logo

ตู้เย็น No Frost ราคาเท่าไหร่? เลือกซื้อรุ่นไหนดี ประหยัดไฟ ไม่ต้องละลายน้ำแข็ง

user avatar
เกศรินทร์ รัตนเสถียร·07/01/2025 13:22
点赞
ตู้เย็น No Frost ราคาเท่าไหร่? เลือกซื้อรุ่นไหนดี ประหยัดไฟ ไม่ต้องละลายน้ำแข็ง

สวัสดีค่าาา พ่อบ้านแม่บ้านยุคใหม่ หรือใครที่กำลังเหนื่อยกับการ "ละลายน้ำแข็ง" ในตู้เย็นแบบเก่าๆ ยกมือขึ้น!! 👋 วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยกันเรื่องตู้เย็นคู่ใจที่ไม่ต้องมานั่งขูดน้ำแข็งให้เมื่อยตุ้มอีกต่อไป ใช่แล้ว! เรากำลังพูดถึง "ตู้เย็น No Frost" นั่นเองงง~ ใครที่กำลังเล็งๆ อยากจะถอยน้องใหม่เข้าบ้าน แต่ไม่รู้จะเริ่มตรงไหน รุ่นไหนดี ราคาเท่าไหร่ ตามมาทางนี้เลยจ้าาา จะเล่าให้ฟังแบบหมดเปลือก พร้อมเคล็ดลับเลือกซื้อยังไงให้ได้ของดี ประหยัดไฟ แถมสบายใจหายห่วงไปเลย! เตรียมตัวให้พร้อม แล้วไปเปิดประตูตู้เย็นแห่งความสบายใจกันเลย!


1. น้องตู้เย็น No Frost นี่มันคืออะไรกันนะ?

เอาล่ะ เริ่มต้นกันที่ว่าเจ้า "ตู้เย็น No Frost" เนี่ย มันคืออะไร? พูดง่ายๆ เลยนะ มันคือตู้เย็นที่เค้าออกแบบมาให้ ไม่เกิดน้ำแข็งเกาะ อยู่ตามช่องฟรีซหรือช่องแช่เย็นให้กวนใจอีกต่อไปแล้วจ้า! หมดปัญหาช่องฟรีซกลายเป็นภูเขาน้ำแข็ง ต้องมานั่งเสียบปลั๊กทิ้งไว้เพื่อละลายน้ำแข็งที เสียเวลา เสียของที่แช่ แถมยังต้องมานั่งเช็ดน้ำนองพื้นอีก โอ๊ยยย ชีวิตดีขึ้นเยอะ! 🤩

แล้วเค้าทำได้ไงนะ? หลักการทำงานของน้องเค้าก็คือ เค้าจะใช้ระบบ พัดลมเป่าหมุนเวียนอากาศเย็น อยู่ตลอดเวลาในช่องฟรีซ เพื่อไม่ให้ไอน้ำเกาะตัวจนกลายเป็นน้ำแข็ง แถมยังมีระบบละลายน้ำแข็งอัตโนมัติเป็นพักๆ อีกด้วยนะ เจ๋งป่ะล่ะ!

ตู้เย็นแบบนี้เหมาะกับใครน่ะเหรอ? ก็เหมาะกับ ทุกบ้าน ทุกคน นั่นแหละจ้าาา! โดยเฉพาะใครที่:

  • ขี้เกียจ (เหมือนเราไง! 😉) ที่จะต้องมานั่งละลายน้ำแข็ง
  • อยากได้ตู้เย็นที่ รักษาความเย็นได้สม่ำเสมอ ทำให้อาหารสดใหม่นานขึ้น
  • ต้องการ พื้นที่ใช้สอยเต็มที่ ในช่องฟรีซ โดยไม่มีน้ำแข็งมาเบียดบัง
  • มองหาความ สะดวกสบาย และ ประหยัดเวลา ในการดูแลรักษาตู้เย็น

สำหรับแบรนด์ตู้เย็นในตลาดไทยเนี่ย ก็มีให้เลือกเพียบบบ ทั้งแบรนด์ดังจากเกาหลีอย่าง Samsung และ LG ที่เค้าขึ้นชื่อเรื่องดีไซน์และนวัตกรรม หรือแบรนด์เก่าแก่จากญี่ปุ่นอย่าง Hitachi, Toshiba, Sharp, Panasonic ที่หลายบ้านไว้ใจเรื่องความทนทาน หรือแบรนด์จากยุโรปอย่าง Electrolux ที่เน้นฟังก์ชันการใช้งานและดีไซน์สวยงาม แต่ละแบรนด์ก็มีเทคโนโลยี No Frost เป็นของตัวเอง และมีชื่อเรียกแตกต่างกันไปนะ แต่หลักการทำงานก็คล้ายๆ กันจ้า


2. ราคาในตลาดไทยเป็นยังไงบ้าง?

