Dell Latitude 5400 รีวิว: โน๊ตบุ๊คทำงานประสิทธิภาพดี เหมาะกับใคร?


สวัสดีค่าทุกคน! วันนี้ขอมาเม้าท์มอยถึง Gadget คู่ใจคนทำงานยุคนี้ นั่นก็คือ "โน๊ตบุ๊ค" นั่นเองค่ะ! ใครที่กำลังมองหาคู่หูใหม่ไว้ลุยงาน ทำมาหากิน หรือจะเอาไว้ไถฟีด ดูซีรีส์ยาวๆ ในวันหยุดยาวแบบไทยๆ ต้องมาฟังทางนี้เลย เพราะวันนี้เรามีพระเอก (หรือนางเอก?) ที่น่าสนใจมากๆ มารีวิวให้ฟังกันแบบจัดเต็ม นั่นก็คือ Dell Latitude 5400 นั่นเอง!
หลายคนอาจจะเคยได้ยินชื่อ Dell Latitude มาบ้างว่าเป็นโน๊ตบุ๊คสายทำงาน ที่เหล่าบริษัทหรือองค์กรใหญ่ๆ นิยมใช้กัน แต่จริงๆ แล้วเจ้าตัวนี้มันเหมาะกับเราๆ ท่านๆ ที่เป็นฟรีแลนซ์ ทำงานที่บ้าน หรือนักศึกษาที่ต้องการโน๊ตบุ๊คคู่ใจเครื่องเดียวจบ ครบทุกงานจริงหรือเปล่า? แล้วสเปก การใช้งานจริงเป็นยังไง มีข้อดีข้อเสียตรงไหนที่ต้องรู้ก่อนควักกระเป๋า วันนี้เราจะพาไปเจาะลึกกันแบบไม่มีกั๊ก พร้อมภาษาบ้านๆ สไตล์เราเอง เตรียมกาแฟ ขนมให้พร้อม แล้วไปดูกันเล้ย!
1. ภาพรวม: รู้จัก Dell Latitude 5400 กันก่อนจ้า!
ก่อนจะไปดูหน้าตาหรือไส้ใน มาทำความรู้จักพื้นฐานของเจ้า Latitude 5400 กันสักหน่อยค่ะ
แบรนด์: Dell (แน่นอนอยู่แล้ว!)
รุ่น: Latitude 5400
ปีที่วางขาย: เปิดตัวมาตั้งแต่ช่วงกลางปี 2019 ถือเป็นรุ่นพี่ที่อยู่ในตลาดมาสักพัก แต่ความเก๋ายังอยู่นะจะบอกให้
ช่วงราคาขาย: ตอนเปิดตัวราคาอาจจะแรงนิดหน่อย (เห็นว่าเริ่มต้นประมาณ 3 หมื่นกว่าบาทสำหรับสเปกเริ่มต้น) แต่ปัจจุบันถ้าเป็น "เครื่องมือสอง" หรือ "Refurbished" ราคาจะน่ารักขึ้นเยอะเลยค่ะ
วางตำแหน่งสินค้า: เจ้า Latitude 5400 นี่จัดอยู่ในกลุ่มโน๊ตบุ๊คสำหรับธุรกิจ (Business Laptop) ระดับกลางๆ ของ Dell เลยค่ะ เน้นความทนทาน ประสิทธิภาพที่ไว้ใจได้ และฟีเจอร์ด้านความปลอดภัย เหมาะกับคนที่ใช้ทำงานจริงจัง ไม่ได้เน้นสวยปังอลังการเท่าไหร่ แต่เน้นใช้งานได้ทุกวัน ไม่ค่อยงอแง
สรุปจุดเด่นคร่าวๆ (ที่ต้องรู้!):
- ความทนทาน: สร้างมาให้ลุยงานจริงจัง ผ่านมาตรฐานกองทัพ (MIL-STD 810G) ตกหล่น กระแทกนิดหน่อยไม่สะเทือน!
- ประสิทธิภาพสำหรับงาน: ใช้ CPU Intel Core i Gen 8 (มีตั้งแต่ i3 ถึง i7) พร้อม RAM DDR4 และ SSD M.2 เปิดโปรแกรมทำงานพร้อมกันหลายๆ อย่างสบายๆ
- แบตเตอรี่อึด: อยู่ได้ยาวๆ ทั้งวันทำงาน ไม่ต้องวิ่งหาปลั๊กบ่อยๆ
- พอร์ตเชื่อมต่อเยอะ: ต่ออุปกรณ์เสริมได้จุใจ ทั้ง USB-A, USB-C (บางรุ่นมี Thunderbolt 3), HDMI, LAN ครบมาก!
