รีวิว Cannondale CAAD 13: จักรยานเสือหมอบอลูมิเนียม ตัวจบสำหรับสายซิ่ง!

อู้หูววว! วันนี้จะมารีวิวจักรยานที่ทำเอาใจสั่นตั้งแต่เห็นชื่อเลยจ้า นั่นก็คือ Cannondale CAAD 13 รุ่นนี้เขาว่ากันว่าเป็นตัวจบ ตัวเทพของวงการจักรยานเสือหมอบอลูมิเนียมเลยนะ! เหมาะกับใคร? ขี่แล้วพุ่งจริงมั้ย? มีอะไรน่าโดนบ้าง? บอกเลยว่าบทความนี้จะพาไปเจาะลึกแบบถึงพริกถึงขิง สไตล์บ้านๆ เข้าใจง่าย พร้อมบอกหมดเปลือก เตรียมเงินในกระเป๋าให้พร้อม แล้วมาดูกันเลย!

1. ภาพรวมจักรยาน: รู้จัก CAAD 13 แบบไวๆ

แบรนด์: Cannondale (อ่านว่า แคน-นอน-เดล นะจ๊ะ)
รุ่น: CAAD 13 (เลขสวยซะด้วย! รหัสประจำตัวธาตุอลูมิเนียมนั่นแหละ!)
ปีที่วางขาย: เริ่มเห็นครั้งแรกช่วงปี 2019-2020
ช่วงราคาขาย: มีหลายรุ่นย่อย ตั้งแต่เกือบ 4 หมื่นปลายๆ ไปจนถึงแสนกว่าๆ (ขึ้นอยู่กับชุดขับและรุ่นดิสก์/ริมเบรก) รุ่นฮิตๆ อย่าง 105 Disc อยู่ราวๆ 6-8 หมื่นบาท

ตำแหน่งในตลาด: เป็นจักรยานอลูมิเนียมเกรดแข่งขันระดับท็อป ที่ประสิทธิภาพใกล้เคียงคาร์บอนแพงๆ เลยทีเดียว เหมาะกับสายที่อยากได้รถพุ่งๆ แข็งๆ ทนๆ แต่ยังไม่อยากกัดฟันไปคาร์บอนตัวเริ่มต้น

จุดเด่นแบบสั้นๆ กระชับๆ:

• เฟรมอลูมิเนียมตัวท็อป SmartForm C1 Premium Alloy: เบา แข็ง แต่ก็แอบนุ่มขึ้นด้วยเทคโนโลยีเฉพาะ
• ทรงแอโร่ฯ: ดีไซน์เฟรมถอดแบบมาจากรุ่นพี่สายเรซซิ่ง SuperSix EVO ทำให้แหวกอากาศได้ดีขึ้น
• ซับแรงสะเทือนดีขึ้น: ด้วยตะเกียบหลังแบบ Drop Seatstay และเทคโนโลยี SAVE ช่วยให้ขี่สบายกว่า CAAD รุ่นก่อนๆ
• รองรับยางกว้าง: ใส่ยางได้ถึง 30mm สำหรับรุ่นดิสก์เบรก เพิ่มความนุ่มนวลและเกาะถนน
• ซ่อนสายเนียนกริ๊บ: เดินสายเบรก/เกียร์เข้าไปในเฟรม ดูเรียบร้อย สวยงาม

2. ดีไซน์ & รูปลักษณ์ภายนอก: สวย ดุ แอโร่!

แค่เห็นแวบแรกก็รู้เลยว่านี่คือสายความเร็ว! ดีไซน์ CAAD 13 นี่เขาปรับโฉมใหม่หมดจดจาก CAAD 12 เดิม ดูทันสมัยขึ้นเยอะ ด้วยทรงท่อแบบตัด (Truncated Airfoil) ที่เน้นเรื่องแอโร่ไดนามิกส์ โดยเฉพาะท่อล่างนี่ดูใหญ่ขึ้น และจุดที่เด่นสุดๆ คือตะเกียบหลังที่เยื้องต่ำลงมา (Dropped Seatstay) เห็นแบบนี้แล้วทำให้นึกถึงรุ่นพี่คาร์บอนอย่าง SuperSix EVO เลยนะ

วัสดุ: เฟรมอลูมิเนียม SmartForm C1 Premium Alloy อันเลื่องชื่อของ Cannondale ที่ว่ากันว่าเป็นอลูมิเนียมที่ดีที่สุดในตลาด ส่วนตะเกียบหน้าเป็น Full Carbon

ขนาดและน้ำหนัก: น้ำหนักโดยรวมก็ถือว่าเบาสำหรับเฟรมอลูมิเนียมเกรดนี้ อย่างรุ่น Disc 105 ก็อยู่ราวๆ 8.9 กก. (ขึ้นอยู่กับไซส์และอุปกรณ์)