มาถึงเรื่องสำคัญที่ทำให้หลายคนต้องกุมขมับ! เรื่องราคาของตู้เย็น No Frost เนี่ย ต้องบอกว่ามี หลากหลายมากๆ เลยนะจ๊ะ ขึ้นอยู่กับขนาด ลิตร ฟังก์ชันพิเศษต่างๆ และแบรนด์ด้วยนะ ราคาเริ่มต้นสำหรับตู้เย็น No Frost ไซส์เล็กๆ ประมาณ 6-8 คิว (ประมาณ 180-230 ลิตร) เนี่ย ก็มีตั้งแต่ประมาณ 6,000 - 10,000 บาท (฿) โดยประมาณนะ อันนี้คือรุ่นเบสิกๆ เลย

ถ้าขยับไซส์ขึ้นมาหน่อย เป็นขนาดกลางๆ 9-12 คิว (ประมาณ 250-350 ลิตร) ราคาก็จะอยู่ประมาณ 10,000 - 20,000 บาท จ้า ส่วนรุ่นใหญ่ๆ 13 คิวขึ้นไป หรือพวกตู้เย็น Side-by-Side ที่เปิดได้สองฝั่ง หรือรุ่นที่มีฟังก์ชันพิเศษเพียบๆ เช่น ทำน้ำแข็งอัตโนมัติ มีโหมดแช่ผักผลไม้พิเศษ ราคาก็อาจจะพุ่งไปถึง 20,000 - 50,000 บาท หรือ ทะลุแสน ก็มีนะจ๊ะ! 💸

เราสามารถไปส่องราคาได้ตามร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าใหญ่ๆ เลยจ้า ไม่ว่าจะเป็น Power Buy, Central, Robinson (ในแผนกเครื่องใช้ไฟฟ้า), Big C, The Mall หรือร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าท้องถิ่นต่างๆ นอกจากนี้ บนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซเจ้าใหญ่อย่าง Lazada และ Shopee ก็มีร้านค้า Official ของแบรนด์ต่างๆ มาเปิดขายเพียบเลยนะ บางทีราคาบนออนไลน์อาจจะมีโปรโมชั่นดีกว่าหน้าร้านด้วยนะ ต้องหมั่นเช็คจ้า!

ส่วนร้านอย่าง JIB หรือ Banana IT เค้าจะเน้นขายสินค้าไอที คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ซะมากกว่านะ ตู้เย็นนี่ไม่น่าจะมีจ้าาา


3. แล้วเทียบกับตู้เย็นแบบอื่นล่ะ ราคาโอเคมั้ย?

ถ้าให้เทียบกับตู้เย็นแบบเก่าๆ ที่ต้องละลายน้ำแข็งเอง (เค้าเรียกกันว่าระบบ Direct Cool หรือ Semi-Auto Defrost) เนี่ย ตู้เย็น No Frost ราคาจะ สูงกว่า เล็กน้อยนะจ๊ะ ในขนาดและความจุที่ใกล้เคียงกัน แต่ส่วนต่างนี้ถือว่าคุ้มค่ามากๆ กับความสบายที่เราได้กลับคืนมา ไม่ต้องเสียเวลา เสียแรง ละลายน้ำแข็งอีกต่อไป ชีวิตง่ายขึ้นเยอะ!