- ฟีเจอร์ความปลอดภัย: มีตัวเลือกสแกนลายนิ้วมือ กล้อง IR สแกนหน้า และชิป TPM ที่ช่วยเรื่องความปลอดภัยของข้อมูล
2. ดีไซน์ & รูปลักษณ์ภายนอก: เรียบๆ แต่ดูดีมีชาติตระกูล
ยอมรับเลยว่าดีไซน์ของ Latitude 5400 อาจจะไม่ได้หวือหวาเท่าโน๊ตบุ๊ค consumer ทั่วไปที่เน้นความบางเบา สีสันสดใส แต่เขาก็มีสไตล์ในแบบของตัวเองนะ
การออกแบบ: เป็นทรง Notebook Clamshell ทั่วไป สีส่วนใหญ่จะเป็นดำด้าน หรือเทาๆ ดูสุขุม เรียบร้อย เหมาะกับการวางบนโต๊ะทำงาน หรือในห้องประชุมมากๆ
วัสดุที่ใช้: ตัวเครื่องทำจากวัสดุคุณภาพดี บางส่วนใช้คาร์บอนไฟเบอร์เสริมความแข็งแรง และมีส่วนประกอบของวัสดุรีไซเคิลด้วยนะ สัมผัสแล้วรู้สึกได้ถึงความแน่นหนา ไม่ก๊องแก๊ง
ขนาดและน้ำหนัก: ขนาดหน้าจอ 14 นิ้ว น้ำหนักเริ่มต้นประมาณ 1.48 - 1.52 กก. ถือว่าไม่ได้เบาหวิวเหมือน Ultrabook ตัวท็อปๆ แต่ก็ไม่หนักจนเป็นภาระ พกใส่กระเป๋าเป้ไปทำงาน ไปเรียน หรือ Work from Cafe ก็พอได้อยู่ค่ะ
สีที่มีให้เลือก: ส่วนใหญ่ที่เห็นในตลาดจะเป็นสีดำ หรือสีเทาเข้มๆ ไม่ค่อยมีสีแฟนซีให้เลือกเท่าไหร่
ความสะดวกในการพกพา: ด้วยน้ำหนักประมาณนี้และการออกแบบที่เน้นความทนทาน ทำให้พกพาไปนู่นมานี่ได้ค่อนข้างมั่นใจ ไม่ต้องกลัวว่าจะบุบสลายง่ายๆ ถ้าต้องเดินทางบ่อยๆ หรือต้องเอาไปพรีเซนต์งานนอกสถานที่ก็สะดวกดีค่ะ
อุปกรณ์เสริมในกล่อง: ปกติก็จะมาพร้อมกับตัวเครื่อง, อะแดปเตอร์ชาร์จไฟ และคู่มือการใช้งานพื้นฐานค่ะ อาจจะมีตัวเลือกอื่นๆ อย่าง Smart Card Reader หรือ Thunderbolt 3 เพิ่มเติมได้ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อยที่ซื้อมา
3. ประสบการณ์ในการใช้งานฟังก์ชันหลัก: ทำงานลื่นไหลหายห่วง
มาถึงเรื่องสำคัญ นั่นก็คือประสิทธิภาพในการทำงาน! Dell Latitude 5400 เกิดมาเพื่อสิ่งนี้ค่ะ
ทดสอบประสิทธิภาพ: ด้วยสเปก Core i5 หรือ i7 Gen 8, RAM DDR4 และ SSD NVMe การใช้งานทั่วๆ ไปนี่เหลือเฟือเลยค่ะ เปิดโปรแกรม Office (Word, Excel, PowerPoint) พร้อมกันหลายไฟล์, เปิดเว็บหลายๆ แท็บสลับไปมา, ประชุมออนไลน์ผ่าน Zoom หรือ Microsoft Teams ก็ทำได้ลื่นไหลดีค่ะ ไม่ได้รู้สึกหน่วงหรือค้างให้เสียอารมณ์
หน้าจอ: หน้าจอขนาด 14 นิ้ว ส่วนใหญ่เป็นความละเอียด Full HD (1920x1080) เป็นแบบจอด้าน (Anti-glare) ซึ่งดีมากๆ สำหรับการทำงานในที่ที่มีแสงเยอะๆ หรือนั่งใกล้หน้าต่างช่วงแดดเปรี้ยงๆ ของเมืองไทย จะได้ไม่สะท้อนจนปวดตา แต่อาจจะไม่ได้สว่างจ้าหรือสีสันสดใสเท่าโน๊ตบุ๊คสำหรับสายดูหนังฟังเพลงหรือกราฟิกโดยเฉพาะนะคะ เหมาะกับการทำงานเอกสารมากกว่า