สีที่มีให้เลือก: มีหลายสีให้เลือกตามปีและรุ่นย่อยนะ อย่างสี Candy Red หรือ Matte Black ก็มีให้เห็น

อุปกรณ์เสริมในกล่อง: ส่วนใหญ่ก็จะได้ตัวรถนี่แหละจ้า อาจจะมีคู่มือการใช้งาน หรือบางร้านอาจจะมีของแถมเล็กๆ น้อยๆ เช่น บันได, ขากระติก, ขวดน้ำ

3. ประสบการณ์ในการใช้งานฟังก์ชันหลัก: พุ่ง แรง เร็ว!

มาถึงหัวข้อที่หลายคนรอคอย! ฟีลลิ่งการปั่น CAAD 13 นี่มันสุดยอดจริงๆ นะ แค่ปั่นออกตัวก็รู้สึกถึงความพุ่ง ความแข็งของเฟรมได้ทันที! เหมือนรถมันพร้อมจะพุ่งทะยานไปข้างหน้าตลอดเวลา เหมาะกับคนที่ชอบความเร็ว ชอบปั่นแบบดุดัน หรือเอาไปลงแข่ง Crit (ไครทีเรียม) สั้นๆ ที่ต้องเร่ง แบน ขึ้น ลงบ่อยๆ เฟรมที่สติฟฟ์ (แข็ง) นี่แหละคือจุดเด่นของอลูมิเนียม ซึ่ง CAAD 13 ก็ทำได้ดีมากๆ

การควบคุมก็เฉียบคม เลี้ยวไว เปลี่ยนทิศทางได้รวดเร็วทันใจ จะเร่งแซง จะหลบหลุม ก็ทำได้อย่างมั่นใจหายห่วง

ส่วนเรื่องแอโร่ฯ ด้วยดีไซน์ท่อแบบใหม่ มันก็ช่วยลดแรงต้านลมได้จริงจังนะ ยิ่งปั่นเร็วๆ ยิ่งเห็นผลชัดเจน

ประสบการณ์การใช้งาน & ความง่ายในการใช้: แข็งแต่เก๋า!

แม้จะเป็นรถที่เน้นความเร็ว แต่ CAAD 13 ก็มีความสบายซ่อนอยู่บ้าง ด้วยเทคโนโลยี SAVE ที่เฟรมและตะเกียบ และการที่รองรับยางหน้ากว้างขึ้น (30mm สำหรับดิสก์เบรก) ช่วยซับแรงสะเทือนจากพื้นถนนได้ดีกว่า CAAD รุ่นก่อนๆ อย่างเห็นได้ชัด ทำให้ปั่นทางไกลได้สบายขึ้น ไม่สะเทือนจนเมื่อยล้าเกินไป

การปรับตั้งต่างๆ ก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไรมากนัก ถึงแม้จะมีการซ่อนสายเบรก/เกียร์ ซึ่งอาจจะทำให้เซอร์วิสยากกว่ารถสายเปลือยหน่อย แต่ก็ไม่ได้ซับซ้อนเกินไปสำหรับช่างทั่วไป

4. แบตเตอรี่ / พลังงาน / ความคุ้มค่าในระยะยาว: ทน ถึก อึด!

จักรยานไม่มีแบตเตอรี่จ้า! พลังงานมาจากแรงขาของเราล้วนๆ เลย! 🤣

แต่ถ้าพูดถึงความคุ้มค่าในระยะยาว บอกเลยว่าเฟรมอลูมิเนียมขึ้นชื่อเรื่องความทนทาน ล้มแปะนิดหน่อยก็ไม่เสียหายหนักเหมือนคาร์บอน ทำให้ดูแลรักษาง่ายกว่า ไม่ต้องกลัวเฟรมแตก (ถ้าไม่ชนหนักจริงๆ)

ส่วนค่าบำรุงรักษา ก็เหมือนจักรยานเสือหมอบทั่วไป คือดูแลพวกชุดขับเคลื่อน ระบบเบรก ล้อ ยาง เป็นหลัก ไม่ได้มีอะไรพิเศษที่แพงกว่าปกติ ยกเว้นถ้าอยากอัปเกรดอะไหล่ ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติของชาวสองล้ออยู่แล้ว

วิเคราะห์ความคุ้มค่า: ถ้าเทียบกับเฟรมคาร์บอนในระดับราคาใกล้เคียงกัน CAAD 13 อาจจะให้ประสิทธิภาพเรื่องความพุ่ง ความสติฟฟ์ ที่ดีกว่า แถมยังทนทานกว่าด้วย แต่ถ้าเทียบกับอลูมิเนียมด้วยกัน CAAD 13 ถือว่าอยู่ในกลุ่มพรีเมียม ราคาก็จะสูงกว่าอลูเริ่มต้น แต่สิ่งที่ได้มาคือเทคโนโลยีและสมรรถนะที่ใกล้เคียงรถคาร์บอนมากๆ