ลองนึกภาพดูว่า ตู้เย็น No Frost ขนาด 8 คิว อาจจะราคาเริ่มต้นที่ 6,000 บาท แต่ตู้เย็นแบบเก่าขนาดเท่ากัน อาจจะเริ่มต้นที่ 4,000-5,000 บาท ส่วนต่างแค่พันสองพัน แต่ได้ความสบายไปตลอดอายุการใช้งานนะจ๊ะ ถ้ามองในระยะยาว ถือว่า คุ้มค่า ที่จะลงทุนกับระบบ No Frost จ้า

แต่ถ้าเทียบกับตู้เย็น No Frost ของแบรนด์อื่นๆ ในสเปกใกล้เคียงกันเนี่ย ราคาก็จะพอๆ กันนะ แตกต่างกันที่ฟังก์ชันเสริม ดีไซน์ หรือโปรโมชั่นของแต่ละแบรนด์และร้านค้าที่เราซื้อจ้า บางแบรนด์อาจจะเน้นราคาเข้าถึงง่ายหน่อย บางแบรนด์อาจจะเน้นดีไซน์สวย ฟังก์ชันล้ำๆ ราคาก็จะสูงขึ้นไปอีก ก็เลือกที่ตรงกับความต้องการและงบประมาณของเราได้เลย!


4. ซื้อแล้วได้อะไรมาบ้างนะ?

เวลาเราถอยตู้เย็น No Frost มาใหม่เนี่ย สิ่งที่เราจะได้มาหลักๆ ก็คือ:

  • ตัวตู้เย็น: อันนี้แน่นอนอยู่แล้ว! 😅
  • ชั้นวาง/ลิ้นชักต่างๆ: ที่จัดระเบียบของในตู้เย็น ส่วนใหญ่ก็จะมีชั้นวางที่ปรับระดับได้ ลิ้นชักแช่ผัก ลิ้นชักแช่เนื้อสัตว์มาให้พร้อมใช้งาน
  • คู่มือการใช้งาน: สำคัญมาก! ควรอ่านก่อนใช้งานนะจ๊ะ จะได้ใช้น้องตู้เย็นได้อย่างถูกต้องและเต็มประสิทธิภาพ
  • ใบรับประกัน: อันนี้สำคัญสุดๆ สำหรับคนไทย! ตู้เย็นส่วนใหญ่จะมีการรับประกันตัวเครื่องและคอมเพรสเซอร์ ซึ่งคอมเพรสเซอร์นี่แหละคือหัวใจหลักของตู้เย็น มักจะมีการรับประกันที่ยาวนานกว่าส่วนอื่นๆ เช่น รับประกันคอมเพรสเซอร์ 10 ปี หรือบางแบรนด์จัดหนักให้ถึง 20 ปีเลยก็มีนะ! ต้องเช็ครายละเอียดในใบรับประกันให้ดีๆ เลยจ้า

ส่วนเรื่อง ค่าจัดส่งและการติดตั้ง เนี่ย ส่วนใหญ่ถ้าซื้อจากร้านใหญ่ๆ หรือ Official Store บนออนไลน์ เค้ามักจะมีบริการ จัดส่งฟรีถึงบ้าน ในระยะทางที่กำหนดนะ บางร้านอาจจะมีบริการ ยกขึ้นชั้น หรือ ติดตั้ง ให้ด้วย (เช่น ต่อปลั๊ก จัดวางในตำแหน่งที่ต้องการ) แถมบางทีอาจจะมีบริการ ขนตู้เย็นเก่าไปทิ้ง ให้ด้วยนะ อันนี้ต้องสอบถามกับร้านค้าให้ชัดเจนก่อนซื้อนะจ๊ะ ถือเป็นบริการที่ช่วยเราประหยัดแรงไปได้เยอะเลย!

สำหรับ ของแถม หรือ โปรโมชั่น เนี่ย ก็แล้วแต่ช่วงเลยจ้า บางทีอาจจะมีแถมกล่องถนอมอาหาร คูปองส่วนลด หรือ Cash Back คืนเข้าบัญชีเวลาซื้อในช่วงโปรโมชั่นพิเศษต่างๆ


5. มีช่วงไหนน่าซื้อเป็นพิเศษมั้ย?