คีย์บอร์ดและทัชแพด: คีย์บอร์ดของ Dell Latitude ขึ้นชื่อเรื่องความสบายในการพิมพ์อยู่แล้ว ปุ่มมีระยะยุบที่กำลังดี เด้งรับนิ้ว ทำให้พิมพ์งานนานๆ ได้ไม่เมื่อยมือ บางรุ่นมีไฟ Backlit ใต้คีย์บอร์ดด้วย ซึ่งสะดวกมากๆ ถ้าต้องทำงานในที่มืดๆ (แต่บางรุ่นที่ขายในไทยอาจจะไม่มี ต้องเช็คสเปกดีๆ) ทัชแพดก็ตอบสนองไว แม่นยำ รองรับ Multi-touch Gesture ของ Windows ได้ดีค่ะ
พอร์ตเชื่อมต่อ: อันนี้ต้องยกนิ้วให้เลย เพราะให้มาแบบจุใจจริงๆ มีทั้ง USB 3.1 Type-A หลายพอร์ต, HDMI สำหรับต่อออกจอหรือโปรเจคเตอร์, พอร์ต LAN (RJ45) สำหรับเสียบสายเน็ต (อันนี้สำคัญมากสำหรับบางออฟฟิศหรือคนที่ต้องการความเสถียร), ช่องอ่าน SD Card, และที่สำคัญคือ USB Type-C ซึ่งบางรุ่นรองรับ Thunderbolt 3 ด้วยนะ! ทำให้ต่อ Docking Station หรืออุปกรณ์เสริมอื่นๆ ได้สะดวกมากๆ แทบไม่ต้องพึ่ง Dongle เลยทีเดียว
ฟีเจอร์ความปลอดภัย: สำหรับคนที่กังวลเรื่องความปลอดภัยของข้อมูล รุ่นนี้มีให้เลือกทั้งที่สแกนลายนิ้วมือตรงปุ่มเปิดเครื่อง หรือกล้อง IR ที่รองรับ Windows Hello สแกนหน้าเพื่อ Log in ได้เลย สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยกว่าการพิมพ์รหัสผ่านเยอะค่ะ
4. ประสบการณ์การใช้งาน & ความง่ายในการใช้: ใช้ง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก!
ถ้าคุณคุ้นเคยกับการใช้ Windows อยู่แล้ว การมาใช้ Dell Latitude 5400 ก็เหมือนได้เพื่อนคู่ใจคนใหม่ที่รู้ใจกันดีอยู่แล้วค่ะ
ใช้ง่ายมั้ย?: ใช้ง่ายมากๆ ค่ะ เป็นโน๊ตบุ๊ค Windows ปกติ ไม่ได้มีอะไรซับซ้อนเป็นพิเศษ ไม่ต้องเรียนรู้อะไรใหม่เยอะ แค่เปิดเครื่อง ติดตั้งโปรแกรมที่ต้องใช้ก็พร้อมลุยงานได้เลย
ระบบซอฟต์แวร์: ส่วนใหญ่มาพร้อม Windows 10 Pro ซึ่งเป็นเวอร์ชันสำหรับองค์กร มีฟีเจอร์เรื่องความปลอดภัยและการจัดการที่ดีกว่าเวอร์ชัน Home ระบบโดยรวมค่อนข้างเสถียร ไม่ค่อยมีปัญหาจุกจิกค่ะ
เสียงดังมั้ย ร้อนเร็วมั้ย?: ในการใช้งานปกติทั่วไป เช่น เปิดเว็บ ทำงานเอกสาร ดูหนังฟังเพลง เครื่องจะทำงานเงียบมากๆ ค่ะ แทบไม่ได้ยินเสียงพัดลมเลย แต่ถ้าเปิดโปรแกรมที่ต้องใช้ทรัพยากรเยอะๆ ติดต่อกันเป็นเวลานานๆ เช่น แปลงไฟล์วิดีโอ หรือเปิดหลายโปรแกรมพร้อมกันมากๆ อาจจะมีเสียงพัดลมดังขึ้นบ้าง และเครื่องจะเริ่มอุ่นๆ แต่ก็ไม่ได้ร้อนจนน่าตกใจค่ะ ระบบระบายความร้อนทำได้ค่อนข้างดีสำหรับโน๊ตบุ๊คทำงาน เหมาะกับสภาพอากาศร้อนๆ ของบ้านเราอยู่
รองรับภาษาไทยมั้ย?: แน่นอนว่ารองรับภาษาไทย 100% ทั้งบน Windows และโปรแกรมต่างๆ ค่ะ ส่วนแอปพลิเคชันที่ใช้ในไทย ไม่ว่าจะเป็นแอปธนาคาร แอปสั่งอาหาร หรือแอปโซเชียลมีเดียต่างๆ ก็ใช้งานได้ไม่มีปัญหาอะไรค่ะ
5. แบตเตอรี่ / พลังงาน / ความคุ้มค่าในระยะยาว: อึด ทน คุ้ม!
