย่าง Marshall กันค่ะ! ได้ข่าวว่าปี 2024 นี้รุ่นฮิตๆ เค้าอัปเกรดอะไรใหม่ๆ น่าสนใจเพียบ แล้วเสียงจะยังเด็
รีวิว ลำโพง Marshall รุ่นยอดนิยม: เสียงดีไซน์คลาสสิก น่าซื้อไหมในปี 2024?

บทความล่าสุดดูเพิ่มเติม

“รีวิว เหล้า Beehive: วิสกี้รสชาติดี ราคาเป็นมิตร น่าลองไหม?” เป็นคำถามที่หลายคนน่าจะสะดุดหู โดยเฉพาะสายช้อปออนไลน์ที่ช่วงหลังๆ ก็อยากลองอะไรใหม่ๆ ที่ทั้ง ถูก ปลอดภัย และมีรีวิวเยอะ บางคนก็แอบงงว่า เอ๊ะ! เหล้าซื้อออนไลน์ได้เหรอ? มันดีจริงไห
รีวิว เหล้า Beehive: วิสกี้รสชาติดี ราคาเป็นมิตร น่าลองไหม?
กล้อง Mirrorless ตัวไหนที่ฮิตตลอดกาล แถมราคายังน่ารักน่าลุ้น? หนึ่งในนั้นต้องมีชื่อ Canon EOS M50 แน่นอน! ตั้งแต่เปิดตัวมาก็เป็นขวัญใจทั้งมือใหม่หัดถ่าย ยันสายคอนเทนต์ แต่ผ่านมาหลายปีแสง (ในวงการกล้องนะ!) ถึงปี 2024 แล้วเนี่ย เจ้า M50 ตัวนี
รีวิวล่าสุด Canon EOS M50: กล้อง Mirrorless ยอดฮิต ยังน่าใช้ไหมในปี 2024?
สวัสดีค่าทุกคนนนน! 👋 วันนี้แม่จะมาป้ายยา eh eh eh ไม่ใช่! วันนี้แม่จะมารีวิวหูฟังไร้สายตัวนึงที่บอกเลยว่า ราคาดีต่อใจ คุณภาพเสียงใช้ได้ แถมยังอึดถึกทนพอตัว นั่นก็คือเจ้า Mpow M5 นั่นเองค่า! ✨ หลายคนคงเคยเห็นผ่านตาในออนไลน์มาบ้าง แต่สงสัยใช
Mpow M5 รีวิว: หูฟังไร้สายราคาเบา คุณภาพเสียงเป็นยังไง?

บทความที่แนะนำ