แน่นอนว่าถ้าอยากได้ตู้เย็น No Frost ในราคาที่คุ้มค่าโดนใจ ช่วง โปรโมชั่น นี่แหละคือเวลาทองเลยจ้า! ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าและห้างสรรพสินค้าต่างๆ มักจะมีโปรโมชั่นลดราคา หรือผ่อน 0% ในช่วงเทศกาลสำคัญๆ ของไทยนะ เช่น:

  • ช่วงปีใหม่: เป็นช่วงที่คนนิยมซื้อของเข้าบ้านฉลองปีใหม่ มักจะมีโปรโมชั่นลดราคาเครื่องใช้ไฟฟ้าเยอะ
  • ช่วงสงกรานต์: บางร้านอาจจะมีโปรโมชั่นคลายร้อน ต้อนรับปีใหม่ไทย
  • ช่วงปลายปี: ห้างสรรพสินค้ามักจะจัดรายการลดราคาใหญ่ส่งท้ายปี
  • ช่วง Double Digit Sale (11.11, 12.12): บน Lazada และ Shopee นี่คือมหกรรมลดราคาเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ห้ามพลาดเลยจ้า! ร้าน Official Store ของแบรนด์ต่างๆ มักจะจัดโปรโมชั่นลดราคาหนักมาก มีโค้ดส่วนลดพิเศษเพียบ แถมบางทีมี Flash Sale ราคาดีๆ มาให้แย่งกันกดอีกด้วยนะ!
  • งานแสดงสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้า: อย่างเช่น Power Buy Expo หรือ HomePro Expo ที่มักจะจัดเป็นประจำ ก็เป็นอีกช่องทางที่น่าไปเดินดู เพราะมักจะมีโปรโมชั่นพิเศษ หรือของแถมที่หาไม่ได้จากที่อื่น

ร้านค้าที่เป็น Official Store บน Lazada หรือ Shopee เนี่ย เค้าก็มักจะมีโปรโมชั่นย่อยๆ สลับกันไปตลอดนะจ๊ะ ไม่ต้องรอแค่ช่วงเทศกาลใหญ่ๆ ก็อาจจะเจอราคาดีๆ ได้เหมือนกัน แต่ถ้าไม่รีบมากๆ รอช่วงโปรโมชั่นใหญ่ๆ เนี่ย โอกาสที่จะได้ตู้เย็นในราคาที่ดีที่สุด หรือได้ของแถมเยอะที่สุด ก็มีสูงกว่าจ้า! แนะนำให้กดติดตามร้านค้าที่เราสนใจไว้เลย เค้าจะมีแจ้งเตือนโปรโมชั่นมาให้เราเอง ไม่พลาดแน่นอน!


6. คนไทยใช้แล้วรู้สึกยังไงกันบ้างนะ?

จากที่ลองไปส่องๆ ดูตามรีวิวของคนไทยที่ถอยตู้เย็น No Frost มาใช้เนี่ย เสียงตอบรับส่วนใหญ่คือ ดีงามมากกกก จ้า! ชีวิตดีขึ้นเยอะจริงๆ จุดที่คนไทยชอบมากๆ เลยก็คือ:

  • ไม่ต้องละลายน้ำแข็งอีกต่อไป: อันนี้คือข้อดีอันดับหนึ่งที่ทุกคนพูดถึง! สบายใจ หายห่วง ไม่ต้องเสียเวลาทำความสะอาดช่องฟรีซอีกแล้ว!
  • อาหารสดใหม่นานขึ้น: ระบบหมุนเวียนความเย็นทำให้ความเย็นสม่ำเสมอ ช่วยยืดอายุอาหารได้ดี
  • ใช้งานง่าย สะดวก: เปิดปุ๊บ เจอของที่แช่ปั๊บ ไม่มีน้ำแข็งมาบังตา
  • มีขนาดและดีไซน์ให้เลือกเยอะ: มีตัวเลือกให้เลือกตามความเหมาะสมของพื้นที่ในบ้านและสไตล์ที่เราชอบ
  • ประหยัดไฟเบอร์ 5: ตู้เย็น No Frost รุ่นใหม่ๆ ส่วนใหญ่จะได้ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 แล้วนะ ยิ่งรุ่นที่มีเทคโนโลยี Inverter ด้วยยิ่งช่วยประหยัดไฟได้ดีขึ้นไปอีก อันนี้คนไทยให้ความสำคัญมากๆ เพราะค่าไฟบ้านเราก็ไม่เบาเลยจ้า!
  • ความทนทานและการรับประกันคอมเพรสเซอร์: หลายคนรีวิวว่าตู้เย็นแบรนด์ดังๆ ค่อนข้างทนทาน ใช้งานได้ยาวนานหลายปี บวกกับการรับประกันคอมเพรสเซอร์ที่ยาวนาน ทำให้รู้สึกอุ่นใจมากๆ

ส่วนข้อที่อาจจะต้องพิจารณาหน่อยก็คือ บางรุ่นอาจจะมีเสียงการทำงานของพัดลมในระบบ No Frost บ้างเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ดังรบกวนอะไรมากนะ หรือบางทีอาจจะเจอรอยนิ้วมือง่ายสำหรับรุ่นที่เป็นวัสดุสแตนเลส ก็ต้องขยันเช็ดนิดนึงจ้า


7. แล้วจะไปหาซื้อได้ที่ไหนล่ะทีนี้?