5. สรุปข้อดีข้อเสีย

ข้อดี:

• พุ่งมาก! เฟรมแข็ง สติฟฟ์ ตอบสนองไวสุดๆ
• แอโร่ไดนามิกส์ดีขึ้น: ทรงท่อใหม่ช่วยลดแรงต้านลม
• ซับแรงสะเทือนได้ดีขึ้น: ขี่สบายกว่าที่คิดสำหรับอลูมิเนียม
• ทนทาน ดูแลง่าย: สไตล์เฟรมอลูมิเนียม ไม่ต้องกังวลเรื่องเฟรมแตก
• รองรับยางกว้าง: ใส่ยางได้ถึง 30mm เพิ่มออปชันการใช้งาน
• ดีไซน์สวยทันสมัย: ทรงเฟรมเหมือนรถคาร์บอนรุ่นท็อป

ข้อเสีย:

• ยังไงก็หนักกว่าคาร์บอน: ถึงจะเบาในกลุ่มอลูฯ แต่ก็ยังหนักกว่าคาร์บอนอยู่ดี
• อาจจะยังสะเทือนอยู่บ้าง: เมื่อเทียบกับคาร์บอนที่เน้นความสบายโดยเฉพาะ
• ราคาสูงในกลุ่มอลูมิเนียม: เป็นอลูฯ ตัวท็อป ราคาก็เลยไม่เบาเหมือนอลูฯ ทั่วไป
• หลักอาน D-Shape เฉพาะรุ่น: ถ้าอยากเปลี่ยนหลักอานต้องหาของตรงรุ่นเท่านั้น
• รอยเชื่อมบางจุดอาจจะไม่เนียนกริ๊บ: (อันนี้แล้วแต่คนมองนะ)

6. เหมาะกับใคร & คำแนะนำในการซื้อ: สายซิ่ง งบกลางๆ มาทางนี้!

เหมาะกับ:

• นักปั่นสายความเร็ว: ชอบฟีลลิ่งพุ่งๆ แข็งๆ เอาไปซ้อม เอาไปแข่ง
• คนที่อยากได้รถ perform ดี: แต่อาจจะมีงบจำกัดสำหรับคาร์บอนตัวสูง
• คนที่ชอบความทนทาน: ไม่อยากกังวลเรื่องเฟรมแตก ล้มแปะสบายใจกว่า
• คนที่หาจักรยานคันที่สอง: อยากได้รถซ้อมทนๆ หรือเอาไว้ลุยแบบไม่ต้องถนอมมาก

เหมาะกับการใช้งานแบบไหน: เน้นปั่นเร็ว ปั่นกลุ่ม แข่งขัน หรือปั่นออกกำลังกายเน้นความเร็ว ใส่ยางกว้างขึ้นหน่อยก็ปั่นทางไกลสบายขึ้น หรือจะลุยทางเรียบไม่โหดมากก็ได้

ควรซื้อเลยไหม? ถ้าคุณเข้าข่ายที่บอกมาข้างบน มีงบประมาณถึง และเจอราคาดีๆ ช่วงโปรโมชั่น จัดได้เลย! แต่ถ้าไม่ได้เน้นความเร็ว เน้นปั่นสบายๆ ชมวิว หรือมีงบไปคาร์บอนตัวสูงเลย อาจจะต้องพิจารณารุ่นอื่นดู

7. เปรียบเทียบกับสินค้าคล้ายๆ กัน: คู่แข่งตัวฉกาจคือใคร?

ในตลาดอลูมิเนียมเกรดแข่งขัน ก็มีคู่แข่งที่น่าสนใจอยู่ อย่าง Specialized Allez Sprint ที่ก็ขึ้นชื่อเรื่องความพุ่ง ความสติฟฟ์สุดๆ เหมือนกัน แต่หลายคนบอกว่า Allez Sprint จะแข็งกระด้างกว่า CAAD 13 ที่ให้ความสบายได้ดีกว่าเล็กน้อย ทรงเฟรมและการออกแบบก็ต่างกัน Allez Sprint จะดูลู่ลมแบบดุดัน ส่วน CAAD 13 จะดูโมเดิร์น แอโร่ แต่ยังมีความสบายแฝง

หรือถ้าเทียบกับคาร์บอนตัวเริ่มต้น อย่าง Trek Emonda SL หรือ Cannondale Synapse Carbon ตัวเริ่มต้น พวกคาร์บอนอาจจะได้เรื่องน้ำหนักที่เบากว่า และความนุ่มนวลที่มากกว่า แต่ CAAD 13 ก็จะได้ความพุ่ง ความทนทาน และราคาที่อาจจะดีกว่าในบางรุ่น

8. บริการหลังการขายและช่องทางการซื้อ: หายห่วง!