แบตเตอรี่นี่เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นที่ทำให้ Latitude 5400 เหมาะกับการพกพาไปทำงานนอกสถานที่ค่ะ
ระยะเวลาการใช้งานต่อการชาร์จ: Dell Latitude 5400 มีตัวเลือกแบตเตอรี่หลายขนาด (เช่น 42Whr, 51Whr, 68Whr) รุ่นแบตเตอรี่ความจุเยอะๆ อย่าง 68Whr สามารถใช้งานต่อเนื่องได้ยาวนานถึง 9-13 ชั่วโมงในการใช้งานทั่วไปเลยนะ นั่งทำงานที่ร้านกาแฟ หรือพกไปประชุมข้างนอกได้สบายๆ แทบไม่ต้องพกที่ชาร์จไปด้วย
ความเร็วในการชาร์จ: รองรับเทคโนโลยี ExpressCharge ของ Dell ค่ะ ถ้าใช้อะแดปเตอร์ที่รองรับ สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ถึง 80% ภายในเวลาประมาณหนึ่งชั่วโมง สะดวกมากๆ เวลาที่ต้องการรีบใช้เครื่อง
ค่าใช้จ่ายระยะยาว: เนื่องจากเป็นโน๊ตบุ๊คสำหรับธุรกิจ อะไหล่ต่างๆ เช่น แบตเตอรี่ หรือคีย์บอร์ด ค่อนข้างหาเปลี่ยนได้ง่าย (ตามศูนย์บริการ Dell หรือร้านซ่อมที่ไว้ใจได้) และมักจะมีอะไหล่สำรองรองรับ ทำให้สบายใจได้เรื่องการซ่อมบำรุงในระยะยาวค่ะ
วิเคราะห์ความคุ้มค่า: ถ้ามองในแง่ของ "เครื่องใหม่" ราคาอาจจะสูงหน่อย แต่ถ้ามองหา "เครื่องมือสอง" หรือ "Refurbished" ในสภาพดีๆ ล่ะก็ Dell Latitude 5400 ถือเป็นตัวเลือกที่ คุ้มค่ามากๆ ค่ะ ได้โน๊ตบุ๊คสเปกดี ทนทาน ฟีเจอร์ครบ ในราคาที่จับต้องได้มากขึ้นเยอะ เหมาะกับคนที่มีงบจำกัดแต่ต้องการเครื่องไว้ใจได้สำหรับทำงานหนักๆ
6. สรุปข้อดี-ข้อเสีย: มีทั้งดีและมีที่ต้องชั่งใจ
มาสรุปข้อดีข้อเสียแบบชัดๆ กันไปเลย จะได้ตัดสินใจง่ายขึ้นค่ะ
ข้อดี (ที่คนไทยน่าจะชอบ):
- ทนทานได้ใจ: ผ่านมาตรฐานกองทัพ ใช้แล้วสบายใจ ไม่ต้องกลัวพังง่ายๆ
- สเปกแรงพอตัว: ทำงานเอกสาร เปิดเว็บหนักๆ ประชุมออนไลน์ ลื่นไหลไม่มีสะดุด
- แบตอึดจริงจัง: อยู่ได้นานข้ามวัน ชาร์จทีเดียวทำงานยาวๆ
- พอร์ตเยอะสะใจ: ต่ออุปกรณ์เสริมได้ครบครัน ไม่ต้องพึ่ง Adapter เยอะแยะ
- ฟีเจอร์ปลอดภัยแน่น: สแกนนิ้ว สแกนหน้า ล็อกเครื่องไว มั่นใจเรื่องข้อมูล
ข้อเสีย (ที่อาจทำให้ลังเลใจ):
- ดีไซน์เรียบๆ: ไม่ได้สวยหรู ดูทันสมัยเท่าโน๊ตบุ๊ค consumer ทั่วไป
- หน้าจออาจไม่ปังเท่าไหร่: ความสว่างและสีสันอาจจะไม่โดดเด่น เหมาะกับงานเอกสารมากกว่า
- น้ำหนัก: ไม่ได้เบาเท่า Ultrabook ตัวบางๆ อาจจะรู้สึกหนักหน่อยถ้าต้องพกไปไหนมาไหนตลอดเวลา