สำหรับช่องทางการซื้อตู้เย็น No Frost เนี่ย มีให้เลือกเพียบเลยจ้า สะดวกแบบไหน ไปแบบนั้นได้เลย!

  • ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่: เช่น Power Buy, ในห้าง Central หรือ Robinson แผนกเครื่องใช้ไฟฟ้า ที่ Big C, The Mall อันนี้ข้อดีคือเราสามารถไป ดูของจริง เปรียบเทียบขนาด ดีไซน์ และสอบถามข้อมูลกับพนักงานได้โดยตรง มีบริการจัดส่งและติดตั้งให้ด้วย สะดวกสบายมากๆ
  • แพลตฟอร์มออนไลน์ขนาดใหญ่: เช่น Shopee และ Lazada ช่องทางนี้ก็สะดวกสบายไม่แพ้กัน! มีร้านค้า Official Store ของแบรนด์ตู้เย็นต่างๆ มาเปิดขายเยอะมาก มีตัวเลือกเยอะ สามารถเปรียบเทียบราคาจากหลายๆ ร้านได้ง่ายๆ แถมบางทีราคาดีกว่าหน้าร้าน และมีโปรโมชั่น ส่วนลด หรือโค้ดส่งฟรีให้ใช้บ่อยๆ ข้อเสียคือเราไม่เห็นของจริง ต้องอาศัยดูจากรูปและรายละเอียดที่ผู้ขายให้มา และอ่านรีวิวจากผู้ซื้อคนอื่นๆ ช่วยในการตัดสินใจนะจ๊ะ
  • ร้านค้าออนไลน์ของแบรนด์โดยตรง: บางแบรนด์ก็มีเว็บไซต์ของตัวเองที่สามารถสั่งซื้อออนไลน์ได้โดยตรง ข้อดีคือมั่นใจว่าเป็นของแท้แน่นอน และมักจะมีโปรโมชั่นพิเศษสำหรับลูกค้าที่ซื้อผ่านเว็บโดยตรง แต่บางทีอาจจะต้องรอสินค้านานกว่านิดหน่อย

สรุปคือ ถ้าอยากเห็นของจริง สัมผัสได้ ไปเดินห้างเลยจ้า แต่ถ้าเน้นความสะดวกสบาย ราคาดีๆ และชอบล่าโปรโมชั่น บนออนไลน์คือคำตอบ! เลือกร้านที่เป็น Official Store หรือร้านที่น่าเชื่อถือ มีรีวิวดีๆ จะได้สบายใจหายห่วงเรื่องบริการหลังการขายด้วยนะจ๊ะ


8. สรุปแล้วน่าซื้อไหม? เหมาะกับใคร?

มาถึงบทสรุปกันแล้ว! ถามว่า ตู้เย็น No Frost น่าซื้อไหมในปีนี้? คำตอบคือ น่าซื้อมากๆๆๆ เลยจ้า! โดยเฉพาะถ้าคุณยังใช้ตู้เย็นแบบเก่าที่ต้องละลายน้ำแข็งอยู่ การเปลี่ยนมาใช้ตู้เย็น No Frost จะช่วยให้ชีวิตคุณ ง่ายขึ้น สะดวกขึ้น และ สบายใจขึ้น เยอะเลย!