เรื่องบริการหลังการขาย ถ้าซื้อจากตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในไทย ส่วนใหญ่ก็จะมีการรับประกันเฟรมตามมาตรฐานของ Cannondale นะ (เช็คเงื่อนไขกับร้านอีกที) ศูนย์บริการก็มีอยู่ตามร้านจักรยานที่เป็นตัวแทน

ช่องทางการซื้อ: หาซื้อได้ตามร้านจักรยานชั้นนำทั่วไปที่เป็นตัวแทนจำหน่าย Cannondale หรือบางครั้งอาจจะมีนำเข้ามาขายในแพลตฟอร์มออนไลน์ใหญ่อย่าง Shopee หรือ Lazada บ้าง (แต่ต้องดูร้านที่น่าเชื่อถือนะ) การซื้อหน้าร้านดีตรงที่ได้ลองไซส์ ได้สอบถามข้อมูล และส่วนใหญ่ร้านจะประกอบเซ็ตมาให้เรียบร้อย ถ้าซื้อออนไลน์ก็ต้องดูว่าร้านมีบริการประกอบให้ไหม หรือต้องนำไปให้ร้านจักรยานใกล้บ้านประกอบให้อีกที

โปรโมชั่น: ช่วงเทศกาลใหญ่ๆ อย่าง สงกรานต์ ปีใหม่ หรือโปรโมชั่นของแพลตฟอร์มออนไลน์ ลองจับตาดูให้ดี อาจจะมีโค้ดส่วนลด หรือของแถมพิเศษนะ! บางร้านมีบริการผ่อนชำระ 0% ด้วย

ระยะเวลาจัดส่ง: ถ้าซื้อหน้าร้านก็ยกกลับได้เลย ถ้าสั่งออนไลน์ในประเทศ ปกติก็ไม่กี่วันทำการ (ยกเว้นช่วงเทศกาลที่ขนส่งอาจจะหนาแน่น)

9. บทสรุปและคำแนะนำในการซื้อ: ถ้าใช่ ก็จัดไป!

หลังจากที่ได้ลองสัมผัสและวิเคราะห์มาแล้ว ถ้าถามว่า Cannondale CAAD 13 ควรซื้อไหม? คำตอบคือ ถ้าคุณเป็นสายชอบความเร็ว ชอบฟีลลิ่งพุ่งๆ ตอบสนองไวๆ อยากได้รถที่perform ดีใกล้เคียงคาร์บอนในงบที่สมเหตุสมผล และชอบเฟรมอลูมิเนียมที่ทนทานดูแลรักษาง่าย รุ่นนี้ตอบโจทย์แน่นอน!

เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น? ถ้าผู้เริ่มต้นมีเป้าหมายอยากปั่นเร็ว อยากลงแข่ง หรืออยากได้รถที่ดีไปยาวๆ ไม่ต้องอัปเกรดบ่อยๆ CAAD 13 ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจนะ แต่ถ้าแค่อยากได้จักรยานมาลองปั่นออกกำลังกายชิลล์ๆ อาจจะมีรุ่นอลูมิเนียมเริ่มต้นที่ราคาเป็นมิตรกับกระเป๋ามากกว่านี้

ไม่แนะนำสำหรับ? คนที่เน้นความนุ่มนวลเป็นหลัก ปั่นทางไกลมากๆ ในเส้นทางที่พื้นไม่เรียบสุดๆ (แม้ CAAD 13 จะนุ่มขึ้นแล้วก็ตาม) หรือคนที่มีงบไปคาร์บอนตัวท็อปได้เลย

สรุปง่ายๆ คือ Cannondale CAAD 13 เป็น "ราชาแห่งอลูมิเนียม" จริงๆ ให้สมรรถนะที่ยอดเยี่ยมในราคาที่เข้าถึงง่ายกว่าคาร์บอนไฮเอนด์ เป็นตัวจบของสายอลูมิเนียมที่แท้ทรู!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• รีวิวจักรยาน Cannondale CAAD13 ที่สุดของอลู
• ส่งงาน Cannondale Caad13 "ราชาเสือหมอบอลู" สมแล้ว
• เปิดตัว Cannondale 2020 : SuperSIX EVO Hi-mod และ CAAD13
• Cannondale CAAD13 Disc Force eTap AXS Review | Editor's ...
• The New King of Aluminium Bikes? | Cannondale CAAD 13