- เป็นรุ่นเก่า: ใช้ CPU Gen 8 ซึ่งไม่ใช่รุ่นล่าสุดแล้ว อาจจะไม่ได้แรงเท่ารุ่นใหม่ๆ (แต่ก็เพียงพอสำหรับงานส่วนใหญ่)
- ราคาเครื่องใหม่ค่อนข้างสูง: ถ้าซื้อมือหนึ่งราคาอาจจะแรงไปสำหรับบางคน
7. เหมาะกับใคร & คำแนะนำในการซื้อ: ใครควรสอยดีนะ?
สรุปแล้ว Dell Latitude 5400 เหมาะกับคนกลุ่มไหน หรือการใช้งานแบบไหนบ้าง?
เหมาะกับผู้ใช้แบบไหน:
- คนทำงานออฟฟิศ/พนักงานบริษัท: ถ้าบริษัทจัดหาให้ หรือต้องการโน๊ตบุ๊คที่ทนทาน ปลอดภัย ไว้ใจได้สำหรับงานในองค์กร คือใช่เลยค่ะ
- ฟรีแลนซ์ / เจ้าของธุรกิจขนาดเล็ก: ที่ต้องการโน๊ตบุ๊คคู่ใจสำหรับทำงาน ทำเอกสาร ติดต่อลูกค้า ประชุมออนไลน์ เครื่องเดียวเอาอยู่ ไม่ต้องกังวลเรื่องจุกจิก
- นักศึกษา: ที่ต้องการโน๊ตบุ๊คที่ทนทาน พกไปเรียนได้ ทำรายงาน พรีเซนต์งาน และใช้ได้ยาวๆ
- คนที่เน้นความทนทาน: ใครที่ชอบทำเครื่องตกหล่นบ่อยๆ หรือใช้งานแบบสมบุกสมบันนิดหน่อย รุ่นนี้ตอบโจทย์มากค่ะ
เหมาะกับการใช้งานแบบไหน:
- ทำงานเอกสาร / เข้าเว็บ / อีเมล: สบายหายห่วง เร็วแรงลื่นไหล
- ประชุมออนไลน์ (Video Conference): กล้อง Webcam และไมโครโฟนใช้ได้ดีสำหรับการประชุม
- พรีเซนต์งาน: มีพอร์ต HDMI และ USB-C ต่อออกจอได้ง่าย
- ใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน: ดูหนัง ฟังเพลง เล่นโซเชียล ทำได้หมด แต่ไม่ใช่จุดเด่นหลัก
ควรซื้อเลยไหม? หรือรอช่วงโปรโมชั่น?: ถ้าต้องการเครื่องใหม่เอี่ยมอ่อง อาจจะต้องดูงบประมาณและเปรียบเทียบกับรุ่นใหม่ๆ ในตลาดก่อนค่ะ แต่ถ้าโอเคกับ "เครื่องมือสอง" หรือ "Refurbished" ที่ผ่านการตรวจเช็คสภาพมาแล้ว ถือเป็นโอกาสที่ดีมากๆ ที่จะได้เครื่องดีๆ ในราคาที่ถูกลงเยอะ แนะนำให้ลองดูตามร้านขายคอมมือสอง หรือร้านออนไลน์ที่น่าเชื่อถือ และอาจจะรอช่วงโปรโมชั่นใหญ่ๆ อย่าง 11.11, 12.12 หรือช่วงปลายปี ก็อาจจะได้ราคาที่ดีขึ้นไปอีกค่ะ
8. เปรียบเทียบกับสินค้าคล้ายๆ กัน (แอบดูคู่แข่งนิดนึง)
ในตลาดโน๊ตบุ๊คสำหรับธุรกิจ ก็มีคู่แข่งที่น่าสนใจเหมือนกันค่ะ
เทียบกับแบรนด์อื่นที่ราคาใกล้เคียง (มือสอง): อาจจะลองดูพวก HP ProBook หรือ Lenovo ThinkPad ในซีรีส์ L หรือ T รุ่นเก่าๆ ที่สเปกและปีใกล้เคียงกันค่ะ คุณภาพและความทนทานจะคล้ายๆ กัน แต่ดีไซน์และฟีเจอร์เล็กๆ น้อยๆ อาจจะต่างกันไป ลองไปจับไปลองเล่นดูก่อนได้ถ้ามีโอกาส