มันเหมาะกับ ทุกบ้าน ทุกครอบครัว เลยจ้า ไม่ว่าจะอยู่คนเดียว อยู่เป็นคู่ หรืออยู่เป็นครอบครัวใหญ่ เพราะมันช่วยประหยัดเวลาในการดูแลรักษาตู้เย็นไปได้เยอะ ทำให้เรามีเวลาไปทำอย่างอื่นที่เราชอบได้มากขึ้น

แล้วจะเลือกรุ่นไหนดีล่ะ? อันนี้ขึ้นอยู่กับ งบประมาณ และ ความต้องการใช้งาน เลยจ้า:

  • ถ้าเน้น ประหยัดงบ และต้องการฟังก์ชันพื้นฐานแค่ไม่ให้มีน้ำแข็งเกาะ ก็เลือกรุ่นเริ่มต้น ไซส์เล็กๆ ได้เลย ราคาไม่แรง แต่ก็ได้ความสบายแล้ว
  • ถ้ามีสมาชิกในบ้านหลายคน หรือชอบตุนอาหารเยอะๆ ก็ขยับไปดูไซส์กลางๆ หรือไซส์ใหญ่ขึ้นมาหน่อย เลือกที่มีชั้นวาง ลิ้นชักที่เพียงพอต่อการใช้งาน
  • ถ้าเป็นสายเทคโนโลยี ชอบความล้ำๆ หรือต้องการฟังก์ชันพิเศษ เช่น ทำน้ำแข็งอัตโนมัติ ควบคุมอุณหภูมิแต่ละช่องได้ละเอียด มีระบบกำจัดกลิ่น มีโหมดประหยัดพลังงานสุดๆ ก็มองหารุ่นที่เป็นตัวท็อป หรือมีเทคโนโลยีใหม่ๆ เพิ่มเติม ซึ่งราคาก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย
  • อย่าลืมเช็ค ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ด้วยนะจ๊ะ ยิ่งดาวเยอะยิ่งประหยัดไฟ และเช็คการ รับประกันคอมเพรสเซอร์ ที่นานๆ ไว้ก่อน จะได้ใช้งานได้อย่างสบายใจหายห่วงในระยะยาว

โดยรวมแล้ว การลงทุนกับตู้เย็น No Frost ถือว่า คุ้มค่า แน่นอนจ้า ได้ความสะดวกสบาย ประหยัดเวลา แถมอาหารก็สดใหม่นานขึ้นอีกด้วยนะ! ขอให้ทุกคนได้ตู้เย็นคู่ใจที่ถูกใจ และมีความสุขกับการใช้ชีวิตแบบไม่ต้องละลายน้ำแข็งอีกต่อไปนะจ๊ะ! บ๊ายบายยย!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

บทความล่าสุดดูเพิ่มเติม

สวัสดีค่าเพื่อน ๆ ชาวสายมู สายประหยัด สายอยากมีบ้าน! วันนี้เราจะพาไปทัวร์โลกแห่ง “ทาวน์เฮ้าส์ราคาเบา ๆ ไม่เกิน 1 ล้านบาท” ที่แม้ไม่ได้อยู่กลางทองหล่อ แต่บอกเลยว่าน่าอยู่จนแม่ยกยังต้องปรบมือรัว ๆ 🎉เพราะซื้อบ้านทั้งที เราไม่ได้ดูแค่ราคา...แต
ทาวน์เฮ้าส์ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท ทำเลไหนน่าสนใจ?
สวัสดีจ้าสายมูทั้งหลายยย! วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยกันถึงวัตถุมงคลสุดฮิตที่กำลังมาแรงในหมู่คนชอบเสริมเสน่ห์ เมตตามหานิยม นั่นก็คือ พระขุนแผนอุ้มนาง 3 เสน่ห์ รุ่นนิยม พุทธคุณเมตตา นั่นเองจ้า! แค่ฟังชื่อก็ขนลุกซู่แล้วใช่ไหมล่ะ ใครที่กำลังมองหาตั
ราคา พระขุนแผนอุ้มนาง 3 เสน่ห์ รุ่นนิยม พุทธคุณเมตตา
สวัสดีค้าบบ พี่น้องชาวสองล้อทุกท่าน! วันนี้มาเจาะลึกมอเตอร์ไซค์สปอร์ตยอดฮิตที่บอกเลยว่าเห็นวิ่งกันเต็มบ้านเต็มเมือง โดยเฉพาะวัยรุ่น วัยทำงานที่อยากขยับ CC ให้ฟินขึ้น นั่นก็คือเจ้า Kawasaki Ninja 400 นั่นเอง! ปี 2025 แล้ว ราคามือหนึ่งมือสองจ
Kawasaki Ninja 400 ราคาล่าสุด (มือหนึ่ง/มือสอง) อัปเดต 2025

บทความที่แนะนำ