เทียบกับรุ่นอื่นของ Dell เอง: ถ้าเทียบกับ Dell Latitude รุ่นใหม่กว่า (เช่น 5410, 5420) แน่นอนว่ารุ่นใหม่กว่าจะได้สเปกที่ทันสมัยกว่า (CPU Gen ใหม่กว่า) อาจจะเบาบางลงนิดหน่อย และมีฟีเจอร์ใหม่ๆ เพิ่มเข้ามา ถ้ามีงบถึงรุ่นใหม่กว่าและต้องการเทคโนโลยีล่าสุด ก็อาจจะพิจารณารุ่นใหม่ไปเลยค่ะ แต่ถ้าเน้นความคุ้มค่าและสเปกที่เพียงพอต่อการใช้งาน Dell Latitude 5400 ตัวนี้ก็ยังเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากๆ
9. บริการหลังการขายและช่องทางการซื้อ: ซื้อที่ไหนดีนะ?
เรื่องบริการหลังการขายของ Dell ค่อนข้างโอเคเลยค่ะ โดยเฉพาะถ้าซื้อเครื่องใหม่ หรือเครื่อง Refurbished จากผู้ขายที่ให้ประกัน
การรับประกัน: ถ้าเป็นเครื่องใหม่ ส่วนใหญ่จะมีการรับประกัน Onsite Service คือถ้าเครื่องมีปัญหา เจ้าหน้าที่ Dell จะมาซ่อมให้ถึงที่เลยค่ะ สะดวกมากๆ สำหรับคนที่ไม่สะดวกยกเครื่องไปศูนย์ ส่วนเครื่อง Refurbished การรับประกันจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับผู้ขาย บางที่อาจจะให้ 3 เดือน, 6 เดือน หรือ 1 ปี ต้องสอบถามรายละเอียดกับผู้ขายให้ชัดเจนค่ะ
เครือข่ายการให้บริการ: Dell มีศูนย์บริการและพาร์ทเนอร์ในไทยค่อนข้างเยอะ สามารถติดต่อสอบถามหรือส่งเครื่องซ่อมได้ไม่ยากค่ะ การเคลมอะไหล่บางอย่าง เช่น แบตเตอรี่ ก็ค่อนข้างสะดวกด้วยนะ
ช่องทางการซื้อ:
- ร้านค้าออนไลน์เจ้าใหญ่ๆ: Lazada, Shopee มีร้านที่ขาย Dell Latitude 5400 ทั้งแบบมือหนึ่ง (อาจจะมีน้อยแล้ว) และมือสอง/Refurbished เยอะเลยค่ะ ข้อดีคือมีโปรโมชั่น ส่วนลด โค้ดส่งฟรี และผ่อนชำระได้
- ร้านค้า IT ทั่วไป: บางร้านอาจจะมีเครื่องมือสองรุ่นนี้เข้ามาขาย ลองสอบถามดูได้ค่ะ
- ร้านขายคอมมือสองโดยเฉพาะ: เป็นแหล่งหลักสำหรับหาเครื่องรุ่นนี้ในราคาที่คุ้มค่าค่ะ
ตัวเลือกผ่อนชำระ: ร้านค้าออนไลน์ส่วนใหญ่มักจะมีตัวเลือกผ่อนชำระ 0% กับบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ ช่วยให้เราไม่ต้องจ่ายเงินก้อนใหญ่ทีเดียวค่ะ
ระยะเวลาการจัดส่ง: ถ้าสั่งออนไลน์ปกติในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ส่วนใหญ่มักจะได้รับสินค้าภายใน 1-3 วันทำการ ต่างจังหวัดอาจจะ 2-5 วันค่ะ ค่าจัดส่งส่วนใหญ่มักจะฟรี หรือมีโปรโมชั่นส่งฟรีอยู่แล้ว
10. บทสรุปและคำแนะนำในการซื้อ: คุ้มไหม? ซื้อเลยดีมั้ย?
มาถึงบทสรุปสุดท้ายแล้วค่ะ! จากที่รีวิวมาทั้งหมด
ถ้าคุณกำลังมองหาโน๊ตบุ๊คสำหรับทำงานที่ ทนทาน ไว้ใจได้ สเปกดีพอตัว และมีงบประมาณจำกัด โดยเฉพาะถ้ามองหา เครื่องมือสองหรือ Refurbished ในราคาที่คุ้มค่า แล้วล่ะก็... Dell Latitude 5400 เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากๆ และ เหมาะที่จะซื้อ ค่ะ
มันไม่ใช่โน๊ตบุ๊คที่เน้นความสวยงาม บางเบา หรือประสิทธิภาพกราฟิกสูงๆ สำหรับเล่นเกมหรือทำงานหนักด้าน Creative โดยเฉพาะ แต่ถ้าเน้น ใช้งานจริงจัง ทำงานเอกสาร เข้าเว็บ ประชุมออนไลน์ และต้องการเครื่องที่ทนทาน ไม่ต้องคอยทะนุถนอมมากนัก เจ้าตัวนี้ตอบโจทย์ได้ดีเยี่ยมเลยค่ะ
คำแนะนำเฉพาะ:
- สำหรับนักศึกษา/คนทำงานงบจำกัด: ลองมองหาเครื่องมือสอง/Refurbished ในสภาพดีๆ ค่ะ จะได้เครื่องสเปกดีในราคาที่ประหยัดไปได้เยอะมากๆ
- สำหรับคนที่ต้องพกพาบ่อยๆ: น้ำหนักอาจจะไม่ได้เบาที่สุดในตลาด แต่พอร์ตเชื่อมต่อที่ครบครันและแบตเตอรี่ที่อึด จะช่วยให้ชีวิตการทำงานนอกสถานที่ง่ายขึ้นเยอะค่ะ
- สำหรับคนที่ไม่เน้นเล่นเกม/งานกราฟิก: สเปกของรุ่นนี้เพียงพอต่อการใช้งานทั่วไปและการทำงานส่วนใหญ่แล้วค่ะ ไม่จำเป็นต้องจ่ายแพงเพื่อรุ่นที่แรงกว่านี้
หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจนะคะ! ใครมีประสบการณ์ใช้ Dell Latitude 5400 ยังไง มาแชร์กันได้เลยนะ!
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
- ใช้โน๊ตบุ๊คดียังไง ทำอะไรได้บ้างไปดูกันเลยครับ / Dell Latitude 5400 ...
- แกะกล่อง DELL Latitude 5400 Unbox
- Super light, super durable, a notebook for work that's better ...
- 🎯 DELL LATITUDE 5400 – โน้ตบุ๊กสายทำงาน สเปกแรง ราคาสุด ...
- #รีวิว - Dell Latitude 5430 Laptop 14" กับ Intel vPro สำหรับธุรกิจ ...
แนะนำสำหรับคุณ
รีวิวโครงการ S Gate Premium ราชพฤกษ์: บ้านหรู ทำเลทอง การเดินทางสะดวก
รีวิว X Cute Me: ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม ราคาดี คุณภาพเกินคาด
รีวิว Harley-Davidson Sportster Iron 1200: ตำนานคลาสสิก สไตล์ดุดัน
รีวิว Charlotte Tilbury Magic Cream: ครีมบำรุงผิวตัวดัง ผิวอิ่มฟู ฉ่ำโกลว์จริงไหม?
รีวิว MX10 Android TV Box: กล่องทีวีดูหนังฟังเพลง รุ่นเล็ก ราคาประหยัด ดีพอไหม?
รีวิว Collagen by Watsons สีม่วง: สูตรนี้ช่วยเรื่องอะไร? ลองแล้วเห็นผลจริงไหม